โต๊ะลอมโบรโซ ทฤษฎีมานุษยวิทยาของลอมโบรโซ

6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2378 เกิดที่อิตาลี เซซาเร ลอมโบรโซ - มีชื่อเสียง จิตแพทย์และบรรพบุรุษของกระแสมานุษยวิทยาในอาชญวิทยา และกฎหมายอาญา แนวคิดหลักของทิศทางนี้คือการพิสูจน์การมีอยู่ของอาชญากรโดยกำเนิด

“ศึกษาบุคลิกภาพของอาชญากร...แล้วคุณจะเข้าใจว่าอาชญากรรมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการกระทำโดยธรรมชาติ” - เซซาเร ลอมโบรโซ

ลอมโบรโซแย้งว่าอาชญากรไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา แต่เกิดมามากกว่า จิตแพทย์เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงพิเศษระหว่างร่างกายของบุคคลกับอุปนิสัยของเขา และเพื่อที่จะเข้าใจความเชื่อมโยงนี้ ซึ่งจะช่วยเปิดเผยอาชญากร เขาต้องการเพียงคาลิปเปอร์และไม้บรรทัดเท่านั้น อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นสำหรับการวัดบางส่วนของร่างกายมนุษย์ และหลังจากวิเคราะห์การวัดที่ได้รับแล้ว เพื่อเปิดเผยความลับทั้งหมดที่สรีรวิทยาซ่อนไว้

งานด้านการแพทย์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งคือการศึกษาเกี่ยวกับ กระบวนการไกลโคไลซิส .

เพื่อประกาศทฤษฎีการระบุตัวอาชญากร แพทย์ต้องศึกษาหัวขโมยและฆาตกรหลายพันคน เมื่อเป็นไปไม่ได้ที่จะศึกษาอาชญากรที่ยังมีชีวิตอยู่ ลอมโบรโซจึงศึกษากะโหลกศีรษะของพวกเขา เขากำลังค้นหาเกณฑ์ทางสัณฐานวิทยาตามวัตถุประสงค์ การรวบรวมอาชญากรที่เขารวบรวมกลายเป็นความจริงที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับหลาย ๆ คน

ลอมโบรโซระบุอาชญากรได้สี่ประเภท: ฆาตกร, ขโมย, ผู้ข่มขืน และคนฉ้อโกง และสำหรับแต่ละประเภทเขาได้อธิบายลักษณะที่ปรากฏ
การปรากฏตัวของผู้ข่มขืนทั่วไป
ดวงตาโปนโต ริมฝีปากอวบอิ่ม ขนตายาว จมูกแบนและคดเคี้ยว ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะผอมและง่อนแง่นผมบลอนด์บางครั้งก็หลังค่อม
หน้าตาของโจรทั่วไป
กะโหลกเล็กที่ไม่ปกติ หัวที่ยาว จมูกตรง (มักจะหงายอยู่ที่โคน) การวิ่งหรือในทางกลับกัน การจ้องมองที่หวงแหน ผมสีดำ และหนวดเคราเบาบาง
รูปลักษณ์ของนักฆ่าทั่วไป
กะโหลกศีรษะขนาดใหญ่ หัวสั้น (ความกว้างมากกว่าความสูง) ไซนัสหน้าผากแหลม โหนกแก้มใหญ่ จมูกยาว (บางครั้งก็โค้งลง) กรามเหลี่ยม ดวงตากลมโต คางรูปสี่เหลี่ยมยื่นออกมา จ้องมองเหมือนแก้วคงที่ ริมฝีปากบาง เขี้ยวที่พัฒนาอย่างดี นักฆ่าที่อันตรายที่สุดมักมีผมหยิกสีดำ หนวดเคราเบาบาง มือสั้น และใบหูส่วนล่างที่ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป
การปรากฏตัวของนักต้มตุ๋นทั่วไป
ใบหน้าซีด ดวงตาเล็กและเคร่งครัด จมูกเบี้ยว ศีรษะล้าน โดยทั่วไปแล้วการปรากฏตัวของนักหลอกลวงนั้นค่อนข้างมีอัธยาศัยดี

ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้กับผู้หญิงอย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่ความผิดปกติทางสรีรวิทยาที่ช่วยให้สามารถระบุอาชญากรในหมู่ผู้หญิงได้เช่นเดียวกับผู้ชาย แต่เป็นความผิดปกติทางจิตซึ่งรวมถึง:

  • แนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม
  • ขาดความรู้สึกของมารดา
  • ชีวิตทางเพศที่ "สำส่อน" ฯลฯ

เป็นที่น่าสังเกตว่าต้องขอบคุณ Cesare Lombroso ก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน “ต้นแบบ” เครื่องแรกของเครื่องจับเท็จ พื้นฐานในการตรวจจับการโกหกคือการวัดความดันโลหิตของบุคคลในขณะที่เขากำลังตอบคำถาม แรงดันไฟกระชากบ่งชี้คำตอบที่ผิด

ทิศทางทางมานุษยวิทยาในอาชญวิทยาและกฎหมายอาญา ซึ่งการประเมินหลักคือรูปลักษณ์ภายนอกของบุคคล ซึ่งเป็นการประเมินศักยภาพทางศีลธรรมและพฤติกรรมของเขา ได้รับการยอมรับอย่างชัดเจนในหมู่นักทฤษฎีและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับลัทธิฟาสซิสต์

ชีวประวัติ

Lombroso เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2378 ในเมืองเวโรนาในครอบครัวชาวยิวที่ร่ำรวย เขาศึกษาวรรณคดี ภาษาศาสตร์ และโบราณคดีที่มหาวิทยาลัยปาดัว เวียนนา และปารีส แต่เปลี่ยนแผนและเป็นศัลยแพทย์ในกองทัพในปี พ.ศ. 2402 ในปี พ.ศ. 2409 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นวิทยากรรับเชิญในเมืองปาเวีย และต่อมาในปี พ.ศ. 2414 ได้ดูแลโรงพยาบาลจิตเวชในเมืองเปซาโร ลอมโบรโซกลายเป็นศาสตราจารย์ด้านนิติเวชและสุขอนามัยในเมืองตูรินในปี พ.ศ. 2421 ในปีเดียวกันนั้น เขาได้เขียนผลงานที่สำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุดของเขา L'Uomo delinquente (The Criminal Man) ซึ่งตีพิมพ์เป็นภาษาอิตาลีถึงห้าฉบับและได้รับการตีพิมพ์ในภาษาต่างๆ ของยุโรป

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2405 เป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย Pavia และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2439 เป็นศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยตูรินและมานุษยวิทยาอาชญากรรม (พ.ศ. 2449) ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน

เสียชีวิตที่เมืองตูรินในปี พ.ศ. 2452

กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์

เขาได้พัฒนาสูตรที่เป็นพื้นฐานของสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการมีส่วนร่วมทางอาญาในอาชญวิทยา ในสูตรของเขาผู้ก่อตั้งสถาบันมานุษยวิทยาผู้ยิ่งใหญ่เสนอให้เชื่อมโยงขนาดเฉลี่ยของลักษณะทางมานุษยวิทยาของนักโทษกับจำนวนผู้เยาว์ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ผลลัพธ์ที่ได้คูณด้วยตัวบ่งชี้ตามเงื่อนไข "E" ถือเป็นลักษณะความถี่ของบุคคลทั่วไป สูตรนี้ทำให้สามารถระบุสาเหตุของอาชญากรรมได้ซึ่งในระดับทั่วไปมักขึ้นอยู่กับความยาวของส่วนต่างๆ ของร่างกายเสมอ

ได้ผล

"อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง"

ในปี 1863 Cesare Lombroso จิตแพทย์ชาวอิตาลีได้ตีพิมพ์หนังสือของเขาเรื่อง "Genius and Insanity" (งานแปลภาษารัสเซียโดย G. Tetyushinova, 1885) ซึ่งเขาได้วาดเส้นขนานระหว่างผู้ยิ่งใหญ่กับคนบ้า นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนเองเขียนไว้ในคำนำของหนังสือ:

ในหนังสือเล่มนี้ ซี. ลอมโบรโซสรุปและทำการวินิจฉัยได้จริงแก่ตัวแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ คนดังทุกคนที่ลอมโบรโซเขียนถึงนั้นเสียชีวิตไปแล้วในขณะที่เขียนหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสปฏิเสธสิ่งที่เขียนเลย ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงถึงอัจฉริยะคนใดที่ลอมโบรโซบรรยายไว้ในหนังสือของเขาที่ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือความคุ้นเคยเป็นการส่วนตัวของลอมโบรโซกับคนดังที่เขาบรรยายถึง จิตแพทย์ทำการ "วินิจฉัย" ทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจโดยอาศัยความใจง่ายหรือการเสพติดข่าวลือต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวละครและนิสัยของผู้คนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีชีวประวัติตามความเป็นจริงของผู้มีชื่อเสียงของพวกเขาถูกรายล้อมไปด้วยตำนานทุกประเภท หนังสือเล่มนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้อำนาจในทางที่ผิดทางการแพทย์ Lombroso ในคำนำหมายถึงความจริงที่ว่าเขาเขียนหนังสือเล่มนี้ "ภายใต้อิทธิพลของความปีติยินดี" แต่ความจริงนี้ตามทฤษฎีข้อสรุปและการสังเกตของเขาเองทำให้เขาใกล้จะเปลี่ยนจากจิตแพทย์เป็นผู้ป่วย

ในงานของเขา C. Lombroso เขียนเกี่ยวกับความคล้ายคลึงกันทางกายภาพของคนอัจฉริยะกับคนบ้าเกี่ยวกับอิทธิพลของปรากฏการณ์ต่างๆ (บรรยากาศ พันธุกรรม ฯลฯ) ที่มีต่ออัจฉริยะและความวิกลจริต ยกตัวอย่าง หลักฐานทางการแพทย์มากมายเกี่ยวกับการปรากฏตัวของความผิดปกติทางจิต ในนักเขียนหลายคนและยังอธิบายถึงลักษณะพิเศษของคนฉลาดที่ป่วยเป็นโรควิกลจริตในเวลาเดียวกัน

คุณสมบัติเหล่านี้มีดังนี้:

  1. คนเหล่านี้บางคนมีการพัฒนาความสามารถอัจฉริยะที่ผิดธรรมชาติเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น Ampere เมื่ออายุ 13 ปีเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ดีอยู่แล้ว และ Pascal เมื่ออายุ 10 ขวบเกิดทฤษฎีเกี่ยวกับเสียงโดยอาศัยเสียงที่เกิดจากจานเมื่อวางบนโต๊ะ
  2. หลายคนเป็นผู้เสพยาเสพติดและแอลกอฮอล์อย่างมาก ดังนั้นฮอลเลอร์จึงบริโภคฝิ่นจำนวนมหาศาล และตัวอย่างเช่น รุสโซก็บริโภคกาแฟ
  3. หลายคนไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำงานเงียบๆ ในที่ทำงานอันเงียบสงบ แต่ราวกับว่าพวกเขาไม่สามารถนั่งในที่เดียวและต้องเดินทางอย่างต่อเนื่อง
  4. ไม่บ่อยนักที่พวกเขาเปลี่ยนอาชีพและความเชี่ยวชาญพิเศษราวกับว่าอัจฉริยะอันทรงพลังของพวกเขาไม่สามารถพอใจกับวิทยาศาสตร์เพียงอันเดียวและแสดงออกได้อย่างเต็มที่
  5. จิตใจที่เข้มแข็งและกระตือรือร้นดังกล่าวอุทิศตนให้กับวิทยาศาสตร์อย่างกระตือรือร้น และกระตือรือร้นที่จะตอบคำถามที่ยากที่สุด ซึ่งอาจเหมาะสมที่สุดสำหรับพลังงานที่ตื่นเต้นอันเจ็บปวดของพวกเขา ในทุกศาสตร์ พวกเขาสามารถเข้าใจคุณสมบัติที่โดดเด่นใหม่ๆ และบางครั้งก็สามารถสรุปข้อสรุปที่ไร้สาระได้บนพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้
  6. อัจฉริยะทุกคนมีสไตล์พิเศษเป็นของตัวเอง มีความหลงใหล มีชีวิตชีวา และมีสีสัน ซึ่งทำให้แตกต่างจากนักเขียนที่มีสุขภาพดีคนอื่นๆ และเป็นลักษณะเฉพาะของพวกเขา บางทีอาจเป็นเพราะมันได้รับการพัฒนาภายใต้อิทธิพลของโรคจิต ตำแหน่งนี้ได้รับการยืนยันจากการรับรู้ถึงอัจฉริยะดังกล่าวว่าหลังจากสิ้นสุดความปีติยินดี ไม่เพียงแต่ไม่สามารถแต่งเพลงได้เท่านั้น แต่ยังคิดได้อีกด้วย
  7. พวกเขาเกือบทั้งหมดทนทุกข์ทรมานอย่างสุดซึ้งจากความสงสัยทางศาสนาซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่สมัครใจ ขณะเดียวกันมโนธรรมที่ขี้อายบังคับให้พวกเขาถือว่าความสงสัยดังกล่าวเป็นอาชญากรรม ตัวอย่างเช่น Haller เขียนไว้ในสมุดบันทึกของเขา: “พระเจ้า! โปรดส่งศรัทธามาให้ฉันอย่างน้อยหนึ่งหยด “จิตใจของฉันเชื่อในตัวคุณ แต่ใจของฉันไม่มีศรัทธาเช่นนั้น นั่นคือความผิดของฉัน”
  8. สัญญาณหลักของความผิดปกติของคนที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้แสดงออกมาในโครงสร้างของคำพูดและลายลักษณ์อักษรของพวกเขาในการสรุปที่ไร้เหตุผลในความขัดแย้งที่ไร้สาระ โสกราตีสซึ่งเป็นนักคิดที่ชาญฉลาดที่เล็งเห็นถึงศีลธรรมของคริสเตียนและลัทธินับถือพระเจ้าองค์เดียวของชาวยิวนั้นบ้าไปแล้วไม่ใช่หรือที่เขาได้รับคำแนะนำในการกระทำของเขาด้วยเสียงและคำแนะนำของอัจฉริยะในจินตนาการของเขา หรือแม้กระทั่งโดยการจาม?
  9. อัจฉริยะเกือบทุกคนให้ความสำคัญกับความฝันเป็นอย่างมาก
  • อย่างไรก็ตาม ในบทสรุปของหนังสือของเขา ซี. ลอมโบรโซกล่าวว่าจากที่กล่าวมาข้างต้น ไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่าอัจฉริยะโดยทั่วไปนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าความวิกลจริต จริงอยู่ในชีวิตที่มีพายุและวิตกกังวลของคนฉลาดมีช่วงเวลาที่คนเหล่านี้ดูเหมือนคนบ้าและในกิจกรรมทางจิตและอื่น ๆ มีคุณสมบัติทั่วไปมากมาย - ตัวอย่างเช่นความอ่อนไหวที่เพิ่มขึ้นความสูงส่งการหลีกทางให้กับความไม่แยแสความคิดริเริ่มของงานสุนทรียภาพ และความสามารถในการค้นพบ การหมดสติของความคิดสร้างสรรค์ และการเหม่อลอยอย่างรุนแรง การดื่มแอลกอฮอล์ และความไร้สาระมหาศาล ในบรรดาคนฉลาดก็มีคนบ้า และในหมู่คนบ้าก็มีอัจฉริยะ แต่มีคนเก่งๆ มากมายที่ไม่มีใครพบสัญญาณของความวิกลจริตเลยแม้แต่น้อย

“ประเภทของอาชญากร”

ลอมโบรโซระบุอาชญากรได้สี่ประเภท: ฆาตกร, ขโมย, ผู้ข่มขืน และคนฉ้อโกง

"อาชญากรหญิงและโสเภณี"

งานนี้สำรวจทัศนคติของผู้หญิงต่อเป้าหมายสามประการ ได้แก่ ความรัก การค้าประเวณี และอาชญากรรม ลอมโบรโซสรุปว่าสำหรับผู้หญิง สัญชาตญาณหลักคือการเป็นแม่ ซึ่งกำหนดพฤติกรรมตลอดชีวิตของผู้หญิง

  • รัก
    • ความรักในสัตว์
    • รักในคน
  • การค้าประเวณี
    • ประวัติความเป็นมาของการค้าประเวณี
      • ความอับอายและการค้าประเวณีในหมู่คนป่าเถื่อน
      • การค้าประเวณีในหมู่ชนชาติประวัติศาสตร์
    • โสเภณีแต่กำเนิด
    • โสเภณีสุ่ม
  • อาชญากรรมของผู้หญิง
    • อาชญากรรมของผู้หญิง
      • อาชญากรรมของผู้หญิงในอาณาจักรสัตว์
      • อาชญากรรมของผู้หญิงในหมู่คนป่าเถื่อนและคนดึกดำบรรพ์
    • อาชญากรโดยกำเนิด
    • อาชญากรแบบสุ่ม
    • อาชญากรด้วยความหลงใหล
    • การฆ่าตัวตาย

รายการผลงาน

  • Ricerche sul cretinismo ใน Lombardia, (Gazz. Medico, Italiana, No.13, 1859) - "การวิจัยเรื่อง Cretinism ในลอมบาร์เดีย"
  • Genio e follia: prelezione ai corsi di anthropologia e clinica psychiatrica presso la R. Universita" di Pavia - Milano: Tipografia e Libreria di Giuseppe Chiusi, บรรณาธิการ, 1864. - 46, p. - “Genius and Madness”; ในการแปลภาษารัสเซีย - "อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง"
    (ฉบับต่อๆ ไป: Genio e follia: prelezione ai corsi di anthropologia e clinica psychiatrica presso la R. Universita" di Pavia. - 3a edizione ampliata con 4 ภาคผนวก: i giornali dei pazzi, una biblioteca mattoide, i crani dei grandi uomini, pomelica. - มิลาโน: U. Hoepli, 1877. - VIII, 194 p.)
    • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง: เส้นขนานระหว่างผู้ยิ่งใหญ่และความบ้าคลั่ง: จากภาพเหมือน อัตโนมัติ ... / ค. ลอมโบรโซ; ต่อ. จาก 4 อิตัล เอ็ด [และคำนำ] K. Tetyushinova - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: F. Pavlenkov, 2428. - , II, VIII, 351 น.
    • สิ่งพิมพ์สมัยใหม่มากมาย:
      • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง / เซซาเร ลอมโบรโซ; [แปล. กับมัน ก. เทตูชิโนวา] - อ.: RIPOL classic, 2009. - 397, น. ไอ 978-5-7905-4356-2
      • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง: [แปลจากภาษาอิตาลี] / Cesare Lombroso - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: สำนักพิมพ์เลนินกราด, 2552 (เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: IPK "สำนักพิมพ์เลนินกราด") - 364 น. ISBN 978-5-9942-0238-8 (แปลแล้ว)
      • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง [ข้อความ] / Cesare Lombroso - ม.: นักวิชาการ. โครงการ พ.ศ. 2554 - 237 น. - (เทคโนโลยีทางจิตวิทยา) ไอ 978-5-8291-1310-0
      • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง / เซซาเร ลอมโบรโซ; [แปล. กับมัน G. Tyutyushinova] - อ.: แอสเทรล, 2555 - 348 หน้า, ป่วย, ซีรีส์ “จิตวิทยา”, 1,500 เล่ม, ISBN 978-5-271-38813-2
      • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง / เซซาเร ลอมโบรโซ; [แปล. กับมัน G. Tyutyushinova] - อ.: Astrel, 2012. - 352 หน้า, ป่วย, ซีรีส์ "วิทยาศาสตร์และชีวิต", 1,500 เล่ม, ISBN 978-5-271-38815-6
      • อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง จากอัจฉริยะสู่ความบ้าคลั่งก้าวเดียว?.. [ข้อความ] / Cesare Lombroso; [แปล. จากภาษาอิตาลี ก. เทตูชิโนวา] - มอสโก: RIPOL classic, 2011. - 397, p. - (ขายดีที่สุดในโลก) ISBN 978-5-386-02869-5 (แปลแล้ว)
  • โลโอโม เบียโก เอ โลโอโม ดิ คัลเลอร์ Letture sull" origine e le variet? delle razze umane - ปาโดวา: F. Sacchetto, 1871. - 223 หน้า - “ ชายผิวขาวและชายผิวสี การอ่านเกี่ยวกับต้นกำเนิดและความหลากหลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์”
  • L'Uomo delinquente, (1876; L "uomo delinquente in rapporto all" anthropologia, alla giurisprudenza ed alle วินัย carcerarie: aggiuntavi La teoria della tutela penale del Prof. Avv. F. Poletti / Cesare Lombroso; Francisco Poletti. - 2 เอ็ด. - โตริโน: Bocca, 1878. - 746 p.) - "อาชญากร"; ในการแปลภาษารัสเซีย - "อาชญากร"
    • อาชญากร: [trans. จากภาษาอิตาลี] / เซซาเร ลอมโบรโซ - ม.: เอกโม่; MIDGARD, 2005 (SPb.: AOOT ตเวียร์ polyg. หวี) - 876, p.: ป่วย, แนวตั้ง, โต๊ะ; 24 ซม. - (ยักษ์แห่งความคิด) ไอ 5-699-13045-4
  • L'amore nel suicidio e nel delitto, 1881. - "ความรักและความบ้าคลั่ง"
    • ความรักในหมู่คนบ้า: สำหรับแพทย์และนักกฎหมาย / เซซาเร ลอมโบรโซ ศาสตราจารย์ จิตเวชศาสตร์ในตูริน; ต่อ. จากภาษาอิตาลี ดร.เมด. เอ็น.พี. ไลเนนเบิร์ก. - โอเดสซา: ประเภท “บทกวี ข่าว", พ.ศ. 2432 - 41 น.
    • โรคจิตเภททางเพศ: (ความรักในหมู่คนบ้า) / ซีซาร์ ลอมโบรโซ ศาสตราจารย์ จิตเวชศาสตร์ในตูริน; ต่อ. จากภาษาอิตาลี และเอ็ด ดร.เมด. เอ็น.พี. ไลเนนเบิร์ก. - รัสเซียคนที่ 2 เอ็ด - โอเดสซา 2451 - 46 น.
  • L'Uomo di genio, 1888. (L"Uomo di genio ใน rapporto alla psichiatria, alla storia ed all"estetica. - 5a edizione del "Genio e follia", สมบูรณ์ mutata... . - Torino: fratelli Bocca, 1888. - XX, 488 p.) - "ชายผู้มีอัจฉริยะ"
  • ปาลิมเซสติ เดล คาร์เซเร; แร็กโคลตา อูนิกาเมนเต เดสทินาตา อัลลี อูโอมินิ ดิ เซียนซา - โตริโน: บ็อกก้า, 2431 - 328 น. - “งานเขียนเรือนจำ ศึกษาจารึกเรือนจำ”
  • Il delitto politico e le rivoluzioni ใน rapporto al diritto, ทั้งหมด "anthropologia crimee ed alla scienza di Governoro / Cesare Lombroso, Anthropologe Mediziner Italien; Rodolfo Laschi. - Torino: Bocca, 1890. - 10, 555 p. - (Biblioteca antropologico-giuridica . ซีรีส์ 1 เล่ม 9) - "อาชญากรรมทางการเมือง" กับ Rodolfo Laski
    • อาชญากรรมทางการเมืองและการปฏิวัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย มานุษยวิทยาอาชญากรรม และวิทยาศาสตร์ของรัฐ: ใน 2 ชั่วโมง / ลอมโบรโซ และ ลาสกี้; ในเลน เคเค ตอลสตอย. - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทางการค้า พิมพ์ผิดสว่าง วิเลนชิค, . - 255 วิ
      • อาชญากรรมทางการเมืองและการปฏิวัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย มานุษยวิทยาอาชญากรรม และวิทยาศาสตร์ของรัฐ = อาชญากรรมทางการเมืองและการปฏิวัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย มานุษยวิทยาอาชญากรรม และวิทยาศาสตร์แห่งรัฐ: ใน 2 ชั่วโมง / C. Lombroso, R. Lyaski - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: ถูกกฎหมาย Center Press, 2003 (ประเภทวิชาการ. วิทยาศาสตร์ RAS). - 472 วิ ไอ 5-94201-200-8
    • ความก้าวหน้าล่าสุดในศาสตร์แห่งอาชญากร = (L'Anthropologie criminelle et ses re'cents progre's par C. Lombroso) / Cesare Lombroso; แปลโดยได้รับอนุญาตแล้ว ผู้เขียนเอ็ด และมีคำนำ ปริญญาโทสาขากฎหมายอาญา L. M. Berlin, Dr. S. L. Rappoport - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: N.K. Martynov, 1892. -, 160 น.
  • La Donna delinquente, 2436 - "อาชญากร"
    • อาชญากรและโสเภณีหญิง / C. Lombroso & G. Ferrero; ต่อ. [และคำนำ] โดย ดร.จี.ไอ. กอร์ดอน - เคียฟ; คาร์คอฟ: F. A. Ioganson, 1897 (เคียฟ) - , 478, IV, VII น.
      • ... - AVAN-I, 1994. - 220 น. ไอ 5-87437-004-8
      • ผู้หญิง - อาชญากรหรือโสเภณี / Cesare Lombroso; [แปล. กับมัน จี. กอร์ดอน]. - อ.: แอสเทรล, 2555 - 320 หน้า, ป่วย, ซีรีส์ "วิทยาศาสตร์และชีวิต", 1,500 เล่ม, ISBN 978-5-271-38835-4
      • ผู้หญิง - อาชญากรหรือโสเภณี / Cesare Lombroso; [แปล. กับมัน จี. กอร์ดอน]. - อ.: Astrel, 2012. - 317 หน้า, ป่วย, ซีรีส์ “จิตวิทยา”, 1,500 เล่ม, ISBN 978-5-271-38832-3
  • L'origine du baiser, 1893 (La Nouvelle Revue 1893/06, A13, T83)
    • ต้นกำเนิดของการจูบ = (Cesare Lombroso - “L’origine du baiser”): ทรานส์ จาก fr / ซีซาร์ ลอมโบรโซ. - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: V. Vroblevsky, รอบคัดเลือก. พ.ศ. 2438 - 15 น.
  • Le piu เมื่อเร็ว ๆ นี้ scoperte ed applicazioni della psichiatria ed anthropologia crimee / C. ลอมโบรโซ. - โตริโน่; ฟิเรนเซ; ปาแลร์โม; เมสซีนา; คาตาเนีย; โรมา: Fratelli Bocca, 1893. - 431 น.
  • Gli anarchici: มี 2 tavole และ 5 รูป เนล เทสโต. - โตริโน: Fratelli Bocca, 1894. - 95, p. - “อนาธิปไตย ศึกษาจิตวิทยาอาชญากรรมและสังคมวิทยา”
    • อนาธิปไตย: อาชญากรรม - จิต และสังคม เรียงความ / ซี. ลอมโบรโซ; ต่อ. ด้วย 2 อิตัล เพิ่ม. เอ็ด N.S. Zhitkova. - ไลป์ซิก; เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: “ความคิด” A. Miller, 1907 (โอเดสซา) - 138 น.
  • L'Antisemitismo e le scienze moderne, 1894 - "การต่อต้านชาวยิวในแง่ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่"
    • การต่อต้านชาวยิว / เซซาเร ลอมโบรโซ; ต่อ. กับมัน จี.ซี.; แทนที่จะเป็นคำนำ ศิลปะ. O. Ya. Parchment: “คำถามของชาวยิวและเสรีภาพของผู้คน” - โอเดสซา: ทริบูน, คุณสมบัติ พ.ศ. 2449 - , VI, 73 น.
    • การต่อต้านชาวยิวและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ / เซซาเร ลอมโบรโซ; ต่อ. จากภาษาอิตาลี เอฟรีม ปาร์คโฮมอฟสกี้. - เคียฟ: F. L. Isserlis and Co., 1909. - 146 น.
      • ... - คราฟท์+, 2545. - 360 น. ไอ 5-93675-038-8
  • Genio e degenerazione, (Remo Sandron, ปาแลร์โม), 1897. - "อัจฉริยะและความเสื่อมโทรม"
  • อาชญากรรมเลอ สาเหตุ et rem?des 2442 - “อาชญากรรม สาเหตุ และวิธีการกำจัด”
    • อาชญากรรม / ซี. ลอมโบรโซ; ต่อ. ดร.จี.ไอ. กอร์ดอน - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: N.K. Martynov, 1900. - 140 p.;
      • อาชญากรรม [ข้อความ]; ความก้าวหน้าล่าสุดในศาสตร์แห่งอาชญากร อนาธิปไตย / เซซาเร ลอมโบรโซ; [คำนำ V. S. Ovchinsky] - มอสโก: INFRA-M, 2011. - VI, 313, p.: ตาราง; 22. - (ห้องสมุดนักอาชญวิทยา). ไอ 978-5-16-001715-0
  • ความบ้าคลั่งเมื่อก่อนและเดี๋ยวนี้: ทรานส์ กับมัน / ซีซาร์ ลอมโบรโซ, ศาสตราจารย์. จิตเวชศาสตร์ในตูริน - โอเดสซา: N. Leinenberg, 2440 - 43 น.
  • การเยี่ยมชมตอลสตอย / ซีซาร์ ลอมโบรโซของฉัน - Carouge (Geneve): M. Elpidine, 1902. - , IV, 13 น.
  • จิตวิทยาของการจูบ: (Cesare Lombroso - "Psychologie du baiser"): แปลแล้ว จาก fr / ซีซาร์ ลอมโบรโซ. - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: F. I. Mityurnikov, 1901. - 27 น.

» อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง

ระหว่างความชั่วร้าย อัจฉริยะ และความบ้าคลั่ง
ทฤษฎีของเซซาเร ลอมโบรโซ (1836-1909)

เซซาเร (ชื่อจริงเฮเซคียาห์) ลอมโบรโซทิ้งร่องรอยไว้ในวงการวิทยาศาสตร์ในฐานะจิตแพทย์และนักอาชญวิทยา เกิดที่เวโรนา เสียชีวิตที่ตูริน เขาได้รับอิทธิพลจาก phrenology ซึ่งแพร่หลายมากในช่วงทศวรรษที่ 60 ของศตวรรษที่ 19 แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดพื้นฐานของเขาอย่างรุนแรง แต่เขาก็กลายเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนกฎหมายอาญามานุษยวิทยา

จุดเริ่มต้นของกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ของลอมโบรโซเกี่ยวข้องกับปัญหาของคนโง่ เขาปกป้องวิทยานิพนธ์ของเขาในออสเตรียในหัวข้อนี้ และเมื่ออายุ 27 ปีได้รับตำแหน่งการสอนที่มหาวิทยาลัย Pavia ซึ่งทำให้เขามีโอกาสฝึกอบรมในคลินิกที่ดีที่สุดในเวียนนา ตูริน และปารีส ต่อมาเขาเริ่มสนใจปัญหาทางจิตเวชในปัจจุบันในขณะนั้น เขาเป็นหัวหน้าภาควิชาจิตเวชที่มหาวิทยาลัย Pavia ไปพร้อมๆ กัน และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้าในเมือง Peisaro

แนวคิดหลักของเขาเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมทฤษฎีโรคระบบประสาท ความผิดปกติทางจิตของผู้สร้างที่โดดเด่นโดยเฉพาะผู้สร้างที่เก่งตลอดจนบทบาทของสภาวะหมดสติในกิจกรรมของพวกเขา ในการศึกษาอาชญากร เขาได้ประยุกต์ใช้วิธีมานุษยวิทยาและใช้ข้อมูลจากพยาธิวิทยา สรีรวิทยา และจิตวิทยาของอาชญากร สิ่งนี้ทำให้เขามีความคิดที่จะเป็น “อาชญากรที่มีมาแต่กำเนิด” (Homo Delinquens) ซึ่งแตกต่างไปจากคนปกติอย่างเห็นได้ชัด เขาหยิบยกแนวคิดเรื่องความเป็นมาของอาชญากรประเภทต่างๆ (นักต้มตุ๋น, ขโมย, ผู้ข่มขืนและฆาตกร)

จากการสำรวจคุณสมบัติทางมานุษยวิทยาของอาชญากรในฐานะที่สืบทอดมา ลอมโบรโซเปรียบเทียบอาชญากรกับคนป่าเถื่อน โดยสังเกตคุณสมบัติทั่วไปในตัวพวกเขา เช่น การขาดศีลธรรมและการกระทำทางจิตที่พัฒนาแล้ว นี่คือความไม่เห็นด้วยของอาชญากร การพัฒนาทฤษฎี atavism ลอมโบรโซแย้งว่าอาชญากรในฐานะบุคคลดึกดำบรรพ์นั้นแตกต่างจากคนทั่วไปในเรื่องความบกพร่องทางร่างกาย แต่กำเนิดของกะโหลกศีรษะ อาชญากรทั่วไปกลายเป็นผลจากความโง่เขลาและความเสื่อมถอย นอกจากนี้เขายังเพิ่มสัญญาณของโรคลมบ้าหมูและความวิกลจริตทางศีลธรรมอีกด้วย

นอกเหนือจากอาชญากรโดยกำเนิดแล้ว เขายังแยกแยะอาชญากรแบบสุ่มที่ก่ออาชญากรรมเนื่องจากสถานการณ์ที่โชคร้าย (อาชญากร) อาชญากรกึ่งบ้าคลั่ง ผู้ที่มีความผิดทางอาญาทั้งหมด (มาตอยด์) และอาชญากรหลอก (มีโทษตามกฎหมาย แต่ ไม่เป็นอันตรายต่อสังคม) อาชญากรรมทางการเมืองแยกเป็นหมวดหมู่

ประเภทของอาชญากรตามลอมโบรโซ

Crook (ผู้ฉ้อโกง):

รูปร่างหน้าตาดี ใบหน้าซีด ตาเล็ก จมูกเบี้ยว ศีรษะล้าน

กะโหลกเล็ก ๆ ที่มีรูปร่างผิดปกติ หัวยาว จมูกตรง (มักจะหงายขึ้น) การวิ่งหรือในทางกลับกัน จ้องมองอย่างหวงแหน ผมสีดำ หนวดเคราเบาบาง

ผู้ข่มขืน:

ตาโปน ริมฝีปากอิ่ม ขนตายาว จมูกแบนหรือเบี้ยว ผอมและง่อนแง่น มักมีผมบลอนด์มากกว่าผมสีน้ำตาล บางครั้งก็หลังค่อม

ฆาตกร (ฆาตกร):

กะโหลกศีรษะขนาดใหญ่ หัวสั้น (สูงน้อยกว่าความกว้าง) ไซนัสหน้าผากเด่นชัด โหนกแก้มใหญ่ จมูกยาว (บางครั้งก็โค้งลง) กรามเหลี่ยม ดวงตากลมโต คางเหลี่ยมยื่นออกมา จ้องมองแก้วคงที่ ริมฝีปากบาง เขี้ยวที่พัฒนาอย่างดี ฆาตกรที่โหดร้ายที่สุดมีผมสีดำหยิก มีหนวดเคราเบาบาง มือสั้น ใหญ่เกินไปหรือในทางกลับกันมีติ่งหูเล็กเกินไป

แม้ว่าทฤษฎีแนวโน้มโดยธรรมชาติที่จะก่ออาชญากรรมได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดและไม่เป็นหลักวิทยาศาสตร์ แต่การจำแนกประเภทของอาชญากรสี่ประเภทที่ระบุโดยลอมโบรโซยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน

แม้ว่านักอาชญาวิทยาและนักมานุษยวิทยาจะวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดของเขาอย่างเฉียบแหลม แต่ลอมโบรโซก็ทำงานอย่างหนักกับผลงานและธีมดั้งเดิมของเขา: "Criminal Man" (1876), "Crimes in Politics and Revolution" (1890), "Criminal Assessment" (1893), " ความก้าวหน้าล่าสุดในศาสตร์แห่งอาชญากร" (พ.ศ. 2435), "ความรักและความบ้าคลั่ง" (พ.ศ. 2432) เป็นต้น

ในศตวรรษที่ 19 ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับบุคคลและปัญหาทางจิตของเขา แต่นี่เป็นการศึกษาเกี่ยวกับบุคลิกที่เน้นย้ำ นักจิตวิทยายังไม่สนใจลักษณะของบุคลิกภาพปกติทั่วไป ความสนใจทางวิทยาศาสตร์มุ่งตรงไปที่สิ่งผิดปกติในมนุษย์ แต่สิ่งนี้มีส่วนทำให้การรับรู้ลักษณะบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ของบุคลิกภาพเป็นเช่นนั้น


ประเภทของอาชญากรจากคอลเลกชันลอมโบรโซ

บุคลิกที่เน้นเสียงในการศึกษาว่านักจิตวิทยานักประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและนักวิจัยคนอื่น ๆ หันมาเป็นคนประเภทวีรบุรุษทำการกระทำไททานิกแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญไม่เพียง แต่ในขอบเขตการทหารใน "สถานการณ์แนวเขตแดน" แต่ยังรวมถึงความคิดสร้างสรรค์โดยทั่วไปด้วย คนเหล่านี้ยังเป็นบุคคลประเภทอาชญากรที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญหรือในจิตสำนึกที่แคบของพวกเขาพวกเขาสูญเสียการควบคุม "ศีลธรรม" แต่เชื่อว่าพวกเขากำลังปูทางใหม่สำหรับ "ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล" วีรกรรมและอาชญากรรมแปรเปลี่ยนเข้าหากันขึ้นอยู่กับอิทธิพลที่มีต่อสังคม แต่ในด้านคุณสมบัติของวีรกรรมหรืออาชญากรรมในเรื่องนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละบุคคล กลุ่ม สังคมโดยรวม และระดับประวัติศาสตร์ของมัน การพัฒนา.

คุณสมบัติ อาชญากรยังไง คลั่งไคล้เนื่องจากลัทธิ atavism แสดงให้เห็นเพียงการตรึงจิตสำนึกโดยมีเป้าหมาย การไม่มีผลตอบรับทางศีลธรรม การสะท้อนกลับเป็นการประเมินจากมนุษย์สากล อาชญากรรม "เปิดทางสู่ความคิดสร้างสรรค์" "ความก้าวหน้า" เป็นการปฏิเสธ "ล้าสมัย" โดยทั่วไปในฐานะ "จิตวิญญาณแห่งการปฏิเสธ" คือ ปีศาจจุดเริ่มต้นในปัจเจกบุคคล ซึ่งมักถูกเปิดเผยในลักษณะเหยียดหยาม ถือว่าตนเองเป็นสิ่งที่เหนือมนุษย์ ซึ่งมีสิทธิที่จะสั่งการและกระทำการตามความสนใจส่วนตัวล้วนๆ

เมื่อการเน้นเสียงถึงระดับพิเศษ เกินขอบเขตของปกติ บุคลิกภาพก็จะเข้ามา พยาธิวิทยาความสัมพันธ์แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาธรรมชาติที่แคบลง ในเวลาเดียวกันเธอมองเห็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในตัวเองเหนือการแสดงบุคลิกภาพทั่วไปสร้างอุดมการณ์ที่ชอบธรรมสำหรับการกระทำของเธอ ซูเปอร์แมน,ผู้ต่อต้านตัวเองต่อผู้อื่นด้วยความดูถูกเหยียดหยามมุ่งความสนใจไปที่ตัวเองในความคิดของเขาไททันนิสม์ทั้งโลกหรือไททันนิสม์แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยายอมรับว่าตัวเองเป็นไททันนิสม์กล่าวคือรู้สึกถึงความเหนือมนุษย์ในตัวเอง ซูเปอร์แมนผู้ปลดปล่อยตัวเองจากการต่อต้านผู้อื่นและในทางกลับกันไม่เพียงรวมถึงคนอื่น แต่เป็นมนุษย์สากลด้วยรู้สึกว่ามีหลักการที่สูงกว่าอยู่ในตัวเขาเองซึ่งก็คือ ความศักดิ์สิทธิ์อย่างหลังได้จำกัดตัวเองในแง่ของกิจกรรมของการกระทำแต่ละอย่างแล้ว ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก มีประสบการณ์ในการพึ่งตนเองและความครบถ้วนสมบูรณ์ และในขณะเดียวกันก็มีความเป็นปัจเจกบุคคลอย่างมาก

บุคลิกภาพที่รวมเอาความเป็นสากล มีความสัมพันธ์เชิงรุกและเชิงปัญหากับแก่นแท้ของปัจเจกบุคคล โดยทั่วไปแล้วจะมีพรสวรรค์อย่างไม่มีขอบเขต มันถูกเปิดเผยในการสร้างสรรค์บางอย่าง และเป็น ผู้สร้างเลย เธอมุ่งความสนใจไปที่ลักษณะเฉพาะของบุคลิกที่เน้นย้ำและตัวพวกเขาเองโดยทั่วไป


พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาอาชญากรรมในตูรินก่อตั้งโดย Cesare Lombroso ในปี 1898 ปัจจุบัน มีกะโหลกมากกว่า 400 หัว ซึ่งเขาเคยพิสูจน์ทฤษฎี "ค่ามัธยฐานแอ่งท้ายทอย" ซึ่งเป็นความผิดปกติของกะโหลกศีรษะที่เขาเชื่อว่ามีส่วนทำให้เกิดพฤติกรรมเบี่ยงเบน คอลเลกชันนี้ยังรวมถึงภาพวาด ภาพถ่าย หลักฐานทางอาญา และรายละเอียดทางกายวิภาคของ “คนบ้าและอาชญากร” จากศตวรรษก่อน

นี่คือวงกลมของการเน้นเสียงส่วนบุคคลซึ่งมีคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด

เซซาเร ลอมโบรโซเผยให้เห็นบุคลิกในสภาวะของความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยม เมื่อเธอก้าวข้ามขอบเขตของการกระทำธรรมดาๆ อย่างเด็ดเดี่ยวและมั่นใจ ความผิดปกติของมันเข้าข่ายว่าขัดต่อศีลธรรม แต่ในขณะเดียวกันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ปรากฏเป็นผลมาจากพันธุกรรมทางมานุษยวิทยาที่ร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะเหล่านี้ถูกเปิดเผยว่าเป็นเอกภาพของ "อัจฉริยะและความวิกลจริต (ความวิกลจริต)" เพราะในความเห็นของเขา การผสมผสานลักษณะดังกล่าวเท่านั้นที่สามารถให้บุคลิกภาพที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ได้

ในหนังสือชื่อดังของเขาเรื่อง "Genius and Madness" (1864) ลอมโบรโซแก้ปัญหาความคล้ายคลึงกันระหว่างคนฉลาดและคนป่วยทางจิต "ในแง่สรีรวิทยา" สำรวจอิทธิพลของปรากฏการณ์ในบรรยากาศที่มีต่ออัจฉริยะและคนป่วยทางจิต ซึ่งรู้สึกถึงอิทธิพลนี้เท่าเทียมกัน เขียนอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับอิทธิพลของปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่มีต่อการเกิดของคนฉลาดยืนยันอิทธิพลของเชื้อชาติและพันธุกรรมที่มีต่อการเกิดขึ้นของอัจฉริยะและความเจ็บป่วยทางจิต เขาสำรวจผู้คนที่เก่งกาจที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการป่วยทางจิต (Harington, Swift, Couazzi, Rousseau, Ampère, Schumann) เขาตั้งข้อสังเกตถึงลักษณะเฉพาะของการผสมผสานระหว่างอัจฉริยะและความเจ็บป่วยทางจิตในหมู่กวี นักอารมณ์ขัน ศิลปิน นักกราฟามาเนีย ผู้เผยพระวจนะ นักปฏิวัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาให้ความสนใจกับ G. Savonarola และ Lazaretti

ในฐานะสื่อทางวิทยาศาสตร์ Lombroso ใช้อัตชีวประวัติของผู้ป่วยทางจิตและผลงานวรรณกรรมของพวกเขาในการวิจัยของเขา

ข้อสรุปที่เขาได้จากการวิจัยไม่ได้ยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างอัจฉริยะและความบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตามสภาพจิตใจของตัวแทนทั้งสองกลุ่มค่อนข้างจะคล้ายกัน “ในชีวิตที่เต็มไปด้วยพายุและยืนยาวของคนฉลาด มีช่วงเวลาที่คนเหล่านี้แสดงความคล้ายคลึงกันมากขึ้นกับคนบ้า และในกิจกรรมทางจิตของทั้งสองก็มีลักษณะทั่วไปหลายประการ ตัวอย่างเช่น ความอ่อนไหวที่เพิ่มขึ้น ความสูงส่งสลับกับความไม่แยแส ความคิดริเริ่มของงานสุนทรียศาสตร์และความสามารถในการค้นพบ การหมดสติของความคิดสร้างสรรค์และการใช้การแสดงออกพิเศษ การเหม่อลอยอย่างรุนแรง แนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย และสุดท้ายคือความภาคภูมิใจในตนเองอย่างมาก” แม้ว่ากาลิเลโอ, เคปเลอร์, โคลัมบัส, วอลแตร์, นโปเลียน, ไมเคิลแองเจโล, คาวัวร์ - ผู้คนที่เก่งกาจอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการบ้าคลั่ง นอกจากนี้ Lombroso ยังตั้งข้อสังเกตว่าอัจฉริยะปรากฏตัวเร็วกว่าความเจ็บป่วยทางจิตมาก ในเรื่องนี้เขาไว้วางใจงานวิจัยของ T. Ribot

หากความเจ็บป่วยทางจิตได้รับการสืบทอดมา อัจฉริยะก็จะตายไปพร้อมกับผู้ถือ - ปัจเจกบุคคล ความสามารถทางจิตที่โดดเด่นในผู้ป่วยนั้นมีด้านเดียวเกินไป ผู้ป่วยไม่มีความพากเพียรในการแก้ปัญหา ความแข็งแกร่งของอุปนิสัย ความสนใจ ความแม่นยำ ความจำ ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะที่สุดของอัจฉริยะ พวกเขาไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น อัจฉริยะอย่างใจเย็นโดยตระหนักถึงจุดแข็งของตนเอง เดินอย่างมั่นคงในเส้นทางที่เลือกไปสู่เป้าหมายที่สูง แสดงให้เห็นความอดทนในความทุกข์ยาก โดยไม่ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาของตน ได้แก่ สปิโนซา, เบคอน, กาลิเลโอ, ดันเต้, วอลแตร์, โคลัมบัส, มาคิอาเวลลี, มิเกลันเจโล และคาวัวร์ ลอมโบรโซให้ลักษณะดังต่อไปนี้: พวกเขาทั้งหมดมีกะโหลกศีรษะที่แข็งแกร่งและได้รับการพัฒนาอย่างกลมกลืนซึ่งบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของความสามารถในการคิดของพวกเขาซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเจตจำนงอันทรงพลัง พวกเขาไม่เคยทรยศต่อความเชื่อมั่น ไม่กลายเป็นคนทรยศ พวกเขาไม่เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมาย และไม่ละทิ้งงานที่พวกเขาเริ่มไว้ พวกเขาทั้งหมดมีความซื่อสัตย์สุจริต

สัญญาณทางพยาธิวิทยาของงานของ Lombroso ได้แก่ ความเอาใจใส่มากเกินไปในการจัดทำวัสดุอย่างละเอียด การใช้สัญลักษณ์ คำบรรยาย และอุปกรณ์เสริมในทางที่ผิด ความเด่นของสีเดียวในภาพวาด และความปรารถนาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มากเกินไป ซึ่งเป็นการแสดงออกของความคิดริเริ่มหลอก ในงานวรรณกรรมและบทความทางวิทยาศาสตร์การกล่าวอ้างที่มีอยู่ว่ามีไหวพริบการจัดระบบมากเกินไปความตั้งใจที่จะเน้นบุคลิกภาพของตนเองตรรกะของการนำเสนอถูกแทนที่ด้วยภาพย่อและทุกที่ที่มีแรงดึงดูดต่อความคิดริเริ่มที่ไม่อาจต้านทานได้ซึ่งอย่างไรก็ตามไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ลอมโบรโซแสดงความกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของประเทศต่างๆ ที่ถูกปกครองโดยบุคคลที่มีพยาธิสภาพดังกล่าว พวกเขากำลังพยายามพูดในรูปแบบของการพูดน้อยตามพระคัมภีร์ ในหมู่พวกเขามีผู้หลอกลวงมากมายแม้ว่าพวกเขาเองจะไม่รู้ตัวก็ตาม เขาเรียกพวกโรคจิตเหล่านี้ว่ามาตอยด์ คนเหล่านี้น่าจะเป็นนักปฏิรูปที่ควรระวัง เพราะพวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้อื่น พวกโรคจิตเหล่านี้แทรกแซงปัญหาสังคมอยู่ตลอดเวลา และยังอาจหันไปใช้วิธีการลอบสังหารทางการเมืองอีกด้วย

คนบ้าและคนโรคจิตไม่ว่าจะมีสัญญาณของอัจฉริยะหรือไม่ก็ตาม มีอิทธิพลอย่างมากต่อฝูงชนและกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง คนอื่น ๆ - อัจฉริยะและคนบ้าที่แท้จริง (ในหมู่พวกเขา Lombroso ชื่อ Mohammed, Luther, Savonarola, Schopenhauer) - มีอำนาจที่จะชะลอการพัฒนาของประชาชนและกลายเป็นผู้ก่อตั้งศาสนาหรือนิกายด้วยซ้ำ

มนุษยชาติต้องระวัง "ผีอัจฉริยะที่ฉลาด" - นี่คือวิธีที่ Cesare Lombroso สรุปการวิเคราะห์ของเขาเกี่ยวกับลักษณะคู่ขนานของอัจฉริยะและคนที่ป่วยเป็นโรคจิต

โรเมเนตส์ วี.เอ. ประวัติศาสตร์จิตวิทยาของศตวรรษที่ XIX-XX - เคียฟ, ลีบิด, 2002

วรรณกรรมในหัวข้อนี้กว้างขวางมากแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าถึงได้ก็ตาม แม้แต่ในสมัยโบราณก็มีคำอธิบายตามตำนานและปีศาจสำหรับสิ่งที่เรียกว่าความเจ็บป่วยทางจิตในปัจจุบัน

การศึกษาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดเรื่องหนึ่งซึ่งเชื่อมโยงระหว่างอัจฉริยะและความวิกลจริตคือหนังสือ "อัจฉริยะและความวิกลจริต" ซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2406 โดยจิตแพทย์และนักอาชญาวิทยาชาวอิตาลี Cesare Lombroso 1

พยาธิวิทยากลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตเวชศาสตร์ นักจิตอายุรเวชเริ่มนำความรู้จากสาขานี้มาประยุกต์ใช้กับงานศิลปะเมื่อนานมาแล้ว อย่างไรก็ตามคำว่า mania (ในภาษากรีก) navi และ mesugan (ในภาษาฮีบรู) nigrata (ในภาษาสันสกฤต) หมายถึงทั้งความบ้าคลั่งและการพยากรณ์ แม้แต่นักคิดในสมัยโบราณก็ยังคิดว่าเป็นไปได้ที่จะวาดแนวระหว่างอัจฉริยะและความวิกลจริต อริสโตเติลเขียนว่า “สังเกตได้ว่ากวี นักการเมือง และศิลปินชื่อดังต่างคลั่งไคล้ แม้กระทั่งทุกวันนี้ เราก็เห็นสิ่งเดียวกันนี้ในโสกราตีส, เอมเปโดเคิลส์, เพลโต และคนอื่นๆ และที่เด่นชัดที่สุดคือในกวี มาร์กแห่งซีราคิวส์เขียนบทกวีได้ค่อนข้างดีในขณะที่เขาเป็นคนบ้า แต่เมื่อหายดีแล้ว เขาก็สูญเสียความสามารถนี้ไปโดยสิ้นเชิง” เพลโตให้เหตุผลว่าอาการเพ้อไม่ใช่โรคแต่อย่างใด แต่เป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เทพเจ้าประทานแก่เรา พรรคเดโมคริตุสกล่าวโดยตรงว่าเขาไม่คิดว่าคนที่มีจิตใจดีจะเป็นกวีที่แท้จริง ปาสคาลยืนกรานอยู่ตลอดเวลาว่าอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมีพรมแดนติดกับความบ้าคลั่งโดยสิ้นเชิง และต่อมาได้พิสูจน์สิ่งนี้ด้วยตัวอย่างของเขาเอง

2. สาระสำคัญของแนวคิดของ Cesare Lombroso

บทประพันธ์ของหนังสือ:

“ด้วยการสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างคนอัจฉริยะกับคนบ้า ดูเหมือนว่าธรรมชาติต้องการชี้ให้เห็นหน้าที่ของเราในการปฏิบัติต่อภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดของมนุษย์อย่างความบ้าคลั่ง และในขณะเดียวกันก็เตือนเราด้วยว่าเราจะ อัจฉริยภาพทั้งหลายไม่คล้อยตามไปจนเกินไป ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่ขึ้นสู่ทรงกลมทิพย์เท่านั้น แต่ยังเหมือนดาวตกที่ส่องแสงระยิบระยับพุ่งขึ้นมาครั้งเดียวก็ตกลงต่ำมากและจมลงในความหลงผิดจำนวนมาก”

2.1. ความแตกต่างระหว่างพรสวรรค์และอัจฉริยะ

การพึ่งพาอัจฉริยะกับการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาสามารถอธิบายคุณลักษณะที่น่าสงสัยของอัจฉริยะเมื่อเปรียบเทียบกับความสามารถพิเศษ: มันเป็นสิ่งที่หมดสติและแสดงออกมาโดยไม่คาดคิดโดยสิ้นเชิง” (13) คนที่มีความสามารถจงใจกระทำโดยเด็ดขาด เขารู้ว่าเขามาถึงทฤษฎีนี้ได้อย่างไรและทำไม ในขณะที่อัจฉริยะไม่มีใครรู้จักเรื่องนี้เลย” (13)

2.2. ความคล้ายคลึงพื้นฐานระหว่างอัจฉริยะกับคนบ้า

ลอมโบรโซมองเห็นสิ่งที่เหมือนกันมากระหว่างพวกเขาในด้านสรีรวิทยา พฤติกรรมแปลก ๆ ความคลุ้มคลั่ง การกระทำโดยไม่รู้ตัว ปฏิกิริยาแบบเดียวกันกับปัจจัยทางภูมิอากาศและภูมิศาสตร์ ตลอดจนความแตกต่างบางประการในทัศนคติของอาสาสมัครในกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เป็นต้น ฯลฯ

เราจะนำเสนองานวิจัยของเขาเกี่ยวกับข้อเท็จจริง และจากตัวอย่างหลายร้อยตัวอย่าง เราจะเน้นเฉพาะชื่อที่มีชื่อเสียงที่สุดเท่านั้น

บุฟฟ่อนหมกมุ่นอยู่กับความคิดของเขา เคยปีนขึ้นไปบนหอระฆังแล้วลงมาจากที่นั่นด้วยเชือกโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังหลับใหล”

อัจฉริยะหลายคนมีลักษณะเฉพาะคือ กิจกรรมของกล้ามเนื้อและทางเพศไม่ดี ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของคนบ้าทุกคน“ไมเคิลแองเจโลยืนกรานอยู่ตลอดเวลาว่างานศิลปะของเขามาแทนที่ภรรยาของเขา เกอเธ่ ไฮน์ ไบรอน เซลลินี นโปเลียน นิวตัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดสิ่งนี้ แต่การกระทำของพวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีก” ไฮเนอเขียนว่าไม่ใช่อัจฉริยะเลย แต่เป็นความเจ็บป่วย (ของไขสันหลัง) ที่บังคับให้เขาเขียนบทกวีเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของเขา

เกอเธ่บอกว่าเขาแต่งเพลงหลายเพลงในขณะที่อยู่ในอาการนอนไม่หลับ ในความฝันวอลแตร์คิดหนึ่งในเพลงของ Henriade ส่วนนิวตันและคาร์ดาโนก็แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในขณะนอนหลับ มีคำพูดเกี่ยวกับไลบนิซที่เขาคิดแต่ในแนวนอนเท่านั้น

คนฉลาดหลายคนใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด Alexander the Great, Socrates, Seneca, Alcibiades, Cato, Avicenna, Musset, Kleist, Tasso, Handel, Gluck - ทุกคนต้องทนทุกข์ทรมานจากการดื่มหนักและส่วนใหญ่เสียชีวิตจากอาการมึนเมาเนื่องจากอาการสั่นประสาท

และความหลงใหลของผู้คนที่เก่งกาจแสดงออกเร็วและรุนแรงเพียงใด! ความงามและความรักของฟอร์นารินาเป็นแรงบันดาลใจให้กับราฟาเอลไม่เพียงแต่ในการวาดภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทกวีด้วย ดันเต้และอลิเฟรีรักกันเมื่ออายุ 9 ขวบ รุสโซอายุ 11 ปี คาฟรอนและไบรอนอายุ 8 ขวบ ฝ่ายหลังต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการชักเมื่อเขารู้ว่าหญิงสาวที่เขารักกำลังจะแต่งงาน จิตรกรฟรานเซียเสียชีวิตด้วยความชื่นชมหลังจากได้เห็นภาพวาดของราฟาเอล อาร์คิมิดีสยินดีกับวิธีแก้ปัญหา จึงวิ่งออกไปที่ถนนโดยแต่งตัวเป็นอดัม แล้วตะโกนว่า "ยูเรก้า 1" Boileau และ Chateaubriand ไม่สามารถเพิกเฉยต่อคำชมจากใครก็ตาม แม้แต่ช่างทำรองเท้าของพวกเขา

ความรู้สึกประทับใจที่ไม่ปกติยังก่อให้เกิดความไร้สาระและสมาธิมากเกินไปในตนเองและความคิดของตน

“กวีเป็นคนไร้สาระที่สุด” ไฮเนอเขียนโดยหมายถึงตัวเขาเอง

กวีลูเซียสไม่ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งเมื่อจูเลียส ซีซาร์ปรากฏตัว เพราะในบทกวีเขาคิดว่าตัวเองเหนือกว่าเขา โชเปนเฮาเออร์โกรธจัดและปฏิเสธที่จะจ่ายบิลหากนามสกุลของเขาสะกดด้วย "Ps" สองตัว Sebuya นักไวยากรณ์ภาษาอาหรับ เสียชีวิตด้วยความโศกเศร้าเพราะ Harun al-Raphid ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์บางประการ อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่บางครั้งไม่สามารถเข้าใจแนวคิดที่คนธรรมดาทั่วไปเข้าถึงได้ และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็แสดงความคิดที่กล้าหาญซึ่งดูเหมือนไร้สาระสำหรับคนส่วนใหญ่ อัจฉริยะมีความสามารถในการคาดเดาสิ่งที่เขายังไม่ทราบแน่ชัด ตัวอย่างเช่น เกอเธ่บรรยายอิตาลีอย่างละเอียดโดยยังไม่ได้เห็น พวกเขามักจะทำนายความตาย (ให้เราจำไว้ว่า M. Voloshin และ K. Balmont ทำนายการตายของซาร์นิโคลัสบนนั่งร้านอย่างไรนักปรัชญา Cardano, Rousseau และ Haller, กวี N. Rubtsov, I. Brodsky, ผู้กำกับภาพยนตร์ A. Tarkovsky ฯลฯ ทำนาย ความตายของตนเอง) Cellini, Goethe, Hobbes (เขาเริ่มเห็นผีในห้องมืดทันที) ทรมานจากภาพหลอน Mendelssohn ทนทุกข์ทรมานจากความเศร้าโศก Van Gogh คิดว่าเขาถูกปีศาจเข้าสิง Gounod, Batyushkov, Hölderlin คลั่งไคล้ (เขาฆ่าตัวตายด้วยความพอดี แห่งความเศร้าโศกในปี พ.ศ. 2378) , Salieri, Edgar Poe โมสาร์ทมั่นใจว่าเขาจะต้องถูกวางยาพิษอย่างแน่นอน มัสเซต, โกกอล, การ์ชิน รอสซินีต้องทนทุกข์ทรมานจากความคลั่งไคล้การข่มเหง เมื่ออายุ 46 ปี ชูมันน์เสียสติ เขาถูกไล่ตามด้วยการพูดคุยบนโต๊ะด้วยความรอบรู้ Auguste Comte ผู้ก่อตั้งลัทธิมองโลกในแง่ดี ได้รับการรักษาอาการป่วยทางจิตเป็นเวลา 10 ปี และเมื่อเขารู้สึกดีขึ้น เขาก็ขับไล่ภรรยาของเขาออกไปโดยไม่มีเหตุผล ผู้ซึ่งช่วยชีวิตเขาไว้ได้จริงด้วยความเอาใจใส่อย่างอ่อนโยนของเธอ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นักวัตถุนิยม Comte ประกาศตัวว่าเป็นอัครสาวกและรัฐมนตรีกระทรวงศาสนา ครั้งหนึ่ง Tasso คว้ามีดและรีบวิ่งไปหาคนรับใช้ภายใต้อิทธิพลของภาพหลอน สวิฟต์ทำนายความวิกลจริตในอนาคตของเขาในวัยหนุ่มแล้ว: วันหนึ่งในขณะที่เดินไปกับจุงเขาเห็นต้นเอล์มซึ่งบนยอดนั้นแทบไม่มีใบไม้เลยและพูดว่า: "ฉันจะเริ่มตายในลักษณะเดียวกันจาก ศีรษะ." ในปี ค.ศ. 1745 เขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วยทางจิตโดยสิ้นเชิง นิวตันก็ป่วยเป็นโรคทางจิตเช่นกัน ผู้อ่านจะพบคำอธิบายที่ถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับความเจ็บปวดทางจิตของคนชอบพูดจาในผลงานของรุสโซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหลัง: "คำสารภาพ", "บทสนทนา" และ "การเดินของนักฝันผู้โดดเดี่ยว" ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากความคลั่งไคล้สายลับ ทั้งชีวิตของกวีผู้ยิ่งใหญ่ Lenau ซึ่งเสียชีวิตในโรงพยาบาลจิตเวชนั้นเป็นส่วนผสมของอัจฉริยะและความบ้าคลั่งมาตั้งแต่เด็ก ฮอฟฟ์มันน์ต้องทนทุกข์ทรมานจากการดื่มหนัก การถูกข่มเหง และอาการประสาทหลอน โชเปนเฮาเออร์ก็ทนทุกข์ทรมานจากความคลั่งไคล้การกดขี่ข่มเหงเช่นกัน

อัจฉริยะที่เสียหายทุกคนมีสไตล์พิเศษเป็นของตัวเอง - หลงใหล มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยสีสัน สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจากการยอมรับของพวกเขาเองว่า หลังจากสิ้นสุดความปีติยินดี พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถไม่เพียงแต่ในการแต่งเพลงเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถคิดได้อีกด้วย นิวตันผู้ยิ่งใหญ่ผู้ชั่งน้ำหนักโลกทั้งหมดไม่ได้อยู่ในภาวะวิกลจริตเมื่อเขาตัดสินใจเขียนการตีความ Apocalypse?

เขาถือว่าสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของความผิดปกติของอัจฉริยะที่ลอมโบรโซพิจารณาว่าเป็นการสำแดงที่เกินจริงอย่างยิ่งของสภาวะที่ไม่ต่อเนื่องสองสภาวะ - ความปีติยินดีและความไร้เหตุผล ความตื่นเต้นหรือความเข้มแข็งทางจิตที่ลดลง

ลอมโบรโซตั้งข้อสังเกตว่าความคิดเห็นที่ว่าความเจ็บป่วยทางจิตมักจะมาพร้อมกับลักษณะทางจิตที่อ่อนแอลงนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ในความเป็นจริง ความสามารถทางจิตมักจะได้รับความมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษในคนบ้า และพัฒนาอย่างแม่นยำในช่วงที่เจ็บป่วย

Cesare Lombroso เกิดที่เมืองเวโรนา เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปาดัว เวียนนา และปารีส และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2405 ถึง พ.ศ. 2419 เขาเป็นศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยปาเวีย ในปีพ.ศ. 2414 เขาได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชในเปซาโร ในปี พ.ศ. 2419 เขาได้รับเชิญให้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยตูริน ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และมานุษยวิทยาอาชญากรรม

ในปี พ.ศ. 2419 เขาได้ตีพิมพ์ผลงานของเขาเรื่อง "The Criminal" ซึ่งเขาหยิบยกวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการมีอยู่ของบุคคลประเภทพิเศษที่มีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรมเนื่องจากลักษณะทางชีววิทยาบางอย่าง (การตีตราทางมานุษยวิทยา)

หนังสือ (5)

คุณต้องการที่จะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการค้าประเวณีหรือไม่? ถ้าอย่างนั้นหนังสือ "Woman Criminal and Prostitute" ก็เหมาะสำหรับคุณ! โสเภณีพลเรือน โสเภณีที่มีอัธยาศัยดี การมีภรรยาหลายคน โสเภณีทางศาสนา โสเภณีตามกฎหมาย การค้าประเวณีในเวลาและชนชาติต่างๆ โสเภณีโดยกำเนิด โสเภณีทั่วไป...

เช่นเดียวกับอาชญากรรม การค้าประเวณีเป็นปรากฏการณ์ปกติในชีวิตของประชาชนที่มีอารยธรรมในช่วงรุ่งอรุณของการพัฒนา เช่นเดียวกับที่ขณะนี้อยู่ในชีวิตของคนป่าเถื่อน

ความรักในหมู่คนบ้า

“ในสถิติทางจิตเวช เราสามารถพบจำนวนความบ้าคลั่งจากความรักได้เป็นจำนวนพอสมควร เอสควิโรลพบคนบ้า 1,375 คน 37 คนที่เสียสติเพราะความรัก 18 คนเพราะความหึงหวง และ 146 คนเพราะชีวิตที่เลวทราม

อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าจำนวนความบ้าคลั่งที่แท้จริงจากความรักนั้นน้อยกว่าที่สถิติระบุไว้มาก และแท้จริงแล้ว ตลอดการฝึกฝนอันยาวนานของฉัน ซึ่งในระหว่างนั้นฉันต้องสังเกตคนบ้าหลายพันคน ฉันแทบจะนับกรณีเช่นนี้ไม่ได้เลย”

อนาธิปไตย

หนังสือ "The Anarchists" ก่อให้เกิดการอภิปรายหลักของอาชญาวิทยาสมัยใหม่ - เกี่ยวกับลำดับความสำคัญของปัจจัยทางชีววิทยาและสังคมในพฤติกรรมทางอาญา

หนังสือเล่มนี้มีไว้สำหรับนักศึกษา นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ครูในมหาวิทยาลัยและคณะนิติศาสตร์ ตลอดจนผู้อ่านจำนวนมากที่สนใจปัญหาในการต่อสู้กับอาชญากรรม

อัจฉริยะและความบ้าคลั่ง

ในผลงานที่นำเสนอในคอลเลกชันนี้ Cesare Lombroso พยายามหาคำตอบสำหรับคำถามที่ว่าทำไมคนบางคนถึงชื่นชมความสามารถของตนเอง แม้กระทั่งอัจฉริยะ ในขณะที่คนอื่นๆ ต้องเผชิญกับภาวะสมองเสื่อม ความชั่วร้าย และอาชญากรรม

อาชญากร

นักวิทยาศาสตร์และนักอาชญาวิทยา Cesare Lombroso ลงไปในประวัติศาสตร์ในฐานะผู้เขียนทฤษฎีเกี่ยวกับความโน้มเอียงทางชีวภาพของคนจำนวนหนึ่งในการก่ออาชญากรรม - ทฤษฎีที่วางรากฐานของมานุษยวิทยาอาชญากรรมสมัยใหม่และจิตวิทยาอาชญากรรมในระดับหนึ่ง เนื้อหาที่เป็นข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ที่สุดซึ่งคาดไม่ถึงสำหรับคนอิตาลี ความพิถีพิถันและความพิถีพิถันของชาวเยอรมันอย่างแท้จริงในการจัดระบบข้อมูล และสุดท้ายคือขนาดของการวิจัย - ต้องขอบคุณทั้งหมดนี้ ผลงานของ C. Lombroso ยังคงเป็นที่ต้องการจนถึงทุกวันนี้

สิ่งพิมพ์นี้ประกอบด้วยการศึกษาคลาสสิกของ C. Lombroso - จาก "อาชญากร" ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีมีชื่อเสียงในแวดวงวิชาชีพไปจนถึงงาน "Genius and Insanity" ที่ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลก

ความคิดเห็นของผู้อ่าน

รีดเดอร์1989/ 02/07/2016 ฉันได้ทำการตรวจสอบที่ไม่ถูกต้อง
มีวีรบุรุษหรือคนดีที่มีขากรรไกรใหญ่และมีสันคิ้ว ดังนั้น หากลอมโบรโซถูกจับได้บนเส้นทางแห่งชีวิต แทนที่จะเป็นอาชญากร เขาคงจะแย้งว่ากรามใหญ่และสันคิ้วเป็นลักษณะของคนดีและใจดี

รีดเดอร์1989/ 07/02/2016 ลอมโบรโซเห็นว่าคนร้ายบางคนมีกรามใหญ่และคิ้วหนา และเริ่มโต้เถียงว่าคนที่มีหน้าตาแบบนี้มีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรมมากกว่าคนอื่นๆ เขาจัดการกับอาชญากร เขาเห็นอาชญากร และพูดคุยเกี่ยวกับอาชญากร แต่ฉันแน่ใจว่ามีฮีโร่หลายคนที่เสี่ยงชีวิตและเสียชีวิตเพื่อผู้อื่นในช่วงภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ หรือสงคราม

บางทีถ้าเขาเป็นหมอแนวหน้าในสงคราม เขาคงแย้งว่าคนที่มีกรามใหญ่และคิ้วหนามักจะเป็นวีรบุรุษ