เด็กที่น่าทึ่งคนนี้ได้อ่าน จากไข่สู่ลูกไก่เกี่ยวกับระยะมดลูกของพัฒนาการของเด็ก

ในช่วงปีแรก เด็กจะมีพัฒนาการที่เทียบได้กับชีวิตในอนาคตของเขา และทุกวันของปีนี้มีความสำคัญ นักชีววิทยาที่ค้นคว้าสาขาสรีรวิทยาพฤติกรรม Lyudmila Sokolova และ Nadezhda Andreeva พูดคุยในหนังสือเกี่ยวกับทุกสิ่งที่พ่อแม่รุ่นเยาว์จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับลูกของพวกเขา ทารกเกิดมามีความรู้เกี่ยวกับโลกและความสามารถพิเศษมากมายเพียงใด? ทารกแรกเกิดมองเห็นได้อย่างไร? สมองของเขาทำงานอย่างไร? ลูกน้อยของคุณต้องการบอกอะไรคุณเมื่อเขาร้องไห้? ทำไมเขาถึงเริ่มกลัวคนแปลกหน้า? เมื่อไหร่เขาจะเริ่มเดินและพูด? จะปลุกความสนใจในการเรียนรู้ตั้งแต่วันแรกของชีวิตได้อย่างไร? คุณจะอ่านคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้และคำถามอื่น ๆ ในหนังสือเล่มนี้ซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้เขียนโดยคำนึงถึงการวิจัยล่าสุดในสาขาสรีรวิทยาของมนุษย์และประสบการณ์พื้นบ้านอันล้ำค่า

ชุด:หนังสือหลักของแม่

* * *

โดยบริษัทลิตร

การแนะนำ

โลกของเด็กน้อย... มันเป็นยังไงบ้าง? เป็นไปได้ไหมที่จะตรวจสอบมัน? เราแต่ละคนเคยผ่านจักรวาลอันเป็นเอกลักษณ์นี้ แต่กฎแห่งความทรงจำนั้นทำให้เราไม่สามารถจำเส้นทางแรกของเราได้ ใครจะกลับมาหาเราความรู้เกี่ยวกับโลกที่สูญหายไปตลอดกาลนี้? และเราจำเป็นต้องเริ่มต้นการเดินทางผ่านโลกแห่งวัยเด็กในยุคปัจจุบันที่เร่งรีบเช่นนี้หรือไม่? ไม่เพียงจำเป็นเท่านั้น แต่ยังจำเป็นอีกด้วย!

ในวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีความสนใจในปัญหาเกี่ยวกับเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น และนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ปีแรกของชีวิตของเด็กถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในการพัฒนาบุคลิกภาพของเขาถามตัวเอง: คุณเคยมีภาระกับความกังวลในชีวิตประจำวัน ความกังวลชั่วขณะ และความวิตกกังวลอยู่เสมอหรือไม่ โดยตระหนักดีว่าการเลี้ยงลูกคุณกำลังทำงานเพื่ออนาคตและท้ายที่สุดเพื่อนิรันดร์กาล ท้ายที่สุดแล้ว ความเป็นแม่ไม่เพียงแต่เป็นความรู้สึกในหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงต่อชะตากรรมของโลกอีกด้วย

แน่นอนว่าประสบการณ์ส่วนตัวของเราแต่ละคนไม่สามารถถูกแทนที่ได้ แต่เรามักจะเลี้ยงลูกอย่างถูกต้องหรือไม่? วิทยาศาสตร์จะช่วยตอบคำถามนี้ ทุกวันนักวิทยาศาสตร์จะนำเสนอข้อเท็จจริงใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นพยานถึงความสามารถอันน่าทึ่งและบางครั้งก็คาดไม่ถึงของเด็กทารก ดังนั้นเมื่อมีความรู้พื้นฐานอย่างน้อยเกี่ยวกับกฎพื้นฐานของการก่อตัวของจิตใจและพฤติกรรมของมนุษย์ คุณจะสามารถเลือกวิธีที่ถูกต้องที่สุดในการเลี้ยงดูลูกของคุณและค้นหาคำตอบสำหรับคำถามที่ชีวิตเกิดกับคุณ

ผู้หญิงและผู้ชายเป็นสองหน้าของสิ่งมีชีวิตเดียว - บุคคล; เด็กคือความหวังนิรันดร์ร่วมกันของพวกเขา ไม่มีใครอื่นนอกจากเด็กที่จะถ่ายทอดความฝันและแรงบันดาลใจของเขาให้กับบุคคล ไม่มีใครที่จะให้สำหรับการบรรลุถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ไม่มีใครนอกจากลูก ดังนั้นเด็กจึงเป็นผู้ปกครองของมนุษยชาติ เพราะชีวิตมักจะถูกครอบงำโดยความคิดที่บริสุทธิ์ที่กำลังจะมาซึ่งคาดหวังไว้ซึ่งยังไม่เกิด ความตื่นเต้นที่เรารู้สึกได้ในอกของเรา พลังที่ทำให้ชีวิตของเราเดือดพล่าน

เอ.พี. พลาโตนอฟ

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นนักชีววิทยาที่ค้นคว้าสาขาสรีรวิทยาพฤติกรรม ความปรารถนาที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับลักษณะพัฒนาการของเด็กในปีแรกของชีวิตเกี่ยวกับโลกของทารกนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญสำหรับเรา วิทยาศาสตร์และสังคมโดยรวมมีความสุขมาเป็นเวลานานในความคิดเรื่องความเป็นเลิศของมนุษย์โดยละเลยกฎแห่งการพัฒนาทางชีววิทยาโดยสิ้นเชิง แต่มนุษย์ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่เป็นเพียงขั้นตอนที่สมเหตุสมผลในการพัฒนาธรรมชาติ

เราแต่ละคนเชื่อมต่อกับโลกรอบตัวเราด้วยเส้นด้ายที่มองไม่เห็น เราทุกคนดำเนินชีวิตตามกฎแห่งธรรมชาติเดียวกัน การละเลยสถานการณ์นี้เป็นอันตราย เนื่องจากการไม่รู้กฎแห่งธรรมชาติมักนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ในการเลี้ยงดูมนุษย์ที่มีเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงขั้นตอนบางอย่างในการก่อตัวของพฤติกรรมและจิตใจของเด็กอย่าสับสนกับการพูดนอกเรื่องของเราในสาขาชีววิทยา - พวกเขาจะไม่เพียง แต่ช่วยให้คุณได้รับแนวคิดเกี่ยวกับหลักการที่เป็นหนึ่งเดียวของ พัฒนาการของสิ่งมีชีวิตแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองดีขึ้น ตอบคำถามต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย

ตามที่เราเชื่อกันอย่างไร้เดียงสา มนุษย์ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล แต่สิ่งที่สวยงามกว่านั้นคือจุดสุดยอดของการสังเคราะห์ทางชีวภาพที่ยิ่งใหญ่ มนุษย์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเวลาสุดท้ายแห่งการเกิดขึ้น เป็นชั้นที่ใหม่ที่สุด ซับซ้อนที่สุด มีสีรุ้งมากที่สุด มีหลากสีสันแห่งชั้นชีวิตที่ต่อเนื่องกัน

นักชีววิทยาชาวฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่และนักมนุษยนิยม ปิแอร์ เตลฮาร์ด เดอ ชาร์แดง

แน่นอนว่าหนังสือที่เรานำเสนอไม่ควรถือเป็นแนวทางเชิงระเบียบวิธีบางอย่างที่มาแทนที่วรรณกรรมทางการแพทย์และการสอนพิเศษ เราไม่ได้มุ่งมั่นที่จะให้ "สูตรอาหาร" สำเร็จรูป - เราเพียงขอให้คุณแสดงการสังเกต ความสนใจ และที่สำคัญที่สุดคือ ความเข้าใจลูกของคุณเพื่อที่คุณจะได้เจาะลึกเข้าไปในโลกมหัศจรรย์ในวัยเด็กนี้อย่างแท้จริง มักเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า “ทำอย่างไร?” จะพบได้ง่ายขึ้นหากคุณรู้คำตอบของคำถามที่ว่า “ทำไม”

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงผู้ที่ได้รู้จักความสุขพิเศษของการเป็น ที่ได้เป็นแม่หรือพ่อแล้ว ผู้ที่กำลังจะกลายมาเป็นหนึ่งเดียว และผู้ที่สัมผัสประสบการณ์ความเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีใครเทียบได้นี้อีกครั้ง จากการเป็นคุณย่าหรือปู่ไปแล้ว

สำหรับคุณแม่ยังสาว ปีแรกของชีวิตของลูกเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุด เต็มไปด้วยปัญหาที่ซับซ้อนและใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งการนอนไม่หลับและความกังวลซ้ำซากจำเจเกี่ยวกับเด็กจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ เพื่อรักษารูปร่างทางปัญญาของคุณและไม่จมอยู่กับกิจวัตรชั่วขณะ ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการวิจัยที่สำคัญ: สังเกต วิเคราะห์ จัดระบบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณและลูกน้อยของคุณ

ทุกๆ วันสำหรับบุตรหลานของคุณ จะได้พบกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ และขอให้คุณอย่าทำให้โลกตกใจกับข้อสรุปและข้อสรุประดับโลกใดๆ สิ่งสำคัญคือคุณจะ "อยู่" กับลูกของคุณวันแล้ววันเล่าในปีแรกที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาคุณจะใกล้ชิดและเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น

ด้วยการเปิด "สถาบันวัยเด็ก" ในบ้านของคุณ โดยให้ญาติของคุณ - พ่อ ปู่ย่าตายาย - ในการสังเกต คุณจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวของคุณ ท้ายที่สุดแล้ว การเลี้ยงลูกไม่ได้เป็นเพียงความกังวลของคุณแม่เท่านั้น แต่เราทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมในการทดลองที่น่าทึ่งและไม่เหมือนใครที่ธรรมชาติสร้างขึ้น และชะตากรรมของคนใหม่ที่เข้ามาในโลกก็ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของเรา

ผลลัพธ์ของการทำงานสร้างสรรค์ร่วมกันจะทำให้เกิดบุคลิกภาพใหม่ ภารกิจอันสูงส่งนี้ยังแสดงถึงความรับผิดชอบสูงด้วย เพราะชะตากรรมในอนาคตของเขาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าประสบการณ์ความสัมพันธ์ครั้งแรกของคุณกับลูกจะเป็นอย่างไร ภูมิปัญญาหลักของผู้ปกครองคือการเคารพบุคลิกภาพที่เป็นอิสระของคนตัวเล็กตั้งแต่นาทีแรกแนะนำเขาเข้าสู่โลกนี้อย่างระมัดระวังส่งต่อทุกสิ่งที่อยู่ในตัวเราให้เขา นี่ไม่ใช่ความลับของการเป็นอมตะของมนุษย์หรอกหรือว่าในสิ่งมีชีวิตใหม่ๆ ทุกชนิดที่เข้ามาในโลก เรามุ่งมั่นที่จะละทิ้งส่วนที่ดีที่สุดของตัวเราเองไว้

* * *

ส่วนเกริ่นนำของหนังสือที่กำหนด ปีแรกของชีวิตตัดสินทุกสิ่ง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม ทารกที่น่าทึ่งคนนี้ (N. G. Andreeva, 2015)จัดทำโดยพันธมิตรหนังสือของเรา -

ลุดมิลา โซโคโลวา, นาเดซดา อันดรีวา

ปีแรกของชีวิตตัดสินทุกสิ่ง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม สุดยอดเลยลูกคนนี้

สงวนลิขสิทธิ์. ห้ามทำซ้ำส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ในรูปแบบใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ถือลิขสิทธิ์

© โซโคโลวา แอล., 2015

© Andreeva N. , 2015

© AST Publishing House LLC, 2016


โซโคโลวา ลุดมิลา วลาดิมีรอฟนา


วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ศาสตราจารย์ภาควิชากิจกรรมประสาทระดับสูงและสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอเกิดในปี 1950 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สำเร็จการศึกษาจากคณะประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี พ.ศ. 2548 เธอได้ปกป้องวิทยานิพนธ์ของเธอในระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ผู้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์และการศึกษามากกว่า 120 ชิ้น รวมถึงเอกสาร 6 เล่ม หนังสือเรียน 3 เล่ม และสื่อการสอน พื้นที่ที่สนใจทางวิทยาศาสตร์: รูปแบบของการก่อตัวของกิจกรรมสมองบูรณาการในสภาวะปกติและความผิดปกติของพัฒนาการ สรีรวิทยาที่เกี่ยวข้องกับอายุ ทางชีวภาพและสังคมในธรรมชาติของมนุษย์ รากฐานทางจิตสรีรวิทยาของการปรับตัวทางสังคมของเด็ก

เธอเข้าร่วมในองค์กรโดยนักวิชาการของ Russian Academy of Education A.S. Batuev แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ "จิตวิทยาของแม่และเด็ก" ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันกุมารเวชศาสตร์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สถาบันวิวัฒนาการ สรีรวิทยาตามชื่อ I.M. Sechenov RAS มหาวิทยาลัยการสอนแห่งรัฐรัสเซีย ตั้งชื่อตาม A. I. Herzen, มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ตุรกุ (ฟินแลนด์)


Andreeva Nadezhda Gennadievna


ผู้สมัครสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รองศาสตราจารย์ภาควิชากิจกรรมประสาทระดับสูงและสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เกิดในปี 1949 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอสำเร็จการศึกษาจากคณะชีววิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขอบเขตของความสนใจทางวิทยาศาสตร์อยู่ในสาขาการศึกษาปัญหาของพัฒนาการและสรีรวิทยาเชิงเปรียบเทียบโดยพัฒนาประเด็นการก่อตัวของฟังก์ชั่นการพูดในระยะแรกของการสร้างเซลล์อย่างแข็งขัน

คำนำ

วัยเด็กเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของบุคคลไม่เพียง แต่ในแง่ของการตระหนักถึงความโน้มเอียงทางพันธุกรรมของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในแง่ของการก่อตัวขององค์ประกอบทางจิตสรีรวิทยาหลักของสถานะส่วนบุคคลของบุคคลการก่อตัวของเขาในฐานะสมาชิกของสังคม . เมื่อเร็ว ๆ นี้มุมมองของวัยเด็กเปลี่ยนไป หากก่อนหน้านี้เมื่อศึกษาเด็กในช่วงปีแรกของชีวิตความสนใจมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการพัฒนาทางร่างกายเป็นหลักในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าช่วงแรกของชีวิตของบุคคลนั้นก็มีความสำคัญที่สุดในกระบวนการขัดเกลาทางสังคมเช่นกัน นั่นคือในการเรียนรู้ระบบความรู้บรรทัดฐานและค่านิยมบางอย่างของสังคมมนุษย์.

ตรรกะของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทำให้วาระการศึกษาปีแรกของชีวิตของเด็กเป็นอายุพื้นฐานสำหรับการก่อตัวของฟังก์ชั่นประสาทจิตพื้นฐานและระบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เหมาะสม ในการวิจัยในประเทศสมัยใหม่เกี่ยวกับสรีรวิทยาและจิตวิทยาพัฒนาการ ช่วงเวลาของวัยเด็กยังคงเป็นปัญหาที่มีการศึกษาน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้เองที่ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับกระบวนการทางจิตสรีรวิทยาที่กำหนดความสามารถในการพูดและกิจกรรมทางจิตของเด็กและรับรองความเป็นไปได้ของการรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมทางสังคมโดยรอบจะพัฒนาอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ

ปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จล่าสุดของวิทยาศาสตร์ด้านมนุษยศาสตร์จะต้องได้รับการยอมรับอย่างมั่นคงในด้านการศึกษาครอบครัว ผู้ปกครองควรรู้: คุณไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ "ตามดุลยพินิจของคุณเอง" - มีกฎหมายที่เป็นรูปธรรมสำหรับการสร้างพฤติกรรมและจิตใจของเด็กโดยไม่ทราบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะวางแผนกระบวนการเลี้ยงดูและให้ความรู้แก่บุคคลอย่างถูกต้อง ความเข้าใจของผู้ปกครองเกี่ยวกับความต้องการและความสามารถของลูกในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาจะช่วยปกป้องพวกเขาจากความผิดพลาดบางประการในการเลี้ยงดู ในทางกลับกันสิ่งนี้จะช่วยปกป้องเด็กจากปัญหาร้ายแรงในชีวิตผู้ใหญ่ในอนาคต เราต้องไม่ลืมว่าประสบการณ์แรกเริ่มที่บุคคลได้รับในปีแรกของชีวิตจะไม่หายไปตามกาลเวลา เมื่ออยู่ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกมันจะทิ้งร่องรอยไว้ในการพัฒนาต่อไปของบุคคล

เวลาผ่านไปในประวัติศาสตร์เมื่อสมองของเด็กแรกเกิด "ต้อง" ถือเป็นกระดานชนวนที่ว่างเปล่าซึ่งสังคมต้องพรรณนาถึง "แผนการ" ที่ต้องการ เด็กไม่ได้เกิดมาเป็น “หน้าว่าง”– ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีโปรแกรมบางอย่างสำหรับการพัฒนาทางร่างกายและประสาทจิต แน่นอนว่า ลักษณะเฉพาะของการตระหนักถึงความโน้มเอียงที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เด็กจะเติบโตขึ้นมา

ทัศนคติที่เอาใจใส่ไม่เพียงพอต่ออายุของเด็กปฐมวัยส่งผลเสียต่อชีวิตทั้งชีวิตของบุคคล และผู้คนจำนวนมากที่เกิดมาพร้อมกับพันธุกรรมที่ดีที่สุดและมีสภาวะที่ดีที่สุดต่อสุขภาพและอิทธิพลทางศีลธรรมของพวกเขาในวัยต่อมายังคงพิการอยู่ ความรู้สึกทางกายภาพและทางศีลธรรมตลอดไปเพียงเพราะพวกเขาต้องใช้เวลาในวัยเด็กในสภาพร่างกายและศีลธรรมที่ไม่เอื้ออำนวยหรือผิดปกติโดยสิ้นเชิง

วี.เอ็ม. เบคเทเรฟ

เป็นเวลาหลายปีที่ทฤษฎี "การศึกษาแบบรวม" ได้รับการปลูกฝังในสังคมของเรา ซึ่งสนองความต้องการของระบอบเผด็จการ นักทฤษฎีและครูได้จัดวางบทบาทของผู้เป็นแม่ในระดับแนวหน้าของหลักคำสอนทางการศึกษาให้อยู่ในระดับอิทธิพลภายนอกอื่นๆ โดยแยกออกจากบทบาทของเธอในฐานะผู้นำและกำหนดความเชื่อมโยงใน พัฒนาการของเด็กอย่างเต็มที่ แนวทางการศึกษานี้ส่งผลเสียต่อสถานะขององค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของสังคม - ครอบครัวหลักคำสอนทางการเมืองที่ปลูกฝังมานานหลายทศวรรษกระตุ้นให้ผู้เป็นแม่พึ่งพาประสบการณ์ของครูในสถาบันก่อนวัยเรียนโดยสิ้นเชิง ซึ่งเด็กจะต้องอยู่ในเดือนแรกหลังคลอด ดังนั้น พ่อแม่ (โดยหลักคือแม่) จึงถูกตัดขาดจากการติดต่อกับเด็กอย่างต่อเนื่อง และทารกก็ประสบกับการขาดดุลอย่างรุนแรงในการตอบสนองความต้องการที่สำคัญ - การรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ความรัก ความกรุณา และความรักจากผู้คนที่อยู่ใกล้เขาอยู่ตลอดเวลา .

ดาวน์โหลดหนังสือโดย Sokolov L., Andreeva N. - ปีแรกของชีวิตตัดสินใจทุกอย่าง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม ทารกที่น่าทึ่งคนนี้เป็นอิสระอย่างแน่นอน

หากต้องการดาวน์โหลดหนังสือฟรีจากบริการโฮสต์ไฟล์ ให้คลิกลิงก์ที่อยู่ถัดจากคำอธิบายของหนังสือฟรี


ในช่วงปีแรก เด็กจะมีพัฒนาการที่เทียบได้กับชีวิตในอนาคตของเขา และทุกวันของปีนี้มีความสำคัญ นักชีววิทยาที่ค้นคว้าสาขาสรีรวิทยาพฤติกรรม Lyudmila Sokolova และ Nadezhda Andreeva พูดคุยในหนังสือเกี่ยวกับทุกสิ่งที่พ่อแม่รุ่นเยาว์จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับลูกของพวกเขา ทารกเกิดมามีความรู้เกี่ยวกับโลกและความสามารถพิเศษมากมายเพียงใด? ทารกแรกเกิดมองเห็นได้อย่างไร? สมองของเขาทำงานอย่างไร? ลูกน้อยของคุณต้องการบอกอะไรคุณเมื่อเขาร้องไห้? ทำไมเขาถึงเริ่มกลัวคนแปลกหน้า? เมื่อไหร่เขาจะเริ่มเดินและพูด? จะปลุกความสนใจในการเรียนรู้ตั้งแต่วันแรกของชีวิตได้อย่างไร? คุณจะอ่านคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้และคำถามอื่น ๆ ในหนังสือเล่มนี้ซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้เขียนโดยคำนึงถึงการวิจัยล่าสุดในสาขาสรีรวิทยาของมนุษย์และประสบการณ์พื้นบ้านอันล้ำค่า

ชื่อกระทู้ : ปีแรกของชีวิตตัดสินทุกสิ่ง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม สุดยอดเลยลูกคนนี้
ผู้แต่ง: Lyudmila Sokolova, Nadezhda Andreeva
ปี: 2016
หน้า: 460, 58 ป่วย.
ภาษารัสเซีย
รูปแบบ: rtf, fb2 / rar
ขนาด: 11.0 ลบ


เรียนผู้อ่านถ้ามันไม่ได้ผลสำหรับคุณ

ดาวน์โหลด Sokolova L., Andreeva N. - ปีแรกของชีวิตตัดสินใจทุกอย่าง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม สุดยอดเลยลูกคนนี้

เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในความคิดเห็นและเราจะช่วยคุณอย่างแน่นอน
เราหวังว่าคุณจะชอบหนังสือเล่มนี้และสนุกกับการอ่านมัน เพื่อเป็นการขอบคุณ คุณสามารถฝากลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของเราไว้ในฟอรัมหรือบล็อก :) E-book Sokolov L., Andreeva N. - ปีแรกของชีวิตตัดสินใจทุกอย่าง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม เด็กที่น่าทึ่งคนนี้มีไว้เพื่อตรวจสอบก่อนซื้อหนังสือกระดาษเท่านั้น และไม่ใช่คู่แข่งกับสิ่งพิมพ์

ลุดมิลา โซโคโลวา, นาเดซดา อันดรีวา

ปีแรกของชีวิตตัดสินทุกสิ่ง! ความลับ 365 ประการของการพัฒนาที่เหมาะสม สุดยอดเลยลูกคนนี้

สงวนลิขสิทธิ์. ห้ามทำซ้ำส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ในรูปแบบใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ถือลิขสิทธิ์

© โซโคโลวา แอล., 2015

© Andreeva N. , 2015

© AST Publishing House LLC, 2016


โซโคโลวา ลุดมิลา วลาดิมีรอฟนา


วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ศาสตราจารย์ภาควิชากิจกรรมประสาทระดับสูงและสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอเกิดในปี 1950 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สำเร็จการศึกษาจากคณะประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี พ.ศ. 2548 เธอได้ปกป้องวิทยานิพนธ์ของเธอในระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ผู้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์และการศึกษามากกว่า 120 ชิ้น รวมถึงเอกสาร 6 เล่ม หนังสือเรียน 3 เล่ม และสื่อการสอน พื้นที่ที่สนใจทางวิทยาศาสตร์: รูปแบบของการก่อตัวของกิจกรรมสมองบูรณาการในสภาวะปกติและความผิดปกติของพัฒนาการ สรีรวิทยาที่เกี่ยวข้องกับอายุ ทางชีวภาพและสังคมในธรรมชาติของมนุษย์ รากฐานทางจิตสรีรวิทยาของการปรับตัวทางสังคมของเด็ก

เธอเข้าร่วมในองค์กรโดยนักวิชาการของ Russian Academy of Education A.S. Batuev แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ "จิตวิทยาของแม่และเด็ก" ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันกุมารเวชศาสตร์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สถาบันวิวัฒนาการ สรีรวิทยาตามชื่อ I.M. Sechenov RAS มหาวิทยาลัยการสอนแห่งรัฐรัสเซีย ตั้งชื่อตาม A. I. Herzen, มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ตุรกุ (ฟินแลนด์)


Andreeva Nadezhda Gennadievna


ผู้สมัครสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รองศาสตราจารย์ภาควิชากิจกรรมประสาทระดับสูงและสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เกิดในปี 1949 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอสำเร็จการศึกษาจากคณะชีววิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขอบเขตของความสนใจทางวิทยาศาสตร์อยู่ในสาขาการศึกษาปัญหาของพัฒนาการและสรีรวิทยาเชิงเปรียบเทียบโดยพัฒนาประเด็นการก่อตัวของฟังก์ชั่นการพูดในระยะแรกของการสร้างเซลล์อย่างแข็งขัน

คำนำ

วัยเด็กเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของบุคคลไม่เพียง แต่ในแง่ของการตระหนักถึงความโน้มเอียงทางพันธุกรรมของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในแง่ของการก่อตัวขององค์ประกอบทางจิตสรีรวิทยาหลักของสถานะส่วนบุคคลของบุคคลการก่อตัวของเขาในฐานะสมาชิกของสังคม . เมื่อเร็ว ๆ นี้มุมมองของวัยเด็กเปลี่ยนไป หากก่อนหน้านี้เมื่อศึกษาเด็กในช่วงปีแรกของชีวิตความสนใจมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการพัฒนาทางร่างกายเป็นหลักในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าช่วงแรกของชีวิตของบุคคลนั้นก็มีความสำคัญที่สุดในกระบวนการขัดเกลาทางสังคมเช่นกัน นั่นคือในการเรียนรู้ระบบความรู้บรรทัดฐานและค่านิยมบางอย่างของสังคมมนุษย์.

ตรรกะของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทำให้วาระการศึกษาปีแรกของชีวิตของเด็กเป็นอายุพื้นฐานสำหรับการก่อตัวของฟังก์ชั่นประสาทจิตพื้นฐานและระบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เหมาะสม ในการวิจัยในประเทศสมัยใหม่เกี่ยวกับสรีรวิทยาและจิตวิทยาพัฒนาการ ช่วงเวลาของวัยเด็กยังคงเป็นปัญหาที่มีการศึกษาน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้เองที่ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับกระบวนการทางจิตสรีรวิทยาที่กำหนดความสามารถในการพูดและกิจกรรมทางจิตของเด็กและรับรองความเป็นไปได้ของการรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมทางสังคมโดยรอบจะพัฒนาอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ

ปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จล่าสุดของวิทยาศาสตร์ด้านมนุษยศาสตร์จะต้องได้รับการยอมรับอย่างมั่นคงในด้านการศึกษาครอบครัว ผู้ปกครองควรรู้: คุณไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ "ตามดุลยพินิจของคุณเอง" - มีกฎหมายที่เป็นรูปธรรมสำหรับการสร้างพฤติกรรมและจิตใจของเด็กโดยไม่ทราบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะวางแผนกระบวนการเลี้ยงดูและให้ความรู้แก่บุคคลอย่างถูกต้อง ความเข้าใจของผู้ปกครองเกี่ยวกับความต้องการและความสามารถของลูกในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาจะช่วยปกป้องพวกเขาจากความผิดพลาดบางประการในการเลี้ยงดู ในทางกลับกันสิ่งนี้จะช่วยปกป้องเด็กจากปัญหาร้ายแรงในชีวิตผู้ใหญ่ในอนาคต เราต้องไม่ลืมว่าประสบการณ์แรกเริ่มที่บุคคลได้รับในปีแรกของชีวิตจะไม่หายไปตามกาลเวลา เมื่ออยู่ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกมันจะทิ้งร่องรอยไว้ในการพัฒนาต่อไปของบุคคล

เวลาผ่านไปในประวัติศาสตร์เมื่อสมองของเด็กแรกเกิด "ต้อง" ถือเป็นกระดานชนวนที่ว่างเปล่าซึ่งสังคมต้องพรรณนาถึง "แผนการ" ที่ต้องการ เด็กไม่ได้เกิดมาเป็น “หน้าว่าง”– ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีโปรแกรมบางอย่างสำหรับการพัฒนาทางร่างกายและประสาทจิต แน่นอนว่า ลักษณะเฉพาะของการตระหนักถึงความโน้มเอียงที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เด็กจะเติบโตขึ้นมา

ทัศนคติที่เอาใจใส่ไม่เพียงพอต่ออายุของเด็กปฐมวัยส่งผลเสียต่อชีวิตทั้งชีวิตของบุคคล และผู้คนจำนวนมากที่เกิดมาพร้อมกับพันธุกรรมที่ดีที่สุดและมีสภาวะที่ดีที่สุดต่อสุขภาพและอิทธิพลทางศีลธรรมของพวกเขาในวัยต่อมายังคงพิการอยู่ ความรู้สึกทางกายภาพและทางศีลธรรมตลอดไปเพียงเพราะพวกเขาต้องใช้เวลาในวัยเด็กในสภาพร่างกายและศีลธรรมที่ไม่เอื้ออำนวยหรือผิดปกติโดยสิ้นเชิง

วี.เอ็ม. เบคเทเรฟ

เป็นเวลาหลายปีที่ทฤษฎี "การศึกษาแบบรวม" ได้รับการปลูกฝังในสังคมของเรา ซึ่งสนองความต้องการของระบอบเผด็จการ นักทฤษฎีและครูได้จัดวางบทบาทของผู้เป็นแม่ในระดับแนวหน้าของหลักคำสอนทางการศึกษาให้อยู่ในระดับอิทธิพลภายนอกอื่นๆ โดยแยกออกจากบทบาทของเธอในฐานะผู้นำและกำหนดความเชื่อมโยงใน พัฒนาการของเด็กอย่างเต็มที่ แนวทางการศึกษานี้ส่งผลเสียต่อสถานะขององค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของสังคม - ครอบครัวหลักคำสอนทางการเมืองที่ปลูกฝังมานานหลายทศวรรษกระตุ้นให้ผู้เป็นแม่พึ่งพาประสบการณ์ของครูในสถาบันก่อนวัยเรียนโดยสิ้นเชิง ซึ่งเด็กจะต้องอยู่ในเดือนแรกหลังคลอด ดังนั้น พ่อแม่ (โดยหลักคือแม่) จึงถูกตัดขาดจากการติดต่อกับเด็กอย่างต่อเนื่อง และทารกก็ประสบกับการขาดดุลอย่างรุนแรงในการตอบสนองความต้องการที่สำคัญ - การรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ความรัก ความกรุณา และความรักจากผู้คนที่อยู่ใกล้เขาอยู่ตลอดเวลา .

ข้อมูลจากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ระบุว่าตั้งแต่ก่อนเกิด มีการสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพระหว่างแม่และเด็ก มีระบบ "แม่-ลูก" ที่เป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้น ซึ่งมีกฎหมายของตัวเองที่พ่อแม่จำเป็นต้องรู้เพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกอย่างเหมาะสม ความสำคัญในแง่ของการพัฒนาร่างกายและจิตใจของบุคคลไม่สามารถประเมินสูงเกินไปได้ การละเมิดระบบชีวสังคมที่สำคัญที่สุดนี้ส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกมากที่สุดและนำไปสู่การบิดเบือนทรงกลมทางจิตและส่วนตัวของเขา

ทุกวันนี้สังคมของเรากำลังกลับมาเข้าใจถึงบทบาทชี้ขาดของครอบครัวในการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของเด็กในที่สุด อย่างไรก็ตาม การตระหนักรู้ถึงความเลวร้ายของเส้นทาง “การศึกษารวม” ไม่ได้หมายถึงการแก้ปัญหาการเลี้ยงดูบุตร ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากต้องเผชิญกับภารกิจที่สำคัญที่สุดในการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและทำความคุ้นเคยกับความสำเร็จล่าสุดของวิทยาศาสตร์มนุษย์สมัยใหม่ แม้ว่าตลาดหนังสือจะเต็มไปด้วยวรรณกรรม (หลายประเภทและทิศทาง) สำหรับผู้ปกครองรุ่นเยาว์ แต่ส่วนใหญ่ (น่าเสียดาย!) เหล่านี้เป็นหนังสือแปลโดยนักเขียนชาวต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถใช้ได้กับสังคมและวัฒนธรรมของเราทั้งหมด มันจะเป็นความผิดพลาดที่จะคิด (ตามที่กำหนดไว้ในอุดมการณ์ของลัทธิมาร์กซิสต์) ว่าการเรียนรู้โลกแห่งวัฒนธรรมมนุษย์ของเด็กนั้นเริ่มต้นตั้งแต่วินาทีที่เขาเชี่ยวชาญสุนทรพจน์เท่านั้น ว่าในตอนแรกกฎของการพัฒนาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสังคมไม่ได้มีบทบาท มีบทบาทสำคัญในการเลี้ยงลูก

ความสุขของความเป็นพ่อและการเป็นแม่ไม่ใช่มานาจากสวรรค์... มันยากและได้มายาก - นี่คือความสุขมาเฉพาะกับคนที่ไม่กลัวงานเครื่องแบบและงานระยะยาวจนถึงขั้นหลงลืมตนเอง ความซับซ้อนของงานนี้อยู่ที่ว่ามันแสดงถึงการผสมผสานระหว่างเหตุผลและความรู้สึก ภูมิปัญญาและความรัก ความสามารถในการมองไปสู่อนาคตอย่างกระวนกระวายใจในขณะที่เพลิดเพลินกับช่วงเวลาปัจจุบัน

V.A. Sukomlinsky

ในทางตรงกันข้ามตั้งแต่แรกเริ่มเด็กพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่สะสมความสำเร็จของคนรุ่นก่อน ๆ ทั้งหมด ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด กระบวนการดูดซึมองค์ประกอบทางวัฒนธรรมของโลกโดยรอบก็เริ่มต้นขึ้น ฉันอยากจะทราบว่านอกเหนือจากผลงานที่มีเอกลักษณ์เช่นหนังสือของ Dr. B. Spock ที่อุทิศให้กับประเด็นทั่วไปของการเลี้ยงดูเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงแล้ว หนังสือควรเขียนโดยอิงจากประสบการณ์อันยาวนานของวัฒนธรรมดั้งเดิมในการเลี้ยงดู คนรุ่นใหม่ ประสบการณ์นี้มีอยู่จริง และมีประโยชน์อย่างยิ่ง! เป็นเพียงว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของระบอบเผด็จการ เผด็จการ น่าเสียดายที่สิ่งนี้ถูกจัดว่าเป็น "ลัทธิโบราณ" และไม่ได้กล่าวถึงในชีวิตจริงมาเป็นเวลานาน

สงวนลิขสิทธิ์. ห้ามทำซ้ำส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ในรูปแบบใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ถือลิขสิทธิ์

© โซโคโลวา แอล., 2015

© Andreeva N. , 2015

© AST Publishing House LLC, 2016

เกี่ยวกับผู้เขียน

โซโคโลวา ลุดมิลา วลาดิมีรอฟนา


วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ศาสตราจารย์ภาควิชากิจกรรมประสาทระดับสูงและสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอเกิดในปี 1950 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สำเร็จการศึกษาจากคณะประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี พ.ศ. 2548 เธอได้ปกป้องวิทยานิพนธ์ของเธอในระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ผู้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์และการศึกษามากกว่า 120 ชิ้น รวมถึงเอกสาร 6 เล่ม หนังสือเรียน 3 เล่ม และสื่อการสอน พื้นที่ที่สนใจทางวิทยาศาสตร์: รูปแบบของการก่อตัวของกิจกรรมสมองบูรณาการในสภาวะปกติและความผิดปกติของพัฒนาการ สรีรวิทยาที่เกี่ยวข้องกับอายุ ทางชีวภาพและสังคมในธรรมชาติของมนุษย์ รากฐานทางจิตสรีรวิทยาของการปรับตัวทางสังคมของเด็ก

เธอเข้าร่วมในองค์กรโดยนักวิชาการของ Russian Academy of Education A.S. Batuev แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ "จิตวิทยาของแม่และเด็ก" ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันกุมารเวชศาสตร์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สถาบันวิวัฒนาการ สรีรวิทยาตามชื่อ I.M. Sechenov RAS มหาวิทยาลัยการสอนแห่งรัฐรัสเซีย ตั้งชื่อตาม A. I. Herzen, มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ตุรกุ (ฟินแลนด์)


Andreeva Nadezhda Gennadievna


ผู้สมัครสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รองศาสตราจารย์ภาควิชากิจกรรมประสาทระดับสูงและสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เกิดในปี 1949 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอสำเร็จการศึกษาจากคณะชีววิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขอบเขตของความสนใจทางวิทยาศาสตร์อยู่ในสาขาการศึกษาปัญหาของพัฒนาการและสรีรวิทยาเชิงเปรียบเทียบโดยพัฒนาประเด็นการก่อตัวของฟังก์ชั่นการพูดในระยะแรกของการสร้างเซลล์อย่างแข็งขัน

คำนำ

วัยเด็กเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของบุคคลไม่เพียง แต่ในแง่ของการตระหนักถึงความโน้มเอียงทางพันธุกรรมของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในแง่ของการก่อตัวขององค์ประกอบทางจิตสรีรวิทยาหลักของสถานะส่วนบุคคลของบุคคลการก่อตัวของเขาในฐานะสมาชิกของสังคม . เมื่อเร็ว ๆ นี้มุมมองของวัยเด็กเปลี่ยนไป หากก่อนหน้านี้เมื่อศึกษาเด็กในช่วงปีแรกของชีวิตความสนใจมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการพัฒนาทางร่างกายเป็นหลักในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าช่วงแรกของชีวิตของบุคคลนั้นก็มีความสำคัญที่สุดในกระบวนการขัดเกลาทางสังคมเช่นกัน เช่น.

ในการเรียนรู้ระบบความรู้บรรทัดฐานและค่านิยมบางอย่างของสังคมมนุษย์

ตรรกะของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทำให้วาระการศึกษาปีแรกของชีวิตของเด็กเป็นอายุพื้นฐานสำหรับการก่อตัวของฟังก์ชั่นประสาทจิตพื้นฐานและระบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เหมาะสม ในการวิจัยในประเทศสมัยใหม่เกี่ยวกับสรีรวิทยาและจิตวิทยาพัฒนาการ ช่วงเวลาของวัยเด็กยังคงเป็นปัญหาที่มีการศึกษาน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้เองที่ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับกระบวนการทางจิตสรีรวิทยาที่กำหนดความสามารถในการพูดและกิจกรรมทางจิตของเด็กและรับรองความเป็นไปได้ของการรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมทางสังคมโดยรอบจะพัฒนาอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ

ปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จล่าสุดของวิทยาศาสตร์ด้านมนุษยศาสตร์จะต้องได้รับการยอมรับอย่างมั่นคงในด้านการศึกษาครอบครัว ผู้ปกครองควรรู้: คุณไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ "ตามดุลยพินิจของคุณเอง" - มีกฎหมายที่เป็นรูปธรรมสำหรับการสร้างพฤติกรรมและจิตใจของเด็กโดยไม่ทราบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะวางแผนกระบวนการเลี้ยงดูและให้ความรู้แก่บุคคลอย่างถูกต้อง ความเข้าใจของผู้ปกครองเกี่ยวกับความต้องการและความสามารถของลูกในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาจะช่วยปกป้องพวกเขาจากความผิดพลาดบางประการในการเลี้ยงดู ในทางกลับกันสิ่งนี้จะช่วยปกป้องเด็กจากปัญหาร้ายแรงในชีวิตผู้ใหญ่ในอนาคต เราต้องไม่ลืมว่าประสบการณ์แรกเริ่มที่บุคคลได้รับในปีแรกของชีวิตจะไม่หายไปตามกาลเวลา เมื่ออยู่ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกมันจะทิ้งร่องรอยไว้ในการพัฒนาต่อไปของบุคคล

เวลาผ่านไปในประวัติศาสตร์เมื่อสมองของเด็กแรกเกิด "ต้อง" ถือเป็นกระดานชนวนที่ว่างเปล่าซึ่งสังคมต้องพรรณนาถึง "แผนการ" ที่ต้องการ เด็กไม่ได้เกิดมาเป็น “หน้าว่าง”– ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีโปรแกรมบางอย่างสำหรับการพัฒนาทางร่างกายและประสาทจิต แน่นอนว่า ลักษณะเฉพาะของการตระหนักถึงความโน้มเอียงที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เด็กจะเติบโตขึ้นมา

ทัศนคติที่เอาใจใส่ไม่เพียงพอต่ออายุของเด็กปฐมวัยส่งผลเสียต่อชีวิตทั้งชีวิตของบุคคล และผู้คนจำนวนมากที่เกิดมาพร้อมกับพันธุกรรมที่ดีที่สุดและมีสภาวะที่ดีที่สุดต่อสุขภาพและอิทธิพลทางศีลธรรมของพวกเขาในวัยต่อมายังคงพิการอยู่ ความรู้สึกทางกายภาพและทางศีลธรรมตลอดไปเพียงเพราะพวกเขาต้องใช้เวลาในวัยเด็กในสภาพร่างกายและศีลธรรมที่ไม่เอื้ออำนวยหรือผิดปกติโดยสิ้นเชิง

วี.เอ็ม. เบคเทเรฟ

เป็นเวลาหลายปีที่ทฤษฎี "การศึกษาแบบรวม" ได้รับการปลูกฝังในสังคมของเรา ซึ่งสนองความต้องการของระบอบเผด็จการ นักทฤษฎีและครูได้จัดวางบทบาทของผู้เป็นแม่ในระดับแนวหน้าของหลักคำสอนทางการศึกษาให้อยู่ในระดับอิทธิพลภายนอกอื่นๆ โดยแยกออกจากบทบาทของเธอในฐานะผู้นำและกำหนดความเชื่อมโยงใน พัฒนาการของเด็กอย่างเต็มที่ แนวทางการศึกษานี้ส่งผลเสียต่อสถานะขององค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของสังคม - ครอบครัวหลักคำสอนทางการเมืองที่ปลูกฝังมานานหลายทศวรรษกระตุ้นให้ผู้เป็นแม่พึ่งพาประสบการณ์ของครูในสถาบันก่อนวัยเรียนโดยสิ้นเชิง ซึ่งเด็กจะต้องอยู่ในเดือนแรกหลังคลอด ดังนั้น พ่อแม่ (โดยหลักคือแม่) จึงถูกตัดขาดจากการติดต่อกับเด็กอย่างต่อเนื่อง และทารกก็ประสบกับการขาดดุลอย่างรุนแรงในการตอบสนองความต้องการที่สำคัญ - การรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ความรัก ความกรุณา และความรักจากผู้คนที่อยู่ใกล้เขาอยู่ตลอดเวลา .

ข้อมูลจากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ระบุว่าตั้งแต่ก่อนเกิด มีการสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพระหว่างแม่และเด็ก มีระบบ "แม่-ลูก" ที่เป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้น ซึ่งมีกฎหมายของตัวเองที่พ่อแม่จำเป็นต้องรู้เพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกอย่างเหมาะสม ความสำคัญในแง่ของการพัฒนาร่างกายและจิตใจของบุคคลไม่สามารถประเมินสูงเกินไปได้ การละเมิดระบบชีวสังคมที่สำคัญที่สุดนี้ส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกมากที่สุดและนำไปสู่การบิดเบือนทรงกลมทางจิตและส่วนตัวของเขา

ทุกวันนี้สังคมของเรากำลังกลับมาเข้าใจถึงบทบาทชี้ขาดของครอบครัวในการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของเด็กในที่สุด อย่างไรก็ตาม การตระหนักรู้ถึงความเลวร้ายของเส้นทาง “การศึกษารวม” ไม่ได้หมายถึงการแก้ปัญหาการเลี้ยงดูบุตร ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากต้องเผชิญกับภารกิจที่สำคัญที่สุดในการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและทำความคุ้นเคยกับความสำเร็จล่าสุดของวิทยาศาสตร์มนุษย์สมัยใหม่ แม้ว่าตลาดหนังสือจะเต็มไปด้วยวรรณกรรม (หลายประเภทและทิศทาง) สำหรับผู้ปกครองรุ่นเยาว์ แต่ส่วนใหญ่ (น่าเสียดาย!) เหล่านี้เป็นหนังสือแปลโดยนักเขียนชาวต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถใช้ได้กับสังคมและวัฒนธรรมของเราทั้งหมด มันจะเป็นความผิดพลาดที่จะคิด (ตามที่กำหนดไว้ในอุดมการณ์ของลัทธิมาร์กซิสต์) ว่าการเรียนรู้โลกแห่งวัฒนธรรมมนุษย์ของเด็กนั้นเริ่มต้นตั้งแต่วินาทีที่เขาเชี่ยวชาญสุนทรพจน์เท่านั้น ว่าในตอนแรกกฎของการพัฒนาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสังคมไม่ได้มีบทบาท มีบทบาทสำคัญในการเลี้ยงลูก

ความสุขของความเป็นพ่อและการเป็นแม่ไม่ใช่มานาจากสวรรค์... มันยากและได้มายาก - นี่คือความสุขมาเฉพาะกับคนที่ไม่กลัวงานเครื่องแบบและงานระยะยาวจนถึงขั้นหลงลืมตนเอง ความซับซ้อนของงานนี้อยู่ที่ว่ามันแสดงถึงการผสมผสานระหว่างเหตุผลและความรู้สึก ภูมิปัญญาและความรัก ความสามารถในการมองไปสู่อนาคตอย่างกระวนกระวายใจในขณะที่เพลิดเพลินกับช่วงเวลาปัจจุบัน

V.A. Sukomlinsky

ในทางตรงกันข้ามตั้งแต่แรกเริ่มเด็กพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่สะสมความสำเร็จของคนรุ่นก่อน ๆ ทั้งหมด ตั้งแต่ช่วงแรกเกิด กระบวนการดูดซึมองค์ประกอบทางวัฒนธรรมของโลกโดยรอบก็เริ่มต้นขึ้น ฉันอยากจะทราบว่านอกเหนือจากผลงานที่มีเอกลักษณ์เช่นหนังสือของ Dr. B. Spock ที่อุทิศให้กับประเด็นทั่วไปของการเลี้ยงดูเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงแล้ว หนังสือควรเขียนโดยอิงจากประสบการณ์อันยาวนานของวัฒนธรรมดั้งเดิมในการเลี้ยงดู คนรุ่นใหม่ ประสบการณ์นี้มีอยู่จริง และมีประโยชน์อย่างยิ่ง! เป็นเพียงว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของระบอบเผด็จการ เผด็จการ น่าเสียดายที่สิ่งนี้ถูกจัดว่าเป็น "ลัทธิโบราณ" และไม่ได้กล่าวถึงในชีวิตจริงมาเป็นเวลานาน

แน่นอนว่าไม่ใช่หนังสือเล่มเดียวที่สามารถอ้างได้ว่าเป็นการวิเคราะห์ปัญหาการพัฒนาและการเลี้ยงดูของเด็กในปีแรกของชีวิตอย่างถี่ถ้วนหรือให้คำแนะนำที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม นอกจากวรรณกรรมอื่นๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ยังเป็นที่ต้องการของผู้ปกครองและครูรุ่นเยาว์ และจะเป็นประโยชน์ในการให้ความรู้แก่คนรุ่นใหม่


หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์ “จิตสรีรวิทยาของแม่และเด็ก”

มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

นักวิชาการของ Russian Academy of Education

เอ.เอส. บาตูเยฟ1
นักวิชาการ A.S. Batuev ริเริ่มการตีพิมพ์โดยเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับชุดวรรณกรรมวิทยาศาสตร์ยอดนิยมสำหรับผู้ปกครองเกี่ยวกับการเลี้ยงดูและการศึกษาของเด็กเล็ก

การแนะนำ

โลกของเด็กน้อย... มันเป็นยังไงบ้าง? เป็นไปได้ไหมที่จะตรวจสอบมัน? เราแต่ละคนเคยผ่านจักรวาลอันเป็นเอกลักษณ์นี้ แต่กฎแห่งความทรงจำนั้นทำให้เราไม่สามารถจำเส้นทางแรกของเราได้ ใครจะกลับมาหาเราความรู้เกี่ยวกับโลกที่สูญหายไปตลอดกาลนี้? และเราจำเป็นต้องเริ่มต้นการเดินทางผ่านโลกแห่งวัยเด็กในยุคปัจจุบันที่เร่งรีบเช่นนี้หรือไม่? ไม่เพียงจำเป็นเท่านั้น แต่ยังจำเป็นอีกด้วย!

ในวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีความสนใจในปัญหาเกี่ยวกับเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น และนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ปีแรกของชีวิตของเด็กถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในการพัฒนาบุคลิกภาพของเขาถามตัวเอง: คุณเคยมีภาระกับความกังวลในชีวิตประจำวัน ความกังวลชั่วขณะ และความวิตกกังวลอยู่เสมอหรือไม่ โดยตระหนักดีว่าการเลี้ยงลูกคุณกำลังทำงานเพื่ออนาคตและท้ายที่สุดเพื่อนิรันดร์กาล ท้ายที่สุดแล้ว ความเป็นแม่ไม่เพียงแต่เป็นความรู้สึกในหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงต่อชะตากรรมของโลกอีกด้วย

แน่นอนว่าประสบการณ์ส่วนตัวของเราแต่ละคนไม่สามารถถูกแทนที่ได้ แต่เรามักจะเลี้ยงลูกอย่างถูกต้องหรือไม่? วิทยาศาสตร์จะช่วยตอบคำถามนี้ ทุกวันนักวิทยาศาสตร์จะนำเสนอข้อเท็จจริงใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นพยานถึงความสามารถอันน่าทึ่งและบางครั้งก็คาดไม่ถึงของเด็กทารก ดังนั้นเมื่อมีความรู้พื้นฐานอย่างน้อยเกี่ยวกับกฎพื้นฐานของการก่อตัวของจิตใจและพฤติกรรมของมนุษย์ คุณจะสามารถเลือกวิธีที่ถูกต้องที่สุดในการเลี้ยงดูลูกของคุณและค้นหาคำตอบสำหรับคำถามที่ชีวิตเกิดกับคุณ

ผู้หญิงและผู้ชายเป็นสองหน้าของสิ่งมีชีวิตเดียว - บุคคล; เด็กคือความหวังนิรันดร์ร่วมกันของพวกเขา ไม่มีใครอื่นนอกจากเด็กที่จะถ่ายทอดความฝันและแรงบันดาลใจของเขาให้กับบุคคล ไม่มีใครที่จะให้สำหรับการบรรลุถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ไม่มีใครนอกจากลูก ดังนั้นเด็กจึงเป็นผู้ปกครองของมนุษยชาติ เพราะชีวิตมักจะถูกครอบงำโดยความคิดที่บริสุทธิ์ที่กำลังจะมาซึ่งคาดหวังไว้ซึ่งยังไม่เกิด ความตื่นเต้นที่เรารู้สึกได้ในอกของเรา พลังที่ทำให้ชีวิตของเราเดือดพล่าน

เอ.พี. พลาโตนอฟ

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นนักชีววิทยาที่ค้นคว้าสาขาสรีรวิทยาพฤติกรรม ความปรารถนาที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับลักษณะพัฒนาการของเด็กในปีแรกของชีวิตเกี่ยวกับโลกของทารกนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญสำหรับเรา วิทยาศาสตร์และสังคมโดยรวมมีความสุขมาเป็นเวลานานในความคิดเรื่องความเป็นเลิศของมนุษย์โดยละเลยกฎแห่งการพัฒนาทางชีววิทยาโดยสิ้นเชิง แต่มนุษย์ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่เป็นเพียงขั้นตอนที่สมเหตุสมผลในการพัฒนาธรรมชาติ

เราแต่ละคนเชื่อมต่อกับโลกรอบตัวเราด้วยเส้นด้ายที่มองไม่เห็น เราทุกคนดำเนินชีวิตตามกฎแห่งธรรมชาติเดียวกัน การละเลยสถานการณ์นี้เป็นอันตราย เนื่องจากการไม่รู้กฎแห่งธรรมชาติมักนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ในการเลี้ยงดูมนุษย์ที่มีเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงขั้นตอนบางอย่างในการก่อตัวของพฤติกรรมและจิตใจของเด็กอย่าสับสนกับการพูดนอกเรื่องของเราในสาขาชีววิทยา - พวกเขาจะไม่เพียง แต่ช่วยให้คุณได้รับแนวคิดเกี่ยวกับหลักการที่เป็นหนึ่งเดียวของ พัฒนาการของสิ่งมีชีวิตแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองดีขึ้น ตอบคำถามต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย

ตามที่เราเชื่อกันอย่างไร้เดียงสา มนุษย์ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล แต่สิ่งที่สวยงามกว่านั้นคือจุดสุดยอดของการสังเคราะห์ทางชีวภาพที่ยิ่งใหญ่ มนุษย์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเวลาสุดท้ายแห่งการเกิดขึ้น เป็นชั้นที่ใหม่ที่สุด ซับซ้อนที่สุด มีสีรุ้งมากที่สุด มีหลากสีสันแห่งชั้นชีวิตที่ต่อเนื่องกัน

นักชีววิทยาชาวฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่และนักมนุษยนิยม ปิแอร์ เตลฮาร์ด เดอ ชาร์แดง

แน่นอนว่าหนังสือที่เรานำเสนอไม่ควรถือเป็นแนวทางเชิงระเบียบวิธีบางอย่างที่มาแทนที่วรรณกรรมทางการแพทย์และการสอนพิเศษ เราไม่ได้มุ่งมั่นที่จะให้ "สูตรอาหาร" สำเร็จรูป - เราเพียงขอให้คุณแสดงการสังเกต ความสนใจ และที่สำคัญที่สุดคือ ความเข้าใจลูกของคุณเพื่อที่คุณจะได้เจาะลึกเข้าไปในโลกมหัศจรรย์ในวัยเด็กนี้อย่างแท้จริง มักเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า “ทำอย่างไร?” จะพบได้ง่ายขึ้นหากคุณรู้คำตอบของคำถามที่ว่า “ทำไม”

หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงผู้ที่ได้รู้จักความสุขพิเศษของการเป็น ที่ได้เป็นแม่หรือพ่อแล้ว ผู้ที่กำลังจะกลายมาเป็นหนึ่งเดียว และผู้ที่สัมผัสประสบการณ์ความเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีใครเทียบได้นี้อีกครั้ง จากการเป็นคุณย่าหรือปู่ไปแล้ว

สำหรับคุณแม่ยังสาว ปีแรกของชีวิตของลูกเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุด เต็มไปด้วยปัญหาที่ซับซ้อนและใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งการนอนไม่หลับและความกังวลซ้ำซากจำเจเกี่ยวกับเด็กจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ เพื่อรักษารูปร่างทางปัญญาของคุณและไม่จมอยู่กับกิจวัตรชั่วขณะ ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการวิจัยที่สำคัญ: สังเกต วิเคราะห์ จัดระบบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณและลูกน้อยของคุณ

ทุกๆ วันสำหรับบุตรหลานของคุณ จะได้พบกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ และขอให้คุณอย่าทำให้โลกตกใจกับข้อสรุปและข้อสรุประดับโลกใดๆ สิ่งสำคัญคือคุณจะ "อยู่" กับลูกของคุณวันแล้ววันเล่าในปีแรกที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาคุณจะใกล้ชิดและเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น

ด้วยการเปิด "สถาบันวัยเด็ก" ในบ้านของคุณ โดยให้ญาติของคุณ - พ่อ ปู่ย่าตายาย - ในการสังเกต คุณจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวของคุณ ท้ายที่สุดแล้ว การเลี้ยงลูกไม่ได้เป็นเพียงความกังวลของคุณแม่เท่านั้น แต่เราทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมในการทดลองที่น่าทึ่งและไม่เหมือนใครที่ธรรมชาติสร้างขึ้น และชะตากรรมของคนใหม่ที่เข้ามาในโลกก็ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของเรา

ผลลัพธ์ของการทำงานสร้างสรรค์ร่วมกันจะทำให้เกิดบุคลิกภาพใหม่ ภารกิจอันสูงส่งนี้ยังแสดงถึงความรับผิดชอบสูงด้วย เพราะชะตากรรมในอนาคตของเขาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าประสบการณ์ความสัมพันธ์ครั้งแรกของคุณกับลูกจะเป็นอย่างไร ภูมิปัญญาหลักของผู้ปกครองคือการเคารพบุคลิกภาพที่เป็นอิสระของคนตัวเล็กตั้งแต่นาทีแรกแนะนำเขาเข้าสู่โลกนี้อย่างระมัดระวังส่งต่อทุกสิ่งที่อยู่ในตัวเราให้เขา นี่ไม่ใช่ความลับของการเป็นอมตะของมนุษย์หรอกหรือว่าในสิ่งมีชีวิตใหม่ๆ ทุกชนิดที่เข้ามาในโลก เรามุ่งมั่นที่จะละทิ้งส่วนที่ดีที่สุดของตัวเราเองไว้

เดินทางสู่โลกของเด็กทารก

จากไข่สู่ลูกไก่
เกี่ยวกับช่วงมดลูกของพัฒนาการของเด็ก
ชีวิตของสิ่งมีชีวิตเริ่มต้นเมื่อใด?

เป็นเวลานานแล้วที่จะเริ่มนับอายุของบุคคลตั้งแต่เกิด ไม่ว่าในกรณีใด การกำหนดช่วงอายุคลาสสิกทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ เวลาในการคลอดบุตรมีความสัมพันธ์กับด้านสรีรวิทยาของการสืบพันธุ์ของผู้หญิงที่มอบหมายให้เธอโดยธรรมชาติมากกว่า ปัจจุบันมุมมองนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การแนะนำวิธีการทางเทคนิคพิเศษและวิธีการวิจัยที่สร้างขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเจาะเข้าไปในโลกที่ซ่อนเร้นของต้นกำเนิดของชีวิตได้ ปัจจุบันมีการสะสมข้อมูลจำนวนมหาศาลซึ่งบ่งชี้ถึงความสำคัญพิเศษของช่วงชีวิตก่อนคลอด (มดลูก) ในการกำหนดเวกเตอร์เพิ่มเติมของการพัฒนาทางร่างกายจิตใจและส่วนบุคคลของบุคคล

ทุกสิ่งที่เราเป็น รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา มีรากฐานมาจากช่วงเวลาที่ลึกลับที่สุดในการพัฒนาของเรา

ระยะเวลาของการพัฒนามดลูกของบุคคลใช้เวลาประมาณ 265 - 270 วันเช่น 38 สัปดาห์ - นับจากช่วงปฏิสนธิของไข่จนถึงการคลอดบุตรจริง ในช่วงเวลานี้ เซลล์มากกว่า 150 พันล้านเซลล์ถูกสร้างขึ้นจากเซลล์เดิม และขนาดของสิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นจากกล้องจุลทรรศน์เป็นครึ่งเมตร

พัฒนาการของร่างกายก่อนเกิดมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อัตราการเติบโตของทารกในครรภ์จะสูงกว่าช่วงชีวิตหลังคลอดอย่างมีนัยสำคัญ ไม่มีจุดใดในชีวิตบั้นปลายที่บุคคลจะพัฒนาอย่างเข้มข้นเท่าในช่วงก่อนคลอด อวัยวะและระบบต่างๆ เริ่มจากการสร้างความแตกต่างตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงขั้นของการพัฒนาที่รับประกันการเปลี่ยนไปสู่การดำรงอยู่นอกมดลูก

กระบวนการพัฒนาของร่างกายในช่วงก่อนคลอดมักแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะ เอ็มบริโอ, หรือไซโกต (ตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงวันที่ 10-14 ของการพัฒนา) ระยะ เอ็มบริโอ (ตั้งแต่ 10 – 14 วันถึง 8 สัปดาห์) และระยะ ทารกในครรภ์ (จากสัปดาห์ที่ 9 ถึงสัปดาห์ที่ 38)

บางครั้งนักวิจัยแบ่งช่วงการพัฒนาของมนุษย์ตามเงื่อนไขของมดลูกออกเป็นสองช่วง: ตัวอ่อน, หรือ ตัวอ่อนยาวนาน 8 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ - ในเวลานี้พื้นฐานของอวัยวะและระบบที่สำคัญที่สุดทั้งหมดได้ถูกสร้างขึ้น และ ทารกในครรภ์, หรือ ฟรุ๊ตตี้– ในช่วงเวลานี้ การพัฒนาของอวัยวะและระบบต่างๆ ที่อยู่ในวัยเด็กเกิดขึ้น การก่อตัวของระบบการทำงานใหม่ที่รับรองกิจกรรมสำคัญของทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดเกิดขึ้น

ควบคู่ไปกับการพัฒนาทางกายวิภาคของอวัยวะการก่อตัวของกิจกรรมการทำงานและการก่อตัวของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างอวัยวะและระบบเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อพูดถึงขั้นตอนของการพัฒนามดลูกของทารกในครรภ์เราจะพึ่งพาขอบเขตที่มากขึ้นโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะการเจริญเติบโตของอวัยวะทางกายวิภาคแต่ละส่วน แต่ขึ้นอยู่กับพลวัตของการเจริญเติบโต ระบบการทำงาน และเราจะถือว่าทารกในครรภ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำงานอย่างแข็งขัน

การเริ่มต้นของเวลา

เราจะเริ่มต้นเรื่องราวของเราตั้งแต่จุดเริ่มต้นของชีวิต ตามกฎของชีววิทยาชีวิตของสิ่งมีชีวิตเริ่มต้นจากช่วงเวลาของการปฏิสนธินั่นคือ เมื่อเซลล์ต้นกำเนิดสองเซลล์ (เพศชาย - สเปิร์มและเพศหญิง - ไข่) รวมตัวกันก่อตัวเป็นเซลล์ใหม่ - ตัวอ่อนซึ่งถูกกำหนดให้เป็นสิ่งมีชีวิตแรกในสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งตั้งไข่ นับจากนี้เป็นต้นไป การนับถอยหลังชีวิตของคนใหม่จะเริ่มต้นขึ้น

น่าเสียดายที่ไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนของการปฏิสนธิได้เนื่องจากลักษณะเฉพาะของร่างกายของผู้หญิง ดังนั้นการคำนวณจะดำเนินการในสัปดาห์ของการตั้งครรภ์นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายและโดยคำนึงถึงความจริงที่ว่าโดยเฉลี่ยแล้วกระบวนการปฏิสนธิเป็นไปได้ตั้งแต่วันที่ 14 อายุของตัวอ่อนจะน้อยกว่าสองสัปดาห์ อายุครรภ์

กระบวนการหลังการปฏิสนธิมีความซับซ้อนและเป็นระเบียบอย่างมาก แท้จริงแล้ว "กำหนดเวลาเป็นนาที" ไข่ที่เกิดขึ้นหลังจากการปฏิสนธิจะเคลื่อนจากส่วนที่สามด้านนอกของท่อนำไข่ไปยังโพรงมดลูก ภายหลัง 30 ชมหลังจากการปฏิสนธิเซลล์เดียวจะเริ่มแบ่ง (แยกออก) ก่อตัวเป็นสองเซลล์ใหม่ (กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง) ภายใน 10 ชั่วโมงแต่ละอันให้สองอันถัดไป ฯลฯ อัตราการกระจายตัวของเซลล์จะค่อยๆเพิ่มขึ้น: หลังจากนั้น 72 ชมนี่คือ 16 - 32 เซลล์แล้ว

ตั้งแต่ช่วงเวลาของการปฏิสนธิเซลล์จะเริ่มเคลื่อนตัวจากส่วนที่สามด้านนอกของท่อนำไข่ (บริเวณที่เกิดความคิด) ไปยังโพรงมดลูกโดยไม่หยุดการกระจายตัว (รูปที่ 1) เส้นทางนี้จะใช้เวลา ห้าวัน,และเมื่อสิ้นสุดวันที่สี่ รูปแบบคล้ายดิสก์จะเข้าใกล้มดลูกซึ่งประกอบด้วยเซลล์ 60 - 80 เซลล์ที่อยู่ติดกันอย่างแน่นหนา ด้วยอัตราการกระจายตัวที่เพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าพวกมันจะแยกตัวออกไปด้านข้าง ไปจนถึงรอบนอก ก่อตัวเป็นฟองกลวง - ลูกบอลที่เต็มไปด้วยของเหลวเรียกว่า บลาสโตซิสต์ - มาถึงตอนนี้ ความแตกต่างของเซลล์ก็เริ่มต้นขึ้น ชั้นในของเซลล์เรียกว่า โหนดเชื้อโรคหรือแผ่นดิสก์ของตัวอ่อนจะเกิดกายใหม่แต่ภายนอกจะเกิด โทรโฟบลาสต์– เนื้อเยื่อที่จะปกป้องและบำรุงทารกในครรภ์


ข้าว. 1. การพัฒนาเอ็มบริโอของมนุษย์ตั้งแต่การปฏิสนธิจนถึงการฝังตัวเข้าไปในผนังมดลูก


ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 7 ถึงวันที่ 9 มี การฝัง: ถุงเซลล์ (บลาสโตซิสต์) เริ่มลึกเข้าไปในความหนาของผนังเมือกด้านในของมดลูกและ ภายใน 12 – 14 วันซ่อนอยู่ในนั้นอย่างสมบูรณ์ บริเวณที่แนะนำนั้นถูกทำให้แน่นโดยบริเวณเนื้อเยื่อข้างเคียง การแบ่งเซลล์ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันไปยังส่วนต่างๆ ของเอ็มบริโอ เซลล์บางส่วนถูกกำหนดให้เป็น "วัสดุก่อสร้าง" ของร่างกายมนุษย์ คนอื่นมีเปลือกตาสั้นกว่า - พวกมันสร้างโครงสร้างชั่วคราว (เสริม) รก (จากคำภาษาละติน รก- พาย, แพนเค้ก, แฟลตเบรด) ออกแบบมาเพื่อให้ร่างกายที่กำลังพัฒนาได้รับสารอาหารและออกซิเจนโดยที่ร่างกายของแม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย การก่อตัวของรก (เรียกอีกอย่างว่า "สถานที่สำหรับทารก") จะเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น ภายในสิ้นเดือนที่สามของการตั้งครรภ์

แต่ต้องบอกว่าผลลัพธ์ของการปลูกถ่ายค่อนข้างคาดเดาไม่ได้ เซลล์ที่ได้รับการปฏิสนธิเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกฝังแน่นเข้าไปในผนังมดลูก สาเหตุของความล้มเหลวในการฝังอาจเป็นเพราะการเชื่อมต่อของอสุจิกับไข่ไม่ถูกต้องและไม่มีกระบวนการบดไข่ นอกจากนี้ ประมาณ 50% ของจำนวนการปลูกถ่ายทั้งหมดมีข้อบกพร่องทางพันธุกรรม และไม่สามารถพัฒนาหรือยึดติดกับส่วนของมดลูกที่สามารถแบกรับได้ และเสียชีวิตเนื่องจากการแท้งบุตรในเวลาต่อมา หากการปลูกถ่ายสำเร็จจะมีโอกาสพัฒนาร่างกายต่อไป