การพัฒนาระเบียบวิธีของบทเรียน "การบริหารเวลาสำหรับนักเรียน" หลักการบริหารเวลา: กฎง่ายๆ สำหรับงานยาก

สวัสดีเพื่อน! Dmitry Shaposhnikov กำลังติดต่ออยู่

ในการสังเกตของฉัน คนที่ประสบความสำเร็จยุคใหม่ต้องเผชิญกับแนวคิดเรื่อง "การบริหารเวลา" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนรู้สึกว่าไม่มีเวลา กดดันเรื่องกำหนดเวลา และประสบกับความเครียดจากการบังคับเร่งรีบ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

หลังจากอ่านบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้สิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับการบริหารเวลา และทำความคุ้นเคยกับแนวคิดพื้นฐานของการบริหารเวลาให้ประสบความสำเร็จ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับตัวอย่างและความคิดเห็นของฉัน ฉันหวังว่าคุณจะพบว่าหัวข้อนี้มีประโยชน์ น่าสนใจ และสนุกสนาน!

เริ่มกันเลยเพื่อน!

1. การบริหารเวลาคืออะไร - คำจำกัดความและประวัติ

การแปลโดยตรงของคำนี้ " การจัดการเวลา"จากอังกฤษ - " การจัดการเวลา- เห็นได้ชัดว่าการบริหารเวลาตามความหมายที่แท้จริงนั้นเป็นไปไม่ได้ หน้าที่ที่แท้จริงของการบริหารเวลาคือการใช้เวลาในชีวิตของคุณอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

คำจำกัดความที่ถูกต้องที่สุดของการบริหารเวลาคือ:

การจัดการเวลา- นี่คือการบัญชี การกระจาย และการวางแผนการปฏิบัติงานของทรัพยากรเวลาของคุณเอง

ความหมายอื่น.

การจัดการเวลาเป็นแนวทางทางวิทยาศาสตร์ในการจัดระเบียบเวลาและเพิ่มผลของการใช้

คำขวัญของผู้จัดการเวลามืออาชีพ:

งาน น้อย, มีเวลา มากกว่า!

คนที่รู้วิธีจัดการเวลาของตนเองอย่างมีประสิทธิผลจะมีชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และทำงานโดยใช้เวลาน้อยที่สุด

การบริหารเวลาทำให้เรามีพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น โอกาสที่จะทำสิ่งที่เราชอบจะกลายเป็นจริงมากขึ้น

เมื่อพิจารณาถึงความกดดันที่ผู้คนยุคใหม่อาศัยอยู่ ปัญหาของการจัดการทรัพยากรเวลามีความเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่สำคัญอย่างยิ่ง ทักษะการบริหารเวลาที่พัฒนาแล้วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคลได้อย่างมาก ฉันตระหนักเรื่องนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

การบริหารเวลาช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบงานและเวลาส่วนตัวได้ตลอดทั้งวัน (สัปดาห์ เดือน) เพื่อให้มีเวลาทำสิ่งที่สำคัญและจำเป็นทั้งหมดโดยไม่ถูกรบกวนจากปัญหารองหรือปัญหาภายนอก

การวางแผนที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณมีทรัพยากรเวลามหาศาลเพื่อชีวิตที่อุดมสมบูรณ์และเติมเต็ม ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ขนาดของทรัพยากรดังกล่าวคำนวณเป็นปีหรือหลายทศวรรษ

ประวัติความเป็นมาของการบริหารเวลา

วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการจัดระเบียบเวลาไม่ใช่ปัญหาใหม่ ประวัติศาสตร์การบริหารเวลาย้อนกลับไปไกลมาก

แม้แต่เมื่อ 2,000 ปีก่อนในกรุงโรมโบราณ นักคิดชื่อดังเซเนกาเสนอให้แบ่งเวลาทั้งหมดออกเป็นการใช้จ่ายอย่างมีประโยชน์ กล่าวคือ ดี เป็นเวลาชั่ว และไร้ประโยชน์

เซเนกาก็เริ่มเก็บบันทึกเวลาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างต่อเนื่อง นักคิดกล่าวว่าเมื่อมีชีวิตอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งจำเป็นต้องประเมินจากความสมบูรณ์ของมัน

ในประวัติศาสตร์การบริหารเวลาในเวลาต่อมา แนวคิดเหล่านี้เป็นพื้นฐานของแนวคิดเรื่อง "ประสิทธิผลส่วนบุคคล"

อัลแบร์ตี นักเขียนและนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีที่มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 15 กล่าวว่าผู้ที่รู้วิธีบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิผลจะประสบความสำเร็จเสมอ

ในการดำเนินการนี้ เขาเสนอให้ใช้กฎสองข้อ:

1. ทำรายการสิ่งที่ต้องทำทุกเช้า
2. จัดเรียงสิ่งต่าง ๆ ตามลำดับความสำคัญที่ลดลง

เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่หลักการทั้งหมดเหล่านี้มีอยู่ในรูปแบบทางทฤษฎีเท่านั้นและตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 80 ของศตวรรษที่ผ่านมาหัวข้อนี้เริ่มเปลี่ยนจากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติ

การบริหารเวลาไม่เพียงแต่จำเป็นสำหรับผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจเท่านั้น แต่เราทุกคนต้องสามารถจัดการทรัพย์สินของตนเองได้เพื่อที่จะเพลิดเพลินไปกับกระบวนการของชีวิตได้อย่างเต็มที่

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการการจัดการเวลา หากบุคคลไม่มีอะไรทำในชีวิตและงานหลักของเขาคือ "ฆ่าเวลา" การบริหารเวลาสำหรับบุคคลดังกล่าวก็ถือเป็นวินัยที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่จำเป็น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณต้องตัดสินใจว่าคุณมีเวลาไม่เพียงพอจริง ๆ หรือไม่ และคุณต้องการใช้เวลาว่างกี่นาที ชั่วโมง และวันที่เวลาเหล่านั้นปรากฏขึ้นที่ใด

การบริหารเวลาประกอบด้วยองค์ประกอบหลายประการ:

• การติดตามเวลาที่เข้มงวด
• การเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรเวลา
• การวางแผนวัน (สัปดาห์ เดือน หรือช่วงเวลาอื่น)
• องค์กรของแรงจูงใจ

การบริหารเวลามีความสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับการทำงานเท่านั้น แต่ผู้ที่เชี่ยวชาญศิลปะการบริหารเวลาจะมีความร่าเริง มีสุขภาพดี และประสบความสำเร็จทั้งในด้านอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว

การจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณเข้าใจการกระทำและการตัดสินใจทั้งหมดของคุณจากมุมมองของความเหมาะสมในการพัฒนาและปรับปรุงของคุณเอง

2. ตำนานเกี่ยวกับการบริหารเวลา – ​​3 ความเข้าใจผิดหลัก

มีทัศนคติแบบเหมารวมและความเข้าใจผิดทางสังคมหลายประการเกี่ยวกับการบริหารเวลา

บางคนเชื่อว่าการบริหารเวลาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานเท่านั้น ในรัสเซียวินัยนี้ไม่ได้ผลเนื่องจากลักษณะเฉพาะของความคิดของชาติ ชีวิตที่เคร่งครัดตามแผนจะเปลี่ยนบุคคลให้กลายเป็นหุ่นยนต์และกีดกันเขาจากเจตจำนงเสรี

ตำนานทั้งหมดนี้ไม่มีมูลความจริง: ฉันจะพยายามหักล้างสิ่งเหล่านี้ให้หมดด้านล่าง

ตำนานที่ 1 ไม่มีใครจัดการเวลาได้

ข้อความมีรูปแบบถูกต้อง แต่มีเนื้อหาผิดพลาด การบริหารเวลาเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ (เว้นแต่คุณจะเป็นผู้ประดิษฐ์ไทม์แมชชีน) ไม่มีใครสามารถชะลอความก้าวหน้าตามวัตถุประสงค์ เร่งความเร็ว หรือหยุดมันได้แม้แต่ชั่วขณะหนึ่ง

แต่บุคคลสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ : จัดการตัวเอง การตัดสินใจและการกระทำของคุณเมื่อเวลาผ่านไป และยังมีส่วนร่วมในการกำหนดลำดับความสำคัญอีกด้วย นี่คือสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการบริหารเวลาพูดถึง – เกี่ยวกับการจัดการชีวิตของคุณเอง

การใช้แนวทางที่ชาญฉลาดและเน้นการปฏิบัติในการกระทำของคุณคือการบริหารเวลา คุณจะแปลกใจว่ามีเวลาเหลือกี่นาทีและชั่วโมงเมื่อคุณเริ่มกระทำอย่างตั้งใจและมีสติมากขึ้น

โปรดจำไว้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะทำกิจกรรมประเภทใดก็ตาม จะต้องวางแผนกิจการและดำเนินการอย่างมีประสิทธิผลสูงสุด ในขณะเดียวกัน พวกเขาทำงานด้วยระยะเวลาเท่ากันกับคนทั่วไป แต่พวกเขาก็สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นเสมอ

ความลับของพวกเขาคือพวกเขาสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นต่อหน่วยเวลา ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลต่อผลลัพธ์ในชีวิตของพวกเขา

เรื่องที่ 2: การบริหารเวลาจะทำให้ฉันทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ

การทำงานหนักและเหนื่อยล้า การละเลยการพักผ่อนเป็นหนทางโดยตรงสู่การทำงานหนักและภาวะซึมเศร้า มีความจำเป็นต้องพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อลดปริมาณงานในขณะที่เพิ่มผลผลิต ทำอย่างไร? กล่าวโดยสรุปคือปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัดและสามารถแยกรองออกจากหลักได้

การใช้เทคนิคการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิผลไม่ได้หมายความว่าจะต้องเพิ่มผลผลิตหรือเพิ่มผลผลิตด้วยการทำให้สิ่งต่างๆ เสร็จเร็วขึ้น

เรากำลังพูดถึงการเพิ่มผลผลิตส่วนบุคคลโดยขจัดงานที่ไม่จำเป็น และกำจัดสิ่งที่เรียกว่า "การเสียเวลา" หรือ "โครโนฟาจ"

หมวดหมู่ของ chronophages รวมถึงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไร้ความหมายที่เราทำในระหว่างวันโดยไม่ต้องคำนึงถึงความสะดวก: การเช็คอีเมลบ่อยครั้ง การสื่อสารและการดูข่าวบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก การสนทนาที่ไร้ความหมายกับเพื่อนร่วมงาน

ความมุ่งมั่นของบุคคลในเรื่องที่ฟุ้งซ่านไปจากงานหลักนั้นอธิบายได้บางส่วนโดยการผัดวันประกันพรุ่ง - ความปรารถนาที่จะเลื่อนเหตุการณ์สำคัญและจำเป็นออกไป "จนกว่าจะถึงเวลาที่ดีกว่า"

อย่างไรก็ตาม หากคุณละทิ้งการไตร่ตรองและรับรู้ถึงความสำคัญและความสำคัญของงานปัจจุบันของคุณ คุณจะไม่มีความเข้มแข็งหรือความปรารถนาที่จะถูกรบกวนจากเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่ 3 การใช้การบริหารเวลาทำให้ฉันกลายเป็นหุ่นยนต์ที่จะทำทุกอย่างตามกำหนดเวลา ทำให้ฉันขาดอิสรภาพและทางเลือก

ผู้คนกลัวที่จะกลายร่างเป็นหุ่นยนต์ แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นอยู่แล้ว และยังเป็นทาสของนิสัยและรูปแบบพฤติกรรมทางจิตด้วย

การบริหารเวลาไม่ได้จำกัดอิสรภาพของเรา แต่กลับสร้างมันขึ้นมา

การบริหารเวลาไม่เพียงแต่จำเป็นสำหรับพนักงานออฟฟิศ ผู้บริหาร และผู้จัดการเท่านั้น แต่การจัดการทรัพยากรหลักของชีวิต - เวลาของตัวเอง - เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่รับผิดชอบและจริงจัง

เกณฑ์ในทางปฏิบัติสำหรับความจำเป็นในการใช้หลักการบริหารเวลาในชีวิตคือการมีอยู่ 4 กรณีขึ้นไปในแผนสำหรับวันปัจจุบัน (ไม่เพียงแต่คำนึงถึงความเป็นมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงเรื่องส่วนตัวด้วย) นักธุรกิจ ศิลปินอิสระ และแม่บ้านต้องการสิ่งนี้

ตัวอย่าง

หากคุณต้องการทำโปรเจ็กต์ในที่ทำงานให้เสร็จ พูดคุยกับเจ้านายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไปร้านซ่อมโทรศัพท์หลังเลิกงาน และสุดท้ายไปรับลูกน้อยจากโรงเรียนอนุบาล การจัดการเวลาอย่างชาญฉลาดคือความจำเป็นอย่างยิ่งของคุณ

การวางแผนและการจัดสรรทรัพยากรช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายสำคัญได้เร็วขึ้น และเพิ่มเวลาสำหรับการพักผ่อน พักฟื้น และสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัว การควบคุมเวลาช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์เร็วขึ้นและด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

ในส่วนของชีวิตตามตารางเวลา การจัดระบบการทำงานและการพักผ่อนที่สมเหตุสมผลไม่เคยทำร้ายใครเลย และมีพื้นที่สำหรับความเป็นธรรมชาติและความคิดสร้างสรรค์เสมอ (ถ้ามี) ในงานใดๆ

3. บริหารเวลาอย่างไร - หลักการสำคัญ 7 ประการของการบริหารเวลา

ตอนนี้เรามาดูการฝึกฝนและค้นหาวิธีจัดการเวลาอย่างถูกต้อง จะเริ่มควบคุมและวางแผนการกระทำของคุณได้ที่ไหน ความยากลำบากที่มักเกิดขึ้นบนเส้นทางนี้ และวิธีเอาชนะพวกเขา ด้านล่างนี้ฉันได้อธิบายหลักการและกฎพื้นฐานแล้ว

หลักการที่ 1: วางแผนการกระทำของคุณ

การวางแผนสิ่งต่างๆ สำหรับวันถัดไป (หรือสัปดาห์หน้า) มีความสำคัญในทางปฏิบัติในทุกงาน ไม่สำคัญว่าคุณจะนั่งอยู่ในสำนักงาน ยืนบนสายพาน หรือทำงานเป็นคนส่งของในเวลาว่างจากการเรียน แผนปฏิบัติการที่ชัดเจนจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่แท้จริงเสมอในรูปแบบของผลผลิตที่เพิ่มขึ้น (ส่วนตัวและมืออาชีพ) ).

แม้ว่าการกระทำของคุณจะถูกควบคุมโดยลักษณะงานของคุณอย่างเคร่งครัด แต่คุณก็ควรมีแผนล่วงหน้าเสมอ ซึ่งจะช่วยให้คุณรับมือกับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

จำไว้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนวางแผนชีวิตของตนเอง

จำหลักปฏิบัติที่สำคัญที่สุดบางประการของการบริหารเวลา:

1. บันทึกเป้าหมายของคุณเป็นลายลักษณ์อักษรหากเป้าหมายของคุณไม่ได้ระบุไว้บนกระดาษ (หรือในไดอารี่อิเล็กทรอนิกส์) แสดงว่าเป้าหมายนั้นไม่มีอยู่จริง
2. วางแผนวันของคุณรายการงานและการดำเนินการที่รวบรวมไว้ล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกิจกรรมประเภทใดก็ได้ 25%
3. ทำลายงานใหญ่ๆงานที่ใช้เวลานานควรแบ่งออกเป็นงานย่อยเล็กๆ หลายงานเสมอ - อย่าทำโครงการขนาดใหญ่โดยไม่คิดถึงลำดับการดำเนินการล่วงหน้า

คุณต้องมีการวางแผนในลักษณะที่สอง: ทำให้เป็นนิสัยในการวางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ก่อนเข้านอน ในตอนเช้าของที่ทำงาน คุณจะรู้ได้อย่างแน่ชัดแล้วว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร จะไปต่ออย่างไร และจะจบอย่างไร

เผื่อเวลาไว้สำหรับ "เหตุสุดวิสัย" - สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเสมอ

โปรดจำไว้ว่าเวลาไม่กี่นาทีที่คุณใช้ไปกับการจัดทำแผนจะมากกว่าผลตอบแทนในอนาคต คุณจะประทับใจกับผลลัพธ์ของการวางแผนที่มีความสามารถในสัปดาห์แรกของการดำเนินการ

หลักการที่ 2 กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการให้เป็นเป้าหมายและวัตถุประสงค์เฉพาะ

การวางแผนเชิงกลยุทธ์และมีประสิทธิภาพเป็นไปไม่ได้หากปราศจากการตั้งเป้าหมายที่มีความสามารถ พูดง่ายๆ ก็คือ คุณจะต้องสามารถกำหนดเป้าหมายหลักได้อย่างชัดเจน และสามารถแยกย่อยออกเป็นงานเฉพาะและระดับท้องถิ่นได้

ในทฤษฎีการจัดการ ทักษะนี้เรียกว่า "การสลายตัวของเป้าหมาย"- วิธีหลักในการนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติคือการย้ายจากเรื่องทั่วไปไปสู่เรื่องเฉพาะเจาะจง

มีเครื่องมือ (หรือหลักการ) ระดับมืออาชีพในการกำหนดและกำหนดเป้าหมายท้องถิ่นในการบริหารเวลาและการตั้งเป้าหมาย

มันถูกเรียกว่า หลักการสมาร์ท .

ตามหลักการนี้ควรมีเป้าหมาย:

• เฉพาะเจาะจง(เฉพาะเจาะจง);
• วัดได้(วัดผลได้);
• ทำได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (Attainable);
• ที่เกี่ยวข้องหรือจริง - จำเป็นต้องเข้าใจล่วงหน้าว่างานนี้จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้จริงหรือไม่ (ที่เกี่ยวข้อง)
• มีเวลาจำกัด(มีกำหนดเวลา).

เกณฑ์หลักสำหรับประโยชน์และประสิทธิผลของงานในท้องถิ่นคือความเฉพาะเจาะจง การเริ่มต้นไปสู่เป้าหมายใหญ่ด้วยการทำงานตามลำดับจะช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำงานให้เสร็จสิ้นได้อย่างมาก

ความสม่ำเสมอและการมุ่งเน้นเฉพาะจุดเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในอนาคต

แม้แต่ผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ไม่ได้สร้างผลงานของพวกเขาทั้งหมดในคราวเดียว - พวกเขาวางแผนก่อนแล้วจึงดำเนินการทีละจุด เคล็ดลับประการหนึ่งของการบริหารเวลาให้ประสบความสำเร็จคือความสามารถในการมุ่งความสนใจไปที่งานปัจจุบันโดยไม่สูญเสียทิศทางโดยรวม

หลักการที่ 3: แก้ไขแผนปฏิบัติการของคุณ

ความจำเป็นในการบันทึกแผนปฏิบัติการตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ที่นี่เราจะมาดูวิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้ มีเครื่องมือที่ทำงานและมีประสิทธิภาพหลายอย่างที่ช่วยให้คุณจัดทำแผนและงานของคุณเป็นภาพและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

หนึ่งในวิธีการเหล่านี้เรียกว่า ให้ฉันอธิบายว่าสิ่งนี้มีลักษณะอย่างไรในทางปฏิบัติ

ตัวอย่าง

สมมติว่าเป้าหมายของคุณคือการสร้างบ้าน ในการเริ่มต้นคุณควรแบ่งงานออกเป็นหลายขั้นตอน: เคลียร์พื้นที่, ขุดและวางรากฐาน, ดำเนินงานเหนือพื้นดิน, ตกแต่งสถานที่ให้เสร็จ, ดำเนินการสื่อสารและจัดสวน

แผนภาพ Grant ระบุงานทั้งหมดของโครงการขนาดใหญ่ในปัจจุบัน พร้อมด้วยระยะเวลาในการดำเนินการ ระยะเวลา และลำดับความสำคัญของการดำเนินการ

งานประเภทเดียวกันสามารถจัดกลุ่มเป็นรายการเดียวได้ และงานที่ใหญ่กว่าควรแบ่งออกเป็นงานต่อเนื่องหลายงาน

การวางแผนด้วยสายตาไม่เพียงช่วยประหยัดเวลาของคุณ แต่ยังช่วยให้พนักงานคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในโครงการเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีส่วนร่วมในงานจากขั้นตอนที่ถูกต้อง

หลักการที่ 4: จัดลำดับความสำคัญ

การกำหนดเป้าหมายหลักให้ทันเวลาและชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็นและถูกต้อง แต่งานหลักคือการก้าวไปสู่การบรรลุเป้าหมายนี้โดยทำงานปัจจุบันให้สำเร็จอย่างสม่ำเสมอซึ่งมีระดับความยากต่างกันไป

เพื่อจัดลำดับความสำคัญของการวางแผนรายวันของคุณ มีวิธีการง่ายๆ ที่เรียกว่า "วิธี ABVGD".

วิธีเอบีซีดี

“A” เป็นงานที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน “B” มีความสำคัญน้อยกว่า “C” เป็นงานที่มีความสำคัญปานกลาง เป็นต้น

สิ่งแรกในรายการควรทำก่อน โดยปกติงานนี้จะใช้เวลาและยากที่สุด บางครั้งคนเรารู้สึกกลัวหรือขี้เกียจที่จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยงานหลัก แต่เคล็ดลับก็คือความมีประสิทธิผลของกิจกรรมปัจจุบันของคุณขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของกิจกรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเวลาเชิงปฏิบัติแนะนำให้แก้ไขปัญหานี้อย่างมั่นคงและไม่คลุมเครือ วิธีการของเขาเรียกว่า “กินกบเป็นอาหารเช้า” “กบ” เป็นงานที่ยากและไม่น่าพอใจที่สุดในแต่ละวัน คุณเลื่อนไปเป็น "บ่าย" ตลอดเวลา หรือแม้แต่พรุ่งนี้

แต่ประเด็นก็คือ สิ่งนี้ทำให้เกิดความเครียดทางอารมณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้คุณไม่สามารถทำทุกอย่างอย่างมีประสิทธิผลได้ เทรซี่บอกว่าคุณควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งที่ยากที่สุด จากนั้นงานอื่นๆ ทั้งหมดจะเกือบจะเสร็จสิ้นด้วยตัวเอง

ความต่อเนื่องทางตรรกะของวิธีการของ Brian Tracy ในที่นี้คือกฎหรือหลักการของ Pareto

กฎของพาเรโต

ความพยายาม 20% นำมาซึ่งผลลัพธ์ 80% และความพยายามที่เหลืออีก 80% นำมาซึ่งผลลัพธ์เพียง 20% เท่านั้น

ดังนั้นงานของเราคือการระบุ 20% ของการกระทำที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเราและมุ่งเน้นไปที่สิ่งเหล่านั้น

เครื่องมืออีกประการหนึ่งสำหรับการจัดลำดับความสำคัญที่มีประสิทธิผลเรียกว่า "ไอเซนฮาวร์เมทริกซ์"- ผู้นำทางการเมืองและการทหาร ประธานาธิบดีสหรัฐ ดไวแอตต์ ไอเซนฮาวร์ เป็นคนที่ปฏิบัติได้จริงและประสบความสำเร็จอย่างมาก

เขาเกิดแนวคิดที่จะแบ่งเหตุการณ์ปัจจุบันทั้งหมดออกเป็น 4 ประเภท:

• เร่งด่วนและสำคัญ
• สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน
• เร่งด่วนแต่ไม่สำคัญมาก
• ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน

ประเภทแรก : เร่งด่วนและสำคัญ - นี่คืองานหลักที่ต้องทำให้เสร็จในวันนี้และตอนนี้ การเลื่อนออกไปจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นในอนาคตอย่างแน่นอน คุณไม่ควรมอบความไว้วางใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา - คุณต้องทำเองและทันที

เซกเตอร์ของเมทริกซ์นี้เรียกว่าแตกต่างกัน "ภาคดับเพลิง"ซึ่งย่อมเต็มไปด้วยผลเสียต่อสุขภาพของตนเองมาเป็นเวลานาน

เคล็ดลับการบริหารเวลาของฉันคือการอยู่ในภาคส่วน « สำคัญ-ไม่เร่งด่วน » .

นี่คือเซกเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเมทริกซ์ ที่นี่คุณสงบ ที่นี่คุณวางแผน คิด กระทำอย่างเชี่ยวชาญและรอบคอบ ที่นี่คุณทำสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง

ไม่ให้เรื่องสำคัญไหลเข้าสู่ภาคเร่งด่วน!

กรณีจาก หมวดที่ 4 (ไม่เร่งด่วนและไม่สำคัญ) สามารถขีดฆ่าออกจากรายการประจำวันได้อย่างปลอดภัย

คุณสามารถสร้างตารางแบบนี้ได้ทุกวัน โดยอิงจาก Eisenhower Matrix

อย่าขี้เกียจและนำตารางง่ายๆ นี้ไปใช้ในระบบการวางแผนวันของคุณ

หลักธรรม 5: มุ่งเน้นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ฉันได้กล่าวไปแล้วว่าการบรรลุเป้าหมายของคุณมีความสำคัญเพียงใด ในย่อหน้านี้ฉันจะบอกคุณว่าต้องทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ความสามารถในการมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญโดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งภายนอกเป็นทักษะการปฏิบัติที่สำคัญที่สุดซึ่งคุณจะแก้ไขงานที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดของการจัดการเวลาที่มีประสิทธิผล

เวลาเป็นทรัพยากรที่ไม่หมุนเวียนและมีค่าที่สุด เราสามารถใช้จ่าย 10,000 รูเบิลแล้วหารายได้อีกครั้ง แต่เราไม่สามารถย้อนกลับไปในวินาทีที่เรามีชีวิตอยู่ได้

เราไม่สามารถขยายวันเป็น 25 ชั่วโมงได้ แต่เราสามารถเพิ่มพื้นที่ของตัวเองสำหรับกิจกรรมเหล่านั้นที่สำคัญสำหรับเราอย่างแท้จริง

เพื่อป้องกันไม่ให้งานที่ไม่สำคัญส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานส่วนบุคคลของคุณ คุณต้องเชี่ยวชาญเทคนิคการจัดการเวลาที่เฉพาะเจาะจง

หนึ่งในเทคนิคที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเพิ่มเวลาคือการมอบหมายงาน คงจะถูกต้องกว่าถ้าจะบอกว่าการมอบหมายเป็นองค์ประกอบของการจัดการแบบคลาสสิก

การมอบหมาย- นี่เป็นวิธีที่จะมอบความไว้วางใจในกิจการบางอย่างของเราให้กับผู้อื่น

ตัวอย่างพื้นฐานที่สุด: คุณไม่สามารถล้างรถด้วยตัวเองได้ แต่นำไปล้างรถหรืออย่างอื่น: คุณสามารถซ่อมก๊อกน้ำที่รั่วในห้องน้ำด้วยตัวเองหรือโทรหาช่างประปามืออาชีพ

จดจำ

งานใดๆ ที่สะดวกกว่า (จากมุมมองทางการเงินและเวลา) ที่จะปล่อยให้ผู้อื่นควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้อื่น

ยิ่งเวลาส่วนตัวของคุณมีค่าสูงเท่าไร ก็สามารถมอบหมายงานเล็กๆ น้อยๆ และไม่สำคัญมากได้มากขึ้นเท่านั้น

สิ่งที่สำคัญน้อยกว่าสามารถทำได้ในช่วง “เวลาที่ไม่ใช่ทรัพยากร”

เรากำลังพูดถึงช่วงนั้นของวันที่คุณไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของความแข็งแกร่งทั้งกายและใจอีกต่อไป เช่น เมื่อสิ้นสุดวันเมื่อคุณเหนื่อยล้า

นอกจากนี้ ตัวอย่างเช่น ขณะเดินทางหรืออยู่ในคิว คุณสามารถผสมผสานการรอคอยเข้ากับการเรียนรู้ เช่น การฟังหนังสือเสียงเกี่ยวกับทักษะทางวิชาชีพ หรือการพัฒนาทักษะด้านประสิทธิผลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งได้

ทักษะสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับการประหยัดเวลาแบบเรียลไทม์: ความสามารถในการพูดว่า "ไม่"

อย่าคิดว่าคุณต้องปฏิเสธทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า

ความสามารถในการพูดว่า "ไม่" ใช้กับผู้คนและกิจการต่างๆ เป็นหลัก ซึ่งทำให้คุณสูญเสียพลังงานและเวลาโดยไม่ได้ให้อะไรตอบแทน

พูดว่า “ไม่” กับเพื่อนบ้านหรือพนักงานช่างพูด อ่านหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ท่องอินเทอร์เน็ตบนโซเชียลเน็ตเวิร์กและแหล่งความบันเทิง และดูทีวี

โปรดจำไว้ว่าแม้แต่การหยุดพักโดยไม่ได้วางแผนเล็กๆ น้อยๆ เมื่อใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างทำให้คุณเสียสมาธิจากงานของคุณ ก็อาจทำให้แผนการหยุดชะงักได้

หลักการที่ 6 วิเคราะห์ประสบการณ์ของคุณและสร้างกฎการบริหารเวลาของคุณเอง

เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การมองย้อนกลับไปและสรุปผลเชิงปฏิบัติจากประสบการณ์การบริหารเวลาของคุณเป็นระยะ ศึกษาข้อผิดพลาดของคุณและอย่าลืมใช้มาตรการเพื่อแก้ไข

อย่าลืมวิเคราะห์สถานการณ์ที่คุณสูญเสียทรัพยากรส่วนบุคคลอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ

คุณควรตระหนักอยู่เสมอและมองจากภายนอกว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของคุณ - ไปในทิศทางใดและด้วยความเร็วเท่าใด

หากคุณรู้สึกว่าคุณสูญเสียการควบคุมและคิดลึกเกินไปในการแก้ปัญหาโดยไม่ได้คำนึงถึงเวลาที่ใช้ไป ถึงเวลาแล้วที่จะต้องหยุด หยุดพัก และพยายามปรับการกระทำของคุณเองให้เหมาะสม

ท้ายที่สุดแล้ว สร้างกฎการบริหารเวลาของคุณเอง และเทคนิคของคุณเอง ทั้งชีวิตของคุณ กิจกรรมของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

หลักการที่ 7 วางแผนวันหยุดพักผ่อนของคุณ

ในการแสวงหาความสำเร็จและประสิทธิผลส่วนบุคคล อย่าละเลยการพักผ่อน ฉันจะพูดมากกว่านั้น - วางแผนการพักผ่อน เช่นเดียวกับงานทางธุรกิจของคุณ! สำหรับการบริหารเวลา การพักผ่อนอย่างเหมาะสมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดสู่ความสำเร็จ

ตัวอย่างจากชีวิตของ Radislav Gandapas

ตามที่เขาพูดในการฝึกซ้อมครั้งหนึ่ง ราดิสลาฟ กันดาปาส โค้ชธุรกิจและวิทยากรชื่อดังชาวรัสเซีย วางแผนวันในตารางการทำงานของเขาเพื่อเยี่ยมชมไม้กอล์ฟ นี่เป็นงานอดิเรกที่สำคัญในชีวิตของเขา

เขาเน้นวันเหล่านี้ด้วยสีแดงว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญสูงสุดซึ่งไม่สามารถกำหนดเวลาใหม่ได้

ไม่อย่างนั้น Radislav บอกว่าเขาไม่สามารถเล่นกอล์ฟได้เลย เนื่องจากมีเรื่องสำคัญกว่าให้ทำอยู่เสมอ

คุณสามารถรักษาความสามารถทางจิตสรีรวิทยาในระดับสูงสุดได้โดยการพักฟื้นเป็นประจำเท่านั้น

คุณไม่สามารถละเลยการนอนหลับ วันหยุดสุดสัปดาห์ของตัวเอง และการสื่อสารกับคนที่คุณรักได้ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพพอๆ กับการวางแผนและการตั้งเป้าหมาย

4. ทบทวนหนังสือยอดนิยมและการฝึกอบรมเรื่องการบริหารเวลาและการเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคล

มีวรรณกรรมที่มีประโยชน์มากมายเกี่ยวกับการบริหารเวลา สิ่งพิมพ์แยกต่างหากมีไว้สำหรับการบริหารเวลาสำหรับผู้หญิง (คุณแม่ยังสาว แม่บ้าน) นักเรียน เด็กนักเรียน และผู้จัดการ

มีการจัดสัมมนา การประชุม ชั้นเรียนต้นแบบ และการฝึกอบรมเรื่องการบริหารเวลา

ในความคิดของฉัน หนังสือที่มีข้อมูลและเข้าถึงได้มากที่สุดในหัวข้อนี้คือผลงานของ Gleb Arkhangelsky, Evgeny Popov และ Brian Tracy

เยฟเจนีย์ โปปอฟ– ผู้เขียนหลักสูตร “Time Master”, ผู้สร้างบทเรียนวิดีโอในหัวข้อนี้, ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ มีทรัพยากรเครือข่ายส่วนบุคคลที่ทุกคนสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ทางปัญญาของผู้เขียนได้

หากคุณต้องการเชี่ยวชาญพื้นฐานของการจัดการเวลาเชิงปฏิบัติอย่างรวดเร็ว อย่าลืมศึกษาหลักสูตร "" ของ Evgeniy Popov

เกลบ อาร์คันเกลสกี้– ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของรัสเซียด้านการบริหารเวลา หัวหน้าโครงการองค์กรของเขาเองเพื่อแนะนำการบริหารเวลาให้กับแนวทางปฏิบัติของบริษัทในประเทศที่ใหญ่ที่สุด เช่น RAO UES, Wimm-Bill-Dann และอื่นๆ ผู้สร้างหนังสือขายดี: “Time Management” และ “Time Drive”

ไบรอัน เทรซี่- ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกในด้านประสิทธิผลส่วนบุคคล ที่ปรึกษาด้านการจัดการ นักเขียน วิทยากร

หนังสืออื่นๆ ในหัวข้อนี้: “Time Management by Pomodoro” (Staffan Nötheberg), “Hard Time Management” (Dan Kennedy), “Maximum Concentration” (Lucy Paladino)

5. สรุป

สรุปเลยเพื่อน! โดยส่วนตัวแล้วฉันพยายามใช้องค์ประกอบการจัดการเวลาต่อไปนี้:

• การวางแผนวัน
• การจัดลำดับความสำคัญ (ABVGD);
• ทำงานกับรายการงาน

ในทางปฏิบัติ ฉันเชื่อว่าการวางแผนเวลาทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้น

สิ่งสำคัญคือมันจะกลายเป็นนิสัยสำหรับคุณ นิสัยจะเกิดขึ้นใน 20-30 วัน คุณจะต้องอดทนอีกสักหน่อยเพื่อทำความคุ้นเคยกับการทำสิ่งที่ถูกต้อง จากนั้นระบบนิสัยและการบริหารเวลาจะทำงานให้คุณ

นักธุรกิจใช้เทคนิคการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิผลมากที่สุด โดยการแบ่งเวลาของตนเองเป็นงานหลัก อย่างไรก็ตามเด็กนักเรียนและนักเรียนระดับอุดมศึกษาจะต้องสอนตนเองให้ใช้เวลาที่กำหนดอย่างถูกต้องด้วย

“

“การใช้ชีวิตแบบไม่มีการวางแผนก็เหมือนกับการดูทีวีโดยที่รีโมตคอนโทรลอยู่ในมือคนผิด”

หลักการบริหารเวลาแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มอายุ เนื่องจากความแตกต่างในด้านการพัฒนาและความเข้าใจในเรื่องเวลาที่ผ่านไป ตลอดจนความแตกต่างในด้านภาระงานทางวิชาการ นอกจากนี้ การปฏิบัติตามเทคนิคการบริหารเวลาให้ประสบความสำเร็จยังต้องอาศัยความสามารถในการมีสมาธิอีกด้วย บทความเกี่ยวกับการพัฒนาความสนใจและคุณสมบัติพิเศษสามารถพบได้ในบล็อก Brain.apps

การบริหารเวลาสำหรับเด็กนักเรียน

การบริหารเวลาสำหรับเด็กนักเรียนควรเริ่มตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เนื่องจากพวกเขาพัฒนาแนวคิดเรื่องกาลเวลาเมื่ออายุ 6-7 ปี และสิ่งเร้าภายนอกโรงเรียนหลายแห่งจะเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบเวลา

เทคนิคการบริหารเวลาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กนักเรียน:

• ตารางวอลล์. การวางแผนประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ปกครอง แต่จำเป็นต้องจัดตารางเวลาไม่เพียง แต่บทเรียนเท่านั้น แต่ยังต้องมีเวลาว่างด้วยเพื่อให้เด็กเรียนรู้ที่จะแยกกิจกรรมประเภทต่าง ๆ ออกจากวัยเด็ก
• การวางแผนสำหรับอนาคต พ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกวางแผนอนาคตของตนเองด้วยความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นนักเรียนจะได้เตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ล่วงหน้า
• ปฏิทินรายสัปดาห์ เทคนิคหนึ่งที่นักเรียนสามารถทำได้คือการจัดตารางเวลาในแต่ละวันเป็นรายชั่วโมง เริ่มต้นด้วยการตื่นนอนและจบด้วยการนอนจะดีกว่า ในตารางนี้ เด็กจะต้องระบายสีตามชั่วโมงที่เขาใช้ไปอย่างไร้ประโยชน์ ซึ่งจะทำให้เขาประเมินได้ชัดเจนว่าเขาเสียเวลาไปมากแค่ไหน
• วางแผนสำหรับวันนี้ ในโรงเรียนประถมศึกษาเทคนิคนี้ควรทำร่วมกับผู้ปกครอง เด็กจะต้องเรียนรู้ที่จะวางแผนกิจกรรมของเขาให้ทันเวลา จัดให้เข้ากับวันนั้น และกำหนดเรื่องหลักและเรื่องรองได้ ยิ่งกว่านั้นพ่อแม่ควรอธิบายให้เขาฟังว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่สิ่งที่เขารัก แต่เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าในการนำไปปฏิบัติ
• เทพนิยาย เด็กๆ เรียนรู้ข้อมูลได้ดีที่สุดผ่านการเล่น ดังนั้นเรื่องราวที่เรียบง่ายอาจเป็นแบบฝึกหัดการจัดการเวลาที่ดีสำหรับเด็กนักเรียน ผู้ปกครองเกิดเทพนิยายที่ตัวละครหลักประพฤติตนไม่ถูกต้องนั่นคือเสียเวลา หลังจากนั้นเด็กจะถูกขอให้วิเคราะห์พฤติกรรมของตัวละครและค้นหาข้อผิดพลาดในการกระทำของเขา นักเรียนยังสามารถคิดแผนปฏิบัติการของตนเองสำหรับฮีโร่ตัวนี้ได้

การวิเคราะห์ทางจิตวิทยาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาพบว่าพวกเขาเสียเวลาประมาณ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยิ่งกว่านั้นเด็ก ๆ เองก็เชื่อว่าเวลาว่างทั้งหมดถูกใช้ไปในการทำการบ้านแม้ว่าพวกเขาจะถูกรบกวนจากงานที่ไม่เกี่ยวข้องก็ตาม

การบริหารเวลาสำหรับนักเรียน

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างการบริหารเวลาของนักเรียนและโรงเรียนก็คือ คนเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว เข้าใจคุณค่าของเวลาอย่างถ่องแท้ และต้องทำสิ่งต่างๆ มากกว่าเด็กในแต่ละวัน นอกจากนี้ นักเรียนหลายคนผสมผสานการเรียนเข้ากับการทำงานและยังทุ่มเทเวลาในการพัฒนางานอดิเรกอีกด้วย

วิธีการจัดการเวลาเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับนักศึกษาสแตนฟอร์ด กฎพื้นฐานของมันคือการวางแผนงานสูงสุดและแม้กระทั่งเวลาว่าง บันทึกกิจกรรมทั้งหมดของคุณและแยกงานหนึ่งออกจากงานอื่นอย่างชัดเจน

เทคนิคการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับนักเรียน:

• ไดอารี่. เพื่อการกระจายเวลาที่เหมาะสมที่สุด คุณควรเริ่มไดอารี่หนึ่งเล่มซึ่งจะบันทึกเหตุการณ์และแผนงานทั้งหมดสำหรับอนาคต นอกจากนี้ คุณควรเขียนตารางเรียนแยกกัน แยกกิจกรรมสำคัญ เช่น การให้คำปรึกษา และท้ายที่สุด ควรจัดสรรส่วนหนึ่งของสมุดบันทึกเพื่อวางแผนเวลาว่างของคุณ
• ตารางประจำสัปดาห์ คุณต้องจัดสรรเวลาในแต่ละสัปดาห์เพื่อวางแผนทั้งสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มในแต่ละวันโดยพยายามตัดสินใจว่าจะทำกิจกรรมไหน
• ทำทุกนาทีให้คุ้มค่าที่สุด สามารถใช้ช่วงเวลาใดก็ได้ เช่น ระหว่างชั้นเรียน บนระบบขนส่งสาธารณะและอื่นๆ ที่สามารถนำไปใช้ในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์บางอย่างได้
• แยกการเรียนและเรื่องส่วนตัว ในขณะที่ทำอะไรบางอย่าง สิ่งสำคัญคือต้องไม่วอกแวกกับสิ่งเร้าภายนอกซึ่งอาจเป็นเพื่อนกันได้ ขั้นแรก คุณควรทำกิจกรรมที่คุณเริ่มไว้ให้เสร็จสิ้น จากนั้นจึงอุทิศเวลาให้กับเพื่อน โซเชียลเน็ตเวิร์ก และเกมเท่านั้น

การปฏิบัติตามกฎเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและหาเวลาสำหรับกิจกรรมและกิจกรรมต่างๆ มากมายที่ละทิ้งไป อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากชั้นเรียนแล้ว นักเรียนจะต้องจัดสรรเวลาในตารางการพักผ่อน การนอนหลับ และความสัมพันธ์ส่วนตัว

การทำงานหนัก มักเป็นเพียงงานที่ยังไม่เสร็จทันเวลา มันเกี่ยวกับว่างานสำคัญๆ จะถูกเลื่อนออกไปจนกระทั่งภายหลังและหลังจากนั้น เมื่อนักเรียนตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีผลิตภาพต่ำ นั่นหมายความว่าชีวิตของเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของการผัดวันประกันพรุ่ง เช่น การรอคอยอารมณ์และเวลาที่เหมาะสม ขาดเป้าหมายที่ชัดเจนและประเมินความซับซ้อนของงานต่ำไป ชุดของปัญหาที่ไม่ชัดเจน กลัวความล้มเหลวหรือกลัวความสำเร็จ
การบริหารเวลาไม่ใช่ทักษะ แต่เป็นแนวทางที่เป็นระบบ คือ ความสามารถในการมีประสิทธิผล ทรัพยากรการเรียนรู้อันมีค่าของนักเรียนคืออะไร? แน่นอนว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือมีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่มีนักเรียนคนใดมีมากหรือน้อย ด้วยการประสานงานที่ดีจึงบรรลุผล ทักษะที่จะไม่เสียเวลาไม่กี่วินาทีนั้นมีคุณค่าสำหรับผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างมีประสิทธิผล

การวางแผนในแต่ละวันช่วยให้นักเรียนประหยัดเวลาได้มาก จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญและดูแลเรื่องเร่งด่วนก่อน ตารางจะแสดงอย่างชัดเจนว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดในการจดบันทึกและงานด้านการศึกษาอื่นๆ และมีเวลาเหลืออีกกี่นาทีในการพักผ่อน

การบริหารเวลาจะหยุดการทำงานช้าของนักเรียน สร้างแรงจูงใจในการเคลื่อนไหว และพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อมีแผนย่อมมีอิสระมากขึ้น กล่าวคือ ผู้เรียนรู้จุดมุ่งหมายของตนในช่วงเวลาหนึ่ง

นักเรียนที่ไม่มีสมาธิมักพบว่าตนเองมีงานหนักในตอนเย็นและไม่มีเวลาทำอะไรให้สำเร็จในระหว่างวัน

ตารางจะช่วยลดความรู้สึกผิดของนักเรียนจากงานที่ยังทำไม่เสร็จ ความมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายปรากฏขึ้น ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์
แผนภูมิช่วยติดตามความสำเร็จและความล้มเหลวและแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในระยะยาว การจัดระเบียบตนเองขจัดความไม่แน่นอนและมุ่งเน้นไปที่การได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น วินัยจากภายในเป็นกุญแจสำคัญในการได้รับประโยชน์สูงสุดจากกิจกรรมทั้งหมด สร้างสมดุลที่ดีระหว่างการเรียนและอิสรภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ ของชีวิตเป็นเวลาหลายปี อดีตนักศึกษาหลายคนเชื่อว่าการจัดการปฏิทินกิจกรรมเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ดีที่สุดที่พวกเขาดำเนินการเพื่อปรับปรุงผลการเรียนของพวกเขา ความรู้สึกภายใต้การควบคุมของคุณเองคือจุดสุดยอดของความสมบูรณ์แบบในช่วงปีการศึกษาของคุณ

องค์กรหรือ “วิธีง่ายๆ”

องค์กรจะทำให้นักเรียนเป็นนักเรียนที่ประสบความสำเร็จ ฟังดูง่าย แต่เคล็ดลับสู่ความสำเร็จอยู่ที่ความเรียบง่าย แนวทางที่ดีที่สุดในการทำลายสิ่งรบกวนสมาธิในแต่ละวันคือการวางแผนสามระดับ: ระยะสั้น กลาง และระยะยาว วิธีที่ยอดเยี่ยมในการอธิบายเป้าหมายรายวัน รายสัปดาห์ และระยะยาว

เวลาที่ดีที่สุดในการเตรียมรายการสิ่งที่ต้องทำระยะสั้นสำหรับวันพรุ่งนี้คือช่วงเย็น แผนจะประสานการทดสอบและการมอบหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จภายในเจ็ดวัน

การใช้ปฏิทินเพื่อให้มีมุมมองภาคการศึกษาที่กว้างขึ้นจะเป็นประโยชน์ ทำเครื่องหมายกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมกับวันที่ วิธีการง่าย ๆ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว - ABC of Priorities: รายการ A - งานมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย จะต้องทำให้เสร็จในวันนั้น (ไม่เช่นนั้นคุณอาจเผชิญกับผลที่ตามมาร้ายแรง) รายการ B มีความเร่งด่วนน้อยกว่า แต่ก็ยังมีความสำคัญ และดำเนินการหลังจากรายการ A รายการ B เป็นองค์ประกอบของงานที่น่าพึงพอใจ โดยจะดำเนินการหลังจากสองอันดับแรกทำสำเร็จแล้ว จากนั้นคุณก็สามารถก้าวไปสู่วันถัดไปได้อย่างใจเย็นโดยเขียนตัวอักษรใหม่ออกมา

การวางแผนที่สมจริง

ตารางเวลาที่มีความต้องการมากเกินไปจะทำให้เกิดความเครียดและสะสมงานให้กับนักเรียน แผนง่ายๆ จะไม่ครอบงำคุณ มีความยืดหยุ่นและปรับตารางเวลาของคุณ กรณีที่เกิดขึ้นนอกกำหนดเวลาจำเป็นต้องกำหนดผลประโยชน์
การเริ่มจนจบคือการควบคุมและความสำเร็จ
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนสมบูรณ์แบบ: หากมีบางอย่างไม่ได้ผล ให้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง มองความผิดพลาดจากภายนอกและเข้าถึงเรื่องในรูปแบบต่างๆ
อย่าจัดการโครงการขนาดใหญ่ทั้งหมดในคราวเดียว แต่ให้แยกย่อยเป็นชิ้นที่สามารถจัดการได้ ซึ่งจะทำให้เสร็จได้ง่ายขึ้นและผลลัพธ์จะเป็นที่น่าพอใจ ควรแบ่งเวลาเรียนให้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงในแต่ละครั้ง

ฉันควรเรียนนานแค่ไหน?

คำถามนี้ส่งผลต่อนักเรียนทุกคน เราต้องจำไว้ว่าความสำเร็จทางวิชาการไม่ใช่ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา แต่เป็นคุณภาพของการวางแผน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่มีคำตอบเดียวสำหรับนักเรียนทุกคน นักเรียนบางคนมีประสิทธิภาพมากกว่าคนอื่นๆ คนหนึ่งพบว่าวิชานั้นยากและต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการฝึกฝนวิชาเหล่านั้น อีกอันจะเสร็จเร็วขึ้น มุ่งเน้นไปที่ความต้องการและความสามารถของคุณเองจะดีกว่า เป้าหมายคือการปรับปรุงวิธีการจัดตารางเวลาเพื่อให้คุณเห็นผลลัพธ์ของการเติบโตส่วนบุคคลให้มากที่สุด
บางรายการต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่มากกว่ารายการอื่นๆ เน้นคำถามที่คุณชอบและเข้าใจก่อน แต่อย่าละเลยคำถามที่เหลือ เป็นเรื่องยากที่จะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามแผนในระหว่างสัปดาห์ แต่ด้วยตารางเวลาที่ยืดหยุ่นก็เป็นไปได้ ใช้วันหยุดของคุณเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มพูนความรู้ในด้านอื่นๆ

แนวทางโดยประมาณสำหรับการเรียนวิชาเดียวใน
วัน:

• ปีแรก - 1.5 ชั่วโมงต่อวัน
• ปีที่สอง - 2 ชั่วโมงต่อวัน
• ปีที่สาม - 2.5-3 ชั่วโมงต่อวัน
• ปีที่สี่ - 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
• ปีที่ห้า - 3.5-5 ชั่วโมงต่อวัน

แน่นอนว่าควรเพิ่มจำนวนชั่วโมงในตารางให้ใกล้เคียงกับการสอบและการทดสอบมากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเวลาแนะนำให้นักเรียนใช้เวลาครึ่งชั่วโมงแรกของช่วงเย็นและทบทวนหัวข้อหลักที่เรียนในชั้นเรียนในวันนั้น เพื่อระบุจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นซึ่งควรรวมไว้ในแผนการศึกษาต่อไป ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเรื่องดังกล่าวจะเปิดความสนใจและความเข้าใจ
จะต้องมีความปรารถนาที่จะพัฒนาระดับทักษะในช่วงสุดสัปดาห์ แบ่งการฝึกอบรม เช่น 09.00-00.00 น. และ 16.00-18.00 น.
พูดคุยเรื่องตารางเวลาของคุณกับเพื่อนและครอบครัว แจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับเวลาว่างและเวลาเรียนของคุณ พวกเขาจะเข้าใจและพยายามหาเวลาว่างเพื่อเข้าสังคมหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง

มีเพียง 168 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสมควรที่จะจัดการมัน คุณต้องเรียนรู้ว่าคุณต้องอุทิศเวลาเหล่านี้เพื่อการปรับปรุงตนเองโดยเฉพาะ อย่าเสียเวลาอันมีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าปล่อยให้คนแปลกหน้ามาพรากเวลาที่ไม่อาจหวนกลับคืนมาได้
ในที่สุด หลังจากทำงานเสร็จ คุณสามารถใช้เวลาสักครู่เพื่อดูผลลัพธ์และรู้สึกพอใจกับความก้าวหน้าของคุณ

ปัญหาหลักประการหนึ่งที่นักเรียนเผชิญคือการไม่มีเวลา เพื่อให้สามารถทำทุกอย่างได้ นักเรียนจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะวางแผนในแต่ละวัน

การกระจายกำลังที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการศึกษา

ผู้เชี่ยวชาญจะทำการสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ในหมู่นักศึกษาเป็นประจำ เพื่อค้นหาว่าพวกเขาพบปัญหาอะไรบ้างในระหว่างการศึกษา ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดได้แก่:

• ไม่มีเวลาและการหยุดชะงักของจังหวะการทำงาน
• รัฐซึมเศร้า;
• กลัวการสอบอย่างรุนแรง
• ผลการเรียนต่ำ ขาดการจัดองค์กรตนเอง

ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาระงานสูงที่นักศึกษาได้รับจากมหาวิทยาลัย ปัญหามักจะเลวร้ายลงหากคนหนุ่มสาวผสมผสานการเรียนเข้ากับการทำงาน ในกรณีเช่นนี้แทบไม่มีเวลาเหลือสำหรับการพักผ่อนอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าเสียดาย - ผลการเรียนลดลงและความเหนื่อยล้าเรื้อรังเกิดขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักเรียนปฏิบัติตามกฎของพาเรโต - “80/20” สาระสำคัญของกฎนี้ง่ายมาก - คุณต้องกระจายกำลังของคุณอย่างถูกต้อง จากนั้นใช้ทรัพยากรเพียง 20% คุณจะได้รับผลลัพธ์ 80% หากย้อนกลับไปและกระจาย ผลลัพธ์ก็จะตรงกันข้าม

เริ่มต้นง่ายๆ - เริ่มไดอารี่และวางแผนล่วงหน้าทุกวัน ทำเครื่องหมายสิ่งต่าง ๆ ตามความสำคัญ เรียนรู้ที่จะกำหนดกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น บางกรณีได้รับการพิจารณาในระยะสั้น บางกรณีก็พิจารณาในระยะยาว เป็นต้น

การจัดลำดับความสำคัญจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่นักเรียนสมัยใหม่ทำคือการเริ่มต้นวันทำงานใหม่ด้วยการแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ คนหนุ่มสาวดูโปรไฟล์โซเชียลมีเดียของตนทุกเช้า จากนั้นก็ถูกโทรศัพท์ฟุ้งซ่าน จากนั้นใช้เวลามากเกินไปกับงานง่ายๆ เป็นต้น

กำหนดการงานจะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญได้อย่างถูกต้อง โดยจะแสดงให้คุณเห็นว่างานใดที่ต้องแก้ไขในตอนนี้ และงานใดที่สามารถเลื่อนออกไปได้ การบริหารเวลาทำให้เกิดปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง:

• ลดความเชื่องช้าและเพิ่มแรงจูงใจในการเรียน
• เปิดใช้งานการผลิต
• เพิ่มชั่วโมงสำหรับการพักผ่อนและกิจกรรมฟรี

เนื่องจากไม่มีเวลา นักเรียนจึงมักพบว่าการเขียนรายงานของนักเรียนเป็นเรื่องยากและไม่ตรงตามกำหนดเวลา การเตรียมตัวสำหรับการเขียนแบบทดสอบหรือวิทยานิพนธ์ควรเริ่มทันทีที่คุณได้รับหัวข้อจากอาจารย์โดยไม่ต้องละทิ้งคำถามนี้เป็นเวลานาน

หากคุณยังคงไม่มีเวลา ให้ใช้บริการที่ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับงานของนักเรียน บนเว็บไซต์ คุณสามารถรับความช่วยเหลือจากมืออาชีพในการเขียนเรียงความ แบบทดสอบ รายวิชาและวิทยานิพนธ์ได้ บริการนี้ให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงและฝึกฝนแนวทางเฉพาะกับลูกค้า โดยเลือกผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดมาทำงานในหัวข้อที่กำหนด

ส่งผลงานดีๆ ของคุณในฐานความรู้ได้ง่ายๆ ใช้แบบฟอร์มด้านล่าง

นักศึกษา นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ที่ใช้ฐานความรู้ในการศึกษาและการทำงาน จะรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

โพสต์เมื่อ http://www.allbest.ru/

กระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย

สถาบันการศึกษางบประมาณของรัฐบาลกลาง

การศึกษาวิชาชีพชั้นสูง

"มหาวิทยาลัยการสอนแห่งรัฐโนโวซีบีร์สค์"

สถาบันเด็ก

ภาควิชาการสอนและวิธีการประถมศึกษา

บทคัดย่อสาขาวิชา “การบริหารเวลา หรือ การบริหารเวลานักศึกษา”

หัวข้อ: “การบริหารเวลา หรือ การบริหารเวลาของนักเรียน”

โนโวซีบีสค์ 2014

การแนะนำ

พื้นฐานทางทฤษฎีของการจัดการเวลา

1. สาระสำคัญของการบริหารเวลา

4. ทิศทางหลักของการบริหารเวลา

บทสรุป

บทคัดย่อของบทความทางวิทยาศาสตร์

การแนะนำ

ในการเชื่อมต่อกับการนำมาตรฐานการศึกษาของรัฐใหม่มาใช้ในกระบวนการศึกษา งานในการจัดงานอิสระสำหรับนักเรียนกำลังกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนมากขึ้น งานอิสระหมายถึงกิจกรรมการศึกษาส่วนบุคคลหรือเป็นกลุ่มที่ดำเนินการโดยไม่ได้รับคำแนะนำโดยตรงจากครู แต่เป็นไปตามงานที่ได้รับมอบหมายและอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

ในสังคมสมัยใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างมีพลวัต จำเป็นต้องมีคนที่กระตือรือร้นและเป็นอิสระซึ่งสามารถปรับตัวเข้ากับเงื่อนไขใหม่ได้อย่างง่ายดาย ข้อกำหนดกำลังเพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่สำหรับคุณภาพของการฝึกอบรมนักเรียนในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณวุฒิสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาความสามารถทางปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาด้วย ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมอาชีพได้อย่างอิสระ พัฒนาความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แสดงออกและปกป้องประเด็นของพวกเขา มุมมอง ตำแหน่งของพวกเขา ประสบความสำเร็จในการหาทางออกจากสถานการณ์ที่มีอยู่ บ่อยครั้งในสถานการณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ในกระบวนการเรียนรู้แบบดั้งเดิมบนพื้นฐานของการถ่ายทอดความรู้สำเร็จรูปจากครูสู่นักเรียนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุระดับการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญในอนาคตที่ต้องการ เนื่องจากกิจกรรมหลักของนักเรียนคือการแก้ปัญหาทางทฤษฎีและปฏิบัติด้วยการกำหนดที่ชัดเจนและอัลกอริธึมสำเร็จรูปและไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เชิงลึกและมักจะลงเอยด้วยการกระทำมาตรฐาน ดังนั้นปัญหาอยู่ที่ความจำเป็นในการฝึกอบรมคุณภาพสูงสำหรับผู้เชี่ยวชาญในอนาคต เพื่อสร้างบุคลิกภาพแบบองค์รวมและความสามัคคี สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมอิสระอย่างเป็นระบบซึ่งในกิจกรรมการศึกษาจะแสดงออกมาในงานอิสระและได้รับลักษณะของกิจกรรมการค้นหาปัญหา

ครูชั้นนำมักจะถือว่างานอิสระเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน พัฒนาความเป็นอิสระ ความรับผิดชอบ และความสามารถเชิงสร้างสรรค์ นักเรียนควรทำงานในชั้นเรียนและที่บ้านโดยอิสระที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และครูควรจัดระเบียบ ควบคุม และจัดการกระบวนการนี้เท่านั้น

ความสามารถในการจัดเวลาการศึกษาและเวลาส่วนตัวของนักเรียนเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาวิชาชีพและส่วนบุคคลของผู้เชี่ยวชาญในอนาคต ความเกี่ยวข้องของการปรับต้นทุนเวลาให้เหมาะสมจะเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาของการปรับตัวของนักศึกษาปีแรกให้เข้ากับกระบวนการศึกษา

การพัฒนาคุณสมบัติทางวิชาชีพและส่วนบุคคลของคนยุคใหม่ไม่สามารถจินตนาการได้หากไม่มีทักษะในการจัดองค์กรที่มีประสิทธิภาพ การประหยัดเวลา และการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด การจัดการเวลาเป็นสาขาวิทยาศาสตร์และการปฏิบัติแบบสหวิทยาการที่ศึกษาปัญหาในการปรับต้นทุนเวลาให้เหมาะสม ชุดของเทคโนโลยีและเทคนิค ขอบเขตของอิทธิพลนั้นถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่โดยการเข้าใจว่ามันเป็นระบบที่ซับซ้อนสำหรับการจัดการตนเองและกิจกรรมของตนเอง

ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ นักศึกษาไม่มีวิธีการและทักษะในการจัดการตนเองที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเรียนและการใช้ชีวิต การจัดกระบวนการศึกษาเป็นปัญหาซึ่งวิธีแก้ปัญหาจะกำหนดผลการเรียนและอาชีพที่ตามมาของผู้เชี่ยวชาญในอนาคต สถานการณ์จริงแสดงให้เห็นว่าคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ไม่ได้วางแผนวันของตัวเองหรือทำอย่างไร้เหตุผล

การจัดการเวลาสามารถกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการจัดระเบียบเวลาของนักเรียน - พื้นที่การจัดการแยกต่างหากที่มุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาการจัดระเบียบเวลาและลำดับความสำคัญในการใช้งานโดยเฉพาะ

ดังนั้นหัวข้องาน “การบริหารเวลา หรือการบริหารเวลานักเรียน” จึงมีความเกี่ยวข้อง

รากฐานทางทฤษฎีของการบริหารเวลา

1. สาระสำคัญของการบริหารเวลา

คุณสามารถเรียนรู้วิธีใช้ทรัพยากรของเวลาอย่างมีเหตุผล ดำเนินการอย่างมีประสิทธิผลและบรรลุความสำเร็จโดยการเรียนรู้ที่จะวางแผนกิจกรรมของคุณอย่างเหมาะสม จัดการงานและกิจการของคุณ (ทั้งระยะยาวและระยะสั้น) กำหนดลำดับความสำคัญ ตั้งเป้าหมายสำหรับตัวคุณเอง และบรรลุเป้าหมาย แบ่งเบาภาระงานและการเรียน หาเวลาทั้งทำงานและพักผ่อน และยิ่งคุณสามารถฝึกฝนทักษะการจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิผลได้เร็วและง่ายขึ้นเท่าไหร่ Bird P. ก็สามารถบรรลุความเชี่ยวชาญและความสำเร็จได้เร็วและง่ายขึ้น การบริหารเวลา: การวางแผนและการควบคุมเวลา ม. 2551 หน้า 124 -

การจัดระเบียบเวลาด้วยตนเองประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้: ข้อมูลและการสื่อสาร การตั้งเป้าหมาย (การวิเคราะห์และการก่อตัวของเป้าหมาย) การวางแผน (การพัฒนาแผนและทางเลือกอื่นสำหรับกิจกรรมของตน) การตัดสินใจ (การตัดสินใจในเรื่องที่จะเกิดขึ้น) การนำไปปฏิบัติและการจัดระเบียบ (จัดทำกิจวัตรประจำวันและจัดระเบียบกระบวนการแรงงานส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย) การควบคุม (การควบคุมตนเองและการควบคุมผลลัพธ์) การจัดการตนเอง: ตำราเรียน / ed. V.N.Parakhina, V.I. Perov ม. 2555 หน้า 216 -

การจัดการเวลาเป็นระบบองค์รวมสำหรับการจัดการกิจกรรมส่วนบุคคล รวมถึงเครื่องมือสำหรับการพัฒนากลยุทธ์ส่วนบุคคล การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคล การจัดการทรัพยากรส่วนบุคคล (เงิน เวลา ข้อมูล ฯลฯ) Molokova O.A. การบริหารเวลาเป็นปัจจัยหนึ่งของการปรับตัวต่อการเรียนในมหาวิทยาลัย // ปัญหาวิทยาศาสตร์และการศึกษาสมัยใหม่ 2555 ฉบับที่ 5 หน้า 180.

การบริหารเวลาช่วยให้นักเรียนระบุได้ว่าอะไรสำคัญสำหรับเขาและต้องการการจัดระเบียบ การวางแผน และอะไรรอง ช่วยในการควบคุมเวลาของตนเอง จัดการ แต่ในขณะเดียวกัน เราไม่ได้พูดถึงการควบคุมที่เข้มงวด ในชีวิตนักศึกษามีงานบังคับที่ต้องมีการจัดระเบียบ การควบคุม การวางแผนที่ชัดเจน และที่สำคัญที่สุดคือต้องทำให้เสร็จทันเวลา การไม่ปฏิบัติตามแผนและการไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้นำไปสู่การไม่มีเวลาอย่างต่อเนื่องและผลเสียของการกระทำในอนาคต แต่มีรูปแบบง่ายๆ ซึ่งกำหนดไว้ในกฎของพาเรโต นั่นคือ 80% ของงานเสร็จในเวลา 20% ของเวลาทำงาน ดังนั้นการจัดระเบียบงานที่เหมาะสมจึงนำไปสู่ผลลัพธ์สูงสุด Skibitskaya L.I. การจัดการเวลา: หนังสือเรียน ความช่วยเหลือสำหรับนักเรียน เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัย ก. 2552 หน้า 314 -

ในการวางแผนเวลาอย่างมีประสิทธิภาพโดยนักเรียน ขั้นตอนต่อไปนี้สามารถแยกแยะได้:

1. การกำหนดเป้าหมายของกิจกรรมของตนเองโดยทั่วไป (เพื่อตอบคำถาม "ทำไมฉันถึงต้องการสิ่งนี้") ขั้นตอนเฉพาะของการบรรลุเป้าหมาย และวิธีการนำไปปฏิบัติ สิ่งสำคัญคือความฝันและเป้าหมายจะต้องไม่ขัดแย้งกัน

2. การวิเคราะห์รายละเอียดของกิจวัตร, ติดตามเวลาที่ใช้, กำหนดความเหมาะสมของการกระทำแต่ละอย่าง (ระยะเวลา) ขั้นตอนนี้ช่วยในการระบุสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่จำเป็นซึ่งใช้เวลานาน

3. รวบรวม to-do list ตาม Eisenhower matrix โดยแบ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญ สำคัญและไม่เร่งด่วน เร่งด่วนและไม่สำคัญ ไม่เร่งด่วน และไม่สำคัญ

4. บันทึกแผนระยะยาวและระยะสั้น (การวางแผนหลายปี หนึ่งปี เดือน สัปดาห์ วัน) การมีวินัยในไดอารี่ดังกล่าวและช่วยให้เห็นงานวิธีการดำเนินการและกำหนดเวลาได้อย่างชัดเจน

5. การวางแผนการพักผ่อนและสลับกิจกรรมประเภทต่างๆ

6. การใช้ความพยายามตามเจตนารมณ์เพื่อบรรลุเป้าหมายในการบรรลุผลลัพธ์สูงสุด Frantsuzova S. , Usov V. การจัดการเวลาในระบบการฝึกอบรมภายใน // การจัดการและผู้จัดการ 2552 ฉบับที่ 5 หน้า 57--63. -

สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าไม่มีใครสามารถบริหารจัดการเวลาได้ แต่สามารถกระจายปริมาณงานที่ต้องทำได้อย่างถูกต้องเท่านั้น และสิ่งที่ต้องวางแผนไม่ใช่เวลาที่จะใช้เวลาในการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่เป็นปริมาณงานที่สามารถทำได้ กระทำได้ภายในระยะเวลาอันสมควร จึงเป็นการผิดที่จะบอกว่ามีเวลาไม่เพียงพอ เป็นปัญหาด้านความสามารถจริงๆ - ขาดความสามารถในการวางแผนและปฏิบัติงาน ดังนั้นการบริหารเวลาจึงไม่ใช่ความสามารถในการจัดการเวลา แต่เป็นความสามารถในการจัดการงานตามเวลาและสถานที่ ปัญหาของนักเรียนบางคนคือพวกเขาประเมินความสามารถของตนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลำเอียง ซึ่งเป็นผลมาจากการวางแผนเวลาในการแก้ไขปัญหาอย่างไม่ถูกต้อง การจัดการตนเอง: หนังสือเรียน / ed. V.N.Parakhina, V.I. Perov ม. 2555 หน้า 317 -

ด้วยความช่วยเหลือจากการบริหารเวลา นักเรียนทุกคนมีโอกาสที่จะวางแผนกำหนดการรายวัน รายเดือน และรายปีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือต้องใช้รากฐานทางทฤษฎีของการบริหารเวลาโดยเริ่มจากกระบวนการเชี่ยวชาญวิชาชีพในอนาคต นี่เป็นโอกาสในการดำเนินการตามแผนให้สำเร็จและแก้ไขปัญหาในอาชีพในอนาคตของคุณ ในการวางแผนเวลาทำงาน สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความปรารถนา แรงบันดาลใจ และความสนใจของคุณ เมื่อวางแผน การแสดงกรณีและปัญหาด้วยภาพก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจัดระบบและกำหนดลำดับความสำคัญของงานที่จะส่งผลต่อผลลัพธ์และการดำเนินการตามเป้าหมายโดยรวม สิ่งสำคัญคือต้องประเมินกิจกรรม งาน ความรับผิดชอบ และอำนาจแต่ละอย่างของคุณจากมุมมองของการมีส่วนร่วมไปจนถึงผลลัพธ์สุดท้าย

2. เทคนิคการบริหารเวลาเบื้องต้น

เทคนิคที่หนึ่ง: การวางแผนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของการบริหารเวลา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเวลาที่ใช้ในการวางแผนจะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการทำงานให้เสร็จสิ้น ผู้เชี่ยวชาญสมัยใหม่แนะนำให้วางแผนในสองขั้นตอน: จัดทำรายการและกำหนดลำดับความสำคัญ

เมื่อรวบรวมรายชื่อแล้ว คดีต่างๆ จะถูกกระจายตามลำดับความสำคัญ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายการใดที่เสร็จสมบูรณ์ เว้นแต่จะสะท้อนถึงลำดับความสำคัญของรายการ เมื่อรวบรวมรายการดังกล่าวแล้ว จะต้องทำให้เสร็จสิ้นโดยการระบุลำดับความสำคัญ นี่คือพื้นฐานของการวางแผน

การเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำเป็นเรื่องง่าย แต่การจัดลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะครั้งแรกจะยากกว่า อย่างไรก็ตาม สองวิธีต่อไปนี้ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นมานานแล้ว ทั้งสองวิธีเป็นไปตามกฎ Pareto ที่ได้รับความนิยม : 20% ของทุกกรณีสร้าง 80% ของผลลัพธ์ทั้งหมด และในทางกลับกัน นั่นคือ คุณต้องมุ่งความพยายามหลักของคุณไปยังสิ่งที่อยู่ภายใน 20% เหล่านี้ และเป็นสิ่งที่ถือว่าสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้วางแผนเวลาทำงานของคุณเพียง 60% เหลือ 20% สำหรับการแก้ปัญหาที่คาดไม่ถึง และอีก 20% ที่เหลือโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมสร้างสรรค์ฟรี

เทคนิคที่สองคือการทำงานอย่างมีประสิทธิผลกับข้อมูล เป็นที่ชัดเจนว่ายิ่งนักเรียนรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์มากเท่าใด โอกาสที่นักเรียนจะเลือกเส้นทางที่ผิดหรือไร้เหตุผลก็จะน้อยลงเท่านั้น และที่นี่คุณต้องรักษาสัดส่วนเอาไว้ เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนหนึ่งที่สามารถรับและวิเคราะห์ได้

จากข้อมูลที่รวบรวมมา มักจะมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง การตัดสินใจไม่ควรกลายเป็นกระบวนการที่ยากและยืดเยื้อ มีความจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูล ระบุข้อดีข้อเสียทั้งหมด กำหนดวิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้ เลือกวิธีที่ยอมรับได้มากที่สุด และ... ลงมือทำ! ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเวลากล่าวว่า: “ เป็นการดีกว่าที่จะดำเนินการตัดสินใจที่ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดอย่างมีศักยภาพมากกว่าการรีบเร่งค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดและน่าเบื่อนั่นคือถ้าคุณทำก็ทำไปหรือดีกว่าที่จะไม่เริ่มเลย ”

แผนกต้อนรับที่สาม : ความเต็มใจที่จะทำสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เราแต่ละคนต้องรับมือกับคำถามที่ไม่น่าสนใจเป็นครั้งคราว หลายๆ คนพยายามผลักงานเหล่านี้ออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เก็บงานเหล่านั้นไว้ในลิ้นชักที่ห่างไกลและหลบเลี่ยงในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มเวลาที่ใช้ในการดำเนินการต่อไป แน่นอนไม่ช้าก็เร็วเรายังคงต้องแก้ไขปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดนี้ นอกจากนี้ หากปัญหาไม่หายไปเอง ปริมาณงานที่ต้องทำอาจเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

เทคนิคที่สี่: การเปลี่ยนแปลงการสื่อสารกับผู้อื่น สิ่งที่เราหมายถึงคือสถานการณ์ต่อไปนี้: ผู้คนที่มีลักษณะนิสัยบางอย่างอาจพัฒนาความปรารถนา จากนั้นจึงกลายเป็นนิสัยในการขอทำบางสิ่ง คุณต้องแสดงความคิดเห็นของตนเองเสมอ เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งที่คุณยอมรับ และปฏิเสธข้อโต้แย้งที่คุณไม่รู้จัก หลังจากนั้นบทสนทนาก็จะมาถึงข้อสรุปเชิงตรรกะ บ่อยครั้งที่คู่สนทนาไม่มีคำถามอีกต่อไป

เทคนิคที่ห้า: สลับงานและพักผ่อนอย่างชำนาญ ยิ่งคุณยุ่งมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งต้องพักผ่อนมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเริ่มต้นช่วงการทำงานใหม่ ร่างกายจะต้องได้รับความแข็งแรงกลับคืนมา ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดการพักผ่อน นอนหลับ และพักผ่อนอย่างเหมาะสม แม้ว่าคุณจะมีงานให้ทำมากมายก็ตาม ทุกคนมีประสบการณ์ด้านพลังงาน ความมีชีวิตชีวา และกิจกรรมทางจิตขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทั้งวัน เช่น จังหวะชีวิตทางชีวภาพ เราต้องไม่ลืมสิ่งเหล่านี้: ในช่วงที่มีกิจกรรมทางชีวภาพเพิ่มขึ้นเราควรมีส่วนร่วมในงานสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ความพยายามและความสนใจทางจิต ในทางตรงกันข้ามเป็นการดีกว่าที่จะอุทิศช่วงเวลาที่กิจกรรมทางชีววิทยาลดลงให้กับงานประจำ

นอกเหนือจากเทคนิคที่ระบุไว้ทั้งหมดแล้ว คุณสามารถและควรใช้หลักการที่สำคัญที่สุดของการบริหารเวลา: “ทุกสิ่งสามารถปรับปรุงได้” โดยเริ่มจากการที่ประสิทธิภาพและการพัฒนาไม่ได้ถูกจำกัดไว้ในทางใดทางหนึ่ง Khalan I.S. การบริหารเวลา/การแปลจากภาษาอังกฤษ - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 2554 หน้า 16 -

3. เทคโนโลยีการบริหารเวลา

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการจัดการเวลาจำนวนมากที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญในประเทศและต่างประเทศ

มีสามตัวเลือกในการจัดระเบียบเรื่องสำคัญของคุณ: การใช้กระดาษธรรมดา โปรแกรม ผู้จัดงาน และบริการออนไลน์ Obraztsova, L. เวลาคือเงิน วิธีจัดการเวลาของคุณ / ลุดมิลา โอบราซโซวา - ม. 2550 หน้า 86

ต่อไปนี้เป็นเทคนิคการบริหารเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งใช้กระดาษเป็นเครื่องมือในการวางแผน: แผนที่และไดอะแกรมการไหล, แผนที่และแผนภูมิแกนต์, การวิเคราะห์เครือข่าย, ตัวจัดการแบบธรรมดา, ตัวจัดการที่มีฟังก์ชันการวิเคราะห์เวลาเชิงคุณภาพ, แผนที่เวลาของ Gastev, ระบบการมีส่วนร่วม , การวิเคราะห์ SWOT , เน้นลำดับความสำคัญ, เน้นระดับของเป้าหมาย (คุณค่า-เป้าหมาย-งาน), การตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมจริงของเป้าหมาย, การบันทึกกำหนดเวลาและขั้นตอนแรกเป็นลายลักษณ์อักษร, เทคโนโลยี SMART สำหรับการตั้งเป้าหมาย (ตาม D. Dourden), โครงการ ระบบการกำหนดเป้าหมาย (ตาม G. Arkhangelsky) การตั้งเป้าหมายจากทั่วไปถึงเฉพาะเจาะจง การวิเคราะห์สถานการณ์ (ตาม L. Seiwert) สมุดบันทึกกระดาษและอิเล็กทรอนิกส์ แผนที่ความคิด (เทคนิคของ Tony Buzan) ตาราง Covey การวางแผนเวลา Pareto สัดส่วน เมทริกซ์ไอเซนฮาวร์ การตั้งเป้าหมายจากทั่วไปไปสู่เฉพาะ วิธีการวางแผน 60:20:20 แอล. ไซเวิร์ต วิธี ABC วิธี "เทือกเขาแอลป์" ทฤษฎีการแก้ปัญหาเชิงประดิษฐ์ (G.S. Alshtuller) เทคโนโลยี "OTPAD" (A. Panfilov) เมทริกซ์ของ Eisenhower สร้างระบบการมอบหมาย การเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการตัดสินใจ การแนะนำมาตรการสำหรับข้อมูลและการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับการตัดสินใจ ระบบ Getting Thing Done (David Allen) การปรับปรุงกิจวัตรให้ทันสมัย ​​แบ่งกรณีต่างๆ ออกเป็น "ยืดหยุ่น" และ “ยาก” ทำให้มั่นใจได้ถึงการทำงานเป็นจังหวะ การฝึกทักษะการวางแผนเวลาส่วนบุคคล (บล็อก การทับซ้อนกัน ช่องว่าง) การใช้บริบท วิธีการ เช่น เทคนิค “การกำหนดเวลา” วิธี “ห้านิ้ว” (อ้างอิงจาก L. Seiwert) การ์ดควบคุม เครือข่ายข้อมูลการวางแผนและการไหลของข้อมูลในองค์กร การพัฒนาและการนำระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (วิศวกรรมไอที) เป็นต้น

เพื่อนำความรู้ด้านการบริหารเวลาไปใช้อย่างประสบความสำเร็จ จึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้กระบวนการจัดการเวลาเป็นแบบอัตโนมัติ นี่คือสิ่งที่พบบ่อยที่สุด: ตัวกำหนดเวลา, Time Assist Pro, ผู้จัดงาน, WinLog Assist, อธิบาย, FinExpertiza Time, Above & Beyond, ผู้วางแผนจริง, เลขานุการ, รายการสิ่งที่ต้องทำง่าย ๆ ของ VIP, C_Organizer, Life Balance, Tombo, WinOrganizer ฯลฯ และนี่ไม่ใช่รายการโปรแกรมประเภทนี้ทั้งหมด

บริการออนไลน์หลักสำหรับการบริหารเวลา: Todoist, Doit.im ฯลฯ

4.ทิศทางหลักของการบริหารเวลา

การบริหารเวลามีสามประเภทหลัก ดังแสดงในตารางที่ 1

ตารางที่ 1. - การบริหารเวลาสามประเภท

	รายบุคคล		ทางสังคม
เรื่อง (ผู้ควบคุม)	ผู้ชายคนนั้นเอง	ที่ปรึกษาด้านTM	ที่ปรึกษาด้านTM
วัตถุ (ผู้ถูกควบคุม)	ผู้ชายคนนั้นเอง	บุคลิกภาพ (มืออาชีพ)	กลุ่ม (โครงสร้างย่อยขององค์กร)
วัตถุประสงค์ (ทำไม)	เพิ่มประสิทธิภาพความสำเร็จของเป้าหมายชีวิตของแต่ละบุคคล	ปรับกระบวนการและผลลัพธ์ของการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาททางสังคม (มืออาชีพ) ให้เหมาะสม	ปรับกระบวนการและผลลัพธ์ของการทำงานขององค์กรให้เหมาะสม รวมถึงความสัมพันธ์
(สิ่งที่ถูกควบคุม)	ความรู้ความสามารถทักษะส่วนบุคคล	ความรู้และทักษะวิชาชีพ กลยุทธ์พฤติกรรม	บรรทัดฐาน กฎ มาตรฐาน อัลกอริธึม วิธีกิจกรรมและการสื่อสาร
แรงจูงใจ (ทำไม เพื่ออะไร)	ภายใน: ความสนใจ ความปรารถนาที่จะดีขึ้น	ภายในบางส่วน (ต้องการปรับปรุงความสามารถ) ภายนอกบางส่วน (ความยากลำบากในการทำงาน)	ภายนอก: งานช้าและไม่มีประสิทธิภาพ ความยากลำบากในการจัดการกลุ่ม

การบริหารเวลาประเภทแรกซึ่งเรียกตามอัตภาพว่า “รายบุคคล” ดำเนินการตามกระบวนทัศน์ของการพัฒนาตนเองส่วนบุคคล ในกรณีนี้ บุคคลมีบทบาทเป็น "ผู้จัดการเวลาของเขาเอง" วิธีการจัดการเวลาที่เขาใช้นั้นมีความเป็นรายบุคคลอย่างมาก เขาหยิบบางสิ่งจากหนังสือมาเอง เรียนรู้บางสิ่งในหลักสูตรและการฝึกอบรมเฉพาะทาง และประดิษฐ์บางสิ่งสำหรับตัวเอง . โดยพื้นฐานแล้วการบริหารเวลาของแต่ละบุคคลนั้นทำหน้าที่เป็นงานอดิเรกชนิดหนึ่งและมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายส่วนตัวเป็นประการแรกในบริบทของบุคคลที่พัฒนาความสามารถและการตระหนักรู้ในตนเองอย่างสร้างสรรค์ ขอบเขตของการประยุกต์ใช้การบริหารเวลาส่วนบุคคลดังกล่าวมักเป็นงานอดิเรกเชิงสร้างสรรค์ (ความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะหรือทางเทคนิค) และการฝึกอบรม (การทำงานกับข้อมูล)

“การบริหารเวลาตามบทบาท” แตกต่างจากการบริหารเวลาส่วนบุคคลในสองประเด็นสำคัญ ประการแรกมีความเชี่ยวชาญมากกว่า เชื่อมโยงกับการแก้ปัญหาเฉพาะ และประการที่สอง จำเป็นต้องมีส่วนร่วมของที่ปรึกษาการบริหารเวลามืออาชีพในกระบวนการบริหารเวลา “ความผูกพัน” ของการบริหารเวลากับการแก้ปัญหาทำให้มีความต้องการที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการบริหารเวลาที่ใช้ ดังนั้นจึงทำให้การมีส่วนร่วมของที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญมีความจำเป็นอย่างยิ่ง การจัดการประหยัดเวลาของนักเรียน

“การบริหารเวลาทางสังคม” ค่อนข้างแตกต่างจากการบริหารเวลาประเภทอื่นๆ เนื่องจากมีจุดประสงค์พิเศษคือกลุ่มคนและ/หรือโครงสร้างย่อยขององค์กร (โดยรวมขององค์กร) แต่เนื่องมาจากข้อกำหนดเฉพาะสำหรับงาน ของที่ปรึกษาการบริหารเวลา ในกรณีของการบริหารเวลา ที่ปรึกษาทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาองค์กรเป็นหลัก โดยทำการเปลี่ยนแปลงในประเด็นสำคัญของกิจกรรม Skibitskaya L.I. ความช่วยเหลือสำหรับนักเรียน เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัย ก. 2552 หน้า 412

นอกจากการแก้ปัญหาการพัฒนาองค์กรแล้ว ภายใต้กรอบของ “การบริหารเวลาทางสังคม” แล้ว ที่ปรึกษายังต้องแก้ปัญหาอีกปัญหาหนึ่งด้วย นั่นคือ การฝึกอบรมและปรับตัวกลุ่มคนให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น การฝึกอบรมมักจะค่อนข้างเป็นแบบดั้งเดิม (การจัดการฝึกอบรม หลักสูตร การสัมมนา) แต่กิจกรรมการปรับตัวอาจมีรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่การฝึกอบรมไปจนถึงมาตรการที่ครอบคลุม เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่รวมเวลาเป็นหนึ่งในค่านิยมหลัก

บทสรุป

การบริหารเวลาเป็นระบบองค์รวมสำหรับการจัดการกิจกรรมส่วนบุคคล รวมถึงเครื่องมือสำหรับการพัฒนากลยุทธ์ส่วนบุคคล การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคล การจัดการทรัพยากรส่วนบุคคล (เงิน เวลา ข้อมูล ฯลฯ)

ความเชี่ยวชาญของนักเรียนเกี่ยวกับเทคนิคการจัดการเวลาทางเทคโนโลยีจะช่วยให้พวกเขาสามารถ: วิเคราะห์เวลาเพื่อใช้อย่างมีเหตุผล กำหนดและกำหนดเป้าหมายระยะสั้น กลาง และระยะยาว วางแผนกิจการอย่างชัดเจน ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการควบคุมตนเองและควบคุมผลงานของพวกเขา การพัฒนาทักษะในการจัดระเบียบงานอิสระของนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องดำเนินการในสองทิศทาง: การเรียนรู้เทคโนโลยีการจัดการเวลาโดยอาจารย์ของสถาบันการศึกษาระดับสูง และการใช้ความรู้ที่ได้รับเพื่อจัดระเบียบงานอิสระของนักเรียน

เทคนิคการบริหารเวลาหลัก ได้แก่ การวางแผน; การทำงานที่มีประสิทธิภาพกับข้อมูล ความเต็มใจที่จะทำสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ การเปลี่ยนแปลงในการสื่อสารกับผู้อื่น สลับงานและพักผ่อนอย่างชำนาญ

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการจัดการเวลาจำนวนมากที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญในประเทศและต่างประเทศ มีสามทางเลือกในการจัดงานสำคัญของคุณ: การใช้กระดาษธรรมดา โปรแกรม ผู้จัดงาน และบริการออนไลน์

การบริหารเวลาทั้งสามประเภทที่ระบุนั้นแตกต่างกันมาก โดยกำหนดลักษณะกิจกรรมของที่ปรึกษาด้านการบริหารเวลาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การบริหารเวลาแต่ละประเภทกำหนดให้ที่ปรึกษาจัดกิจกรรมด้วยวิธีพิเศษ ใช้รูปแบบงานพิเศษ (การวินิจฉัย การวิเคราะห์กิจกรรม การศึกษารายบุคคลหรือกลุ่ม รวมถึงการฝึกอบรม ฯลฯ) และใช้วิธีการบริหารเวลาเฉพาะทาง

รายชื่อแหล่งที่มาที่ใช้

1. อาร์คันเกลสกี้ จี.เอ. องค์การของเวลา - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: สำนักพิมพ์ "ปีเตอร์", 2549 -448 หน้า

2. Bird P. Time management: การวางแผนและการควบคุมเวลา อ.: FAIR PRESS, 2551.- 288 หน้า

3.Dorozhkin Yu.N., Mazitova L.T. ปัญหาการปรับตัวทางสังคมของนักศึกษาต่างชาติ // สังคมวิทยา. วิจัย 2550 ฉบับที่ 3 หน้า 73--77.

4. โมโลโควา โอ.เอ. การบริหารเวลาเป็นปัจจัยหนึ่งของการปรับตัวต่อการเรียนในมหาวิทยาลัย // ปัญหาวิทยาศาสตร์และการศึกษาสมัยใหม่ 2555 ฉบับที่ 5 หน้า 180

5. Obraztsova, L. เวลาคือเงิน วิธีจัดการเวลาของคุณ / ลุดมิลา โอบราซโซวา - อ.: AST, 2550 - 126 น.

6. การสอน: หนังสือเรียนสำหรับนักศึกษาของสถาบันการศึกษา / V.A. Slastenin, I.F. Isaev, A.I. Mishchenko - ฉบับที่ 4 - อ.: สำนักพิมพ์โรงเรียน, 2555. - 512 น.

7.การจัดการตนเอง: หนังสือเรียน / ed. V.N.Parakhina, V.I. Perov - ม., 2555. - 368 น.

8. สกีบิตสกายา แอล.ไอ. การบริหารเวลา: การศึกษา ความช่วยเหลือสำหรับนักเรียน เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัย K.: Condor, 2009. - 528 น.

9.Frantsuzova S., Usov V. การจัดการเวลาในระบบการฝึกอบรมภายใน // การจัดการและผู้จัดการ 2552 ฉบับที่ 5 หน้า 57--63.

10. คาลัน ไอ.เอส. การบริหารเวลา/การแปลจากภาษาอังกฤษ - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: สำนักพิมพ์ Dilya, 2554 - 96 น.

บทคัดย่อของบทความทางวิทยาศาสตร์

คาคูโนวา เอฟ.พี. ปัญหาการจัดงานอิสระของนักเรียนและเด็กนักเรียนในระยะการศึกษาปัจจุบัน // แถลงการณ์ของ Adygea State University. ชุดที่ 3: การสอนและจิตวิทยา - 2555. - หน้า. 89-106.

ในบทความของเขา F.P. Khakunova ยืนยันความเกี่ยวข้องของการจัดงานอิสระในวิชาของกระบวนการศึกษา ดังที่ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่าในกระบวนการศึกษาสมัยใหม่ไม่มีปัญหาใดที่สำคัญและในเวลาเดียวกันก็ซับซ้อนกว่าการจัดระเบียบงานอิสระของนักเรียนในกระบวนการศึกษา เอฟ.พี. Khakunova อธิบายลักษณะระดับและประเภทของงานอิสระ ผู้เขียนเน้นย้ำว่าเพื่อที่จะดำเนินงานอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องเชี่ยวชาญกลยุทธ์ทางการศึกษานั่นคือชุดการกระทำที่มั่นคงซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขงานด้านการศึกษาประเภทต่างๆ สถานที่พิเศษสำหรับ F.P. Khakunova ในงานของเธอให้ความสำคัญกับลักษณะเฉพาะของงานอิสระของนักเรียนและเด็กนักเรียน ผู้เขียนอธิบายโดยละเอียดและจำแนกคุณลักษณะของงานอิสระของนักเรียนตามประเภทโดยพิจารณาจากลักษณะเฉพาะของกิจกรรมทางการศึกษาและความรู้ความเข้าใจและงานด้านความรู้ความเข้าใจ

โพสต์บน Allbest.ru

...

เอกสารที่คล้ายกัน

สาระสำคัญ หลักการ เหตุผลในการใช้งาน และเทคนิคการบริหารเวลาสมัยใหม่ ลักษณะเฉพาะของการบริหารเวลาในสถานบริการ ลักษณะของการบริหารเวลาและการใช้เวลาทำงานในบริษัทโฆษณา "Breeze Service"

งานหลักสูตรเพิ่มเมื่อ 26/04/2558


สาระสำคัญและเนื้อหาของการบริหารเวลา ขั้นตอนทางประวัติศาสตร์ของการพัฒนา วิธีการศึกษากระบวนการแรงงานและต้นทุนเวลาทำงาน แนวทางการบริหารเวลาขั้นพื้นฐานในองค์กรยุคใหม่ การใช้เทคโนโลยีการจัดการเวลาที่ Bosphorus LLC

วิทยานิพนธ์เพิ่มเมื่อ 13/07/2558


สาระสำคัญและเนื้อหาของการบริหารเวลา วิธีการศึกษากระบวนการแรงงานและต้นทุนเวลาทำงาน แนวทางการบริหารเวลาขั้นพื้นฐานในองค์กรยุคใหม่ การวิเคราะห์และวิธีการปรับปรุงเทคโนโลยีการจัดการเวลาที่ใช้ใน Bosphorus LLC

วิทยานิพนธ์เพิ่มเมื่อ 08/01/2558


การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้เวลาทำงาน ความหมายและแนวคิดพื้นฐานของการบริหารเวลา โครงสร้าง: การกำหนดเป้าหมาย การจัดลำดับความสำคัญ ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือการวางแผน นิสัย ลักษณะของเทคนิคการบริหารเวลาขั้นพื้นฐาน

บทคัดย่อ เพิ่มเมื่อ 12/11/2558


การจัดการเวลาทำงานและเวลาของผู้จัดการและผู้เชี่ยวชาญในองค์กร: สาระสำคัญ การจำแนกประเภท วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เทคนิคการบริหารเวลาสมัยใหม่ วิเคราะห์การใช้เวลาทำงานที่โรงพยาบาลเมืองอิวาโนโว หมายเลข 2

วิทยานิพนธ์เพิ่มเมื่อ 17/08/2559


งานหลักสูตรเพิ่มเมื่อ 20/01/2554


ความยากในการจัดการงานสร้างสรรค์และการบริหารจัดการจากเบื้องบน แนวคิดเรื่องการบริหารเวลาและปัญหาหลักการขาดทั้งเวลาส่วนตัวและเวลาทำงาน การขาดเวลามาจากไหนและจะจัดการกับมันอย่างไร ขั้นตอนการดำเนินการจัดการเวลา

ทดสอบเพิ่มเมื่อ 12/08/2010


การบริหารเวลาคือการกระทำหรือกระบวนการของการควบคุมระยะเวลาที่ใช้ในกิจกรรมเฉพาะอย่างมีสติ ประวัติความเป็นมาของการศึกษาศาสตร์แห่งการบริหารเวลาโครงสร้าง การวิเคราะห์การใช้เวลาทำงาน

การนำเสนอเพิ่มเมื่อ 20/04/2015


รากฐานทางทฤษฎีของการบริหารเวลา: สาระสำคัญและหลักการ เหตุผลในการใช้งาน เทคนิคสมัยใหม่ การนำระบบไปใช้งานในบริษัท OJSC "Megafon": คำอธิบายสั้น ๆ การประเมินระบบการบริหารเวลาและคุณสมบัติหลักของการปรับปรุง

งานหลักสูตร เพิ่มเมื่อ 07/08/2012


การบริหารเวลาเป็นการฝึกอบรมเพื่อควบคุมระยะเวลาที่ใช้ในกิจกรรมเฉพาะ ประเมินบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน การวิเคราะห์การใช้เวลาทำงาน โครงสร้างและหลักการบริหารเวลา