ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน

ราชินีหิมะ

เทพนิยายในเจ็ดเรื่อง

แปลโดยแอนนาและปีเตอร์ แฮนเซน

กระจกเงาและชิ้นส่วนของมัน

เรื่องที่หนึ่ง

เริ่มกันเลย! เมื่อเรามาถึงจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเรา เราจะรู้มากกว่าที่เรารู้ตอนนี้ กาลครั้งหนึ่งมีโทรลล์ตัวหนึ่ง โกรธและดูถูกเหยียดหยาม มันเป็นปีศาจเอง เมื่อเขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาทำกระจกที่ทุกสิ่งที่ดีและสวยงามลดน้อยลงอย่างมาก ในขณะที่ทุกสิ่งที่ไร้ค่าและน่าเกลียดกลับโดดเด่นยิ่งขึ้นและดูแย่ลงไปอีก ภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดดูเหมือนผักโขมต้มอยู่ในนั้น และผู้คนที่ดีที่สุดก็ดูเหมือนคนประหลาดหรือดูเหมือนจะยืนคว่ำและไม่มีพุง! ใบหน้าบิดเบี้ยวจนไม่สามารถจดจำได้ หากใครมีกระหรือไฝบนใบหน้าก็จะกระจายไปทั่วใบหน้า ปีศาจรู้สึกขบขันอย่างมากกับเรื่องทั้งหมดนี้ ความคิดที่ใจดีและเคร่งครัดของมนุษย์สะท้อนอยู่ในกระจกด้วยหน้าตาบูดบึ้งที่ไม่อาจจินตนาการได้ จนโทรลล์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและชื่นชมยินดีกับสิ่งประดิษฐ์ของเขา นักเรียนของโทรลล์ทุกคน - เขามีโรงเรียนเป็นของตัวเอง - พูดคุยเกี่ยวกับกระจกว่าเป็นปาฏิหาริย์

ตอนนี้เท่านั้น” พวกเขากล่าว “เราสามารถเห็นโลกทั้งใบและผู้คนในความสว่างที่แท้จริงของพวกเขา!

และพวกเขาวิ่งไปรอบ ๆ พร้อมกับกระจก ในไม่ช้าก็ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่มีเหลือเพียงคนเดียวที่จะไม่สะท้อนให้เห็นในรูปแบบที่บิดเบี้ยว ในที่สุด พวกเขาต้องการขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อหัวเราะเยาะเหล่าทูตสวรรค์และผู้สร้างเอง ยิ่งสูงขึ้นเท่าไร กระจกก็ยิ่งบิดเบี้ยวและบิดเบี้ยวจากการทำหน้าบูดบึ้งมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาแทบจะไม่สามารถถือมันไว้ในมือได้ แต่แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทันใดนั้นกระจกก็บิดเบี้ยวจนหลุดออกจากมือของพวกเขา บินไปที่พื้นและแตกเป็นชิ้น ๆ อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนของมันนับล้านนับพันล้านชิ้นทำให้เกิดปัญหามากกว่าตัวกระจกเสียอีก บางส่วนมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเม็ดทรายที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกบางครั้งก็ตกไปในสายตาผู้คนและยังคงอยู่ที่นั่น คนที่มีเสี้ยนในดวงตาของเขาเริ่มมองเห็นทุกสิ่งจากภายในสู่ภายนอกหรือสังเกตเห็นเพียงด้านที่ไม่ดีในทุกสิ่งเพราะแต่ละเสี้ยวยังคงรักษาคุณสมบัติที่ทำให้กระจกโดดเด่น สำหรับบางคน เศษกระสุนพุ่งตรงไปที่หัวใจ และนั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด หัวใจกลายเป็นชิ้นน้ำแข็ง ในบรรดาชิ้นส่วนเหล่านี้ยังมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่สามารถแทรกเข้าไปในกรอบหน้าต่างได้ แต่มันก็ไม่คุ้มที่จะมองผ่านหน้าต่างเหล่านี้กับเพื่อนที่ดีของคุณ ในที่สุด ยังมีชิ้นส่วนที่ใช้สำหรับแว่นตาด้วย แต่ปัญหาเดียวก็คือถ้าผู้คนใส่มันเพื่อที่จะมองสิ่งต่าง ๆ และตัดสินพวกมันได้แม่นยำยิ่งขึ้น! และโทรลล์ชั่วร้ายก็หัวเราะจนเขาสะดุ้ง: ความสำเร็จของการประดิษฐ์ของเขาทำให้เขาจั๊กจี้มาก แต่ยังมีเศษกระจกอีกหลายชิ้นที่ปลิวไปทั่วโลก มาฟังกัน!

เด็กชายและเด็กหญิง

ในเมืองใหญ่ซึ่งมีบ้านและผู้คนมากมายซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะสามารถแกะสลักได้แม้แต่พื้นที่เล็กๆ สำหรับสวน และที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ต้องพอใจกับดอกไม้ในร่มในกระถาง ก็มีเด็กยากจนสองคนอาศัยอยู่ แต่พวกเขา มีสวนที่ใหญ่กว่ากระถางต้นไม้ ไม่เกี่ยวกันแต่ก็รักกันเหมือนพี่น้อง พ่อแม่ของพวกเขาอาศัยอยู่ในห้องใต้หลังคาของบ้านที่อยู่ติดกัน หลังคาบ้านเกือบจะชนกันและใต้ขอบหลังคามีรางระบายน้ำซึ่งอยู่ใต้หน้าต่างของห้องใต้หลังคาแต่ละห้อง ดังนั้น ทันทีที่คุณก้าวออกไปนอกหน้าต่างไปยังรางน้ำ คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ที่หน้าต่างของเพื่อนบ้าน

ในฤดูหนาวความสุขนี้หยุดลง: หน้าต่างมักถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายน้ำแข็ง แต่เด็ก ๆ ก็อุ่นเหรียญทองแดงบนเตาแล้วนำไปใช้กับแก้วแช่แข็ง - ทันทีที่รูกลมที่ยอดเยี่ยมละลายและช่องมองภาพที่น่ารักและร่าเริงก็มองออกไป - เด็กชายและเด็กหญิงไคและเกอร์ดาต่างมองจากหน้าต่าง . ในฤดูร้อนพวกเขาพบว่าตัวเองมาเยี่ยมกันด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว แต่ในฤดูหนาวพวกเขาต้องเดินลงไปหลายขั้นก่อน แล้วจึงขึ้นไปตามจำนวนที่เท่ากัน ก้อนหิมะกระพืออยู่ในสนาม ช่างเป็นฤดูร้อนที่วิเศษจริงๆ และอยู่ใต้พุ่มกุหลาบหอมซึ่งดูเหมือนจะเบ่งบานไปตลอดกาล ช่างดีเหลือเกิน! หลังจากนั้นไม่นาน Kai ก็ปรากฏตัวขึ้นในถุงมือขนาดใหญ่โดยมีเลื่อนอยู่ด้านหลัง และตะโกนใส่หูของ Gerda: "พวกเขาอนุญาตให้ฉันขี่ในจัตุรัสขนาดใหญ่กับเด็กผู้ชายคนอื่น!" - และวิ่งหนีไป เขานึกภาพใบหน้าที่ฉลาดและมีเสน่ห์ไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้เธอดูไม่เย็นชาสำหรับเขา เหมือนที่เธอทำครั้งนั้นเมื่อเธอนั่งอยู่นอกหน้าต่างและพยักหน้าให้เขา ตอนนี้เธอดูเหมือนสมบูรณ์แบบสำหรับเขา เขาไม่กลัวเธอเลยและบอกเธอว่าเขารู้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทั้งสี่วิธี และถึงแม้จะเป็นเศษส่วนก็ตาม เขาก็รู้ว่าในแต่ละประเทศมีประชากรและจำนวนประชากรกี่ตารางไมล์ และเธอก็เพียงแต่ยิ้มตอบ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เพียงเล็กน้อยจริงๆ และเขาก็จ้องมองไปที่พื้นที่โปร่งสบายอันไม่มีที่สิ้นสุด ในเวลาเดียวกันนั้น ราชินีหิมะก็บินขึ้นไปพร้อมกับเขาบนเมฆหมอกอันมืดมิด แล้วพวกเขาก็รีบจากไป พายุส่งเสียงหอนและครวญครางราวกับร้องเพลงโบราณ พวกมันบินข้ามป่าไม้และทะเลสาบ ข้ามทะเลและแผ่นดินแข็ง ลมหนาวพัดเบื้องล่าง หมาป่าหอน หิมะเป็นประกาย กาดำบินส่งเสียงกรีดร้อง และเหนือพวกเขามีพระจันทร์ใสดวงใหญ่ส่องแสง ไคมองดูเขาตลอดทั้งคืนในฤดูหนาวอันยาวนาน - ในระหว่างวันเขานอนแทบเท้าของราชินีหิมะ

พ่อแม่แต่ละคนมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ รากและพุ่มกุหลาบเล็ก ๆ งอกขึ้นมา (อันละอัน) อาบด้วยดอกไม้วิเศษ พ่อแม่ต้องวางกล่องเหล่านี้ไว้บนรางน้ำ ดังนั้น จากหน้าต่างหนึ่งไปอีกหน้าต่างหนึ่ง กล่องจึงขยายออกราวกับดอกไม้สองแถว ถั่วห้อยลงมาจากกล่องในมาลัยสีเขียว พุ่มกุหลาบมองเข้าไปในหน้าต่างและพันกิ่งก้านของมัน บางสิ่งเช่นประตูชัยแห่งความเขียวขจีและดอกไม้ได้ก่อตัวขึ้น เนื่องจากกล่องนั้นอยู่สูงมาก และเด็กๆ รู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ปีนขึ้นไป พ่อแม่จึงมักอนุญาตให้เด็กชายและเด็กหญิงไปเยี่ยมกันบนหลังคาและนั่งบนม้านั่งใต้ดอกกุหลาบ และพวกเขามีเกมสนุก ๆ อะไรที่นี่!

สวนดอกไม้ของผู้หญิงที่สามารถแสดงได้

เกิดอะไรขึ้นกับเกอร์ด้าเมื่อไคไม่กลับมา? แล้วเขาไปไหนล่ะ? ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเขาได้ เด็กชายบอกเพียงว่าพวกเขาเห็นเขาผูกเลื่อนของเขากับเลื่อนขนาดใหญ่ที่สวยงาม ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นตรอกและขับออกจากประตูเมือง ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ไหน น้ำตามากมายไหลเพื่อเขา Gerda ร้องไห้อย่างขมขื่นและเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วจมน้ำตายในแม่น้ำที่ไหลออกนอกเมือง วันฤดูหนาวอันมืดมิดลากยาวมาเป็นเวลานาน

เรือถูกพาไปไกลขึ้นเรื่อยๆ เกอร์ด้านั่งเงียบ ๆ สวมถุงน่องเท่านั้น รองเท้าสีแดงของเธอลอยอยู่หลังเรือ แต่ตามเธอไม่ทัน เธอไม่ใช่แม่มดที่ชั่วร้ายและร่ายมนตร์เป็นครั้งคราวเพื่อความสุขของเธอเองเท่านั้น ตอนนี้เธออยากจะเก็บ Gerda ไว้กับเธอจริงๆ เธอจึงเข้าไปในสวน แตะพุ่มกุหลาบทั้งหมดด้วยไม้ของเธอ และขณะที่ดอกกุหลาบบานสะพรั่ง ดอกกุหลาบทั้งหมดก็ลึกลงไปในดิน และไม่มีร่องรอยเหลืออยู่เลย หญิงชรากลัวว่าเมื่อเห็นดอกกุหลาบ Gerda จะจำเธอได้ แล้วเกี่ยวกับ Kai และจะวิ่งหนีจากเธอ ฟังเสียงร้องคร่ำครวญของผู้หญิง! ฟังเสียงกรีดร้องของเหล่านักบวช!.. หญิงม่ายชาวฮินดูสวมเสื้อคลุมยาวสีแดงยืนอยู่บนเสาเข็ม เปลวไฟกลืนกินเธอและร่างของสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอคิดถึงเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ - เกี่ยวกับเขา ซึ่งการจ้องมองที่แผดเผาหัวใจของเธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าเปลวไฟที่จะเผาร่างกายของเธอในตอนนี้ เปลวไฟแห่งใจจะดับลงในเปลวเพลิงได้หรือ? - เกอร์ด้ากล่าว “ระฆังของคุณก็กลิ่นแรงเหมือนกัน!.. ตอนนี้ฉันไม่สามารถเอาผู้หญิงที่ตายไปแล้วออกไปจากหัวของฉันได้!” อ้าว ไคก็ตายจริงด้วยเหรอ? แต่ดอกกุหลาบอยู่ใต้ดินและพวกเขาบอกว่าเขาไม่อยู่ที่นั่น! - ใช่ ฉันไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก! - เกอร์ด้ากล่าว - ไม่มีอะไรจะบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้!

แต่แล้วฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมา

- ไคตายแล้วและจะไม่กลับมา! - เกอร์ด้ากล่าว

Gerda ต้องนั่งลงเพื่อพักผ่อนอีกครั้ง อีกาตัวใหญ่กำลังกระโดดขึ้นไปบนหิมะตรงหน้าเธอ เขามองไปที่หญิงสาวเป็นเวลานาน พยักหน้าให้เธอ และในที่สุดก็พูดว่า: "คาร์-คาร์!" สวัสดี! เขาไม่สามารถออกเสียงสิ่งนี้ได้ชัดเจนไปกว่านี้อย่างมนุษย์ปุถุชน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาอวยพรให้หญิงสาวสบายดีและถามเธอว่าเธอเดินไปรอบโลกเพียงลำพังที่ไหน? เกอร์ดาเข้าใจคำว่า "คนเดียว" อย่างสมบูรณ์แบบและสัมผัสได้ถึงความหมายที่สมบูรณ์ในทันที หลังจากเล่าให้นกกาฟังมาทั้งชีวิต เด็กหญิงก็ถามว่าเห็นไก่ไหม? ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในวังเป็นฝูง เกิดการแตกตื่นและแตกตื่น แต่ไม่มีอะไรเลยในวันแรกหรือวันที่สอง บนถนน คู่ครองทุกคนพูดจาไพเราะ แต่ทันทีที่พวกเขาข้ามธรณีประตูพระราชวัง เห็นทหารยามทุกคนในชุดเงิน และทหารราบในชุดทองคำ และเข้าไปในห้องโถงใหญ่อันเต็มไปด้วยแสงสว่าง พวกเขาก็ผงะไป พวกเขาจะเข้าใกล้บัลลังก์ที่เจ้าหญิงนั่งอยู่ และพวกเขาจะพูดเพียงคำพูดสุดท้ายของเธอ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย! จริงๆ แล้วพวกเขาทุกคนถูกยาเสพติดอย่างแน่นอน! และเมื่อออกจากประตูเมืองแล้ว พวกเขาก็ได้รับพรสวรรค์ในการพูดอีกครั้ง เจ้าบ่าวหางยาวทอดยาวจากประตูสู่ประตูพระราชวัง ฉันอยู่ที่นั่นและเห็นมันเอง! เจ้าบ่าวต่างหิวและกระหายน้ำ แต่ไม่ได้รับน้ำจากพระราชวังแม้แต่แก้วเดียว จริงอยู่ที่คนที่ฉลาดกว่าตุนแซนด์วิชไว้ แต่คนประหยัดไม่แบ่งปันกับเพื่อนบ้านอีกต่อไปโดยคิดกับตัวเองว่า: "ปล่อยให้พวกเขาอดอยากและผอมแห้ง - เจ้าหญิงจะไม่รับพวกเขา!" - นั่นคือความกลัว! - เกอร์ด้ากล่าว - ไคยังแต่งงานกับเจ้าหญิงอยู่หรือเปล่า? คุณต้องการที่จะเอาตะเกียงและฉันจะไปข้างหน้า? เราจะตรงไป - เราจะไม่เจอใครที่นี่!

วันรุ่งขึ้นพวกเขาแต่งกายให้เธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยผ้าไหมและกำมะหยี่ และอนุญาตให้เธออยู่ในวังได้นานเท่าที่เธอต้องการ เด็กผู้หญิงสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขที่นี่ได้ตลอดไป แต่เธอพักอยู่เพียงไม่กี่วันและเริ่มขอรถเข็นพร้อมม้าและรองเท้าคู่หนึ่ง - เธอต้องการออกไปตามหาพี่ชายที่สาบานของเธอทั่วโลกอีกครั้ง

เธอได้รับรองเท้า ผ้าปิดปาก และชุดที่สวยงาม และเมื่อเธอกล่าวคำอำลากับทุกคน รถม้าสีทองที่มีตราอาร์มของเจ้าชายและเจ้าหญิงส่องแสงราวกับดวงดาวขับขึ้นไปที่ประตู คนขับรถม้า ทหารราบ และตำแหน่ง - เธอได้รับตำแหน่งด้วย - มีมงกุฎทองคำอันเล็ก ๆ บนศีรษะ เจ้าชายและเจ้าหญิงเองก็นั่งเกร์ดาในรถม้าและอวยพรให้เธอเดินทางอย่างมีความสุข นกกาป่าซึ่งแต่งงานแล้วได้ร่วมเดินทางไปกับหญิงสาวเป็นระยะทางสามไมล์แรกและนั่งในรถม้าข้างๆ เธอ - เขาไม่สามารถขี่หลังม้าได้ อีกาเชื่องนั่งอยู่บนประตูและกระพือปีก เธอไม่ได้ไปเยี่ยมเกอร์ดาเพราะเธอปวดหัวตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งที่ศาลและกินมากเกินไป รถม้าเต็มไปด้วยเพรทเซลน้ำตาล และกล่องใต้เบาะก็เต็มไปด้วยผลไม้และขนมปังขิง

-- ลาก่อน! ลาก่อน! - เจ้าชายและเจ้าหญิงตะโกน

Gerda ขับรถเข้าไปในป่าอันมืดมิด แต่รถม้าก็ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์และดึงดูดสายตาของพวกโจรทันที พวกเขาทนไม่ไหวและบินไปหาเธอตะโกน: "ทอง! ทอง!" - พวกเขาจับบังเหียนม้า ฆ่าจ๊อกกี้ คนขับรถม้า และคนรับใช้ และดึงเกอร์ดาออกจากรถม้า ชั้นบนมีนกพิราบมากกว่าร้อยตัวเกาะเกาะอยู่ ดูเหมือนพวกเธอทุกคนจะหลับใหล แต่เมื่อสาวๆ เข้ามาใกล้ พวกเธอก็ขยับเล็กน้อย โจรตัวน้อยมอง Gerda อย่างจริงจัง พยักหน้าแล้วพูดว่า: "เอาล่ะ!.. คุณรู้ไหมว่า Lapland อยู่ที่ไหน" จากนั้นเธอก็ถามกวางเรนเดียร์ - ดูสิว่ามันไหม้แค่ไหน!

Gerda เริ่มร้องไห้ อีกาก็ร้องไห้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงขับรถไปสามไมล์แรก นกกาบอกลาหญิงสาวที่นี่ เป็นการจากกันที่ยากลำบาก! อีกาบินขึ้นไปบนต้นไม้แล้วกระพือปีกสีดำของมันจนรถม้าที่ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์หายไปจากสายตา

ร็อบเบิร์กตัวน้อย

กวางมาหยุดอยู่ที่กระท่อมอันน่าสังเวช หลังคาพังลงถึงพื้น และประตูก็ต่ำมากจนคนต้องคลานผ่านทั้งสี่ด้าน ที่บ้านมีหญิงชราชาวแลปแลนเดอร์กำลังทอดปลาด้วยแสงตะเกียงอ้วนๆ กวางเรนเดียร์เล่าเรื่องทั้งหมดของเกอร์ดาให้แลปแลนเดอร์ฟัง แต่ก่อนอื่นเขาเล่าเรื่องของเขาเองก่อน - ดูเหมือนมันจะสำคัญกว่ามากสำหรับเขา Gerda รู้สึกชามากจนเธอพูดไม่ออก

ที่บ้านเธอร้อน! เดทกับตัวเอง สาวร่างเตี้ย สกปรก เดินเปลือยครึ่งตัว เธอรีบถอดชุด ถุงมือ และรองเท้าบู๊ตของ Gerda ออกอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นหญิงสาวจะร้อนเกินไป เอาน้ำแข็งวางบนหัวกวางแล้วเริ่มอ่านสิ่งที่เขียนไว้บนปลาคอดแห้ง เธออ่านทุกอย่างทีละคำสามครั้งจนกระทั่งเธอจำได้ จากนั้นเธอก็ใส่ปลาค็อดลงในหม้อซุป เพราะปลายังกินได้ดีอยู่ และวันที่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอะไรเลย - Gerda ตะโกนพบว่าตัวเองหนาวเหน็บ

- โอ้เจ้าสิ่งที่น่าสงสาร! - แลปแลนเดอร์กล่าว - คุณยังมีหนทางอีกยาวไกล! คุณจะต้องเดินทางเป็นระยะทางร้อยไมล์ก่อนที่คุณจะไปถึงฟินแลนด์ ที่ซึ่งราชินีหิมะอาศัยอยู่ในบ้านในชนบทของเธอ และจะจุดประกายไฟสีฟ้าทุกเย็น ฉันจะเขียนคำสองสามคำบนปลาคอดแห้ง - ฉันไม่มีกระดาษและคุณจะนำไปเดทซึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่เหล่านั้นและจะสามารถสอนคุณได้ดีกว่าฉันว่าต้องทำอะไร

เมื่อเกอร์ดาอุ่นเครื่อง กิน และดื่มแล้ว เจ้าแลปแลนเดอร์ก็เขียนคำสองสามคำลงบนปลาค็อดแห้ง และบอกให้เกอร์ดาดูแลมันให้ดี จากนั้นจึงมัดหญิงสาวไว้ที่หลังกวาง แล้วมันก็วิ่งออกไปอีกครั้ง ท้องฟ้าระเบิดอีกครั้งและโยนเสาเปลวไฟสีน้ำเงินอันน่าอัศจรรย์ออกมา ดังนั้นกวางและเกอร์ดาจึงวิ่งไปที่ฟินแลนด์และเคาะปล่องไฟของเดทนั้น - มันไม่มีประตูด้วยซ้ำ

Gerda เริ่มอ่าน "พ่อของเรา"; มันหนาวมากจนลมหายใจของหญิงสาวกลายเป็นหมอกหนาทันที หมอกนี้หนาขึ้นและหนาขึ้น แต่เทวดาตัวน้อยที่สดใสก็เริ่มโดดเด่นขึ้นมาซึ่งเมื่อเหยียบลงไปบนพื้นก็เติบโตขึ้นเป็นเทวดาตัวใหญ่ที่น่าเกรงขามโดยมีหมวกกันน็อคอยู่บนหัวและมีหอกและโล่อยู่ในมือ จำนวนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกอร์ดาสวดภาวนาเสร็จ กองทัพทั้งกองก็ก่อตัวล้อมรอบเธอแล้ว เหล่าทูตสวรรค์จับสัตว์ประหลาดหิมะไว้บนหอก และพวกมันก็พังทลายเป็นพันชิ้น ตอนนี้ Gerda สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างกล้าหาญ: เหล่านางฟ้าลูบแขนและขาของเธอ และเธอก็ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป ในที่สุด เด็กสาวก็มาถึงวังของราชินีหิมะ

กำแพงวังของราชินีหิมะเกิดจากพายุหิมะ หน้าต่างและประตูได้รับความเสียหายจากลมแรง ห้องโถงขนาดใหญ่หลายร้อยห้องที่สว่างไสวด้วยแสงเหนือทอดยาวทีละห้อง ใหญ่ที่สุดทอดยาวหลายไมล์ ช่างหนาวเหน็บ ช่างร้างเหลือเกินในวังสีขาวที่ส่องประกายระยิบระยับเหล่านี้! ความสนุกไม่เคยมาที่นี่! ถ้าเพียงบางโอกาสเท่านั้นที่จะมีงานเลี้ยงหมีพร้อมเต้นรำไปกับเสียงเพลงของพายุ โดยหมีขั้วโลกจะโดดเด่นด้วยความสง่างามและความสามารถในการเดินด้วยขาหลังของมัน หรือจะเล่นไพ่ขึ้นมาด้วย ทะเลาะวิวาทและทะเลาะกันหรือในที่สุดพวกเขาก็ตกลงที่จะคุยเรื่องกาแฟสักแก้วเรื่องซุบซิบชานเทอเรลสีขาว - ไม่ไม่เคยและไม่มีอะไรเลย! หนาวร้างตาย! แสงเหนือส่องประกายและแผดเผาสม่ำเสมอจนสามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำว่าแสงจะเข้มขึ้นในนาทีใดและจะอ่อนลงเมื่อใด กลางห้องโถงร้างที่เต็มไปด้วยหิมะที่ใหญ่ที่สุดมีทะเลสาบน้ำแข็งอยู่ น้ำแข็งแตกออกเป็นชิ้นๆ หลายพันชิ้น สม่ำเสมอและสม่ำเสมออย่างน่าอัศจรรย์ ชิ้นหนึ่งเหมือนกัน กลางทะเลสาบมีบัลลังก์ของราชินีหิมะตั้งอยู่ เธอนั่งบนนั้นเมื่ออยู่ที่บ้านโดยบอกว่าเธอนั่งอยู่บนกระจกแห่งจิตใจ ในความเห็นของเธอ มันเป็นกระจกบานเดียวและดีที่สุดในโลก

ตอนนี้ฉันจะบินไปยังดินแดนอันอบอุ่น! - ราชินีหิมะกล่าว - ฉันจะดูหม้อต้มสีดำ! คู่รักกวางเรนเดียร์ยังร่วมเดินทางไปกับนักเดินทางรุ่นเยาว์จนถึงชายแดนแลปแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่พื้นที่สีเขียวแห่งแรกได้ทะลุผ่านไปแล้ว ที่นี่ Kai และ Gerda กล่าวคำอำลากับกวางและ Laplander

ไคกลายเป็นสีฟ้าสนิท เกือบจะดำคล้ำเพราะความเย็น แต่ไม่ได้สังเกตเลย การจูบของราชินีหิมะทำให้เขาไม่รู้สึกต่อความหนาวเย็น และหัวใจของเขาก็กลายเป็นน้ำแข็งก้อนหนึ่ง ไคปรับแต่งแผ่นน้ำแข็งทรงแหลมแบนๆ โดยจัดเรียงมันไว้ในรูปแบบต่างๆ มีเกมดังกล่าว - พับร่างจากแผ่นไม้ซึ่งเรียกว่าปริศนาจีน ไคยังรวบรวมร่างที่ซับซ้อนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แต่มาจากน้ำแข็งลอย และสิ่งนี้เรียกว่าเกมใจน้ำแข็ง ในสายตาของเขา ตัวเลขเหล่านี้เป็นปาฏิหาริย์แห่งศิลปะ และการพับมันเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีกระจกวิเศษชิ้นหนึ่งในดวงตาของเขา! เขารวบรวมคำทั้งหมดจากแผ่นน้ำแข็ง แต่เขาไม่สามารถรวบรวมสิ่งที่เขาต้องการเป็นพิเศษได้: คำว่า "นิรันดร์" ราชินีหิมะบอกเขาว่า: "ถ้าคุณรวมคำนี้เข้าด้วยกัน คุณจะเป็นเจ้านายของคุณเอง และฉันจะมอบโลกทั้งใบและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่ให้คุณ" แต่เขาไม่สามารถรวบรวมมันเข้าด้วยกันได้

แหล่งที่มาของข้อความ: ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน เทพนิยายและเรื่องราว ในสองเล่ม ล: เครื่องดูดควัน วรรณคดี พ.ศ. 2512

>ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน/ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน "ราชินีหิมะ"

เทพนิยายโดย Hans Christian Andersen - ราชินีหิมะ (Snow Queen) เป็นภาษาอังกฤษ

ในเจ็ดเรื่อง,
เรื่องแรก

คุณต้องเริ่มเรื่องราวนี้ก่อน เพราะเมื่อเราดูตอนจบ เราจะรู้มากกว่าตอนนี้เกี่ยวกับฮอบก็อบลินที่ชั่วร้ายมาก เขาเป็นหนึ่งในคนที่เลวร้ายที่สุด เพราะเขาคือปีศาจตัวจริง วันหนึ่ง เมื่อท่านมีอารมณ์ร่าเริง ได้สร้างกระจกมองขึ้นซึ่งมีพลังทำให้ทุกสิ่งดีหรือสวยงามที่สะท้อนอยู่ในนั้นจนแทบจะหดตัวลงจนหมด ส่วนทุกสิ่งที่ไร้ค่าและเลวก็ดูมีขนาดเพิ่มขึ้นและแย่ลงเรื่อยๆ กว่าที่เคย ภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดดูเหมือนผักโขมต้ม และผู้คนก็ซ่อนตัว และดูราวกับว่าพวกเขายืนอยู่บนหัวและไม่มีศพ สีหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวมากจนไม่มีใครจำพวกมันได้ และแม้แต่กระบนใบหน้าก็ปรากฏกระจายไปทั่วจมูกและปาก ปีศาจบอกว่าเรื่องนี้น่าขบขันมาก เมื่อความคิดดีหรืออันธพาลผ่านเข้ามาในจิตใจของผู้ใดก็ถูกบิดเบือนไปในแก้ว แล้วปีศาจก็หัวเราะเยาะสิ่งประดิษฐ์อันชาญฉลาดของเขา ทุกคนที่ไปโรงเรียนของปีศาจ เพราะเขาพูดคุยในโรงเรียนทุกที่เกี่ยวกับสิ่งมหัศจรรย์ที่พวกเขาได้เห็น และประกาศว่าตอนนี้ผู้คนสามารถดูได้เป็นครั้งแรกว่าโลกและมนุษยชาติเป็นอย่างไร พวกเขาถือแก้วไปทุกที่ จนกระทั่งสุดท้ายก็ไม่มีแผ่นดินหรือผู้คนที่ไม่เคยถูกมองผ่านกระจกที่บิดเบี้ยวนี้ พวกเขาอยากจะบินขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อดูเทวดาด้วยซ้ำ แต่ยิ่งบินสูง แก้วก็ยิ่งลื่น และแทบจะจับมันไว้ไม่ไหว จนในที่สุดมันก็หลุดจากมือของพวกเขาตกลงสู่พื้นโลก แตกเป็นล้านชิ้น แต่บัดนี้กระจกมองนั้นกลับทำให้เกิดความทุกข์มากขึ้นกว่าเดิม เพราะชิ้นส่วนบางชิ้นมีขนาดไม่ใหญ่เท่าเม็ดทราย และพวกมันก็ปลิวไปทั่วโลกไปยังทุกประเทศ เมื่ออะตอมเล็กๆ เหล่านี้บินเข้าไปในดวงตาของบุคคลหนึ่ง มันก็ติดอยู่ที่นั่นโดยที่เขาไม่รู้ และตั้งแต่นั้นมาเขาก็มองเห็นทุกสิ่งผ่านตัวกลางที่บิดเบี้ยว หรือมองเห็นเพียงด้านที่เลวร้ายที่สุดของสิ่งที่เขามอง แม้แต่เศษเล็กเศษน้อยยังคงอยู่ พลังอันเดียวกันซึ่งเป็นของกระจกทั้งบาน บางคนถึงกับมีเศษกระจกมองอยู่ในหัวใจ และนี่เป็นสิ่งที่แย่มาก เพราะหัวใจของพวกเขาเย็นชาเหมือนก้อนน้ำแข็ง บางชิ้นมีขนาดใหญ่มากจนสามารถใช้เป็นบานหน้าต่างได้ มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้าหากมองเพื่อนของเราผ่านพวกเขา ชิ้นอื่นๆ ถูกนำมาทำเป็นแว่นตา เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวแก่ผู้ที่สวมชุดนี้ เพราะพวกเขาไม่เห็นสิ่งใดถูกหรือยุติธรรมเลย ทั้งหมดนี้ปีศาจชั่วร้ายหัวเราะจนสีข้างของเขาสั่น มันจั๊กจี้เขาจนเห็นความชั่วร้ายที่เขาทำ ยังมีเศษแก้วเล็กๆ อีกหลายชิ้นที่ลอยอยู่ในอากาศ และตอนนี้คุณจะได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนึ่งในนั้น

ซึ่งอธิบายถึงกระจกมองและเศษที่แตกหัก
เรื่องที่สอง:

ในเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนและผู้คน ไม่มีที่ว่างให้ทุกคนมีแม้แต่สวนเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพอใจกับดอกไม้สักสองสามดอกในกระถาง ในเมืองใหญ่แห่งหนึ่งมีเด็กยากจนสองคนอาศัยอยู่ซึ่งมีสวนที่ใหญ่กว่าและดีกว่ากระถางต้นไม้สองสามใบ พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกัน แต่พวกเขาก็รักกันมากเหมือนเคย พ่อแม่ของพวกเขาอาศัยอยู่ตรงข้ามกันในกระท่อมสองชั้น โดยที่หลังคาของบ้านใกล้เคียงยื่นออกไปหากัน และมีท่อประปาวิ่งไปมาระหว่างพวกเขา ในบ้านแต่ละหลังมีหน้าต่างบานเล็กเพื่อให้ใครก็ตามสามารถก้าวข้ามรางน้ำจากหน้าต่างหนึ่งไปอีกหน้าต่างหนึ่งได้ พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้มีกล่องไม้ขนาดใหญ่สำหรับใช้ปลูกสมุนไพรในครัวคนละกล่อง และมีพุ่มกุหลาบเล็กๆ อยู่ในกล่องแต่ละกล่องซึ่งเติบโตอย่างสวยงาม ต่อมาผู้ปกครองได้ตัดสินใจวางกล่องทั้งสองใบนี้พาดผ่านท่อน้ำ โดยให้ยื่นจากหน้าต่างบานหนึ่งไปอีกบานหนึ่ง ดูเหมือนดอกไม้สองฝั่ง ถั่วหวานร่วงหล่นเหนือกล่อง และพุ่มกุหลาบก็แตกกิ่งก้านยาวออกมา ซึ่งถูกฝึกไว้รอบหน้าต่างและรวมตัวกันเกือบเหมือนซุ้มประตูชัยที่ประกอบด้วยใบไม้และดอกไม้ กล่องนั้นอยู่สูงมาก และเด็กๆ รู้ว่าพวกเขาจะต้องไม่ปีนขึ้นไปบนพวกเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้ก้าวออกไปด้วยกันและนั่งบนเก้าอี้เล็กๆ ของพวกเขาใต้พุ่มกุหลาบ หรือเล่นเงียบๆ ในฤดูหนาว ความสุขทั้งหมดนี้ก็สิ้นสุดลง เพราะบางครั้งหน้าต่างก็กลายเป็นน้ำแข็งจนเกินไป แต่แล้วพวกเขาก็อุ่นเพนนีทองแดงบนเตา และถือเพนนีอุ่นๆ ไว้กับบานหน้าต่างที่แช่แข็ง ในไม่ช้าก็จะมีรูกลมเล็กๆ ให้มองลอดได้ และดวงตาที่สดใสอันอ่อนโยนของเด็กชายและเด็กหญิงตัวน้อยก็จะส่องผ่านรูที่หน้าต่างแต่ละบานขณะที่พวกเขามองหน้ากัน ชื่อของพวกเขาคือเคย์และเกอร์ดา ในฤดูร้อนพวกเขาสามารถกระโดดลงจากหน้าต่างด้วยกันได้เพียงครั้งเดียว แต่ในฤดูหนาวพวกเขาต้องขึ้นลงบันไดยาว และออกไปทางหิมะก่อนจึงจะพบกันได้

“ดูฝูงผึ้งสีขาวสิ” วันหนึ่งยายแก่ของเคย์พูดขณะหิมะตก

“พวกมันมีราชินีผึ้งหรือเปล่า?” เด็กน้อยถาม เพราะเขารู้ว่าผึ้งตัวจริงมีราชินี

“แน่ใจว่าพวกเขามี” คุณยายกล่าว “เธอกำลังบินไปที่นั่นซึ่งมีฝูงหนาแน่นที่สุด เธอเป็นตัวใหญ่ที่สุดในจำนวนทั้งหมด และไม่เคยเหลืออยู่บนโลก แต่บินขึ้นไปบนเมฆอันมืดมิด บ่อยครั้งในเวลาเที่ยงคืนเธอจะบินไปตามถนนในเมือง และมองเข้าไปที่หน้าต่าง จากนั้นน้ำแข็งก็แข็งตัวบนบานหน้าต่างเป็นรูปทรงที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งดูเหมือนดอกไม้และปราสาท”

“ใช่ ฉันเคยเห็นพวกเขา” เด็กทั้งสองพูด และพวกเขารู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องจริง

“ราชินีหิมะเข้ามาที่นี่ได้ไหม” ถามสาวน้อย

“ปล่อยให้เธอมาเถอะ” เด็กชายพูด “ฉันจะวางเธอบนเตาแล้วเธอก็จะละลาย”

จากนั้นคุณยายก็หวีผมให้เรียบและเล่านิทานให้เขาฟังอีก เย็นวันหนึ่ง เมื่อเคย์ตัวน้อยอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้แต่งตัวครึ่งหนึ่ง เขาปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างและมองออกไปในรูเล็กๆ เกล็ดหิมะสองสามเกล็ดตกลงมา และหนึ่งในนั้นซึ่งค่อนข้างใหญ่กว่าที่เหลือก็ตกลงไปที่ขอบกล่องดอกไม้ใบหนึ่ง เกล็ดหิมะนี้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดมันก็กลายเป็นร่างของผู้หญิง แต่งกายด้วยผ้ากอซสีขาว ซึ่งดูเหมือนเกล็ดหิมะนับล้านที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เธอเป็นคนยุติธรรมและสวยงาม แต่สร้างจากน้ำแข็งที่ส่องแสงแวววาวและแวววาว เธอยังมีชีวิตอยู่และดวงตาของเธอก็เปล่งประกายราวกับดวงดาวที่สุกใส แต่ไม่มีความสงบสุขหรือการพักผ่อนเลยเมื่อมองดูพวกเขา เธอพยักหน้าไปทางหน้าต่างแล้วโบกมือ เด็กน้อยตกใจจนลุกจากเก้าอี้ ขณะเดียวกันก็ดูราวกับว่ามีนกตัวใหญ่บินเข้ามาทางหน้าต่าง วันรุ่งขึ้นมีน้ำค้างแข็งชัดเจน และในไม่ช้าฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ส่องแสง ใบไม้เขียวอ่อนก็แตกหน่อออกมา นกนางแอ่นสร้างรัง หน้าต่างถูกเปิดออก และเด็กๆ ก็นั่งอีกครั้งในสวนบนหลังคา ซึ่งสูงเหนือห้องอื่นๆ ทั้งหมด ฤดูร้อนนี้ดอกกุหลาบจะบานสะพรั่งสวยงามขนาดไหน เด็กหญิงตัวน้อยได้เรียนรู้บทเพลงที่พูดถึงดอกกุหลาบ แล้วเธอก็คิดถึงดอกกุหลาบของเธอเอง และเธอก็ร้องเพลงสรรเสริญให้เด็กน้อย และเขาก็ร้องเพลงด้วย:-

“ดอกกุหลาบบานและหยุดอยู่

จากนั้นเด็กๆ ก็จับมือกัน และจูบดอกกุหลาบ และมองดูแสงแดดที่สดใส และพูดราวกับว่ามีพระคริสต์อยู่ในนั้น นั่นเป็นวันฤดูร้อนที่ยอดเยี่ยม ช่างสวยงามและสดชื่นเหลือเกินท่ามกลางพุ่มกุหลาบซึ่งดูเหมือนดอกกุหลาบจะไม่มีวันเบ่งบานเลย วันหนึ่งเคย์และเกอร์ดานั่งดูหนังสือที่เต็มไปด้วยภาพสัตว์และนก แล้วพอนาฬิกาบนหอโบสถ์ตีสิบสอง เคย์ก็พูดว่า “โอ้ มีบางอย่างทำให้ฉันใจสั่น!” และไม่นานหลังจากนั้น “มีบางอย่างอยู่ในดวงตาของฉัน”

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เอาแขนของเธอโอบคอของเขาแล้วมองเข้าไปในดวงตาของเขา แต่เธอก็มองไม่เห็นอะไรเลย

“ผมคิดว่ามันหายไปแล้ว” เขากล่าว แต่มันก็ไม่ได้หายไป มันเป็นหนึ่งในเศษของกระจกมอง - กระจกวิเศษที่เราเคยพูดถึงแล้ว - แก้วน่าเกลียดที่ทำให้ทุกสิ่งที่ดีและดีปรากฏเล็กและน่าเกลียด ในขณะที่ทุกสิ่งที่ชั่วร้ายและไม่ดีก็ปรากฏให้เห็นมากขึ้น และทุกสิ่งเล็กน้อย ความผิดก็เห็นได้ชัด เคย์ตัวน้อยผู้น่าสงสารได้รับเม็ดเล็กๆ อยู่ในหัวใจ ซึ่งกลายเป็นก้อนน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป แต่แก้วยังคงอยู่ “ทำไมคุณถึงร้องไห้” ในที่สุดเขาก็พูด; “มันทำให้คุณดูน่าเกลียด ตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน โอ้เห็น!” ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้ว่า “กุหลาบดอกนั้นกินหนอนแล้ว และดอกนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว ท้ายที่สุดแล้วพวกมันก็คือดอกกุหลาบที่น่าเกลียด เหมือนกับกล่องที่วางมันไว้” จากนั้นเขาก็เตะกล่องด้วยเท้าของเขาแล้วดึงดอกกุหลาบสองดอกออกมา

“เคย์ คุณกำลังทำอะไรอยู่” เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ร้องไห้; เมื่อเขาเห็นว่าเธอหวาดกลัวเพียงใด เขาก็ฉีกดอกกุหลาบอีกดอกหนึ่ง และกระโดดผ่านหน้าต่างของตัวเองออกไปจากเกอร์ดาตัวน้อย

เมื่อเธอนำหนังสือภาพออกมาในเวลาต่อมา เขาพูดว่า “มันเหมาะสำหรับเด็กทารกที่สวมชุดยาวเท่านั้น” และเมื่อคุณยายเล่าเรื่องใดๆ เขาจะขัดจังหวะเธอด้วย “แต่” หรือเมื่อเขาจัดการได้ เขาจะนั่งอยู่หลังเก้าอี้ของเธอ สวมแว่นตา และเลียนแบบเธออย่างชาญฉลาดเพื่อทำให้ผู้คนหัวเราะ ทีละน้อยเขาเริ่มเลียนแบบคำพูดและการเดินของผู้คนบนท้องถนน ทุกสิ่งที่แปลกประหลาดหรือไม่ถูกใจในตัวบุคคลที่เขาจะเลียนแบบโดยตรง และผู้คนพูดว่า “เด็กคนนั้นจะฉลาดมาก เขามีอัจฉริยะที่น่าทึ่ง” แต่มันเป็นเศษแก้วในดวงตาของเขา และความเยือกเย็นในใจของเขาที่ทำให้เขาทำแบบนี้ เขาอาจจะแกล้งเกอร์ด้าตัวน้อยที่รักเขาสุดหัวใจด้วยซ้ำ เกมของเขาก็แตกต่างออกไปเช่นกัน พวกเขาไม่ได้เด็กขนาดนั้น วันหนึ่ง ในฤดูหนาว เมื่อหิมะตก เขาก็หยิบแก้วที่กำลังลุกไหม้ออกมา แล้วยื่นหางของเสื้อคลุมสีน้ำเงินออกมา และปล่อยให้เกล็ดหิมะตกลงมาบนนั้น “ดูในแก้วนี้ Gerda” เขากล่าว; และเธอเห็นว่าเกล็ดหิมะทุกเกล็ดขยายใหญ่ขึ้น และดูเหมือนดอกไม้ที่สวยงามหรือดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ “มันไม่ฉลาดเหรอ?” เคย์กล่าวว่า “และน่าสนใจกว่าการดูดอกไม้จริง ๆ มาก” ไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่ประการเดียว และเกล็ดหิมะก็ค่อนข้างสมบูรณ์แบบจนกระทั่งพวกมันเริ่มละลาย”

ไม่นานหลังจากที่เคย์ปรากฏตัวขึ้นโดยสวมถุงมือหนาขนาดใหญ่ และมีเลื่อนอยู่ด้านหลัง เขาเรียกขึ้นบันไดไปหาเกอร์ดา “ฉันต้องออกไปเพื่อเข้าไปในจัตุรัสใหญ่ ที่ซึ่งเด็กผู้ชายคนอื่นๆ เล่นและขี่รถ” และเขาก็จากไป

ในจัตุรัสใหญ่ เด็กผู้ชายที่กล้าหาญที่สุดมักจะผูกเลื่อนไว้กับเกวียนของชาวชนบท และไปในทางที่ดีกับพวกเขา นี่คือเมืองหลวง แต่ในขณะที่พวกเขาทั้งหมดกำลังสนุกสนานและมีเคย์อยู่ด้วย ก็มีเลื่อนขนาดใหญ่ผ่านไปมา มันถูกทาสีขาว และมีคนนั่งอยู่ในนั้นด้วยขนสีขาวหยาบและสวมหมวกสีขาว เลื่อนเลื่อนไปรอบจัตุรัสสองครั้ง และเคย์ก็ยึดเลื่อนเลื่อนเล็ก ๆ ของเขาไว้แน่น เพื่อว่าเมื่อมันจากไปแล้วเขาก็ตามไปด้วย มันผ่านไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผ่านถนนถัดไป จากนั้นคนที่ขับรถไปรอบๆ และพยักหน้าอย่างยินดีให้เคย์ราวกับว่าพวกเขารู้จักกัน แต่เมื่อเคย์ต้องการจะคลายเลื่อนเล็ก ๆ ของเขา คนขับก็พยักหน้าอีกครั้ง ดังนั้นเคย์จึงเคย์ นั่งนิ่งอยู่ก็ขับออกไปทางประตูเมือง จากนั้นหิมะก็เริ่มตกหนักมากจนเด็กน้อยไม่สามารถมองเห็นความกว้างของมือเบื้องหน้าได้ แต่พวกเขาก็ยังคงขับรถต่อไป ทันใดนั้นเขาก็คลายเชือกออกเพื่อที่เลื่อนขนาดใหญ่จะดำเนินต่อไปโดยไม่มีเขา แต่ก็ไม่มีประโยชน์ รถม้าเล็ก ๆ ของเขาถูกยึดไว้แน่นแล้วมันก็หายไปราวกับสายลม จากนั้นเขาก็ร้องเสียงดัง แต่ไม่มีใครได้ยิน ขณะที่หิมะก็ซัดมาทับเขา และเลื่อนก็บินต่อไป บางครั้งมันก็กระโดดราวกับว่ามันกำลังข้ามพุ่มไม้และคูน้ำ เด็กชายตกใจกลัวและพยายามจะสวดมนต์ แต่เขาจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากตารางสูตรคูณ

เกล็ดหิมะก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนไก่สีขาวตัวใหญ่ พวกมันกระโจนไปข้างหนึ่งทันที เลื่อนใหญ่หยุด และคนที่ขับเลื่อนก็ลุกขึ้น ขนและหมวกซึ่งทำมาจากหิมะทั้งตัวร่วงหล่นลงมา และเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งตัวสูงและขาว นั่นคือราชินีหิมะ

“เราขับได้ดี” เธอกล่าว “แต่ทำไมเธอถึงตัวสั่นล่ะ? ที่นี่คืบคลานเข้าไปในขนอันอบอุ่นของฉัน” จากนั้นเธอก็นั่งเขาบนเลื่อนหิมะข้างเธอ และในขณะที่เธอพันขนรอบตัวเขา เขาก็รู้สึกราวกับว่าเขากำลังจมลงไปในกองหิมะ

“คุณยังหนาวอยู่หรือเปล่า” เธอถามขณะจูบเขาที่หน้าผาก จูบนั้นเย็นกว่าน้ำแข็ง มันทะลุเข้าไปในหัวใจของเขา ซึ่งเกือบจะกลายเป็นก้อนน้ำแข็งอยู่แล้ว เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะตาย แต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น ในไม่ช้าเขาก็ดูค่อนข้างดีอีกครั้ง และไม่สังเกตเห็นความหนาวเย็นรอบตัวเขา

“เลื่อนของฉัน! อย่าลืมเลื่อนของฉัน” เป็นความคิดแรกของเขา จากนั้นเขาก็มองดูและเห็นว่ามันถูกมัดไว้อย่างแน่นหนากับไก่สีขาวตัวหนึ่งซึ่งบินอยู่ข้างหลังเขาโดยมีเลื่อนอยู่ด้านหลัง ราชินีหิมะจูบเคย์ตัวน้อยอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลานี้เขาก็ลืมเกอร์ดา ยายของเขา และทุกอย่างที่บ้านไปหมดแล้ว

“ตอนนี้คุณต้องไม่มีการจูบอีกต่อไป” เธอพูด “หรือฉันควรจะจูบคุณจนตาย”

เคย์มองดูเธอและเห็นว่าเธอสวยมาก เขานึกภาพใบหน้าที่น่ารักและฉลาดไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนเธอไม่ได้ทำจากน้ำแข็งเหมือนอย่างตอนที่เขาเห็นเธอผ่านหน้าต่าง และเธอก็พยักหน้าให้เขา ในสายตาของเขาเธอสมบูรณ์แบบ และเธอไม่รู้สึกกลัวเลย เขาบอกเธอว่าเขาสามารถคำนวณทางจิตได้จนถึงเศษส่วน และเขารู้จำนวนตารางไมล์และจำนวนผู้อยู่อาศัยในประเทศ และเธอก็ยิ้มอยู่เสมอจนเขาคิดว่าเขายังไม่รู้มากพอ และเธอมองไปรอบๆ พื้นที่อันกว้างใหญ่ขณะที่เธอบินสูงขึ้นเรื่อยๆ ไปกับเขาบนเมฆสีดำ ขณะที่พายุพัดและส่งเสียงหอนราวกับว่ากำลังร้องเพลงเก่าๆ พวกมันบินข้ามป่าไม้และทะเลสาบ ข้ามทะเลและบก ด้านล่างมีลมแรงพัดคำราม หมาป่าส่งเสียงหอนและหิมะก็แตก อีกาดำกรีดร้องเหนือพวกมัน และเหนือสิ่งอื่นใดก็ส่องแสงดวงจันทร์ ชัดเจนและสว่างไสว เคย์จึงเดินทางผ่านค่ำคืนอันยาวนานของฤดูหนาว และในเวลากลางวันเขาก็นอนแทบเท้าของราชินีหิมะ

เรื่องที่สาม:
สวนดอกไม้ของผู้หญิงที่สามารถเสกสรรได้

แต่ Gerda ตัวน้อยมีอาการอย่างไรในช่วงที่ Kay ไม่อยู่? เกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลได้แม้แต่น้อย ยกเว้นเด็ก ๆ ที่บอกว่าเขาผูกเลื่อนไว้กับอันใหญ่มากอีกอันหนึ่งซึ่งแล่นไปตามถนนและออกไปที่ประตูเมือง . ไม่มีใครรู้ว่ามันไปที่ไหน น้ำตามากมายหลั่งไหลเพื่อเขาและเกอร์ด้าตัวน้อยก็ร้องไห้อย่างขมขื่นเป็นเวลานาน เธอบอกว่าเธอรู้ว่าเขาต้องตายแล้ว ว่าเขาจมน้ำตายในแม่น้ำที่ไหลใกล้โรงเรียน โอ้ วันอันยาวนานในฤดูหนาวนั้นช่างน่าเศร้าจริงๆ แต่ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึงพร้อมกับแสงแดดอันอบอุ่น “เคย์ตายแล้ว” เกอร์ดาตัวน้อยกล่าว

“ฉันไม่เชื่อ” แสงตะวันกล่าว

“เขาตายไปแล้ว” เธอพูดกับนกกระจอก

“เราไม่เชื่อ” พวกเขาตอบ และในที่สุดเกอร์ด้าตัวน้อยก็เริ่มสงสัยในตัวเอง “ฉันจะสวมรองเท้าสีแดงคู่ใหม่” เธอกล่าวในเช้าวันหนึ่ง “คนที่เคย์ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วฉันจะลงไปที่แม่น้ำและถามเขา” มันค่อนข้างเร็วเมื่อเธอจูบคุณย่าแก่ซึ่งยังหลับอยู่ จากนั้นเธอก็สวมรองเท้าสีแดงและออกไปตามลำพังออกจากประตูเมืองไปทางแม่น้ำ “เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าที่คุณพรากเพื่อนเล่นตัวน้อยของฉันไปจากฉัน” เธอพูดกับแม่น้ำ “ฉันจะให้รองเท้าสีแดงของฉันแก่คุณ หากคุณจะคืนเขาให้ฉัน” และดูเหมือนคลื่นจะพยักหน้าให้เธอด้วยท่าทีแปลกๆ แล้วเธอก็ถอดรองเท้าสีแดงที่เธอชอบมากกว่าสิ่งอื่นใดออก แล้วโยนทั้งคู่ลงแม่น้ำ แต่ทั้งสองก็ตกลงไปใกล้ฝั่ง และคลื่นเล็กๆ ก็พัดพาพวกเขากลับคืนสู่พื้นดิน ราวกับว่าแม่น้ำไม่รับ จากสิ่งที่เธอรักที่สุดเพราะพวกเขาไม่สามารถคืนเคย์ตัวน้อยให้เธอได้ แต่เธอคิดว่ารองเท้ายังถูกโยนออกไปไกลไม่พอ นางจึงย่องลงเรือซึ่งอยู่ท่ามกลางต้นอ้อ และโยนรองเท้าจากปลายเรือลงไปในน้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้ผูกไว้ และการเคลื่อนไหวของเธอทำให้มันร่อนออกไปจากแผ่นดิน เมื่อเธอเห็นสิ่งนี้ เธอก็รีบไปถึงปลายเรือ แต่ก่อนที่เธอจะทำได้ เรือก็อยู่ห่างจากฝั่งมากกว่าหนึ่งหลา และล่องลอยออกไปเร็วกว่าที่เคย เกอร์ดาตัวน้อยตกใจมากและเริ่มร้องไห้ แต่ไม่มีใครได้ยินเธอนอกจากนกกระจอก และพวกมันก็อุ้มเธอขึ้นฝั่งไม่ได้ แต่พวกมันก็บินไปตามฝั่งแล้วร้องเพลงราวกับจะปลอบใจเธอว่า “นี่ เราเป็น! นี่เรา!” เรือแล่นไปตามกระแสน้ำ เกอร์ดาตัวน้อยนั่งนิ่งโดยมีเพียงถุงน่องวางอยู่บนเท้า รองเท้าสีแดงลอยตามเธอไป แต่เธอเอื้อมไม่ถึงเพราะเรือแล่นล่วงหน้ามาก ริมฝั่งแม่น้ำแต่ละฝั่งก็สวยมาก มีดอกไม้งาม ต้นไม้เก่าแก่ ทุ่งลาด มีวัวและแกะกินหญ้า แต่ไม่มีคนให้เห็น บางทีแม่น้ำอาจพาฉันไปที่เคย์ตัวน้อย Gerda คิดแล้วเธอก็ร่าเริงมากขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองดูชายฝั่งสีเขียวที่สวยงาม เรือจึงแล่นต่อไปหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็มาถึงสวนเชอร์รี่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีบ้านสีแดงเล็กๆ หลังหนึ่งที่มีหน้าต่างสีแดงและสีน้ำเงินแปลกตา มันมีหลังคามุงจากด้วย และด้านนอกก็มีทหารไม้สองคนที่ยื่นแขนให้เธอขณะที่เธอแล่นผ่านไป เกอร์ดาตะโกนเรียกพวกเขาเพราะเธอคิดว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ตอบ และเมื่อเรือแล่นเข้ามาใกล้ฝั่งมากขึ้น เธอก็ได้เห็นว่าจริงๆ แล้วเรือเหล่านั้นเป็นอย่างไร จากนั้นเกอร์ดาก็ร้องเสียงดังขึ้น และมีหญิงชราคนหนึ่งออกมาจากบ้านโดยพิงไม้ค้ำยัน เธอสวมหมวกใบใหญ่เพื่อบังแดด และบนหมวกก็มีการทาสีดอกไม้สวย ๆ นานาชนิด “เจ้าเด็กน้อยผู้น่าสงสาร” หญิงชรากล่าว “เจ้ามาอยู่ไกลขนาดนี้มาสู่โลกกว้างบนกระแสน้ำเชี่ยวกรากเช่นนี้ได้อย่างไร” จากนั้นหญิงชราก็เดินลงไปในน้ำ คว้าเรือด้วยไม้ยันรักแร้ ลากเรือขึ้นฝั่ง แล้วอุ้มเกอร์ดาออกมา และเกอร์ดาดีใจที่ได้สัมผัสตัวเองบนพื้นแห้ง แม้ว่าเธอจะค่อนข้างกลัวหญิงชราแปลกหน้าก็ตาม “มาบอกฉันสิว่าคุณเป็นใคร” เธอพูด “แล้วคุณมาที่นี่ทำไม”

จากนั้นเกอร์ดาก็เล่าทุกอย่างให้เธอฟัง ในขณะที่หญิงชราส่ายหัวแล้วพูดว่า "เฮมเฮม" และเมื่อเธอทำเสร็จแล้ว Gerda ก็ถามว่าเธอไม่เห็นเคย์ตัวน้อยหรือเปล่า และหญิงชราก็บอกเธอว่าเขาไม่ได้ผ่านทางนั้น แต่เขาน่าจะมามาก ดังนั้นเธอจึงบอกเกอร์ดาว่าอย่าเศร้าโศก แต่ให้ชิมเชอร์รี่และชมดอกไม้ ดีกว่าหนังสือภาพใดๆ เพราะแต่ละเล่มสามารถเล่าเรื่องได้ จากนั้นเธอก็จับมือเกอร์ดาแล้วพาเธอเข้าไปในบ้านหลังเล็ก ๆ แล้วหญิงชราก็ปิดประตู หน้าต่างอยู่สูงมาก และเนื่องจากบานหน้าต่างเป็นสีแดง น้ำเงิน และเหลือง แสงกลางวันก็ส่องผ่านหน้าต่างเหล่านั้นเป็นสีเดียวทุกประเภท บนโต๊ะมีเชอร์รี่สวยงามวางอยู่ และเกอร์ดาก็ได้รับอนุญาตให้กินได้มากเท่าที่เธอต้องการ ขณะที่เธอกำลังกินพวกมัน หญิงชราก็หวีผมลอนยาวที่ทำจากผ้าลินินด้วยหวีสีทอง และผมหยิกมันแวววาวห้อยลงมาในแต่ละด้านของใบหน้ากลมเล็กๆ ที่ดูสวยงาม ซึ่งดูสดชื่นและเบ่งบานดุจดอกกุหลาบ “ฉันปรารถนาสาวน้อยที่รักเช่นคุณมานานแล้ว” หญิงชรากล่าว “และตอนนี้คุณต้องอยู่กับฉัน และดูว่าเราจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแค่ไหน” และในขณะที่เธอหวีผมของเกอร์ดาตัวน้อย เธอก็คิดถึงเคย์ น้องชายบุญธรรมของเธอน้อยลงเรื่อยๆ เพราะหญิงชราสามารถเสกสรรได้ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่แม่มดที่ชั่วร้ายก็ตาม เธอเสกสรรเพียงเล็กน้อยเพื่อความบันเทิงของเธอเอง และตอนนี้ เพราะเธอต้องการเก็บเกอร์ดาไว้ นางจึงเข้าไปในสวนและยื่นไม้ยันรักแร้ไปทางต้นกุหลาบทั้งต้นที่มีความสวยงาม และพวกเขาก็จมลงในโลกมืดทันทีจนไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าครั้งหนึ่งพวกเขาอยู่ที่ไหน หญิงชรากลัวว่าถ้าเกอร์ดาตัวน้อยเห็นดอกกุหลาบ เธอจะนึกถึงดอกกุหลาบที่บ้าน แล้วนึกถึงเคย์ตัวน้อยแล้ววิ่งหนีไป จากนั้นเธอก็พาเกอร์ดาเข้าไปในสวนดอกไม้ มันช่างหอมและสวยงามขนาดไหน! ดอกไม้ทุกดอกที่สามารถนึกถึงได้ในทุกฤดูกาลของปีกำลังบานสะพรั่งอยู่ที่นี่ ไม่มีหนังสือภาพใดที่สามารถมีสีสันที่สวยงามได้มากกว่านี้ Gerda กระโดดด้วยความดีใจ และเล่นจนพระอาทิตย์ตกดินหลังต้นซากุระสูง จากนั้นเธอก็นอนบนเตียงหรูหราพร้อมหมอนผ้าไหมสีแดงปักด้วยสีม่วง แล้วเธอก็ฝันดีเหมือนราชินีในวันแต่งงานของเธอ วันรุ่งขึ้น และหลายวันหลังจากนั้น Gerda เล่นกับดอกไม้ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น เธอรู้จักดอกไม้ทุกดอก แต่ถึงแม้จะมีอยู่มากมาย แต่ก็ดูเหมือนดอกไม้หายไปหนึ่งดอก แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นดอกไม้ชนิดใด อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง ขณะที่เธอนั่งมองหมวกของหญิงชราที่มีดอกไม้วาดอยู่ เธอเห็นว่าหมวกที่สวยที่สุดคือดอกกุหลาบ หญิงชราลืมที่จะหยิบมันออกจากหมวกของเธอเมื่อเธอทำให้ดอกกุหลาบทั้งหมดจมลงสู่ดิน แต่มันยากที่จะรวบรวมความคิดไว้ด้วยกันในทุกสิ่ง ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เพียงครั้งเดียวทำให้การจัดการทั้งหมดของเราแย่ลง

“อะไรนะ ที่นี่ไม่มีดอกกุหลาบเหรอ?” เกอร์ด้าร้องไห้; แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปในสวนและสำรวจเตียงทั้งหมดแล้วค้นหาและค้นหา ไม่พบหนึ่ง จากนั้นเธอก็นั่งลงและร้องไห้ และน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาตรงจุดที่ต้นกุหลาบต้นหนึ่งร่วงหล่นลงมา น้ำตาอันอบอุ่นทำให้แผ่นดินเปียกชื้น และต้นกุหลาบก็งอกขึ้นมาในทันที บานสะพรั่งราวกับตอนที่มันจมลง เกอร์ดากอดมันและจูบดอกกุหลาบ และนึกถึงดอกกุหลาบแสนสวยที่บ้านและคิดถึงเคย์ตัวน้อยด้วย

“โอ้ ฉันถูกกักขังได้ยังไง!” เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวว่า “ฉันอยากจะตามหาเคย์ตัวน้อย” คุณรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน” เธอถามดอกกุหลาบ “คุณคิดว่าเขาตายแล้วเหรอ?”

กุหลาบจึงตอบว่า “เปล่า เขายังไม่ตาย” เราอยู่ในดินแดนที่คนตายนอนอยู่หมดแล้ว แต่เคย์ไม่อยู่ที่นั่น”

“ขอบคุณ” เกอร์ดาตัวน้อยพูด จากนั้นเธอก็ไปที่ดอกไม้อื่นๆ และมองเข้าไปในถ้วยเล็กๆ ของพวกเขา แล้วถามว่า “คุณรู้ไหมว่าเคย์ตัวน้อยอยู่ที่ไหน” แต่ดอกไม้แต่ละดอกที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดด กลับฝันถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในประวัติศาสตร์เท่านั้น ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเคย์เลย เกอร์ดาได้ยินเรื่องราวมากมายจากดอกไม้ ขณะที่เธอถามพวกเขาเกี่ยวกับเขาทีละคน

แล้วไทเกอร์ลิลลี่พูดว่าอะไรล่ะ? “ ฮาร์คคุณได้ยินเสียงกลองไหม - 'หมุน, หมุน' - มีเพียงสองโน้ตเท่านั้น 'หมุน, หมุน' ฟังเพลงแห่งการไว้ทุกข์ของผู้หญิง! ได้ยินเสียงร้องของนักบวช! หญิงม่ายชาวฮินดูยืนอยู่ข้างกองศพในชุดคลุมยาวสีแดง เปลวไฟลุกโชนรอบตัวเธอขณะที่เธอวางตัวลงบนศพของสามีของเธอ แต่หญิงฮินดูกำลังนึกถึงผู้มีชีวิตอยู่ในแวดวงนั้น ของเขาซึ่งเป็นลูกชายของเธอผู้จุดไฟเหล่านั้น ดวงตาที่แวววาวคู่นั้นทำให้จิตใจของเธอเจ็บปวดยิ่งกว่าเปลวเพลิงที่จะเผาผลาญร่างกายของเธอให้กลายเป็นเถ้าถ่านในไม่ช้า ไฟแห่งใจจะดับด้วยไฟกองศพได้หรือ?”

“ฉันไม่เข้าใจเรื่องนั้นเลย” Gerda ตัวน้อยกล่าว

“นั่นคือเรื่องราวของฉัน” เสือลิลลี่กล่าว

Convolvulus พูดว่าอะไรนะ? “ใกล้กับถนนแคบๆ โน้นมีปราสาทของอัศวินเก่าแก่ตั้งอยู่ ไม้เลื้อยหนาทึบเลื้อยไปตามกำแพงเก่าที่พังทลาย ใบไม้ร่วงหล่น แม้กระทั่งระเบียงซึ่งมีหญิงสาวแสนสวยยืนอยู่ เธอก้มตัวข้ามราวบันได และมองขึ้นไปบนถนน ไม่มีดอกกุหลาบบนก้านใดที่สดไปกว่าเธอ ไม่มีดอกแอปเปิ้ลที่ปลิวไปตามสายลม ลอยเบากว่าที่เธอเคลื่อนไหว ผ้าไหมอันอุดมสมบูรณ์ของเธอส่งเสียงกรอบแกรบขณะที่เธอก้มลงและอุทานว่า 'เขาจะไม่มาเหรอ'

“หมายถึงเคย์เหรอ?” เกอร์ดาถาม

“ฉันแค่พูดถึงเรื่องราวในความฝันของฉันเท่านั้น” ดอกไม้ตอบ

หยดน้ำหิมะตัวน้อยพูดว่าอะไรนะ? “ระหว่างต้นไม้สองต้นมีเชือกห้อยอยู่ มีกระดานแผ่นหนึ่งอยู่บนนั้น มันเป็นชิงช้า เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่ารักสองคน ในชุดสีขาวราวกับหิมะ และมีริบบิ้นสีเขียวยาวกระพือปีกจากหมวก กำลังนั่งอยู่บนแกว่งไปมา พี่ชายที่สูงกว่าตนก็ยืนอยู่บนชิงช้า เขามีแขนข้างหนึ่งพันเชือกไว้เพื่อทรงตัว มือข้างหนึ่งถือชามใบเล็ก และอีกข้างถือท่อดินเหนียว เขากำลังเป่าฟองสบู่ ขณะที่ชิงช้าดำเนินต่อไป ฟองอากาศจะลอยขึ้นด้านบน สะท้อนถึงสีสันที่แตกต่างกันสวยงามที่สุด ตัวสุดท้ายยังคงห้อยลงมาจากโถท่อ และพลิ้วไหวตามสายลม แกว่งไปมา; แล้วสุนัขสีดำตัวน้อยก็วิ่งเข้ามา เขาเกือบจะเบาราวกับฟองสบู่ และเขาก็ยกขาหลังขึ้น และอยากจะถูกพาไปชิงช้า แต่มันก็ไม่หยุด และสุนัขก็ล้มลง แล้วมันก็เห่าและโกรธ เด็กๆ หยุดเข้าหาเขา และฟองสบู่ก็แตก ไม้กระดานที่แกว่งไปมา ภาพโฟมที่แวววาว นั่นคือเรื่องราวของฉัน”

“สิ่งที่คุณบอกฉันอาจจะสวยงามมาก” Gerda ตัวน้อยกล่าว “แต่คุณพูดอย่างโศกเศร้า และคุณไม่พูดถึงเคย์ตัวน้อยเลย”

ผักตบชวาพูดอะไร? “มีพี่สาวที่สวยงามสามคน ยุติธรรมและละเอียดอ่อน ชุดของคนหนึ่งเป็นสีแดง ชุดที่สองเป็นสีน้ำเงิน และชุดที่สามเป็นสีขาวบริสุทธิ์ พวกเขาจับมือกันเต้นรำท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องสว่างริมทะเลสาบอันเงียบสงบ แต่พวกเขาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เอลฟ์นางฟ้า กลิ่นหอมอันหอมหวานดึงดูดพวกเขา และหายไปในป่า; ที่นี่กลิ่นหอมแรงขึ้น โลงศพสามโลงซึ่งมีหญิงสาวสวยสามคนได้ร่อนลงมาจากส่วนที่หนาที่สุดของป่าข้ามทะเลสาบ แมลงวันหิ่งห้อยบินอยู่เหนือพวกมันอย่างแผ่วเบาราวกับคบไฟเล็กๆ ที่ลอยอยู่ สาวเต้นรำหลับหรือตายไปแล้ว? กลิ่นดอกไม้บ่งบอกว่าเป็นศพ ระฆังยามเย็นดังก้องพวกเขา”

“คุณทำให้ฉันเสียใจมาก” Gerda ตัวน้อยกล่าว “น้ำหอมของคุณแรงมาก คุณทำให้ฉันนึกถึงหญิงสาวที่ตายแล้ว อ่า! แล้วเคย์ตัวน้อยตายไปแล้วจริงเหรอ? กุหลาบอยู่บนดินแล้ว และพวกเขาปฏิเสธ”

“กริ๊ง กริ๊ง” เสียงระฆังผักตบชวาดังขึ้น “เราไม่ได้ลำบากใจกับเคย์ตัวน้อย เราไม่รู้จักเขา เราร้องเพลงของเรา เป็นเพลงเดียวที่เรารู้จัก”

จากนั้นเกอร์ดาก็เดินไปที่บัตเตอร์คัพที่ส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางใบไม้สีเขียวสดใส

“ คุณเป็นดวงอาทิตย์ที่สดใส” Gerda กล่าว; “บอกฉันสิ ถ้าเธอรู้ว่าฉันจะหาเพื่อนเล่นของฉันได้ที่ไหน”

และบัตเตอร์คัพก็เปล่งประกายแวววาวและมองดูเกอร์ดาอีกครั้ง บัตเตอร์คัพร้องเพลงอะไรได้บ้าง? มันไม่เกี่ยวกับเคย์

“แสงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องลงบนลานเล็กๆ ในวันแรกที่อากาศอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ ลำแสงสว่างของเขาวางอยู่บนผนังสีขาวของบ้านใกล้เคียง และดอกไม้สีเหลืองดอกแรกของฤดูกาลก็บานสะพรั่งอร่ามราวกับทองในแสงอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์ หญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้เท้าแขนของเธอที่ประตูบ้าน และหลานสาวของเธอ ซึ่งเป็นสาวใช้ที่น่าสงสารและน่ารักมาเยี่ยมเธอในช่วงสั้นๆ เมื่อเธอจูบคุณยาย ก็มีทองคำอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทองคำแห่งหัวใจในการจูบอันศักดิ์สิทธิ์นั้น มันเป็นเช้าสีทอง มีทองคำอยู่ในแสงแดดที่ส่องประกาย มีทองคำอยู่บนใบของดอกไม้อันต่ำต้อย และบนริมฝีปากของหญิงสาว นั่นคือเรื่องราวของฉัน” บัตเตอร์คัพกล่าว

“คุณยายเฒ่าผู้น่าสงสารของฉัน!” เกอร์ดาถอนหายใจ; “เธอปรารถนาที่จะเห็นฉัน และเสียใจเพื่อฉันเหมือนที่เธอทำเพื่อเคย์ตัวน้อย แต่ฉันจะกลับบ้านเร็วๆ นี้ และพาเคย์ตัวน้อยไปด้วย มันไม่มีประโยชน์ที่จะถามดอกไม้ พวกเขารู้จักแต่เพลงของตัวเองเท่านั้น และไม่สามารถให้ข้อมูลฉันได้”

จากนั้นเธอก็เก็บชุดเล็กๆ ของเธอไว้เพื่อที่เธอจะได้วิ่งเร็วขึ้น แต่นาร์ซิสซัสจับขาเธอไว้ขณะที่เธอกระโดดข้ามมัน เธอจึงหยุดและมองดูดอกไม้สีเหลืองสูงนั้นแล้วพูดว่า “บางทีคุณอาจรู้อะไรบางอย่าง”

จากนั้นเธอก็ก้มลงไปใกล้ดอกไม้แล้วฟัง แล้วเขาพูดอะไร?

“ฉันเห็นตัวเอง ฉันเห็นตัวเอง” นาร์ซิสซัสกล่าว “โอ้ น้ำหอมของฉันช่างหอมหวานเสียนี่กระไร! ในห้องเล็กๆ ที่มีหน้าต่างโค้ง มีสาวน้อยเต้นรำ เปลือยท่อนบนยืนอยู่ บางครั้งเธอก็ยืนด้วยขาข้างเดียว และบางครั้งก็ยืนทั้งสองข้าง และดูราวกับว่าเธอจะเหยียบย่ำโลกทั้งใบไว้ใต้เท้าของเธอ เธอไม่มีอะไรนอกจากภาพลวงตา เธอกำลังเทน้ำจากกาน้ำชาลงบนสิ่งของที่เธอถืออยู่ในมือ มันคือร่างกายของเธอ 'ความสะอาดเป็นสิ่งที่ดี' เธอกล่าว ชุดสีขาวของเธอแขวนอยู่บนหมุด มันถูกล้างในกาน้ำชาและตากบนหลังคาด้วย เธอสวมมันและผูกผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองไว้ที่คอของเธอ ซึ่งทำให้ชุดดูขาวขึ้น ดูวิธีที่เธอเหยียดขาของเธอราวกับว่าเธอกำลังโชว์อยู่บนก้าน ฉันมองเห็นตัวเอง ฉันเห็นตัวเอง”

“ฉันจะสนใจอะไรทั้งนั้น” Gerda กล่าว “คุณไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องแบบนั้นกับฉัน” แล้วเธอก็วิ่งไปอีกด้านหนึ่งของสวน ประตูถูกปิดแน่น แต่เธอกดเข้ากับสลักที่เป็นสนิม และมันก็หลุดออกไป ประตูเปิดออก และเกอร์ด้าตัวน้อยก็วิ่งออกไปสู่โลกกว้างด้วยเท้าเปล่า เธอมองย้อนกลับไปสามครั้ง แต่ดูเหมือนไม่มีใครติดตามเธอเลย ในที่สุดเธอก็ไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไป เธอจึงนั่งลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ และเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ เธอเห็นว่าฤดูร้อนสิ้นสุดลงแล้ว และฤดูใบไม้ร่วงก็ก้าวหน้าไปไกลมาก เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยในสวนที่สวยงามซึ่งมีแสงแดดสาดส่องและมีดอกไม้บานตลอดทั้งปี

“โอ้ ฉันเสียเวลาไปได้ยังไง” Gerda ตัวน้อยกล่าว; “มันเป็นฤดูใบไม้ร่วง ฉันคงไม่ได้พักผ่อนอีกต่อไปแล้ว” แล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินต่อไป แต่เท้าเล็กๆ ของเธอได้รับบาดเจ็บและเจ็บ และทุกสิ่งรอบตัวเธอดูเย็นชาและเยือกเย็น ใบวิลโลว์ยาวค่อนข้างเหลือง หยดน้ำค้างร่วงหล่นลงมาเหมือนน้ำ ใบไม้แล้วใบเล่าร่วงหล่นจากต้นไม้ ต้นหนามหิมะเพียงลำพังยังคงออกผล แต่ชั้นนั้นมีรสเปรี้ยว และกัดฟันจนขอบ โอ้ โลกทั้งโลกมืดมนและเหนื่อยล้าเพียงใด!

เรื่องที่สี่:
เจ้าชายและเจ้าหญิง

“เกอร์ดาจำเป็นต้องพักผ่อนอีกครั้ง และตรงข้ามกับที่เธอนั่ง เธอเห็นอีกาตัวใหญ่กระโดดข้ามหิมะมาหาเธอ เขายืนมองเธออยู่พักหนึ่งแล้วเขาก็กระดิกหัวแล้วพูดว่า "คา แค; วันดี วันดี” เขาออกเสียงคำนั้นอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาตั้งใจที่จะเมตตาเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แล้วเขาก็ถามเธอว่าเธอจะไปที่ไหนคนเดียวในโลกกว้าง

เกอร์ดาเพียงคำเดียวก็เข้าใจดีมาก และรู้ว่าคำนั้นแสดงออกมากเพียงใด ดังนั้นเธอจึงเล่าเรื่องราวชีวิตและการผจญภัยทั้งหมดของเธอให้กาฟัง และถามเขาว่าเขาเคยเห็นเคย์ตัวน้อยบ้างไหม

อีกาพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูดว่า "บางทีฉันอาจจะ-มันอาจจะเป็นก็ได้"

"เลขที่! คุณคิดว่าคุณมี?” Gerda ตัวน้อยร้องไห้และเธอก็จูบอีกาและกอดเขาด้วยความดีใจจนแทบตาย

“เบาๆ เบาๆ” อีกาพูด “ฉันเชื่อว่าฉันรู้” ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเคย์ตัวน้อย แต่คราวนี้เขาลืมคุณไปแล้วเพราะเจ้าหญิง”

“เขาอยู่กับเจ้าหญิงเหรอ?” เกอร์ด้าถาม

“ใช่ ฟังนะ” อีกาตอบ “แต่มันยากมากที่จะพูดภาษาของคุณ ถ้าเข้าใจภาษาของอีกา1 ฉันก็อธิบายได้ดีขึ้น คุณ?"

“ไม่ ฉันไม่เคยเรียนรู้เรื่องนี้มาก่อน” เกอร์ดากล่าว “แต่คุณยายของฉันเข้าใจและเคยพูดกับฉันด้วย ฉันหวังว่าฉันจะได้เรียนรู้มัน”

“ไม่เป็นไร” อีกาตอบ “ฉันจะอธิบายให้ดีที่สุด แม้ว่ามันจะทำได้แย่มากก็ตาม” และเขาก็เล่าเรื่องที่เขาได้ยินให้นางฟัง “ในอาณาจักรที่เราอยู่ตอนนี้” เขากล่าว “มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งซึ่งฉลาดมากจนเธออ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในโลก และลืมหนังสือพิมพ์เหล่านั้นด้วย แม้ว่าเธอจะฉลาดมากก็ตาม” ไม่นานมานี้ ขณะที่เธอนั่งอยู่บนบัลลังก์ ซึ่งผู้คนบอกว่าไม่ใช่ที่นั่งที่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร เธอเริ่มร้องเพลงที่เริ่มด้วยถ้อยคำเหล่านี้:

'เหตุใดฉันจึงไม่ควรแต่งงาน?'

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” เธอพูด และเธอก็ตั้งใจที่จะแต่งงานหากเธอสามารถหาสามีที่รู้ว่าจะพูดอะไรเมื่อมีคนคุยด้วย และไม่ใช่คนที่ทำได้เพียงดูยิ่งใหญ่เท่านั้น เพราะมันน่าเบื่อมาก จากนั้นนางก็เรียกนางสาวราชสำนักทั้งหมดเข้าพร้อมๆ กันตามจังหวะกลอง และเมื่อนางได้ยินถึงความตั้งใจของนาง พวกเธอก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง 'เราดีใจมากที่ได้ยินเรื่องนี้' พวกเขาพูด 'เรากำลังพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเองเมื่อวันก่อน' พูดถึงพระราชวังอย่างอิสระและเธอก็เล่าทั้งหมดนี้ให้ฉันฟัง”

แน่นอนว่าคนรักของเขาคืออีกา เพราะ "นกขนนกบินมารวมกัน" และอีกาตัวหนึ่งมักจะเลือกอีกาตัวอื่นเสมอ

“หนังสือพิมพ์ถูกตีพิมพ์ทันที โดยมีขอบใจ และมีอักษรย่อของเจ้าหญิงอยู่ด้วย พวกเขาสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มรูปหล่อทุกคนสามารถเยี่ยมชมปราสาทและพูดคุยกับเจ้าหญิงได้อย่างอิสระ และผู้ที่ตอบได้ดังพอให้ได้ยินก็ให้ทำตนอยู่ที่บ้านในวัง แต่คนที่พูดดีที่สุดจะถูกเลือกให้เป็นสามีของเจ้าหญิง ใช่ ใช่ คุณอาจจะเชื่อฉันก็ได้ มันเป็นเรื่องจริงเหมือนกับที่ฉันนั่งอยู่ตรงนี้” อีกาพูด “ผู้คนมากันเป็นฝูง มีการบดขยี้และวิ่งไปมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จในวันแรกหรือวันที่สอง ทุกคนสามารถพูดได้ดีในขณะที่ออกไปตามถนน แต่เมื่อเข้าไปในประตูพระราชวังและเห็นทหารยามในชุดสีเงินและทหารราบที่สวมเครื่องแบบสีทองบนบันไดและห้องโถงใหญ่ก็สว่างขึ้น พวกเขาก็กลายเป็น ค่อนข้างสับสน และเมื่อพวกเขายืนอยู่หน้าบัลลังก์ที่เจ้าหญิงนั่งอยู่ พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดคำสุดท้ายที่เธอพูด และเธอไม่ปรารถนาที่จะได้ยินคำพูดของเธอเองอีกเลย เหมือนกับว่าทุกคนได้เอาอะไรมาทำให้ง่วงขณะอยู่ในวัง เพราะพวกเขายังไม่หายดีและไม่พูดจนกว่าจะกลับมาที่ถนนอีกครั้ง มีคนต่อแถวยาวมากตั้งแต่ประตูเมืองถึงพระราชวัง “ข้าพเจ้าไปเยี่ยมพวกเขาเอง” อีกากล่าว “พวกเขาหิวและกระหาย เพราะในวังพวกเขาไม่ได้รับน้ำแม้แต่แก้วเดียว คนที่ฉลาดที่สุดบางคนนำขนมปังและเนยไปด้วย แต่ไม่ได้แบ่งให้เพื่อนบ้าน พวกเขาคิดว่าถ้าพวกเขาเข้าไปหาเจ้าหญิงด้วยอาการหิวโหย จะมีโอกาสที่ดีกว่าสำหรับพวกเขาเอง”

“แต่เคย์!” บอกฉันเกี่ยวกับเคย์ตัวน้อย!” Gerda กล่าวว่า“ เขาอยู่ท่ามกลางฝูงชนหรือเปล่า”

“หยุดสักหน่อย เราเพิ่งจะไปหาเขา ครั้นถึงวันที่สาม มีร่างเล็ก ๆ ตัวน้อยเดินเข้ามายังพระราชวังอย่างร่าเริง ไม่มีม้าหรือรถม้า ดวงตาของเขาเป็นประกายเหมือนคุณ เขามีผมยาวสวย แต่เสื้อผ้าของเขาแย่มาก”

“นั่นเคย์!” Gerda กล่าวอย่างสนุกสนาน “โอ้ ฉันก็พบเขาแล้ว” และเธอก็ปรบมือ

“เขามีเป้ใบเล็กๆ บนหลัง” อีกากล่าวเสริม

“ไม่ มันต้องเป็นเลื่อนของเขาแน่ๆ” Gerda กล่าว “เพราะเขาจากไปแล้ว”

“มันอาจจะเป็นเช่นนั้น” อีกาพูด “ฉันไม่ได้ดูมันอย่างใกล้ชิด แต่ฉันรู้จากคนรักของฉันว่าเขาเดินผ่านประตูวัง เห็นทหารยามในชุดสีเงิน และคนรับใช้ที่สวมชุดทองอยู่บนบันได แต่เขาไม่รู้สึกเขินอายเลยแม้แต่น้อย “การยืนบนบันไดคงจะเหนื่อยมาก” เขากล่าว 'ฉันชอบเข้าไปข้างในมากกว่า' ห้องต่างๆ สว่างไสวไปด้วยแสงสว่าง สมาชิกสภาและทูตเดินไปมาด้วยเท้าเปล่าถือภาชนะทองคำ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใครก็ตามรู้สึกจริงจัง รองเท้าบู๊ตของเขาส่งเสียงดังเอี๊ยดในขณะที่เขาเดิน แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจเลย”

“ต้องเป็นเคย์แน่ๆ” เกอร์ดาพูด “ฉันรู้ว่าเขาใส่รองเท้าบู๊ตใหม่ ฉันได้ยินเสียงมันดังเอี๊ยดในห้องของคุณยาย”

“พวกมันส่งเสียงดังเอี๊ยดจริงๆ” อีกาพูด “แต่เขาก็ยังกล้าเข้าไปหาเจ้าหญิงด้วยตัวเธอเอง ซึ่งนั่งอยู่บนไข่มุกอันใหญ่โตเท่ากับวงล้อหมุน และบรรดาสาวใช้ของราชสำนักก็อยู่ด้วยและสาวใช้ทุกคนก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกทหารม้ากับคนรับใช้ของพวกเขา และสาวใช้แต่ละคนก็มีสาวใช้อีกคนคอยดูแลเธอ และคนรับใช้ของทหารม้าก็มีคนรับใช้ของตัวเองและคนละหน้ากัน พวกเขาทั้งหมดยืนเป็นวงกลมรอบๆ เจ้าหญิง และยิ่งพวกเขายืนใกล้ประตูมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งดูภาคภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น หน้าคนรับใช้ที่สวมรองเท้าแตะอยู่เสมอแทบจะไม่มีใครมอง พวกเขายืนชิดหน้าประตูอย่างภาคภูมิใจ”

“มันคงจะแย่มาก” เกอร์ดาตัวน้อยพูด “แต่เคย์ชนะเจ้าหญิงหรือเปล่า?”

“ถ้าฉันไม่ได้เป็นอีกา” เขากล่าว “ฉันจะแต่งงานกับเธอเองแม้ว่าฉันจะหมั้นแล้วก็ตาม” เมื่อเขาพูดภาษากา เขาก็พูดเช่นเดียวกับฉัน ฉันก็ได้ยินจากคนรักที่เชื่องของฉันด้วย เขาค่อนข้างเป็นอิสระและเป็นกันเอง และบอกว่าเขาไม่ได้มาเพื่อจีบเจ้าหญิง แต่มาเพื่อฟังสติปัญญาของเธอ และเขาก็พอใจเธอเหมือนที่เธออยู่กับเขา”

“โอ้ แน่นอน นั่นคือเคย์” เกอร์ดาพูด “เขาฉลาดมาก เขาสามารถคำนวณทางจิตและเศษส่วนได้ โอ้คุณจะพาฉันไปที่วังเหรอ?”

“ถามได้ง่ายมาก” อีกาตอบ “แต่เราจะจัดการมันอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ฉันจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้กับคนรักของฉัน และขอคำแนะนำจากเธอ เพราะฉันต้องบอกคุณว่าการขออนุญาตเด็กผู้หญิงเช่นคุณเข้าไปในพระราชวังนั้นเป็นเรื่องยากมาก”

“โอ้ใช่; แต่ฉันจะได้รับอนุญาตอย่างง่ายดาย” Gerda กล่าว “เพราะเมื่อเคย์ได้ยินว่าฉันอยู่ที่นี่ เขาจะออกมารับฉันทันที”

“รอฉันอยู่ที่นี่ข้างฝูงสัตว์” อีกาพูดพร้อมกับกระดิกศีรษะขณะบินจากไป

เป็นเวลาเย็นกว่าอีกาจะกลับมา “คาว คาว” เขากล่าว “เธอทักทายคุณ และนี่คือขนมปังก้อนเล็กๆ ที่เธอหยิบมาจากในครัวมาให้คุณ ที่นั่นมีขนมปังมากมาย และเธอคิดว่าคุณคงหิวแล้ว คุณไม่สามารถเข้าไปในพระราชวังโดยทางเข้าด้านหน้าได้ ยามในชุดสีเงินและคนรับใช้ในชุดสีทองไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น แต่อย่าร้องไห้ เราจะจัดการให้คุณเข้าไป คนรักของฉันรู้จักบันไดหลังเล็กๆ ที่นำไปสู่อพาร์ทเมนต์ห้องนอน และเธอรู้ว่าจะหากุญแจได้ที่ไหน”

แล้วพวกเขาก็เข้าไปในสวนตามถนนใหญ่ ใบไม้ร่วงหล่นลงมาเรื่อยๆ และพวกเขาก็เห็นแสงสว่างในพระราชวังดับลงในลักษณะเดียวกัน และอีกาก็พาเกอร์ดาตัวน้อยไปที่ประตูหลังโดยแง้มไว้ โอ้! หัวใจของ Gerda เต้นด้วยความวิตกกังวลและความปรารถนาเพียงเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าเธอกำลังจะทำอะไรผิด แต่เธอแค่อยากรู้ว่าเคย์ตัวน้อยอยู่ที่ไหน “ต้องเป็นเขาแน่ๆ” เธอคิด “ด้วยดวงตาที่ชัดเจนและผมยาวขนาดนั้น” เธอคงนึกฝันว่าเธอเห็นเขายิ้มให้เธอเหมือนอย่างที่เขาเคยอยู่ที่บ้าน เมื่อพวกเขานั่งอยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบ เขาจะต้องดีใจอย่างแน่นอนที่ได้พบเธอ และได้ยินว่าเธอมาไกลเพียงไรเพื่อประโยชน์ของเขา และได้รู้ว่าพวกเขาเสียใจแค่ไหนที่บ้านเพราะเขาไม่กลับมา โอ้ ช่างน่ายินดีแต่กลับรู้สึกหวาดกลัว! ตอนนี้พวกเขาอยู่บนบันได และในตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ด้านบนมีตะเกียงกำลังลุกอยู่ อีกาเชื่องยืนอยู่ตรงกลางพื้น หันศีรษะไปทางด้านข้าง และจ้องมองไปที่เกอร์ดาที่สบตาเหมือนที่คุณยายของเธอสอนให้เธอทำ

“คู่หมั้นของฉันยกย่องคุณมาก สาวน้อยของฉัน” อีกาเชื่องกล่าว “ประวัติชีวิตของคุณ Vita ที่อาจเรียกได้ว่าซาบซึ้งใจมาก ถ้าคุณจะเอาตะเกียง ฉันจะเดินนำหน้าคุณ เราจะตรงไปตามทางนี้แล้วเราจะไม่พบใครเลย”

“สำหรับฉันดูเหมือนมีใครบางคนอยู่ข้างหลังเรา” Gerda กล่าว เมื่อมีบางอย่างพุ่งเข้ามาหาเธอราวกับเงาบนผนัง จากนั้นม้าที่มีแผงคอบินได้และขาเรียวเล็ก นักล่า สุภาพสตรี และสุภาพบุรุษบนหลังม้า ร่อนอยู่ข้างๆ เธอ เหมือนเงาบนผนัง

“มันเป็นเพียงความฝัน” อีกาพูด “พวกมันจะมาเอาความคิดของผู้คนผู้ยิ่งใหญ่ออกไปล่าสัตว์”

“ยิ่งดี เราจะสามารถมองดูพวกเขาบนเตียงได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น” ฉันหวังว่าเมื่อคุณได้รับเกียรติและความโปรดปราน คุณจะแสดงความขอบคุณ”

“คุณอาจจะแน่ใจในสิ่งนั้น” อีกาจากป่ากล่าว

ตอนนี้พวกเขามาถึงห้องโถงแรก ผนังที่แขวนด้วยผ้าซาตินสีกุหลาบ ปักด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ ที่นี่ความฝันถูกพวกเขาพลิกผันอีกครั้ง แต่เร็วมากจนเกอร์ดาไม่สามารถแยกแยะบุคคลในราชวงศ์ได้ ห้องโถงแต่ละห้องดูสวยงามมากกว่าครั้งสุดท้าย เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนสับสนได้ ในที่สุดก็ถึงห้องนอนแห่งหนึ่ง เพดานเป็นเหมือนต้นปาล์มขนาดใหญ่ มีใบแก้วคริสตัลราคาแพงที่สุด และมีเตียงสองเตียงอยู่ตรงกลางพื้น แต่ละเตียงมีลักษณะคล้ายดอกลิลลี่แขวนอยู่บนก้านทองคำ คนหนึ่งที่เจ้าหญิงนอนอยู่นั้นเป็นคนผิวขาว อีกคนเป็นสีแดง และในเรื่องนี้เกอร์ด้าต้องตามหาเคย์ตัวน้อย เธอผลักใบไม้สีแดงใบหนึ่งออกไป และเห็นคอสีน้ำตาลเล็กน้อย โอ้ นั่นคงเป็นเคย์! เธอเรียกชื่อเขาออกมาดังๆ และชูตะเกียงไว้เหนือเขา ความฝันรีบกลับเข้าไปในห้องบนหลังม้า เขาตื่นขึ้นมาแล้วหันหัวกลับ ไม่ใช่เคย์ตัวน้อย! เจ้าชายมีคอเหมือนเขาเท่านั้น แต่เขายังเด็กและน่ารัก จากนั้นเจ้าหญิงก็โผล่ออกมาจากเตียงดอกลิลลี่สีขาวและถามว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเกอร์ดาตัวน้อยก็ร้องไห้และเล่าเรื่องราวของเธอ และทุกสิ่งที่กาทำเพื่อช่วยเธอ

“เจ้าเด็กน้อย” เจ้าชายและเจ้าหญิงกล่าว แล้วพวกเขาก็ยกย่องกา บอกว่าพวกเขาไม่ได้โกรธกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก คราวนี้พวกมันควรได้รับบำเหน็จ

“คุณอยากได้อิสรภาพของคุณไหม” เจ้าหญิงตรัสถาม “หรือเจ้าอยากจะถูกยกขึ้นสู่ตำแหน่งกาในราชสำนัก โดยมีสิ่งที่เหลืออยู่ในครัวเอง?”

จากนั้นอีกาทั้งสองก็โค้งคำนับและขอร้องให้นัดหมายกันไว้ เพราะพวกมันคิดถึงวัยชรา และบอกว่ารู้สึกสบายใจที่ได้มีเสบียงสำหรับวันเก่าๆ ดังที่พวกเขาเรียกกัน จากนั้นเจ้าชายก็ลุกจากเตียงแล้วมอบมันให้กับเกอร์ดา - เขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว และเธอก็นอนลง เธอประสานมือเล็ก ๆ ของเธอและคิดว่า “ทุกคนดีกับฉันทั้งผู้ชายและสัตว์เหมือนกัน” แล้วเธอก็หลับตาลงและหลับไปอย่างแสนหวาน ความฝันทั้งหมดบินกลับมาหาเธออีกครั้ง พวกมันดูเหมือนนางฟ้า และหนึ่งในนั้นก็ดึงเลื่อนเล็ก ๆ ซึ่งเคย์นั่งอยู่และพยักหน้าให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน และหายไปทันทีที่เธอตื่นขึ้น

วันรุ่งขึ้นเธอแต่งกายด้วยผ้าไหมและกำมะหยี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และพวกเขาก็เชิญเธอให้อยู่ในวังสองสามวันและสนุกสนานไปกับตัวเอง แต่เธอขอเพียงรองเท้าบู๊ตหนึ่งคู่และรถม้าคันเล็ก ๆ และ ขี่ม้าเพื่อจะออกไปสู่โลกกว้างเพื่อตามหาเคย์ และเธอไม่เพียงได้รับรองเท้าบู๊ตเท่านั้น แต่ยังได้รับผ้าพันคอด้วยและเธอก็แต่งตัวเรียบร้อย และเมื่อเธอพร้อมที่จะไป ณ ประตูนั้น เธอพบโค้ชที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ มีตราอาร์มของเจ้าชายและเจ้าหญิงส่องแสงราวกับดาว และผู้ฝึกสอน ทหารราบ และคนนอก ทุกคนสวมมงกุฎทองคำบนศีรษะ เจ้าชายและเจ้าหญิงเองก็ช่วยเธอขึ้นรถม้าและขอให้เธอประสบความสำเร็จ อีกาป่าซึ่งบัดนี้แต่งงานแล้วได้ติดตามเธอไปสามไมล์แรก เขานั่งข้างเกอร์ดา เพราะเขาทนขี่ถอยหลังไม่ได้ อีกาเชื่องยืนกระพือปีกอยู่ตรงทางเข้าประตู เธอไม่สามารถไปกับพวกเขาได้เพราะเธอปวดหัวตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากินมากเกินไป รถโค้ชถูกเก็บไว้อย่างดีพร้อมเค้กหวานๆ และใต้เบาะก็มีผลไม้และถั่วขนมปังขิง “ ลาก่อนลาก่อน” เจ้าชายและเจ้าหญิงร้องไห้และ Gerda ตัวน้อยก็ร้องไห้และอีกาก็ร้องไห้ และหลังจากนั้นไม่กี่ไมล์ อีกาก็กล่าวคำอำลาด้วย นี่เป็นการจากลาที่เศร้าที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาบินไปที่ต้นไม้ และยืนกระพือปีกสีดำตราบเท่าที่เขาสามารถมองเห็นรถโค้ชที่ส่องแสงแวววาวท่ามกลางแสงแดดอันสดใส

เรื่องที่ห้า:
สาวน้อยจอมโจร

โค้ชขับรถผ่านป่าหนาทึบซึ่งมีแสงสว่างส่องทางเหมือนคบเพลิง และทำให้ดวงตาของโจรบางคนต้องละสายตา ซึ่งทนไม่ไหวที่จะปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่มีใครรบกวน

“มันคือทอง! มันคือทองคำ!” พวกเขาร้องไห้และรีบวิ่งเข้ามาจับม้า จากนั้นพวกเขาก็โจมตีจ๊อกกี้ตัวน้อย คนขับรถม้า และทหารราบเสียชีวิต และดึงเกอร์ดาตัวน้อยออกจากรถม้า

“เธออ้วนและสวย แถมยังได้รับเมล็ดถั่วมาเลี้ยงด้วย” โจรหญิงชราผู้มีหนวดเครายาวและคิ้วยาวปิดตากล่าว “เธอเป็นคนดีเหมือนลูกแกะตัวน้อย เธอจะอร่อยขนาดไหน!” และในขณะที่เธอพูดสิ่งนี้ เธอก็ชักมีดส่องแสงออกมาซึ่งแวววาวอย่างน่าสยดสยอง "โอ้!" หญิงชราก็กรีดร้องในขณะเดียวกัน เพราะลูกสาวของเธอเองที่คอยรั้งเธอไว้ได้กัดหูของเธอ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดุร้ายและซุกซนและแม่ก็เรียกเธอว่าสิ่งที่น่าเกลียดและไม่มีเวลาที่จะฆ่าเกอร์ดา

“เธอจะเล่นกับฉัน” โจรสาวตัวน้อยพูด “เธอจะให้ผ้าพันคอและชุดสวยๆ ของเธอแก่ฉัน แล้วมานอนกับฉันบนเตียงของฉัน” จากนั้นเธอก็กัดแม่ของเธออีกครั้ง และทำให้เธอสปริงตัวขึ้นไปในอากาศ และกระโดดไปมา และพวกโจรก็หัวเราะและพูดว่า "ดูสิว่ามันเต้นรำกับลูกของมันอย่างไร"

“ฉันจะนั่งรถไป” โจรสาวตัวน้อยพูด และเธอก็จะมีทางของเธอเอง เพราะเธอเอาแต่ใจตัวเองและดื้อรั้นมาก

เธอกับเกอร์ดานั่งในรถโค้ช และขับรถออกไปเหนือตอไม้และก้อนหิน เข้าไปในส่วนลึกของป่า โจรสาวตัวน้อยมีขนาดพอๆ กับเกอร์ดา แต่แข็งแกร่งกว่า เธอมีไหล่ที่กว้างกว่าและมีผิวคล้ำกว่า ดวงตาของเธอค่อนข้างดำ และเธอก็มีสีหน้าโศกเศร้า เธอจับเกอร์ด้าตัวน้อยไว้รอบเอวแล้วพูดว่า-

“พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณตราบใดที่คุณไม่ทำให้เราขุ่นเคืองกับคุณ ฉันคิดว่าคุณเป็นเจ้าหญิง”

“ไม่” Gerda กล่าว; แล้วเธอก็เล่าประวัติทั้งหมดของเธอให้เธอฟัง และว่าเธอรักเคย์ตัวน้อยมากแค่ไหน

โจรสาวมองเธออย่างจริงจัง พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พวกเขาไม่ได้ฆ่าคุณ แม้ว่าฉันจะโกรธคุณก็ตาม เพราะฉันจะทำเอง” จากนั้นเธอก็เช็ดดวงตาของ Gerda และติดมือของเธอเองเข้ากับผ้าปิดตาที่สวยงามซึ่งนุ่มและอบอุ่นมาก

โค้ชหยุดอยู่ที่ลานปราสาทของโจร ผนังที่แตกร้าวจากบนลงล่าง อีกาและกาบินเข้าและออกจากรูและรอยแยก ในขณะที่บูลด็อกตัวใหญ่ซึ่งดูเหมือนกลืนคนได้กำลังกระโดดไปมา แต่พวกมันไม่ได้รับอนุญาตให้เห่า ในห้องโถงขนาดใหญ่และมีควันไฟลุกโชนอยู่บนพื้นหิน ไม่มีปล่องไฟ ควันจึงลอยขึ้นไปบนเพดานและพบทางออกด้วยตนเอง ซุปกำลังเดือดในหม้อขนาดใหญ่ และกระต่ายและกระต่ายกำลังย่างบนน้ำลาย

“คืนนี้คุณจะนอนกับฉันและสัตว์เล็กๆ ของฉันทั้งหมด” โจรสาวกล่าวหลังจากที่พวกเขากินและดื่มกันเสร็จแล้ว ดังนั้นเธอจึงพาเกอร์ดาไปที่มุมหนึ่งของห้องโถงซึ่งมีฟางและพรมปูอยู่ เหนือพวกเขา มีนกพิราบมากกว่าร้อยตัวอยู่บนไม้ระแนงและขา ซึ่งดูเหมือนทุกคนกำลังหลับอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะขยับเล็กน้อยเมื่อเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนเข้ามาใกล้พวกเขาก็ตาม “ทั้งหมดนี้เป็นของฉัน” โจรสาวกล่าว แล้วเธอก็คว้าตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดไว้จับที่เท้าแล้วเขย่าจนกระพือปีก “จูบมัน” เธอร้องพร้อมกับกระพือมันไปที่หน้า Gerda “นกพิราบไม้นั่งอยู่ที่นั่น” เธอพูดต่อ โดยชี้ไปที่ไม้ระแนงและกรงจำนวนหนึ่งซึ่งติดอยู่กับผนัง ใกล้กับช่องเปิดช่องใดช่องหนึ่ง “ตัวร้ายทั้งสองจะบินหนีไปทันทีหากไม่ได้ถูกขังไว้อย่างใกล้ชิด และนี่คือ 'บา' คนรักเก่าของฉัน” แล้วเธอก็ลากกวางเรนเดียร์ออกมาทางเขา เขาสวมแหวนทองแดงสีสดพันรอบคอและถูกมัดไว้ “เราต้องจับเขาไว้แน่นด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะหนีจากเราไปด้วย ฉันจั๊กจี้คอเขาทุกเย็นด้วยมีดคมๆ ซึ่งทำให้เขากลัวมาก” จากนั้นโจรสาวก็ชักมีดยาวออกมาจากซอกผนังแล้วค่อยๆ เลื่อนไปที่คอของกวางเรนเดียร์ สัตว์ที่น่าสงสารเริ่มเตะ และโจรสาวตัวน้อยก็หัวเราะ และดึงเกอร์ดาลงไปนอนกับเธอ

“คุณจะเอามีดติดตัวไปด้วยตอนที่คุณหลับหรือเปล่า” Gerda ถามโดยมองดูด้วยความตกใจอย่างยิ่ง

“ฉันมักจะนอนโดยมีมีดอยู่ข้างๆ เสมอ” โจรสาวกล่าว “ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้บอกฉันอีกครั้งเกี่ยวกับเคย์ตัวน้อย และทำไมคุณถึงออกไปสู่โลกกว้าง”

จากนั้นเกอร์ดาก็เล่าเรื่องของเธอซ้ำอีกครั้ง ขณะที่นกพิราบไม้อยู่ในกรงที่อยู่เหนือเธอส่งเสียงร้อง และนกพิราบตัวอื่นๆ ก็หลับไป โจรสาวตัวน้อยเอาแขนข้างหนึ่งพาดคอของเกอร์ดา และถือมีดอีกข้างหนึ่ง ในไม่ช้าก็หลับและกรนอย่างรวดเร็ว แต่เกอร์ดาไม่สามารถหลับตาได้เลย เธอไม่รู้ว่าเธอจะอยู่หรือตาย พวกโจรนั่งรอบกองไฟ ร้องเพลงและดื่ม และหญิงชราก็สะดุดล้ม เป็นภาพที่น่าสยดสยองสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เห็น

แล้วนกพิราบก็พูดว่า “คู คู คู! เราได้เห็นเคย์ตัวน้อยแล้ว ไก่ขาวตัวหนึ่งถือเลื่อนของเขา และมันนั่งอยู่ในรถม้าของราชินีหิมะซึ่งขับผ่านป่าในขณะที่เรานอนอยู่ในรังของเรา เธอพัดมาใส่เรา และเด็กทั้งหมดก็ตายหมด ยกเว้นเราสองคน คู คู”

“คุณพูดอะไรอยู่ข้างบนนั้น” เกอร์ด้าร้องไห้ “ราชินีหิมะไปไหน? คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม”

“เธอน่าจะเดินทางไปแลปแลนด์ซึ่งมีหิมะและน้ำแข็งอยู่เสมอ ลองถามกวางเรนเดียร์ที่ผูกเชือกไว้ที่นั่นสิ”

“ใช่แล้ว มีหิมะและน้ำแข็งอยู่เสมอ” กวางเรนเดียร์กล่าว “และเป็นสถานที่อันรุ่งโรจน์; คุณสามารถกระโดดและวิ่งได้อย่างอิสระบนที่ราบน้ำแข็งระยิบระยับ ราชินีหิมะมีเต็นท์ฤดูร้อนอยู่ที่นั่น แต่ปราสาทที่แข็งแกร่งของเธออยู่ที่ขั้วโลกเหนือ บนเกาะชื่อสปิตซ์เบอร์เกน”

“โอ้ เคย์ เคย์ตัวน้อย!” เกอร์ด้าถอนหายใจ

“นอนนิ่งๆ” โจรสาวพูด “ไม่งั้นฉันจะเอามีดแทงเธอ”

ในตอนเช้าเกอร์ดาเล่าทุกสิ่งที่นกพิราบไม้พูดให้เธอฟัง และเด็กสาวโจรตัวน้อยก็ดูจริงจังมาก และพยักหน้าแล้วพูดว่า "นั่นคือทั้งหมดนั่นคือการพูดทั้งหมด" คุณรู้ไหมว่าแลปแลนด์อยู่ที่ไหน” เธอถามกวางเรนเดียร์

“ใครจะรู้ดีไปกว่าฉันล่ะ” สัตว์พูดในขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกาย “ฉันเกิดและเติบโตที่นั่น และเคยวิ่งบนที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ”

“ฟังนะ” โจรสาวกล่าว “ คนของเราทั้งหมดจากไป - มีเพียงแม่เท่านั้นที่อยู่ที่นี่และเธอจะอยู่ที่นี่ แต่ในตอนเที่ยงเธอจะดื่มจากขวดใหญ่เสมอ และหลังจากนั้นก็นอนพักหนึ่ง แล้วฉันจะทำอะไรบางอย่างเพื่อคุณ” จากนั้นเธอก็กระโดดลงจากเตียง กอดแม่ของเธอไว้รอบคอ และดึงเธอที่หนวดเครา และร้องไห้ว่า “แพะพี่เลี้ยงตัวน้อยของฉัน สวัสดีตอนเช้า” จากนั้นมารดาของนางก็อุดจมูกจนแดงทีเดียว แต่เธอก็ทำทุกอย่างเพื่อความรัก

เมื่อแม่ดื่มจนหมดขวดและเข้านอนแล้ว โจรสาวตัวน้อยก็ไปหากวางเรนเดียร์แล้วพูดว่า “ฉันอยากจะจั๊กจี้คอเธออีกสักสองสามครั้งด้วยมีดของฉัน เพราะจะทำให้ คุณดูตลกมาก แต่ไม่เป็นไร - ฉันจะปลดเชือกของคุณออกและปล่อยคุณให้เป็นอิสระเพื่อที่คุณจะได้หนีไปที่แลปแลนด์ แต่คุณต้องใช้ขาของคุณให้เป็นประโยชน์ และอุ้มสาวน้อยคนนี้ไปที่ปราสาทของราชินีหิมะที่ซึ่งเพื่อนเล่นของเธออยู่ คุณเคยได้ยินสิ่งที่เธอบอกฉันเพราะเธอพูดดังพอแล้วและคุณก็ฟังอยู่”

จากนั้นกวางเรนเดียร์ก็กระโดดด้วยความดีใจ และโจรสาวตัวน้อยก็อุ้มเกอร์ดาขึ้นบนหลังของเขา และคิดล่วงหน้าว่าจะผูกเธอไว้ และแม้กระทั่งให้เบาะเล็ก ๆ ของเธอเองให้นั่งด้วย

“นี่คือรองเท้าบูทขนสัตว์สำหรับคุณ” เธอกล่าว “เพราะมันจะหนาวมาก แต่ฉันต้องเก็บผ้าพันคอไว้ มันสวยมาก อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่ถูกแช่แข็งเพราะความขาดแคลนนั้น นี่คือถุงมืออุ่นผืนใหญ่ของแม่ฉัน พวกมันจะยาวไปถึงข้อศอกของคุณ ให้ฉันใส่พวกเขา ตอนนี้มือของคุณดูเหมือนแม่ของฉันเลย”

แต่เกอร์ดาร้องไห้ด้วยความดีใจ

“ฉันไม่ชอบเห็นเธอหงุดหงิด” โจรสาวตัวน้อยกล่าว “ตอนนี้คุณควรจะดูมีความสุขทีเดียว และนี่คือขนมปังสองก้อนกับแฮมหนึ่งก้อนเพื่อจะได้ไม่ต้องอดอาหาร” สิ่งเหล่านี้ผูกไว้กับกวางเรนเดียร์ จากนั้นโจรสาวตัวน้อยก็เปิดประตู เกลี้ยกล่อมสุนัขตัวใหญ่ทุกตัว แล้วตัดเชือกที่ผูกกวางเรนเดียร์ด้วยมีดคม ๆ ของเธอแล้วพูดว่า "วิ่งเดี๋ยวนี้ แต่ ดูแลตัวเองดีๆนะสาวน้อย” จากนั้นเกอร์ดาก็ยื่นมือออกไปพร้อมกับนวมตัวใหญ่ที่สวมไว้ ไปทางเด็กสาวโจรตัวน้อย แล้วพูดว่า "ลาก่อน" แล้วกวางเรนเดียร์ก็บินออกไป ข้ามตอไม้และก้อนหิน ผ่านป่าใหญ่ เหนือหนองน้ำและที่ราบ เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมาป่าส่งเสียงหอน และอีกาก็กรีดร้อง ขณะที่อยู่บนท้องฟ้าก็มีแสงสีแดงสั่นไหวราวกับเปลวเพลิง “นั่นคือแสงเหนืออันเก่าแก่ของฉัน” กวางเรนเดียร์กล่าว “ดูสิว่ามันกระพริบยังไง” และเขาวิ่งทั้งกลางวันและกลางคืนยังคงเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ขนมปังและแฮมก็ถูกกินหมดเมื่อไปถึงแลปแลนด์

เรื่องที่หก:
หญิงแลปแลนด์และหญิงฟินแลนด์

พวกเขาหยุดที่กระท่อมหลังเล็กๆ มันดูใจร้ายมาก หลังคาลาดเอียงเกือบถึงพื้น และประตูก็ต่ำมากจนครอบครัวต้องคลานเข้ามาด้วยมือและเข่าเมื่อเข้าออก ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากหญิงชราชาวแลปแลนด์ที่กำลังปรุงปลาโดยใช้แสงจากตะเกียงน้ำมันบนรถไฟ กวางเรนเดียร์เล่าเรื่องของเกอร์ดาให้เธอฟังทั้งหมด หลังจากเล่าเรื่องของเขาเองเป็นครั้งแรก ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเขา แต่เกอร์ดารู้สึกหนาวจนพูดไม่ออก “โอ้ เจ้าพวกน่าสงสาร” หญิงชาวแลปแลนด์กล่าว “เจ้ายังมีหนทางอีกยาวไกล” คุณต้องเดินทางไกลกว่าร้อยไมล์ไปยังฟินแลนด์ ตอนนี้ราชินีหิมะอาศัยอยู่ที่นั่น และเธอก็จุดไฟเบงกอลทุกเย็น ฉันจะเขียนคำสองสามคำลงบนปลาสต็อกแห้ง เพราะฉันไม่มีกระดาษ และคุณสามารถนำไปจากฉันให้กับผู้หญิงฟินแลนด์ที่อาศัยอยู่ที่นั่นได้ เธอสามารถให้ข้อมูลแก่คุณได้ดีกว่าที่ฉันสามารถ” ดังนั้นเมื่อเกอร์ดาอุ่นตัวและหาอะไรกินและดื่ม ผู้หญิงคนนั้นก็เขียนข้อความสองสามคำลงบนปลาแห้งและบอกให้เกอร์ดาดูแลมันให้ดี จากนั้นเธอก็มัดเธอไว้กับกวางเรนเดียร์อีกครั้ง และเขาก็ออกเดินทางด้วยความเร็วเต็มพิกัด แฟลช แฟลช แสงเหนือสีฟ้าสวยงามลอยอยู่ในอากาศตลอดทั้งคืน เมื่อพวกเขาไปถึงฟินแลนด์ และเคาะปล่องไฟในกระท่อมของหญิงชาวฟินแลนด์คนนั้น เพราะไม่มีประตูอยู่เหนือพื้นดิน พวกเขาย่องเข้าไป แต่ภายในนั้นร้อนจัดมากจนผู้หญิงคนนั้นแทบไม่สวมเสื้อผ้าเลย เธอตัวเล็กและดูสกปรกมาก เธอคลายชุดของเกอร์ดาตัวน้อย และถอดรองเท้าบูทขนสัตว์และถุงมือออก ไม่เช่นนั้นเกอร์ดาจะทนความร้อนไม่ไหว จากนั้นเธอก็วางแผ่นน้ำแข็งบนหัวของกวางเรนเดียร์ และอ่านข้อความที่เขียนไว้บนปลาแห้ง หลังจากที่เธออ่านมันสามครั้ง เธอก็รู้ด้วยใจ ดังนั้นเธอจึงใส่ปลาลงในหม้อซุป เพราะเธอรู้ว่ามันกินดี และเธอไม่เคยเสียอะไรเลย กวางเรนเดียร์เล่าเรื่องของตัวเองก่อน จากนั้นเกอร์ดาตัวน้อยเล่าให้ฟัง และฟินแลนด์ก็กระพริบตาด้วยดวงตาอันชาญฉลาดของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลย “คุณฉลาดมาก” กวางเรนเดียร์กล่าว “ฉันรู้ว่าคุณสามารถผูกลมทั้งโลกด้วยเชือกเส้นหนึ่งได้ ถ้ากะลาสีเรือแก้ปมเดียว เขาก็จะมีลมพัดแรง เมื่อเขาแก้เชือกอันที่สอง มันก็พัดแรง แต่ถ้าคลายครั้งที่สามและที่สี่ พายุก็มา ซึ่งจะทำให้ป่าไม้พังทลาย คุณไม่สามารถให้บางสิ่งบางอย่างแก่สาวน้อยคนนี้ซึ่งจะทำให้เธอแข็งแกร่งเท่ากับชายสิบสองคนเพื่อเอาชนะราชินีหิมะได้หรือไม่”

“พลังของชายสิบสองคน!” หญิงชาวฟินแลนด์กล่าว “นั่นคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย” แต่เธอไปที่ชั้นวางแล้วหยิบลงมาและคลี่ผิวหนังขนาดใหญ่ซึ่งมีอักขระมหัศจรรย์จารึกไว้ และเธอก็อ่านจนเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเธอ แต่กวางเรนเดียร์อ้อนวอนอย่างหนักเพื่อเกอร์ดาตัวน้อย และเกอร์ดามองดูหญิงชาวฟินแลนด์ด้วยดวงตาที่อ้อนวอนทั้งน้ำตา จนดวงตาของเธอเองเริ่มกระพริบตาอีกครั้ง เธอจึงดึงกวางเรนเดียร์มาที่มุมห้อง และกระซิบกับเขาขณะที่เธอวางน้ำแข็งก้อนใหม่บนหัวของเขาว่า "เคย์ตัวน้อยอยู่กับราชินีหิมะจริงๆ แต่เขาพบว่าทุกสิ่งที่นั่นตรงกับรสนิยมและความชอบของเขามาก เขาเชื่อว่านี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดในโลก แต่นี่เป็นเพราะเขามีเศษแก้วอยู่ในใจและมีแก้วชิ้นเล็กๆอยู่ในดวงตา สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกกำจัดออกไป ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีวันเป็นมนุษย์อีกต่อไป และราชินีหิมะจะคงอำนาจของเธอเหนือเขาไว้”

“ แต่คุณไม่สามารถให้บางสิ่งแก่ Gerda เพื่อช่วยเธอพิชิตพลังนี้ได้หรือไม่”

“ฉันไม่สามารถให้อำนาจแก่เธอได้มากไปกว่าที่เธอมีอยู่แล้ว” ผู้หญิงคนนั้นกล่าว “คุณไม่เห็นว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน? มนุษย์และสัตว์ต่างๆ มีหน้าที่รับใช้เธออย่างไร และเธอผ่านโลกนี้มาได้ด้วยเท้าเปล่าเหมือนอย่างเธอได้ดีเพียงใด เธอไม่สามารถรับพลังใดๆ จากฉันได้มากไปกว่าที่เธอมีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยความบริสุทธิ์และความบริสุทธิ์ของจิตใจของเธอเอง หากเธอไม่สามารถเข้าถึง Snow Queen และเอาเศษแก้วออกจาก Kay ตัวน้อย เราก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเธอได้ สองไมล์จากที่นี่ สวนของราชินีหิมะเริ่มต้นขึ้น คุณสามารถอุ้มเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ไปได้ไกลแล้ววางเธอลงที่พุ่มไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมไปด้วยผลเบอร์รี่สีแดง อย่านินทา แต่กลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด” จากนั้นหญิงชาวฟินแลนด์ก็อุ้มเกอร์ดาตัวน้อยไว้บนกวางเรนเดียร์ แล้วเขาก็วิ่งหนีไปพร้อมกับเธอโดยเร็วที่สุด

“โอ้ ฉันลืมรองเท้าบู๊ตและถุงมือของฉัน” เกอร์ดาตัวน้อยร้องทันทีที่เธอรู้สึกหนาวจัด แต่กวางเรนเดียร์กลับไม่กล้าหยุด เขาจึงวิ่งต่อไปจนไปถึงพุ่มไม้พร้อมกับผลเบอร์รี่สีแดง ที่นี่เขาวางเกอร์ดาลงแล้วจูบเธอและน้ำตาอันสดใสไหลอาบแก้มของสัตว์ แล้วเขาก็ทิ้งเธอแล้ววิ่งกลับไปให้เร็วที่สุด

เกอร์ดาผู้น่าสงสารยืนอยู่โดยไม่สวมรองเท้าและถุงมือ ท่ามกลางความหนาวเย็นและน่าสยดสยองของฟินแลนด์ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง เธอวิ่งไปข้างหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อมีกองเกล็ดหิมะมารอบตัวเธอ แต่มันไม่ได้ตกลงมาจากท้องฟ้าซึ่งค่อนข้างชัดเจนและแวววาวด้วยแสงเหนือ เกล็ดหิมะไหลไปตามพื้น และยิ่งเข้าใกล้เธอมากเท่าไรก็ยิ่งปรากฏใหญ่ขึ้นเท่านั้น เกอร์ดาจำได้ว่าพวกเขามองผ่านกระจกที่กำลังลุกไหม้ขนาดใหญ่และสวยงามเพียงใด แต่สิ่งเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่ามากและน่ากลัวกว่ามาก เพราะพวกเขายังมีชีวิตอยู่ และเป็นผู้พิทักษ์ของราชินีหิมะ และมีรูปร่างที่แปลกประหลาดที่สุด บางตัวก็เหมือนเม่นตัวใหญ่ บางตัวก็เหมือนงูบิดตัวที่ยืดหัวออก และบางตัวก็เหมือนหมีอ้วนตัวน้อยที่มีขนมีขน แต่ทั้งหมดกลับกลายเป็นสีขาวราวกับเกล็ดหิมะ จากนั้นเกอร์ดาตัวน้อยก็สวดอ้อนวอนของพระเจ้าอีกครั้ง และอากาศหนาวเย็นมากจนเธอสามารถเห็นลมหายใจของเธอออกมาจากปากของเธอราวกับไอน้ำขณะที่เธอพูดคำนั้น ไอน้ำดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในขณะที่เธออธิษฐานต่อไป จนกระทั่งกลายเป็นรูปร่างของนางฟ้าตัวน้อยที่ใหญ่ขึ้นทันทีที่พวกเขาสัมผัสพื้นโลก พวกเขาทุกคนสวมหมวกเกราะและถือหอกและโล่ จำนวนของพวกเขายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกอร์ดาสวดภาวนาเสร็จ ก็มีกองทหารจำนวนหนึ่งยืนล้อมรอบเธอ พวกเขาแทงหอกเข้าไปในเกล็ดหิมะที่น่ากลัวจนสั่นเป็นร้อยชิ้นและ Gerda ตัวน้อยก็สามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญและปลอดภัย เหล่านางฟ้าลูบมือและเท้าของเธอ เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกหนาวน้อยลง และเธอก็รีบไปที่ปราสาทของราชินีหิมะ

แต่ตอนนี้เราต้องดูว่าเคย์กำลังทำอะไรอยู่ จริงๆ แล้วเขาไม่ได้คิดถึงเกอร์ดาตัวน้อยเลย และไม่คิดว่าเธอจะยืนอยู่หน้าพระราชวังด้วยซ้ำ

เรื่องที่เจ็ด:
ของวังราชินีหิมะและสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นในที่สุด

ผนังของพระราชวังเต็มไปด้วยหิมะที่ลอยอยู่ และหน้าต่างและประตูที่มีลมพัดแรง มีห้องมากกว่าร้อยห้องในนั้น ราวกับว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นด้วยหิมะที่ถูกพัดมารวมกัน ที่ใหญ่ที่สุดขยายออกไปหลายไมล์ พวกเขาทั้งหมดสว่างไสวด้วยแสงออโรร่าที่สดใส และพวกมันก็ใหญ่โตและว่างเปล่า เย็นยะเยือกและแวววาว! ที่นี่ไม่มีความสนุกสนานแม้แต่ลูกบอลหมีตัวน้อย เมื่อพายุกลายเป็นเสียงดนตรี และหมีก็เต้นด้วยขาหลังและแสดงมารยาทที่ดี ไม่มีเกมสแน็ปดราก้อนที่น่าสนุก การสัมผัส หรือแม้แต่การนินทาบนโต๊ะน้ำชาสำหรับสุนัขจิ้งจอกสาว ห้องโถงของราชินีหิมะว่างเปล่า กว้างใหญ่ และหนาวเย็น เปลวไฟริบหรี่ของแสงเหนือสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะขึ้นสูงหรือต่ำในสวรรค์ จากทุกส่วนของปราสาท ท่ามกลางห้องโถงหิมะที่ว่างเปล่าและไม่มีที่สิ้นสุดนั้นมีทะเลสาบน้ำแข็งที่แตกออกเป็นพันรูปแบบ แต่ละชิ้นมีลักษณะคล้ายคลึงกัน จากความสมบูรณ์แบบในตัวมันเองราวกับเป็นงานศิลปะ และที่ใจกลางทะเลสาบแห่งนี้ก็มีราชินีหิมะประทับอยู่ตอนที่เธออยู่ที่บ้าน เธอเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่า "กระจกเงาแห่งเหตุผล" และบอกว่าทะเลสาบแห่งนี้ดีที่สุดและเป็นแห่งเดียวในโลกจริงๆ

เคย์ตัวน้อยมีสีฟ้าค่อนข้างเย็น และแทบจะดำสนิท แต่เขากลับไม่รู้สึกเลย เพราะราชินีหิมะได้จุมพิตความหนาวสั่นและหัวใจของเขาก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งแล้ว เขาลากแผ่นน้ำแข็งที่แหลมคมไปมาและวางเรียงกันในตำแหน่งต่างๆ ราวกับว่าเขาต้องการจะทำอะไรบางอย่างจากน้ำแข็งเหล่านั้น เช่นเดียวกับที่เราพยายามปั้นหุ่นต่างๆ ด้วยแผ่นไม้เล็กๆ ที่เราเรียกว่า “ปริศนาจีน” นิ้วของเคย์มีศิลปะมาก มันเป็นเกมแห่งเหตุผลที่เขาเล่น และในสายตาของเขา ตัวเลขนั้นน่าทึ่งมากและมีความสำคัญสูงสุด ความคิดเห็นนี้เกิดจากเศษแก้วที่ยังคงติดอยู่ในดวงตาของเขา เขาแต่งร่างที่สมบูรณ์หลายชิ้นโดยสร้างคำที่แตกต่างกัน แต่มีคำเดียวที่เขาไม่สามารถจัดรูปแบบได้แม้ว่าเขาจะปรารถนามันมากก็ตาม มันคือคำว่า “นิรันดร์” ราชินีหิมะพูดกับเขาว่า "เมื่อเจ้ารู้สิ่งนี้ เจ้าจะเป็นนายของเจ้าเอง และเราจะมอบโลกทั้งใบและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่ให้กับเจ้า" แต่เขาไม่สามารถทำมันให้สำเร็จได้

“ตอนนี้ฉันต้องไปประเทศที่อบอุ่นกว่านี้” ราชินีหิมะกล่าว “ ฉันจะไปดูหลุมอุกกาบาตสีดำบนยอดเขาที่ถูกไฟไหม้ Etna และ Vesuvius ดังที่พวกเขาเรียกว่า - ฉันจะทำให้มันดูขาวซึ่งจะดีสำหรับพวกเขาและสำหรับมะนาวและองุ่น ” และราชินีหิมะก็บินหนีไป ทิ้งเคย์ตัวน้อยไว้ตามลำพังในห้องโถงใหญ่ซึ่งยาวหลายไมล์ เขาจึงนั่งมองดูก้อนน้ำแข็งของเขา และคิดอย่างลึกซึ้งและนั่งนิ่งจนใครๆ ก็คิดว่าเขาถูกแช่แข็ง

ทันใดนั้นเองที่ Gerda ตัวน้อยเข้ามาทางประตูใหญ่ของปราสาท ลมพัดแรงรอบตัวเธอ แต่เธอสวดมนต์และลมก็พัดลงมาราวกับว่าพวกเขากำลังจะหลับใหล และเธอก็เดินต่อไปจนมาถึงห้องโถงใหญ่ที่ว่างเปล่า และมองเห็นเคย์ เธอรู้จักเขาโดยตรง เธอบินไปหาเขาและโอบแขนรอบคอของเขา และจับเขาไว้แน่น ขณะที่เธออุทานว่า "เคย์ เคย์ที่รัก ในที่สุดฉันก็พบคุณแล้ว"

แต่เขากลับนั่งนิ่ง แข็งทื่อและเย็นชา

จากนั้นเกอร์ดาตัวน้อยก็ร้องไห้น้ำตาร้อนไหลลงบนอกของเขาและทะลุเข้าไปในหัวใจของเขาแล้วละลายก้อนน้ำแข็งและล้างแก้วชิ้นเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ตรงนั้นออกไป จากนั้นเขาก็มองดูเธอแล้วเธอก็ร้องเพลง...

“ดอกกุหลาบบานและหยุดอยู่
แต่เราจะได้เห็นลูกพระคริสต์”

จากนั้นเคย์ก็น้ำตาไหล และเขาก็ร้องไห้จนเศษแก้วแหวกว่ายออกมาจากตาของเขา จากนั้นเขาก็จำเกอร์ดาได้ และพูดอย่างร่าเริงว่า “เกอร์ดา เกอร์ดาตัวน้อยที่รัก คุณอยู่ที่ไหนมาตลอดและฉันอยู่ที่ไหน” และเขามองไปรอบ ๆ เขาแล้วพูดว่า "มันช่างหนาวเหลือเกิน และมันดูใหญ่โตและว่างเปล่าขนาดไหน" และเขาก็เกาะติดกับ Gerda และเธอก็หัวเราะและร้องไห้ด้วยความดีใจ เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นพวกเขาถึงขนาดที่เศษน้ำแข็งเต้นระบำ; และเมื่อพวกเขาเหนื่อยและล้มตัวลงนอน พวกเขาก็รวมตัวกันเป็นตัวอักษรของคำที่ราชินีหิมะบอกว่าเขาจะต้องค้นหาให้เจอก่อนที่เขาจะเป็นนายของตัวเองได้ และได้โลกทั้งใบและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่ จากนั้นเกอร์ดาก็จูบแก้มของเขาและมันก็บานสะพรั่ง และเธอก็จูบตาของเขา และดวงตาทั้งสองก็ส่องแสงเหมือนตาของเธอเอง เธอจูบมือและเท้าของเขา จากนั้นเขาก็มีสุขภาพแข็งแรงและร่าเริง ราชินีหิมะอาจจะกลับมาบ้านตอนนี้เมื่อเธอพอใจ เพราะว่าคำที่เธอต้องการนั้นคงอยู่ในอิสรภาพอย่างแน่นอน ซึ่งเขียนด้วยตัวอักษรน้ำแข็งที่ส่องแสง

แล้วพวกเขาก็จับมือกันและออกไปจากวังน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ พวกเขาพูดถึงคุณยายและกุหลาบบนหลังคา และขณะที่พวกเขาเดินไปตามสายลมก็สงบนิ่ง และพระอาทิตย์ก็ฉายแสง เมื่อพวกเขามาถึงพุ่มไม้พร้อมผลเบอร์รี่สีแดง มีกวางเรนเดียร์ยืนรอพวกเขาอยู่ และเขาก็นำกวางเรนเดียร์สาวอีกตัวหนึ่งซึ่งเต็มเต้าแล้ว เด็กๆ ก็ดื่มนมอุ่น ๆ ของเธอและจูบเธอที่ปาก จากนั้นพวกเขาก็อุ้มเคย์และเกอร์ดาไปหาหญิงชาวฟินแลนด์ก่อน โดยทั้งคู่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นในห้องร้อน และเธอก็ให้คำแนะนำในการเดินทางกลับบ้าน จากนั้น พวกเขาก็ไปหาหญิงชาวแลปแลนด์ซึ่งทำเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเขา และจัดรถลากเลื่อนให้เป็นระเบียบ กวางเรนเดียร์ทั้งสองวิ่งเคียงข้างพวกเขา และติดตามพวกเขาไปไกลถึงเขตแดนของประเทศ ซึ่งเป็นที่ที่ใบไม้สีเขียวใบแรกเริ่มผลิบาน ที่นี่พวกเขาละทิ้งกวางเรนเดียร์สองตัวและหญิงสาวชาวแลปแลนด์ และทุกคนก็กล่าวคำอำลา จากนั้นนกก็เริ่มส่งเสียงร้อง และป่าก็เต็มไปด้วยใบไม้อ่อนสีเขียว และออกมาจากม้าที่สวยงามตัวหนึ่งซึ่ง Gerda จำได้เพราะมันเป็นตัวที่ดึงดูดโค้ชทองคำ มีเด็กสาวคนหนึ่งขี่อยู่บนนั้น โดยมีหมวกสีแดงแวววาวบนศีรษะ และมีปืนพกอยู่ในเข็มขัด เป็นโจรสาวตัวน้อยที่เบื่อหน่ายกับการอยู่บ้าน เธอกำลังจะไปทางเหนือก่อน และหากนั่นไม่เหมาะกับเธอ เธอตั้งใจจะลองไปยังส่วนอื่นของโลก เธอรู้จักเกอร์ดาโดยตรง และเกอร์ดาก็จำเธอได้ มันเป็นการพบกันที่สนุกสนาน

“คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่เดินแบบนี้” เธอพูดกับเคย์ตัวน้อย “ฉันอยากรู้ว่าคุณสมควรที่จะให้ใครก็ตามไปยังจุดสิ้นสุดของโลกเพื่อตามหาคุณหรือไม่”

แต่เกอร์ด้าตบแก้มแล้วถามเจ้าชายและเจ้าหญิง

“พวกเขาไปต่างประเทศแล้ว” โจรสาวกล่าว

“แล้วอีกาล่ะ?” เกอร์ด้าถาม

“โอ้ อีกาตายแล้ว” เธอตอบ “คนรักแสนเชื่องของเขาตอนนี้เป็นม่ายแล้ว และสวมชุดผ้าเนื้อละเอียดสีดำเล็กน้อยรอบขาของเธอ เธอคร่ำครวญอย่างน่าสงสารมาก แต่มันคือทุกสิ่ง แต่บอกข้ามาเถิดว่าเจ้าพาเขากลับมาได้อย่างไร”

จากนั้น Gerda และ Kay ก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง

“จุ๊บ จุ๊บ บ่วง! ในที่สุดมันก็เรียบร้อย” โจรสาวกล่าว

จากนั้นเธอก็จับมือทั้งสองข้าง และสัญญาว่าหากเธอผ่านเมืองไป เธอจะโทรไปเยี่ยมพวกเขา แล้วเธอก็ขี่ออกไปสู่โลกกว้าง แต่ Gerda และ Kay ก็จับมือกันกลับบ้าน ฤดูใบไม้ผลิก็ดูสวยงามมากขึ้นด้วยสีเขียวขจีและดอกไม้ที่สวยงาม ในไม่ช้าพวกเขาก็จำเมืองใหญ่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ และยอดแหลมสูงของโบสถ์ต่างๆ ซึ่งมีเสียงระฆังอันแสนหวานดังกึกก้องขณะที่พวกเขาเข้าไปในเมือง และพบทางไปที่ประตูบ้านคุณยายของพวกเขา พวกเขาขึ้นไปชั้นบนเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่ทุกคนมองดูเหมือนเดิม นาฬิกาเรือนเก่ากำลัง “ติ๊ก ติ๊ก” และเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เวลาของวัน แต่เมื่อพวกเขาผ่านประตูเข้าไปในห้อง พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาทั้งคู่โตขึ้นและกลายเป็นชายและหญิง ดอกกุหลาบบนหลังคาบานสะพรั่งและแอบมองเข้าไปที่หน้าต่าง และมีเก้าอี้เล็กๆ ที่พวกเขาเคยนั่งเมื่อสมัยเด็กๆ ยืนอยู่ตรงนั้น ส่วนเคย์และเกอร์ดาก็นั่งด้วยกันบนเก้าอี้ของตัวเองและจับมือกัน ในขณะที่ความยิ่งใหญ่ที่ว่างเปล่าอันเย็นชาของพระราชวังของราชินีหิมะก็หายไปจากความทรงจำของพวกเขาราวกับความฝันอันเจ็บปวด คุณยายนั่งอยู่ท่ามกลางแสงแดดอันเจิดจ้าของพระเจ้า และเธออ่านออกเสียงจากพระคัมภีร์ว่า “เว้นแต่เจ้าจะกลายเป็นเหมือนเด็กน้อย เจ้าจะเข้าสู่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้” และเคย์และเกอร์ดาก็มองตากันและเข้าใจเนื้อร้องของเพลงเก่าในคราวเดียว

“ดอกกุหลาบบานและหยุดอยู่
แต่เราจะได้เห็นลูกพระคริสต์”

และเขาทั้งสองก็นั่งอยู่ที่นั่น โตแล้ว แต่มีจิตใจเด็ก และมันก็เป็นฤดูร้อน - ฤดูร้อนที่อบอุ่นและสวยงาม

เรื่องแรกซึ่งเล่าเกี่ยวกับกระจกและเศษชิ้นส่วนของมัน

เอาล่ะเริ่มกันเลย! เมื่อเรามาถึงจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเรา เราจะรู้มากกว่าที่เรารู้ตอนนี้ กาลครั้งหนึ่งมีโทรลล์ตัวหนึ่ง ปีศาจชั่วร้าย น่ารังเกียจ และมีอยู่จริง วันหนึ่งเขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาทำกระจกที่ทุกสิ่งที่ดีและสวยงามหดตัวลงเรื่อยๆ และทุกสิ่งที่แย่และน่าเกลียดก็ยื่นออกมา กลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจยิ่งขึ้น ภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดดูเหมือนผักโขมต้มอยู่ในนั้น และผู้คนที่ดีที่สุดก็ดูเหมือนตัวประหลาด หรือดูเหมือนว่าพวกเขากำลังยืนกลับหัวและไม่มีพุงเลย! ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวจนจำไม่ได้ และถ้าใครมีกระ มั่นใจได้เลยว่ามันลามไปทั้งจมูกและริมฝีปาก และหากบุคคลมีความคิดที่ดี มันก็สะท้อนให้เห็นในกระจกด้วยการแสดงตลกจนโทรลล์จะคำรามด้วยเสียงหัวเราะและชื่นชมยินดีกับสิ่งประดิษฐ์อันชาญฉลาดของเขา

นักเรียนของโทรลล์ - และเขามีโรงเรียนของตัวเอง - บอกทุกคนว่าปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว พวกเขากล่าวว่าตอนนี้มีเพียงตอนนี้เท่านั้นที่สามารถมองเห็นโลกทั้งใบและผู้คนด้วยแสงที่แท้จริงของพวกเขา พวกเขาวิ่งไปทุกที่พร้อมกับกระจก และในไม่ช้าก็ไม่เหลือประเทศใดเลย ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ซึ่งก็ไม่สะท้อนให้เห็นเป็นรูปบิดเบี้ยว

ในที่สุดพวกเขาก็อยากจะไปถึงท้องฟ้า ยิ่งพวกเขาสูงขึ้น กระจกก็ยิ่งโค้งมากขึ้นจนแทบจะถือมันไว้ในมือไม่ได้เลย แต่พวกเขาบินขึ้นไปสูงมาก ทันใดนั้นกระจกก็บิดเบี้ยวด้วยหน้าตาบูดบึ้งจนหลุดมือพวกเขา บินไปที่พื้นและแตกเป็นชิ้น ๆ นับล้าน ๆ พันล้านชิ้น ดังนั้นปัญหาที่มากยิ่งขึ้นจึงเกิดขึ้น เศษชิ้นส่วนขนาดเท่าเม็ดทรายกระจัดกระจายไปทั่วโลก ตกลงไปในสายตาผู้คน และยังคงอยู่ที่นั่น และบุคคลที่มีเสี้ยนในดวงตาของเขาเริ่มมองเห็นทุกสิ่งจากภายในสู่ภายนอกหรือสังเกตเห็นเพียงความเลวร้ายในทุกสิ่ง - ท้ายที่สุดแล้วเสี้ยนแต่ละอันยังคงคุณสมบัติของกระจกทั้งหมดไว้ สำหรับบางคน เศษชิ้นส่วนนั้นตกลงไปในหัวใจโดยตรง และนี่คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด หัวใจก็กลายเป็นเหมือนชิ้นส่วนของน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่ - พวกมันถูกแทรกเข้าไปในกรอบหน้าต่างและมันก็ไม่คุ้มที่จะดูเพื่อนที่ดีของคุณผ่านหน้าต่างเหล่านี้ ในที่สุด ก็มีเศษชิ้นส่วนที่เข้าไปในแก้วด้วย และมันก็แย่ถ้าใส่แว่นตาแบบนั้นเพื่อให้มองเห็นได้ดีขึ้นและตัดสินสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

โทรลล์ชั่วร้ายส่งเสียงหัวเราะ - ความคิดนี้ทำให้เขาขบขันมาก และยังมีเศษชิ้นส่วนอีกมากมายที่บินไปทั่วโลก มาฟังเกี่ยวกับพวกเขากันดีกว่า!

เรื่องที่สอง. เด็กชายและเด็กหญิง

ในเมืองใหญ่ซึ่งมีบ้านและผู้คนมากมายจนไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับแม้แต่สวนเล็กๆ ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่จึงต้องพอใจกับดอกไม้ในร่มในกระถาง มีเด็กยากจนสองคนอาศัยอยู่ และสวนของพวกเขาก็ดูไม่ค่อยดีนัก ใหญ่กว่ากระถางดอกไม้ พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกัน แต่รักกันเหมือนพี่ชายและน้องสาว

พ่อแม่ของพวกเขาอาศัยอยู่ในตู้เสื้อผ้าใต้หลังคาในบ้านสองหลังที่อยู่ใกล้เคียง หลังคาบ้านมาบรรจบกันและมีรางระบายน้ำวิ่งไปมาระหว่างบ้านทั้งสอง ที่นี่เป็นหน้าต่างห้องใต้หลังคาจากแต่ละบ้านมองหน้ากัน คุณเพียงแค่ต้องก้าวข้ามรางน้ำและคุณสามารถเดินทางจากหน้าต่างหนึ่งไปอีกหน้าต่างหนึ่งได้

พ่อแม่แต่ละคนมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ มีทั้งสมุนไพรสำหรับปรุงรสและพุ่มกุหลาบเล็กๆ ในกล่องละ 1 ดอก กำลังเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ พ่อแม่ต้องวางกล่องเหล่านี้ไว้บนรางน้ำ เพื่อที่พวกเขาจะขยายจากหน้าต่างหนึ่งไปยังอีกหน้าต่างหนึ่งเหมือนเตียงดอกไม้สองเตียง ถั่วห้อยเหมือนมาลัยสีเขียวจากกล่อง พุ่มกุหลาบมองผ่านหน้าต่างและพันกิ่งก้านของมัน พ่อแม่อนุญาตให้เด็กชายและเด็กหญิงมาเยี่ยมกันบนหลังคาและนั่งบนม้านั่งใต้ดอกกุหลาบ พวกเขาเล่นที่นี่ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ!

และในฤดูหนาวความสุขเหล่านี้ก็สิ้นสุดลง หน้าต่างมักจะถูกแช่แข็งโดยสิ้นเชิง แต่เด็ก ๆ ก็อุ่นเหรียญทองแดงบนเตาแล้วนำไปใช้กับกระจกที่แช่แข็งและในทันทีรูกลมที่ยอดเยี่ยมก็ละลายและช่องมองที่ร่าเริงและน่ารักก็มองออกไป - แต่ละคนเฝ้าดูจากตัวเขาเอง หน้าต่าง เด็กชายและเด็กหญิง ไค และเกอร์ดา ในฤดูร้อนพวกเขาพบว่าตัวเองมาเยี่ยมกันด้วยการก้าวกระโดดเพียงครั้งเดียว แต่ในฤดูหนาวพวกเขาต้องเดินลงไปหลายขั้นก่อน แล้วจึงขึ้นไปเป็นจำนวนเท่าๆ กัน ก้อนหิมะกระพืออยู่ในสนาม

พวกนี้มันคือผึ้งขาวรุม! - ยายเฒ่ากล่าว
- พวกเขามีราชินีด้วยหรือเปล่า? - เด็กชายถาม เขารู้ว่าผึ้งจริงมีผึ้งตัวหนึ่ง
- กิน! - ตอบคุณย่า - เกล็ดหิมะล้อมรอบเธอเป็นฝูงหนา แต่เธอมีขนาดใหญ่กว่าพวกมันทั้งหมดและไม่เคยนั่งบนพื้นเลย เธอมักจะลอยอยู่ในเมฆสีดำ บ่อยครั้งในเวลากลางคืนเธอบินไปตามถนนในเมืองและมองเข้าไปในหน้าต่างซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกมันถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายที่หนาวจัดเช่นดอกไม้
- เราเห็นแล้ว เราเห็นแล้ว! - เด็กๆ พูดและเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นจริง
- ราชินีหิมะมาที่นี่ไม่ได้เหรอ? - หญิงสาวถาม
- แค่ปล่อยให้เขาลอง! - ตอบเด็กชาย “ฉันจะเอาเธอไปตั้งบนเตาอุ่นๆ แล้วเธอก็จะละลาย”

แต่คุณยายลูบหัวและเริ่มพูดถึงเรื่องอื่น

ในตอนเย็น ตอนที่ไคอยู่ที่บ้านและแทบไม่ได้แต่งตัวเลย เพื่อเตรียมตัวเข้านอน ไคก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง และมองเข้าไปในวงกลมที่ละลายแล้วบนกระจกหน้าต่าง เกล็ดหิมะกระพือปีกออกไปนอกหน้าต่าง หนึ่งในนั้นอันที่ใหญ่กว่านั้นตกลงไปที่ขอบกล่องดอกไม้และเริ่มเติบโตเติบโตจนในที่สุดมันก็กลายเป็นผู้หญิงห่อด้วยผ้าทูลสีขาวบางที่สุดดูเหมือนถักทอ จากดาวหิมะนับล้านดวง เธอน่ารักและอ่อนโยนมาก แต่สร้างจากน้ำแข็ง ทำจากน้ำแข็งที่ส่องประกายระยิบระยับ และยังมีชีวิตอยู่! ดวงตาของเธอส่องแสงราวกับดวงดาวที่ใสสะอาดสองดวง แต่ไม่มีความอบอุ่นหรือความสงบสุขในตัวพวกเขา เธอพยักหน้าให้เด็กชายและกวักมือเรียกเขา ไคตกใจจึงกระโดดลงจากเก้าอี้ และมีบางอย่างคล้ายนกตัวใหญ่บินผ่านหน้าต่างไป

วันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใสถึงหนาวจัด แต่แล้วก็เริ่มละลาย และฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ส่องแสง พืชพรรณปรากฏขึ้น นกนางแอ่นกำลังสร้างรัง หน้าต่างถูกเปิดออก และเด็กๆ ก็สามารถนั่งในสวนของตนในรางน้ำเหนือพื้นทั้งหมดได้อีกครั้ง

ฤดูร้อนปีนั้น ดอกกุหลาบก็บานสะพรั่งอย่างงดงามกว่าที่เคย เด็กๆ ร้องเพลง จับมือ จูบดอกกุหลาบ และชื่นชมยินดีท่ามกลางแสงแดด โอ้ ช่างเป็นฤดูร้อนที่วิเศษจริงๆ ใต้พุ่มกุหลาบช่างดีเหลือเกินที่ดูเหมือนจะเบ่งบานและเบ่งบานตลอดไป!

วันหนึ่ง ไคและเกอร์ดากำลังนั่งดูหนังสือที่มีรูปสัตว์และนกอยู่เล่มหนึ่ง หอนาฬิกาใหญ่ตีห้า

อ้าว! - ไคก็กรีดร้อง “ฉันถูกแทงเข้าที่หัวใจ และมีบางอย่างเข้าตา!”

เด็กสาวโอบแขนเล็กๆ ของเธอไว้รอบคอของเขา เขากระพริบตาบ่อยๆ แต่ราวกับว่าไม่มีอะไรอยู่ในตาของเขา

มันคงจะกระโดดออกไปแล้ว” เขากล่าว แต่นั่นไม่เป็นเช่นนั้น นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของกระจกปีศาจที่เราพูดถึงในตอนต้น

ไคผู้น่าสงสาร! ตอนนี้หัวใจของเขาต้องกลายเป็นเหมือนชิ้นน้ำแข็ง ความเจ็บปวดหายไป แต่เศษยังคงอยู่

คุณกำลังร้องไห้เกี่ยวกับอะไร? - เขาถามเกอร์ด้า - มันไม่ทำให้ฉันเจ็บเลย! ฮึคุณน่าเกลียดแค่ไหน! - ทันใดนั้นเขาก็ตะโกน - มีหนอนกัดกินดอกกุหลาบนั่น และอันนั้นก็คดเคี้ยวไปหมด กุหลาบน่าเกลียดอะไรเช่นนี้! ไม่ได้ดีไปกว่ากล่องที่พวกเขายื่นออกมา

และเขาก็เตะกล่องและฉีกดอกกุหลาบทั้งสองดอกออก

ไคทำอะไรอยู่! - Gerda กรีดร้องและเมื่อเห็นความกลัวของเธอจึงหยิบดอกกุหลาบอีกดอกแล้ววิ่งหนีจาก Gerda ตัวน้อยแสนหวานออกไปนอกหน้าต่าง

ตอนนี้ Gerda จะนำหนังสือพร้อมรูปภาพมาให้เขา เขาจะบอกว่ารูปภาพเหล่านี้เหมาะสำหรับเด็กทารกเท่านั้น ถ้ายายแก่บอกเขาบางอย่าง เขาจะรู้สึกผิดกับคำพูดของเธอ จากนั้นเขาจะไปไกลถึงขั้นเริ่มเลียนแบบท่าเดินของเธอ สวมแว่นตา และพูดด้วยเสียงของเธอ มันดูคล้ายกันมากและผู้คนก็หัวเราะ ในไม่ช้าไคก็เรียนรู้ที่จะเลียนแบบเพื่อนบ้านทั้งหมดของเขา เขาเก่งมากในการอวดนิสัยแปลกๆ และข้อบกพร่องต่างๆ ของพวกเขา และผู้คนก็พูดว่า:
- เด็กมีความสามารถที่น่าทึ่ง! และสาเหตุของทุกสิ่งคือเศษชิ้นส่วนที่เข้าตาและหัวใจของเขา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลียนแบบ Gerda ตัวน้อยที่น่ารัก แต่เธอก็รักเขาสุดหัวใจ

และความสนุกสนานของเขาตอนนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงและซับซ้อนมาก ครั้งหนึ่งในฤดูหนาว เมื่อหิมะตก เขาก็ปรากฏตัวพร้อมกับแว่นขยายขนาดใหญ่ และวางชายเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำเงินไว้ใต้หิมะ

“มองเข้าไปในกระจก Gerda” เขากล่าว เกล็ดหิมะแต่ละอันดูใหญ่กว่าใต้กระจกมากกว่าที่เป็นจริงมาก และดูเหมือนดอกไม้ที่หรูหราหรือดาวสิบเหลี่ยม มันสวยงามมาก!
- ดูสิว่ามันทำได้ดีแค่ไหน! - ไคกล่าว - น่าสนใจยิ่งกว่าดอกไม้จริงมาก! และแม่นอะไรเช่นนี้! ไม่ผิดแม้แต่เส้นเดียว! โอ้ถ้าเพียงพวกเขาไม่ละลาย!

หลังจากนั้นไม่นาน Kai ก็ปรากฏตัวขึ้นในถุงมือขนาดใหญ่ โดยมีเลื่อนอยู่ด้านหลัง และตะโกนใส่หูของ Gerda: "พวกเขาอนุญาตให้ฉันขี่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ร่วมกับเด็กผู้ชายคนอื่น!" - และวิ่งหนีไป

มีเด็กจำนวนมากเล่นสเก็ตอยู่รอบๆ จัตุรัส บรรดาผู้กล้าผูกลากเลื่อนกับเลื่อนชาวนาแล้วกลิ้งไปไกลแสนไกล มันสนุกมาก เมื่อถึงจุดสูงสุดของความสนุก เลื่อนขนาดใหญ่ทาสีขาวก็ปรากฏขึ้นที่จัตุรัส ในนั้นมีคนนั่งอยู่ในเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวและหมวกที่เข้าชุดกัน รถลากเลื่อนวิ่งไปรอบจัตุรัสสองครั้ง ไคผูกเลื่อนของเขาไว้กับพวกเขาอย่างรวดเร็วแล้วขับออกไป รถเลื่อนขนาดใหญ่วิ่งเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวจากจัตุรัสเข้าไปในตรอก ชายที่นั่งอยู่ในนั้นหันกลับมาและพยักหน้าอย่างต้อนรับไคราวกับว่าเขาเป็นคนรู้จัก ไคพยายามแก้เชือกลากหลายครั้ง แต่ชายในเสื้อคลุมขนสัตว์กลับพยักหน้าให้เขา และเขาก็ติดตามเขาต่อไป

พวกเขาจึงออกไปจากประตูเมือง จู่ๆ หิมะตกลงมาเป็นสะเก็ด และมันก็มืดลงราวกับจะโผล่ออกมาจากดวงตาของคุณ เด็กชายรีบปล่อยเชือกซึ่งจับเขาไว้บนเลื่อนขนาดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าเลื่อนของเขาจะยาวขึ้นสำหรับพวกเขาและยังคงวิ่งต่อไปราวกับพายุหมุน ไคตะโกนเสียงดัง - ไม่มีใครได้ยินเขา หิมะตก เลื่อนกำลังแข่ง กระโดดลงไปในกองหิมะ กระโดดข้ามพุ่มไม้และคูน้ำ ไคสั่นไปทั้งตัว

เกล็ดหิมะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นไก่สีขาวตัวใหญ่ในที่สุด ทันใดนั้นพวกเขาก็กระจัดกระจายไปด้านข้าง เลื่อนขนาดใหญ่หยุด และชายที่นั่งอยู่ในนั้นก็ลุกขึ้นยืน เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวตัวสูงเพรียวสวย - ราชินีหิมะ; ทั้งเสื้อคลุมขนสัตว์และหมวกที่เธอสวมนั้นทำจากหิมะ

เรามีการเดินทางที่ยอดเยี่ยม! - เธอพูด. - แต่คุณหนาวมาก - เข้าไปในเสื้อคลุมขนสัตว์ของฉัน!

เธอวางเด็กชายลงบนรถเลื่อนแล้วห่อเขาด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์รูปหมีของเธอ ไคดูเหมือนจะจมลงไปในกองหิมะ

ยังหนาวอยู่ไหม? - เธอถามและจูบหน้าผากของเขา

เอ่อ! จูบของเธอเย็นกว่าน้ำแข็ง แทงทะลุเขาไปถึงหัวใจของเขา และมันก็เย็นไปแล้วครึ่งหนึ่งแล้ว สำหรับไคดูเหมือนว่าอีกสักหน่อยเขาก็จะตาย... แต่เพียงชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น ในทางกลับกัน เขารู้สึกดีมากจนเขาหยุดรู้สึกหนาวไปเลยด้วยซ้ำ

เลื่อนของฉัน! อย่าลืมเลื่อนของฉัน! - เขาตระหนัก

เลื่อนนั้นผูกติดอยู่กับหลังของไก่สีขาวตัวหนึ่ง และเธอก็บินไปกับมันหลังจากการเลื่อนขนาดใหญ่ ราชินีหิมะจูบไคอีกครั้ง และเขาลืมเกอร์ดา ยายของเขา และทุกคนที่บ้าน

“ฉันจะไม่จูบคุณอีกแล้ว” เธอกล่าว - ไม่อย่างนั้นฉันจะจูบคุณจนตาย

ไคมองดูเธอ เธอเก่งแค่ไหน! เขาไม่สามารถจินตนาการถึงใบหน้าที่ฉลาดและมีเสน่ห์กว่านี้ได้ ตอนนี้เธอไม่ได้ ดูเย็นชาสำหรับเขา เหมือนครั้งนั้นที่เธอนั่งอยู่นอกหน้าต่างและพยักหน้าให้เขา

เขาไม่กลัวเธอเลยและบอกเธอว่าเขารู้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทั้งสี่วิธี และถึงแม้จะเป็นเศษส่วนก็ตาม เขาก็รู้ว่าในแต่ละประเทศมีประชากรและจำนวนประชากรกี่ตารางไมล์ และเธอก็เพียงแต่ยิ้มตอบ แล้วดูเหมือนว่าเขาจะรู้น้อยมากจริงๆ

ในเวลาเดียวกัน ราชินีหิมะก็บินขึ้นไปบนเมฆสีดำพร้อมกับเขา พายุส่งเสียงหอนและครวญครางราวกับร้องเพลงโบราณ พวกมันบินข้ามป่าไม้และทะเลสาบ ข้ามทะเลและพื้นดิน ลมน้ำแข็งพัดอยู่ข้างใต้ หมาป่าหอน หิมะเป็นประกาย อีกาดำบินส่งเสียงกรีดร้อง และดวงจันทร์ใสดวงใหญ่ส่องแสงเหนือพวกเขา ไคมองดูเขาตลอดทั้งคืนในฤดูหนาวอันยาวนาน และในตอนกลางวันเขาก็ผล็อยหลับไปแทบเท้าของราชินีหิมะ

เรื่องที่สาม. สวนดอกไม้ของผู้หญิงที่สามารถทำเวทมนตร์ได้

เกิดอะไรขึ้นกับเกอร์ด้าเมื่อไคไม่กลับมา? เขาไปไหน? ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้

เด็กชายบอกเพียงว่าพวกเขาเห็นเขาผูกเลื่อนของเขากับเลื่อนขนาดใหญ่ที่สวยงาม ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นตรอกและขับออกจากประตูเมือง

น้ำตาไหลออกมามากมายเพื่อเขา Gerda ร้องไห้อย่างขมขื่นและเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าไก่ตายจมน้ำตายในแม่น้ำที่ไหลออกนอกเมือง วันฤดูหนาวอันมืดมิดลากยาวมาเป็นเวลานาน

แต่แล้วฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมา

ไคตายแล้วและจะไม่กลับมาอีก! - เกอร์ด้ากล่าว
- ฉันไม่เชื่อ! - ตอบแสงแดด.
- เขาตายแล้วและจะไม่กลับมา! - เธอพูดซ้ำกับนกนางแอ่น
- เราไม่เชื่อ! - พวกเขาตอบ

ในที่สุด Gerda เองก็หยุดเชื่อมัน

ให้ฉันสวมรองเท้าสีแดงคู่ใหม่ (ไก่ไม่เคยเห็นมาก่อน) เธอพูดในเช้าวันหนึ่ง แล้วฉันจะไปถามเกี่ยวกับเขาที่ริมแม่น้ำ

มันยังเร็วมาก เธอจูบคุณยายที่กำลังหลับอยู่ สวมรองเท้าสีแดง แล้ววิ่งหนีออกจากเมืองเพียงลำพัง ตรงไปที่แม่น้ำ

จริงหรือที่เจ้าพาพี่ชายสาบานของฉันไป? - ถามเกอร์ด้า - ฉันจะให้รองเท้าสีแดงของฉันแก่คุณหากคุณส่งคืนให้ฉัน!

และหญิงสาวก็รู้สึกว่าคลื่นกำลังพยักหน้าให้เธออย่างแปลกๆ จากนั้นเธอก็ถอดรองเท้าสีแดงซึ่งเป็นของมีค่าที่สุดที่เธอมีออก และโยนมันลงไปในแม่น้ำ แต่พวกเขาตกลงมาใกล้ชายฝั่งและคลื่นก็พัดพวกเขากลับไปทันที - ราวกับว่าแม่น้ำไม่ต้องการเอาอัญมณีของเธอไปจากหญิงสาวเพราะมันไม่สามารถคืน Kaya ให้เธอได้ เด็กสาวคิดว่าเธอยังขว้างรองเท้าไม่ไกลพอ จึงปีนขึ้นไปบนเรือซึ่งกำลังโยกไปมาอยู่ในต้นกก ยืนอยู่ที่ขอบท้ายเรือแล้วโยนรองเท้าลงน้ำอีกครั้ง เรือไม่ได้ถูกมัดและเคลื่อนออกจากฝั่งเนื่องจากการถูกผลัก เด็กหญิงต้องการกระโดดขึ้นฝั่งโดยเร็วที่สุด แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินทางจากท้ายเรือไปยังหัวเรือ เรือก็แล่นออกไปหมดแล้วและวิ่งไปตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว

Gerda ตกใจกลัวมากและเริ่มร้องไห้และกรีดร้อง แต่ไม่มีใครได้ยินเธอนอกจากนกกระจอก นกกระจอกไม่สามารถอุ้มเธอขึ้นบกได้เพียงบินตามเธอไปตามชายฝั่งแล้วส่งเสียงร้องราวกับต้องการปลอบใจเธอ:
- เราอยู่ที่นี่! เราอยู่ที่นี่!

“บางทีแม่น้ำอาจพาฉันไปหาไค?” - คิด Gerda ให้กำลังใจลุกขึ้นยืนชื่นชมชายฝั่งสีเขียวที่สวยงามเป็นเวลานาน

แต่แล้วเธอก็ล่องเรือไปยังสวนเชอร์รี่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีบ้านอยู่ใต้หลังคามุงจาก และมีกระจกสีแดงและน้ำเงินอยู่ที่หน้าต่าง ทหารไม้สองคนยืนอยู่ที่ประตูและทักทายทุกคนที่เดินผ่านไป เกอร์ดาตะโกนใส่พวกเขา - เธอจับพวกเขาทั้งเป็น - แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ตอบเธอ ดังนั้นเธอจึงว่ายเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้น เรือก็เกือบจะถึงฝั่งแล้ว และหญิงสาวก็กรีดร้องดังยิ่งขึ้นไปอีก หญิงชราผู้เฒ่าคนหนึ่งออกมาจากบ้านพร้อมไม้เท้า สวมหมวกฟางใบใหญ่ที่ประดับด้วยดอกไม้วิเศษ

โอ้เจ้าเด็กน่าสงสาร! - หญิงชรากล่าว - แล้วคุณมาอยู่บนแม่น้ำที่เร็วขนาดนี้และปีนป่ายมาได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไร?

ด้วยคำพูดเหล่านี้ หญิงชราก็ลงไปในน้ำ เกี่ยวเรือด้วยไม้ ดึงมันขึ้นฝั่งแล้วลงจอดเกอร์ดา

Gerda ดีใจมากที่ในที่สุดเธอก็พบว่าตัวเองอยู่บนบกแม้ว่าเธอจะกลัวหญิงชราที่ไม่คุ้นเคยก็ตาม

เอาล่ะ ไปกันเถอะ บอกฉันว่าคุณเป็นใครและมาที่นี่ได้อย่างไร” หญิงชรากล่าว

เกอร์ดาเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟัง และหญิงชราก็ส่ายหัวแล้วพูดซ้ำ: "หืม! หืม!” เมื่อหญิงสาวพูดจบ เธอก็ถามหญิงชราว่าเห็นไก่ไหม เธอตอบว่าเขายังไม่ผ่านที่นี่ แต่เขาคงจะผ่านไปแล้ว ยังไม่มีอะไรต้องเสียใจ ให้เกอร์ดาชิมเชอร์รี่ให้ดีขึ้นและชื่นชมดอกไม้ที่ปลูกในสวน: สวยกว่าในหนังสือภาพเล่มใด ๆ และนั่นคือทั้งหมดที่พวกเขารู้วิธีเล่าเรื่อง จากนั้นหญิงชราก็จับมือเกอร์ดาพาเธอไปที่บ้านแล้วล็อคประตู

หน้าต่างสูงจากพื้นและทั้งหมดทำจากกระจกหลากสี - แดง น้ำเงินและเหลือง ด้วยเหตุนี้ ตัวห้องจึงสว่างไสวด้วยแสงสีรุ้งที่น่าทึ่ง มีตะกร้าเชอร์รี่วิเศษอยู่บนโต๊ะ และเกอร์ดาสามารถกินเชอร์รี่ได้มากเท่าที่เธอต้องการ ขณะที่เธอกำลังกินข้าว หญิงชราก็หวีผมด้วยหวีสีทอง ผมม้วนเป็นลอนและล้อมรอบหญิงสาวที่อ่อนหวาน เป็นมิตร กลมราวดอกกุหลาบ ใบหน้าเปล่งประกายสีทอง

ฉันอยากมีผู้หญิงน่ารักแบบนี้มานานแล้ว! - หญิงชรากล่าว - คุณจะเห็นว่าคุณและฉันจะเข้ากันได้ดีแค่ไหน!

และเธอยังคงหวีผมหยิกของหญิงสาวต่อไปและยิ่งหวีนานเท่าไร Gerda ยิ่งลืมไคพี่ชายที่สาบานของเธอมากขึ้น - หญิงชรารู้วิธีร่ายเวทย์มนตร์ มีเพียงเธอเท่านั้นไม่ใช่แม่มดที่ชั่วร้ายและร่ายมนตร์เป็นครั้งคราวเพื่อความสุขของเธอเอง ตอนนี้เธออยากจะเก็บ Gerda ไว้กับเธอจริงๆ เธอจึงเข้าไปในสวน แตะพุ่มกุหลาบทั้งหมดด้วยไม้ของเธอ และขณะที่ดอกกุหลาบบานสะพรั่ง ดอกกุหลาบทั้งหมดก็ลึกลงไปในดิน และไม่มีร่องรอยเหลืออยู่เลย หญิงชรากลัวว่าเมื่อเห็นดอกกุหลาบเหล่านี้ Gerda จะจำเธอเองแล้วเกี่ยวกับเคย์แล้วจึงวิ่งหนีจากเธอ

จากนั้นหญิงชราก็พาเกอร์ดาไปที่สวนดอกไม้ โอ้ มีกลิ่นหอม ช่างงดงามจริงๆ ดอกไม้นานาชนิด และสำหรับทุกฤดูกาล! ทั่วโลกคงไม่มีหนังสือภาพที่มีสีสันและสวยงามมากไปกว่าสวนดอกไม้แห่งนี้ Gerda กระโดดด้วยความดีใจและเล่นท่ามกลางดอกไม้จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินหลังต้นซากุระสูง จากนั้นพวกเขาก็วางเธอไว้บนเตียงแสนสวยที่มีเตียงขนนกผ้าไหมสีแดงยัดไส้ด้วยสีม่วงสีน้ำเงิน เด็กสาวผล็อยหลับไปและมีความฝันแบบที่ราชินีเห็นในวันแต่งงานของเธอเท่านั้น

วันรุ่งขึ้น Gerda ได้รับอนุญาตให้เล่นในสวนดอกไม้ที่สวยงามท่ามกลางแสงแดดอีกครั้ง หลายวันผ่านไปเช่นนี้ ตอนนี้ Gerda รู้จักดอกไม้ทุกดอกในสวนแล้ว แต่ไม่ว่าจะมีกี่ดอก ดูเหมือนดอกไม้จะขาดไปสำหรับเธอ แต่ดอกไหนล่ะ? แล้ววันหนึ่งเธอก็นั่งมองดูหมวกฟางของหญิงชราที่วาดด้วยดอกไม้ และดอกกุหลาบที่สวยที่สุดคือหญิงชราลืมลบมันเมื่อเธอส่งดอกกุหลาบที่มีชีวิตไปใต้ดิน นี่แหละคือความหมายของการเหม่อลอย!

ยังไง! ที่นี่มีดอกกุหลาบมั้ย? - Gerda พูดแล้ววิ่งเข้าไปในสวนทันทีมองหาพวกเขามองหาพวกเขา แต่ไม่เคยพบพวกเขาเลย

จากนั้นหญิงสาวก็ทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้ น้ำตาอุ่นๆ ไหลลงมาตรงจุดที่พุ่มกุหลาบต้นหนึ่งเคยยืนต้นอยู่พอดี และทันทีที่พวกมันทำให้พื้นเปียก พุ่มไม้ก็งอกขึ้นมาทันทีพร้อมกับเบ่งบานเหมือนเดิม

เกอร์ดาโอบแขนรอบเขา เริ่มจูบดอกกุหลาบ และนึกถึงดอกกุหลาบวิเศษที่บานในบ้านของเธอ และในเวลาเดียวกันก็เกี่ยวกับไคด้วย

ฉันลังเลยังไงล่ะ! - หญิงสาวกล่าว - ฉันต้องตามหาไค!.. ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน? - เธอถามดอกกุหลาบ - จริงหรือที่เขาตายแล้วจะไม่กลับมาอีก?
- เขายังไม่ตาย! - ตอบดอกกุหลาบ - เราอยู่ใต้ดิน ที่ซึ่งคนตายทั้งหมดนอนอยู่ แต่ไคไม่อยู่ในหมู่พวกเขา
- ขอบคุณ! - เกอร์ดาพูดแล้วไปที่ดอกไม้อื่นมองเข้าไปในถ้วยแล้วถามว่า: - คุณรู้ไหมว่าไก่อยู่ที่ไหน?

แต่ดอกไม้แต่ละดอกก็อาบแดดและคิดถึงแต่เทพนิยายหรือเรื่องราวของตัวเองเท่านั้น Gerda ได้ยินมามากมาย แต่ไม่มีใครพูดถึงไคสักคำ

จากนั้นเกอร์ดาก็ไปที่ดอกแดนดิไลอันซึ่งส่องประกายอยู่ในหญ้าสีเขียวมันวาว

คุณพระอาทิตย์ตัวน้อย! - Gerda บอกเขา - บอกฉันสิคุณรู้ไหมว่าฉันจะมองหาพี่ชายสาบานได้ที่ไหน?

ดอกแดนดิไลออนส่องแสงเจิดจ้ายิ่งขึ้นและมองดูหญิงสาว เขาร้องเพลงอะไรให้เธอฟัง? อนิจจา และเพลงนี้ไม่ได้พูดถึงไก่สักคำ!

มันเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ดวงอาทิตย์อบอุ่นและส่องแสงอย่างเป็นมิตรบนลานเล็กๆ รังสีของมันเลื่อนไปตามผนังสีขาวของบ้านใกล้เคียง และดอกไม้สีเหลืองดอกแรกก็ปรากฏขึ้นใกล้ผนัง มันเปล่งประกายในดวงอาทิตย์เหมือนสีทอง คุณยายแก่ออกมานั่งที่สนามหญ้า ดังนั้นหลานสาวของเธอซึ่งเป็นคนรับใช้ที่ยากจนจึงมาจากแขกที่มาเยี่ยมและจูบหญิงชรา จูบของหญิงสาวมีค่ามากกว่าทองคำ - มันมาจากใจโดยตรง สีทองบนริมฝีปากของเธอ สีทองในใจของเธอ สีทองบนท้องฟ้าในตอนเช้า! แค่นั้นแหละ! - ดอกแดนดิไลอันกล่าว
- คุณยายผู้น่าสงสารของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ - ใช่แล้ว เธอคิดถึงฉันและเสียใจ ในขณะที่เธอเสียใจกับไค แต่ฉันจะกลับมาเร็วๆ นี้ และฉันจะพาเขาไปด้วย ไม่มีประโยชน์ที่จะถามดอกไม้อีกต่อไป คุณจะไม่เข้าใจดอกไม้เหล่านี้เลย พวกมันแค่พูดแต่เรื่องของตัวเอง! - และเธอก็วิ่งไปจนสุดสวน

ประตูถูกล็อค แต่ Gerda โยกเยกสายฟ้าที่เป็นสนิมเป็นเวลานานจนมันหลุดออกไป ประตูก็เปิดออก และหญิงสาวเท้าเปล่าก็เริ่มวิ่งไปตามถนน เธอมองย้อนกลับไปสามครั้ง แต่ไม่มีใครไล่ตามเธอ

ในที่สุดเธอก็รู้สึกเหนื่อย นั่งลงบนก้อนหินแล้วมองไปรอบ ๆ ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว ข้างนอกก็ปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เฉพาะในสวนอันงดงามของหญิงชราเท่านั้นที่ซึ่งดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่เสมอและดอกไม้ทุกฤดูกาลก็บานสะพรั่ง สิ่งนี้ไม่สามารถสังเกตได้

พระเจ้า! ฉันลังเลยังไงล่ะ! ในที่สุดฤดูใบไม้ร่วงก็ใกล้เข้ามาแล้ว! ไม่มีเวลาพักผ่อนที่นี่! - Gerda พูดแล้วออกเดินทางอีกครั้ง

โอ้ขาที่เหนื่อยล้าของเธอปวดเมื่อยแค่ไหน! รอบตัวมันหนาวและชื้นขนาดไหน! ใบไม้ยาวบนต้นหลิวกลายเป็นสีเหลืองสนิท หมอกตกลงมาเป็นหยดใหญ่และไหลลงมาที่พื้น ใบไม้ร่วงหล่นลงมา มีเพียงต้นหนามเท่านั้นที่ปกคลุมไปด้วยผลเบอร์รี่รสฝาดสมาน โลกทั้งใบดูมืดมนและหม่นหมองขนาดไหน!

เรื่องที่สี่. เจ้าชายและเจ้าหญิง

Gerda ต้องนั่งลงเพื่อพักผ่อนอีกครั้ง อีกาตัวใหญ่กำลังกระโดดขึ้นไปบนหิมะตรงหน้าเธอ เขามองดูหญิงสาวเป็นเวลานาน พยักหน้าให้เธอแล้วพูดในที่สุด:
- คาร์คาร์! สวัสดี!

เขาไม่สามารถพูดได้ชัดเจนมากขึ้นในฐานะมนุษย์ แต่เขาอวยพรให้หญิงสาวหายดี และถามเธอว่าเธอเดินไปรอบโลกเพียงลำพังที่ไหน เกอร์ดารู้ดีว่า "คนเดียว" หมายถึงอะไร เธอได้สัมผัสมันด้วยตัวเอง หลังจากเล่าให้นกกาฟังมาทั้งชีวิต เด็กหญิงก็ถามว่าเขาเห็นไคไหม

Raven ส่ายหัวอย่างครุ่นคิดแล้วพูดว่า:
- อาจจะ! อาจจะ!
- ยังไง? มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? - หญิงสาวร้องอุทานและแทบจะบีบคออีกา - เธอจูบเขาอย่างแรง
- เงียบ เงียบ! - กาพูด - ฉันคิดว่าเป็นไก่ของคุณ แต่ตอนนี้เขาคงจะลืมคุณและเจ้าหญิงของเขาไปแล้ว!
- เขาอาศัยอยู่กับเจ้าหญิงหรือไม่? - ถามเกอร์ด้า
“แต่ฟังนะ” อีกาพูด - มันยากมากสำหรับฉันที่จะพูดในแบบของคุณ ทีนี้ ถ้าคุณเข้าใจอีกา ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ดีขึ้นมาก
“ไม่ พวกเขาไม่ได้สอนฉันเรื่องนี้” Gerda กล่าว - น่าเสียดาย!
“ก็ไม่มีอะไร” อีกาพูด - ฉันจะบอกคุณให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่ามันจะแย่ก็ตาม และเขาก็บอกทุกอย่างที่เขารู้
- ในอาณาจักรที่คุณและฉันอยู่ มีเจ้าหญิงที่ฉลาดมากจนพูดไม่ออก! ฉันอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งหมดในโลกและลืมทุกสิ่งที่ฉันอ่านในนั้น - ช่างเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ! วันหนึ่งเธอนั่งอยู่บนบัลลังก์ - และมันก็ไม่สนุกอย่างที่ใคร ๆ พูด - และฮัมเพลง: "ทำไมฉันไม่แต่งงาน?" “แต่จริง!” - เธอคิดและเธออยากแต่งงาน แต่เธอต้องการเลือกผู้ชายคนหนึ่งเป็นสามีของเธอซึ่งจะรู้วิธีตอบสนองเมื่อพวกเขาพูดกับเขา และไม่ใช่คนที่ทำได้เพียงออกอากาศเท่านั้น มันน่าเบื่อมาก! จากนั้นด้วยการตีกลองพวกเขาก็เรียกผู้หญิงทุกคนในราชสำนักและประกาศเจตจำนงของเจ้าหญิงให้พวกเขาฟัง พวกเขาทุกคนมีความสุขมาก! “นี่แหละที่เราชอบ! - พวกเขาพูด. “พวกเราเองก็เพิ่งคิดถึงเรื่องนี้!” ทั้งหมดนี้เป็นจริง! - เพิ่มอีกา - ฉันมีเจ้าสาวอยู่ที่ศาล - อีกาเชื่อง และฉันรู้ทั้งหมดนี้จากเธอ

วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับออกมาพร้อมกับรูปหัวใจและพระปรมาภิไธยย่อของเจ้าหญิง มีการประกาศในหนังสือพิมพ์ว่าชายหนุ่มหน้าตาดีทุกคนสามารถมาที่พระราชวังและพูดคุยกับเจ้าหญิงได้ เจ้าหญิงจะเลือกคนที่ประพฤติตัวสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน และกลายเป็นสามีที่มีคารมคมคายที่สุด ใช่ ใช่! - กาซ้ำ - ทั้งหมดนี้เป็นจริงพอ ๆ กับที่ฉันนั่งอยู่ตรงหน้าคุณ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในพระราชวังเป็นจำนวนมาก มีการแตกตื่นและถูกบดขยี้ แต่ทุกอย่างไม่มีประโยชน์ในวันแรกหรือวันที่สอง บนถนนคู่ครองทุกคนพูดจาดี แต่ทันทีที่พวกเขาข้ามธรณีประตูพระราชวังเห็นทหารยามในชุดเงินและทหารราบเป็นทองคำและเข้าไปในห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสว่างพวกเขาก็ผงะไป พวกเขาจะเข้าใกล้บัลลังก์ที่เจ้าหญิงนั่งและพูดตามเธอซ้ำ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย ราวกับว่าพวกเขาได้รับความเสียหาย ยาเสพติด! และเมื่อพวกเขาออกจากประตูเมือง พวกเขาจะพบพรสวรรค์ในการพูดอีกครั้ง เจ้าบ่าวหางยาวเหยียดยาวตั้งแต่ประตูจนถึงประตู ฉันอยู่ที่นั่นและเห็นมันด้วยตัวเอง

แล้วไคล่ะไค? - ถามเกอร์ด้า - เขาปรากฏตัวเมื่อไหร่? แล้วเขามาทำแมตช์เหรอ?
- รอ! รอ! ตอนนี้เรามาถึงแล้ว! ในวันที่สาม มีชายร่างเล็กปรากฏตัวขึ้น โดยไม่ได้อยู่บนรถม้า ไม่ใช่บนหลังม้า แต่เพียงเดินเท้าเท่านั้น และตรงเข้าไปในพระราชวัง ดวงตาของเขาเป็นประกายเหมือนของคุณ ผมของเขายาว แต่เขาแต่งตัวไม่ดี
“ฉันเอง!” เกอร์ดาดีใจ “ฉันเจอเขาแล้ว!” และเธอก็ปรบมือ
“เขามีกระเป๋าเป้สะพายหลังอยู่ด้านหลัง” อีกาพูดต่อ
- ไม่ มันอาจเป็นเลื่อนของเขา! - เกอร์ด้ากล่าว - เขาออกจากบ้านพร้อมกับเลื่อน
- มันอาจจะดีก็ได้! - กาพูด - ฉันไม่ได้มองอย่างใกล้ชิดเกินไป เจ้าสาวของฉันเล่าให้ฉันฟังว่าเขาเข้าไปในประตูพระราชวังและเห็นทหารยามเป็นเงินได้อย่างไร และตามบันไดทั้งหมดที่เป็นทองคำ เขาไม่อายเลยแม้แต่น้อย เขาแค่พยักหน้าแล้วพูดว่า: "การยืนคงจะน่าเบื่อมาก ตรงบันไดฉันจะเข้าไป” “ฉันไปที่ห้องของฉันดีกว่า!” และห้องโถงทั้งหมดก็เต็มไปด้วยแสงสว่าง องคมนตรีและผู้มีเกียรติของพวกเขาเดินไปรอบ ๆ โดยไม่สวมรองเท้าบู๊ตแจกจานทองคำ - คงไม่เคร่งขรึมไปกว่านี้อีกแล้ว! รองเท้าบู๊ตของเขาส่งเสียงดังมาก แต่เขาไม่สนใจ
- น่าจะเป็นไค! - Gerda อุทาน - ฉันรู้ว่าเขาสวมรองเท้าบูทใหม่ ฉันเองก็ได้ยินว่าพวกเขาส่งเสียงดังเอี๊ยดเมื่อเขามาหายาย
“ใช่ พวกมันส่งเสียงดังเอี๊ยดนิดหน่อย” อีกาพูดต่อ - แต่เขาเข้าหาเจ้าหญิงอย่างกล้าหาญ เธอนั่งอยู่บนไข่มุกขนาดเท่าวงล้อ มีบรรดาสตรีในราชสำนักยืนอยู่รอบๆ พร้อมด้วยสาวใช้ บ่าวสาว และสุภาพบุรุษ พร้อมด้วยคนรับใช้และคนรับใช้ และคนเหล่านั้นก็มีคนรับใช้อีก ยิ่งมีคนยืนใกล้ประตูมากเท่าใด จมูกก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมองดูคนรับใช้รับใช้คนรับใช้และยืนอยู่ที่ประตูโดยไม่ตัวสั่น - เขามีความสำคัญมาก!
- นั่นคือความกลัว! - เกอร์ด้ากล่าว - ไคยังแต่งงานกับเจ้าหญิงอยู่หรือเปล่า?
“ถ้าฉันไม่ใช่อีกา ฉันจะแต่งงานกับเธอเอง แม้ว่าฉันจะหมั้นแล้วก็ตาม” เขาเริ่มต้นการสนทนากับเจ้าหญิงและพูดเช่นเดียวกับฉันในกา - อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เจ้าสาวเชื่องของฉันบอกฉัน เขาประพฤติตัวอย่างอิสระและอ่อนหวานและประกาศว่าเขาไม่ได้มาเพื่อแข่งขัน แต่เพียงเพื่อฟังสุนทรพจน์อันชาญฉลาดของเจ้าหญิงเท่านั้น เขาชอบเธอ และเธอก็ชอบเขาเช่นกัน
- ใช่แล้ว นั่นคือไค! - เกอร์ด้ากล่าว - เขาฉลาดมาก! เขารู้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทั้งสี่แบบและแม้แต่เศษส่วนด้วยซ้ำ! โอ้พาฉันไปที่วัง!
“พูดง่าย” อีกาตอบ “ทำยาก” เดี๋ยว ฉันจะคุยกับคู่หมั้นของฉัน เธอจะเสนออะไรบางอย่างและแนะนำเรา คุณคิดว่าพวกเขาจะให้คุณเข้าไปในวังแบบนั้นเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนั้นเข้ามาจริงๆ!
- พวกเขาจะให้ฉันเข้าไป! - เกอร์ด้ากล่าว - เมื่อไคได้ยินว่าฉันอยู่ที่นี่ เขาจะวิ่งตามฉันทันที
“รอฉันอยู่ที่บาร์” อีกาพูด ส่ายหัวแล้วบินหนีไป

เขากลับมาค่อนข้างดึกในตอนเย็นและบ่น:
- คาร์ คาร์! เจ้าสาวของฉันส่งคันธนูจำนวนหนึ่งพันคันและขนมปังนี้ให้คุณ เธอขโมยมันไปในครัว - มีเยอะแล้วเธอคงจะหิวแล้ว!.. คุณจะไม่เข้าไปในวังหรอกคุณเดินเท้าเปล่า - ทหารยามในชุดเงินและทหารราบในชุดทองคำจะไม่ยอมให้ คุณผ่าน แต่อย่าร้องไห้นะ คุณจะยังไปถึงจุดนั้น เจ้าสาวของฉันรู้วิธีเข้าไปในห้องนอนของเจ้าหญิงจากประตูหลังและจะรับกุญแจได้ที่ไหน

ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าไปในสวนเดินไปตามตรอกซอกซอยยาวซึ่งมีใบไม้ร่วงหล่นลงมาและเมื่อแสงไฟในพระราชวังดับลง นกกาก็นำหญิงสาวผ่านประตูที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง

โอ้หัวใจของ Gerda เต้นด้วยความกลัวและความไม่อดทนได้อย่างไร! ราวกับว่าเธอกำลังจะทำอะไรไม่ดี แต่เธอแค่อยากจะรู้ว่าไคของเธออยู่ที่นี่หรือไม่! ใช่ ใช่ เขาอาจจะอยู่ที่นี่! เกอร์ดาจินตนาการถึงดวงตาอันชาญฉลาด ผมยาวของเขา และวิธีที่เขายิ้มให้เธอเมื่อพวกมันเคยนั่งเคียงข้างกันใต้พุ่มกุหลาบ และตอนนี้เขาจะมีความสุขขนาดไหนเมื่อเห็นเธอ ได้ยินว่าเธอตัดสินใจเดินทางไกลแค่ไหนเพื่อเห็นแก่เขา เรียนรู้ว่าทุกคนที่บ้านเสียใจกับเขาอย่างไร! โอ้ เธออยู่เคียงข้างตัวเองด้วยความกลัวและความสุข!

แต่ที่นี่พวกเขาอยู่ตรงบันไดเลื่อน ตะเกียงกำลังไหม้อยู่บนตู้เสื้อผ้า และอีกาเชื่องก็นั่งอยู่บนพื้นและมองไปรอบๆ Gerda นั่งลงและโค้งคำนับขณะที่คุณยายของเธอสอนเธอ

คู่หมั้นของฉันเล่าเรื่องดีๆ มากมายเกี่ยวกับคุณให้ฉันฟังนะสาวน้อย! - อีกาเชื่องกล่าว - และชีวิตของคุณก็ซาบซึ้งมากเช่นกัน! คุณต้องการที่จะเอาตะเกียงและฉันจะไปข้างหน้า? เราจะไปตรง ๆ เราจะไม่พบใครที่นี่
“ แต่สำหรับฉันดูเหมือนว่ามีคนติดตามเรา” Gerda กล่าวและในขณะนั้นก็มีเงาบางอย่างวิ่งผ่านเธอไปพร้อมกับเสียงเล็กน้อย: ม้าที่มีแผงคอไหลและขาบาง ๆ นักล่าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษบนหลังม้า
- นี่คือความฝัน! - อีกาเชื่องกล่าว - พวกเขามาที่นี่เพื่อนำความคิดของชนชั้นสูงไปออกล่า ยิ่งดีสำหรับเรามากเท่าไหร่การเห็นคนนอนหลับก็จะสะดวกยิ่งขึ้น

จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในห้องโถงแรกซึ่งมีผนังที่ปูด้วยผ้าซาตินสีชมพูทอด้วยดอกไม้ ความฝันแวบผ่านหญิงสาวอีกครั้ง แต่เร็วมากจนไม่มีเวลาพบนักปั่น ห้องโถงหนึ่งงดงามกว่าอีกห้องหนึ่ง ดังนั้นจึงมีบางอย่างที่ต้องสับสน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงห้องนอน เพดานดูเหมือนยอดต้นปาล์มขนาดใหญ่ที่มีใบคริสตัลล้ำค่า จากตรงกลางมีก้านทองคำหนาๆ ห้อยเตียงสองเตียงเป็นรูปดอกลิลลี่ คนหนึ่งเป็นคนผิวขาว เจ้าหญิงนอนอยู่ในนั้น อีกคนเป็นสีแดง และเกอร์ด้าหวังว่าจะพบไคอยู่ในนั้น เด็กสาวงอกลีบสีแดงข้างหนึ่งเล็กน้อยและเห็นผมสีบลอนด์เข้มที่ด้านหลังศีรษะของเธอ นี่ไค! นางจึงเรียกชื่อเขาเสียงดังแล้วชูตะเกียงมาจ่อหน้าเขา ความฝันก็รีบวิ่งออกไปอย่างดัง เจ้าชายตื่นขึ้นมาแล้วหันศีรษะ... อ้าว ไม่ใช่ไค!

เจ้าชายมีลักษณะคล้ายกับเขาเพียงด้านหลังศีรษะ แต่ยังเด็กและหล่อเหลา เจ้าหญิงมองออกไปจากดอกลิลลี่สีขาวแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น Gerda เริ่มร้องไห้และเล่าเรื่องราวทั้งหมดของเธอ โดยพูดถึงสิ่งที่อีกาทำเพื่อเธอ

โอ้เจ้าผู้น่าสงสาร! - เจ้าชายและเจ้าหญิงกล่าวชื่นชมกาประกาศว่าพวกเขาไม่ได้โกรธพวกเขาเลย - อย่าปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งนี้อีกในอนาคต - และยังต้องการให้รางวัลพวกเขาด้วยซ้ำ
- คุณอยากเป็นนกอิสระไหม? - ถามเจ้าหญิง - หรืออยากรับตำแหน่งคอร์ตกาโดยพึ่งเศษครัวมาเต็ม?

นกกาและอีกาโค้งคำนับขอตำแหน่งในศาล พวกเขาคิดถึงวัยชราแล้วพูดว่า:
- การมีขนมปังที่ซื่อสัตย์สักชิ้นในวัยชราเป็นเรื่องดี!

เจ้าชายลุกขึ้นและยกเตียงให้เกอร์ดา - ยังไม่มีอะไรทำเพื่อเธอได้อีก และเธอก็พับแขนแล้วคิดว่า: "คนและสัตว์ช่างใจดีจริงๆ!" - หลับตาแล้วหลับไปอย่างหวานชื่น ความฝันบินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังอุ้มไคบนเลื่อนเล็ก ๆ ซึ่งพยักหน้าให้เกอร์ดา อนิจจาทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝันและหายไปทันทีที่หญิงสาวตื่นขึ้นมา

วันรุ่งขึ้นพวกเขาแต่งกายให้เธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยผ้าไหมและกำมะหยี่ และอนุญาตให้เธออยู่ในวังได้นานเท่าที่เธอต้องการ

เด็กผู้หญิงสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป แต่เธออยู่ได้เพียงไม่กี่วันและเริ่มขอรถเข็นพร้อมม้าและรองเท้าคู่หนึ่ง - เธอต้องการออกไปตามหาพี่ชายที่สาบานของเธอทั่วโลกอีกครั้ง

พวกเขามอบรองเท้า ผ้าพันคอ และชุดที่สวยงามให้กับเธอ และเมื่อเธอกล่าวคำอำลากับทุกคน รถม้าที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ก็ขับขึ้นไปที่ประตู โดยมีเสื้อคลุมแขนของเจ้าชายและเจ้าหญิงส่องแสงราวกับดวงดาว: คนขับรถม้า , ทหารราบ, เสา - พวกเขาให้เสาของเธอด้วย - มีมงกุฎทองคำเล็ก ๆ ประดับศีรษะ

เจ้าชายและเจ้าหญิงเองก็นั่งเกร์ดาในรถม้าและอวยพรให้เธอเดินทางอย่างมีความสุข

นกกาป่าซึ่งแต่งงานแล้วได้ร่วมเดินทางไปกับหญิงสาวเป็นระยะทางสามไมล์แรกและนั่งในรถม้าข้างๆ เธอ - เขาไม่สามารถขี่หลังม้าได้ อีกาเชื่องนั่งอยู่บนประตูและกระพือปีก เธอไม่ได้ไปเยี่ยมเกอร์ดาเพราะเธอปวดหัวตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งที่ศาลและกินมากเกินไป รถม้าเต็มไปด้วยเพรทเซลน้ำตาล และกล่องใต้เบาะก็เต็มไปด้วยผลไม้และขนมปังขิง

ลาก่อน! ลาก่อน! - เจ้าชายและเจ้าหญิงตะโกน

Gerda เริ่มร้องไห้ อีกาก็ร้องไห้เช่นกัน สามไมล์ต่อมา ฉันก็บอกลาหญิงสาวและอีกา เป็นการจากกันที่ยากลำบาก! อีกาบินขึ้นไปบนต้นไม้แล้วกระพือปีกสีดำของมันจนรถม้าที่ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์หายไปจากสายตา

เรื่องที่ห้า. โจรตัวน้อย

เกอร์ดาจึงขี่ม้าเข้าไปในป่าอันมืดมิดซึ่งมีพวกโจรอาศัยอยู่ รถม้าถูกเผาไหม้ราวกับความร้อน มันทำร้ายดวงตาของโจร และพวกเขาก็ทนไม่ไหว

ทอง! ทอง! - พวกเขาตะโกนจับม้าที่บังเหียนฆ่าเสาเล็ก ๆ โค้ชและคนรับใช้แล้วลากเกอร์ดาออกจากรถม้า
- ดูสิ ช่างอ้วนน่ารักจริงๆ! อ้วนด้วยถั่ว! - หญิงชราโจรผู้มีเครายาวหยาบกร้านและมีขนดกขนคิ้วยื่นออกมา - เจ้าอ้วนเหมือนลูกแกะของคุณ! แล้วรสชาติจะเป็นยังไงล่ะ?

และเธอก็ดึงมีดอันแหลมคมออกมา น่ากลัวจริงๆ!

อ้าว! - ทันใดนั้นเธอก็กรีดร้อง: ลูกสาวของเธอกัดหูซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอและดื้อดึงและเอาแต่ใจจนน่าพอใจ - โอ้คุณหมายถึงเด็กผู้หญิง! - แม่กรีดร้อง แต่ไม่มีเวลาฆ่าเกอร์ดา
“เธอจะเล่นกับฉัน” โจรตัวน้อยพูด - เธอจะมอบผ้าพันคอ ชุดสวยๆ ของเธอให้ฉัน และจะนอนกับฉันบนเตียงของฉัน

และหญิงสาวก็กัดแม่ของเธอแรงอีกครั้งจนเธอกระโดดหมุนตัวอยู่กับที่ พวกโจรก็หัวเราะ

ดูสิว่าเขาเต้นกับสาวของเขายังไง!
- ฉันอยากไปรถม้า! - โจรตัวน้อยตะโกนและยืนกรานด้วยตัวเธอเอง - เธอนิสัยเสียและดื้อรั้นมาก

พวกเขาขึ้นรถม้าพร้อมกับเกอร์ดาแล้วรีบวิ่งข้ามตอไม้และฮัมม็อกเข้าไปในป่าทึบ

โจรตัวน้อยนั้นสูงพอๆ กับเกอร์ดา แต่แข็งแกร่งกว่า ไหล่กว้างกว่า และเข้มกว่ามาก ดวงตาของเธอเป็นสีดำสนิท แต่ก็น่าเศร้า เธอกอดเกอร์ดาแล้วพูดว่า:
- พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณจนกว่าฉันจะโกรธคุณ คุณเป็นเจ้าหญิงใช่ไหม?
“ไม่” เด็กสาวตอบและเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอต้องเผชิญและความรักที่เธอรักไค

โจรตัวน้อยมองเธออย่างจริงจัง พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า:
- พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณแม้ว่าฉันจะโกรธคุณก็ตาม - ฉันอยากจะฆ่าคุณเอง!

และเธอก็เช็ดน้ำตาของ Gerda แล้วซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ในผ้าปิดปากอันแสนอบอุ่นและนุ่มนวลของเธอ

รถม้าหยุด: พวกเขาเข้าไปในลานปราสาทของโจร

มันถูกปกคลุมไปด้วยรอยแตกขนาดใหญ่ อีกาและอีกาบินออกมาจากพวกเขา บูลด็อกตัวใหญ่กระโดดออกมาจากที่ไหนสักแห่งดูเหมือนว่าพวกมันแต่ละตัวไม่มีอารมณ์ที่จะกลืนคน แต่พวกมันแค่กระโดดสูงและไม่เห่าด้วยซ้ำ - นี่เป็นสิ่งต้องห้าม กลางห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีผนังที่ทรุดโทรมและเต็มไปด้วยเขม่าและพื้นหิน มีไฟลุกโชน ควันลอยขึ้นไปบนเพดานและต้องหาทางออกด้วยตัวเอง ซุปกำลังเดือดในหม้อขนาดใหญ่เหนือกองไฟ ส่วนกระต่ายและกระต่ายก็ย่างบนไฟถ่มน้ำลาย

“คุณจะนอนกับฉันที่นี่ ใกล้กับสวนสัตว์เล็กๆ ของฉัน” โจรตัวน้อยพูดกับเกอร์ดา

เด็กผู้หญิงได้รับอาหารและรดน้ำ และพวกเขาก็ไปที่มุมของพวกเขาซึ่งมีการปูฟางและปูด้วยพรม ชั้นบนมีนกพิราบมากกว่าร้อยตัวเกาะอยู่บนคอน ดูเหมือนพวกเธอทุกคนจะหลับไปแล้ว แต่เมื่อสาวๆ เข้ามาใกล้ พวกเธอก็ขยับเล็กน้อย

ของฉันทั้งหมด! - โจรตัวน้อยพูดจับนกพิราบตัวหนึ่งที่ขาแล้วเขย่ามันมากจนกระพือปีก - นี่จูบเขา! - เธอตะโกนและจิ้มนกพิราบตรงหน้าเกอร์ดา “และนี่คือพวกอันธพาลในป่ากำลังนั่งอยู่” เธอพูดต่อ โดยชี้ไปที่นกพิราบสองตัวนั่งอยู่ในช่องว่างเล็กๆ บนกำแพง หลังโครงไม้ขัดแตะ - สองคนนี้เป็นพวกอันธพาลในป่า พวกมันจะต้องถูกขังไว้ ไม่เช่นนั้นพวกมันจะบินหนีไปอย่างรวดเร็ว! และนี่คือชายชราที่รักของฉัน! - และหญิงสาวก็ดึงเขากวางเรนเดียร์ที่ผูกติดกับผนังด้วยปลอกคอทองแดงมันวาว - เขาต้องมีสายจูงด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะหนีไป! ทุกเย็นฉันจะจั๊กจี้เขาที่คอด้วยมีดคมๆ - เขากลัวมันแทบตาย

ด้วยคำพูดเหล่านี้ โจรตัวน้อยก็ดึงมีดยาวออกมาจากรอยแยกบนกำแพงแล้วฟาดไปที่คอกวาง สัตว์ที่น่าสงสารเตะและหญิงสาวก็หัวเราะและลากเกอร์ดาไปที่เตียง

คุณนอนมีดจริงเหรอ? - เกอร์ด้าถามเธอ
- เสมอ! - ตอบโจรตัวน้อย - คุณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! บอกฉันอีกครั้งเกี่ยวกับไคและวิธีที่คุณออกเดินทางรอบโลก

เกอร์ด้าบอก นกพิราบไม้ในกรงส่งเสียงร้องเบาๆ นกพิราบตัวอื่นกำลังหลับอยู่แล้ว โจรตัวน้อยโอบแขนข้างหนึ่งรอบคอของ Gerda - เธอมีมีดอยู่อีกข้างหนึ่ง - และเริ่มกรน แต่ Gerda ไม่สามารถหลับตาได้ โดยไม่รู้ว่าพวกเขาจะฆ่าเธอหรือปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ ทันใดนั้นนกพิราบป่าก็ส่งเสียงร้อง:
- คัวร์! คุร! เราเห็นไค! ไก่ขาวอุ้มเลื่อนของเขาไว้บนหลังของเธอ และเขาก็นั่งบนเลื่อนของราชินีหิมะ พวกมันบินข้ามป่าตอนที่พวกเราซึ่งเป็นลูกไก่ยังนอนอยู่ในรัง เธอหายใจเข้าใส่เรา และทุกคนก็เสียชีวิตยกเว้นเราสองคน คุร! คุร!
- อะไร. คุณพูด! - Gerda อุทาน - ราชินีหิมะบินไปที่ไหน? คุณรู้หรือไม่?
- น่าจะเป็นที่แลปแลนด์ - เพราะมีหิมะและน้ำแข็งอยู่ที่นั่นชั่วนิรันดร์ ถามกวางเรนเดียร์ว่าผูกอะไรอยู่ที่นี่
- ใช่แล้ว มีหิมะและน้ำแข็งนิรันดร์ ปาฏิหาริย์ดีแค่ไหน! - กวางเรนเดียร์กล่าว - คุณจะกระโดดอย่างอิสระข้ามที่ราบอันกว้างใหญ่ที่ส่องประกายระยิบระยับ เต็นท์ฤดูร้อนของราชินีหิมะตั้งอยู่ที่นั่น และพระราชวังถาวรของเธออยู่ที่ขั้วโลกเหนือ บนเกาะสปิตสเบอร์เกน
- โอ้ไก่ ไก่ที่รักของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ
“นอนนิ่งๆ” โจรตัวน้อยกล่าว - ไม่งั้นฉันจะแทงคุณด้วยมีด!

ในตอนเช้าเกอร์ดาเล่าสิ่งที่เธอได้ยินจากนกพิราบป่าให้เธอฟัง โจรตัวน้อยมองดู Gerda อย่างจริงจังพยักหน้าแล้วพูดว่า:
- เอาล่ะ!.. รู้ไหมว่า Lapland อยู่ที่ไหน? - จากนั้นเธอก็ถามกวางเรนเดียร์
- ใครจะรู้ถ้าไม่ใช่ฉัน! - ตอบกวางและดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย “นั่นคือที่ที่ฉันเกิดและเติบโต ที่ที่ฉันกระโดดข้ามที่ราบที่เต็มไปด้วยหิมะ”
“ ถ้าอย่างนั้นจงฟัง” โจรตัวน้อยพูดกับเกอร์ดา - เห็นไหมว่าคนของเราไปหมดแล้ว ที่บ้านมีแม่เพียงคนเดียว อีกหน่อยเธอก็จะจิบจากขวดใหญ่แล้วงีบหลับแล้วฉันจะทำอะไรให้คุณ

หญิงชราจึงจิบน้ำจากขวดและเริ่มกรน และโจรตัวน้อยก็เข้ามาหากวางเรนเดียร์แล้วพูดว่า:
- เราจะล้อคุณได้นาน! คุณตลกจริงๆ เมื่อพวกเขาจั๊กจี้คุณด้วยมีดคมๆ เอาล่ะเป็นอย่างนั้น! ฉันจะแก้มัดคุณและปล่อยคุณให้เป็นอิสระ คุณสามารถวิ่งไปที่ Lapland ของคุณได้ แต่ด้วยเหตุนี้คุณต้องพาผู้หญิงคนนี้ไปที่วังของราชินีหิมะ - พี่ชายสาบานของเธออยู่ที่นั่น แน่นอนคุณได้ยินสิ่งที่เธอพูดเหรอ? เธอพูดเสียงดัง และหูของคุณก็จะอยู่เหนือศีรษะเสมอ

กวางเรนเดียร์กระโดดด้วยความดีใจ และโจรตัวน้อยก็วางเกอร์ดาไว้ มัดเธอให้แน่นเพื่อให้แน่ใจ และยังเอาหมอนนุ่ม ๆ ไว้ข้างใต้เธอด้วยเพื่อที่เธอจะได้นั่งได้สบายยิ่งขึ้น

ยังไงก็ตาม” เธอพูด “เอารองเท้าบูทขนสัตว์ของคุณกลับคืนมา เพราะมันจะหนาว!” แต่ฉันจะเก็บมัฟไว้มันดีเกินไป แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณหยุด: นี่คือถุงมือขนาดใหญ่ของแม่ฉัน ซึ่งจะยาวถึงข้อศอกของคุณ ใส่มือของคุณเข้าไปในนั้น! ตอนนี้คุณมีมือเหมือนแม่ที่น่าเกลียดของฉัน

Gerda ร้องไห้ด้วยความดีใจ

ฉันทนไม่ไหวแล้วเมื่อพวกเขาสะอื้น! - โจรตัวน้อยกล่าว - ตอนนี้คุณควรจะมีความสุข นี่คือขนมปังอีกสองก้อนกับแฮมหนึ่งชิ้น จะได้ไม่ต้องอดอาหาร

ทั้งสองถูกมัดไว้กับกวาง จากนั้นโจรตัวน้อยก็เปิดประตู ล่อสุนัขเข้าไปในบ้าน ตัดเชือกที่กวางผูกด้วยมีดคมๆ ของเธอ แล้วพูดกับเขาว่า
- มีชีวิตชีวา! ใช่ ดูแลผู้หญิงคนนั้นด้วย Gerda ยื่นมือทั้งสองข้างสวมถุงมือขนาดใหญ่ให้โจรตัวน้อยแล้วกล่าวคำอำลากับเธอ กวางเรนเดียร์ออกเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดผ่านตอไม้และฮัมม็อกผ่านป่า ผ่านหนองน้ำและสเตปป์ หมาป่าหอน อีการ้อง

ฮึ ฮึ - ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงจากท้องฟ้าและดูเหมือนจามเหมือนไฟ

นี่คือแสงเหนือพื้นเมืองของฉัน! - กวางพูด - ดูสิว่ามันไหม้แค่ไหน

เรื่องที่หก. แลปแลนด์และฟินแลนด์

กวางหยุดอยู่ที่กระท่อมอันน่าสังเวช หลังคาลงไปถึงพื้น และประตูก็ต่ำมากจนผู้คนต้องคลานผ่านทั้งสี่ด้าน

ที่บ้านมีหญิงชราชาวแลปแลนเดอร์กำลังทอดปลาด้วยแสงตะเกียงอ้วนๆ กวางเรนเดียร์เล่าเรื่องทั้งหมดของเกอร์ดาให้แลปแลนเดอร์ฟัง แต่ก่อนอื่นเขาเล่าเรื่องของเขาเองก่อน - ดูเหมือนมันจะสำคัญกว่ามากสำหรับเขา

Gerda รู้สึกชามากจนเธอพูดไม่ออก

โอ้คุณสิ่งที่น่าสงสาร! - แลปแลนเดอร์กล่าว - คุณยังมีหนทางอีกยาวไกล! คุณจะต้องเดินทางไกลกว่าร้อยไมล์จนกว่าคุณจะไปถึงฟินแลนด์ ที่ซึ่งราชินีหิมะอาศัยอยู่ในบ้านในชนบทของเธอ และส่องแสงประกายไฟสีฟ้าทุกเย็น ฉันจะเขียนคำสองสามคำบนปลาคอดแห้ง - ฉันไม่มีกระดาษ - แล้วคุณจะส่งข้อความถึงผู้หญิงชาวฟินแลนด์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่เหล่านั้นและจะสามารถสอนคุณได้ดีกว่าฉันว่าต้องทำอย่างไร

เมื่อเกอร์ดาอุ่นเครื่อง กิน และดื่มแล้ว เจ้าแลปแลนเดอร์ก็เขียนคำสองสามคำลงบนปลาค็อดแห้ง และบอกให้เกอร์ดาดูแลมันให้ดี จากนั้นจึงมัดหญิงสาวไว้ที่หลังกวาง แล้วมันก็วิ่งออกไปอีกครั้ง

ฮึ ฮึ - ได้ยินเสียงอีกครั้งจากท้องฟ้า และเริ่มพ่นเปลวไฟสีน้ำเงินอันน่าอัศจรรย์ออกมา ดังนั้นกวางจึงวิ่งไปกับ Gerda ไปยังฟินแลนด์และเคาะปล่องไฟของหญิงชาวฟินแลนด์ - เธอไม่มีประตูด้วยซ้ำ

ที่บ้านเธอร้อน! ผู้หญิงฟินแลนด์เองเป็นผู้หญิงอ้วนเตี้ยเดินเปลือยเปล่าครึ่งหนึ่ง เธอรีบถอดชุด ถุงมือ และรองเท้าบู๊ตของ Gerda ออกมา ไม่เช่นนั้นหญิงสาวคงจะร้อนเอาน้ำแข็งวางบนหัวกวางแล้วเริ่มอ่านสิ่งที่เขียนไว้บนปลาคอดแห้ง

เธออ่านทุกอย่างจากคำหนึ่งไปอีกคำสามครั้งจนกระทั่งเธอจำมันได้ จากนั้นเธอก็ใส่ปลาค็อดลงในหม้อ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ปลาก็เหมาะสำหรับเป็นอาหาร และหญิงชาวฟินแลนด์ก็ไม่ได้ทิ้งอะไรเลย

ที่นี่กวางเล่าเรื่องของเขาก่อนแล้วจึงเล่าเรื่องของเกอร์ดา หญิงชาวฟินแลนด์กระพริบตาอันชาญฉลาดของเธอแต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก... - กวางพูด “คุณจะทำเครื่องดื่มให้กับเด็กผู้หญิงที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฮีโร่ทั้งสิบสองคนให้เธอไหม” ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะเอาชนะราชินีหิมะได้!
- ความแข็งแกร่งของฮีโร่ทั้งสิบสองคน! - ผู้หญิงฟินแลนด์กล่าว - แต่นั่นมันดีอะไรล่ะ?

ด้วยคำพูดเหล่านี้ เธอหยิบม้วนหนังสือหนังขนาดใหญ่ออกจากชั้นวางแล้วคลี่ออก มันถูกปกคลุมไปด้วยข้อความที่น่าทึ่ง

กวางเริ่มถามหาเกอร์ดาอีกครั้งและเกอร์ดาเองก็มองดูฟินน์ด้วยดวงตาอ้อนวอนที่เต็มไปด้วยน้ำตาจนเธอกระพริบตาอีกครั้งเอากวางออกไปแล้วเปลี่ยนน้ำแข็งบนหัวของเขาแล้วกระซิบ:
- ไคอยู่กับราชินีหิมะจริงๆ แต่เขาค่อนข้างมีความสุขและคิดว่าคงไม่มีใครดีไปกว่านี้อีกแล้ว เหตุผลของทุกสิ่งคือเศษกระจกที่อยู่ในใจและในดวงตาของเขา พวกเขาจะต้องถูกลบออก ไม่เช่นนั้น Snow Queen จะคงอำนาจของเธอไว้เหนือเขา
“ คุณให้บางอย่างกับ Gerda ที่จะทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าคนอื่นไม่ได้เหรอ?”
“ฉันไม่สามารถทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าเธอได้” คุณไม่เห็นว่าพลังของเธอยิ่งใหญ่แค่ไหน? คุณไม่เห็นหรือว่าทั้งคนและสัตว์ต่างก็รับใช้เธอ? ในที่สุดเธอก็เดินเท้าเปล่าไปทั่วโลกครึ่งโลก! ไม่ใช่เราที่ควรจะยืมความแข็งแกร่งของเธอ ความเข้มแข็งของเธออยู่ที่ใจของเธอในความจริงที่ว่าเธอเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาและน่ารัก หากตัวเธอเองไม่สามารถเจาะเข้าไปในวังของราชินีหิมะและกำจัดชิ้นส่วนออกจากหัวใจของไคได้ เราก็จะไม่ช่วยเธออย่างแน่นอน! ห่างจากที่นี่ไปสองไมล์ สวนของ Snow Queen ก็เริ่มต้นขึ้น พาหญิงสาวไปที่นั่น ส่งเธอไปใกล้พุ่มไม้ขนาดใหญ่ที่โรยด้วยผลเบอร์รี่สีแดง แล้วกลับมาโดยไม่ลังเลใจ

ด้วยคำพูดเหล่านี้ หญิงชาวฟินแลนด์จึงวางเกอร์ดาไว้บนหลังกวาง และเขาก็เริ่มวิ่งให้เร็วที่สุด

เฮ้ ฉันไม่มีรองเท้าบูทอุ่น ๆ นะ! เฮ้ ฉันไม่ได้สวมถุงมือนะ! - Gerda ตะโกนพบว่าตัวเองหนาวเหน็บ

แต่กวางกลับไม่กล้าหยุดจนกว่าจะถึงพุ่มไม้ที่มีผลเบอร์รี่สีแดง จากนั้นเขาก็ลดหญิงสาวลง จูบเธอที่ริมฝีปาก และน้ำตาหยดใหญ่เป็นประกายอาบแก้มของเขา จากนั้นเขาก็ยิงกลับไปเหมือนลูกศร

เด็กหญิงผู้น่าสงสารถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังท่ามกลางความหนาวเย็นอันขมขื่น โดยไม่สวมรองเท้าและถุงมือ

เธอวิ่งไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด กองเกล็ดหิมะทั้งหมดพุ่งเข้าหาเธอ แต่พวกมันไม่ได้ตกลงมาจากท้องฟ้า - ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างสมบูรณ์และแสงเหนือก็ส่องสว่างอยู่ในนั้น - ไม่พวกมันวิ่งไปตามพื้นตรงไปยังเกอร์ดาและมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ .

เกอร์ดาจำเกล็ดที่สวยงามขนาดใหญ่ใต้แว่นขยายได้ แต่เกล็ดเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่า น่ากลัวกว่า และยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด

เหล่านี้คือกองกำลังลาดตระเวนล่วงหน้าของราชินีหิมะ

บางตัวมีลักษณะคล้ายเม่นตัวใหญ่ที่น่าเกลียดบางตัวก็เหมือนงูร้อยหัวบางตัวก็เหมือนลูกหมีตัวอ้วนที่มีขนยุ่งเหยิง แต่พวกมันทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยความขาวเท่ากัน พวกมันล้วนเป็นเกล็ดหิมะที่มีชีวิต

อย่างไรก็ตาม Gerda เดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและในที่สุดก็ถึงวังของราชินีหิมะ

มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับไก่ในตอนนั้น เขาไม่ได้คิดถึงเกอร์ดาเลย และที่สำคัญที่สุดคือเธอสนิทกับเขามาก

เรื่องที่เจ็ด. เกิดอะไรขึ้นในห้องโถงของราชินีหิมะและเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ผนังพระราชวังมีพายุหิมะ หน้าต่างและประตูมีลมแรง ห้องโถงมากกว่าร้อยแห่งทอดยาวมาที่นี่ทีละห้องขณะที่พายุหิมะพัดกวาดพวกเขา แสงเหนือทั้งหมดสว่างไสว และแสงที่ใหญ่ที่สุดทอดยาวเป็นระยะทางหลายไมล์ ช่างหนาวเหน็บ ช่างร้างเหลือเกินในวังสีขาวที่ส่องประกายระยิบระยับเหล่านี้! ความสนุกไม่เคยมาที่นี่ ไม่เคยมีการแสดงลูกบอลหมีพร้อมการเต้นรำตามเสียงเพลงของพายุที่นี่ ซึ่งหมีขั้วโลกสามารถแยกแยะตัวเองด้วยความสง่างามและความสามารถในการเดินด้วยขาหลัง เกมไพ่ที่มีการทะเลาะวิวาทและการต่อสู้ไม่เคยถูกวาดขึ้นและการซุบซิบจิ้งจอกขาวตัวเล็ก ๆ ไม่เคยพูดคุยเรื่องกาแฟสักแก้ว

หนาว ร้าง อลังการ! แสงเหนือกะพริบและเผาไหม้อย่างถูกต้องจนสามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำว่าแสงจะเข้มขึ้นในนาทีใดและจะสลัวลงเมื่อใด กลางห้องโถงร้างที่เต็มไปด้วยหิมะที่ใหญ่ที่สุดมีทะเลสาบน้ำแข็งอยู่ น้ำแข็งแตกใส่เขาออกเป็นหลายพันชิ้น เหมือนกันมากและสม่ำเสมอจนดูเหมือนเป็นกลอุบายบางอย่าง ราชินีหิมะนั่งอยู่กลางทะเลสาบเมื่อเธออยู่ที่บ้านและบอกว่าเธอนั่งอยู่บนกระจกแห่งจิตใจ ในความเห็นของเธอ มันเป็นกระจกบานเดียวและดีที่สุดในโลก

ไคเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินจนเกือบดำคล้ำจากความหนาวเย็น แต่ไม่ได้สังเกตเห็น - การจูบของราชินีหิมะทำให้เขาไม่รู้สึกต่อความหนาวเย็นและหัวใจของเขาก็เหมือนชิ้นน้ำแข็ง ไคปรับแต่งแผ่นน้ำแข็งทรงแหลมแบนๆ โดยจัดเรียงมันไว้ในรูปแบบต่างๆ มีเกมดังกล่าว - พับร่างจากแผ่นไม้ - ซึ่งเรียกว่าปริศนาจีน โซไคยังรวบรวมร่างที่สลับซับซ้อนต่างๆ ไว้ด้วยกัน มีเพียงก้อนน้ำแข็งเท่านั้น และสิ่งนี้เรียกว่าเกมใจน้ำแข็ง ในสายตาของเขา ตัวเลขเหล่านี้เป็นปาฏิหาริย์แห่งศิลปะ และการพับมันเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญยิ่ง สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีกระจกวิเศษชิ้นหนึ่งในดวงตาของเขา

นอกจากนี้เขายังรวบรวมตัวเลขที่ได้รับทั้งคำ แต่เขาไม่สามารถรวบรวมสิ่งที่เขาต้องการเป็นพิเศษได้ - คำว่า "นิรันดร์" ราชินีหิมะบอกเขาว่า: "ถ้าคุณรวมคำนี้เข้าด้วยกัน คุณจะเป็นเจ้านายของคุณเอง และฉันจะมอบโลกทั้งใบและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่ให้คุณ" แต่เขาไม่สามารถรวบรวมมันเข้าด้วยกันได้

ตอนนี้ฉันจะบินไปยังดินแดนที่อบอุ่นกว่านี้” ราชินีหิมะกล่าว - ฉันจะดูหม้อต้มสีดำ

นี่คือสิ่งที่เธอเรียกว่าหลุมอุกกาบาตของภูเขาพ่นไฟ - เอตนาและวิสุเวียส

ฉันจะทำให้พวกเขาขาวขึ้นเล็กน้อย มันดีสำหรับมะนาวและองุ่น

เธอบินจากไป และไคถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในห้องโถงร้างอันกว้างใหญ่ มองดูน้ำแข็งที่ลอยอยู่ คิดและคิดจนหัวของเขาแตก เขานั่งอยู่กับที่ ซีดเซียว ไร้การเคลื่อนไหว ราวกับไร้ชีวิต คุณคงคิดว่าเขาถูกแช่แข็งจนหมด

ในเวลานั้น Gerda เข้าไปในประตูใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยลมแรง และลมก็สงบลงต่อหน้าเธอราวกับว่าพวกเขาหลับไปแล้ว เธอเข้าไปในห้องโถงน้ำแข็งร้างขนาดใหญ่และเห็นไค เธอจำเขาได้ทันที กอดคอเขา กอดเขาแน่นแล้วอุทาน:
- ไคไคที่รักของฉัน! ในที่สุดฉันก็พบคุณ!

แต่เขาก็นั่งนิ่งนิ่งและเย็นชา แล้วเกอร์ดาก็เริ่มร้องไห้ น้ำตาอันร้อนแรงของเธอตกลงบนหน้าอกของเขา ทะลุหัวใจของเขา ละลายเปลือกน้ำแข็ง ละลายชิ้นส่วน ไคมองดูเกอร์ดาแล้วจู่ๆ ก็น้ำตาไหลและร้องไห้หนักมากจนเศษเสี้ยวไหลออกมาจากตาพร้อมกับน้ำตา จากนั้นเขาก็จำเกอร์ดาได้และรู้สึกยินดี:
- เกอร์ด้า! เรียน Gerda!.. คุณไปอยู่ที่ไหนมานานแล้ว? ฉันเองอยู่ที่ไหน? - และเขาก็มองไปรอบ ๆ - ที่นี่หนาวและรกร้างขนาดไหน!

และเขาก็กดตัวเองให้เกอร์ดาแน่น และเธอก็หัวเราะและร้องไห้ด้วยความดีใจ เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่แม้แต่แผ่นน้ำแข็งก็เริ่มเต้น และเมื่อพวกเขาเหนื่อยพวกเขาก็นอนลงและเรียบเรียงคำเดียวกับที่ราชินีหิมะขอให้คายะแต่ง ด้วยการพับมัน เขาสามารถเป็นนายของตัวเองได้ และรับของขวัญจากทั้งโลกและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่จากเธอ

Gerda จูบไก่ที่แก้มทั้งสองข้าง และพวกเขาก็เริ่มเปล่งประกายเหมือนดอกกุหลาบอีกครั้ง เธอจูบดวงตาของเขาและมันก็เป็นประกาย เธอจูบมือและเท้าของเขา และเขาก็กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง

ราชินีหิมะสามารถกลับมาได้ตลอดเวลา - ค่าพักร้อนของเขาอยู่ที่นี่เขียนด้วยตัวอักษรน้ำแข็งแวววาว

ไคและเกอร์ดาเดินจับมือกันออกจากวังน้ำแข็ง พวกเขาเดินและพูดคุยเกี่ยวกับคุณยายของพวกเขา เกี่ยวกับดอกกุหลาบที่บานสะพรั่งในสวนของพวกเขา และตรงหน้าพวกเขาลมแรงก็สงบลงและดวงอาทิตย์ก็ลอดผ่าน และเมื่อพวกเขาไปถึงพุ่มไม้ที่มีผลเบอร์รี่สีแดง ก็มีกวางเรนเดียร์ตัวหนึ่งกำลังรอพวกเขาอยู่

ไคและเกอร์ดาไปหาผู้หญิงชาวฟินแลนด์รายแรก อุ่นเครื่องกับเธอ และหาทางกลับบ้าน จากนั้นจึงไปหาหญิงชาวแลปแลนเดอร์ เธอเย็บชุดใหม่ให้พวกเขา ซ่อมรถลากเลื่อนและไปดูพวกเขาออกไป

กวางยังร่วมเดินทางไปกับนักเดินทางรุ่นเยาว์จนถึงชายแดนแลปแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่พื้นที่สีเขียวแห่งแรกได้ทะลุผ่านไปแล้ว จากนั้นไคและเกอร์ดาก็บอกลาเขาและแลปแลนเดอร์

ด้านหน้าของพวกเขาคือป่า นกตัวแรกเริ่มร้องเพลง ต้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยดอกตูมสีเขียว เด็กสาวสวมหมวกแก๊ปสีแดงสดพร้อมปืนพกคาดเข็มขัด ขี่ม้าออกจากป่าไปพบนักเดินทางบนหลังม้าอันงดงาม

Gerda จำม้าทั้งสองตัวได้ทันที ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยถูกควบคุมด้วยรถม้าสีทอง และหญิงสาวคนนั้น มันเป็นโจรตัวน้อย

เธอยังจำเกอร์ดาได้ด้วย ช่างน่ายินดีจริงๆ!

ดูสิคุณคนจรจัด! - เธอพูดกับไค “ฉันอยากรู้ว่าคุณคุ้มไหมที่จะมีคนวิ่งตามคุณไปจนสุดขอบโลก”

แต่เกอร์ด้าตบแก้มเธอแล้วถามถึงเจ้าชายและเจ้าหญิง

“พวกเขาออกเดินทางไปยังต่างแดน” โจรหนุ่มตอบ
- แล้วกาล่ะ? - ถามเกอร์ด้า
- กาป่าตาย อีกาเชื่องถูกทิ้งไว้ให้เป็นม่าย เดินไปรอบๆ โดยมีขนสีดำอยู่บนขาของเธอ และบ่นเกี่ยวกับชะตากรรมของเธอ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่บอกฉันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณและคุณพบเขาได้อย่างไร

Gerda และ Kai บอกเธอทุกอย่าง

นั่นคือจุดสิ้นสุดของเทพนิยาย! - โจรหนุ่มกล่าวจับมือและสัญญาว่าจะไปเยี่ยมพวกเขาหากเธอมาที่เมืองของพวกเขา

จากนั้นเธอก็ไปตามทางของเธอ ส่วน Kai และ Gerda ก็ไปตามทางของพวกเขา

พวกเขาเดินไป และระหว่างทาง ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิก็บานสะพรั่ง และหญ้าก็กลายเป็นสีเขียว จากนั้นเสียงระฆังก็ดังขึ้น และพวกเขาก็จำหอระฆังในบ้านเกิดของตนได้ พวกเขาขึ้นบันไดที่คุ้นเคยและเข้าไปในห้องที่ทุกอย่างเหมือนเดิม นาฬิกาบอก "ติ๊กต๊อก" เข็มนาฬิกาเดินไปตามหน้าปัด แต่เมื่อผ่านประตูต่ำไป พวกเขาสังเกตเห็นว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว พุ่มกุหลาบที่กำลังเบ่งบานมองจากหลังคาผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ เก้าอี้เด็กของพวกเขายืนอยู่ตรงนั้น ไคและเกอร์ดาต่างนั่งลงด้วยตัวเอง จับมือกัน และความงดงามอันเยือกเย็นและรกร้างของพระราชวังของราชินีหิมะก็ถูกลืมไปราวกับความฝันอันหนักหน่วง

ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งเคียงข้างกัน ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เป็นเด็กในหัวใจและจิตวิญญาณ และข้างนอกก็เป็นฤดูร้อน เป็นฤดูร้อนที่อบอุ่นและมีความสุข

ปี: 1844

ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน

ราชินีหิมะ

เทพนิยายในเจ็ดเรื่อง

แปลโดยแอนนาและปีเตอร์ แฮนเซน

กระจกเงาและชิ้นส่วนของมัน

เรื่องที่หนึ่ง

เริ่มกันเลย! เมื่อเรามาถึงจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเรา เราจะรู้มากกว่าที่เรารู้ตอนนี้ กาลครั้งหนึ่งมีโทรลล์ตัวหนึ่ง โกรธและดูถูกเหยียดหยาม มันเป็นปีศาจเอง เมื่อเขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาทำกระจกที่ทุกสิ่งที่ดีและสวยงามลดน้อยลงอย่างมาก ในขณะที่ทุกสิ่งที่ไร้ค่าและน่าเกลียดกลับโดดเด่นยิ่งขึ้นและดูแย่ลงไปอีก ภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดดูเหมือนผักโขมต้มอยู่ในนั้น และผู้คนที่ดีที่สุดก็ดูเหมือนคนประหลาดหรือดูเหมือนจะยืนคว่ำและไม่มีพุง! ใบหน้าบิดเบี้ยวจนไม่สามารถจดจำได้ หากใครมีกระหรือไฝบนใบหน้าก็จะกระจายไปทั่วใบหน้า ปีศาจรู้สึกขบขันอย่างมากกับเรื่องทั้งหมดนี้ ความคิดที่ใจดีและเคร่งครัดของมนุษย์สะท้อนอยู่ในกระจกด้วยหน้าตาบูดบึ้งที่ไม่อาจจินตนาการได้ จนโทรลล์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและชื่นชมยินดีกับสิ่งประดิษฐ์ของเขา นักเรียนของโทรลล์ทุกคน - เขามีโรงเรียนเป็นของตัวเอง - พูดคุยเกี่ยวกับกระจกว่าเป็นปาฏิหาริย์

พวกเขากล่าวว่าตอนนี้เท่านั้น คุณสามารถมองเห็นโลกทั้งใบและผู้คนด้วยแสงที่แท้จริงของพวกเขา!

และพวกเขาวิ่งไปรอบ ๆ พร้อมกับกระจก ในไม่ช้าก็ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่มีเหลือเพียงคนเดียวที่จะไม่สะท้อนให้เห็นในรูปแบบที่บิดเบี้ยว ในที่สุด พวกเขาต้องการขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อหัวเราะเยาะเหล่าทูตสวรรค์และผู้สร้างเอง ยิ่งสูงขึ้นเท่าไร กระจกก็ยิ่งบิดเบี้ยวและบิดเบี้ยวจากการทำหน้าบูดบึ้งมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาแทบจะไม่สามารถถือมันไว้ในมือได้ แต่แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทันใดนั้นกระจกก็บิดเบี้ยวจนหลุดออกจากมือของพวกเขา บินไปที่พื้นและแตกเป็นชิ้น ๆ อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนของมันนับล้านนับพันล้านชิ้นทำให้เกิดปัญหามากกว่าตัวกระจกเสียอีก บางส่วนมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเม็ดทรายที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกบางครั้งก็ตกไปในสายตาผู้คนและยังคงอยู่ที่นั่น คนที่มีเสี้ยนในดวงตาของเขาเริ่มมองเห็นทุกสิ่งจากภายในสู่ภายนอกหรือสังเกตเห็นเพียงด้านที่ไม่ดีในทุกสิ่งเพราะแต่ละเสี้ยวยังคงรักษาคุณสมบัติที่ทำให้กระจกโดดเด่น สำหรับบางคน เศษกระสุนพุ่งตรงไปที่หัวใจ และนั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด หัวใจกลายเป็นชิ้นน้ำแข็ง ในบรรดาชิ้นส่วนเหล่านี้ยังมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่สามารถแทรกเข้าไปในกรอบหน้าต่างได้ แต่มันก็ไม่คุ้มที่จะมองผ่านหน้าต่างเหล่านี้กับเพื่อนที่ดีของคุณ ในที่สุด ยังมีชิ้นส่วนที่ใช้สำหรับแว่นตาด้วย แต่ปัญหาเดียวก็คือถ้าผู้คนใส่มันเพื่อที่จะมองสิ่งต่าง ๆ และตัดสินพวกมันได้แม่นยำยิ่งขึ้น! และโทรลล์ชั่วร้ายก็หัวเราะจนเขาสะดุ้ง: ความสำเร็จของการประดิษฐ์ของเขาทำให้เขาจั๊กจี้มาก แต่ยังมีเศษกระจกอีกหลายชิ้นที่ปลิวไปทั่วโลก มาฟังกัน!

และพวกเขาวิ่งไปรอบ ๆ พร้อมกับกระจก ในไม่ช้าก็ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่มีเหลือเพียงคนเดียวที่จะไม่สะท้อนให้เห็นในรูปแบบที่บิดเบี้ยว ในที่สุด พวกเขาต้องการขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อหัวเราะเยาะเหล่าทูตสวรรค์และผู้สร้างเอง ยิ่งสูงขึ้นเท่าไร กระจกก็ยิ่งบิดเบี้ยวและบิดเบี้ยวจากการทำหน้าบูดบึ้งมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาแทบจะไม่สามารถถือมันไว้ในมือได้ แต่แล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทันใดนั้นกระจกก็บิดเบี้ยวจนหลุดออกจากมือของพวกเขา บินไปที่พื้นและแตกเป็นชิ้น ๆ อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนของมันนับล้านนับพันล้านชิ้นทำให้เกิดปัญหามากกว่าตัวกระจกเสียอีก บางส่วนมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเม็ดทรายที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกบางครั้งก็ตกไปในสายตาผู้คนและยังคงอยู่ที่นั่น คนที่มีเสี้ยนในดวงตาของเขาเริ่มมองเห็นทุกสิ่งจากภายในสู่ภายนอกหรือสังเกตเห็นเพียงด้านที่ไม่ดีในทุกสิ่งเพราะแต่ละเสี้ยวยังคงรักษาคุณสมบัติที่ทำให้กระจกโดดเด่น สำหรับบางคน เศษกระสุนพุ่งตรงไปที่หัวใจ และนั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด หัวใจกลายเป็นชิ้นน้ำแข็ง ในบรรดาชิ้นส่วนเหล่านี้ยังมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่สามารถแทรกเข้าไปในกรอบหน้าต่างได้ แต่มันก็ไม่คุ้มที่จะมองผ่านหน้าต่างเหล่านี้กับเพื่อนที่ดีของคุณ ในที่สุด ยังมีชิ้นส่วนที่ใช้สำหรับแว่นตาด้วย แต่ปัญหาเดียวก็คือถ้าผู้คนใส่มันเพื่อที่จะมองสิ่งต่าง ๆ และตัดสินพวกมันได้แม่นยำยิ่งขึ้น! และโทรลล์ชั่วร้ายก็หัวเราะจนเขาสะดุ้ง: ความสำเร็จของการประดิษฐ์ของเขาทำให้เขาจั๊กจี้มาก แต่ยังมีเศษกระจกอีกหลายชิ้นที่ปลิวไปทั่วโลก มาฟังกัน!

เด็กชายและเด็กหญิง

ในเมืองใหญ่ซึ่งมีบ้านและผู้คนมากมายซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะสามารถแกะสลักได้แม้แต่พื้นที่เล็กๆ สำหรับสวน และที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ต้องพอใจกับดอกไม้ในร่มในกระถาง ก็มีเด็กยากจนสองคนอาศัยอยู่ แต่พวกเขา มีสวนที่ใหญ่กว่ากระถางต้นไม้ ไม่เกี่ยวกันแต่ก็รักกันเหมือนพี่น้อง พ่อแม่ของพวกเขาอาศัยอยู่ในห้องใต้หลังคาของบ้านที่อยู่ติดกัน หลังคาบ้านเกือบจะชนกันและใต้ขอบหลังคามีรางระบายน้ำซึ่งอยู่ใต้หน้าต่างของห้องใต้หลังคาแต่ละห้อง ดังนั้น ทันทีที่คุณก้าวออกไปนอกหน้าต่างไปยังรางน้ำ คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ที่หน้าต่างของเพื่อนบ้าน

พ่อแม่แต่ละคนมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ รากและพุ่มกุหลาบเล็ก ๆ งอกขึ้นมา (อันละอัน) อาบด้วยดอกไม้วิเศษ พ่อแม่ต้องวางกล่องเหล่านี้ไว้บนรางน้ำ ดังนั้น จากหน้าต่างหนึ่งไปอีกหน้าต่างหนึ่ง กล่องจึงขยายออกราวกับดอกไม้สองแถว ถั่วห้อยลงมาจากกล่องในมาลัยสีเขียว พุ่มกุหลาบมองเข้าไปในหน้าต่างและพันกิ่งก้านของมัน บางสิ่งเช่นประตูชัยแห่งความเขียวขจีและดอกไม้ได้ก่อตัวขึ้น เนื่องจากกล่องนั้นอยู่สูงมาก และเด็กๆ รู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ปีนขึ้นไป พ่อแม่จึงมักอนุญาตให้เด็กชายและเด็กหญิงไปเยี่ยมกันบนหลังคาและนั่งบนม้านั่งใต้ดอกกุหลาบ และพวกเขามีเกมสนุก ๆ อะไรที่นี่!

ในฤดูหนาวความสุขนี้หยุดลง: หน้าต่างมักถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายน้ำแข็ง แต่เด็ก ๆ ก็อุ่นเหรียญทองแดงบนเตาแล้วนำไปใช้กับแก้วแช่แข็ง - ทันทีที่รูกลมที่ยอดเยี่ยมละลายและช่องมองภาพที่น่ารักและร่าเริงก็มองออกไป - เด็กชายและเด็กหญิงไคและเกอร์ดาต่างมองจากหน้าต่าง . ในฤดูร้อนพวกเขาพบว่าตัวเองมาเยี่ยมกันด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว แต่ในฤดูหนาวพวกเขาต้องเดินลงไปหลายขั้นก่อน แล้วจึงขึ้นไปตามจำนวนที่เท่ากัน ก้อนหิมะกระพืออยู่ในสนาม

พวกนี้มันคือผึ้งขาวรุม! - คุณยายกล่าว

พวกเขายังมีราชินีด้วยเหรอ? - ถามเด็กชาย; เขารู้ว่าผึ้งจริงมีผึ้งอยู่ตัวหนึ่ง

กิน! - ตอบคุณย่า - เกล็ดหิมะล้อมรอบเธอเป็นฝูงหนา แต่เธอมีขนาดใหญ่กว่าพวกมันทั้งหมดและไม่เคยเหลืออยู่บนพื้น - เธอมักจะลอยอยู่บนเมฆสีดำ บ่อยครั้งในเวลากลางคืนเธอจะบินไปตามถนนในเมืองและมองเข้าไปในหน้าต่าง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายน้ำแข็งเหมือนดอกไม้!

เราเห็นแล้ว เราเห็นแล้ว! - เด็กๆ พูดและเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นจริง

ราชินีหิมะมาที่นี่ไม่ได้เหรอ? - ถามหญิงสาว

ให้เขาลอง! - เด็กชายกล่าว - ฉันจะวางเธอบนเตาอุ่น ๆ แล้วเธอก็จะละลาย!

แต่คุณยายตบหัวเขาและเริ่มพูดถึงเรื่องอื่น

ในตอนเย็น เมื่อไคอยู่ที่บ้านและแทบจะถอดเสื้อผ้าออกเกือบหมด เตรียมเข้านอน ไคก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง และมองเข้าไปในวงกลมเล็กๆ ที่ละลายอยู่บนกระจกหน้าต่าง เกล็ดหิมะกระพือปีกออกไปนอกหน้าต่าง หนึ่งในนั้นอันที่ใหญ่กว่านั้นตกลงไปที่ขอบกล่องดอกไม้และเริ่มเติบโตเติบโตจนในที่สุดมันก็กลายเป็นผู้หญิงที่ห่อด้วยผ้าทูลสีขาวที่ดีที่สุดซึ่งดูเหมือนทอจากดวงดาวหิมะนับล้าน เธอน่ารักมาก อ่อนโยนมาก - น้ำแข็งสีขาวแวววาวทั้งหมดและยังมีชีวิตอยู่! ดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับดวงดาว แต่ไม่มีความอบอุ่นและความอ่อนโยนอยู่ในนั้น เธอพยักหน้าให้เด็กชายและกวักมือเรียกเขา เด็กชายตกใจจึงกระโดดลงจากเก้าอี้ บางสิ่งคล้ายนกตัวใหญ่บินผ่านหน้าต่างไป

วันรุ่งขึ้นมีน้ำค้างแข็งอันรุ่งโรจน์ แต่หลังจากนั้นก็ละลาย และแล้วน้ำพุสีแดงก็มาถึง พระอาทิตย์กำลังส่องแสง กล่องดอกไม้ก็กลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง นกนางแอ่นกำลังทำรังอยู่ใต้หลังคา หน้าต่างเปิดอยู่ และเด็กๆ ก็สามารถนั่งในสวนเล็กๆ ของพวกเขาบนหลังคาได้อีกครั้ง

ดอกกุหลาบบานสะพรั่งตลอดฤดูร้อน เด็กหญิงเรียนรู้บทสวดซึ่งพูดถึงดอกกุหลาบด้วย เด็กหญิงร้องเพลงนี้ให้เด็กชายฟัง โดยคิดถึงดอกกุหลาบของเธอ และเขาก็ร้องเพลงร่วมกับเธอ:

ดอกกุหลาบกำลังบานอยู่ในหุบเขาแล้ว

พระเยซูคริสต์ทรงอยู่ที่นี่กับเรา!

เด็ก ๆ ร้องเพลง จับมือกัน จูบดอกกุหลาบ มองดูดวงอาทิตย์ที่สดใสและพูดคุยกับมัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมองเห็นพระกุมารคริสต์เองกำลังมองดูพวกเขาจากดวงอาทิตย์ ช่างเป็นฤดูร้อนที่วิเศษจริงๆ และอยู่ใต้พุ่มกุหลาบหอมซึ่งดูเหมือนจะเบ่งบานไปตลอดกาล ช่างดีเหลือเกิน!

ไคและเกอร์ดานั่งดูหนังสือที่มีรูปสัตว์และนก หอนาฬิกาใหญ่ตีห้า

อ้าว! - ทันใดนั้นเด็กชายก็กรีดร้อง “ฉันถูกแทงเข้าที่หัวใจ และมีบางอย่างเข้าตา!”

เด็กสาวโอบแขนเล็กๆ ของเธอไว้รอบคอของเขา เขากระพริบตา แต่ไม่มีสิ่งใดปรากฏให้เห็นเลย

มันคงจะกระโดดออกมาแล้ว! - เขาพูด.

แต่ความจริงของเรื่องนี้ก็คือไม่ กระจกปีศาจสองชิ้นกระทบเขาที่หัวใจและดวงตาซึ่งแน่นอนว่าในขณะที่เราจำได้ว่าทุกสิ่งที่ดีและดีดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญและน่าขยะแขยงและความชั่วร้ายและความชั่วก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้านที่ไม่ดีของ แต่ละสิ่งก็โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ไคผู้น่าสงสาร! ตอนนี้หัวใจของเขาต้องกลายเป็นน้ำแข็ง! ความเจ็บปวดในตาและในหัวใจได้ผ่านไปแล้ว แต่เศษเล็กเศษน้อยยังคงอยู่ในนั้น

คุณกำลังร้องไห้เกี่ยวกับอะไร? - เขาถามเกอร์ด้า - เอ่อ! ตอนนี้คุณน่าเกลียดแค่ไหน! มันไม่ทำให้ฉันเจ็บเลย! ฮึ - จากนั้นเขาก็ตะโกน - ดอกกุหลาบนี้กำลังถูกหนอนกัดกิน! และอันนั้นก็คดเคี้ยวไปหมด! กุหลาบน่าเกลียดอะไรเช่นนี้! ไม่มีอะไรดีไปกว่ากล่องที่พวกเขายื่นออกมา!

แล้วเขาก็ดันกล่องด้วยเท้าของเขา และฉีกดอกกุหลาบสองดอกออกมา

ไค คุณกำลังทำอะไรอยู่? - เด็กผู้หญิงกรีดร้องและเมื่อเห็นความกลัวของเธอจึงคว้าตัวอีกคนแล้ววิ่งหนีจาก Gerda ตัวน้อยน่ารักออกไปนอกหน้าต่าง

หลังจากนั้นถ้าหญิงสาวนำหนังสือที่มีรูปภาพมาให้เขา เขาก็บอกว่ารูปภาพเหล่านี้เหมาะสำหรับเด็กทารกเท่านั้น ไม่ว่าคุณยายจะพูดอะไรเขาก็พบความผิดกับคำพูดนั้น อย่างน้อยก็สิ่งหนึ่ง! แล้วเขาก็ไปไกลถึงขั้นเลียนแบบท่าเดินของเธอ ใส่แว่นและเลียนแบบเสียงของเธอ! มันดูคล้ายกันมากและทำให้ผู้คนหัวเราะ ในไม่ช้าเด็กชายก็เรียนรู้ที่จะเลียนแบบเพื่อนบ้านทั้งหมดของเขา - เขาเก่งมากในการอวดสิ่งแปลกประหลาดและข้อบกพร่องทั้งหมดของพวกเขา และผู้คนก็พูดว่า:

เด็กน้อยคนนี้มีหัวอะไรเช่นนี้!

และสาเหตุของทุกอย่างก็คือเศษกระจกที่เข้าตาและหัวใจของเขา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลียนแบบ Gerda ตัวน้อยน่ารักผู้รักเขาอย่างสุดใจ

และความสนุกสนานของเขาตอนนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงและซับซ้อนมาก ครั้งหนึ่งในฤดูหนาว เมื่อหิมะกระพือ เขาปรากฏตัวพร้อมกับแก้วที่กำลังลุกไหม้ขนาดใหญ่ และวางชายแจ็กเก็ตสีน้ำเงินไว้ใต้หิมะ

มองผ่านกระจกเกอร์ด้า! - เขาพูด.

เกล็ดหิมะแต่ละอันดูใหญ่กว่าใต้กระจกมากกว่าที่เป็นจริงมาก และดูเหมือนดอกไม้ที่หรูหราหรือดาวสิบเหลี่ยม ปาฏิหาริย์จริงๆ!

เก่งขนาดไหนไปดูกัน! - ไคกล่าว - นี่น่าสนใจกว่าดอกไม้จริงมาก! และแม่นอะไรเช่นนี้! ไม่ผิดแม้แต่เส้นเดียว! โอ้ถ้าเพียงพวกเขาไม่ละลาย!

หลังจากนั้นไม่นาน Kai ก็ปรากฏตัวขึ้นในถุงมือขนาดใหญ่โดยมีเลื่อนอยู่ด้านหลัง และตะโกนใส่หูของ Gerda: "พวกเขาอนุญาตให้ฉันขี่ในจัตุรัสขนาดใหญ่กับเด็กผู้ชายคนอื่น!" - และวิ่งหนีไป

มีเด็กจำนวนมากเล่นสเก็ตอยู่รอบๆ จัตุรัส ผู้ที่กล้าหาญกว่าผูกเลื่อนกับเลื่อนชาวนาและขี่ได้ค่อนข้างไกล ความสนุกสนานก็เต็มเปี่ยม ที่ระดับความสูงนั้น มีเลื่อนขนาดใหญ่ทาสีขาวปรากฏบนจัตุรัส มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในนั้น ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวและหมวกแบบเดียวกัน รถลากเลื่อนวิ่งไปรอบจัตุรัสสองครั้ง ไคผูกเลื่อนของเขาไว้กับพวกเขาอย่างรวดเร็วแล้วกลิ้งออกไป รถเลื่อนขนาดใหญ่วิ่งเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวออกจากจัตุรัสเข้าไปในตรอก ชายที่นั่งอยู่ในนั้นหันกลับมาและพยักหน้าอย่างเป็นมิตรกับไก่ราวกับว่าเขาเป็นคนรู้จัก ไคพยายามแก้เชือกลากหลายครั้ง แต่ชายในเสื้อคลุมขนสัตว์ก็พยักหน้าให้เขา แล้วเขาก็ขับรถต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงออกจากประตูเมือง จู่ๆ หิมะตกลงมาเป็นสะเก็ด มันมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย เด็กชายรีบปล่อยเชือกที่เกาะอยู่บนเลื่อนขนาดใหญ่ แต่เลื่อนของเขาดูเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นและยังคงวิ่งต่อไปราวกับพายุหมุน ไคกรีดร้องเสียงดัง - ไม่มีใครได้ยินเขา! หิมะตก เลื่อนกำลังแข่ง ดำน้ำในกองหิมะ กระโดดข้ามพุ่มไม้และคูน้ำ ไคตัวสั่นไปทั้งตัว เขาอยากอ่านหนังสือ “พ่อของเรา” แต่ในใจเขามีเพียงตารางสูตรคูณเท่านั้นที่หมุนอยู่

เกล็ดหิมะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นไก่สีขาวตัวใหญ่ในที่สุด ทันใดนั้นพวกเขาก็กระจัดกระจายไปด้านข้าง เลื่อนขนาดใหญ่หยุด และชายที่นั่งอยู่ในนั้นก็ลุกขึ้นยืน เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวตัวสูงเพรียวสวย - ราชินีหิมะ; ทั้งเสื้อคลุมขนสัตว์และหมวกที่เธอสวมนั้นทำจากหิมะ

เรามีการเดินทางที่ยอดเยี่ยม! - เธอพูด. - แต่คุณหนาวมาก เข้าไปในเสื้อคลุมขนสัตว์ของฉัน!

และเธอก็วางเด็กชายไว้ในรถลากเลื่อน แล้วเธอก็พันเขาด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์ ไคดูเหมือนจะจมลงไปในกองหิมะ

ยังหนาวอยู่ไหม? - เธอถามและจูบหน้าผากของเขา

เอ่อ! จูบของเธอเย็นกว่าน้ำแข็ง แทงเขาด้วยความหนาวเย็นทะลุไปถึงหัวใจของเขา และน้ำแข็งก็ครึ่งหนึ่งแล้ว เป็นเวลาหนึ่งนาทีสำหรับไคดูเหมือนว่าเขากำลังจะตาย แต่ในทางกลับกัน มันกลับง่ายขึ้น เขาหยุดรู้สึกหนาวไปเลยด้วยซ้ำ

เลื่อนของฉัน! อย่าลืมเลื่อนของฉัน! - ก่อนอื่นเขารู้เรื่องเลื่อน

และเลื่อนนั้นถูกมัดไว้ที่หลังของแม่ไก่สีขาวตัวหนึ่งซึ่งบินไปกับพวกมันหลังจากการเลื่อนครั้งใหญ่ ราชินีหิมะจูบไคอีกครั้ง และเขาลืมเกอร์ดา ยายของเขา และทุกคนที่บ้าน

ฉันจะไม่จูบคุณอีกต่อไป! - เธอพูด. - ไม่งั้นฉันจะจูบคุณให้ตาย!

ไคมองดูเธอ - เธอเก่งมาก! เขานึกภาพใบหน้าที่ฉลาดและมีเสน่ห์ไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้เธอดูไม่เย็นชาสำหรับเขา เหมือนที่เธอทำครั้งนั้นเมื่อเธอนั่งอยู่นอกหน้าต่างและพยักหน้าให้เขา ตอนนี้เธอดูเหมือนสมบูรณ์แบบสำหรับเขา เขาไม่กลัวเธอเลยและบอกเธอว่าเขารู้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทั้งสี่วิธี และถึงแม้จะเป็นเศษส่วนก็ตาม เขาก็รู้ว่าในแต่ละประเทศมีประชากรและจำนวนประชากรกี่ตารางไมล์ และเธอก็เพียงแต่ยิ้มตอบ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เพียงเล็กน้อยจริงๆ และเขาก็จ้องมองไปที่พื้นที่โปร่งสบายอันไม่มีที่สิ้นสุด ในเวลาเดียวกันนั้น ราชินีหิมะก็บินขึ้นไปพร้อมกับเขาบนเมฆหมอกอันมืดมิด แล้วพวกเขาก็รีบจากไป พายุส่งเสียงหอนและครวญครางราวกับร้องเพลงโบราณ พวกมันบินข้ามป่าไม้และทะเลสาบ ข้ามทะเลและแผ่นดินแข็ง ลมหนาวพัดเบื้องล่าง หมาป่าหอน หิมะเป็นประกาย กาดำบินส่งเสียงกรีดร้อง และเหนือพวกเขามีพระจันทร์ใสดวงใหญ่ส่องแสง ไคมองดูเขาตลอดคืนฤดูหนาวอันยาวนาน - ในระหว่างวันเขานอนแทบเท้าของราชินีหิมะ

พ่อแม่แต่ละคนมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ รากและพุ่มกุหลาบเล็ก ๆ งอกขึ้นมา (อันละอัน) อาบด้วยดอกไม้วิเศษ พ่อแม่ต้องวางกล่องเหล่านี้ไว้บนรางน้ำ ดังนั้น จากหน้าต่างหนึ่งไปอีกหน้าต่างหนึ่ง กล่องจึงขยายออกราวกับดอกไม้สองแถว ถั่วห้อยลงมาจากกล่องในมาลัยสีเขียว พุ่มกุหลาบมองเข้าไปในหน้าต่างและพันกิ่งก้านของมัน บางสิ่งเช่นประตูชัยแห่งความเขียวขจีและดอกไม้ได้ก่อตัวขึ้น เนื่องจากกล่องนั้นอยู่สูงมาก และเด็กๆ รู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ปีนขึ้นไป พ่อแม่จึงมักอนุญาตให้เด็กชายและเด็กหญิงไปเยี่ยมกันบนหลังคาและนั่งบนม้านั่งใต้ดอกกุหลาบ และพวกเขามีเกมสนุก ๆ อะไรที่นี่!

สวนดอกไม้ของผู้หญิงที่สามารถแสดงได้

เกิดอะไรขึ้นกับเกอร์ด้าเมื่อไคไม่กลับมา? แล้วเขาไปไหนล่ะ? ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเขาได้ เด็กชายบอกเพียงว่าพวกเขาเห็นเขาผูกเลื่อนของเขากับเลื่อนขนาดใหญ่ที่สวยงาม ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นตรอกและขับออกจากประตูเมือง ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ไหน น้ำตามากมายไหลเพื่อเขา Gerda ร้องไห้อย่างขมขื่นและเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วจมน้ำตายในแม่น้ำที่ไหลออกนอกเมือง วันฤดูหนาวอันมืดมิดลากยาวมาเป็นเวลานาน

แต่แล้วฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมา

ไคตายแล้วและจะไม่กลับมาอีก! - เกอร์ด้ากล่าว

ฉันไม่เชื่อ! - ตอบแสงแดด.

เขาตายแล้วไม่กลับมา! - เธอพูดซ้ำกับนกนางแอ่น

เราไม่เชื่อ! - พวกเขาตอบ

ในที่สุด Gerda เองก็หยุดเชื่อมัน

“ฉันจะสวมรองเท้าสีแดงคู่ใหม่ ไคไม่เคยเห็นมาก่อน” เธอพูดในเช้าวันหนึ่ง “แล้วฉันจะไปที่แม่น้ำเพื่อถามเกี่ยวกับเขา”

มันยังเร็วมาก เธอจูบคุณยายที่กำลังหลับอยู่ สวมรองเท้าสีแดง แล้ววิ่งหนีออกจากเมืองเพียงลำพัง ตรงไปที่แม่น้ำ

จริงหรือที่เจ้าพาพี่ชายสาบานของฉันไป? ฉันจะให้รองเท้าสีแดงของฉันแก่คุณ ถ้าคุณคืนให้ฉัน!

และหญิงสาวรู้สึกว่าคลื่นกำลังพยักหน้าให้เธออย่างแปลกประหลาด แล้วเธอก็ถอดรองเท้าสีแดงซึ่งเป็นสมบัติชิ้นแรกของเธอออกแล้วโยนลงแม่น้ำ แต่พวกเขาตกลงมาใกล้ชายฝั่งและคลื่นก็พัดพาพวกเขาขึ้นฝั่งทันที - ราวกับว่าแม่น้ำไม่ต้องการแย่งอัญมณีที่ดีที่สุดของเธอไปจากหญิงสาวเนื่องจากเธอไม่สามารถคืน Kaya ให้เธอได้ หญิงสาวคิดว่าเธอไม่ได้ขว้างรองเท้าไปไกลนัก จึงปีนขึ้นไปบนเรือซึ่งกำลังโยกอยู่ในต้นกก ยืนอยู่ที่ขอบท้ายเรือแล้วโยนรองเท้าลงไปในน้ำอีกครั้ง เรือไม่ได้ผูกมัดและถูกผลักออกจากฝั่ง เด็กหญิงต้องการกระโดดขึ้นฝั่งโดยเร็วที่สุด แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินทางจากท้ายเรือไปยังหัวเรือ เรือก็เคลื่อนตัวออกไปจากฝั่งไปหนึ่งหลาแล้ว และแล่นไปตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว

เกอร์ดาตกใจกลัวมากและเริ่มร้องไห้และกรีดร้อง แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอนอกจากนกกระจอก นกกระจอกไม่สามารถอุ้มเธอขึ้นฝั่งได้และเพียงบินตามเธอไปตามชายฝั่งและร้องเจี๊ยก ๆ ราวกับต้องการปลอบใจเธอ: "เราอยู่ที่นี่แล้ว!"

ริมฝั่งแม่น้ำสวยงามมาก - ดอกไม้ที่วิเศษที่สุด ต้นไม้สูงแผ่กว้าง ทุ่งหญ้าที่มองเห็นแกะและวัวกินหญ้าทุกที่ แต่ไม่มีวิญญาณมนุษย์ปรากฏให้เห็นทุกที่

“บางทีแม่น้ำอาจพาฉันไปหาไค!” - คิด Gerda ให้กำลังใจลุกขึ้นยืนชื่นชมชายฝั่งสีเขียวที่สวยงามเป็นเวลานาน แต่แล้วเธอก็ล่องเรือไปยังสวนเชอร์รี่ขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในบ้านที่มีหน้าต่างเป็นกระจกสีและมีหลังคามุงจาก ทหารไม้สองคนยืนอยู่ที่ประตูและทำความเคารพทุกคนที่เดินผ่านไปพร้อมปืนของพวกเขา

Gerda ตะโกนใส่พวกเขา: เธอจับพวกเขาทั้งเป็น แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ตอบเธอ ดังนั้นเธอจึงว่ายเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้น เรือก็เกือบจะถึงฝั่งแล้ว และหญิงสาวก็กรีดร้องดังยิ่งขึ้นไปอีก หญิงชราคนหนึ่งสวมหมวกฟางใบใหญ่มีดอกไม้สวยงาม ออกมาจากบ้านโดยพิงไม้อยู่

โอ้เจ้าเด็กน้อย! - หญิงชรากล่าว - คุณมาอยู่บนแม่น้ำที่ใหญ่และเร็วขนาดนี้และปีนป่ายมาได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไร?

ด้วยคำพูดเหล่านี้ หญิงชราก็ลงไปในน้ำ เกี่ยวเรือด้วยเบ็ด ดึงมันขึ้นฝั่งแล้วลงจอดเกอร์ดา

Gerda มีความสุขมากที่ในที่สุดเธอก็พบว่าตัวเองอยู่บนบกแม้ว่าเธอจะกลัวหญิงชราแปลกหน้าก็ตาม

ไปกันเถอะบอกฉันว่าคุณเป็นใครและมาที่นี่ได้อย่างไร? - หญิงชรากล่าว

เกอร์ดาเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟัง และหญิงชราก็ส่ายหัวแล้วพูดซ้ำ: "หืม! แต่แล้วหญิงสาวก็พูดจบและถามหญิงชราว่าเห็นไก่ไหม เธอตอบว่าเขายังไม่ผ่านที่นี่ แต่เขาอาจจะผ่าน ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่มีอะไรต้องเสียใจ - เธออยากจะลองเชอร์รี่และชื่นชมดอกไม้ที่เติบโตในสวน: พวกมันสวยงามกว่าที่วาดไว้ ในหนังสือภาพเล่มใดก็ได้และพวกเขาสามารถบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างได้! จากนั้นหญิงชราก็จับมือเกอร์ดาพาเธอไปที่บ้านแล้วล็อคประตู

หน้าต่างสูงจากพื้นและทั้งหมดทำจากกระจกหลากสี - แดง น้ำเงินและเหลือง ด้วยเหตุนี้ ตัวห้องจึงได้รับการส่องสว่างด้วยแสงสีรุ้งที่สว่างอย่างน่าอัศจรรย์ มีตะกร้าเชอร์รี่วิเศษอยู่บนโต๊ะและเกอร์ดาสามารถกินพวกมันได้อย่างจุใจ ขณะที่เธอกำลังกินข้าว หญิงชราก็หวีผมด้วยหวีสีทอง ผมม้วนเป็นลอนและล้อมรอบใบหน้ากลมๆ ราวกับดอกกุหลาบของหญิงสาวด้วยแสงสีทอง

ฉันอยากมีผู้หญิงน่ารักแบบนี้มานานแล้ว! - หญิงชรากล่าว - คุณจะเห็นว่าเราจะอยู่กับคุณได้ดีแค่ไหน!

และเธอยังคงหวีผมหยิกของหญิงสาวต่อไป และยิ่งหวีนานเท่าไร Gerda ยิ่งลืมไค พี่ชายที่สาบานของเธอมากขึ้นเท่านั้น หญิงชรารู้วิธีร่ายเวทย์มนตร์ เธอไม่ใช่แม่มดที่ชั่วร้ายและร่ายมนตร์เป็นครั้งคราวเพื่อความสุขของเธอเองเท่านั้น ตอนนี้เธออยากจะเก็บ Gerda ไว้กับเธอจริงๆ เธอจึงเข้าไปในสวน แตะพุ่มกุหลาบทั้งหมดด้วยไม้ของเธอ และขณะที่ดอกกุหลาบบานสะพรั่ง ดอกกุหลาบทั้งหมดก็ลึกลงไปในดิน และไม่มีร่องรอยเหลืออยู่เลย หญิงชรากลัวว่าเมื่อเห็นดอกกุหลาบ Gerda จะจำเธอได้ แล้วเกี่ยวกับ Kai และจะวิ่งหนีจากเธอ

เมื่อทำงานเสร็จแล้ว หญิงชราก็พาเกอร์ดาไปที่สวนดอกไม้ ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้าง: มีดอกไม้นานาชนิดและทุกฤดูกาล ช่างสวยงาม ช่างหอมอะไรเช่นนี้! ในโลกนี้คุณไม่สามารถหาหนังสือภาพที่มีสีสันและสวยงามมากไปกว่าสวนดอกไม้แห่งนี้ได้ Gerda กระโดดด้วยความดีใจและเล่นท่ามกลางดอกไม้จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินหลังต้นซากุระสูง จากนั้นพวกเขาก็วางเธอไว้บนเตียงที่สวยงามซึ่งมีเตียงขนนกผ้าไหมสีแดงยัดไส้ด้วยสีม่วงสีน้ำเงิน หญิงสาวผล็อยหลับไปและมีความฝันแบบที่ราชินีเห็นในวันแต่งงานของเธอเท่านั้น

วันรุ่งขึ้นเกอร์ดาได้รับอนุญาตให้เล่นกลางแสงแดดอีกครั้ง หลายวันผ่านไปเช่นนี้ เกอร์ดารู้จักดอกไม้ทุกดอกในสวน แต่ไม่ว่าจะมีกี่ดอก เธอก็ดูเหมือนดอกไม้หายไปหนึ่งดอก แต่ดอกไหนล่ะ? เมื่อเธอนั่งมองดูหมวกฟางของหญิงชราที่วาดด้วยดอกไม้ สิ่งที่สวยงามที่สุดนั้นเป็นเพียงดอกกุหลาบ - หญิงชราลืมลบมันออกไป นี่แหละคือความหมายของการเหม่อลอย!

ยังไง! ที่นี่มีดอกกุหลาบมั้ย? - Gerda พูดแล้ววิ่งไปหาพวกเขาทั่วทั้งสวนทันที - ไม่มีสักตัว!

จากนั้นหญิงสาวก็ทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้ น้ำตาอุ่นๆ ร่วงหล่นตรงจุดที่พุ่มกุหลาบต้นหนึ่งเคยยืนต้นอยู่พอดี และทันทีที่พื้นเปียก พุ่มไม้ก็งอกขึ้นมาทันที สดชื่นและเบ่งบานเหมือนเดิม เกอร์ดาโอบแขนรอบเขา เริ่มจูบดอกกุหลาบ และนึกถึงดอกกุหลาบวิเศษที่บานในบ้านของเธอ และในเวลาเดียวกันก็เกี่ยวกับไคด้วย

ฉันลังเลยังไงล่ะ! - หญิงสาวกล่าว - ฉันต้องตามหาไค!..รู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน? - เธอถามดอกกุหลาบ - คุณเชื่อไหมว่าเขาตายแล้วจะไม่กลับมาอีก?

เขาไม่ตาย! - กุหลาบกล่าว - เราอยู่ใต้ดินที่ทุกคนเสียชีวิต แต่ไคไม่อยู่ในหมู่พวกเขา

ขอบคุณ! - Gerda พูดและไปที่ดอกไม้อื่นมองเข้าไปในถ้วยแล้วถามว่า: "คุณรู้ไหมว่าไก่อยู่ที่ไหน"

แต่ดอกไม้แต่ละดอกก็อาบแดดและคิดแต่เรื่องเทพนิยายหรือเรื่องราวของมันเองเท่านั้น Gerda ได้ยินมามากมาย แต่ไม่มีดอกไม้สักดอกพูดถึงไคเลย

ดอกลิลลี่ไฟบอกอะไรเธอ?

คุณได้ยินเสียงกลองตีไหม? บูม! บูม! เสียงที่น่าเบื่อมาก: บูม! บูม! ฟังเสียงร้องคร่ำครวญของผู้หญิง! ฟังเสียงกรีดร้องของเหล่านักบวช!.. หญิงม่ายชาวฮินดูสวมเสื้อคลุมยาวสีแดงยืนอยู่บนเสาเข็ม เปลวไฟกลืนกินเธอและร่างของสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอคิดถึงเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ - เกี่ยวกับเขา ซึ่งการจ้องมองที่แผดเผาหัวใจของเธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าเปลวไฟที่จะเผาร่างกายของเธอในตอนนี้ เปลวไฟแห่งใจจะดับลงในเปลวเพลิงได้หรือ?

ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย! - เกอร์ด้ากล่าว

นี่คือเทพนิยายของฉัน! - ตอบดอกลิลลี่ที่ลุกเป็นไฟ มัดวีดพูดว่าอะไร?

เส้นทางภูเขาแคบๆ นำไปสู่ปราสาทของอัศวินโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่บนก้อนหิน กำแพงอิฐเก่าถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยอย่างหนา ใบไม้เกาะติดกับระเบียง และมีหญิงสาวน่ารักยืนอยู่บนระเบียง เธอโน้มตัวข้ามราวบันไดแล้วมองดูถนน เด็กสาวสดชื่นกว่าดอกกุหลาบ อากาศปลอดโปร่งยิ่งกว่าดอกแอปเปิ้ลที่ไหวตามสายลม ชุดผ้าไหมของเธอส่งเสียงดังแค่ไหน! เขาจะไม่มาแน่เหรอ?

พูดถึงไคเหรอ? - ถามเกอร์ด้า

ฉันเล่าเรื่องความฝันของฉัน! - ตอบมัดวีด สโนว์ดรอปตัวน้อยพูดว่าอย่างไร?

กระดานยาวแกว่งไปมาระหว่างต้นไม้ - นี่คือชิงช้า เด็กผู้หญิงน่ารักสองคนกำลังนั่งอยู่บนกระดาน ชุดของพวกเขาขาวราวหิมะ และริบบิ้นผ้าไหมสีเขียวยาวกระพือปีกจากหมวก พี่ชายยืนอยู่ข้างหลังพี่สาวน้องสาว จับเชือกด้วยข้อพับข้อศอก ในมือของเขา: อันหนึ่งมีถ้วยเล็ก ๆ ที่มีน้ำสบู่ส่วนอีกอันมีท่อดินเหนียว เขาเป่าฟองอากาศ กระดานสั่น ฟองอากาศลอยไปในอากาศ ส่องแสงระยิบระยับกลางแสงแดดด้วยสีรุ้งทั้งหมด นี่คืออันหนึ่งห้อยอยู่ที่ปลายท่อและพลิ้วไหวตามสายลม สุนัขสีดำตัวน้อยที่เบาราวกับฟองสบู่ ยืนขึ้นด้วยขาหลังและวางขาหน้าไว้บนกระดาน แต่กระดานก็ลอยขึ้นไป สุนัขตัวน้อยก็ล้มลง ร้องไห้คร่ำครวญและโกรธเคือง เด็กๆ หยอกล้อเธอ ฟองสบู่แตก... กระดานโยก โฟมลอยไปในอากาศ นั่นคือเพลงของฉัน!

เธออาจจะเป็นคนดี แต่คุณพูดทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ! และขอย้ำอีกครั้งว่าไม่มีคำพูดเกี่ยวกับไค!

ผักตบชวาจะพูดอะไร?

กาลครั้งหนึ่งมีน้องสาวที่สวยงามเพรียวบางสามคนอาศัยอยู่ ชุดหนึ่งเป็นสีแดง ชุดหนึ่งเป็นสีน้ำเงิน ชุดที่สามเป็นสีขาวล้วน พวกเขาเต้นรำจับมือกันท่ามกลางแสงจันทร์ที่สดใสริมทะเลสาบอันเงียบสงบ พวกเขาไม่ใช่เอลฟ์ แต่เป็นผู้หญิงจริงๆ กลิ่นหอมอันหอมหวานอบอวลไปทั่วอากาศ และสาวๆ ก็หายเข้าไปในป่า ตอนนี้กลิ่นหอมแรงขึ้นและหวานยิ่งขึ้น - โลงศพสามโลงลอยออกมาจากป่าทึบ มีพี่สาวแสนสวยนอนอยู่ในนั้น และมีแมลงเรืองแสงบินไปมารอบๆ พวกเขาราวกับแสงไฟที่มีชีวิต สาวๆ นอนหลับหรือตายไปแล้ว? กลิ่นดอกไม้บอกว่าพวกมันตายแล้ว เสียงระฆังยามเย็นดังขึ้นเพื่อผู้ตาย!

คุณทำให้ฉันเศร้า! - เกอร์ด้ากล่าว - ระฆังของคุณก็มีกลิ่นแรงเหมือนกัน!.. ตอนนี้ฉันไม่สามารถกำจัดผู้หญิงที่ตายแล้วออกจากหัวได้! อ้าว ไคก็ตายจริงด้วยเหรอ? แต่ดอกกุหลาบอยู่ใต้ดินและพวกเขาบอกว่าเขาไม่อยู่ที่นั่น!

ติงแดง! - เสียงระฆังผักตบชวาดังขึ้น - เราไม่ได้โทรหาไค! เราไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ! เราส่งเสียงเพลงเล็กๆ ของเราเอง เราไม่รู้อีกอัน!

และเกอร์ดาก็ไปที่ดอกแดนดิไลออนสีทองที่ส่องประกายอยู่ในหญ้าสีเขียวมันวาว

คุณพระอาทิตย์ตัวน้อย! - Gerda บอกเขา - บอกฉันสิคุณรู้ไหมว่าฉันจะมองหาพี่ชายสาบานได้ที่ไหน?

ดอกแดนดิไลออนส่องแสงเจิดจ้ายิ่งขึ้นและมองดูหญิงสาว เขาร้องเพลงอะไรให้เธอฟัง? อนิจจา และเพลงนี้ไม่ได้พูดถึงไก่สักคำ!

มันคือต้นฤดูใบไม้ผลิ พระอาทิตย์ที่แจ่มใสของพระเจ้าส่องแสงอย่างต้อนรับบนลานเล็กๆ นกนางแอ่นโฉบอยู่ใกล้กำแพงสีขาวที่อยู่ติดกับสนามหญ้าของเพื่อนบ้าน ดอกไม้สีเหลืองดอกแรกโผล่ออกมาจากหญ้าสีเขียว เป็นประกายระยิบระยับในแสงแดดราวกับสีทอง ยายแก่คนหนึ่งออกมานั่งอยู่ที่สนามหญ้า ที่นี่หลานสาวของเธอซึ่งเป็นคนรับใช้ที่น่าสงสารมาจากแขกและจูบหญิงชราอย่างลึกซึ้ง จูบของหญิงสาวมีค่ามากกว่าทองคำ - มันมาจากใจโดยตรง สีทองบนริมฝีปากของเธอ สีทองในใจของเธอ สีทองบนท้องฟ้าในตอนเช้า! แค่นั้นแหละ! - ดอกแดนดิไลอันกล่าว

คุณยายผู้น่าสงสารของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ - เธอคิดถึงฉันแค่ไหนเธอเสียใจแค่ไหน! ไม่น้อยไปกว่าที่ฉันเสียใจกับไก่! แต่ฉันจะกลับมาเร็วๆ นี้ และพาเขาไปด้วย ไม่มีประโยชน์ที่จะขอดอกไม้อีกต่อไป คุณจะไม่ได้อะไรเลยจากพวกเขา พวกเขารู้จักแค่เพลงของพวกเขาเท่านั้น!

และเธอผูกกระโปรงให้สูงขึ้นเพื่อให้วิ่งได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อเธอต้องการกระโดดข้ามดอกลิลลี่สีเหลือง มันก็กระแทกขาของเธอ Gerda หยุดมองดูดอกไม้ยาวแล้วถามว่า:

บางทีคุณอาจรู้อะไรบางอย่าง? และเธอก็โน้มตัวไปหาเขาเพื่อรอคำตอบ ดอกลิลลี่สีเหลืองพูดว่าอย่างไร?

ฉันเห็นตัวเอง! ฉันเห็นตัวเอง! โอ้ยฉันได้กลิ่นอะไร!.. สูงในตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ ใต้หลังคามีนักเต้นครึ่งตัวยืนอยู่ เธอทรงตัวด้วยขาข้างเดียวแล้วยืนอย่างมั่นคงทั้งสองข้างอีกครั้งและเหยียบย่ำโลกทั้งใบด้วยเพราะเธอเป็นคนลวงตา ในภาพนี้เธอกำลังเทน้ำจากกาต้มน้ำลงบนวัสดุสีขาวที่เธอถืออยู่ในมือ นี่คือเสื้อยกทรงของเธอ ความสะอาดคือความงามที่ดีที่สุด! กระโปรงสีขาวแขวนอยู่บนตะปูที่ตอกเข้ากับผนัง กระโปรงก็ถูกล้างด้วยน้ำจากกาต้มน้ำแล้วตากบนหลังคาด้วย! ที่นี่หญิงสาวแต่งตัวและผูกผ้าพันคอสีเหลืองสดใสรอบคอของเธอ ซึ่งจะทำให้ชุดขาวดูคมชัดยิ่งขึ้น ขาข้างหนึ่งบินขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง! ดูสิว่าเธอยืนตรงแค่ไหนเหมือนดอกไม้บนก้าน! ฉันเห็นตัวเอง ฉันเห็นตัวเอง!

ใช่ ฉันไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก! - เกอร์ด้ากล่าว - ไม่มีอะไรจะบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้!

และเธอก็วิ่งออกไปจากสวน

ประตูถูกล็อคเท่านั้น เกอร์ดาดึงสลักเกลียวขึ้นสนิม ออกแล้วประตูก็เปิดออก และเด็กสาวเท้าเปล่าก็เริ่มวิ่งไปตามถนน! เธอมองย้อนกลับไปสามครั้ง แต่ไม่มีใครไล่ตามเธอ ในที่สุดเธอก็เหนื่อยและนั่งลงบนก้อนหินแล้วมองไปรอบ ๆ ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว ในสวนนั้นเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง แต่ในสวนอันงดงามของหญิงชราที่ซึ่งดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่เสมอและดอกไม้ทุกฤดูกาลเบ่งบาน นี่ไม่ใช่ เห็นได้ชัด!

พระเจ้า! ฉันลังเลยังไงล่ะ! ในที่สุดฤดูใบไม้ร่วงก็ใกล้เข้ามาแล้ว! ไม่มีเวลาพักผ่อนที่นี่! - Gerda พูดแล้วออกเดินทางอีกครั้ง

โอ้ ขาที่อ่อนล้าและเหนื่อยล้าของเธอเจ็บขนาดไหน! อากาศหนาวและชื้นขนาดไหน! ใบไม้บนต้นหลิวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสนิท หมอกตกลงมาเป็นหยดใหญ่และไหลลงมาที่พื้น ใบไม้ร่วงหล่นลงมา ต้นหนามต้นหนึ่งปกคลุมไปด้วยผลเบอร์รี่รสฝาดสมาน โลกทั้งใบดูมืดมนและหม่นหมองขนาดไหน!

แต่แล้วฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมา

- ไคตายแล้วและจะไม่กลับมา! - เกอร์ด้ากล่าว

Gerda ต้องนั่งลงเพื่อพักผ่อนอีกครั้ง อีกาตัวใหญ่กำลังกระโดดขึ้นไปบนหิมะตรงหน้าเธอ เขามองดูหญิงสาวเป็นเวลานาน พยักหน้าให้เธอแล้วพูดในที่สุด:

คาร์คาร์! สวัสดี!

เขาไม่สามารถออกเสียงสิ่งนี้ได้ชัดเจนไปกว่านี้อย่างมนุษย์ปุถุชน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาอวยพรให้หญิงสาวสบายดีและถามเธอว่าเธอเดินไปรอบโลกเพียงลำพังที่ไหน? เกอร์ดาเข้าใจคำว่า "คนเดียว" อย่างสมบูรณ์แบบและสัมผัสได้ถึงความหมายที่สมบูรณ์ในทันที หลังจากเล่าให้นกกาฟังมาทั้งชีวิต เด็กหญิงก็ถามว่าเห็นไก่ไหม?

Raven ส่ายหัวอย่างครุ่นคิดแล้วพูดว่า:

บางทีอาจจะ!

ยังไง? มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? - หญิงสาวร้องอุทานและเกือบจะบีบคออีกาด้วยการจูบ

เงียบ เงียบ! - กาพูด - ฉันคิดว่าเป็นไก่ของคุณ! แต่ตอนนี้เขาคงจะลืมคุณและเจ้าหญิงของเขาไปแล้ว!

เขาอาศัยอยู่กับเจ้าหญิงหรือไม่? - ถามเกอร์ด้า

แต่ฟังนะ! - กาพูด - มันยากมากสำหรับฉันที่จะพูดในแบบของคุณ! ทีนี้ ถ้าคุณเข้าใจอีกา ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ดีขึ้นมาก

ไม่ พวกเขาไม่ได้สอนฉันเรื่องนี้! - เกอร์ด้ากล่าว - คุณยายเธอเข้าใจ! คงจะดีสำหรับฉันที่จะรู้วิธีเช่นกัน!

ไม่มีอะไร! - กาพูด - ฉันจะบอกคุณให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่ามันจะแย่ก็ตาม และเขาเล่าทุกอย่างที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้

ในอาณาจักรที่คุณและฉันอยู่ มีเจ้าหญิงที่ฉลาดมากจนพูดไม่ออก! เธออ่านหนังสือพิมพ์ทั้งหมดในโลกและลืมทุกสิ่งที่เธออ่านไปแล้ว - ช่างเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ! วันหนึ่งเธอนั่งอยู่บนบัลลังก์ - และอย่างที่คนอื่นพูดกันก็ไม่ค่อยสนุก - และฮัมเพลง: "ทำไมฉันไม่ควรแต่งงาน" “แต่จริง!” - เธอคิดและเธออยากแต่งงาน แต่เธอต้องการเลือกผู้ชายให้กับสามีของเธอที่สามารถตอบได้เมื่อพวกเขาคุยกับเขา ไม่ใช่คนที่ทำได้แค่ออกอากาศเท่านั้น มันน่าเบื่อมาก! ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกผู้หญิงในราชสำนักทั้งหมดด้วยเสียงกลองและประกาศเจตจำนงของเจ้าหญิงให้พวกเขาฟัง พวกเขาทั้งหมดพอใจมากและพูดว่า: “พวกเราชอบสิ่งนี้! ทั้งหมดนี้เป็นจริง! - เพิ่มอีกา “ฉันมีเจ้าสาวอยู่ที่ราชสำนัก เธอเป็นคนเชื่อง และฉันรู้เรื่องนี้ทั้งหมดจากเธอ”

เจ้าสาวของเขาเป็นอีกา

วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับออกมาพร้อมกับรูปหัวใจและพระปรมาภิไธยย่อของเจ้าหญิง มีการประกาศในหนังสือพิมพ์ว่าชายหนุ่มหน้าตาดีทุกคนสามารถมาที่พระราชวังและพูดคุยกับเจ้าหญิงได้ ผู้ที่ประพฤติตนอย่างอิสระเหมือนอยู่บ้านและกลายเป็นคนพูดเก่งที่สุดเจ้าหญิงจะเลือกเป็นสามีของเธอ! ใช่ ใช่! - กาซ้ำ - ทั้งหมดนี้เป็นจริงเหมือนกับที่ฉันนั่งอยู่ตรงหน้าคุณ! ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในวังเป็นฝูง เกิดการแตกตื่นและแตกตื่น แต่ไม่มีอะไรเลยในวันแรกหรือวันที่สอง บนถนน คู่ครองทุกคนพูดจาไพเราะ แต่ทันทีที่พวกเขาข้ามธรณีประตูพระราชวัง เห็นทหารยามทุกคนในชุดเงิน และทหารราบในชุดทองคำ และเข้าไปในห้องโถงใหญ่อันเต็มไปด้วยแสงสว่าง พวกเขาก็ผงะไป พวกเขาจะเข้าใกล้บัลลังก์ที่เจ้าหญิงนั่งอยู่ และพวกเขาจะพูดเพียงคำพูดสุดท้ายของเธอ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย! จริงๆ แล้วพวกเขาทุกคนถูกยาเสพติดอย่างแน่นอน! และเมื่อออกจากประตูเมืองแล้ว พวกเขาก็ได้รับพรสวรรค์ในการพูดอีกครั้ง เจ้าบ่าวหางยาวทอดยาวจากประตูสู่ประตูพระราชวัง ฉันอยู่ที่นั่นและเห็นมันเอง! เจ้าบ่าวต่างหิวและกระหายน้ำ แต่ไม่ได้รับน้ำจากพระราชวังแม้แต่แก้วเดียว จริงอยู่คนที่ฉลาดกว่าก็ตุนแซนด์วิชไว้ แต่คนประหยัดไม่แบ่งปันกับเพื่อนบ้านอีกต่อไปโดยคิดกับตัวเองว่า: "ปล่อยให้พวกเขาอดอยากและผอมลง - เจ้าหญิงจะไม่รับพวกเขา!"

แล้วไคล่ะไค? - ถามเกอร์ด้า - เขาปรากฏตัวเมื่อไหร่? แล้วเขามาทำแมตช์เหรอ?

รอ! รอ! ตอนนี้เราก็มาถึงแล้ว! ในวันที่สาม ชายร่างเล็กปรากฏตัวขึ้นไม่ว่าจะบนรถม้าหรือบนหลังม้า แต่เพียงเดินเท้าแล้วเข้าไปในพระราชวังโดยตรง ดวงตาของเขาเป็นประกายเหมือนคุณ ผมของเขายาวแต่เขาแต่งตัวไม่ดี

นี่ไค! - Gerda มีความยินดี - ฉันก็เลยพบเขา! - และเธอก็ปรบมือ

เขามีกระเป๋าเป้สะพายหลังอยู่บนหลังของเขา! - กาต่อไป

ไม่ มันอาจเป็นเลื่อนของเขา! - เกอร์ด้ากล่าว - เขาออกจากบ้านพร้อมกับเลื่อน!

เป็นไปได้มาก! - กาพูด - หน้าตาไม่ดีเลย เจ้าสาวของฉันจึงเล่าให้ฟังว่า เมื่อเข้าไปในประตูวังแล้วเห็นทหารรักษาพระองค์ในชุดเงิน และทหารราบในชุดทองคำบนบันได ก็ไม่รู้สึกเขินเลยแม้แต่น้อย จึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “การยืนอยู่ที่นี่คงจะน่าเบื่อน่าดู” ตรงบันได ฉันควรเข้าไปในห้องดีกว่า!” ห้องโถงทั้งหมดเต็มไปด้วยแสงสว่าง ขุนนางเดินไปรอบ ๆ โดยไม่สวมรองเท้าบู๊ตเพื่อส่งจานทองคำ: ไม่มีอะไรจะเคร่งขรึมไปกว่านี้แล้ว! และรองเท้าบู๊ตของเขาก็เอี๊ยด แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายกับเรื่องนั้นเช่นกัน

น่าจะเป็นไคนะ! - Gerda อุทาน - ฉันรู้ว่าเขาสวมรองเท้าบูทใหม่! ฉันเองก็ได้ยินมาว่าพวกเขาส่งเสียงดังเอี๊ยดเมื่อเขามาหายาย!

ใช่แล้ว พวกเขาส่งเสียงแหลมนิดหน่อย! - กาต่อไป - แต่เขาเข้าหาเจ้าหญิงอย่างกล้าหาญ เธอนั่งบนไข่มุกขนาดเท่าแกนหมุน และมีสุภาพสตรีในราชสำนักและสุภาพบุรุษยืนอยู่รอบๆ พร้อมกับสาวใช้ สาวใช้ คนรับใช้ คนรับใช้ คนรับใช้ และคนรับใช้ ยิ่งมีคนยืนห่างจากเจ้าหญิงและอยู่ใกล้ประตูมากเท่าไร เขาก็ยิ่งประพฤติตัวสำคัญและหยิ่งผยองมากขึ้นเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมองดูคนรับใช้ที่ยืนอยู่ตรงประตูโดยไม่ต้องกลัว - เขามีความสำคัญมาก!

นั่นคือความกลัว! - เกอร์ด้ากล่าว - ไคยังแต่งงานกับเจ้าหญิงอยู่หรือเปล่า?

ถ้าฉันไม่ใช่อีกา ฉันจะแต่งงานกับเธอเอง แม้ว่าฉันจะหมั้นแล้วก็ตาม เขาเริ่มสนทนากับเจ้าหญิงและพูดเช่นเดียวกับที่ฉันพูดเมื่อพูดอีกา - อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เจ้าสาวบอกฉัน โดยทั่วไปเขาประพฤติตัวอย่างอิสระและไพเราะและประกาศว่าเขาไม่ได้มาเพื่อแข่งขัน แต่เพียงเพื่อฟังสุนทรพจน์อันชาญฉลาดของเจ้าหญิงเท่านั้น เขาชอบเธอ และเธอก็ชอบเขาด้วย!

ใช่แล้ว นั่นล่ะคือไค! - เกอร์ด้ากล่าว - เขาฉลาดมาก! เขารู้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทั้งสี่แบบและแม้แต่เศษส่วนด้วยซ้ำ! โอ้พาฉันไปที่วัง!

พูดง่ายนะ” อีกาตอบ “แต่จะทำยังไงล่ะ” เดี๋ยวก่อน ฉันจะคุยกับคู่หมั้นของฉัน เธอจะเสนออะไรบางอย่างและแนะนำเรา คุณคิดว่าพวกเขาจะให้คุณเข้าไปในวังแบบนั้นเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนั้นเข้ามาจริงๆ!

พวกเขาจะให้ฉันเข้าไป! - เกอร์ด้ากล่าว - ถ้าไคได้ยินว่าฉันอยู่ที่นี่ เขาคงวิ่งตามฉันไปแล้ว!

รอฉันที่บาร์นะ! - กาพูดส่ายหัวแล้วบินหนีไป

เขากลับมาค่อนข้างดึกในตอนเย็นและบ่น:

คาร์ คาร์! เจ้าสาวของฉันส่งคันธนูจำนวนหนึ่งพันคันและขนมปังก้อนเล็กๆ นี้ให้คุณ เธอขโมยมันไปในครัว - มีเยอะแล้วเธอคงจะหิวแล้ว!.. คุณจะไม่เข้าไปในวังหรอกคุณเดินเท้าเปล่า - ทหารยามในชุดเงินและทหารราบในชุดทองคำจะไม่ยอมให้ คุณผ่าน แต่อย่าร้องไห้นะ คุณจะยังไปถึงจุดนั้น เจ้าสาวของฉันรู้วิธีเข้าไปในห้องนอนของเจ้าหญิงจากประตูหลัง และรู้ว่าจะต้องไปรับกุญแจที่ไหน

ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าไปในสวน เดินไปตามตรอกซอกซอยยาวที่เต็มไปด้วยใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงสีเหลือง และเมื่อไฟทุกดวงในหน้าต่างพระราชวังดับลงทีละดวง นกกาก็นำหญิงสาวผ่านประตูเล็ก ๆ ที่เปิดไว้ครึ่งหนึ่ง

โอ้หัวใจของ Gerda เต้นด้วยความกลัวและความไม่อดทนอย่างสนุกสนาน! เธอกำลังจะทำอะไรไม่ดีอย่างแน่นอน แต่เธอแค่อยากจะรู้ว่าไคของเธออยู่ที่นี่หรือไม่! ใช่ ใช่ เขาอาจจะอยู่ที่นี่! เธอจินตนาการถึงดวงตาอันชาญฉลาด ผมยาว และรอยยิ้มของเขาได้อย่างชัดเจน... เขายิ้มให้เธอแค่ไหนเมื่อเคยนั่งเคียงข้างกันใต้พุ่มกุหลาบ! และตอนนี้เขาจะมีความสุขขนาดไหนเมื่อเห็นเธอ ได้ยินว่าเธอตัดสินใจเดินทางไกลแค่ไหนเพื่อเห็นแก่เขา เรียนรู้ว่าทุกคนที่บ้านเสียใจกับเขาอย่างไร! โอ้ เธออยู่เคียงข้างตัวเองด้วยความกลัวและความสุข

แต่ที่นี่พวกเขาอยู่ตรงบันได มีแสงไฟส่องอยู่บนตู้เสื้อผ้า และอีกาเชื่องก็นั่งอยู่บนพื้นและมองไปรอบๆ Gerda นั่งลงและโค้งคำนับขณะที่คุณยายของเธอสอนเธอ

คู่หมั้นของฉันเล่าเรื่องดีๆ มากมายเกี่ยวกับคุณให้ฉันฟังนะสาวน้อย! - อีกาเชื่องกล่าว - “The Tale of Your Life” อย่างที่พวกเขาพูดก็ซาบซึ้งมากเช่นกัน! คุณต้องการที่จะเอาตะเกียงและฉันจะไปข้างหน้า? เราจะตรงไป - เราจะไม่เจอใครที่นี่!

และสำหรับฉันดูเหมือนว่ามีคนติดตามเราอยู่! - Gerda กล่าวและในขณะนั้นก็มีเงาบางอย่างวิ่งผ่านเธอไปพร้อมกับเสียงดังเล็กน้อย: ม้าที่มีแผงคอไหลและขาบาง ๆ นักล่าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษบนหลังม้า

เหล่านี้คือความฝัน! - อีกาเชื่องกล่าว - พวกเขานำความคิดของบุคคลระดับสูงในการตามล่าออกไป ยิ่งดีสำหรับเรามาก: การเห็นคนนอนหลับจะสะดวกกว่า! อย่างไรก็ตาม ฉันหวังว่าการเข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติแก่คุณจะแสดงว่าคุณมีจิตใจที่สำนึกในบุญคุณ!

มีเรื่องจะคุยที่นี่! มันไปโดยไม่บอก! - กาป่ากล่าว

จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในห้องโถงแรก ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยผ้าซาตินสีชมพูทอด้วยดอกไม้ ความฝันแวบผ่านหญิงสาวอีกครั้ง แต่เร็วมากจนไม่มีเวลาพบนักปั่นด้วยซ้ำ ห้องโถงหนึ่งดูอลังการกว่าอีกห้องหนึ่ง - ฉันประหลาดใจมาก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงห้องนอน เพดานดูเหมือนยอดต้นปาล์มขนาดใหญ่ที่มีใบคริสตัลล้ำค่า จากตรงกลางมีก้านทองคำหนาๆ ห้อยเตียงสองเตียงเป็นรูปดอกลิลลี่ คนหนึ่งเป็นคนผิวขาว เจ้าหญิงนอนอยู่ในนั้น อีกคนเป็นสีแดง และเกอร์ด้าหวังว่าจะพบไคอยู่ในนั้น เด็กสาวงอกลีบสีแดงข้างหนึ่งเล็กน้อยและเห็นผมสีบลอนด์เข้มที่ด้านหลังศีรษะของเธอ นี่ไค! นางจึงเรียกชื่อเขาเสียงดังแล้วชูตะเกียงมาจ่อหน้าเขา ความฝันก็รีบวิ่งออกไปอย่างดัง เจ้าชายตื่นขึ้นมาแล้วหันศีรษะ... อ้าว ไม่ใช่ไค!

เจ้าชายมีลักษณะคล้ายกับเขาเพียงด้านหลังศีรษะ แต่ยังเด็กและหล่อเหลา เจ้าหญิงมองออกไปจากดอกลิลลี่สีขาวแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น Gerda เริ่มร้องไห้และเล่าเรื่องราวทั้งหมดของเธอ โดยพูดถึงสิ่งที่อีกาทำเพื่อเธอ...

โอ้เจ้าผู้น่าสงสาร! - เจ้าชายและเจ้าหญิงกล่าวชื่นชมกาประกาศว่าพวกเขาไม่ได้โกรธพวกเขาเลย - อย่าปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งนี้อีกในอนาคต - และยังต้องการให้รางวัลพวกเขาด้วยซ้ำ

คุณต้องการที่จะเป็นนกอิสระหรือไม่? - ถามเจ้าหญิง - หรืออยากรับตำแหน่งคอร์ตกา จ่ายเต็มจากเศษครัว?

นกกาและอีกาโค้งคำนับและขอตำแหน่งในศาล - พวกเขาคิดถึงวัยชรา - และพูดว่า:

การมีขนมปังสักชิ้นในวัยชราเป็นเรื่องดี!

เจ้าชายลุกขึ้นยกเตียงให้เกอร์ดา เขายังทำอะไรให้เธอไม่ได้อีกแล้ว และเธอก็พับมือเล็ก ๆ ของเธอแล้วคิดว่า: "คนและสัตว์ช่างใจดีจริงๆ!" - หลับตาแล้วหลับไปอย่างหวานชื่น ความฝันบินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง แต่ตอนนี้ความฝันเหล่านั้นดูเหมือนเทวดาของพระเจ้าและกำลังอุ้มไคบนเลื่อนเล็ก ๆ ซึ่งพยักหน้าให้เกอร์ดา อนิจจา ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝันและหายไปทันทีที่หญิงสาวตื่นขึ้นมา

วันรุ่งขึ้นพวกเขาแต่งกายให้เธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยผ้าไหมและกำมะหยี่ และอนุญาตให้เธออยู่ในวังได้นานเท่าที่เธอต้องการ เด็กผู้หญิงสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป แต่เธออยู่ได้เพียงไม่กี่วันและเริ่มขอรถเข็นพร้อมม้าและรองเท้าคู่หนึ่ง - เธอต้องการออกไปตามหาพี่ชายที่สาบานของเธอทั่วโลกอีกครั้ง

เธอได้รับรองเท้า ผ้าปิดปาก และชุดที่สวยงาม และเมื่อเธอกล่าวคำอำลากับทุกคน รถม้าสีทองที่มีตราอาร์มของเจ้าชายและเจ้าหญิงส่องแสงราวกับดวงดาวขับขึ้นไปที่ประตู โค้ชทหารราบและตำแหน่ง - เธอยังได้รับตำแหน่ง - มีมงกุฎทองคำเล็ก ๆ บนหัว เจ้าชายและเจ้าหญิงเองก็นั่งเกร์ดาในรถม้าและอวยพรให้เธอเดินทางอย่างมีความสุข นกกาป่าซึ่งแต่งงานแล้วได้ร่วมเดินทางไปกับหญิงสาวเป็นระยะทางสามไมล์แรกและนั่งในรถม้าข้างๆ เธอ - เขาไม่สามารถขี่หลังม้าได้ อีกาเชื่องนั่งอยู่บนประตูและกระพือปีก เธอไม่ได้ไปเยี่ยมเกอร์ดาเพราะเธอปวดหัวตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งที่ศาลและกินมากเกินไป รถม้าเต็มไปด้วยเพรทเซลน้ำตาล และกล่องใต้เบาะก็เต็มไปด้วยผลไม้และขนมปังขิง

ลาก่อน! ลาก่อน! - เจ้าชายและเจ้าหญิงตะโกน

Gerda เริ่มร้องไห้ อีกาก็ร้องไห้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงขับรถไปสามไมล์แรก นกกาบอกลาหญิงสาวที่นี่ เป็นการจากกันที่ยากลำบาก! อีกาบินขึ้นไปบนต้นไม้แล้วกระพือปีกสีดำของมันจนรถม้าที่ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์หายไปจากสายตา

เธอได้รับรองเท้า ผ้าปิดปาก และชุดที่สวยงาม และเมื่อเธอกล่าวคำอำลากับทุกคน รถม้าสีทองที่มีตราอาร์มของเจ้าชายและเจ้าหญิงส่องแสงราวกับดวงดาวขับขึ้นไปที่ประตู คนขับรถม้า ทหารราบ และตำแหน่ง - เธอได้รับตำแหน่งด้วย - มีมงกุฎทองคำอันเล็ก ๆ บนศีรษะ เจ้าชายและเจ้าหญิงเองก็นั่งเกร์ดาในรถม้าและอวยพรให้เธอเดินทางอย่างมีความสุข นกกาป่าซึ่งแต่งงานแล้วได้ร่วมเดินทางไปกับหญิงสาวเป็นระยะทางสามไมล์แรกและนั่งในรถม้าข้างๆ เธอ - เขาไม่สามารถขี่หลังม้าได้ อีกาเชื่องนั่งอยู่บนประตูและกระพือปีก เธอไม่ได้ไปเยี่ยมเกอร์ดาเพราะเธอปวดหัวตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งที่ศาลและกินมากเกินไป รถม้าเต็มไปด้วยเพรทเซลน้ำตาล และกล่องใต้เบาะก็เต็มไปด้วยผลไม้และขนมปังขิง

-- ลาก่อน! ลาก่อน! - เจ้าชายและเจ้าหญิงตะโกน

Gerda ขับรถเข้าไปในป่าอันมืดมิด แต่รถม้าก็ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์และดึงดูดสายตาของพวกโจรทันที พวกเขาทนไม่ไหวและบินไปหาเธอตะโกน: "ทอง! ทอง!" - พวกเขาจับบังเหียนม้า ฆ่าจ๊อกกี้ คนขับรถม้า และคนรับใช้ และดึงเกอร์ดาออกจากรถม้า

ดูสิช่างน่ารักและอ้วนขนาดไหน! อ้วนด้วยถั่ว! - หญิงชราโจรผู้มีเครายาวหยาบกร้านและมีขนดกขนคิ้วยื่นออกมา - เจ้าอ้วนเหมือนลูกแกะของคุณ! แล้วรสชาติจะเป็นยังไงล่ะ?

และเธอก็ดึงมีดอันแหลมคมออกมา น่ากลัวจริงๆ!

AI! - ทันใดนั้นเธอก็กรีดร้อง: ลูกสาวของเธอกัดหูซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอและดื้อดึงและเอาแต่ใจจนตลก!

โอ้คุณหมายถึงผู้หญิง! - แม่กรีดร้อง แต่ไม่มีเวลาฆ่าเกอร์ดา

เธอจะเล่นกับฉัน! - โจรตัวน้อยกล่าว - เธอจะมอบผ้าพันคอ ชุดสวยๆ ของเธอให้ฉัน และจะนอนกับฉันบนเตียงของฉัน

และหญิงสาวก็กัดแม่ของเธอแรงอีกครั้งจนเธอกระโดดหมุนตัวไปในที่แห่งเดียว พวกโจรหัวเราะ:

ดูสิว่าเขากระโดดกับสาวของเขายังไง!

ฉันอยากขึ้นรถม้า! - โจรตัวน้อยตะโกนและยืนกรานด้วยตัวเธอเอง: เธอนิสัยเสียและดื้อรั้นมาก

พวกเขาขึ้นรถม้าพร้อมกับเกอร์ดาแล้วรีบวิ่งข้ามตอไม้และฮัมม็อกเข้าไปในป่าทึบ โจรตัวน้อยนั้นสูงพอๆ กับเกอร์ดา แต่แข็งแกร่งกว่า ไหล่กว้างกว่า และเข้มกว่ามาก ดวงตาของเธอเป็นสีดำสนิท แต่ก็น่าเศร้า เธอกอดเกอร์ดาแล้วพูดว่า:

พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณจนกว่าฉันจะโกรธคุณ! คุณเป็นเจ้าหญิงใช่ไหม?

เลขที่! - เด็กหญิงตอบและเล่าถึงสิ่งที่เธอต้องสัมผัสและรักไก่อย่างไร

โจรตัวน้อยมองดูเธออย่างจริงจัง พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า:

พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณแม้ว่าฉันจะโกรธคุณก็ตาม - ฉันอยากจะฆ่าคุณเอง!

และเธอก็เช็ดน้ำตาของเกอร์ดาออก แล้วซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ในผ้าปิดปากที่น่ารัก นุ่มนวล และอบอุ่นของเธอ

รถม้าหยุด; พวกเขาขับรถเข้าไปในลานปราสาทของโจร มันถูกปกคลุมไปด้วยรอยแตกขนาดใหญ่ อีกาและอีกาบินออกมาจากพวกเขา บูลด็อกตัวใหญ่กระโดดออกมาจากที่ไหนสักแห่งและดูดุร้ายราวกับว่าพวกมันอยากกินทุกคน แต่ก็ไม่เห่า - นี่เป็นสิ่งต้องห้าม

กลางห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีผนังที่ทรุดโทรมและเต็มไปด้วยเขม่าและพื้นหิน มีไฟลุกโชน ควันลอยขึ้นไปบนเพดานและต้องหาทางออกด้วยตัวเอง ซุปกำลังเดือดในหม้อขนาดใหญ่เหนือกองไฟ ส่วนกระต่ายและกระต่ายก็ย่างบนไฟถ่มน้ำลาย

คุณจะนอนกับฉันที่นี่ ข้างโรงเลี้ยงสัตว์ตัวน้อยของฉัน! - โจรตัวน้อยพูดกับเกอร์ดา

เด็กผู้หญิงได้รับอาหารและรดน้ำ และพวกเขาก็ไปที่มุมของพวกเขาซึ่งมีการปูฟางและปูด้วยพรม ชั้นบนมีนกพิราบมากกว่าร้อยตัวเกาะเกาะอยู่ ดูเหมือนพวกเธอทุกคนจะหลับใหล แต่เมื่อสาวๆ เข้ามาใกล้ พวกเธอก็ขยับเล็กน้อย

ของฉันทั้งหมด! - โจรตัวน้อยพูดจับนกพิราบตัวหนึ่งที่ขาแล้วเขย่ามันมากจนกระพือปีก - นี่จูบเขา! - เธอตะโกนโดยจิ้มนกพิราบตรงหน้าเกอร์ดา - และนี่คือเหล่าอันธพาลในป่าที่กำลังนั่งอยู่! - เธอพูดต่อโดยชี้ไปที่นกพิราบสองตัวนั่งอยู่ในช่องเล็กๆ บนกำแพง หลังตะแกรงไม้ - สองคนนี้เป็นพวกอันธพาลในป่า! พวกมันจะต้องถูกขังไว้ ไม่เช่นนั้นพวกมันจะบินหนีไปอย่างรวดเร็ว! และนี่คือชายชราที่รักของฉัน! - และหญิงสาวก็ดึงเขากวางเรนเดียร์ที่ผูกติดกับผนังด้วยปลอกคอทองแดงมันวาว - เขาต้องมีสายจูงด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะหนีไป! ทุกเย็นฉันจะจั๊กจี้เขาที่คอด้วยมีดคม ๆ - เขากลัวความตาย!

ด้วยคำพูดเหล่านี้ โจรตัวน้อยก็ดึงมีดยาวออกมาจากรอยแยกบนกำแพงแล้วฟาดไปที่คอกวาง สัตว์ที่น่าสงสารเตะและหญิงสาวก็หัวเราะและลากเกอร์ดาไปที่เตียง

คุณนอนมีดหรือเปล่า? - Gerda ถามเธอโดยเหลือบมองไปด้านข้างที่มีดคมๆ

เสมอ! - ตอบโจรตัวน้อย - ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! แต่บอกฉันอีกครั้งเกี่ยวกับไคและวิธีออกเดินทางท่องโลก!

เกอร์ด้าบอก นกพิราบไม้ในกรงส่งเสียงร้องเบาๆ นกพิราบตัวอื่นกำลังหลับอยู่แล้ว โจรตัวน้อยโอบแขนข้างหนึ่งรอบคอของ Gerda - เธอมีมีดอยู่อีกข้างหนึ่ง - และเริ่มกรน แต่ Gerda ไม่สามารถหลับตาได้ โดยไม่รู้ว่าพวกเขาจะฆ่าเธอหรือปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ พวกโจรนั่งรอบกองไฟ ร้องเพลงและดื่ม และหญิงชราโจรก็ล้มลง มันน่ากลัวสำหรับเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารเมื่อมองดูมัน

ทันใดนั้นนกพิราบป่าก็ส่งเสียงร้อง:

คุร! คุร! เราเห็นไค! ไก่ขาวอุ้มเลื่อนของเขาไว้บนหลังของเธอ และเขาก็นั่งบนเลื่อนของราชินีหิมะ พวกมันบินข้ามป่าตอนที่พวกเราซึ่งเป็นลูกไก่ยังนอนอยู่ในรัง เธอหายใจเข้าใส่เรา และทุกคนก็เสียชีวิต ยกเว้นเราสองคน! คุร! คุร!

คุณกำลังพูดอะไร? - Gerda อุทาน - ราชินีหิมะบินไปที่ไหน? คุณรู้หรือไม่?

เธออาจจะบินไปแลปแลนด์ เพราะมีหิมะและน้ำแข็งอยู่ที่นั่นชั่วนิรันดร์! ถามกวางเรนเดียร์ว่าผูกอะไรไว้ที่นี่!

ใช่แล้ว มีหิมะและน้ำแข็งนิรันดร์ ช่างวิเศษจริงๆ! - กวางเรนเดียร์กล่าว - คุณจะกระโดดอย่างอิสระข้ามที่ราบน้ำแข็งอันกว้างใหญ่แวววาว! เต็นท์ฤดูร้อนของราชินีหิมะตั้งอยู่ที่นั่น และวังถาวรของเธออยู่ที่ขั้วโลกเหนือ บนเกาะสปิตสเบอร์เกน!

โอ้ไค ไคที่รักของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ

โกหก! - โจรตัวน้อยกล่าว - ไม่งั้นฉันจะแทงคุณด้วยมีด!

ในตอนเช้าเกอร์ดาเล่าสิ่งที่เธอได้ยินจากนกพิราบป่าให้เธอฟัง โจรตัวน้อยมองดู Gerda อย่างจริงจังพยักหน้าแล้วพูดว่า:

เอาเป็นว่า!.. รู้มั้ย Lapland อยู่ที่ไหน? - จากนั้นเธอก็ถามกวางเรนเดียร์

ใครจะไปรู้ถ้าไม่ใช่ฉัน! - ตอบกวางและดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย - ฉันเกิดและโตที่นั่น ฉันกระโดดข้ามทุ่งหิมะที่นั่น!

ฟังนะ! - โจรตัวน้อยพูดกับเกอร์ดา - คุณเห็นไหมว่าคนของเราทั้งหมดจากไปแล้ว แม่คนหนึ่งที่บ้าน อีกหน่อยเธอก็จะจิบจากขวดใหญ่แล้วงีบหลับ - แล้วฉันจะทำอะไรให้คุณ!

จากนั้น เด็กหญิงก็กระโดดลงจากเตียง กอดแม่ ไว้หนวดเครา แล้วพูดว่า:

สวัสดีเจ้าแพะน้อยน่ารักของฉัน!

และแม่ก็ตีเธอด้วยการคลิกจมูกจนจมูกของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน แต่ทั้งหมดนี้ทำด้วยความรัก

จากนั้น เมื่อหญิงชราจิบน้ำจากขวดและเริ่มกรน โจรตัวน้อยก็เข้ามาหากวางเรนเดียร์แล้วพูดว่า:

เรายังสามารถล้อเลียนคุณได้อีกนานแสนนาน! คุณจะตลกได้มากเมื่อพวกเขาจั๊กจี้คุณด้วยมีดคมๆ! เอาล่ะเป็นอย่างนั้น! ฉันจะแก้มัดคุณและปล่อยคุณให้เป็นอิสระ คุณสามารถหนีไปที่ Lapland ของคุณได้ แต่ด้วยเหตุนี้คุณต้องพาผู้หญิงคนนี้ไปที่วังของ Snow Queen - พี่ชายสาบานของเธออยู่ที่นั่น แน่นอนคุณได้ยินสิ่งที่เธอพูดเหรอ? เธอพูดค่อนข้างดัง และหูของคุณก็จะอยู่เหนือศีรษะเสมอ

กวางเรนเดียร์กระโดดด้วยความดีใจ โจรตัวน้อยอุ้ม Gerda ขึ้นไปบนตัวเขา มัดเธอให้แน่นเพื่อระมัดระวัง และสอดหมอนนุ่ม ๆ ไว้ข้างใต้เธอเพื่อที่เธอจะได้นั่งได้สบายยิ่งขึ้น

ยังไงก็ตาม” เธอพูด “เอารองเท้าบูทขนสัตว์ของคุณกลับคืนมา เพราะมันจะหนาว!” ฉันจะเก็บมัฟไว้เอง มันดีมาก! แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณหยุด: นี่คือถุงมือขนาดใหญ่ของแม่ฉัน มันจะยาวถึงข้อศอกของคุณ! ใส่มือของคุณเข้าไปในนั้น! ตอนนี้ด้วยมือของคุณคุณดูเหมือนแม่ที่น่าเกลียดของฉัน!

Gerda ร้องไห้ด้วยความดีใจ

ฉันทนไม่ไหวแล้วเมื่อพวกเขาสะอื้น! - โจรตัวน้อยกล่าว - ตอนนี้คุณต้องดูสนุก! นี่คือขนมปังอีกสองก้อนกับแฮมหนึ่งชิ้น! อะไร คุณจะไม่หิว!

ทั้งสองถูกมัดไว้กับกวาง จากนั้นโจรตัวน้อยก็เปิดประตู ล่อสุนัขเข้าไปในบ้าน ตัดเชือกที่กวางผูกด้วยมีดคมๆ ของเธอ แล้วพูดกับเขาว่า

ก็ยังมีชีวิตอยู่! ใช่ ดูแลตัวเองด้วยนะสาวน้อย

Gerda ยื่นมือทั้งสองข้างสวมถุงมือขนาดใหญ่ให้โจรตัวน้อยแล้วกล่าวคำอำลากับเธอ กวางเรนเดียร์ออกเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดผ่านตอไม้และฮัมม็อก ผ่านป่า ผ่านหนองน้ำและสเตปป์ หมาป่าส่งเสียงหอน อีกาส่งเสียงร้อง และทันใดนั้นท้องฟ้าก็เริ่มส่งเสียงคำรามและขว้างเสาเพลิงออกไป

นี่คือแสงเหนือพื้นเมืองของฉัน! - กวางพูด - ดูสิว่ามันไหม้แค่ไหน!

Gerda เริ่มร้องไห้ อีกาก็ร้องไห้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงขับรถไปสามไมล์แรก นกกาบอกลาหญิงสาวที่นี่ เป็นการจากกันที่ยากลำบาก! อีกาบินขึ้นไปบนต้นไม้แล้วกระพือปีกสีดำของมันจนรถม้าที่ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์หายไปจากสายตา

ร็อบเบิร์กตัวน้อย

กวางมาหยุดอยู่ที่กระท่อมอันน่าสังเวช หลังคาพังลงถึงพื้น และประตูก็ต่ำมากจนคนต้องคลานผ่านทั้งสี่ด้าน ที่บ้านมีหญิงชราชาวแลปแลนเดอร์กำลังทอดปลาด้วยแสงตะเกียงอ้วนๆ กวางเรนเดียร์เล่าเรื่องทั้งหมดของเกอร์ดาให้แลปแลนเดอร์ฟัง แต่ก่อนอื่นเขาเล่าเรื่องของเขาเองก่อน - ดูเหมือนมันจะสำคัญกว่ามากสำหรับเขา Gerda รู้สึกชามากจนเธอพูดไม่ออก

โอ้คุณสิ่งที่น่าสงสาร! - แลปแลนเดอร์กล่าว - คุณยังมีหนทางอีกยาวไกล! คุณจะต้องเดินทางเป็นระยะทางร้อยไมล์ก่อนที่คุณจะไปถึงฟินแลนด์ ที่ซึ่งราชินีหิมะอาศัยอยู่ในบ้านในชนบทของเธอ และจะจุดประกายไฟสีฟ้าทุกเย็น ฉันจะเขียนคำสองสามคำบนปลาคอดแห้ง - ฉันไม่มีกระดาษและคุณจะนำไปเดทซึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่เหล่านั้นและจะสามารถสอนคุณได้ดีกว่าฉันว่าต้องทำอะไร

เมื่อเกอร์ดาอุ่นเครื่อง กิน และดื่มแล้ว เจ้าแลปแลนเดอร์ก็เขียนคำสองสามคำลงบนปลาค็อดแห้ง และบอกให้เกอร์ดาดูแลมันให้ดี จากนั้นจึงมัดหญิงสาวไว้ที่หลังกวาง แล้วมันก็วิ่งออกไปอีกครั้ง ท้องฟ้าระเบิดอีกครั้งและโยนเสาเปลวไฟสีน้ำเงินอันน่าอัศจรรย์ออกมา ดังนั้นกวางและเกอร์ดาจึงวิ่งไปที่ฟินแลนด์และเคาะปล่องไฟของเดทนั้น - มันไม่มีประตูด้วยซ้ำ

ที่บ้านเธอร้อน! เดทกับตัวเอง สาวร่างเตี้ย สกปรก เดินเปลือยครึ่งตัว เธอรีบถอดชุด ถุงมือ และรองเท้าบู๊ตของ Gerda ออกอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นหญิงสาวจะร้อนเกินไป เอาน้ำแข็งวางบนหัวกวางแล้วเริ่มอ่านสิ่งที่เขียนไว้บนปลาคอดแห้ง เธออ่านทุกอย่างทีละคำสามครั้งจนกระทั่งเธอจำได้ จากนั้นเธอก็ใส่ปลาค็อดลงในหม้อซุป เพราะปลายังกินได้ดีอยู่ และวันที่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอะไรเลย

ที่นี่กวางเล่าเรื่องของเขาก่อนแล้วจึงเล่าเรื่องของเกอร์ดา เดตกระพริบตาอันชาญฉลาดของเธอแต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก! - กวางพูด - ฉันรู้ว่าคุณสามารถผูกลมทั้งสี่ด้วยด้ายเส้นเดียวได้ เมื่อกัปตันแก้เชือกอันหนึ่ง ลมแรงพัดมา แก้อันอื่น อากาศจะดี และแก้อันที่สามและสี่ - พายุเช่นนี้จะเกิดขึ้นจนทำให้ต้นไม้หักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คุณจะทำเครื่องดื่มให้กับหญิงสาวที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฮีโร่ทั้งสิบสองคนให้กับเธอหรือไม่? แล้วเธอก็จะเอาชนะราชินีหิมะได้!

ความแข็งแกร่งของฮีโร่ทั้งสิบสองคน! - กล่าวว่าวันที่ - มีความรู้สึกมากแค่ไหน?

ด้วยคำพูดเหล่านี้ เธอหยิบม้วนหนังขนาดใหญ่ออกจากชั้นวางแล้วคลี่ออก มีข้อความที่น่าทึ่งอยู่บ้าง ดาเตะเริ่มอ่านมันและอ่านมันจนเธอเหงื่อออก

กวางเริ่มถามหาเกอร์ดาอีกครั้งและเกอร์ดาเองก็มองดูวันที่ด้วยดวงตาอ้อนวอนที่เต็มไปด้วยน้ำตาจนเธอกระพริบตาอีกครั้งหยิบกวางออกไปแล้วเปลี่ยนน้ำแข็งบนหัวของเขาแล้วกระซิบ:

จริงๆ แล้วไคอยู่กับราชินีหิมะ แต่เขาค่อนข้างมีความสุขและคิดว่าคงไม่มีใครดีไปกว่านี้แล้ว เหตุผลของทุกสิ่งคือเศษกระจกที่อยู่ในใจและในดวงตาของเขา ต้องกำจัดพวกมันออก ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีวันเป็นมนุษย์และราชินีหิมะจะคงอำนาจของเธอเหนือเขาไว้

แต่คุณจะไม่ช่วย Gerda ทำลายพลังนี้หรือ?

ฉันไม่สามารถทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าเธอได้ คุณไม่เห็นว่าพลังของเธอยิ่งใหญ่แค่ไหน? คุณไม่เห็นหรือว่าทั้งคนและสัตว์ต่างก็รับใช้เธอ? ในที่สุดเธอก็เดินเท้าเปล่าไปทั่วโลกครึ่งโลก! มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราที่จะยืมพลังของเธอ! ความเข้มแข็งอยู่ในหัวใจเด็กอ่อนหวานและไร้เดียงสาของเธอ หากตัวเธอเองไม่สามารถเจาะเข้าไปในวังของราชินีหิมะและกำจัดเศษชิ้นส่วนออกจากหัวใจของไคได้ เราก็จะไม่ช่วยเธออย่างแน่นอน! ห่างจากที่นี่ไปสองไมล์ สวนของ Snow Queen ก็เริ่มต้นขึ้น พาหญิงสาวไปที่นั่น ส่งเธอไปใกล้พุ่มไม้ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยผลเบอร์รี่สีแดง แล้วกลับมาโดยไม่ลังเลใจ!

ด้วยคำพูดเหล่านี้ วันที่ก็ยก Gerda ขึ้นบนหลังกวาง และเขาก็เริ่มวิ่งให้เร็วที่สุด

เฮ้ ฉันไม่มีรองเท้าบูทอุ่น ๆ นะ! เฮ้ ฉันไม่ได้สวมถุงมือนะ! - Gerda ตะโกนพบว่าตัวเองหนาวเหน็บ

แต่กวางไม่กล้าหยุดจนกระทั่งมันไปถึงพุ่มไม้ที่มีผลเบอร์รี่สีแดง จากนั้นเขาก็ลดระดับหญิงสาวลง จูบเธอที่ริมฝีปาก และน้ำตาแวววาวขนาดใหญ่ไหลออกมาจากดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็ยิงกลับไปเหมือนลูกศร เด็กหญิงผู้น่าสงสารถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังท่ามกลางความหนาวเย็นอันขมขื่น โดยไม่สวมรองเท้าและถุงมือ

เธอวิ่งไปข้างหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กองหิมะทั้งหมดพุ่งเข้ามาหาเธอ แต่พวกเขาไม่ได้ตกลงมาจากท้องฟ้า - ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างสมบูรณ์และแสงเหนือก็ส่องประกายอยู่บนนั้น - ไม่พวกเขาวิ่งไปตามพื้นตรงไปยัง Gerda และขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ พวกมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เกอร์ดาจำสะเก็ดที่สวยงามขนาดใหญ่ใต้กระจกที่กำลังลุกไหม้ได้ แต่สิ่งเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่ามาก น่ากลัวกว่ามาก เป็นประเภทและรูปร่างที่น่าทึ่งที่สุด และทั้งหมดก็ยังมีชีวิตอยู่ เหล่านี้คือแนวหน้าของกองทัพของราชินีหิมะ บางตัวมีลักษณะคล้ายเม่นตัวใหญ่ที่น่าเกลียดบางตัวก็เหมือนงูร้อยหัวบางตัวก็เหมือนลูกหมีตัวอ้วนที่มีขนยุ่งเหยิง แต่พวกมันทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยความขาวเท่ากัน พวกมันล้วนเป็นเกล็ดหิมะที่มีชีวิต

Gerda เริ่มอ่าน "พ่อของเรา"; มันหนาวมากจนลมหายใจของหญิงสาวกลายเป็นหมอกหนาทันที หมอกนี้หนาขึ้นและหนาขึ้น แต่เทวดาตัวน้อยที่สดใสก็เริ่มโดดเด่นขึ้นมาซึ่งเมื่อเหยียบลงไปบนพื้นก็เติบโตขึ้นเป็นเทวดาตัวใหญ่ที่น่าเกรงขามโดยมีหมวกกันน็อคอยู่บนหัวและมีหอกและโล่อยู่ในมือ จำนวนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกอร์ดาสวดภาวนาเสร็จ กองทัพทั้งกองก็ก่อตัวล้อมรอบเธอแล้ว เหล่าทูตสวรรค์จับสัตว์ประหลาดหิมะไว้บนหอก และพวกมันก็พังทลายเป็นพันชิ้น ตอนนี้ Gerda สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างกล้าหาญ: เหล่านางฟ้าลูบแขนและขาของเธอ และเธอก็ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป ในที่สุด เด็กสาวก็มาถึงวังของราชินีหิมะ

มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับไก่ในตอนนั้น เขาไม่ได้คิดถึงเกอร์ดาด้วยซ้ำ และที่สำคัญที่สุดคือเธอพร้อมที่จะมาหาเขาแล้ว

เมื่อเกอร์ดาอุ่นเครื่อง กิน และดื่มแล้ว เจ้าแลปแลนเดอร์ก็เขียนคำสองสามคำลงบนปลาค็อดแห้ง และบอกให้เกอร์ดาดูแลมันให้ดี จากนั้นจึงมัดหญิงสาวไว้ที่หลังกวาง แล้วมันก็วิ่งออกไปอีกครั้ง ท้องฟ้าระเบิดอีกครั้งและโยนเสาเปลวไฟสีน้ำเงินอันน่าอัศจรรย์ออกมา ดังนั้นกวางและเกอร์ดาจึงวิ่งไปที่ฟินแลนด์และเคาะปล่องไฟของเดทนั้น - มันไม่มีประตูด้วยซ้ำ

Gerda เริ่มอ่าน "พ่อของเรา"; มันหนาวมากจนลมหายใจของหญิงสาวกลายเป็นหมอกหนาทันที หมอกนี้หนาขึ้นและหนาขึ้น แต่เทวดาตัวน้อยที่สดใสก็เริ่มโดดเด่นขึ้นมาซึ่งเมื่อเหยียบลงไปบนพื้นก็เติบโตขึ้นเป็นเทวดาตัวใหญ่ที่น่าเกรงขามโดยมีหมวกกันน็อคอยู่บนหัวและมีหอกและโล่อยู่ในมือ จำนวนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกอร์ดาสวดภาวนาเสร็จ กองทัพทั้งกองก็ก่อตัวล้อมรอบเธอแล้ว เหล่าทูตสวรรค์จับสัตว์ประหลาดหิมะไว้บนหอก และพวกมันก็พังทลายเป็นพันชิ้น ตอนนี้ Gerda สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างกล้าหาญ: เหล่านางฟ้าลูบแขนและขาของเธอ และเธอก็ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป ในที่สุด เด็กสาวก็มาถึงวังของราชินีหิมะ

กำแพงวังของราชินีหิมะเกิดจากพายุหิมะ หน้าต่างและประตูได้รับความเสียหายจากลมแรง ห้องโถงขนาดใหญ่หลายร้อยห้องที่สว่างไสวด้วยแสงเหนือทอดยาวทีละห้อง ใหญ่ที่สุดทอดยาวหลายไมล์ ช่างหนาวเหน็บ ช่างร้างเหลือเกินในวังสีขาวที่ส่องประกายระยิบระยับเหล่านี้! ความสนุกไม่เคยมาที่นี่! ถ้าเพียงบางโอกาสเท่านั้นที่จะมีงานเลี้ยงหมีพร้อมเต้นรำไปกับเสียงเพลงของพายุ โดยหมีขั้วโลกจะโดดเด่นด้วยความสง่างามและความสามารถในการเดินด้วยขาหลังของมัน หรือจะเล่นไพ่ขึ้นมาด้วย ทะเลาะวิวาทและทะเลาะกันหรือในที่สุดพวกเขาก็ตกลงที่จะคุยเรื่องกาแฟสักแก้ว แม่ทูนหัวเห็ดชนิดหนึ่งสีขาว - ไม่ไม่เคยและไม่มีอะไรเลย! หนาวร้างตาย! แสงเหนือส่องประกายและแผดเผาสม่ำเสมอจนสามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำว่าแสงจะเข้มขึ้นในนาทีใดและจะอ่อนลงเมื่อใด กลางห้องโถงร้างที่เต็มไปด้วยหิมะที่ใหญ่ที่สุดมีทะเลสาบน้ำแข็งอยู่ น้ำแข็งแตกออกเป็นชิ้นๆ หลายพันชิ้น สม่ำเสมอและสม่ำเสมออย่างน่าอัศจรรย์ ชิ้นหนึ่งเหมือนกัน กลางทะเลสาบมีบัลลังก์ของราชินีหิมะตั้งอยู่ เธอนั่งบนนั้นเมื่ออยู่ที่บ้านโดยบอกว่าเธอนั่งอยู่บนกระจกแห่งจิตใจ ในความเห็นของเธอ มันเป็นกระจกบานเดียวและดีที่สุดในโลก

ไคกลายเป็นสีฟ้าสนิท เกือบจะดำคล้ำเพราะความเย็น แต่ไม่ได้สังเกตเลย การจูบของราชินีหิมะทำให้เขาไม่รู้สึกต่อความหนาวเย็น และหัวใจของเขาก็กลายเป็นน้ำแข็งก้อนหนึ่ง ไคปรับแต่งแผ่นน้ำแข็งทรงแหลมแบนๆ โดยจัดเรียงมันไว้ในรูปแบบต่างๆ มีเกมดังกล่าว - พับร่างจากแผ่นไม้ซึ่งเรียกว่าปริศนาจีน ไคยังรวบรวมร่างที่ซับซ้อนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แต่มาจากน้ำแข็งลอย และสิ่งนี้เรียกว่าเกมใจน้ำแข็ง ในสายตาของเขา ตัวเลขเหล่านี้เป็นปาฏิหาริย์แห่งศิลปะ และการพับมันเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีกระจกวิเศษชิ้นหนึ่งในดวงตาของเขา! เขารวบรวมคำทั้งหมดจากแผ่นน้ำแข็ง แต่เขาไม่สามารถรวบรวมสิ่งที่เขาต้องการเป็นพิเศษได้: คำว่า "นิรันดร์" ราชินีหิมะบอกเขาว่า: "ถ้าคุณรวมคำนี้เข้าด้วยกัน คุณจะเป็นเจ้านายของคุณเอง และฉันจะมอบโลกทั้งใบและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่ให้คุณ" แต่เขาไม่สามารถรวบรวมมันเข้าด้วยกันได้

ตอนนี้ฉันจะบินไปยังดินแดนอันอบอุ่น! - ราชินีหิมะกล่าว - ฉันจะดูหม้อต้มสีดำ!

เธอเรียกหลุมอุกกาบาตของภูเขาพ่นไฟวิสุเวียสและหม้อต้มเอตนา

ฉันจะทำให้พวกเขาขาวขึ้นสักหน่อย! กินหลังมะนาวและองุ่นก็อร่อย! และเธอก็บินจากไป และไคก็ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในห้องโถงร้างอันกว้างใหญ่ มองดูน้ำแข็งที่ลอยอยู่ คิดและคิดจนหัวของเขาแตก เขานั่ง ณ ที่แห่งเดียว ซีดเซียว ไร้การเคลื่อนไหว ราวกับไร้ชีวิต คุณคงจะคิดว่าเขาถูกแช่แข็ง

ในเวลานั้น Gerda เข้าไปในประตูใหญ่ที่เกิดจากลมแรง เธออ่านคำอธิษฐานยามเย็น ลมก็สงบลง ราวกับว่าพวกเขาหลับไปแล้ว เธอเข้าไปในห้องโถงน้ำแข็งร้างขนาดใหญ่อย่างอิสระและเห็นไค หญิงสาวจำเขาได้ทันที โยนตัวลงบนคอของเขา กอดเขาแน่นแล้วอุทาน:

ไค ไคที่รักของฉัน! ในที่สุดฉันก็พบคุณ!

แต่เขาก็นั่งนิ่งนิ่งและเย็นชา จากนั้นเกอร์ดาก็เริ่มร้องไห้ น้ำตาอันร้อนแรงของเธอตกลงบนหน้าอกของเขา ทะลุหัวใจของเขา ละลายเปลือกน้ำแข็งของเขาและละลายชิ้นส่วนนั้น ไคมองดูเกอร์ดาแล้วเธอก็ร้องเพลง:

ดอกกุหลาบกำลังบานอยู่ในหุบเขาแล้ว

พระเยซูคริสต์ทรงอยู่ที่นี่กับเรา!

ทันใดนั้นไคก็น้ำตาไหลและร้องไห้นานมากจนเศษหินไหลออกมาจากตาพร้อมกับน้ำตา จากนั้นเขาก็จำเกอร์ดาได้และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เกอร์ด้า! Gerda ที่รักของฉัน!.. คุณไปอยู่ที่ไหนมานานแล้ว? ฉันเองอยู่ที่ไหน? - และเขาก็มองไปรอบ ๆ - ที่นี่หนาวและรกร้างขนาดไหน!

และเขาก็กดตัวเองให้เกอร์ดาแน่น เธอหัวเราะและร้องไห้ด้วยความดีใจ ใช่ มีความยินดีอย่างยิ่งที่แม้แต่น้ำแข็งก็เริ่มเต้น และเมื่อพวกเขาเหนื่อยพวกเขาก็นอนลงและเรียบเรียงคำที่ราชินีหิมะขอให้คายะแต่ง เมื่อพับมันแล้วเขาก็สามารถเป็นนายของตัวเองได้และยังได้รับของขวัญจากทั้งโลกและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่จากเธออีกด้วย

Gerda จูบไก่ที่แก้มทั้งสองข้าง และพวกมันก็บานสะพรั่งเหมือนดอกกุหลาบอีกครั้ง จูบดวงตาของเขา และพวกมันก็เปล่งประกายเหมือนเธอ เธอจูบมือและเท้าของเขา และเขาก็กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง ราชินีหิมะสามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ: ค่าพักร้อนของเขาอยู่ที่นี่ เขียนด้วยตัวอักษรน้ำแข็งแวววาว

ไคและเกอร์ด้าเดินจับมือกันออกจากวังน้ำแข็งร้าง พวกเขาเดินและพูดคุยเกี่ยวกับคุณยาย เกี่ยวกับดอกกุหลาบของพวกเขา และระหว่างทางลมแรงก็สงบลงและดวงอาทิตย์ก็ลอดผ่าน เมื่อพวกเขาไปถึงพุ่มไม้ที่มีผลเบอร์รี่สีแดง กวางเรนเดียร์ตัวหนึ่งกำลังรอพวกเขาอยู่ พระองค์ทรงนำกวางตัวเมียตัวหนึ่งมาด้วย เต้านมของเธอเต็มไปด้วยน้ำนม เธอมอบมันให้ไคและเกอร์ดาแล้วจูบพวกเขาที่ริมฝีปาก จากนั้นไคและเกอร์ดาก็ออกเดทก่อน อุ่นเครื่องกับเธอและหาทางกลับบ้าน จากนั้นก็ไปที่แลปแลนเดอร์ เธอเย็บชุดใหม่ให้พวกเขา ซ่อมรถลากเลื่อนและไปดูพวกเขาออกไป

คู่รักกวางเรนเดียร์ยังร่วมเดินทางไปกับนักเดินทางรุ่นเยาว์จนถึงชายแดนแลปแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่พื้นที่สีเขียวแห่งแรกได้ทะลุผ่านไปแล้ว ที่นี่ Kai และ Gerda กล่าวคำอำลากับกวางและ Laplander

ด้านหน้าของพวกเขาคือป่า นกตัวแรกเริ่มร้องเพลง ต้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยดอกตูมสีเขียว เด็กสาวสวมหมวกสีแดงสดและมีปืนพกอยู่ในเข็มขัด ขี่ม้าออกจากป่าไปพบนักเดินทางบนหลังม้าอันงดงาม Gerda จำม้าทั้งสองตัวได้ทันที ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยถูกควบคุมด้วยรถม้าสีทอง และหญิงสาวคนนั้น เธอเป็นโจรตัวน้อย เธอเหนื่อยกับการอยู่บ้าน และเธออยากไปเที่ยวทางเหนือ และถ้าเธอไม่ชอบที่นั่น ก็ไปยังส่วนอื่นๆ ของโลก เธอยังจำเกอร์ดาได้ด้วย ช่างน่ายินดีจริงๆ!

ดูสิคุณคนจรจัด! - เธอพูดกับไค - ฉันอยากจะรู้ว่าคุณสมควรที่จะมีคนวิ่งตามคุณไปจนสุดขอบโลกหรือไม่!

แต่เกอร์ด้าตบแก้มเธอแล้วถามถึงเจ้าชายและเจ้าหญิง

พวกเขาออกเดินทางไปยังดินแดนต่างประเทศ! - ตอบโจรหนุ่ม

อีกาและอีกาล่ะ? - ถามเกอร์ด้า

นกกาในป่าตาย อีกาเชื่องยังคงเป็นม่าย เดินไปทั่วโดยมีผมสีดำอยู่บนขาและบ่นเกี่ยวกับชะตากรรมของมัน แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่บอกฉันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณและคุณพบเขาได้อย่างไร

Gerda และ Kai บอกเธอทุกอย่าง

นั่นคือจุดสิ้นสุดของเทพนิยาย! - โจรหนุ่มกล่าวจับมือและสัญญาว่าจะไปเยี่ยมพวกเขาหากเธอมาที่เมืองของพวกเขา จากนั้นเธอก็ไปตามทางของเธอ ส่วน Kai และ Gerda ก็ไปตามทางของพวกเขา พวกเขาเดินไปตามถนน ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิก็บานสะพรั่ง และหญ้าก็กลายเป็นสีเขียว จากนั้นเสียงระฆังก็ดังขึ้น และพวกเขาก็จำหอระฆังในบ้านเกิดของตนได้ พวกเขาขึ้นบันไดที่คุ้นเคยและเข้าไปในห้องที่ทุกอย่างเหมือนเดิม นาฬิกาเดินแบบเดิม เข็มชั่วโมงเดินแบบเดิม แต่เมื่อผ่านประตูต่ำไป พวกเขาสังเกตเห็นว่าในช่วงเวลานี้พวกเขาสามารถเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว พุ่มกุหลาบที่กำลังเบ่งบานมองจากหลังคาผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ เก้าอี้เด็กของพวกเขายืนอยู่ตรงนั้น Kai และ Gerda ต่างก็นั่งลงด้วยตนเองและจับมือกัน ความยิ่งใหญ่อันเยือกเย็นที่ถูกทิ้งร้างในวังของราชินีหิมะถูกลืมเลือนไปราวกับความฝันอันหนักหน่วง คุณยายนั่งอยู่กลางแสงแดดและอ่านข่าวประเสริฐเสียงดัง: “ถ้าคุณไม่เป็นเหมือนเด็ก คุณจะไม่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์!”

Kai และ Gerda มองหน้ากันแล้วก็เข้าใจความหมายของเพลงสดุดีเก่าเท่านั้น:

ดอกกุหลาบกำลังบานอยู่ในหุบเขาแล้ว

พระเยซูคริสต์ทรงสถิตกับเราที่นี่

ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งเคียงข้างกัน ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เป็นเด็กในหัวใจและจิตวิญญาณ และข้างนอกก็เป็นฤดูร้อนที่อบอุ่นและมีความสุข!

มีอยู่ในการแปลของ Ganzen แต่ไม่มีใน Sovetsky

เพิ่ม/เปลี่ยนแปลงในคำแปล “โซเวียต”

เรื่องที่หนึ่ง

กระจกเงาและชิ้นส่วนของมัน

เรื่องราวที่หนึ่ง

ซึ่งพูดถึงกระจกและชิ้นส่วนของมัน

เอาล่ะเริ่มกันเลย! เมื่อเรามาถึงจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเรา เราจะรู้มากกว่าที่เรารู้ตอนนี้ ตอนนี้. กาลครั้งหนึ่งมีโทรลล์ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ซุกซนดูถูกเหยียดหยาม; มันเป็นตัวเขาเองปีศาจ เมื่อเขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษเขาทำกระจกที่ทุกสิ่งที่ดีและสวยงามลดน้อยลงจนสุด ไม่มีที่อื่นให้ไป แต่ยังคงไร้ค่าและน่าเกลียด ตรงกันข้ามได้กระทำการนั่นแหละที่มันโผล่ออกมา มันเสร็จแล้วมากกว่า สว่างขึ้นก็ดูแย่ลงไปอีก น่ารักที่สุดแห้ง. สวยที่สุดภูมิประเทศในนั้นดูเหมือนผักโขมต้ม และผู้คนที่ดีที่สุดก็ดูเหมือนตัวประหลาด หรือดูเหมือนว่าพวกเขากำลังยืนกลับหัว และพวกเขาไม่มีพุงเลย! ใบหน้าบิดเบี้ยวจนไม่สามารถจดจำได้ ถ้ามันเกิดขึ้นและถ้าใครมีกระหรือไฝบนใบหน้า ถ้าอย่างนั้นก็ใจเย็น ๆ -เธอ เบลอไปทั่วทั้งใบหน้าของฉัน ปีศาจรู้สึกขบขันอย่างมากกับเรื่องทั้งหมดนี้ ใจดีและมีมนุษยธรรมเกลี่ยให้ทั่วจมูกและริมฝีปาก และถ้าบุคคลมีเมตตาคิดแล้วมันก็สะท้อนอยู่ในกระจก ด้วยหน้าตาบูดบึ้งอย่างคาดไม่ถึงการแสดงตลกแบบนั้นโทรลล์ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฉันคำรามด้วยเสียงหัวเราะชื่นชมยินดีกับสิ่งประดิษฐ์อันชาญฉลาดของเขา

นักเรียนทุกคน นักเรียนของโทรลล์ - และเขามีโรงเรียนของตัวเอง - เล่าให้ฟัง

เกี่ยวกับกระจกราวกับว่ามันเป็นปาฏิหาริย์บางอย่าง ตอนนี้ถึงทุกคนที่ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว: บัดนี้

พวกเขากล่าวว่าคุณสามารถมองเห็นโลกทั้งใบและผู้คนด้วยแสงที่แท้จริงของพวกเขา!

และนี่คือพวกเขา พวกเขาวิ่งไปรอบ ๆ พร้อมกับกระจกทุกที่ และในไม่ช้าก็ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่มีเหลือสักคนเดียวที่จะไม่สะท้อนให้เห็นในรูปแบบที่บิดเบี้ยวในที่สุดพวกเขาก็อยากจะไปถึงท้องฟ้า เพื่อหัวเราะเยาะเทวดาและผู้สร้างเอง- ยิ่งพวกเขาสูงขึ้น กระจกก็ยิ่งทำหน้าบูดบึ้งและบิดเบี้ยวมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นพวกเขาจึงแทบจะไม่สามารถถือมันไว้ในมือได้ แต่พวกเขาอยู่ที่นี่ ลุกขึ้นอีกครั้งและบินขึ้นไปสูงมากเช่น ทันใดนั้นกระจกก็เอียงมากก่อนที่มันจะบิดเบี้ยวไปจากหน้าตาบูดบึ้ง จนมันหลุดมือก็บินลงมากระแทกพื้นเป็นชิ้น ๆ ล้านสำหรับชิ้นส่วนของมันนับล้านพันล้าน อย่างไรก็ตามและนั่นคือสาเหตุที่มันเกิดขึ้น ปัญหามากยิ่งขึ้นกว่าตัวกระจกเอง- บาง บางส่วนมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเม็ดทรายก็กระจัดกระจายไปแตกเป็นชิ้นขนาดเท่าเม็ดทรายกระจัดกระจาย บังเอิญไปเข้าตาผู้คนทั่วโลกและยังคงอยู่ที่นั่นคนที่มีเสี้ยนในดวงตาของเขาเริ่มมองเห็นทุกสิ่งจากภายในสู่ภายนอกหรือสังเกตเห็นทุกสิ่ง ด้านที่ไม่ดีเท่านั้นท่ามกลางเศษและขนาดใหญ่ จึงสามารถแทรกเข้าไปได้- พวกมันถูกแทรกเข้าไปในกรอบหน้าต่าง แต่แม้จะผ่านหน้าต่างเหล่านี้ก็ไม่คุ้มที่จะดูเพื่อนที่ดีของคุณ ในที่สุดก็มีเศษชิ้นส่วนที่เข้าไปในแก้ว ปัญหาเดียวคือถ้าคนและมันคงจะแย่ถ้าแว่นตาแบบนั้นใส่ เพื่อการมองดูสิ่งของและเพื่อให้มองเห็นได้ดีขึ้นและถูกต้องผู้พิพากษา หรือมากกว่านั้น! และโทรลล์ชั่วร้ายก็หัวเราะจนรู้สึกจุกเสียด ความสำเร็จของสิ่งประดิษฐ์นี้ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมาก แต่สิ่งของ.

โทรลล์ชั่วร้ายส่งเสียงหัวเราะ - ความคิดนี้ทำให้เขาขบขันมาก กเศษกระจกอีกหลายชิ้นปลิวไปทั่วโลก

- มาฟังเกี่ยวกับพวกเขากันดีกว่า

-

เรื่องที่สอง

เรื่องที่สอง เด็กชายและเด็กหญิงในเมืองใหญ่ที่มีบ้านเรือนและผู้คนมากมายที่ไม่ใช่ทุกคนและทุกคนก็สามารถรั้วกั้นสถานที่เล็ก ๆ สำหรับโรงเรียนอนุบาลได้อย่างน้อยและที่ไหนก็ได้ อย่างน้อยก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับจัดสวนขนาดเล็กชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องพอใจกับดอกไม้ในร่มในกระถาง มีเด็กยากจนสองคน แต่พวกเขาก็มีสวนที่ใหญ่กว่ากระถางเล็กน้อยด้วย พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

พี่ชายและน้องสาว แต่พวกเขาก็รักกันเหมือนพี่ชายและน้องสาวพ่อแม่ของพวกเขาอาศัยอยู่ที่ห้องใต้หลังคาของบ้านที่อยู่ติดกัน ตู้เสื้อผ้าใต้หลังคาในบ้านสองหลังใกล้เคียงหลังคาบ้านเกือบชนกัน

และใต้ขอบหลังคามีรางระบายน้ำซึ่งอยู่ใต้หน้าต่างห้องใต้หลังคาแต่ละห้อง ดังนั้น ทันทีที่คุณก้าวออกไปนอกหน้าต่างไปยังรางน้ำ คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ที่หน้าต่างของเพื่อนบ้าน และระหว่างนั้นมีรางระบายน้ำ ที่นี่เป็นหน้าต่างห้องใต้หลังคาจากแต่ละบ้านมองหน้ากัน คุณเพียงแค่ต้องก้าวข้ามรางน้ำและคุณสามารถเดินทางจากหน้าต่างหนึ่งไปอีกหน้าต่างหนึ่งได้พ่อแม่แต่ละคนมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ ก็มีรากงอกขึ้นมาในนั้นการปลูกสมุนไพรเพื่อปรุงรสและพุ่มกุหลาบสีชมพูเล็ก ๆ - - อย่างละหนึ่งดอก ทีละครั้ง - อาบไปด้วยดอกไม้วิเศษกล่องปลูกอย่างอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นกับผู้ปกครองที่จะใส่กล่องเหล่านี้ ไปที่ด้านล่างของรางน้ำ ดังนั้นจากข้ามรางน้ำดังนั้นจาก หน้าต่างบานหนึ่งทอดยาวไปถึงอีกบานหนึ่งเหมือนเตียงดอกไม้สองบานถั่ว มาลัยสีเขียวลงมาจากกล่อง มาลัยสีเขียวพวกเขาเล่นที่นี่ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ!

ในฤดูหนาวความสุขนี้หยุดลงที่หน้าต่างฤดูหนาวยุติความสุขนี้ หน้าต่างบ่อยครั้ง ปกคลุมไปด้วยลวดลายน้ำแข็ง แต่ถูกแช่แข็งจนหมดแต่เด็ก ๆ อุ่นเหรียญทองแดงบนเตาเตาแล้วนำไปใช้กับแก้วที่แช่แข็ง - และในทันใดนั้นรูกลมที่ยอดเยี่ยมก็ละลายและช่องมองที่ร่าเริงและน่ารักก็มองออกไป - แต่ละคนมองจากหน้าต่างของเขาเองเด็กชายและเด็กหญิง , ไค และ เกอร์ด้า . ในฤดูร้อนพวกเขาพบว่าตัวเองมาเยี่ยมกันด้วยการก้าวกระโดดเพียงครั้งเดียว แต่ในฤดูหนาวพวกเขาต้องเดินลงไปหลายขั้นก่อน จากนั้นจึงขึ้นเป็นจำนวนเท่าๆ กัน ก้อนหิมะกระพืออยู่ในสนาม

พวกนี้มันคือผึ้งขาวรุม! - หญิงชรา, ยายเฒ่ากล่าว

พวกเขายังมีราชินีด้วยเหรอ? - เด็กชายถาม; เขา . เขารู้ว่าผึ้งจริงมีผึ้งตัวหนึ่ง

กิน! - ตอบคุณย่า - เกล็ดหิมะล้อมรอบเธอเป็นฝูงหนา แต่เธอก็ใหญ่กว่าพวกมันทั้งหมดและไม่เคยมีเลย ยังคงอยู่บนพื้น -นั่งลงบนพื้นล่องลอยอยู่ในเมฆดำเสมอ บ่อยครั้งในเวลากลางคืนเธอจะบินไปตามถนนในเมืองและมองเข้าไปในหน้าต่าง

นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกมันถึงถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายน้ำแข็งและเย็นจัดเหมือนดอกไม้

เราเห็นแล้ว เราเห็นแล้ว! - เด็กๆ พูดและเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นจริง ก ราชินีหิมะไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ที่นี่? — ถามครั้งหนึ่ง

- - หญิงสาวถาม อนุญาต

- แค่ลอง!

- กล่าว - เด็กชายตอบ “ฉันจะเอาเธอไปตั้งบนเตาอุ่นๆ แล้วเธอก็จะละลาย!” -แต่คุณยายลูบหัวและเริ่มพูดถึงเรื่องอื่น

ในตอนเย็น เมื่อไคอยู่ที่บ้านและแทบจะถอดเสื้อผ้าออกเกือบหมด เตรียมเข้านอน ไคก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง และมองเข้าไปในวงกลมเล็กๆ ที่ละลายอยู่บนกระจกหน้าต่าง เกล็ดหิมะกระพือปีกออกไปนอกหน้าต่าง เกล็ดหิมะหนึ่งอัน หนึ่งในนั้นอันที่ใหญ่กว่านั้นตกลงไปที่ขอบกล่องดอกไม้และเริ่มเติบโตเติบโตจนในที่สุดมันก็กลายเป็นผู้หญิงห่อด้วยผ้าทูลสีขาวที่ดีที่สุดถักทอดูเหมือนมาจากดาวหิมะนับล้านดวง เธอน่ารักและอ่อนโยนมาก ทั้งหมดทำจากน้ำแข็ง น้ำแข็งสีขาวแวววาว และยังมีชีวิตอยู่! ดวงตาของเธอเป็นประกายเหมือน ส่องสว่างเหมือนสองดวงดวงดาว แต่ไม่มีความอบอุ่นและความอ่อนโยนอยู่ในนั้นความสงบ. เธอพยักหน้าให้เด็กชายและกวักมือเรียกเขา - พระอาทิตย์กำลังส่องแสง กล่องดอกไม้ก็กลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง นกนางแอ่นกำลังทำรังอยู่ใต้หลังคา หน้าต่างมา. พระอาทิตย์ส่องแสง พืชพรรณปรากฏขึ้น นกนางแอ่นกำลังสร้างรัง หน้าต่างละลาย และเด็กๆ ก็สามารถนั่งในสวนเล็กๆ บนหลังคาได้อีกครั้ง ในรางน้ำเหนือทุกชั้น

ดอกกุหลาบบานสะพรั่งตลอดฤดูร้อน เด็กหญิงเรียนรู้บทสวดซึ่งพูดถึงดอกกุหลาบด้วย เด็กหญิงร้องเพลงนี้ให้เด็กชายฟัง โดยคิดถึงดอกกุหลาบของเธอ และเขาก็ร้องเพลงร่วมกับเธอ:

ฤดูร้อนปีนั้น ดอกกุหลาบก็บานสะพรั่งอย่างงดงามกว่าที่เคยเด็กๆ ร้องเพลง จับมือ จูบดอกกุหลาบ มองดูดวงอาทิตย์ที่สดใสแล้วคุยกับมัน - ดูเหมือนว่าพระกุมารเยซูเองก็กำลังมองพวกเขาจากที่นั่น มันช่างเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆและชื่นชมยินดีในดวงอาทิตย์ โอ้มันวิเศษจริงๆฤดูร้อน และใต้พุ่มกุหลาบช่างงดงามเหลือเกิน กุหลาบหอมนั่นเองซึ่งดูเหมือนควรจะบานสะพรั่งตลอดไป!

วันหนึ่งไคและเกอร์ดา กอร์ดากำลังนั่งดูหนังสือที่มีรูปสัตว์และนกอยู่เล่มหนึ่ง บน . หอนาฬิกาใหญ่ตีห้า

อ้าว! - ทันใดนั้นเด็กชายก็กรีดร้อง - ไคสำหรับฉัน “ฉันถูกแทงเข้าที่หัวใจ และมีบางอย่างเข้าตา!”

เด็กสาวโอบแขนเล็กๆ ของเธอไว้รอบคอของเขา เขากระพริบตา กระพริบตาบ่อยๆแต่กลับไม่มีอะไรอยู่ในดวงตาเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเลย

มันคงจะหลุดออกมาแล้ว!

เขากล่าวแต่ความจริงของเรื่องนี้ก็คือไม่ เศษสองชิ้นกระทบเขาที่หัวใจและดวงตาแต่นั่นไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งนั้น กระจกปีศาจที่เราเป็นเหมือนแน่นอนว่าเราจำได้ว่าทุกสิ่งที่ดีและดีดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญและน่าขยะแขยง และความชั่วร้ายและความชั่วก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ด้านที่ไม่ดีของแต่ละรายการก็โดดเด่นยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

พวกเขาพูดตั้งแต่ต้น ไคผู้น่าสงสาร! ตอนนี้หัวใจของเขาต้องกลายเป็นเหมือนชิ้นน้ำแข็ง!- ความเจ็บปวด

ในสายตาและในหัวใจอยู่แล้ว ผ่านไปแต่เศษซากยังคงอยู่ในนั้น เกี่ยวกับอะไรคุณกำลังร้องไห้เหรอ? - เขาถามเกอร์ด้า - เอ่อ! ตอนนี้คุณน่าเกลียดแค่ไหน!มันไม่ทำให้ฉันเจ็บเลย! ฮึ- - ทันใดนั้นเขาก็ตะโกน - เอ๊ะ

คุณน่าเกลียดแค่ไหน! - ทันใดนั้นเขาก็ตะโกน - ที่นั่น

ดอกกุหลาบนั่นกำลังถูกหนอนกัดกินไปแล้ว!

- และอันนั้นก็คดเคี้ยวไปหมด! - กุหลาบน่าเกลียดอะไรเช่นนี้! ไม่มีอะไรดีไปกว่ากล่องที่พวกเขายื่นออกมา!-เขาบอกว่าหนังสือที่มีรูปภาพจะบอกว่ารูปภาพเหล่านี้เหมาะสำหรับเด็กทารกเท่านั้น ยายแก่บอกฉันว่าถ้าหญิงชราบอกอะไรบางอย่าง เขากำลังจับผิด - เขาคงจะจับผิดคำพูดของเธอใช่แล้ว ถ้าแค่นี้! แล้วเขาก็มาถึงจุดที่เขาเริ่มเลียนแบบท่าเดินของเธอและสวมแว่นตาของเธอและเลียนแบบเสียงของเธอ!พูดด้วยเสียงของเธอ มันกลับกลายเป็นคล้ายกันมากและทำให้ผู้คนหัวเราะและผู้คนก็หัวเราะ

ในไม่ช้าเด็กชายไคก็เรียนรู้ที่จะเลียนแบบเพื่อนบ้านทั้งหมดของเขา - เขา เขาเก่งมากในการอวดความแปลกประหลาดและข้อบกพร่องของพวกเขา และผู้คนก็พูดว่า:

เด็กน้อยคนนี้มีหัวอะไรเช่นนี้!

เด็กน้อยมีความสามารถน่าทึ่ง!

และสาเหตุของทุกอย่างก็คือเศษกระจกที่เข้าตาและหัวใจของเขา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลียนแบบ Gerda ตัวน้อยผู้น่ารักซึ่งท้ายที่สุดแล้วเขาก็รักเขาอย่างสุดใจ

และความสนุกสนานของเขาตอนนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงและซับซ้อนมาก ครั้งหนึ่งในฤดูหนาว เมื่อหิมะตก เขาก็ปรากฏตัวพร้อมกับแว่นขยายก่อความไม่สงบขนาดใหญ่ และวางชายเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำเงินไว้ใต้หิมะ

มองเข้าไปในกระจกเกอร์ด้า! เขากล่าว

เกล็ดหิมะแต่ละอันดูใหญ่กว่าใต้กระจกมากกว่าที่เป็นจริงมาก และดูเหมือนดอกไม้ที่หรูหราหรือดาวสิบเหลี่ยม

ปาฏิหาริย์จริงๆ!

มันสวยงามมาก!

ดูสิว่ามันทำได้อย่างชำนาญและมีไหวพริบแค่ไหน! - ไคกล่าว - นี่มันมาก - น่าสนใจยิ่งกว่าดอกไม้จริงมาก! และแม่นอะไรเช่นนี้! ไม่ผิดแม้แต่เส้นเดียว! โอ้ถ้าเพียงพวกเขาไม่ละลาย!หลังจากนั้นไม่นาน Kai ก็ปรากฏตัวในถุงมือตัวใหญ่โดยมีเลื่อนอยู่ด้านหลังและตะโกนใส่หูของ Gerda:- “ฉันได้รับอนุญาตให้ขี่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ร่วมกับผู้ชายคนอื่นได้!!” - และวิ่งหนีไปมีเด็กจำนวนมากเล่นสเก็ตอยู่รอบๆ จัตุรัสบรรดาผู้กล้าหาญผูกลากเลื่อนไว้กับเลื่อนของชาวนาและ เรามาไกลขนาดนี้ ความสนุกสนานก็เต็มเปี่ยมกลิ้งไปไกล มันสนุกมาก ท่ามกลางความสนุกสนานของเขาในจัตุรัส

พวกเขาจึงออกไปและออกจากประตูเมือง ทันใดนั้นหิมะก็ตกลงมาเป็นสะเก็ด มันมืดมากจนมองไม่เห็นอะไรเลยและมันก็กลายเป็นสีดำสนิทเด็กชายรีบปล่อยเชือกซึ่งจับเขาไว้บนเลื่อนขนาดใหญ่ แต่เลื่อนของเขาดูเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นและยังคงวิ่งต่อไปราวกับลมบ้าหมู ไคกรีดร้องเสียงดัง - ไม่มีใครได้ยินเขา! - หิมะตก เลื่อนเลื่อนพุ่งเข้ามากองหิมะกระโดดกองหิมะกระโดด ผ่านรั้วและคูน้ำ ไคสั่นไปทั้งตัว .

อยากอ่านบท “พระบิดาของเรา” แต่ในใจเขามีเพียงตารางสูตรคูณเท่านั้น

เกล็ดหิมะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นไก่สีขาวตัวใหญ่ในที่สุด

- ทันใดนั้นพวกเขาก็กระจัดกระจายไปด้านข้าง เลื่อนขนาดใหญ่หยุด และชายที่นั่งอยู่ในนั้นก็ลุกขึ้นยืน เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวตัวสูงเพรียวสวย - ราชินีหิมะ; ทั้งเสื้อคลุมขนสัตว์และหมวกที่เธอสวมนั้นทำจากหิมะ

เรามีการเดินทางที่ยอดเยี่ยม! - เธอพูด. - แต่คุณหนาวมากเหรอ? ปีน - คลานเข้าไปในเสื้อคลุมขนสัตว์ของฉัน!

เมื่อวางเด็กชายไว้ในรถลากเลื่อนแล้ว เธอก็คลุมเขาด้วยเสื้อโค้ตหนังหมี - ไคดูเหมือนจะจมลงไปในกองหิมะยังหนาวอยู่ไหม? - เธอถามและจูบหน้าผากของเขา

เอ่อ! จูบของเธอเย็นกว่าน้ำแข็ง มันแทงทะลุเขาด้วยความหนาวเย็นและไปถึงหัวใจของเขา และน้ำแข็งก็ครึ่งหนึ่งแล้ว นาทีหนึ่งดูเหมือนว่าไคจะตายอีกสักหน่อย แต่ก็ไม่

...แต่เพียงชั่วครู่หนึ่งแล้วเท่านั้นในทางตรงกันข้าม เขารู้สึกดีขึ้น ดีเสียจนเขาหยุดรู้สึกหนาวไปเลยด้วยซ้ำเลื่อนของฉัน! อย่าลืมเลื่อนของฉัน! - เขาจับตัวเอง

และเลื่อนก็ถูกมัด เลื่อนผูก

บนหลังแม่ไก่สีขาวตัวหนึ่ง ซึ่งเธอก็บินไปกับพวกมันหลังจากการลากเลื่อนครั้งใหญ่ ราชินีหิมะจูบไคอีกครั้ง และเขาลืมเกอร์ดา ยายของเขา และทุกคนที่บ้าน มากกว่าฉันจะไม่จูบคุณ!เธอพูด - ไม่งั้นฉันจะจูบคุณให้ตาย! - .

ไคมองดูเธอ - เธอเก่งขนาดไหน! .

ใบหน้าที่ฉลาดและสวยงามยิ่งขึ้น หน้าสวยและฉลาดขึ้นเมฆดำ และพวกเขาก็รีบวิ่งไปข้างหน้า- พายุส่งเสียงร้องครวญครางราวกับร้องเพลงโบราณ พวกมันบินข้ามป่าไม้และทะเลสาบ ข้ามทะเลและ พื้นแข็ง ข้างใต้พวกเขาทางบก; ลมหนาวลมหนาวพัดอยู่ข้างใต้ หมาป่าส่งเสียงหอน หิมะเป็นประกาย กาดำบินส่งเสียงกรีดร้อง และดวงจันทร์ใสดวงใหญ่ส่องแสงเหนือพวกเขา ไคมองดูเขาตลอดทั้งคืนในฤดูหนาวอันยาวนาน และในตอนกลางวันเขาก็หลับไปแทบเท้าของราชินีหิมะ

เรื่องที่สาม

เรื่องราวที่สาม

สวนดอกไม้ของผู้หญิงที่สามารถสร้างเวทมนตร์ได้

เกิดอะไรขึ้นกับเกอร์ด้าเมื่อไคไม่กลับมา? เขาไปไหน? ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่มีใครสามารถ ไม่มีอะไรจะรายงานเกี่ยวกับเขาให้คำตอบ

เด็กชายบอกเพียงว่าพวกเขาเห็นเขาผูกเลื่อนของเขากับเลื่อนขนาดใหญ่ที่สวยงาม ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นตรอกและขับออกจากประตูเมือง ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ไหน

น้ำตามากมายไหลเพื่อเขา

เกอร์ด้าร้องไห้อย่างขมขื่นและเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าไก่ตายจมน้ำตายในแม่น้ำที่ไหลออกนอกเมือง วันฤดูหนาวอันมืดมิดลากยาวมาเป็นเวลานาน

แต่แล้วฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมา

ไคตายแล้วและจะไม่กลับมาอีก! - เกอร์ด้ากล่าว

ฉันไม่เชื่อ! - ตอบแสงแดด.

เขาตายแล้วไม่กลับมา! - เธอพูดซ้ำกับนกนางแอ่น

เราไม่เชื่อ! - พวกเขาตอบ

ในที่สุด Gerda เองก็หยุดเชื่อมัน

ให้ฉันสวมรองเท้าสีแดงคู่ใหม่ของฉัน “(ไคไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน)” เธอพูดในเช้าวันหนึ่ง “ฉันจะไปที่แม่น้ำแล้วถามเกี่ยวกับเขา”

ริมแม่น้ำ มันยังเร็วมาก เธอ . เธอจูบคุณยายที่กำลังหลับอยู่ สวมรองเท้าสีแดง แล้ววิ่งหนีออกจากเมืองเพียงลำพัง ตรงไปที่แม่น้ำจริงหรือที่เจ้าพาพี่ชายสาบานของฉันไป?

- ถามเกอร์ด้า - ฉันจะให้รองเท้าสีแดงของฉันแก่คุณ ถ้าคุณคืนให้ฉัน!-และหญิงสาวรู้สึกว่าคลื่นกำลังพยักหน้าให้เธออย่างแปลกประหลาด แล้ว . จากนั้นเธอก็ถอดรองเท้าสีแดงของเธอออก อัญมณีชิ้นแรกของฉันชายฝั่ง เด็กสาวอยากจะกระโดดขึ้นฝั่งให้เร็วที่สุด แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินทางจากท้ายเรือไปถึงหัวเรือ เรือก็แล่นไปแล้ว ย้ายออกไปจากหมวกเบเรต์ไปหนึ่งหลาเธอลอยออกไปจนหมดและรีบวิ่งไปตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว

เกอร์ดาตกใจกลัวมากและเริ่มร้องไห้และกรีดร้อง แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอนอกจากนกกระจอก นกกระจอก นกกระจอกไม่สามารถอุ้มเธอขึ้นฝั่งได้เพียงบินตามเธอไปตามชายฝั่งและร้องเจี๊ยก ๆ ราวกับต้องการปลอบใจเธอ: “

เราอยู่ที่นี่! เราอยู่ที่นี่! -

ริมฝั่งแม่น้ำนั้นสวยงามมาก ทุกที่ที่เราสามารถมองเห็นดอกไม้ที่น่าอัศจรรย์ที่สุด ต้นไม้สูงแผ่กว้าง ทุ่งหญ้าที่มีแกะและวัวกินหญ้า แต่ไม่มีที่ไหนเลยที่จะมองเห็นจิตวิญญาณของมนุษย์ได้

“บางทีแม่น้ำอาจพาฉันไปหาไค?” - คิดว่า Gerda มีกำลังใจลุกขึ้นยืนและชื่นชมธนาคารสีเขียวที่สวยงามมาเป็นเวลานาน

แต่แล้วเธอก็ล่องเรือไปยังสวนเชอร์รี่ขนาดใหญ่ซึ่งมีบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ พร้อมกระจกสีที่หน้าต่างและใต้หลังคามุงจาก โดยมีกระจกสีแดงและสีน้ำเงินอยู่ที่หน้าต่างทหารไม้สองคนยืนอยู่ที่ประตูและทำความเคารพทุกคนที่เดินผ่านไปพร้อมปืนของพวกเขา

เกอร์ดาตะโกนใส่พวกเขา - เธอจับพวกเขาทั้งเป็น - แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ตอบเธอ ดังนั้นเธอจึงว่ายเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้น เรือก็เกือบจะถึงฝั่งแล้ว และหญิงสาวก็กรีดร้องดังยิ่งขึ้นไปอีก ออกมาจากบ้านแล้ว , พิงไม้หญิงชราถือไม้เท้าสวมหมวกฟางใบใหญ่ประดับด้วยดอกไม้วิเศษ

โอ้เจ้าเด็กน้อย!

เด็กยากจน!

- หญิงชรากล่าว - คุณมาลงเอยบนแม่น้ำที่รวดเร็วขนาดนี้และมาไกลขนาดนี้ได้อย่างไรและอย่างไร?

ด้วยคำพูดเหล่านี้ หญิงชราก็ลงไปในน้ำ เกี่ยวเรือด้วยไม้ของเธอ ดึงมันไปที่ฝั่งแล้วเกร์ดาก็ลงจอด

Gerda ดีใจมากที่ในที่สุดเธอก็พบว่าตัวเองอยู่บนบกแม้ว่าเธอจะกลัวหญิงชราที่ไม่คุ้นเคยก็ตาม

หน้าต่างสูงจากพื้นและทั้งหมดทำจากกระจกหลากสี - แดง น้ำเงิน น้ำเงิน และเหลือง ด้วยเหตุนี้ ตัวห้องจึงสว่างไสวด้วยแสงสีรุ้งอันน่าทึ่ง บนโต๊ะมีตะกร้าเชอร์รี่สุกอย่างน่าอัศจรรย์หนึ่งตะกร้า และเกอร์ดาก็สามารถกินพวกมันได้อย่างจุใจ - ขณะที่เธอกำลังกินข้าว หญิงชราก็หวีผมด้วยหวีสีทอง ผมหยิก หยิก และหยิกเรืองแสงสีทอง ล้อมรอบด้วยความสดใหม่อ่อนหวานเป็นกันเอง - ขณะที่เธอกำลังกินข้าว หญิงชราก็หวีผมด้วยหวีสีทอง ผมหยิก หยิก และหยิก .

, กลมเหมือนดอกกุหลาบ, ใบหน้าของหญิงสาว

ฉันอยากมีผู้หญิงน่ารักแบบนี้มานานแล้ว! - หญิงชรากล่าว “คุณจะเห็นว่าเราเข้ากันได้ดีแค่ไหน!”

-และเธอยังคงหวีผมหยิกของหญิงสาวต่อไปและยิ่งหวีนานเท่าไร Gerda ยิ่งลืมไคพี่ชายที่สาบานของเธอมากขึ้น - หญิงชรารู้วิธีร่ายเวทย์มนตร์ เธอไม่ใช่คนเดียวที่ไม่ใช่แม่มดชั่วร้ายและร่ายมนตร์เป็นครั้งคราวเพื่อความสุขของเธอเอง ตอนนี้เธออยากจะเก็บ Gerda ไว้กับเธอจริงๆ เธอจึงเข้าไปในสวน แตะพุ่มกุหลาบทั้งหมดด้วยไม้ของเธอ และขณะที่ดอกกุหลาบบานสะพรั่ง ดอกกุหลาบทั้งหมดก็ลึกลงไปในดิน และไม่มีร่องรอยเหลืออยู่เลย หญิงชรากลัวว่าเมื่อเกอร์ดาเห็นดอกกุหลาบเหล่านี้ เธอจะจำดอกกุหลาบของเธอเอง แล้วก็เกี่ยวกับไค แล้วก็จะวิ่งหนีไปจากเธอทำหน้าที่ของฉันเสร็จแล้ว

จากนั้นหญิงชราก็พาเกอร์ดาไปที่สวนดอกไม้ ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้าง: มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ทุกฤดูกาล ช่างสวยงาม ช่างหอมอะไรเช่นนี้!โอ้ มีกลิ่นหอม ช่างงดงามจริงๆ ดอกไม้นานาชนิด และสำหรับทุกฤดูกาล! ในโลกนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาหนังสือภาพที่มีสีสันและสวยงามมากไปกว่าสวนดอกไม้แห่งนี้ Gerda กระโดดด้วยความดีใจและเล่นท่ามกลางดอกไม้จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินหลังต้นซากุระสูง จากนั้นพวกเขาก็วางเธอไว้บนเตียงที่สวยงามซึ่งมีเตียงขนนกผ้าไหมสีแดงยัดไส้ด้วยสีม่วงสีน้ำเงิน สาว เด็กสาวผล็อยหลับไปและมีความฝันแบบที่ราชินีเห็นในวันแต่งงานของเธอเท่านั้นวันรุ่งขึ้นเกอร์ดาได้รับอนุญาตให้เล่นกลางแสงแดดอีกครั้ง

ในสวนดอกไม้อันงดงามภายใต้แสงแดด หลายวันผ่านไปเช่นนี้ ตอนนี้ Gerda รู้จักดอกไม้ทุกดอกในสวนแล้ว แต่ไม่ว่าจะมีกี่ดอก ดูเหมือนดอกไม้จะขาดไปสำหรับเธอ แต่ดอกไหนล่ะ? ครั้งหนึ่ง ? แล้ววันหนึ่งนางก็นั่งมองดูหมวกฟางของหญิงชราที่วาดด้วยดอกไม้เข้าไปในสวน ตามหา ตามหา แต่ก็ไม่พบเลย

จากนั้นหญิงสาวก็ทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้ น้ำตาอุ่นๆ ไหลลงมาตรงจุดที่พุ่มกุหลาบต้นหนึ่งเคยยืนต้นอยู่พอดี และทันทีที่พวกมันทำให้พื้นชุ่มชื้น พุ่มนั้นก็งอกขึ้นมาทันที สดชื่นและเบ่งบานเหมือนเดิม

Gerda พันตัวเองรอบ ๆ

เกอร์ดาโอบแขนรอบเขา เริ่มจูบดอกกุหลาบ และนึกถึงดอกกุหลาบวิเศษที่บานในบ้านของเธอ และในเวลาเดียวกันก็เกี่ยวกับไคด้วย

ฉันลังเลยังไงล่ะ! - หญิงสาวกล่าว - ฉันต้องตามหาไค!.. ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน? - เธอถามดอกกุหลาบ - คุณเชื่อจริงๆว่าเขาตายแล้วจะไม่กลับมาอีกเหรอ?

เขาไม่ตาย!

- พวกเขากล่าวว่า - กุหลาบตอบ “เราอยู่ใต้ดิน ที่ซึ่งคนตายทั้งหมดนอนอยู่ แต่ไคไม่ได้อยู่ในหมู่พวกเขา”

ขอบคุณ! - เกอร์ดาพูดแล้วไปที่ดอกไม้อื่นมองเข้าไปในถ้วยแล้วถามว่า: - คุณไม่รู้ว่าไก่อยู่ที่ไหน?

แต่ดอกไม้แต่ละดอกก็อาบแดดและคิดแต่เรื่องเทพนิยายหรือเรื่องราวของมันเองเท่านั้น

- Gerda ได้ยินมามากมาย แต่ไม่มีดอกไม้สักดอกพูดถึงไคเลย

ดอกลิลลี่ไฟบอกอะไรเธอ?

คุณได้ยินเสียงกลองตีไหม? บูม! บูม! เสียงที่ซ้ำซากจำเจมาก: บูม, บูม! ฟังเสียงร้องคร่ำครวญของผู้หญิง! ฟังเสียงร้องของนักบวช!.. หญิงม่ายชาวอินเดีย สวมเสื้อคลุมยาวสีแดง ยืนบนกองไฟ เปลวไฟกำลังจะกลืนกินเธอและร่างของสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอกลับคิดถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ เกี่ยวกับคนที่จ้องมองแผดเผาหัวใจของเธอแรงยิ่งกว่าเปลวไฟที่กำลังจะเผาเธอตอนนี้ ร่างกาย. เปลวไฟแห่งหัวใจจะดับลงในเปลวเพลิงได้ไหม!

ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย! - เกอร์ด้ากล่าว

นี่คือเทพนิยายของฉัน! - ตอบดอกลิลลี่ที่ลุกเป็นไฟ

มัดวีดพูดว่าอะไร?

เส้นทางภูเขาแคบๆ นำไปสู่ปราสาทของอัศวินโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่บนก้อนหิน กำแพงอิฐเก่าถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยอย่างหนา ใบไม้เกาะติดกับระเบียง และมีหญิงสาวน่ารักยืนอยู่บนระเบียง เธอโน้มตัวข้ามราวบันไดแล้วมองดูถนน เด็กสาวสดชื่นจากดอกกุหลาบ กลิ่นของดอกแอปเปิ้ลที่พลิ้วไหวตามสายลม ชุดผ้าไหมของเธอส่งเสียงดังแค่ไหน! “เขาจะไม่มาจริงๆเหรอ?”

กระดานยาวแกว่งไปมาระหว่างต้นไม้ - นี่คือชิงช้า เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนกำลังนั่งอยู่บนกระดาน ชุดของพวกเขาขาวราวหิมะ และริบบิ้นผ้าไหมสีเขียวยาวกระพือปีกจากหมวก พี่ชายกำลังคุกเข่าอยู่ข้างหลังพี่สาวน้องสาวโดยพิงเชือก มือข้างหนึ่งถือน้ำสบู่ถ้วยเล็ก อีกมือถือท่อดินเหนียว เขาเป่าฟองอากาศ กระดานสั่น ฟองอากาศลอยไปในอากาศ ส่องแสงระยิบระยับกลางแสงแดดด้วยสีรุ้งทั้งหมด นี่คืออันหนึ่งห้อยอยู่ที่ปลายท่อและพลิ้วไหวตามสายลม สุนัขสีดำตัวเล็ก ๆ เบาราวกับฟองสบู่ ยืนบนขาหลังและวางขาหน้าไว้บนกระดาน แต่กระดานกลับลอยขึ้นไป สุนัขตัวเล็กล้ม ร้องตะโกน และโกรธ เด็กๆ ล้อเลียนเธอ ฟองสบู่แตก... กระดานสั่น โฟมกระจาย นั่นคือเพลงของฉัน!

เธออาจจะเป็นคนดี แต่คุณพูดทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ! และขอย้ำอีกครั้งว่าไม่มีคำพูดเกี่ยวกับไค! ผักตบชวาจะพูดอะไร?

กาลครั้งหนึ่งมีน้องสาวผู้งดงามไร้ตัวตนสองคนอาศัยอยู่ คนหนึ่งสวมชุดสีแดง อีกคนสวมชุดสีน้ำเงิน และอีกคนสวมชุดสีขาวล้วน พวกเขาเต้นรำจับมือกันท่ามกลางแสงจันทร์ที่สดใสริมทะเลสาบอันเงียบสงบ พวกเขาไม่ใช่เอลฟ์ แต่เป็นผู้หญิงจริงๆ กลิ่นหอมอันหอมหวานอบอวลไปทั่วอากาศ และสาวๆ ก็หายเข้าไปในป่า ตอนนี้กลิ่นหอมแรงขึ้นและหวานยิ่งขึ้น - โลงศพสามโลงลอยออกมาจากป่าทึบ พี่สาวคนสวยนอนอยู่ในนั้น และหิ่งห้อยก็บินไปมารอบตัวพวกเขาราวกับแสงไฟที่มีชีวิต สาวๆ นอนหลับหรือตายไปแล้ว? กลิ่นดอกไม้บอกว่า.จากนั้นเกอร์ดาก็ไปที่ดอกแดนดิไลอันซึ่งส่องประกายอยู่ในหญ้าสีเขียวมันวาว

มันเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ ดวงอาทิตย์อบอุ่นและส่องแสงอย่างเป็นมิตรบนลานเล็กๆ รังสีของมันเลื่อนไปตามผนังสีขาวของบ้านใกล้เคียง และดอกไม้สีเหลืองดอกแรกก็ปรากฏขึ้นใกล้ผนัง มันเปล่งประกายในดวงอาทิตย์เหมือนสีทอง คุณยายแก่ออกมานั่งที่สนามหญ้า ดังนั้นหลานสาวของเธอซึ่งเป็นคนรับใช้ที่ยากจนจึงมาจากแขกที่มาเยี่ยมและจูบหญิงชรา จูบของหญิงสาวมีค่ามากกว่าทองคำ - มันมาจากใจโดยตรง สีทองบนริมฝีปากของเธอ สีทองในใจของเธอ สีทองบนท้องฟ้าในตอนเช้า! แค่นั้นแหละ! - ดอกแดนดิไลอันกล่าว

คุณยายผู้น่าสงสารของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ “ใช่แล้ว เธอคิดถึงฉันและเสียใจ เช่นเดียวกับที่เธอเสียใจกับไค” แต่ฉันจะกลับมาเร็วๆ นี้ และฉันจะพาเขาไปด้วย ไม่มีประโยชน์ที่จะถามดอกไม้อีกต่อไป คุณจะไม่เข้าใจดอกไม้เหล่านี้เลย พวกมันแค่พูดแต่เรื่องของตัวเอง! - และเธอก็วิ่งไปจนสุดสวน

ประตูถูกล็อค แต่ Gerda โยกเยกสายฟ้าที่เป็นสนิมเป็นเวลานานอะไร เสียชีวิต เสียงระฆังยามเย็นดังขึ้นเพื่อผู้ตาย!

คุณทำให้ฉันเศร้า! - เกอร์ด้ากล่าว “ระฆังของคุณก็กลิ่นแรงเหมือนกัน!.. ตอนนี้ฉันไม่สามารถเอาผู้หญิงที่ตายไปแล้วออกไปจากหัวของฉันได้!” อ้าว ไคก็ตายจริงด้วยเหรอ? แต่ดอกกุหลาบอยู่ใต้ดินและพวกเขาบอกว่าเขาไม่อยู่ที่นั่น!

ติงแดง! - เสียงระฆังของผักตบชวาดังขึ้น - เราไม่ได้โทรหาไค! เราไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ! เราส่งเสียงเพลงเล็กๆ ของเราเอง เราไม่รู้อีกอัน!

และเกอร์ดาก็ไปที่ดอกแดนดิไลออนสีทองที่ส่องประกายอยู่ในหญ้าสีเขียวมันวาว

คุณพระอาทิตย์ตัวน้อย! - Gerda บอกเขา “ บอกฉันสิคุณรู้ไหมว่าฉันจะมองหาพี่ชายสาบานของฉันได้ที่ไหน”

ดอกแดนดิไลออนส่องแสงเจิดจ้ายิ่งขึ้นและมองดูหญิงสาว เขาร้องเพลงอะไรให้เธอฟัง? อนิจจา และเพลงนี้ไม่ได้พูดถึงไก่สักคำ!

ต้นฤดูใบไม้ผลิ แสงอาทิตย์สดใสสาดส่องอย่างเป็นมิตรบนลานเล็กๆ นกนางแอ่นโฉบอยู่ใกล้กำแพงสีขาวที่อยู่ติดกับสนามหญ้าของเพื่อนบ้าน ดอกไม้สีเหลืองดอกแรกโผล่ออกมาจากหญ้าสีเขียว เป็นประกายระยิบระยับในแสงแดดราวกับสีทอง ยายแก่คนหนึ่งออกมานั่งอยู่ที่สนามหญ้า ที่นี่หลานสาวของเธอซึ่งเป็นคนรับใช้ที่น่าสงสารมาจากแขกและจูบหญิงชราอย่างลึกซึ้ง จูบของหญิงสาวมีค่ามากกว่าทองคำ - มันมาจากใจโดยตรง สีทองบนริมฝีปากของเธอ สีทองในหัวใจของเธอ แค่นั้นแหละ! - ดอกแดนดิไลอันกล่าว

คุณยายผู้น่าสงสารของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ - เธอคิดถึงฉันแค่ไหนเธอเสียใจแค่ไหน! ไม่น้อยไปกว่าที่ฉันเสียใจกับไก่! แต่ฉันจะกลับมาเร็วๆ นี้ และพาเขาไปด้วย ไม่มีประโยชน์ที่จะถามดอกไม้อีกต่อไป - คุณจะไม่ได้อะไรเลยจากพวกเขา พวกเขารู้จักแค่เพลงของพวกเขาเท่านั้น!

และเธอผูกกระโปรงให้สูงขึ้นเพื่อให้วิ่งได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อเธอต้องการกระโดดข้ามดอกแดฟโฟดิล มันก็กระแทกขาของเธอ Gerda หยุดมองดูดอกไม้ยาวแล้วถามว่า:

บางทีคุณอาจรู้อะไรบางอย่าง?

และเธอก็โน้มตัวไปหาเขาเพื่อรอคำตอบ คนหลงตัวเองพูดอะไร?

ฉันเห็นตัวเอง! ฉันเห็นตัวเอง! โอ้ยฉันได้กลิ่นอะไร!.. สูงในตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ ใต้หลังคามีนักเต้นครึ่งตัวยืนอยู่ เธอทรงตัวด้วยขาข้างเดียว จากนั้นยืนอย่างมั่นคงบนทั้งสองข้างอีกครั้งและเหยียบย่ำโลกทั้งใบไปพร้อมกับพวกเขา - เธอเป็นเพียงภาพลวงตา ในภาพนี้เธอกำลังเทน้ำจากกาต้มน้ำลงบนวัสดุสีขาวที่เธอถืออยู่ในมือ นี่คือเสื้อยกทรงของเธอ ความสะอาดคือความงามที่ดีที่สุด! กระโปรงสีขาวแขวนอยู่บนตะปูที่ตอกเข้ากับผนัง กระโปรงก็ถูกล้างด้วยน้ำจากกาต้มน้ำแล้วตากบนหลังคาด้วย! ที่นี่หญิงสาวแต่งตัวและผูกผ้าพันคอสีเหลืองสดใสรอบคอของเธอ ซึ่งจะทำให้ชุดขาวดูคมชัดยิ่งขึ้น ขาข้างหนึ่งบินขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง! ดูสิว่าเธอยืนตรงแค่ไหนเหมือนดอกไม้บนก้าน! ฉันเห็นตัวเอง ฉันเห็นตัวเอง!

ใช่ ฉันไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก! - เกอร์ด้ากล่าว - ไม่มีอะไรจะบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้!

และเธอก็วิ่งออกไปจากสวน

ประตูถูกล็อคเท่านั้น Gerda ดึงสลักเกลียวที่เป็นสนิมออก มันก็หลีกทางเขายอมแพ้ประตูเปิดออกและหญิงสาวเท้าเปล่าก็เริ่มวิ่งไปตามถนน!

- เธอมองย้อนกลับไปสามครั้ง แต่ไม่มีใครไล่ตามเธอ ในที่สุดเธอก็เหนื่อยและนั่งลงบนก้อนหินแล้วมองไปรอบ ๆ

ฉันมองไปรอบๆ ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว ปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว และ... เฉพาะในสวนอันงดงามของหญิงชราเท่านั้นที่ซึ่งดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่เสมอและดอกไม้ทุกฤดูกาลก็บานสะพรั่ง สิ่งนี้ไม่สามารถสังเกตได้

พระเจ้า! ฉันลังเลยังไงล่ะ! ในที่สุดฤดูใบไม้ร่วงก็ใกล้เข้ามาแล้ว! ไม่มีเวลาพักผ่อนที่นี่! - Gerda พูดแล้วออกเดินทางอีกครั้ง โอ้ ขาที่อ่อนล้าและเหนื่อยล้าของเธอปวดเมื่อยแค่ไหน! หนาวและชื้นขนาดไหน.ในอากาศ! ออกจากรอบๆ! ใบยาว

- ไคตายแล้วและจะไม่กลับมา! - เกอร์ด้ากล่าว

ต้นหลิวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งหมดมีหมอกปกคลุมเป็นหยดใหญ่และไหลลงมาที่พื้น ใบไม้ร่วงหล่นลงมา มีเพียงต้นหนามเท่านั้นที่ปกคลุมไปด้วยผลเบอร์รี่รสฝาดสมาน โลกสีขาวทั้งโลกดูเป็นสีเทาและหม่นหมองขนาดไหน!

โลก!

เรื่องราวที่สี่ เจ้าชายและเจ้าหญิง Gerda ต้องนั่งลงเพื่อพักผ่อนอีกครั้ง อีกาตัวใหญ่กำลังกระโดดขึ้นไปบนหิมะตรงหน้าเธอ

- เขามองมาเป็นเวลานาน

ฉันมองเป็นเวลานานที่หญิงสาวพยักหน้าแล้วพูดในที่สุด: คาร์คาร์! สวัสดี!เขาพูดได้ชัดเจนกว่านี้เขาไม่สามารถพูดได้ชัดเจนมากขึ้นในฐานะมนุษย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาอวยพรให้หญิงสาวสบายดี และถามเธอว่าเธอเดินไปรอบโลกเพียงลำพังที่ไหน

- เกอร์ดาเข้าใจคำว่า "คนเดียว" อย่างสมบูรณ์แบบและสัมผัสได้ถึงความหมายที่สมบูรณ์ในทันที

- เกอร์ดารู้ดีว่า "คนเดียว" หมายถึงอะไร เธอเคยประสบกับมันมาด้วยตัวเอง

หลังจากเล่าให้นกกาฟังมาทั้งชีวิต เด็กหญิงก็ถามว่าเห็นไก่ไหม? - Raven ส่ายหัวอย่างครุ่นคิดแล้วพูดว่า:

บางทีอาจจะ! อาจจะ!

ยังไง

- - มันเป็นเรื่องจริงเหรอ? - หญิงสาวอุทานและเกือบจะบีบคออีกาด้วยการจูบ

- เธอจูบเขาแรงมาก ! , เงียบ เงียบ! - กาพูด - ฉันคิดว่าเป็นอย่างนั้น - ฉันคิดว่าเป็นไก่ของคุณ!- แต่ตอนนี้เขาคงลืมคุณไปแล้วกับเจ้าหญิงของเขา!

เขาอาศัยอยู่กับเจ้าหญิงหรือไม่? - ถามเกอร์ด้า , แต่ฟังนะ! ! , อีกากล่าว “แต่มันยากมากสำหรับฉันที่จะพูดในแบบของคุณ!” , - ทีนี้ ถ้าคุณเข้าใจอีกา ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ดีขึ้นมาก

- ไม่ พวกเขาไม่ได้สอนเรื่องนี้กับฉัน - เกอร์ด้ากล่าว- คุณยายเข้าใจ! คงจะดีสำหรับฉันที่จะรู้วิธีเช่นกัน!- น่าเสียดาย! - ดีไม่มีอะไร

- กาพูด - ฉันจะบอกคุณ ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่ามันจะแย่ก็ตามและเขาก็บอกหนังสือพิมพ์ทั้งหมดในโลกและ จริงหรือลืมทุกอย่างนั้น ในพวกเขาฉันอ่านแล้ว - ช่างเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ! กาลครั้งหนึ่ง นั่งนั่งเธออยู่บนบัลลังก์ , - แต่นั่นคือความสนุกของมัน มันไม่ใช่ไม่มากชอบมาก ประชากรพวกเขาพูด ประชากร , - และ ฮัมเพลงฮัมเพลงเพลง: "ทำไม และฉันไม่ควรแต่งงานเหรอ?” “แต่จริงๆ แล้ว!” เธอคิดและอยากแต่งงานแต่เธออยากเลือก ถึงตัวฉันเองคนประเภทที่จะ กับรู้วิธีตอบเมื่ออยู่กับเขา สำหรับพวกเขาพูด แต่ไม่ใช่คนที่ทำได้แค่ออกอากาศ - มันน่าเบื่อมาก! และดังนั้น เรียกว่าตีกลอง ประชุมข้าราชบริพารทุกคน ใช่ พวกเขาประกาศมันสาวๆ ประกาศพวกเขาเป็นความประสงค์ของเจ้าหญิง พวกเขาทุกคนต่างยินดีเป็นอย่างยิ่งและกล่าวว่า:พวกเขาทุกคนมีความสุขมาก!“นี่แหละที่เราชอบ! - พวกเขาพูด. -เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเราเองก็คิดถึงเรื่องนี้!” ทั้งหมดนี้คือความจริงที่แท้จริง! - อีกาเสริม - ฉันมีเจ้าสาวที่ศาล , เธอ - คู่มือ , เดินไปรอบ ๆ พระราชวัง -อีกา,ฉันรู้ทั้งหมดนี้จากเธอ

เจ้าสาวของเขาคืออีกา - เพราะทุกคนกำลังมองหาภรรยาที่เข้าคู่กัน

- วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับออกมาพร้อมกับรูปหัวใจและพระปรมาภิไธยย่อของเจ้าหญิง ในและในหนังสือพิมพ์ เคยเป็นมีการประกาศว่าชายหนุ่มทุกคนเป็นที่ชื่นชอบ รูปร่างรูปร่างสามารถเข้ามาในวังและพูดคุยกับเจ้าหญิงได้ : ; คือผู้ที่จะรักษาตนไว้ ค่อนข้างอิสระสบายใจที่บ้านและจะมีคารมคมคายที่สุดเจ้าหญิงจะเลือก ถึงตัวฉันเองถึงสามี ! . ใช่ ใช่! - กาซ้ำ “ทั้งหมดนี้เป็นจริงเหมือนกับที่ฉันนั่งอยู่ตรงหน้าคุณ” ! . ประชากร เพลาทรงโยนพระองค์เข้าไปในวัง ไปกันเถอะไปกันเลยเร่งรีบและวุ่นวาย แต่มันไม่สมเหตุสมผลเลยใช่ ทั้งหมดนี้ไม่มีประโยชน์เลยไม่ว่าในวันแรกหรือวันที่สอง คู่ครองทั้งหมดอยู่บนถนน พูดแล้วพวกเขาพูดยอดเยี่ยม, แต่มันก็คุ้มค่าแต่มันก็คุ้มค่าพวกเขาต้องข้ามธรณีประตูพระราชวังและไปพบเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดเป็นสีเงิน , งและขี้ข้าทองคำและ เข้าร่วมเข้าสู่ระบบสู่ห้องโถงใหญ่อันสว่างไสว , ยังไง- และของพวกเขา เอามาตะลึง . หมวกเบเรต์พวกเขาเข้าใกล้บัลลังก์ที่เจ้าหญิงนั่งอยู่แล้วพูดซ้ำ เท่านั้นข้างหลังเธอของเธอ ล่าสุดเดียวกันคำพูด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอสนใจ ไทยมันจำเป็น - ใช่แล้ว ทั้งหมดเลย- ดี,อย่างแน่นอน พวกเขาได้รับความเสียหายเจือด้วยยาเสพติด! ก ออกมาที่นี่จะออกมาหลังประตู , พวกเขา - อีกครั้ง ได้รับจะได้รับของขวัญแห่งการพูด จากประตูสู่ประตู พระราชวังเจ้าบ่าวหางยาวเหยียดออก ฉันเอง ที่นั่นเคยเป็น ที่นั่นและเห็น - เจ้าบ่าวต่างหิวและกระหายน้ำ แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่น้ำสักแก้วจากพระราชวังด้วยซ้ำ จริงอยู่ที่คนที่ฉลาดกว่าตุนแซนด์วิชไว้ แต่คนประหยัดไม่แบ่งปันกับเพื่อนบ้านอีกต่อไปโดยคิดกับตัวเองว่า: "ปล่อยให้พวกเขาอดอยากและผอมแห้ง - เจ้าหญิงจะไม่รับพวกเขา! .

- แล้วไคล่ะไคล่ะ? - ถามเกอร์ด้า - เขาปรากฏตัวเมื่อไหร่? แล้วเขามาทำแมตช์เหรอ? ‘

- รอ! รอ! ตอนนี้ที่นี่เรา แค่เราเข้าถึงเขาแล้ว! ในวันที่สาม ชายร่างเล็กคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ซึ่งไม่ได้อยู่บนรถม้า ไม่ใช่บนหลังม้า แต่เพียงเดินเท้าและตรงไป เข้ามาไปที่พระราชวัง ดวงตา มันส่องแสงส่องแสงคุณเป็นอย่างไรบ้าง ; , ผม เขามียาว, แต่แค่นั้นแหละแต่งตัว เขาเป็นยากจน.

- นี่ไค! - Gerda มีความยินดี - ดังนั้นฉันฉันฉันพบเขาแล้ว! - และและเธอปรบมือ

- เขามีกระเป๋าเป้สะพายหลังอยู่ด้านหลัง ! , - กาต่อไป

- ไม่ มันอาจเป็นของเขา เลื่อน!เลื่อน!- เกอร์ด้ากล่าว - เขาจากไป บ้านบ้านด้วยเลื่อน ! .

- มาก อาจจะ!อาจจะ!- กาพูด - หน้าตาไม่ดีเลย- ฉันไม่ได้มองอย่างใกล้ชิดเกินไปคู่หมั้นของฉันจึงบอกฉัน ฉันว่าเมื่อเข้ามาเมื่อเขาเข้ามาที่ประตูพระราชวังและ เห็นเลื่อยยามเป็นเงินและ บนบันไดทั่วบันไดขี้ข้าทองคำ เขาไม่ใช่รู้สึกเขินอายแม้แต่น้อย พยักหน้าเท่านั้นศีรษะ พยักหน้าและพูดว่า: “การยืนอยู่ที่นี่คงน่าเบื่อ , บนบันได , ฉันจะเข้าไปฉันดีขึ้นแล้ว ฉันจะเข้ามาไปที่ห้อง!" ห้องโถงกทั้งหมด คือห้องโถงเต็มไปด้วยแสงสว่าง - พวกขุนนางก็เดิน- องคมนตรีและผู้มีเกียรติเดินไปรอบๆไม่มีรองเท้าบูท การแพร่กระจายจานทอง การแพร่กระจาย, - เคร่งขรึมยิ่งขึ้น มันเป็นไปไม่ได้! และรองเท้าบู๊ตของเขาก็เอี๊ยด แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายกับเรื่องนั้นเช่นกันไม่มีที่ไหนเลย! รองเท้าบู๊ตของเขาส่งเสียงดังมาก แต่เขาไม่สนใจ

- นี้ , อาจจะ,อาจจะไค! - อุทาน- อุทานเกอร์ดา. “ฉันรู้ว่าเขาสวมรองเท้าบูทใหม่!”- ฉันรู้ว่าเขาสวมรองเท้าบูทใหม่ฉันเองก็ได้ยินว่าพวกเขาส่งเสียงดังเอี๊ยดเมื่อเขามาหายาย ! .

- ใช่ พวกเขาส่งเสียงดังเอี๊ยดนิดหน่อย ! , - กาต่อไป - แต่เขาเข้าหาเจ้าหญิงอย่างกล้าหาญ - เธอ- เธอนั่งอยู่บนไข่มุกขนาดเท่าวงล้อหมุน และนางสาวในราชสำนักก็ยืนล้อมรอบ และสุภาพบุรุษกับคุณ แม่บ้าน,แม่บ้าน แม่บ้าน, พนักงานเสิร์ฟ,และสาวใช้และสุภาพบุรุษด้วยคนรับใช้ คนรับใช้และคนรับใช้ของพนักงานจอดรถและคนรับใช้คนรับใช้ . และคนเหล่านั้นก็มีคนรับใช้อีกยังไง ไกลออกไปใกล้ชิดมากขึ้น WHO สักวันหนึ่งยืน จากเจ้าหญิงและใกล้ชิดยิ่งขึ้นไปที่ประตูแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นเขาประพฤติตัวหยิ่งผยองมากขึ้นยกจมูกขึ้นบนสมุน คนรับใช้คนรับใช้ คนรับใช้ยืนอยู่ตรงทางเข้าประตู ไม่สามารถมองออกไปข้างนอกได้ กลัว,ตัวสั่น -เขาสำคัญมาก!

- นั่นคือความกลัว! - เกอร์ด้ากล่าว - ไคยังแต่งงานกับเจ้าหญิงอยู่หรือเปล่า?

“ถ้าฉันไม่ใช่อีกา ฉันจะแต่งงานกับเธอเอง แม้ว่าฉันจะหมั้นแล้วก็ตาม” เขา เข้ามาเริ่มกับเจ้าหญิง วีสนทนาและพูด ดีเท่าที่ฉันพูดไม่เลวร้ายไปกว่าฉันเหมือนอีกาอย่างนั้น , อย่างน้อย , ของฉันบอกฉัน คู่มือเจ้าสาว. เขายึดมั่นต่อไป เลยอย่างอิสระและไพเราะมาก และบอกว่า เขาไม่ได้มาเพื่อแต่งงานแต่เพียงเท่านั้น , ฟังสุนทรพจน์อันชาญฉลาดของเจ้าหญิง เขาชอบเธอ เธอก็ชอบเขาเหมือนกัน ! .

- ใช่ , - ใช่แล้ว นั่นคือไค! - เกอร์ด้ากล่าว - เขาฉลาดมาก! เขารู้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทั้งสี่แบบและแม้แต่เศษส่วนด้วยซ้ำ! โอ้พาฉันไปที่วัง!

- มันง่ายที่จะพูด - ตอบตอบอีกา - ใช่ มันเป็นยังไงบ้างยากทำ ? . รอก่อน ฉันจะคุยกับ ของฉันของฉันเจ้าสาวเธอจะมีอะไรมาแนะนำเรา คุณคิดว่าพวกเขาจะให้คุณเข้าไปในวังแบบนั้นเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนั้นเข้ามาจริงๆ!

- พวกเขาจะให้ฉันเข้าไป! - เกอร์ด้ากล่าว - ถ้าเพียงเมื่อไรไค ได้ยินจะได้ยินว่าฉันอยู่ที่นี่ เขาตอนนี้ ฉันคงจะได้วิ่งมาเขาจะวิ่งมาตามฉันมา ! .

- รอฉันอยู่ที่นี่ , ที่บาร์ ! , - กาพูดส่ายหัวแล้วบินหนีไป

เขากลับมาค่อนข้างดึกในตอนเย็นและบ่น:

- คาร์ คาร์! เจ้าสาวของฉันส่งคันธนูมาให้คุณนับพันคันและคันนี้ เล็กขนมปัง เธอขโมยมันไป วีบนห้องครัว - มีเยอะมากและคุณต้องหิวแน่!.. คุณจะไม่เข้าไปในวัง: คุณเดินเท้าเปล่า - ทหารยามในชุดเงินและทหารราบในชุดทองคำจะไม่ยอมให้คุณผ่าน แต่อย่าร้องไห้นะ คุณจะยังไปถึงจุดนั้น เจ้าสาวของฉันรู้วิธีเข้าไปในห้องนอนของเจ้าหญิงจากประตูหลัง , และ รู้จะไปรับกุญแจได้ที่ไหน

พวกเขาจึงเข้าไปในสวนเดินไปตามตรอกยาว ใบไม้ร่วงเหลืองเกลื่อนกลาด และเมื่อไฟทุกดวงในหน้าต่างพระราชวังดับลงที่ไหนทีละคน ใบไม้ร่วงหล่น และเมื่อไฟในพระราชวังดับลงอีกาก็นำหญิงสาวเข้าไป เล็กเปิดครึ่งหนึ่ง ประตู.ประตู.

โอ้หัวใจของ Gerda เต้นด้วยความกลัวและ สนุกสนานใจร้อน! เธอแน่นอนตรงที่เธอกำลังจะทำอะไรไม่ดี แต่เธอแค่อยากจะรู้ว่าไคของเธออยู่ที่นี่หรือไม่! ใช่ ใช่ เขาอาจจะอยู่ที่นี่! เธอเกอร์ดาฉันจินตนาการได้อย่างแจ่มชัดถึงดวงตาอันชาญฉลาดของเขา ผมยาว ยิ้ม...ยังไงล่ะและอย่างไรเขายิ้มให้เธอเมื่อเคยนั่งเคียงข้างกันใต้พุ่มกุหลาบ ! . และตอนนี้เขาจะมีความสุขขนาดไหนเมื่อเห็นเธอ ได้ยินว่าเธอตัดสินใจเดินทางไกลแค่ไหนเพื่อเห็นแก่เขา เรียนรู้ว่าทุกคนที่บ้านเสียใจกับเขาอย่างไร! โอ้ เธออยู่เคียงข้างตัวเองด้วยความกลัวและความสุข . !

แต่ที่นี่พวกเขาอยู่ตรงบันไดเลื่อน - บน- บนตะเกียงกำลังลุกอยู่ในตู้เสื้อผ้า และอีกาเชื่องก็นั่งอยู่บนพื้นและมองไปรอบๆ Gerda นั่งลงและโค้งคำนับขณะที่คุณยายของเธอสอนเธอ

- คู่หมั้นของฉันเล่าสิ่งดีๆ เกี่ยวกับคุณให้ฉันฟังมากมาย นางสาว!หญิงสาว!- อีกาเชื่องกล่าว - ประวัติของคุณ (- และของคุณชีวิต แปลจากภาษาละติน - เอ็ด) - ตามที่พวกเขาพูด -ประทับใจมากด้วย! คุณต้องการที่จะเอาตะเกียงและฉันจะไปข้างหน้า? เราจะตรงไปเราจะไม่เจอใครที่นี่ ! .

- ดูเหมือนว่าสำหรับฉัน ข้างหลังเรามีคนกำลังมา ติดตามเรา! , - Gerda กล่าวและในขณะนั้นก็มีเงาบางอย่างวิ่งผ่านเธอไปพร้อมกับเสียงดังเล็กน้อย: ม้าที่มีแผงคอไหลและขาบาง ๆ นักล่าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษบนหลังม้า

- นี่คือความฝัน! - อีกาเชื่องกล่าว “พวกเขามาที่นี่เพื่อให้ความคิดของชนชั้นสูงสามารถออกล่าได้” ยิ่งดีสำหรับเรามากเท่านั้น - , จะมองเห็นคนนอนหลับได้สะดวกกว่า - อย่างไรก็ตาม ฉันหวังว่าการเข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติแก่คุณจะแสดงว่าคุณมีจิตใจที่สำนึกในบุญคุณ! .

- มีเรื่องจะคุยที่นี่! มันไปโดยไม่บอก! - กาป่ากล่าว

แล้วพวกเขาก็เข้าไปในห้องโถงแรก ครอบคลุมทั้งหมดที่ซึ่งมีกำแพงปกคลุมอยู่ผ้าซาตินสีชมพูทอด้วยดอกไม้ ความฝันแวบผ่านหญิงสาวอีกครั้งแต่เร็วมากจนไม่มีเวลา และพิจารณาผู้ขับขี่ ห้องโถงหนึ่งมีความงดงามมากกว่าอีกห้องโถงหนึ่ง - ฉันเพิ่งจะผงะไปจึงมีเรื่องให้สับสนมากมายในที่สุดพวกเขาก็มาถึงห้องนอน : เพดาน- เพดานมีลักษณะคล้ายยอดต้นปาล์มขนาดใหญ่มีใบคริสตัลล้ำค่า จากตรงกลางมีก้านทองคำหนาๆ ห้อยเตียงสองเตียงเป็นรูปดอกลิลลี่ คนหนึ่งเป็นคนผิวขาว เจ้าหญิงนอนอยู่ในนั้น อีกคนเป็นสีแดง และเกอร์ด้าหวังว่าจะพบไคอยู่ในนั้น หญิงสาวงอกลีบสีแดงข้างหนึ่งเล็กน้อยแล้ว เลื่อยเลื่อยต้นคอสีบลอนด์เข้ม นี่ไค! นางจึงเรียกชื่อเขาเสียงดังแล้วชูตะเกียงมาจ่อหน้าเขา ความฝันรีบวิ่งออกไปอย่างดัง : ; เจ้าชายตื่นขึ้นมาแล้วหันศีรษะ... อ้าว ไม่ใช่ไค!

เจ้าชายมีลักษณะคล้ายกับเขาเพียงด้านหลังศีรษะ แต่ยังเด็กและหล่อเหลา เจ้าหญิงมองออกไปจากดอกลิลลี่สีขาวแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น Gerda ร้องไห้และเล่าให้เธอฟังทั้งหมด นักประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์,กล่าวถึงสิ่งที่กาทำเพื่อเธอ

- โอ้เจ้าผู้น่าสงสาร! - เจ้าชายและเจ้าหญิงกล่าวชื่นชมกาประกาศว่าพวกเขาไม่ได้โกรธพวกเขาเลย - อย่าปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งนี้อีกในอนาคต - และยังต้องการให้รางวัลพวกเขาด้วยซ้ำ

- คุณอยากเป็นนกอิสระไหม? - ถามเจ้าหญิง - หรืออยากรับตำแหน่งคอร์ตกาโดยพึ่งเศษครัวมาเต็ม?

นกกาและอีกาโค้งคำนับขอตำแหน่งในศาล , - พวกเขา- พวกเขาคิดถึงความชราแล้วพูดว่า:

- การมีขนมปังที่ซื่อสัตย์สักชิ้นในวัยชราเป็นเรื่องดี!

เจ้าชายลุกขึ้นยกเตียงให้เกอร์ดา ; - เขายังทำอะไรให้เธอไม่ได้อีกแล้ว และเธอก็พับ มือเล็กๆปากกาและคิดว่า: “คนและสัตว์ช่างใจดีจริงๆ!” - ปิด ดวงตาดวงตาและหลับไปอย่างอ่อนหวาน ความฝันบินเข้าห้องนอนอีกครั้งแต่ตอนนี้มันมาแล้ว ดูเหมือนทูตสวรรค์ของพระเจ้าและพวกเขาอุ้มไคขึ้นบนเลื่อนเล็ก ๆ และพยักหน้าให้เกอร์ดา อนิจจา - ทั้งหมด, ทั้งหมดมันเป็นเพียงความฝันและหายไปทันทีที่หญิงสาวตื่นขึ้นมา

วันรุ่งขึ้นพวกเขาแต่งกายให้เธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยผ้าไหมและกำมะหยี่ และอนุญาตให้เธออยู่ในวัง , เท่าที่เธอปรารถนา

หญิงสาวสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตลอดไปแต่ เธออยู่ได้ไม่กี่วันและเริ่มขอเกวียนพร้อมม้าและรองเท้าคู่หนึ่ง , - เธออยากจะออกไปตามหาพี่ชายที่สาบานของเธอทั่วโลกอีกครั้ง

พวกเขามอบรองเท้า ผ้าพันคอ และชุดที่สวยงามให้กับเธอ และเมื่อเธอกล่าวคำอำลากับทุกคน เธอก็ขับรถไปที่ประตู ทองโค้ช ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์มีตราอาร์มของเจ้าชายและเจ้าหญิงส่องแสงราวกับดวงดาว ; : ที่รถโค้ชและทหารราบ และ , ตำแหน่ง - ถึงเธอที่ให้ไว้ ถึงเธอและเสามีมงกุฎทองคำอันเล็กประดับศีรษะ

เจ้าชายและเจ้าหญิงเองก็นั่งเกร์ดาในรถม้าและอวยพรให้เธอเดินทางอย่างมีความสุข

อีกาป่าที่แต่งงานแล้วได้ร่วมเดินทางไปกับหญิงสาวเป็นระยะทางสามไมล์แรกและนั่งในรถม้าข้างๆ เธอ , - เขาไปไม่ได้ นั่งโดยหันหลังของฉันถึงม้า ด้วยหลังของฉัน . อีกาเชื่องนั่งอยู่บนประตูและกระพือปีก เธอไม่ได้ไปเยี่ยมเกอร์ดาเพราะเธอปวดหัว , ตั้งแต่นั้นมา , เธอได้ตำแหน่งในศาลและกินมากเกินไปได้อย่างไร โค้ช เคยเป็นอัดแน่นไปด้วย เคยเป็นเต็มไปด้วยเพรทเซลน้ำตาล และลิ้นชักใต้เบาะที่มีผลไม้และขนมปังขิง

- ลาก่อน! ลาก่อน! - เจ้าชายและเจ้าหญิงตะโกน

Gerda ร้องไห้อีกา - เดียวกัน. ดังนั้นพวกเขาจึงผ่านไปก่อนผ่านสามไมล์ - ที่นี่กล่าวคำอำลากับหญิงสาวและอีกา มันเป็นเรื่องยาก พรากจากกัน!พรากจากกัน!อีกาบินขึ้นไปบนต้นไม้แล้วกระพือปีกสีดำของมันจนรถม้าที่ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์หายไปจากสายตา

เรื่องที่ห้า

เรื่องราวที่ห้า

ร็อบเบิร์กตัวน้อย .

Gerda จึงขี่ม้าเข้าไปในป่าอันมืดมิด แต่ที่พวกโจรอาศัยอยู่โค้ช แวววาวกำลังลุกไหม้ยังไง ดวงอาทิตย์ความร้อนมันทำร้ายดวงตาของโจร, และ ทันใดนั้นก็สบตาพวกโจรทันที พวกเขาพวกเขาเป็นเพียงไม่ ยืนขึ้นแล้วบินไปหาเธอตะโกน: "สามารถทนได้

- ทอง! ทอง! “พวกเขาคว้า- พวกเขาตะโกนคว้าม้าข้างบังเหียนฆ่าเสาเล็ก ๆ คนขับรถม้าและคนรับใช้แล้วดึงเกอร์ดาออกจากรถม้า

- ดู , สาวน้อยอ้วนแสนดีจริงๆ . ! อ้วนด้วยถั่ว! - หญิงชราโจรผู้มีเครายาวหยาบกร้านและมีขนดกขนคิ้วยื่นออกมา - อ้วนเหมือนลูกแกะของคุณ! แล้วรสชาติจะเป็นยังไงล่ะ?

และเธอก็ดึงของมีคมออกมา , มีดประกาย ที่นี่ที่สยองขวัญ!

- อ้าว! - กรีดร้องลี! - กรีดร้องทันใดนั้นเธอก็ถูกลูกสาวของเธอกัดหูซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอและดื้อดึงและเอาแต่ใจจน แค่ใดๆ !

. - โอ้คุณหมายถึงเด็กผู้หญิง! - แม่กรีดร้อง แต่ถูกฆ่าตาย ข ". Gerda ไม่มีเวลา

- เธอจะเล่นกับฉัน ! , - โจรตัวน้อยกล่าว - เธอจะมอบผ้าพันคอ ชุดสวยๆ ของเธอให้ฉัน และจะนอนกับฉันในชุดของฉัน เตียงเตียง.

และหญิงสาวก็กัดแม่ของเธอแรงอีกครั้งจนเธอกระโดดหมุนตัวไปมา หนึ่งสถานที่. พวกโจรก็หัวเราะ : .

- ดู , ยังไง กระโดดเต้นรำกับผู้หญิงของคุณ!

- ฉันอยากจะนั่งลงต้องการเข้าไปในรถม้า! - โจรตัวน้อยตะโกนและยืนกรานด้วยตัวเธอเอง - เธอนิสัยเสียและดื้อรั้นมาก

พวกเขาขึ้นรถม้าพร้อมกับเกอร์ดาแล้วรีบวิ่งข้ามตอไม้และ โดยฮัมม็อกในป่าทึบ

โจรตัวน้อยนั้นสูงพอๆ กับเกอร์ดา แต่แข็งแกร่งกว่า ไหล่กว้างกว่า และเข้มกว่ามาก ดวงตาของเธอเป็นสีดำสนิท แต่ก็น่าเศร้า เธอกอดเกอร์ดาแล้วพูดว่า:

- พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณจนกว่าฉันจะโกรธคุณ ! . คุณเป็นเจ้าหญิงใช่ไหม?

- เลขที่ ! , - เด็กหญิงตอบและเล่าถึงสิ่งที่เธอต้องสัมผัสและรักไก่อย่างไร

โจรตัวน้อยมองอย่างจริงจัง บนต่อปีเธอพยักหน้าเล็กน้อย ศีรษะและพูดว่า:

- พวกเขาจะไม่ฆ่าคุณ แม้ว่าฉันจะก็ตาม และถ้าฉันโกรธคุณฉันก็อยากจะฆ่าคุณเอง!

และเธอก็เช็ดน้ำตาของ Gerda แล้วซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ในคนสวยของเธอ , อ่อนนุ่ม และผ้าพันคอที่อบอุ่น

รถม้าหยุด: พวกเขา ย้ายเข้าย้ายเข้าและสู่ลานปราสาทของโจร

มันถูกปกคลุมไปด้วยรอยแตกขนาดใหญ่ มีกาและอีกาบินออกมาจากพวกเขา - ที่ไหน- ที่ไหนจากนั้นบูลด็อกตัวใหญ่ก็กระโดดออกมา ดูเหมือนว่าพวกเขาแต่ละคนจะไม่สนใจที่จะกลืนคนลงไป แต่พวกเขาก็กระโดดได้สูงเท่านั้นและ ดูดุร้ายมากราวกับว่าพวกมันอยากกินทุกคนแต่กลับเห่าสม่ำเสมอพวกมันไม่เห่า—นั่นเป็นสิ่งต้องห้าม

กลางห้องโถงใหญ่แห่งหนึ่ง , มีผนังทรุดโทรมมีเขม่าปกคลุมและมีพื้นหิน , ไฟกำลังลุกไหม้ - ควัน- ควันขึ้นไปบนเพดานต้องหาทางออกด้วยตัวเอง - เกิน- เกินซุปกำลังเดือดในหม้อขนาดใหญ่ และกระต่ายและกระต่ายก็ย่างบนน้ำลาย

- คุณจะนอนกับฉันที่นี่ ใกล้โรงเลี้ยงสัตว์เล็ก ๆ ของฉัน ! , - โจรตัวน้อยพูดกับเกอร์ดา

เด็กผู้หญิงได้รับอาหารและรดน้ำ และพวกเขาก็ไปที่มุมของพวกเขาซึ่งมีการปูฟางและปูด้วยพรม สูงกว่านั่งบน คอนเสานกพิราบมากกว่าร้อยตัว - ทั้งหมด- ทั้งหมดดูเหมือนพวกเขาจะหลับอยู่ แต่เมื่อสาวๆ เข้ามาใกล้ พวกเขาก็ขยับเล็กน้อย

ของฉันทั้งหมด!- เราปลิวไป!- โจรตัวน้อยพูดจับนกพิราบตัวหนึ่งที่ขาแล้วเขย่ามันมากจนกระพือปีก - นี่จูบเขา! - เธอตะโกน , จิ้มและแหย่นกพิราบอยู่ตรงหน้าเกอร์ดา - และนี่คือพวกอันธพาลในป่าที่กำลังนั่งอยู่ ! , - เธอพูดต่อโดยชี้ไปที่นกพิราบสองตัวนั่งอยู่ในช่องเล็กๆ บนกำแพง หลังตะแกรงไม้ - สองคนนี้เป็นพวกอันธพาลในป่า ! . พวกมันจะต้องถูกขังไว้ ไม่เช่นนั้นพวกมันจะบินหนีไปอย่างรวดเร็ว! และนี่คือชายชราที่รักของฉัน! - และหญิงสาวก็ดึงเขากวางเรนเดียร์ที่ผูกติดกับผนังด้วยปลอกคอทองแดงมันวาว - เขาต้องมีสายจูงด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะหนีไป! ทุกเย็นฉันจะจั๊กจี้เขาที่คอด้วยมีดคมๆ - เขา ความตายจนกระทั่งเสียชีวิตกลัวสิ่งนี้ ! .

ด้วยคำพูดเหล่านี้ โจรตัวน้อยก็ดึงมีดยาวออกมาจากรอยแยกบนกำแพงแล้วฟาดไปที่คอกวาง สัตว์ที่น่าสงสารเตะและหญิงสาวก็หัวเราะ- คุณเป็นจริงๆและ ลากเกอร์ดาไปที่เตียง

- คุณหรือไม่คุณนอนมีดหรือเปล่า? - เกอร์ด้าถามเธอ เหล่ไปที่มีดคมๆ .

- เสมอ! - ตอบโจรตัวน้อย - ใครจะรู้?- คุณไม่มีทางรู้อะไรทำได้ เกิดขึ้น! แต่กลายเป็น! ดี,บอกฉันอีกครั้งเกี่ยวกับไคและวิธีที่คุณออกเดินทางท่องโลก ! .

เกอร์ด้าบอก นกพิราบไม้ในกรงเงียบ - ยั่วยวน; นกพิราบตัวอื่นๆ หลับไปแล้ว - เล็ก- เล็กโจรโอบแขนข้างหนึ่งรอบคอของ Gerda - เธอมีมีดอยู่อีกข้างหนึ่ง - และเริ่มกรน แต่ Gerda ไม่สามารถหลับตาได้ โดยไม่รู้ว่าพวกเขาจะฆ่าเธอหรือปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ พวกโจรนั่งรอบกองไฟ ร้องเพลงและดื่ม และหญิงชราโจรก็ล้มลง มันน่ากลัวสำหรับเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารเมื่อมองดูมัน

ทันใดนั้นนกพิราบป่าก็ส่งเสียงร้อง:

- คัวร์! คุร! เราเห็นไค! ไก่ขาวอุ้มเลื่อนของเขาไว้บนหลังของเธอ และเขาก็นั่งบนเลื่อนของราชินีหิมะ พวกเขากำลังบินอยู่เหนือป่าเมื่อเรา ลูกไก่ลูกไก่ยังคงนอนอยู่ในรัง - เธอ- เธอหายใจเข้าใส่เรา และทุกคนก็ตายหมดยกเว้นเราสองคน ! . คุร! คุร!

- คุณกำลังพูดอะไร? ? ! - Gerda อุทาน - ราชินีหิมะบินไปที่ไหน? คุณรู้หรือไม่?

- เธออาจจะบินหนีไป- อาจจะสู่แลปแลนด์ , - ที่นั่น - หลังจากนั้น ที่นั่นหิมะและน้ำแข็งชั่วนิรันดร์ ! . ถามกวางเรนเดียร์ว่าผูกอะไรอยู่ที่นี่ ! .

- ใช่แล้ว ที่นั่นมีหิมะและน้ำแข็งนิรันดร์ , ความมหัศจรรย์- ความมหัศจรรย์ดีแค่ไหน! - กวางเรนเดียร์กล่าว - ที่นั่นคุณกระโดดอย่างอิสระ ไม่มีที่สิ้นสุดใหญ่เป็นประกาย น้ำแข็งที่ราบ ! . เต็นท์ฤดูร้อนของราชินีหิมะตั้งอยู่ที่นั่น และพระราชวังถาวรของเธออยู่ที่ขั้วโลกเหนือ บนเกาะสปิตสเบอร์เกน .

- โอ้ไก่ ไก่ที่รักของฉัน! - Gerda ถอนหายใจ

- นอนนิ่งๆ ! , - โจรตัวน้อยกล่าว - ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันฉันจะแทงคุณด้วยมีด!

ในตอนเช้าเกอร์ดาเล่าสิ่งที่เธอได้ยินจากนกพิราบป่าให้เธอฟัง โจรตัวน้อยมองดู Gerda อย่างจริงจังพยักหน้าแล้วพูดว่า:

- เอาล่ะ!.. รู้ไหมว่า Lapland อยู่ที่ไหน? จากนั้นเธอก็ถามกวางเรนเดียร์

- ใครจะรู้ถ้าไม่ใช่ฉัน! - ตอบกวางและดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย “นั่นคือที่ที่ฉันเกิดและเติบโต เป็นที่ที่ฉันกระโดดข้ามที่ราบที่เต็มไปด้วยหิมะ” ! .

- ฟังนะ ! , - โจรตัวน้อยพูดกับเกอร์ดา - เห็นไหมว่าคนของเราหายไปหมด ; , แม่คนหนึ่งที่บ้าน อีกหน่อยเธอก็จะจิบจากขวดใหญ่แล้วงีบหลับ - , แล้วฉันจะทำบางอย่างเพื่อคุณ ! .

จากนั้น เด็กหญิงก็กระโดดลงจากเตียง กอดแม่ ไว้หนวดเครา แล้วพูดว่า:

- สวัสดีแพะตัวน้อยของฉัน!

และแม่ของเธอก็ตีเธอที่จมูก จมูกของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน แต่ทั้งหมดนี้ทำด้วยความรัก

แล้วเมื่อและดังนั้นหญิงชราจิบน้ำจากขวดแล้วเริ่มกรน กโจรตัวน้อยเข้าหากวางเรนเดียร์แล้วพูดว่า:

- ยังอีกนานเลย -เป็นเวลานานฉันสามารถล้อคุณได้! คุณเจ็บปวดเกินไป คุณสามารถเฮฮาได้ตลกขบขันเมื่อมีคนจั๊กจี้คุณด้วยมีดคมๆ ! . เอาล่ะเป็นอย่างนั้น! ฉันจะแก้มัดคุณและปล่อยคุณให้เป็นอิสระ คุณสามารถสามารถหลบหนีไปยังแลปแลนด์ของคุณ แต่ สำหรับสิ่งนี้คุณต้อง สำหรับเรื่องนี้จะนำมาประกอบกับเอาไปพระราชวังของราชินีหิมะ ที่นี่ผู้หญิงคนนี้ , - มีพี่ชายชื่อของเธอ อีซี . แน่นอนคุณได้ยินสิ่งที่เธอพูดเหรอ? เธอพูด เพียงพอเสียงดังและหูของคุณก็จะอยู่เหนือศีรษะเสมอ

กวางเรนเดียร์ ดังนั้นและกระโดดด้วยความดีใจ เล็กและเจ้าตัวน้อยโจรวางเกอร์ดาไว้แล้วมัดเธอให้แน่น เพื่อประโยชน์ในการระมัดระวังและเพื่อความซื่อสัตย์และสม่ำเสมอมีอันอันอ่อนนุ่มอยู่ข้างใต้ เบาะหมอนเพื่อให้เธอนั่งได้สบายยิ่งขึ้น

“เอาล่ะ” เธอพูดแล้ว “เอารองเท้าบูทขนสัตว์ของคุณกลับมา” จะมันหนาว ! จะ!แต่ฉันจะเก็บมัฟไว้มันดีเกินไป ! . แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณหยุด ; : สิ่งเหล่านี้ใหญ่มาก ของแม่ถุงมือ แม่ของฉันพวกเขาจะไปถึงข้อศอกของคุณ ! . ใส่มือของคุณเข้าไปในนั้น! ตอนนี้มือของคุณก็เหมือนของฉัน แม่น่าเกลียด!แม่น่าเกลียด

Gerda ร้องไห้ด้วยความดีใจ

- ฉันทนไม่ไหวแล้วเมื่อพวกเขาสะอื้น! - โจรตัวน้อยกล่าว - ตอนนี้คุณต้องดูสนุก!- ตอนนี้คุณควรจะมีความสุขนี่คือขนมปังอีกสองก้อนกับแฮมหนึ่งชิ้นสำหรับคุณ - อะไร ฉันคิดว่า, ถึงไม่ คุณจะจะต้องอดอาหาร ! .

ทั้งสองถูกมัดไว้กับกวาง

จากนั้นโจรตัวน้อยก็เปิดประตูล่อสุนัขเข้าไปในบ้านแล้วตัดเชือกด้วยมีดอันคมของเธอ ที่ที่กวางตัวหนึ่งถูกมัดอยู่ และเธอก็พูดกับเขาว่า:

- มีชีวิตชีวา! ใช่ ดูแลตัวเองด้วย ดูสิ สาว!สาว.

Gerda ยื่นมือทั้งสองข้างสวมถุงมือขนาดใหญ่ให้โจรตัวน้อยแล้วกล่าวคำอำลากับเธอ กวางเรนเดียร์ออกเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่ผ่านตอไม้และฮัมม็อก , ผ่านป่า ผ่านหนองน้ำและที่ราบ หมาป่าส่งเสียงหอน อีกาส่งเสียงร้อง และทันใดนั้นท้องฟ้าก็เริ่มกรีดร้องและขว้างเสาไฟออกไปหมาป่าหอน อีการ้อง

ฮึ ฮึ - ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงจากท้องฟ้าและดูเหมือนจามเหมือนไฟ

- นี่คือแสงเหนือพื้นเมืองของฉัน! - กวางพูด - ดูสิว่ามันไหม้แค่ไหน !

. และเขาก็วิ่งต่อไปไม่หยุดทั้งกลางวันและกลางคืน ขนมปังก็กินไปแล้ว แฮมด้วย และตอนนี้ Gerda ค้นพบตัวเองแล้วพวกเขาค้นพบตัวเองแล้วในแลปแลนด์

เรื่องที่หก

เรื่องราวที่หก

ลัปแลนด์กาและฟินก้า .

กวางหยุดที่น่าสงสาร กระท่อม; หลังคาเพิง หลังคาลงไปที่พื้นและประตูก็ต่ำมากจนคนต้องคลานผ่านทั้งสี่ด้าน

ที่บ้านมีหญิงชราชาวแลปแลนเดอร์กำลังทอดปลาด้วยแสงตะเกียงอ้วนๆ กวางเรนเดียร์เล่าเรื่องทั้งหมดของเกอร์ดาให้แลปแลนเดอร์ฟัง แต่ก่อนอื่นเขาเล่าเรื่องของเขาเองก่อน - ดูเหมือนมันจะสำคัญกว่ามากสำหรับเขา

Gerda รู้สึกชามากจนเธอพูดไม่ออก

- โอ้เจ้าเพื่อนผู้น่าสงสาร! - แลปแลนเดอร์กล่าว - คุณยังมีหนทางอีกยาวไกล! ฉันต้องสร้างให้ได้ร้อย ไมล์กับ มากเกินไปไมล์พิเศษจนกว่าคุณจะไปถึง ฟินน์มาร์กาฟินแลนด์ที่ซึ่งราชินีหิมะอาศัยอยู่ในเดชาของเธอ และส่องแสงประกายไฟสีฟ้าทุกเย็น ฉันจะเขียน คู่บางคำพูดเกี่ยวกับปลาคอดแห้ง - ฉันไม่มีกระดาษ - กและคุณจะรื้อถอน ของเธอข้อความผู้หญิงฟินแลนด์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่เหล่านั้นและจะสามารถสอนคุณได้ดีกว่าฉันว่าต้องทำอย่างไร

เมื่อเกอร์ดาอุ่นเครื่อง กิน และดื่ม ชาวแลปแลนเดอร์เขียน คู่บางเมื่อพูดถึงปลาคอดแห้ง เธอบอกให้เกอร์ดาดูแลมันให้ดี จากนั้นเธอก็มัดหญิงสาวไว้ที่หลังกวาง แล้วมันก็วิ่งออกไปอีกครั้ง ท้องฟ้า

ฮึ ฮึ - ได้ยินอีกครั้ง ระยำและโยนทิ้งไปลงมาจากท้องฟ้า และมันก็เริ่มโยนออกไปเสาเพลิงสีน้ำเงินอันมหัศจรรย์ กวางจึงวิ่งไปกับเกอร์ด้าไป ฟินน์มาร์กาฟินแลนด์และเคาะปล่องไฟของหญิงชาวฟินแลนด์ - เธอไม่มีประตูด้วยซ้ำ - .

ที่บ้านเธอร้อน! ฟินแลนด์เองสั้น สกปรกหนาผู้หญิงคนหนึ่งเดินเปลือยเปล่าครึ่งหนึ่ง เธอรีบคว้ามันมาจากเกอร์ดา - คุณยายเข้าใจ! คงจะดีสำหรับฉันที่จะรู้วิธีเช่นกัน!ชุดเดรส ถุงมือ และรองเท้าบูท - , ไม่เช่นนั้นหญิงสาวก็จะเป็นเช่นนั้น ด้วยร้อน, - วางน้ำแข็งบนหัวกวางแล้วเริ่มอ่านข้อความที่เขียนไว้บนปลาคอดแห้ง

เธออ่านทุกอย่างตั้งแต่คำหนึ่งไปอีกคำสามครั้งจนกระทั่งเธอจำได้ และกจากนั้นเธอก็ใส่ปลาค็อดลงในหม้อ - ปลานั้นดีสำหรับเป็นอาหารและหญิงชาวฟินแลนด์ก็ไม่ได้ทิ้งอะไรไปโดยเปล่าประโยชน์

ที่นี่กวางเล่าเรื่องของเขาก่อนแล้วจึงเล่าเรื่องของเกอร์ดา สาวฟินแลนด์กระพริบตาคนฉลาดของเธอ ดวงตา,ดวงตา,แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

-คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก ! … - กวางพูด - ฉันรู้ว่าคุณสามารถผูกลมทั้งสี่ด้วยด้ายเส้นเดียวได้ เมื่อหัวหน้าแก้ปมหนึ่ง ลมแรงพัดมา ปมอีกอันหนึ่ง อากาศก็แย่ลง และแก้ปมที่สามและสี่ได้ พายุเช่นนี้ก็เกิดขึ้นจนทำให้ต้นไม้หักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยคุณช่วยทำอันหนึ่งให้ผู้หญิงหน่อยได้ไหม? ดื่มแบบนี้เครื่องดื่มแบบนั้นสิ่งใดที่จะมอบความแข็งแกร่งให้กับฮีโร่ทั้งสิบสองคนแก่เธอ? แล้วเธอก็จะเอาชนะราชินีหิมะได้!

- ความแข็งแกร่งของฮีโร่ทั้งสิบสองคน! - ผู้หญิงฟินแลนด์กล่าว - ใช่ , มากมาย ประเด็นคืออะไร!นั่นอะไรดี?

ด้วยคำพูดเหล่านี้ เธอหยิบม้วนหนังขนาดใหญ่จากชั้นวางแล้วคลี่ออก: สิ่งที่ยืนอยู่บนนั้นเขาถูกปกคลุมไปด้วยอะไร-ที่ การเขียนที่น่าทึ่ง ภาษาฟินแลนด์การเขียนที่น่าทึ่ง

ฟินก้าฉันเริ่มอ่านและอ่านมันจนกระทั่ง ของเธอเหงื่อ ทะลุผ่านม้วนตัวเหมือนลูกเห็บจากหน้าผากของเธอ

กวางเริ่มถามหาเกอร์ดาอีกครั้งและเกอร์ดาเองก็มองดูฟินน์ด้วยดวงตาอ้อนวอนที่เต็มไปด้วยน้ำตาจนเธอกระพริบตาอีกครั้งเอากวางออกไปแล้วเปลี่ยนน้ำแข็งบนหัวของเขาแล้วกระซิบ:

- ไคอยู่กับราชินีหิมะจริงๆ แต่เขาค่อนข้างมีความสุขและคิดว่าคงไม่มีใครดีไปกว่านี้อีกแล้ว เหตุผลของทุกสิ่งคือเศษกระจกที่อยู่ในใจและในดวงตาของเขา จะต้องลบออกมิฉะนั้น เขาจะไม่มีวันเป็นมนุษย์และราชินีหิมะจะรักษาอำนาจของเธอไว้เหนือเขา

- แต่กไม่ โดยคุณสามารถ ให้เกิร์ด ยังไงอะไรสักวันหนึ่ง ทำลายพลังนี้สิ่งที่จะทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าใครๆ?

“ฉันไม่สามารถทำให้เธอแข็งแกร่งกว่าเธอได้” คุณไม่เห็นว่าพลังของเธอยิ่งใหญ่แค่ไหน? คุณไม่เห็นหรือว่าทั้งผู้คนและผู้คนต่างก็รับใช้เธอ? สัตว์?สัตว์?ในที่สุดเธอก็เดินเท้าเปล่าไปทั่วโลกครึ่งโลก! มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราที่จะยืมพลังของเธอ - ความแข็งแกร่งเข้าแล้ว , ของเธอ หัวใจเด็กที่แสนหวานและไร้เดียงสาความเข้มแข็งอยู่ในใจของเธอ ความจริงที่ว่าเธอเป็นเด็กน่ารักไร้เดียงสาหากตัวเธอเองไม่สามารถเจาะเข้าไปในวังของราชินีหิมะและดึงไคออกจากหัวใจได้ เศษเสี้ยนแล้วเราจะไม่ช่วยเธออย่างแน่นอน! ห่างจากที่นี่ไปสองไมล์ สวนของ Snow Queen ก็เริ่มต้นขึ้น พาหญิงสาวไปปล่อยเธอลงข้างพุ่มไม้ใหญ่ ครอบคลุมโรยเบอร์รี่สีแดงและไม่ชักช้าก็กลับมา ! .

ด้วยคำเหล่านี้ภาษาฟินแลนด์ เกี่ยวฉันขึ้นปลูกแล้ว Gerda ล้มลงบนหลังกวาง และเขาก็เริ่มวิ่งให้เร็วที่สุด

- โอ้ฉันไม่มีรองเท้าบูทอุ่น ๆ ! เฮ้ ฉันไม่ได้สวมถุงมือนะ! - Gerda ตะโกนพบว่าตัวเองหนาวเหน็บ

แต่กวางกลับไม่กล้าหยุดจนกว่าจะถึงพุ่มไม้ที่มีผลเบอร์รี่สีแดง - ที่นี่- ที่นี่เขาทำให้หญิงสาวผิดหวังและจูบเธอที่ มากที่สุดริมฝีปากและ จากสายตาบนแก้มพวกเขารีดเขา , น้ำตาแวววาวขนาดใหญ่ จากนั้นเขาก็ยิงกลับไปเหมือนลูกศร

เด็กหญิงผู้น่าสงสารถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง -ตามลำพัง,ในความหนาวเย็นอันขมขื่น ไม่มีรองเท้า ไม่มีถุงมือ

เธอวิ่งไปข้างหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - ต่อ- ต่อกองเกล็ดหิมะทั้งหมดพุ่งเข้ามาหาเธอ แต่พวกมันไม่ได้ตกลงมาจากท้องฟ้า - ท้องฟ้าปลอดโปร่งและ บนวีเขา กำลังลุกไหม้สว่างไสวแสงเหนือ , , - ไม่ พวกเขาวิ่งไปตามพื้นตรงไปยัง Gerda และ เมื่อเราเข้าใกล้ก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

เกอร์ดาจำเกล็ดสวยงามขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่างได้ ก่อความไม่สงบขยายแก้ว แต่สิ่งเหล่านี้ใหญ่กว่าและน่ากลัวกว่ามาก ประเภทและรูปร่างที่น่าทึ่งที่สุดและทุกคนยังมีชีวิตอยู่

สิ่งเหล่านี้มีความก้าวหน้า หมู่ทหารรักษาการณ์กองกำลังของราชินีหิมะ

บางตัวก็ดูเหมือนเม่นน่าเกลียดตัวใหญ่บางตัวก็ดูเหมือนเม่นตัวใหญ่บางตัว - ร้อยหัวร้อยหัวงู, อื่น ๆ - ลูกหมีอ้วนด้วย ไม่เรียบร้อยไม่เรียบร้อยขนสัตว์. แต่พวกมันทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยความขาวเท่ากัน พวกมันล้วนเป็นเกล็ดหิมะที่มีชีวิต

อย่างไรก็ตามเกอร์ดา เริ่มอ่าน "พ่อของเรา"; มันหนาวมากจนลมหายใจของหญิงสาวกลายเป็นหมอกหนาทันที หมอกนี้.เดินอย่างกล้าหาญทั้งหมด หนาขึ้นซึ่งไปข้างหน้าและ เทวดาที่สดใสหนาขึ้น แต่ตัวเล็กเริ่มโดดเด่นจากนั้นเมื่อเหยียบพื้นก็เติบโตเป็นเทวดาตัวใหญ่ที่น่าเกรงขามพร้อมหมวกสวมศีรษะซึ่งไปข้างหน้าและ หอกและโล่อยู่ในมือ จำนวนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกอร์ดาสวดภาวนาเสร็จ กองทัพทั้งกองก็ก่อตัวล้อมรอบเธอแล้ว เหล่าทูตสวรรค์จับสัตว์ประหลาดหิมะไว้บนหอก และพวกมันก็แตกสลายเป็นเกล็ดหิมะนับพัน Gerda สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญได้แล้ว เหล่านางฟ้าลูบแขนและขาของเธอ และเธอก็ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป ในที่สุดก็มีสาวแล้วในที่สุดมาถึงวังของราชินีหิมะ

มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ทำเคยเป็นในเวลานี้ ไค.กับไคเขาไม่ได้คิดถึงเกอร์ด้าเลย และอย่างน้อยก็เกี่ยวกับความจริงที่ว่าเธอ ยืนอยู่หน้าปราสาทใกล้กับเขามาก

เรื่องที่เจ็ด

เกิดอะไรขึ้นเรื่องราวที่เจ็ด

เกิดอะไรขึ้นในห้องโถงของราชินีหิมะและเกิดอะไรขึ้น .

ผนังวังของราชินีหิมะถูกพายุหิมะปกคลุม หน้าต่างและประตูได้รับความเสียหายจากลมแรง ห้องโถงขนาดใหญ่หลายร้อยห้องที่สว่างไสวด้วยแสงเหนือทอดยาวทีละห้องผนังพระราชวังมีพายุหิมะ หน้าต่างและประตูมีลมแรง ห้องโถงมากกว่าร้อยแห่งทอดยาวมาที่นี่ทีละห้องขณะที่พายุหิมะพัดกวาดพวกเขา พวกเขาทั้งหมดได้รับแสงสว่างจากแสงเหนือและใหญ่ที่สุดทอดยาวหลายไมล์ ช่างหนาวเหน็บ ช่างร้างเหลือเกินในวังสีขาวที่ส่องประกายระยิบระยับเหล่านี้! ความสนุกไม่เคยมาที่นี่ - ถ้านานๆ ทีจะมีปาร์ตี้หมีที่นี่- บอลหมีไม่เคยถูกจัดขึ้นที่นี่เต้นรำไปกับเสียงเพลงแห่งพายุ วีบนซึ่งหมีขั้วโลกสามารถแยกแยะได้จากความสง่างามและความสามารถในการเดินด้วยขาหลัง หรือมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นแล้ว- ไม่เคยมีการจัดตั้งพรรคการเมืองลงในการ์ดที่มีการทะเลาะวิวาทและ สู้หรือในที่สุดก็เข้ากันได้สู้ๆ ครับ ไม่เข้ากันเพื่อสนทนาเรื่องกาแฟแก้วเล็กๆ น้อยๆ สุนัขจิ้งจอกแม่ทูนหัว - ไม่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!ซุบซิบชานเทอเรล

หนาวร้าง ตาย!ยิ่งใหญ่!แสงเหนือสว่างจ้าและเผาไหม้อย่างถูกต้องจนเป็นไปได้ ด้วยความแม่นยำอย่างแน่นอนคำนวณว่าแสงจะเข้มข้นขึ้นในนาทีใด และ , กี่โมง จะลดลงจะจางหายไปในช่วงกลางที่ใหญ่ที่สุด รกร้างมากขึ้นร้างในห้องโถงที่เต็มไปด้วยหิมะมีทะเลสาบน้ำแข็ง น้ำแข็งแตกเป็นพัน ๆ ชิ้น เรียบเหมือนกันมากและถูกต้อง น่าอัศจรรย์มากดูเหมือนเป็นกลอุบายบางอย่างอยู่กลางทะเลสาบ ยืนบัลลังก์ของราชินีหิมะ เธอนั่งบนนั้นราชินีหิมะกำลังนั่งอยู่เมื่อเธออยู่ที่บ้านบอกว่าเธอนั่งอยู่บนกระจกแห่งจิตใจ ในความคิดของเธอ มันเป็นกระจกบานเดียวและดีที่สุด ในโลกในโลก

ไคเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินจนเกือบดำคล้ำเพราะความเย็น แต่ก็ไม่ได้สังเกตเห็น , - การจูบของราชินีหิมะทำให้เขาไม่รู้สึกต่อความหนาวเย็นและหัวใจของเขาเอง กลายเป็นชิ้นหนึ่งมันเหมือนกับชิ้นส่วนน้ำแข็ง. ไคปรับแต่งแผ่นน้ำแข็งทรงแหลมแบนๆ โดยจัดเรียงมันไว้ในรูปแบบต่างๆ มีเกมดังกล่าว — - ร่างพับจากแผ่นไม้ - ซึ่งเรียกว่า "ปริศนาจีน"ปริศนาจีน เอาล่ะไคยังพับร่างที่ซับซ้อนต่างๆ , เท่านั้นจากแผ่นน้ำแข็งจึงได้ชื่อว่า " เกมใจน้ำแข็ง ". . ในสายตาของเขา ร่างเหล่านี้เป็นปาฏิหาริย์แห่งศิลปะ และการพับมันเป็นอาชีพ อันดับแรกสิ่งสำคัญยิ่งความสำคัญ สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีกระจกวิเศษชิ้นหนึ่งในดวงตาของเขา - เขาพับ- เขายังรวบรวมตัวเลขดังกล่าวเข้าด้วยกันจาก น้ำแข็งลอยและที่ได้รับทั้งคำ แต่ไม่สามารถรวบรวมสิ่งที่เขาต้องการเป็นพิเศษได้ - คำว่า "นิรันดร์" ราชินีหิมะบอกเขาว่า: "ถ้าคุณรวมคำนี้เข้าด้วยกัน คุณจะเป็นเจ้านายของคุณเอง และฉันจะมอบโลกทั้งใบและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่ให้คุณ" แต่เขาไม่สามารถรวบรวมมันเข้าด้วยกันได้

- ตอนนี้ฉันจะบินไปยังดินแดนที่อุ่นกว่า ! , - ราชินีหิมะกล่าว - ฉันจะดูหม้อต้มสีดำ ! .

หม้อไอน้ำดังนั้นเธอเรียกหลุมอุกกาบาตแห่งภูเขาพ่นไฟ - เอตน่าและวิสุเวียส และเอตน่า .

และเธอ- ฉันจะทำให้พวกเขาขาวขึ้นเล็กน้อย มันดีสำหรับมะนาวและองุ่น

เธอบินออกไปและไก่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในห้องโถงร้างอันกว้างใหญ่มองดูน้ำแข็งลอยและคิดและคิดจนหัวของเขาแตก เขากำลังนั่งอยู่ หนึ่งสถานที่ - , ซีดเซียว นิ่งเฉย ราวกับ ไม่มีชีวิตไม่ใช่ที่อยู่อาศัยใครๆ ก็คิดว่าเขา. เลยแช่แข็ง

ในเวลานี้ผ่านประตูใหญ่ เกิดจากลมแรงซึ่งเป็นลมพายุที่รุนแรงเกอร์ด้าเข้ามา เธอกล่าวคำอธิษฐานตอนเย็นและและต่อหน้าเธอลมสงบลงราวกับว่าพวกเขาหลับไปแล้ว เธอ ฟรีเข้าไปในห้องโถงน้ำแข็งร้างขนาดใหญ่และเห็นไค สาวแล้วเธอทันทีจำเขาได้กอดคอกอดแน่นแล้วร้องว่า:

- ไก่ที่รักของฉัน ไค!ไค!ในที่สุดฉันก็พบคุณ!

แต่เขาก็นั่งนิ่งนิ่งและเย็นชา แล้วแล้ว Gerda เริ่มร้องไห้ น้ำตาอันเร่าร้อนของเธอตกลงบนหน้าอกของเขาทะลุหัวใจของเขาละลาย ของเขาเปลือกน้ำแข็ง และละลาย, ละลายเสี้ยน ไคมองไปที่เกอร์ด้า และเธอก็ร้องเพลงว่า

กุหลาบบานแล้ว... งาม งาม!

อีกไม่นานเราจะได้เห็นพระกุมารคริสต์

ไคและจู่ๆ ก็น้ำตาไหลและร้องไห้หนักมาก เป็นเวลานานเป็นต้นมากจนเศษนั้นไหลออกมาจากดวงตาพร้อมกับน้ำตา จากนั้นเขาก็จำเกอร์ดาได้และ มากชื่นชมยินดี . :

- เกอร์ด้า! ที่รัก ของฉัน Gerda!..หายไปไหนมาตั้งนาน? ฉันเองอยู่ที่ไหน?

- และเขาก็มองไปรอบ ๆ - ที่นี่หนาวและรกร้างขนาดไหน!

และเขาก็กดตัวเองให้เกอร์ดาแน่น เธอและเธอหัวเราะและร้องไห้ด้วยความดีใจ ใช่ มีความสุขมากและมันก็วิเศษมากแม้แต่แผ่นน้ำแข็งก็เริ่มเต้น และเมื่อเหนื่อยแล้วพวกเขาก็นอนลงและเรียบเรียงคำเดียวกับที่ราชินีหิมะขอให้คายาแต่ง - พับ- พับเขา เขาสามารถเป็นนายของเขาเองได้ , และยังได้รับของขวัญจากคนทั้งโลกและรองเท้าสเก็ตคู่ใหม่จากเธอ

เกอร์ด้าจูบไคที่แก้มทั้งสองข้าง และจูบอีกครั้ง ดอกกุหลาบบานหน้าแดงเหมือนดอกกุหลาบจูบเขาที่ดวงตาแล้วพวกเขาก็ เป็นประกายเหมือนดวงตาของเธอเป็นประกาย- เธอจูบมือและเท้าของเขา และเขาก็กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง

ราชินีหิมะสามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ , - ของเขา ฟรีสไตล์วันหยุดจ่ายนอนอยู่ที่นั่นเขียนด้วยตัวอักษรน้ำแข็งแวววาว

ไคและเกอร์ด้าเดินจูงมือกัน ทะเลทรายพระราชวังน้ำแข็ง - พวกเขา- พวกเขาเดินไปคุยเรื่องยายโอ้ย ของพวกเขากุหลาบ, ซึ่งบานสะพรั่งในสวนของพวกเขาและ ในทางของพวกเขาต่อหน้าพวกเขาลมแรงก็สงบลงเหลือบมอง ดวงอาทิตย์. เมื่อไหร่พวกเขาจะดวงอาทิตย์. และเมื่อไรพวกเขาไปถึงพุ่มไม้ที่มีผลเบอร์รี่สีแดงซึ่งมีกวางเรนเดียร์กำลังรอพวกเขาอยู่ เขานำกวางตัวเมียตัวหนึ่งมาด้วย โดยเต้านมของเธอเต็มไปด้วยน้ำนม เธอมอบมันให้ไคและเกอร์ดาแล้วจูบพวกเขาที่ริมฝีปาก แล้ว

ไคและเกอร์ดาไปหาผู้หญิงชาวฟินแลนด์ก่อน อบอุ่นร่างกายกับเธอ และพบทางกลับบ้าน จากนั้น - สู่แลปแลนเดอร์ - ที่- ตาฉันเย็บชุดใหม่ให้พวกเขา ซ่อมเลื่อนของฉัน และไปดูพวกเขาออกไป

กวาง ฉันเป็นคู่รักเดียวกัน เห็นเด็กเห็นเด็กนักเดินทางไปจนถึงชายแดนแลปแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่ความเขียวขจีแห่งแรกได้ทะลุทะลวงไปแล้ว ที่นี่ไก่และเกอร์ด้ากล่าวคำอำลา กวางเขาและกับแลปแลนเดอร์

- ขอให้มีความสุขในการเดินทาง! - ไกด์ตะโกนบอกพวกเขา

ด้านหน้าของพวกเขาคือป่า คนแรกที่ร้องเพลง นกนกต้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยดอกตูมสีเขียว เด็กสาวสวมหมวกสีแดงสดขี่ม้าออกจากป่าไปพบนักเดินทางบนหลังม้าอันงดงาม และด้วยปืนพกด้วยปืนพกหลังเข็มขัด

Gerda จำม้าทั้งสองตัวได้ทันที ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยถูกควบคุมด้วยรถม้าสีทอง และหญิงสาวคนนั้น มันเป็นโจรตัวน้อย - เธอเบื่อกับการอยู่บ้านและอยากไปเที่ยวภาคเหนือและถ้าเธอไม่ชอบที่นั่นเธอก็อยากจะไปที่อื่น .

เธอยังจำเกอร์ดาได้ด้วย ช่างน่ายินดีจริงๆ!

- ดูสิคุณ , คนจรจัด! - เธอพูดกับไค - ฉันต้องการฉันต้องการจะ ฉันสำหรับฉันรู้ว่าคุณมีค่าพอที่จะให้คนอื่นวิ่งตามคุณไปจนสุดขอบโลกหรือไม่ ! ?

แต่เกอร์ด้าตบแก้มเธอแล้วถามถึงเจ้าชายและเจ้าหญิง

- พวกเขาออกเดินทางไปยังดินแดนต่างประเทศ ! , - ตอบโจรหนุ่ม

- และอีกา กับอีกาเหรอ? ? - ถามเกอร์ด้า

- กาป่าตาย อีกาเชื่องยังคงเป็นแม่หม้าย เดินเที่ยวไปรอบๆ มีขนสีดำอยู่ที่ขาและ บ่นบ่นถึงโชคชะตา แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่บอกฉันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณและคุณพบเขาได้อย่างไร

Gerda และ Kai บอกเธอทุกอย่าง

- นั่นคือจุดสิ้นสุดของเทพนิยาย! - โจรหนุ่มกล่าว จับมือและสัญญาว่าจะไปเยี่ยมพวกเขาถ้าเธอแวะมา ถึงพวกเขาวี ของพวกเขาเมือง.

จากนั้นเธอก็เดินไปพร้อมกับไก่และเกอร์ดา - ของคุณ

พวกเขาเดินและ ถนนวิธีดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิกำลังเบ่งบานกลายเป็นสีเขียว หญ้า.หญ้า.จากนั้นเสียงระฆังก็ดังขึ้น และพวกเขาก็จำหอระฆังของชาวพื้นเมืองได้ เมือง.เมืองต่างๆพวกเขาขึ้นบันไดที่คุ้นเคยและเข้าไปในห้องที่ทุกอย่างเหมือนเดิม: ทำเครื่องหมายแบบเดียวกันดู , พวกเขาบอกว่า "ติ๊ก-"ดังนั้น เข็มชั่วโมงกำลังเดิน" มือทั้งสองเคลื่อนไปตามหน้าปัดแต่เมื่อพวกเขาผ่านประตูต่ำไปพวกเขาก็สังเกตเห็นสิ่งนั้น ทำได้ในช่วงเวลานี้ได้กลายเป็นอย่างสมบูรณ์ผู้ใหญ่ ประชากร. .

พุ่มกุหลาบที่กำลังเบ่งบานมองจากหลังคาผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ เก้าอี้เด็กของพวกเขายืนอยู่ตรงนั้น Kai และ Gerda ต่างก็นั่งลงด้วยตัวเอง และ , จับมือกัน - เย็นและหนาวความงดงามอันรกร้างของพระราชวังของราชินีหิมะ ถูกพวกเขาลืมไปลืมเหมือนฝันร้าย คุณยายนั่งอยู่กลางแสงแดดและอ่านข่าวประเสริฐเสียงดัง: “ถ้าคุณไม่เป็นเหมือนเด็ก คุณจะไม่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์!”

Kai และ Gerda มองหน้ากันแล้วก็เข้าใจความหมายของเพลงสดุดีเก่าเท่านั้น:

กุหลาบบานแล้ว... งาม งาม!

อีกไม่นานเราจะได้เห็นพระกุมารคริสต์

ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งเคียงข้างกัน ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่มีเด็กอยู่ในใจและจิตวิญญาณ และก็มีในสวนด้วย ฤดูร้อน,อบอุ่น , ฤดูร้อนอันศักดิ์สิทธิ์ !

.