เคานต์ (1812) มัตวีย์ อิวาโนวิช พลาตอฟ(1753-1818) - ataman ของกองทัพ Don Cossack (จากปี 1801) นายพลทหารม้า (1809) ซึ่งมีส่วนร่วมในสงครามทั้งหมดของจักรวรรดิรัสเซียในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 - ต้นศตวรรษที่ 19 ในปี 1805 เขาได้ก่อตั้ง Novocherkassk ซึ่งเขาย้ายเมืองหลวงของกองทัพ Don Cossack

Platov เกิดในเมืองหลวงของ Don Cossacks, Cherkassk (ปัจจุบันคือหมู่บ้าน Starocherkasskaya, เขต Aksay, ภูมิภาค Rostov) และรับบัพติศมาในโบสถ์ปีเตอร์และพอลซึ่งรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

“ จากลูกคนโตของกองทัพดอน” - พ่อคอซแซคของเขาเป็นหัวหน้าทหาร โดยกำเนิดเขาเป็นของ Old Believers-Priests แม้ว่าเนื่องจากตำแหน่งของเขาเขาจึงไม่ได้โฆษณาสิ่งนี้ แม่ - Platova Anna Larionovna เกิดเมื่อปี 1733 แต่งงานกับ Ivan Fedorovich พวกเขามีลูกชายสี่คน - Matvey, Stefan, Andrei และ Peter

Matvey Ivanovich เข้ารับราชการที่ Don ในทำเนียบทหารในปี พ.ศ. 2309 ด้วยยศตำรวจและในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2312 เขาได้รับยศร้อยเอก

ในปี พ.ศ. 2314 เขามีความโดดเด่นในระหว่างการโจมตีและยึดแนวเปเรคอปและคินเบิร์น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2315 เขาได้สั่งการกองทหารคอซแซค ในปี พ.ศ. 2317 เขาได้ต่อสู้กับชาวเขาในคูบาน เมื่อวันที่ 3 เมษายนเขาถูกพวกตาตาร์ล้อมรอบใกล้แม่น้ำคาลาลา แต่สามารถต่อสู้กลับและบังคับให้ศัตรูล่าถอยได้

ในปี พ.ศ. 2318 ในตำแหน่งหัวหน้ากองทหารของเขาเขามีส่วนร่วมในการเอาชนะ Pugachevites

ในปี พ.ศ. 2325-2326 เขาได้ต่อสู้กับ Nogais ใน Kuban ในปี ค.ศ. 1784 เขามีส่วนร่วมในการปราบปรามการลุกฮือของชาวเชเชนและเลซกินส์

ในปี ค.ศ. 1788 เขามีความโดดเด่นในระหว่างการโจมตี Ochakov ในปี 1789 - ในการรบที่ Kaushany (13 กันยายน) ระหว่างการยึด Akkerman (28 กันยายน) และ Bender (3 พฤศจิกายน) ในระหว่างการโจมตีอิซมาอิล (11 ธันวาคม พ.ศ. 2333) เขาเป็นผู้นำคอลัมน์ที่ 5

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1790 Ataman ของกองทัพ Ekaterinoslav และ Chuguev Cossack วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2336 ทรงได้รับการเลื่อนยศเป็นพลตรี

ในปี พ.ศ. 2339 เขามีส่วนร่วมในการรณรงค์เปอร์เซีย หลังจากการรณรงค์ถูกยกเลิกกะทันหันโดยคำสั่งจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยไม่เชื่อฟังคำสั่งสูงสุด เขายังคงอยู่กับกองทหารของเขาเพื่อปกป้องสำนักงานใหญ่ของผู้บัญชาการทหารสูงสุด เคานต์ Valerian Zubov ซึ่งถูกคุกคามด้วยการเป็นเชลยของชาวเปอร์เซีย

เขาถูกจักรพรรดิพอลที่ 1 สงสัยว่าเป็นผู้สมคบคิด และในปี พ.ศ. 2340 ถูกเนรเทศไปยังโคสโตรมา จากนั้นจึงถูกจำคุกในป้อมปีเตอร์และพอล ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2344 เขาได้รับการปล่อยตัวและกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในองค์กรที่น่าตื่นเต้นที่สุดของพอล - การรณรงค์ของอินเดีย เฉพาะกับการเสียชีวิตของพอลในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2344 เท่านั้นที่ Platov ซึ่งก้าวไปสู่ ​​Orenburg แล้วโดยมีหัวหน้าคอสแซค 27,000 คนก็ถูกส่งคืนโดย Alexander I

เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2344 ทรงได้รับการเลื่อนยศเป็นพลโท และได้รับการแต่งตั้งเป็นทหารอาตามันแห่งกองทัพดอน ในปี 1805 เขาได้ก่อตั้งเมืองหลวงใหม่ของ Don Cossacks - Novocherkassk เขาทำหลายอย่างเพื่อปรับปรุงการบังคับบัญชาและการควบคุมของกองทัพ

ในการรณรงค์ในปี 1807 เขาได้สั่งการกองทหารคอซแซคทั้งหมดของกองทัพที่ประจำการ หลังจากการรบที่ Preussisch-Eylau เขาได้รับชื่อเสียงไปทั่วทั้งรัสเซีย เขามีชื่อเสียงจากการจู่โจมอย่างห้าวหาญที่สีข้างของกองทัพฝรั่งเศสโดยเอาชนะกองกำลังที่แยกจากกันหลายหน่วย หลังจากการล่าถอยจากไฮล์สเบิร์ก กองทหารของ Platov ก็ทำหน้าที่ในกองหลัง โดยรับการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกองทหารฝรั่งเศสที่ไล่ตามกองทัพรัสเซีย

ในเมือง Tilsit ซึ่งเป็นที่ซึ่งสันติภาพสิ้นสุดลง Platov ได้พบกับนโปเลียนผู้ซึ่งเพื่อเป็นการยอมรับถึงความสำเร็จทางทหารของ Ataman ได้มอบกล่องยานัตถุ์ล้ำค่าให้เขา หัวหน้าเผ่าปฏิเสธ Order of the Legion of Honor ของฝรั่งเศส โดยกล่าวว่า:

ฉันไม่ได้รับใช้นโปเลียนและไม่สามารถรับใช้ได้

สงครามรักชาติและการรณรงค์ต่างประเทศ

ในช่วงสงครามรักชาติปี 1812 เขาได้สั่งการกองทหารคอซแซคทั้งหมดที่ชายแดนก่อนจากนั้นจึงปิดการล่าถอยของกองทัพได้สำเร็จในการติดต่อกับศัตรูใกล้เมืองเมียร์และโรมาโนโว ในการสู้รบใกล้หมู่บ้าน Semlevo กองทัพของ Platov เอาชนะฝรั่งเศสและยึดผู้พันจากกองทัพของจอมพลมูรัต ส่วนหนึ่งของความสำเร็จเป็นของพล. ต. บารอนโรเซนซึ่งได้รับอิสรภาพอย่างเต็มที่จาก Ataman Platov หลังจากการรบที่ Saltanovka เขาได้ครอบคลุมการล่าถอยของ Bagration ไปยัง Smolensk เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม (8 สิงหาคม) เขาได้โจมตีทหารม้าของนายพล Sebastiani ใกล้หมู่บ้าน Molevo Boloto โค่นล้มศัตรู จับนักโทษ 310 คน และกระเป๋าเอกสารของ Sebastiani พร้อมเอกสารสำคัญ

แกะสลักโดย S. Cardelli “Matvey Ivanovich Platov” ปลายศตวรรษที่ 18 - ไตรมาสที่ 1 ของศตวรรษที่ 19 75x61

หลังยุทธการที่สโมเลนสค์ ปลาตอฟสั่งการกองหลังของกองทัพรัสเซียที่เป็นเอกภาพ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม (29) เขาถูกแทนที่โดย Konovnitsyn เนื่องจาก "ขาดการจัดการ" และถูกไล่ออกจากกองทัพที่ประจำการ สิ่งนี้สำเร็จได้โดย Barclay de Tolly ผู้รายงานต่อกษัตริย์:

นายพล Platov ในฐานะหัวหน้ากองทหารประจำการ ถูกวางในตำแหน่งที่สูงเกินไป และไม่มีบุคลิกลักษณะที่สูงส่งเพียงพอที่จะสอดคล้องกับตำแหน่งของเขา เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวและกลายเป็นคนซีเรียตในระดับสูงสุด ความเกียจคร้านของเขาทำให้ฉันต้องส่งผู้ช่วยของฉันไปหาเขา เพื่อที่หนึ่งในนั้นจะอยู่กับเขาหรือที่ด่านหน้าของเขา เพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งของฉันจะสำเร็จ

Denis Davydov ชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงสำหรับการถูกไล่ออก:

เจ้าชาย Bagration ซึ่งมักจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อ Platov ผู้ชอบดื่มด่ำกับความเมาเหล้าสอนเขาในปี 1812 ให้งดเว้นจากวอดก้ามัสตาร์ด - ด้วยความหวังว่าจะได้รับศักดิ์ศรีของการนับในไม่ช้า เออร์โมลอฟพยายามหลอกลวงปลาตอฟมาเป็นเวลานาน แต่ในที่สุดอาตามันก็สูญเสียความหวังที่จะนับได้ในที่สุดก็เริ่มดื่มอย่างสาหัส เขาจึงถูกขับออกจากกองทัพไปมอสโคว์

ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม (29) ถึงวันที่ 25 สิงหาคม (6 กันยายน) เขาต่อสู้ทุกวันกับหน่วยกองหน้าของฝรั่งเศส ในช่วงเวลาวิกฤติของ Battle of Borodino ร่วมกับ Uvarov เขาถูกส่งไปเลี่ยงทางปีกซ้ายของนโปเลียน ใกล้กับหมู่บ้าน Bezzubovo ทหารม้าถูกกองทหารของนายพล Ornano หยุดและกลับมา

เขาเรียกร้องให้คอสแซคเข้าร่วมกองทหารอาสาและใน Tarutino กองกำลังคอซแซคก็มีจำนวนถึง 22,000 คน

หลังจากการรบที่ Maloyaroslavets Platov ได้รับมอบหมายให้จัดการติดตามกองทัพใหญ่ที่กำลังล่าถอย เขาเข้าร่วมในการต่อสู้ที่ Vyazma จากนั้นจึงจัดการติดตามกองกำลัง Beauharnais เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม (8 พฤศจิกายน) บนแม่น้ำ Vop ระหว่าง Dorogobuzh และ Dukhovshchina เขาได้ตัดกองกำลัง Beauharnais บางส่วนออกและจับนักโทษได้ 3.5 พันคน รวมทั้งหัวหน้าเสนาธิการของคณะนายพล Sanson และปืน 62 กระบอก เขาเข้าร่วมในการต่อสู้ของอาราม Kolotsky, Smelev, Smolensk และ Krasny

เพื่อประโยชน์ของเขาตามพระราชกฤษฎีกาสูงสุดส่วนบุคคลเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม (10 พฤศจิกายน) พ.ศ. 2355 อาตามันแห่งกองทัพดอนนายพลทหารม้า Matvey Ivanovich Platov พร้อมด้วยลูกหลานของเขาได้รับการยกระดับสู่ศักดิ์ศรีแห่งจักรวรรดิรัสเซีย

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน Borisov ถูกยึดครองและศัตรูสูญเสียผู้เสียชีวิตไปประมาณ 5,000 คนและถูกจับ 7,000 คน เป็นเวลาสามวันที่เขาไล่ตามกองทัพศัตรูที่กำลังล่าถอยจากวิลนาไปยังคอฟโน และเข้าสู่คอฟโนในวันที่ 3 ธันวาคม โดยไม่ให้เวลาเขาจัดกองกำลังใหม่

ในระหว่างการรณรงค์ในปี พ.ศ. 2355 คอสแซคภายใต้คำสั่งของ Platov ได้จับกุมนักโทษประมาณ 70,000 คนยึดปืน 548 กระบอกและธง 30 อันและยังยึดสิ่งของมีค่าจำนวนมากที่ปล้นในมอสโกกลับมาได้

ในวันที่ 2 ธันวาคม (14) เขาเป็นคนแรกๆ ที่ข้ามแม่น้ำ Neman และติดตามกองทหารของ MacDonald ไปยัง Danzig ซึ่งเขาปิดล้อมเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2356

ในระหว่างการรณรงค์ต่างประเทศเขาอยู่ที่สำนักงานใหญ่และในบางครั้งเขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้บังคับบัญชาการปลดแต่ละหน่วยที่ปฏิบัติการด้านการสื่อสารของศัตรู ในเดือนกันยายน เขาได้รับคำสั่งจากกองพลพิเศษ ซึ่งเขาเข้าร่วมในการรบที่เมืองไลพ์ซิก ไล่ตามศัตรูเขาจับคนได้ประมาณ 15,000 คน ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2357 เขาต่อสู้ในตำแหน่งหัวหน้ากองทหารของเขาระหว่างการยึด Nemours (4 กุมภาพันธ์), Arcy-sur-Aube, Cezanne และ Villeneuve

ในปีพ.ศ. 2357 หลังจากการสิ้นสุดสันติภาพปารีส เขาได้เดินทางร่วมกับจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ไปยังลอนดอน ซึ่งเขาได้รับการต้อนรับด้วยเสียงปรบมือดัง ร่วมกับผู้บัญชาการที่โดดเด่นเป็นพิเศษสามคนของกองทัพแนวร่วมต่อต้านนโปเลียน ได้แก่ จอมพลบาร์เคลย์ เดอ ทอลลี่ ชาวรัสเซีย จอมพลบลูเชอร์แห่งปรัสเซียน และจอมพลชวาร์เซนเบิร์กแห่งออสเตรีย เขาได้รับดาบกิตติมศักดิ์พิเศษที่ทำจากเครื่องประดับเป็นรางวัลจากนครลอนดอน (ตั้งอยู่ใน Novocherkassk ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Don Cossacks) เขากลายเป็นชาวรัสเซียคนแรกที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

ความตาย

แผ่นป้ายอนุสรณ์ที่สถานที่ฝังศพดั้งเดิมของ M. I. Platov ฟาร์มมาลีมิชกิน

สวรรคตเมื่อวันที่ 3 มกราคม (15 มกราคม รูปแบบใหม่) พ.ศ. 2361 เดิมทีเขาถูกฝังไว้ที่ Novocherkassk ในห้องใต้ดินของครอบครัวใกล้กับ Ascension Cathedral ในปี 1818 ในปี พ.ศ. 2418 เขาถูกฝังใหม่ที่เดชาของบิชอป (ฟาร์ม Mishkin) และในวันที่ 4 (17) ตุลาคม พ.ศ. 2454 ขี้เถ้าของเขาถูกย้ายไปยังหลุมฝังศพของมหาวิหารทหารใน Novocherkassk หลังจากเดือนตุลาคม พ.ศ. 2460 หลุมศพของ Platov ก็ถูกทำลายลง ภาพถ่ายจากปี 1936 เผยให้เห็นอนุสาวรีย์ที่แตกหักโดย I. Martos พร้อมศีรษะที่บิ่นของผู้นำทหาร ขี้เถ้าถูกฝังใหม่ในสถานที่เดิมในอาสนวิหารทหารเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2536

ในการให้บริการ:

• พ.ศ. 2309 (ค.ศ. 1766) - เข้ารับราชการที่ดอนในทำเนียบทหารในฐานะจ่าสิบเอก;
• 4 (15) ธันวาคม พ.ศ. 2312 - เอซอล;
• 1 มกราคม (12) พ.ศ. 2315 - กองทัพดอน เป็นผู้พัน;
• 24 พฤศจิกายน (5 ธันวาคม) พ.ศ. 2327 - สาขาวิชาเอก;
• 20 กันยายน (1 ตุลาคม) พ.ศ. 2329 - พันโท;
• 2 มิถุนายน (13) พ.ศ. 2330 - พันเอก;
• ในปี พ.ศ. 2331 - ย้ายไปที่ Ekaterinoslav (ต่อมา Chuguevsky) กองทหารม้าคอซแซค;
• 24 กันยายน (5 ตุลาคม) พ.ศ. 2332 - นายพลจัตวายังคงอยู่ในกองทหารม้าคอซแซค Chuguevsky เดียวกัน
• 1 (12) มกราคม พ.ศ. 2336 - พลตรี;
• ในรัชสมัยของจักรพรรดิพอลที่ 1 เขาถูกไล่ออกจากราชการ ถูกเนรเทศไปยังโคสโตรมา และถูกจับกุม แต่จากนั้นก็ได้รับการอภัยโทษและสั่งให้นำการรณรงค์ไปยังโอเรนเบิร์ก:
• 15 กันยายน (27) พ.ศ. 2344 - พลโท;
• พ.ศ. 2344 (ค.ศ. 1801) - ผู้ช่วยหัวหน้ากองทัพและหัวหน้ากองทัพของกองทัพดอนทั้งหมด
• 29 กันยายน (11 ตุลาคม) พ.ศ. 2352 - นายพลทหารม้า

ในการรณรงค์และกิจการต่อต้านศัตรูคือ:

• ในปี พ.ศ. 2314 - ในช่วงสงครามตุรกีครั้งแรกระหว่างการยึดแนวเปเรคอปและคินเบิร์น
• พ.ศ. 2317 (ค.ศ. 1774) - ในคูบานที่ซึ่งเขามีความโดดเด่นอยู่ใต้แม่น้ำ Kalalakh ด้วยกองกำลังที่อ่อนแอ ขับไล่การโจมตีเจ็ดครั้งโดย Khan Devlet-Girey และเจ้าชายแห่งภูเขา;
• พ.ศ. 2318 (ค.ศ. 1775) - ระหว่างการค้นหา Pugachev และการกระจายตัวของแก๊งของเขา
• พ.ศ. 2325-2326 - ในคูบาน;
• พ.ศ. 2327 (ค.ศ. 1784) - ต่อต้านเลซกินส์และเชเชน;
• พ.ศ. 2331 (ค.ศ. 1788) - ระหว่างการล้อมและโจมตี Ochakov ซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. George ชั้น 4 เมื่อวันที่ 14 เมษายน (25) พ.ศ. 2332;
• พ.ศ. 2332 (ค.ศ. 1789) - ในการต่อสู้ที่ Kaushany ซึ่งเขายึดปืน 3 กระบอก ธง 2 ผืนและนักโทษ 160 คน รวมถึง Hassan Pasha ซึ่งเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนายพลจัตวาและได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทหารเดินขบวนระหว่างการจับกุม Akkerman และ Bendery;
• พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1790) - ระหว่างการโจมตีอิซมาอิลซึ่งเขาได้รับคำสั่งของนักบุญจอร์จชั้น 3 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม (5 เมษายน) พ.ศ. 2334 หลังจากนั้นเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นอาตามันแห่ง Ekaterinoslav และ Chuguev Cossacks;
• พ.ศ. 2339 (ค.ศ. 1796) - ในการรณรงค์เปอร์เซียซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. Vladimir ชั้น 3 และกระบี่ทองคำประดับเพชรและจารึกว่า "เพื่อความกล้าหาญ"
• พ.ศ. 2344 (ค.ศ. 1801) - ในการรณรงค์สู่ Orenburg;
• พ.ศ. 2350 (ค.ศ. 1807) - ในปรัสเซียผู้บังคับบัญชากองทหารคอซแซคทั้งหมดในกรณีต่อต้านฝรั่งเศสที่ Preussisch-Eylau, Ortelsburg, Allenstein, Heilsberg, ล่าถอยหลังจากฟรีดแลนด์ซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. George, ชั้น 2, Vladimir, ชั้น 2 . และ Alexander Nevsky และ Prussian - Red และ Black Eagle;
• พ.ศ. 2352 (ค.ศ. 1809) - ในกรณีต่อพวกเติร์ก: ภายใต้ Babadag, Girsov, Rassevat, Silistria และ Tataritsa ซึ่งเขาได้รับยศนายพลทหารม้าและคำสั่งของ St. Vladimir ชั้น 1;
• ในปี พ.ศ. 2355 - ในระหว่างการโจมตีกองทหารฝรั่งเศสเข้าสู่รัสเซียเขาถอยจาก Grodno ไปที่ Lida และ Nikolaev จากจุดที่เขาส่งกองกำลังออกไปเพื่อค้นหาศัตรูปะทะกับเขาที่ Korelichi, Mir - เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนและ Romanov - ในวันที่ 2 กรกฎาคม ; ไปที่ Mogilev ซึ่งเขาจัดการกับศัตรูเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม จากที่นั่นไปยัง Dubrovka เขาเปิดการสื่อสารกับกองทัพที่ 1; สร้างกองหน้าระหว่างการโจมตี Rudnya เอาชนะกองทหารเสือสองตัวที่ Molevoy Bolot จากนั้นปิดกองทัพระหว่างการล่าถอยไปยัง Smolensk; หลังจากการสู้รบที่ Smolensk เขาได้จัดตั้งกองหลังและยึดศัตรูไว้ที่มิคาเลฟและริมฝั่งแม่น้ำ แกน; เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ Borodino เขาโจมตีปีกซ้ายของศัตรูจากด้านหลังและทำให้เกิดความสับสนในขบวนรถ ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเขาติดตามไปมอสโคว์ในกองหลังของกองทัพและหลังจากคำพูดของนโปเลียนจากมอสโกวเขาก็สังเกตเห็นถนนจาก Mozhaisk ไปยัง Kaluga ในระหว่างการสู้รบที่ Maloyaroslavets เขาสังเกตถนนจาก Borovsk ไปยัง Maloyaroslavets และยังคุกคามศัตรูที่ด้านหลังและปีกขวาด้วย ในคืนวันที่ 13 ตุลาคม พระองค์ทรงจัดการกับศัตรูที่ริมแม่น้ำ แอ่งน้ำ; ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมเขาติดตามความเคลื่อนไหวของศัตรูและทำธุรกิจร่วมกับเขาใกล้อาราม Kolotsky (19 ตุลาคม) ใกล้หมู่บ้าน Fedorovsky (22 ตุลาคม), Semlev, Gusin, Orsha (8 พฤศจิกายน), Borisov - 6 (15 พฤศจิกายน), Zenbina, Pogulyanka ใกล้ Vilna (28 พฤศจิกายน) และ Kovne; เมื่อปลายเดือนธันวาคม ยึดครองMühlhausen และ Elbin; เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม (10 พฤศจิกายน) พ.ศ. 2355 พระองค์ได้รับการยกระดับเป็นศักดิ์ศรีทางพันธุกรรมแห่งจักรวรรดิรัสเซีย
• พ.ศ. 2356 (ค.ศ. 1813) - วันที่ 3 มกราคม เขาได้ปิดล้อมเมืองดานซิก แต่ไม่นานก็ถูกเรียกตัวกลับไปยังอพาร์ตเมนต์หลัก จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในการต่อสู้ที่ Altenburg, Leipzig และ Weimar ซึ่งเขาได้รับ Order of St. Andrew the First-called (สำหรับ Leipzig) และขนนกเพชรที่มีพระปรมาภิไธยย่อของอธิปไตยและลอเรลสวมบนหมวกของเขา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม เขาเข้ายึดครองแฟรงก์เฟิร์ต จากนั้นไล่ตามศัตรูไปยังไมนซ์ ซึ่งเขามีความสัมพันธ์อันเผ็ดร้อนระหว่าง Gochheim และหมู่บ้าน Wickert;
• ในปี พ.ศ. 2357 ภายในฝรั่งเศส ในตอนแรกได้จัดตั้งแนวหน้าขึ้นมา โดยรักษาการติดต่อสื่อสารกับกองทัพของบลูเชอร์ และหลังจากเชื่อมต่อกับกองทัพหลักแล้ว มันก็ถูกส่งไปค้นหาศัตรูที่ Nemours, Fontainebleau และ Melun; ในเดือนกุมภาพันธ์เขาได้ยึด Nemours (4 กุมภาพันธ์) และ Arcis-sur-Aube และปะทะกันที่เมือง Villeneuve จากนั้นถูกเรียกตัวไปที่อพาร์ตเมนต์หลักซึ่งเขาอยู่จนกระทั่งสิ้นสุดการรณรงค์

ตามคำสั่งสูงสุดในวันที่ 26 มกราคม (7 กุมภาพันธ์) พ.ศ. 2361 เขาถูกแยกออกจากรายชื่อผู้เสียชีวิต (เสียชีวิต 3 มกราคม (15) พ.ศ. 2361)

ตระกูล

ภาพเหมือนตลอดชีวิตของ M. I. Platov วาดระหว่างที่เขาอยู่ในลอนดอน (1814)

ตระกูลเคานต์ของ Platovs มาจาก M.I. เขาแต่งงานสองครั้ง

• ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2320 เขาได้แต่งงานกับ Nadezhda Stepanovna ลูกสาวของ Ataman Stepan Efremov และหลานสาวของพลตรี Daniil Efremov จากการแต่งงานครั้งแรก Matvey Ivanovich มีลูกชายคนหนึ่งชื่อ Ivan (I) (1777-1806) หลังจากการเสียชีวิตของ N. S. Platova (11/15/1783) M. I. Platov แต่งงานครั้งที่สอง
• ในปี พ.ศ. 2328 ภรรยาคนที่สองของเขาคือ Marfa Dmitrievna (เกิดประมาณ พ.ศ. 2303 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2355/2356) ภรรยาม่ายของพันเอก Pavel Fomich Kirsanov (พ.ศ. 2283-2325) น้องสาวของ Ataman Andrei Dmitrievich Martynov เธอได้รับรางวัล Order of St. Catherine of the Small Cross เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2352 ในการแต่งงานครั้งที่สอง Matvey Ivanovich มีลูกสาวสี่คนและลูกชายสองคน:
  • Marfa (พ.ศ. 2329-2364) - แต่งงานกับพันเอก Stepan Dmitrievich Ilovaisky (พ.ศ. 2321-2359);
  • แอนนา (2331-?) - แต่งงานกับ Kharitonov;
  • มาเรีย (พ.ศ. 2332-2409) - ภรรยาของพลตรี Timofey Dmitrievich Grekov;
  • อเล็กซานดรา (1791-?);
  • Matvey (พ.ศ. 2336-หลัง พ.ศ. 2357) - พลตรี ได้รับรางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญจอร์จ ชั้นที่ 4 “เพื่อความแตกต่างในการต่อสู้กับฝรั่งเศส” (1813);
  • อีวาน (II, พ.ศ. 2339-2417) - พันเอกผู้เข้าร่วมในสงครามรักชาติปี 1812 ผู้ถือเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งกองเกียรติยศ

นอกจากนี้ครอบครัว Platov ยังเลี้ยงดูลูก ๆ ของ Marfa Dmitrievna จากการแต่งงานครั้งแรกของเธอ - Khrisanf Kirsanov พลตรีในอนาคตและ Ekaterina Pavlovna Kirsanova ต่อมาเป็นภรรยาของ Ataman Nikolai Ilovaisky

หลังจากเป็นม่าย Platov อาศัยอยู่ร่วมกับเอลิซาเบธหญิงชาวอังกฤษซึ่งเขาพบระหว่างการเยือนลอนดอน หลังจากที่เขาเสียชีวิตเธอก็กลับไปยังบ้านเกิดของเธอ

รางวัล

• คำสั่งของอัครสาวกศักดิ์สิทธิ์แอนดรูว์ผู้ถูกเรียกครั้งแรก (08.10.1813)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญจอร์จ ชั้น 2 (11/22/1807) - “ สำหรับการมีส่วนร่วมในการรบซ้ำแล้วซ้ำอีกในฐานะหัวหน้ากองหน้าระหว่างสงครามกับฝรั่งเศสในปี 1807»
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญจอร์จ ชั้น 3 (03/25/1791) - “ เพื่อเป็นเกียรติแก่การบริการที่ขยันขันแข็งและความกล้าหาญอันเป็นเลิศที่แสดงออกมาในระหว่างการยึดเมืองและป้อมปราการแห่งอิซมาอิลด้วยพายุพร้อมกับการทำลายล้างกองทัพตุรกีที่อยู่ที่นั่นโดยเป็นผู้บังคับบัญชาเสา»
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญจอร์จ ชั้น 4 (04/14/1789) - “ สำหรับความกล้าหาญอันดีเยี่ยมที่แสดงออกมาระหว่างการโจมตีป้อมปราการ Ochakov»
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์วลาดิมีร์ ชั้นที่ 1 (ค.ศ. 1809)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์วลาดิมีร์ ชั้นที่ 2 (ค.ศ. 1807)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์วลาดิเมียร์ ชั้น 3 (พ.ศ. 2339)
• คำสั่งของเซนต์อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้ (11/18/1806)
• เครื่องหมายเพชรสำหรับคำสั่งของนักบุญอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ (2350)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์แอนน์ ชั้นที่ 1 (ค.ศ. 1801)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญยอห์นแห่งเยรูซาเลม กางเขนผู้บัญชาการ (ค.ศ. 1801)
• กระบี่ทองคำประดับเพชรและจารึก "เพื่อความกล้าหาญ" (2339)
• เหรียญเงิน "ในความทรงจำของสงครามรักชาติปี 1812"
• ขนเพชรที่มีพระปรมาภิไธยย่อของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 และลอเรลบนชาโก (ค.ศ. 1813)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์อินทรีดำ (ปรัสเซีย, 1807)
• เครื่องอิสริยาภรณ์อินทรีแดง (ปรัสเซีย, 1807)
• กล่องใส่ยานัตถุ์ล้ำค่า ถวายโดยจักรพรรดิ์นโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส, 1807)
• เครื่องอิสริยาภรณ์ทหารมาเรีย เทเรซา ชั้น 3 (ออสเตรีย พ.ศ. 2356)
• เครื่องราชอิสริยาภรณ์ลีโอโปลด์แห่งออสเตรีย ชั้นที่ 2 (ออสเตรีย พ.ศ. 2356)
• เซเบอร์ประดับเพชรจากเมืองลอนดอน (บริเตนใหญ่ พ.ศ. 2357);

ปฏิเสธกองทัพแห่งเกียรติยศ (1807)

หน่วยความจำ

อนุสาวรีย์ M.I. Platov พร้อมข้อความว่า “ถึง Ataman Count Platov สำหรับการหาประโยชน์ทางทหารตั้งแต่ปี 1770 ถึง 1816 Grateful Donets” โนโวเชอร์คาสค์.

ในปีพ. ศ. 2396 ในเมือง Novocherkassk โดยใช้เงินสาธารณะที่รวบรวมจากการสมัครสมาชิกจึงมีการสร้างอนุสาวรีย์ของ Platov (ผู้เขียน P.K. Klodt, A. Ivanov, N. Tokarev) ในปี พ.ศ. 2466 อนุสาวรีย์ถูกถอดออกและย้ายไปที่พิพิธภัณฑ์ Donskoy และในปี พ.ศ. 2468 อนุสาวรีย์ของเลนินก็ถูกสร้างขึ้นบนแท่นเดียวกัน ในปี 1993 อนุสาวรีย์เลนินถูกรื้อถอนและอนุสาวรีย์ Platov ที่ได้รับการบูรณะกลับคืนสู่ฐาน ในปี 2003 อนุสาวรีย์นักขี่ม้าของ Platov ถูกสร้างขึ้นในเมืองเดียวกัน อีก 10 ปีต่อมาอนุสาวรีย์อาตามันสำหรับนักขี่ม้าก็ถูกสร้างขึ้นในมอสโก ในขณะที่ประเพณีของดอนคอสแซคได้รับการฟื้นฟู ชื่อของอาตามันที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งยังคงเป็นอมตะทั้งในภูมิภาครอสตอฟและที่อื่น ๆ

ของใช้ส่วนตัวของ Ataman Platov โดยเฉพาะอานม้าและถ้วย อยู่ในพิพิธภัณฑ์ Life Guards Cossack Regiment ใกล้กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

บทบาทของ Platov ในภาพยนตร์เรื่อง "Suvorov" รับบทโดย Yuri Domogarov

นักร้องประสานเสียง Don Cossack ที่มีชื่อเสียงระดับโลกภายใต้การดูแลของ N. Kostryukov ได้รับการตั้งชื่อตาม Ataman General Platov

ชื่อของ Platov ได้รับการตั้งชื่อตามสนามบินแห่งใหม่ที่เปิดใกล้กับ Rostov-on-Don เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2017 การตัดสินใจดังกล่าวจัดทำโดยรัฐบาลแห่งภูมิภาค Rostov โดยพิจารณาจากผลการลงคะแนนเสียงที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2559 การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับชื่อสนามบินนั้นเกิดขึ้นในระดับรัฐบาลกลาง

ในปี 2012 ธนาคารกลางแห่งสหพันธรัฐรัสเซียได้ออกเหรียญ (2 รูเบิล เหล็กเคลือบกัลวานิกนิกเกิล) จากซีรีส์ "ผู้บัญชาการและวีรบุรุษแห่งสงครามรักชาติปี 1812" พร้อมรูปเหมือนของ Ataman Platov อยู่ด้านหลัง

การแนะนำ

1 ในช่วงเริ่มต้นกิจการทางทหาร

3 ผู้ก่อตั้ง Novocherkassk

4 สงครามรักชาติ พ.ศ. 2355

5 กลับไปที่โนโวเชอร์คาสค์

บทสรุป

การแนะนำ

มันเกิดขึ้นในวรรณคดีประวัติศาสตร์การวิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและจิตสำนึกสาธารณะที่ผู้ก่อตั้งเมือง Novocherkassk กองทัพ Ataman ที่มีชื่อเสียงระดับโลกผู้ถือคำสั่งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก Matvey Ivanovich Platov มีวันเกิดหลายวันในนั้น ความนิยมมากที่สุดคือสอง: 6 สิงหาคม 1753 และ 8 สิงหาคม 1753 ครั้งแรกที่เดินจากฉบับหนึ่งไปอีกฉบับจากผู้เขียนชีวประวัติคนแรก N. Smirnago ผู้เขียนหนังสือ“ ชีวิตและการหาประโยชน์จาก Count Matvey Ivanovich Platov” ประกอบด้วย 3 ส่วนและตีพิมพ์ในมอสโกสามปีหลังจากการตายของเขาคือ e. ในปี พ.ศ. 2364

จากเขาวันเกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2296 ย้ายไปทำงานของ L.M. Savelov, A. Strusevich, P.N. Krasnov และผู้เขียนก่อนการปฏิวัติคนอื่น ๆ และจากพวกเขาไปยังสารานุกรมและพจนานุกรมของสหภาพโซเวียต แต่ในช่วงทศวรรษ 1910 มีรายงานปรากฏว่าพบสมุดทะเบียนซึ่งมีการเปิดเผยวันเกิดที่แตกต่างกันของ M.I. ปลาโตวา “ ในความเป็นจริงเวลาเกิดของเขาเป็นที่ทราบแน่ชัด: ตามหนังสือเมตริกของโบสถ์เซนต์อัครสาวกเปโตรและพอลใน Cherkassk หน้า 1 เกี่ยวกับผู้ที่เกิดในปี 1973 ภายใต้หมายเลข 22 ปรากฏว่าหัวหน้าคนงาน Ivan Fedorov Platov มีวันที่ 8 สิงหาคมของปีนั้น ลูกชาย Matvey เกิด

นี่คือ Ataman ทหารในอนาคตที่ได้รับความรุ่งโรจน์ไม่เสื่อมคลายและชื่อเสียงไปทั่วโลกสำหรับตัวเขาเองและ Don ทั้งหมด" ต่อมานักประวัติศาสตร์นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบุคคลสาธารณะเช่น A.A. Kirillov, P.Kh. Popov และคนอื่น ๆ ก็ได้ปฏิบัติตามวันที่นี้

1 ในช่วงเริ่มต้นกิจการทางทหาร

ในตอนต้นของศตวรรษที่ 16 กลุ่มคนอิสระปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่กว้างใหญ่ของที่ราบดอนดอนเพื่อหนีจากการกดขี่ศักดินาที่ครองราชย์ในรัฐมอสโก ทุกคนที่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพเพียงนาทีเดียวมากกว่าหนึ่งปีแห่งชีวิตทาสก็หนีมาที่นี่ พวกเขาเริ่มถูกเรียกว่า "คอสแซค" - ผู้คนอิสระนักรบผู้กล้าหาญ

เมือง Cherkasy ซึ่งเป็นที่ที่ Matvey Platov เกิดก่อตั้งโดยพวกคอสแซคในปี 1570 และในปี 1644 ก็กลายเป็นเมืองหลวงของ Don - "กองทัพหลัก" วงแหวนคอซแซคดำเนินการที่นี่ - สภานิติบัญญัติที่สูงที่สุดของชาวดอน - จากที่นี่พวกคอสแซคออกเดินทางไปรณรงค์ทางทะเลและทางบกที่นี่พวกเขาจำช่วงเวลาแห่งอิสรภาพอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อพวกคอสแซคปกครองดอนเองโดยดำเนินชีวิตตามกฎของพวกเขาเอง และประเพณี ได้รับเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่นี่และส่งสถานทูตคอซแซคไปยังประเทศเพื่อนบ้านจากที่นี่ โบสถ์แห่งแรกบนดอน โรงเรียน อาจารย์ และแพทย์แห่งแรกปรากฏที่นี่ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัสเซียที่มีการแสดงความยินดีกับทหารเพื่อเป็นเกียรติแก่ Azov Victoria เหนือพวกเติร์กในปี 1696

ครอบครัว Platov ปรากฏตัวบนดอนเมื่อต้นศตวรรษที่สิบแปด พี่น้อง Platov หนึ่งในนั้นคือ Ivan Fedorovich พ่อของ Matvey มาที่ Cherkassk พร้อมกับแพไม้ที่ล่องแพไปตามดอน จากที่นี่ตามที่นักวิจัยระบุว่านามสกุลเกิดขึ้น - PLOTOV ซึ่งต่อมากลายเป็น PLATOV นามสกุลนี้มีชื่อเสียงในดอนในช่วงกลางศตวรรษที่สิบแปด ในเวลานี้เองที่ในหนังสือเมตริกสารภาพบาปของโบสถ์ปีเตอร์และพอลในเมือง Cherkassk พบชื่อของพี่น้อง Platov สามคน: Ivan, Dmitry และ Demyan Fedorovich พี่ชายคนโตคือ Ivan Fedorovich - พ่อของ Matvey ไม่ทราบปีเกิดของพ่อของฮีโร่ในอนาคต แต่จากภาพวาดสารภาพของโบสถ์ปีเตอร์และพอลสามารถสันนิษฐานได้ว่า Ivan Fedorovich เกิดระหว่างปี 1720 ถึง 1723

เมื่อมาถึงดอน ในไม่ช้า Ivan Platov ก็ออกจากงานฝีมือของช่างแพไม้และทำการค้าขายประมงที่มีกำไรมากขึ้น - และประมาณปี 1742 เขาก็เข้ารับราชการทหาร

ประการแรก Ivan Fedorovich อยู่กับกองทหารคอซแซคบนแนวไครเมียจากนั้นในจังหวัดที่เรียกว่าบอลติกจากนั้นในจอร์เจียจากที่ที่เขาถูกย้ายพร้อมกับกองทหารไปยังปรัสเซียที่ซึ่งการต่อสู้โหมกระหน่ำกับกองกำลังของกษัตริย์นักรบและปราชญ์ เฟรดเดอริกที่สอง ในฐานะส่วนหนึ่งของกองทหารคอซแซคภายใต้การบังคับบัญชาของ Ataman Stepan Efremov แห่งกองทัพ Don เขาเข้าร่วมในการรบหลายครั้งในสงครามครั้งนี้และมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในการรบที่ Kyustrin เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2301 ในด้านบริการ Platov Sr. เดินทางไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กหลายครั้ง จากนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคนเก็บภาษีจากชาวรัสเซียตัวน้อยที่เข้าร่วมกับ Don Cossacks

การบริการที่เป็นแบบอย่างของ Ivan Platov ได้รับการยอมรับอย่างสูงในเวลาต่อมาด้วยกระบี่ส่วนตัวสองอันและเหรียญเงิน ในช่วงต้นทศวรรษที่เจ็ดสิบเขาได้รับยศเป็นหัวหน้าทหารและไปกับกองทหารไปยังป้อมปราการ Petrovsky ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวเสริม Dnieper หนึ่งปีต่อมาเขาถูกย้ายไปลิทัวเนียซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้กับชาวโปแลนด์ในสงครามสมาพันธรัฐที่เรียกว่า ในระหว่างการจลาจล Pugachev เขาและกองทหาร Don Cossack ได้ครอบคลุมพื้นที่ Kolomensky, Kasimovsky และ Vladimirsky ที่นำไปสู่กรุงมอสโก Ivan Fedorovich เสียชีวิตหลังปี 1778 ด้วยยศนายกรัฐมนตรีในกองทัพรัสเซีย

ไม่มีการเก็บรักษารายละเอียดเกี่ยวกับชีวประวัติเกี่ยวกับ Anna Larionovna แม่ของ Matvey Platov ซึ่งเกิดในปี 1733 เป็นที่ทราบกันเพียงว่าเธอถูกฝังอยู่ในหมู่บ้าน Starocherkasskaya ในสุสานของโบสถ์ Transfiguration

นอกจาก Matvey คนโตแล้ว ยังมีลูกชายอีกสามคนที่เติบโตในครอบครัว Platov Stefan อายุน้อยกว่า Matvey เก้าปี Andrei และ Peter อายุน้อยกว่าพี่ชายสิบสองและสิบห้าปีตามลำดับ

ตั้งแต่สมัยโบราณ Don Cossacks มีพิธีกรรมที่แปลกประหลาดในการเฉลิมฉลองการเกิดลูกคนแรกในครอบครัวดังนั้นเมื่อ Matvey เกิดมาเพื่อ Platovs ญาติและคอสแซคที่คุ้นเคยก็มาเยี่ยมพวกเขา พวกเขาแต่ละคนนำสิ่งของบางอย่างมาไว้สำหรับฟันของทารกแรกเกิด: ลูกศร, กระสุน, คันธนูและพี่น้องของ Ivan Fedorovich นำปืนมาให้หลานชายของพวกเขา พ่อที่พอใจจะวางสิ่งของเหล่านี้และแขวนไว้ในห้องที่ทารกแรกเกิดนอนอยู่

สี่สิบวันผ่านไปหลังจากการประสูติของ Matvey Anna Larionovna ไปที่โบสถ์ของ Peter และ Paul ซึ่งลูกชายของเธอรับบัพติศมาและเข้าร่วมพิธีกรรมการสวดภาวนาเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ เมื่อกลับถึงบ้านตามธรรมเนียมของคอซแซค สามีของเธอทักทายเธออย่างสนุกสนานและแสดงความยินดีกับลูกชายคนแรกของเธอ อีวาน เฟโดโรวิชอุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างระมัดระวัง ใส่ดาบใส่เขาอย่างระมัดระวัง และถึงแม้ภรรยาของเขาจะประท้วง แต่ก็ให้ลูกชายของเขาขี่ม้า: นี่เป็นประเพณีคอซแซคโบราณ!

เมื่อ Matvey ตัดฟันซี่แรก พ่อและแม่ของเขาจึงขี่ม้าพาเขาไปที่โบสถ์ปีเตอร์แอนด์พอล ซึ่งพวกเขาเป็นนักบวชประจำ ที่นี่นักบวชทำหน้าที่สวดมนต์ต่อหน้าไอคอนของจอนนักรบซึ่งพ่อขอให้ทำให้ลูกชายของเขาเป็นนักรบคอซแซคที่กล้าหาญกล้าหาญและประสบความสำเร็จและขอให้เขามีอายุยืนยาว Ivan Fedorovich กำกับการเลี้ยงดูลูกชายของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเขาอยู่ที่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่า Matvey กลายเป็นนักรบที่แท้จริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่คำแรกที่เขาพูดคือ "pu" - ยิงและ "chu" - ขับรถ เมื่ออายุได้สามขวบ Matvey ก็ขี่ม้าไปรอบ ๆ สนามหญ้าเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ ของเขาและเมื่ออายุได้ห้าขวบเขาก็ขี่ม้าไปตามถนนอย่างไม่เกรงกลัวและมีส่วนร่วมในการซ้อมรบของเด็ก ๆ

ชีวิตในเมืองหลวงคอซแซคในเวลานั้นน่าสนใจและแปลกตา จิตใจที่อยากรู้อยากเห็นและความไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทำให้ Matvey ต้องไปเยือนส่วนต่างๆ ของเมืองบ้านเกิดของเขา สังเกตชีวิตที่มีชีวิตชีวาของเมืองนี้ และมีส่วนร่วมด้วยตัวเขาเอง มันน่าสนใจเป็นพิเศษในช่วงวันหยุด Matveyka ที่ว่องไววิ่งไปรอบ ๆ ถนนทุกสายของ Cherkassk ในวันดังกล่าว ทุกที่ที่เขาพบกับคอสแซคและผู้หญิงคอซแซคที่แต่งกายตามเทศกาล เยาวชนฝึกมวยปล้ำ เล่นลูกบอล กบกระโดด บับกิ และไอดันจิกิ (กระดูกเล็กๆ ที่ทำจากขาแกะ) คอสแซคผู้ใหญ่รวมตัวกันเป็นวงกลมและเพลงเกี่ยวกับพ่อเงียบดอนก็ไหลไปทั่วเมือง

เนื่องจากถนนใน Cherkassk นั้นเล็กเกินไปสำหรับเด็กผู้ชายและชายหนุ่มที่ร่าเริงและกระตือรือร้น กลุ่มเด็ก ๆ จึงออกนอกเมืองไปที่สวนหน้าบ้านและกำแพงป้อมปราการ ที่นี่พวกเขากำหนดเป้าหมาย และบางคนก็มีปืน บางคนก็มีธนู ต่างก็แข่งขันกันในเรื่องความแม่นยำในการยิง ชายหนุ่มที่แม่นยำเป็นพิเศษบางคนสามารถเคาะเหรียญขนาดใหญ่ด้วยกระสุนจากระยะไกลได้ ซึ่งสหายผู้กล้าหาญของเขาถือนิ้วไว้เหนือหัว หลังจากการยิง ก็มีการต่อสู้ปลอมเกิดขึ้น

เด็กเล็กจำนวนมากในชุดเกราะทหารทำเอง พร้อมป้ายที่ทำจากกระดาษทาสี พร้อมด้วยหอกของเล่น ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม แต่ละคนมีหัวหน้าของตัวเอง ตามป้ายจากผู้พิพากษาจากคอสแซคที่เป็นผู้ใหญ่ ทั้งสองกองกำลังมาบรรจบกันในการต่อสู้แบบประชิดตัว บ่อยครั้งที่เด็กๆ รู้สึกตื่นเต้นมาก และบางครั้งการต่อสู้ก็พลิกผันอย่างรุนแรง ในที่สุดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของการต่อสู้ได้และวิ่งหนีไป “ผู้ชนะ” ไล่ตาม “ศัตรู” จับ “นักโทษ” และยึดถ้วยรางวัลและธง เมื่อได้ยินเสียงกลองและเสียงฉาบประโคมพวกคอสแซคก็เข้ามาในเมืองโดยได้รับคำชมจากผู้เฒ่า

ในเวลานั้นคอสแซคจัดการแข่งม้าด้วยความเคารพอย่างสูงซึ่งจัดขึ้นหลายครั้งในบริเวณใกล้เคียงกับเชอร์คัสสค์ ผู้ชนะการแข่งขันได้รับชื่อเสียงและความนิยมในหมู่คอสแซค เด็กคอซแซคแสดงการแข่งขันไปตามถนน ในบ้านทุกหลังตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ได้ยินเสียงปืนยาว ปืนพก และปืนใหญ่ขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ไม่มีอาวุธเจาะ "เมล็ด" เข้าไปในกระดูกเปล่าของสัตว์ใหญ่หรือต้นกก

องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ประการหนึ่งของการศึกษาทางทหารในหมู่ดอนคอสแซคคือเกมล่าสัตว์บนหลังม้า เธอมีส่วนในการพัฒนาการขี่ม้าที่คล่องแคล่วและการยิงที่แม่นยำจากอาวุธต่าง ๆ ในเด็กเล็ก รอบบ้านเกิดของ Matvey Platov มีพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งพบกระต่าย สุนัขจิ้งจอก หมาป่า หมูป่า เสือดาว กวาง และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ มากมาย คอสแซคหลายร้อยคนรวมตัวกันเพื่อตามล่าซึ่งโดยปกติแล้วจะเปิดด้วยปืนไรเฟิลสามนัด การล่าสัตว์พัฒนาขึ้นในสายตาของคอสแซครุ่นเยาว์ ความไวของหู ความแม่นยำและความมั่นคงของมือ ความกล้าหาญและความกล้าหาญ

ในช่วงเวลาพักผ่อนและความบันเทิง พวกคอสแซคแบ่งออกเป็นกลุ่ม ตั้งโล่พร้อมเป้าหมาย และเริ่มยิงธนูและปืนไรเฟิลใส่พวกเขา เด็กๆ ยังเล่นเกมเคียงข้างผู้ใหญ่ด้วย ผู้เข้าร่วมที่ขาดไม่ได้ของพวกเขาคือ Matveyka Platov ที่ขี้เล่นและฉลาดเกินวัย

คอสแซคดูแลการเติมเต็มการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อจุดประสงค์นี้ตามคำสั่งของ Ataman ทหารคอสแซครุ่นเยาว์จึงรวมตัวกันเป็นประจำทุกปีเพื่อตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียงกับเมือง Cherkassy พวกเขามาถึงด้วยม้าที่ดีที่สุด พร้อมด้วยหอก ดาบ และปืน ในที่โล่งอันกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของ Don Cossacks มีการตั้งแคมป์และที่นี่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ต่อหน้าหัวหน้าทหาร Stepan Danilovich Efremov เกมสงครามก็เกิดขึ้น คอสแซครุ่นเยาว์กลุ่มหนึ่งแข่งขันกันในการแข่งม้าโดยทดสอบความเร็วของม้าและทักษะของผู้ขับขี่ความคล่องตัวของเขา เด็กคนอื่นๆ ควบม้าเต็มที่ก็ยิงเข้าที่เป้าหมาย หรือขว้างแส้หรือเหรียญใหญ่ใส่เสื้อคลุมที่กางอยู่บนพื้นแล้วหยิบขึ้นมาควบม้า คอสแซคจำนวนมากที่ยืนอยู่บนหลังม้าสามารถโจมตีศัตรูได้โดยยิงจากปืนและธนู

ทหารม้าคอซแซครีบวิ่งลงไปในแม่น้ำราวกับหิมะถล่มอย่างรวดเร็ว พยายามเอาชนะมันอย่างรวดเร็วและโจมตี "ศัตรู" Ataman มอบบังเหียนหรืออาวุธให้กับคอสแซคที่มีความโดดเด่นในด้านนักแม่นปืน รางวัลเหล่านี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากชาวดอนเพราะพวกเขาบ่งบอกถึงความแม่นยำความชำนาญและความกล้าหาญของเจ้าของซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักที่ได้รับการเคารพและเห็นคุณค่าอย่างมากในหมู่คอสแซค

เมื่อเริ่มค่ำการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นก็เริ่มขึ้น - การชกต่อย ผู้ชนะจะได้รับรางวัลตามธรรมเนียม

นี่คือวิธีที่ Platov รุ่นเยาว์เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตการต่อสู้ในอนาคตของเขา พ่อแม่ของเขาไม่ใช่คนรวยจึงไม่สามารถให้การศึกษาที่ดีแก่ลูกชายได้ และในขณะนั้นไม่มีโรงเรียนถาวรบนดินแดนดอน แต่ดังที่ N. Smirny ผู้เขียนชีวประวัติของ Platov ตั้งข้อสังเกต Matvey เรียนรู้ที่จะอ่านและเขียน ตั้งแต่วัยเด็กเขาโดดเด่นด้วยความชำนาญความทะเยอทะยานความกล้าหาญและความเฉียบแหลมของจิตใจ พ่อแม่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเลี้ยงดูลูกชายด้วยจิตวิญญาณแห่งความรักต่อดินแดนบ้านเกิดของเขาและประเพณีการต่อสู้อันรุ่งโรจน์ของดอนคอสแซค และความพยายามของพวกเขาก็ไม่ไร้ประโยชน์ Matvey เติบโตขึ้นมาเป็นคอซแซคผู้กล้าหาญและกล้าหาญผู้รักชาติที่แท้จริงของ Don และรัสเซีย

เมื่ออายุได้สิบห้าปี Matvey ได้รับมอบหมายให้รับราชการในทำเนียบทหารและในไม่ช้าเขาก็ได้รับยศตำรวจ ตลอดเวลานี้เขาอ่านมากเพื่อพัฒนาความรู้ของเขา ผู้เขียนชีวประวัติของ Ataman ที่มีชื่อเสียง Nikolai Smirny ตั้งข้อสังเกตว่า "โรงเรียนดังกล่าวไม่ด้อยกว่าโรงเรียนอื่นใดในไม่ช้าก็สร้างนักรบที่มีการศึกษาพอสมควรจากคอซแซคธรรมดา ๆ ขัดเกลาเขาพัฒนาความสามารถของเขาและเตรียมเขาให้พร้อมสำหรับฮีโร่ในอนาคต"

ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ในประวัติศาสตร์ของรัฐรัสเซียมีลักษณะเฉพาะประการแรกคือสงครามที่ดุเดือดและยาวนานซึ่งศัตรูของตนยืดเยื้อด้วยความดื้อรั้นชั่วนิรันดร์ - ออตโตมันพอร์ต, Sublime Porte ตามที่รัฐบุรุษชอบ โทรไปตุรกี ในเวลานี้ ปัญหาทะเลดำมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับรัสเซีย ประชากรชาวรัสเซียและการตั้งอาณานิคมของเจ้าของที่ดินในรัสเซียซึ่งพัฒนาดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ทางตอนใต้ของรัสเซียค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังเขตแดนของไครเมียคานาเตะ แต่การพัฒนาสเตปป์ทางตอนใต้ของรัสเซียนี้ถูกขัดขวางอย่างต่อเนื่องจากการจู่โจมและโจมตีของตุรกี - ตาตาร์เกือบไม่หยุดหย่อน สำหรับพ่อค้าและขุนนางชาวรัสเซียในเวลานี้ การเข้าถึงทะเลดำเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ความต้องการที่ยังไม่เพียงพอเนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอของประชากรรัสเซีย มีความสำคัญและจำเป็นมากขึ้น ท่าเรือทางตอนเหนือของรัสเซียไม่สามารถตอบสนองความต้องการของการส่งออกของรัสเซียได้อีกต่อไป นอกจากนี้ตลาดการขายหลักไม่ได้อยู่ทางภาคเหนือ แต่อยู่ในประเทศแถบทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่พวกเติร์กไม่อนุญาตให้พ่อค้าชาวรัสเซียเข้าไปในทะเลดำ ยังคงมีเส้นทางการค้าทางบกผ่านโปแลนด์ แต่การค้าดังกล่าวไม่ได้ผลกำไรอย่างยิ่งดังนั้นจึงไม่ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม กุญแจสำคัญของทะเลดำคือไครเมีย ดังนั้นปัญหาทั้งหมดเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซีย หรือโดยการให้ไครเมียคานาเตะเป็นเอกราชจากตุรกี ซึ่งเริ่มก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากฝรั่งเศส ซึ่ง เกรงว่ารัสเซียจะแข็งแกร่งขึ้นในยุโรปตะวันตกและตะวันออกกลาง

สงครามรัสเซีย - ตุรกีในปี ค.ศ. 1735-1739 ไม่ได้แก้ปัญหานโยบายต่างประเทศที่รัสเซียเผชิญอยู่ สงครามครั้งใหม่กับตุรกีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และหนึ่งในสงครามเหล่านี้ก็ได้อุบัติขึ้น...

ในฤดูหนาวปี พ.ศ. 2312 ทหารม้าตาตาร์ได้โจมตียูเครนและดอนตอนล่างโดยไม่คาดคิดและทำลายล้าง ปฏิบัติการทางทหารที่แข็งขันของกองทหารรัสเซียเริ่มต้นขึ้นเพื่อต่อต้านพวกเติร์กและตาตาร์ เพื่อต่อสู้กับตุรกี กองบัญชาการของรัสเซียได้จัดตั้งกองทัพสองกองทัพขึ้นภายใต้การบังคับบัญชาของหัวหน้านายพล P.A. Rumyantsev และ A.M. โกลิทซิน. กองทัพเหล่านี้รวม Don Cossacks มากถึงหมื่นคนภายใต้การบังคับบัญชาของ Atamans ที่เดินทัพ Sulin, Pozdeev, Grekov และ Martynov

สงครามพบ Matvey Platov วัยสิบเก้าปีบนชายฝั่งทะเล Azov ซึ่งตามคำสั่งของพ่อของเขาซึ่งอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเขาดูแลฟาร์มประมงของเขา Matvey ตัดสินใจว่าหน้าที่ของเขาในฐานะคอซแซคต้องทำสงคราม! ออกจากฟาร์มภายใต้ความดูแลของเสมียน เขาขี่ม้าเร็วไปยัง Cherkassk ซึ่งเขาเข้าร่วมกับกองทหารคอซแซคที่กำลังจะออกจากโรงละครปฏิบัติการทางทหาร สู่การต่อสู้และเกียรติยศ...

กองทัพที่ Matvey มาถึงในเวลานั้นได้รับคำสั่งจากหัวหน้าพล. Dolgorukov ซึ่ง Platov เป็นผู้สืบทอดในตอนแรก จากนั้นเขาก็ย้ายไปที่กองทหารประจำการและในคืนวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2314 ได้เข้าร่วมในการโจมตีเปเรคอป Evpatoria ตกอยู่ภายใต้การโจมตีของชาวรัสเซียในวันที่ยี่สิบสองของเดือนมิถุนายนและ Kafa ในวันที่ยี่สิบเก้า เมื่อปลายเดือนนั้น แหลมไครเมียตกอยู่ในมือของกองทหารรัสเซีย และข่าน ซาฮิบ-กิเรย์ถูกบังคับให้ลงนามในข้อตกลงซึ่งเขาตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย

สำหรับความแตกต่างในการต่อสู้กับคนนอกศาสนา Platov วัยยี่สิบสองปีได้รับตำแหน่งกัปตัน หนึ่งปีต่อมาเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นจ่าสิบเอกโดยเป็นผู้บังคับบัญชากองทหารคอซแซค

และการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ร่วมกับกองทหารของ Uvarov, Bukhvostov และ Danilov, Platov โจมตีกองกำลังข้าศึกที่เหนือกว่าซึ่งกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ของเมือง Kopyl การต่อสู้ที่ดุเดือดจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Circassians และการยึด Kopyl นอกเหนือจากจำนวนนักโทษแล้ว ผู้ชนะยังได้รับปืนใหญ่ที่ใช้งานได้อีกสี่กระบอก ซึ่งด้วยความยินยอมทั่วไป Platov จึงส่งไปยัง Cherkassk เพื่อเสริมสร้างเมืองบ้านเกิดของเขา

การจับกุม Kopyl ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพที่สองนายพล Dolgorukov ผู้ซึ่งได้รับคำสั่งพิเศษสำหรับกองทัพได้ประกาศ "ความกตัญญูที่ละเอียดอ่อนที่สุด" ต่อกองทหารที่เข้าร่วมในเรื่องที่ร้อนแรงนี้

การรณรงค์ทางทหารในปี พ.ศ. 2314 ทำให้รัสเซียประสบความสำเร็จที่สำคัญหลายประการซึ่งบังคับให้คำสั่งของตุรกีขอการสู้รบลงนามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2315 ในเมือง Zhurzh และกินเวลาหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้กองทหารของ Platov ถูกย้ายไปยัง Kuban

ในปี ค.ศ. 1774 M.I. เป็นครั้งแรกที่ Platov แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่น่าทึ่งของผู้นำทางทหารที่เลือดเย็นและมีทักษะซึ่งไม่เสียหัวเมื่อกองทหารและขบวนของเขาถูกซุ่มโจมตีในคูบาน

เขาสร้างเกวียนป้องกันอย่างรวดเร็วและต่อสู้กับพวกเติร์กแห่ง Khan Devlet-Girey ซึ่งมีจำนวนมากกว่าคอสแซคมากกว่า 20 เท่าจนกระทั่งกองทหารคอซแซคเรียกความช่วยเหลือมาถึง พวกเติร์กพ่ายแพ้ และในไม่ช้าข่านก็ถูกจับในข้อหาพ่ายแพ้และถูกนำตัวไปยังสุลต่านตุรกีในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ในปี ค.ศ. 1775-1776 พ่อและลูกชาย Platov ติดตามการปลดประจำการของ E. Pugachev ที่กระจัดกระจายในเขตทางตอนกลางของรัสเซีย โดยจับหนึ่งในผู้นำ Rumyanchikhin และชาว Pugachev มากถึง 500 คน ด้วยเหตุนี้ Platov พ่อและลูกชายจึงได้รับเหรียญทอง นี่เป็นหนึ่งในรางวัลสำคัญครั้งแรกของ Matvey Platov นอกจากนี้เขายังมีความโดดเด่นในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2332 เมื่ออยู่ในยุทธการที่กูซานีเขาสามารถเอาชนะกองกำลังเติร์กจำนวนมากและยึดกลุ่มมหาอำมาตย์เซย์นัล-ฮัสซันเบย์สามกลุ่มแห่งอนาโตเลียได้ สำหรับความสำเร็จนี้ M.I. Platov ได้รับยศเป็นนายพลจัตวาในกองทัพรัสเซีย

2 Platov ทำให้ข้าราชบริพารไม่พอใจหรือไม่?

ประสบการณ์การต่อสู้และการบริหารที่สั่งสมมาได้ส่งเสริมผู้บัญชาการคอซแซครุ่นเยาว์ที่มีความสามารถให้กลายเป็นผู้จัดทิศทางใหม่สำหรับคอสแซค ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2331 เจ้าชาย Gr. Potemkin สั่งให้ M.I. ปลาตอฟเตรียมเลือก 5,000 คนภายใน 3 เดือน สำหรับการจัดตั้งกองทหารคอซแซคใหม่หลายแห่งที่เรียกว่าสโลโบดายูเครน Platov เรียกจ่าทหาร 4 นาย เจ้าหน้าที่ระดับล่าง 7 นาย และคอสแซคที่ดีที่สุด 507 นายจากดอน มาช่วยเขาในฐานะผู้สอน เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมเขาได้รายงานต่อ Prince Gr. Potemkin เกี่ยวกับกองทหารคอซแซคที่จัดตั้งขึ้น กองทัพคอซแซคใหม่เรียกว่า Ekaterinoslav และ M.I. สำหรับความเป็นผู้นำที่มีทักษะ Platov ได้รับแต่งตั้งให้เป็น Troop Ataman (1790) และได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัล Order of St. วลาดิมีร์ระดับ 4

ด้วยกองทหารคอซแซคที่จัดตั้งขึ้นใหม่ M.I. ปลาตอฟไปอยู่ในกองทัพของ A.V. Suvorov ใกล้กับอิซมาอิล เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่สภาทหาร เขาเป็นคนแรกที่ลงคะแนนเสียงให้โจมตีป้อมปราการตุรกีที่มีป้อมปราการแน่นหนาทันที ซึ่งเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยโจมตีที่ 5 เมื่อเสาโจมตีที่อยู่ใกล้เคียงของ Orlov เริ่มตายและคอสแซคของเสาของเขาหยุดด้วยความไม่แน่ใจ Matvey Platov เป็นคนแรกที่ปีนบันไดจู่โจมขึ้นไปบนกำแพงป้อมปราการและด้วยเหตุนี้จึงจุดไฟแห่งชัยชนะให้กับ Donets และเรนเจอร์ของเขา

สำหรับการโจมตีและจับกุม Izmail M.I. Platov ได้รับรางวัล Order of St. จอร์จระดับ 3 และเมื่อสิ้นสุดการรณรงค์ทางทหารครั้งนี้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพลตรี เจ้าชาย Gr. Potemkin อธิบายการกระทำของเขาใกล้กับอิซมาอิลดังนี้: “ Platov ปรากฏตัวทุกที่และเป็นตัวอย่างของความกล้าหาญ” ทั้งหมดนี้ทำให้ Potemkin ในปี พ.ศ. 2334 สามารถแนะนำฮีโร่หนุ่มให้รู้จักกับจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 11 ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งด้วยความเฉลียวฉลาดและไหวพริบของเขาเขาได้รับสิทธิ์ในการอยู่ในวังของเธอระหว่างการเยือน Tsarskoe Selo จากเธอ

ปีหน้า M.I. Platov ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบในแนวคอเคเซียนแล้ว ในปี พ.ศ. 2339 ตามแนวคิดของเจ้าชาย P.A. Zubov กองทหารรัสเซียได้ย้ายไปพิชิตเปอร์เซียโดยมีโอกาสที่จะไปถึงทิเบต Matvey Ivanovich ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากองทหารที่ผิดปกติ (เช่นคอซแซค) ของกองทัพ Zubov สำหรับการปฏิบัติการทางทหารที่กระตือรือร้นและมีทักษะใกล้ Derbent นั้น M.I. Platov ได้รับรางวัล Order of Vladimir ระดับที่ 2 และยังได้รับจากจักรพรรดินีแคทเธอรีน 11 "ดาบอันงดงามในฝักกำมะหยี่ กรอบทองคำ พร้อมเพชรขนาดใหญ่และมรกตหายาก" ซึ่งก็คือ ปัจจุบันจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ดอนคอสแซค

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของแคทเธอรีนที่ 11 (พ.ศ. 2339) จักรพรรดิพอลที่ 1 เสด็จขึ้นครองบัลลังก์ ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยและไม่เห็นด้วยกับผู้ร่วมงานทั้งหมดของจักรพรรดินี เช่น Gr. Potemkin, จอมพล A.V. Suvorov และคนอื่น ๆ เขาส่ง P.A. Zubov ไปต่างประเทศและเรียกคืนกองทัพของเขาจากชายแดนเปอร์เซีย ดังนั้นในปี พ.ศ. 2340 M.I. Platov ได้รับอนุญาตให้กลับไปที่ดอน แต่ผู้คนที่อิจฉาในเมืองหลวงและบนดอนโดยใช้ทัศนคติที่ไม่ดีของพอล 1 ที่มีต่อเพื่อนร่วมงานของแคทเธอรีน 11 ทำให้จักรพรรดิตัดสินใจตัดสินใจว่าจำเป็นต้องจับกุม M.I. ปลาโตวา พาเวล 1 ไล่ M.I. Platov จากการรับราชการทหารโดยมีใบรับรองลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2340 และสั่งให้ส่งเขาไปที่ Don ภายใต้การดูแลของ Military Ataman Orlov แต่ในไม่ช้ามาตรการจับกุมนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยการเนรเทศไปยังเมืองคอสโตรมา

เนื่องจากศาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไม่ตัดสินว่า Platov มีความผิดเป็นพิเศษ อาวุธส่วนตัวของเขา รวมถึงดาบต่อสู้จึงถูกส่งคืนให้เขา เมื่อรับเธอ Matvey Ivanovich กล่าวว่า: "เธอจะช่วยฉันพิสูจน์ตัวเอง" หรือ "เธอจะพิสูจน์ฉัน" โดยธรรมชาติแล้ว ผู้ให้ข้อมูลตีความคำเหล่านี้กับ Pavel 1 ทันทีว่าเป็นภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ต่อจักรพรรดิ แม้ว่า Platov น่าจะหมายความว่า "แฟนสาว" ที่ต่อสู้ของเขาจะช่วยให้เขาแสดงคุณสมบัติที่ดีที่สุดของเขาอีกครั้งในฐานะผู้บัญชาการที่มีทักษะและได้รับความไว้วางใจจาก Pavel 1 กลับคืนมา เฉพาะวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2343 M.I. Platov ออกจาก Kostroma แต่ไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่ถูกส่งไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

หลังจากจำคุก 3 ปี 9 เดือน M.I. Platov ไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่ตามคำสั่งของ Paul 1 เขาถูกจำคุกใน Alekseevsky ravelin ของป้อม Peter และ Paul แต่ควบแน่นเหนือ M.I. ในไม่ช้าเมฆ Platovo ก็เคลียร์ด้วยต้องขอบคุณ Paul 1 คนเดียวกันซึ่งหลังจากทำสนธิสัญญากับนโปเลียนแล้วจึงตัดสินใจต่อสู้กับอังกฤษในดินแดนอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขานั่นคือ อินเดีย. ดังนั้นในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2344 จักรพรรดิจึงส่งคำสั่งถึงดอนเกี่ยวกับการเดินทัพของคอสแซคในทันทีและเสร็จสมบูรณ์ซึ่งนำโดย Ataman Orlov ในการรณรงค์ต่อต้านอินเดีย Donets ได้รับเงินกู้จำนวน 2.5 ล้านรูเบิลดังนั้นหลังจากการรณรงค์และยึดของโจรในอินเดียพวกเขาจะคืนเงินกู้ทั้งหมดเข้าคลังโดยเหลือเพียงเพนนี

จากการรณรงค์ที่เกิดขึ้นใหม่ Pavel 1 ได้ปล่อยตัว M.I. Platov ได้สนทนาเป็นการส่วนตัวกับเขาเกี่ยวกับการรณรงค์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เขาพอใจราวกับมีทัศนคติที่ดีและมอบไม้กางเขนของผู้บัญชาการแห่งมอลตา (นักบุญยอห์นแห่งเยรูซาเล็ม) ให้กับเขาเป็นการส่วนตัว ได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากจักรพรรดิ M.I. Platov กลับไปที่ Don อย่างรวดเร็วและเมื่อได้รับกองทหาร 13 กองแรกจาก Ataman Orlov (จากที่ 41 ที่วางแผนไว้สำหรับการรณรงค์) รวมถึงปืนใหญ่ 12 กระบอกออกเดินทางในการรณรงค์ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2344 . แต่ในวันที่ 23 มีนาคมเมื่อพวกคอสแซคต้องทนทุกข์ทรมานจากการเดินขบวนในแต่ละวันที่เหน็ดเหนื่อยมาหลายวันแล้วทันใดนั้น Platov ก็ถูกผู้ส่งสารจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กตามทัน นำข่าวการเสียชีวิตของ Paul 1 และการภาคยานุวัติของ Alexander 1 ซึ่งยกเลิก คำสั่งของเปาโลที่ 1 ให้เดินทัพไปยังอินเดีย พวกคอสแซคกลับมาหาดอนอย่างมีความสุข

ตามคำสั่งของวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2344 จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แต่งตั้ง M.I. Platov (“ หลังจากการสิ้นพระชนม์ของ Orlov”) เป็นกองทหาร Ataman Matvey Ivanovich เข้าร่วมในพิธีราชาภิเษกของ Alexander 1 ซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. แอนนา ระดับ 1 Ataman ใช้การไปเยือนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของเมือง Cherkassk ซึ่งปัญหาหลักคือน้ำท่วมเมืองหลวงคอซแซคประจำปี อเล็กซานเดอร์ 1 อนุญาตให้ M.I. Platov ดำเนินงานขนาดใหญ่เพื่อปกป้อง Cherkassk จากแหล่งน้ำฤดูใบไม้ผลิรวมถึงการเคลียร์ปากแม่น้ำ Don เพื่อให้น้ำที่ละลายได้ระบายลงสู่ทะเล Azov มากขึ้นและจะท่วม Cherkassk น้อยลง วิศวกร เดอ โรมาโน จัดงานป้องกันน้ำในปี 1802 แต่พวกเขาให้เพียงเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยของ Cherkassy ดังนั้น M.I. Platov จึงค่อยๆมีแนวคิดที่จะย้ายเมืองหลวงของคอซแซคไปยังที่อื่น

Platov Cossacks อาตามัน

3 ผู้ก่อตั้ง Novocherkassk

ด้วยคำสั่งลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2347 อเล็กซานเดอร์ 1 อนุญาตให้โอนเมืองหลวงโดยต้องเลือกสถานที่ที่สะดวกและผังเมืองถูกร่างโดยวิศวกรทหาร นายพล F.P. ดีโวแลน. และเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2347 จักรพรรดิได้อนุมัติ M.I. ที่ได้รับเลือก สถานที่ Platov และผังเมืองที่พัฒนาโดย F.P. ดีโวแลน. เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2348 มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เพื่ออุทิศสถานที่ก่อตั้ง New Cherkassk บนเนินเขาที่เรียกว่า Biryuchiy Kut (ถ้ำหมาป่า)

สำหรับการก่อสร้างและการจัดเตรียม M.I. Platov ได้จัดตั้งกองทหารทำงานคอซแซคสองคนเชิญสถาปนิก Russko วิศวกร - พันโท Peyker และคนอื่น ๆ จากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กขอให้หมู่บ้าน Don หลายแห่งจัดหาวัสดุธรรมชาติให้กับ Novocherkassk เช่น ไม้ หินในท้องถิ่น หินปูน ฯลฯ . ง. ชาวคอสแซคลังเลที่จะออกจากบ้านเรือนและไร่นาใน Cherkassk แต่กองทัพ Ataman ก็ไม่หยุดยั้ง และค่อยๆ เมืองใหม่ที่สร้างขึ้นตามแบบจำลองการวางผังเมืองแบบยุโรปที่ทันสมัยที่สุดก็เต็มไปด้วยชีวิต

ในเวลาเดียวกัน M.I. Platov มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเสริมสร้างการปกครองของพลเมืองในกองทัพการเปิดใน Cherkassk ในปี 1805 ของโรงยิมชายแห่งแรกบน Don การสร้าง Society of Don Trade Cossacks (12 กันยายน 1804) จุดเริ่มต้นของ การก่อสร้างอาสนวิหารหิน Ascension ใน Novocherkassk การตั้งถิ่นฐานใหม่ของ Kalmyks ไปยังสเตปป์ Zadonsk และการจัดหมู่บ้าน Kalmyk เป็นต้น

4 สงครามรักชาติ พ.ศ. 2355

แต่เหตุการณ์ทางการเมืองไม่อนุญาตให้ความสามารถในการบริหารของ Military Ataman M.I. พัฒนาเต็มศักยภาพ ปลาโตวา ในปี ค.ศ. 1805 สงครามกับนโปเลียนเริ่มขึ้นในยุโรป Platov กับกองทหาร Don Cossack ถูกเรียกตัวไปที่ชายแดนออสเตรีย แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบอย่างไรก็ตามเขาได้รับรางวัล Order of St. อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้. ในปี 1806 ในระหว่างการรณรงค์ของกองทัพปรัสเซียน M.I. Platov แสดงความสามารถพิเศษของเขา ดังนั้นในระหว่างการโจมตีเขาจึงสามารถยึดเมือง Preussisch-Eylau ที่มีป้อมปราการอย่างดีและยึดชาวฝรั่งเศสได้มากกว่า 3,000 คน ในไม่ช้าในยุทธการที่ไฮเซลเบิร์ก เขาสามารถส่ง "ทหารม้าฝรั่งเศสทั้งหมด" ขึ้นบิน ทำลายกองทหารราบของศัตรู และในตอนเย็นก็ยึดครองเมือง ข้ามแม่น้ำอัลเล และเผาสะพานทั้งหมด

บ่อยครั้งที่เขาต้องชักนำศัตรูให้เข้าใจผิดด้วยการจุดไฟหลายดวงรอบเมืองที่เขาปิดล้อม เคล็ดลับนี้ได้ผล การต่อต้านของฝรั่งเศสอ่อนกำลังลงและ Platov ก็ยึดเมืองได้ทีละเมือง เมื่อสันติภาพสิ้นสุดลง M.I. Platov ได้รับเครื่องหมายเพชรสำหรับ Order of Alexander Nevsky และกล่องยานัตถุ์อันล้ำค่าที่มีใบหน้าของ Alexander 1 และกษัตริย์ปรัสเซียนได้มอบรางวัล Don the Order of the Red and Black Eagle ที่กล้าหาญตลอดจน Snuffbox ด้วยภาพลักษณ์ของเขา M.I. Platov โดดเด่นด้วยความจริงที่ว่าเขายื่นคำร้องอย่างต่อเนื่องและได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่คอซแซคที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งจากกษัตริย์ปรัสเซียน

เป็นที่น่าสนใจว่าหลังจากการสรุปสันติภาพกับนโปเลียนในปี 1807 และการพบกันของจักรพรรดิที่ทำสงครามในเมือง Tilsit รัฐ M.I. Platov ปฏิเสธที่จะยอมรับคำสั่งจากจักรพรรดิฝรั่งเศส: “ ฉันจะไม่ยอมรับมัน: ทำไมเขาถึงให้รางวัลฉัน: ฉันไม่ได้รับใช้เขาและฉันไม่สามารถรับใช้เขาได้” และเมื่อถูกถามว่าเขาชอบนโปเลียนหรือไม่ ซึ่ง M.I. Platov เขาตอบว่า:“ ฉันไม่ได้มองจักรพรรดิของคุณเลย ไม่มีอะไรผิดปกติในตัวเขา: ฉันกำลังมองม้าเหมือนนักเลงฉันอยากจะเดาว่ามันเป็นสายพันธุ์อะไร” ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนโปเลียนสำหรับการยิงธนูที่ยอดเยี่ยมซึ่งแสดงโดย M.I. Platov ตามคำยืนกรานของ Alexander 1 ได้มอบกล่องดมกลิ่นด้วยอัญมณีล้ำค่าและรูปเคารพของเขาให้กับเขา ต่อมาปลาตอฟได้ "ทุบหินออก" และ "แทนที่ภาพเหมือนของนโปเลียนด้วยจี้บางอย่าง"

ในปี พ.ศ. 2352 M.I. Platov ร่วมกับ Alexander 1 ในการประชุมของ Sejm ของฟินแลนด์ใน Borgo หลังจากนั้นเขาได้รับการปล่อยตัวไปที่ Don แต่ในไม่ช้าก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกองทัพมอลโดวา ด้วยจุดเริ่มต้นของการสู้รบกับพวกเติร์ก M.I. Platov ยึดเมือง Girsovo ได้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. วลาดิมีร์ระดับ 1 และในวันที่ 4 กันยายนเอาชนะกองกำลังเติร์กขนาดใหญ่ที่ Rassvevat เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2352 เขาเอาชนะกองทหารตุรกีที่แข็งแกร่งจำนวนห้าพันนายระหว่าง Silistria และ Rushchuk ซึ่งเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนายพลทหารม้านั่นคือ กลายเป็นแม่ทัพเต็มตัว

ไข้มาลาเรียที่รุนแรงและสัญญาณการบริโภคบางอย่างทำให้ M.I. Platov ต้องไปที่ Don เมื่อต้นปี พ.ศ. 2353 เพื่อปรับปรุงสุขภาพของเขา ซึ่งอ่อนแอลงจากการปฏิบัติการทางทหารที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่แพทย์ที่ดีที่สุดอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กดังนั้น Ataman จึงออกจากเมืองหลวงในช่วงฤดูร้อนปีเดียวกันซึ่งแพทย์ Villier สามารถปรับปรุงสุขภาพของเขาได้ ในเวลานั้นเขาอาศัยอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, Tsarskoe Selo, Pavlovsk และมักเป็นเจ้าภาพในสังคมเมืองใหญ่สูงสุด การสื่อสารกับดอนส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านการติดต่อกับ Nakazny Ataman Kireev ซึ่งมีการพูดคุยถึงประเด็นของการสร้าง Novocherkassk การทำให้แม่น้ำ Aksai ลึกขึ้น ฯลฯ

เมื่อเริ่มต้นสงครามรักชาติในปี พ.ศ. 2355 M.I. Platov ได้เข้าร่วมกองทัพรัสเซียโดยปล่อยให้ Ataman A.K. Denisov รับผิดชอบตัวเองที่ Don ในตอนเย็นของวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2355 นโปเลียนเริ่มข้ามพรมแดนเข้าสู่รัสเซียโดยข้ามแม่น้ำเนมาน กองบินของ M.I. Platov มีส่วนร่วมในการสู้รบครั้งแรกกับกองทหารของนโปเลียน ดอนคอสแซคของปลาตอฟมักจะต้องจัดการกับทหารม้าฝรั่งเศส ทวนชาวโปแลนด์ ฯลฯ และตามกฎแล้วคอสแซคได้รับชัยชนะที่ยอดเยี่ยมโดยใช้เทคนิคทางทหารของคอซแซคล้วนๆ เช่น "ลาวา" "เวนเตอร์" การซุ่มโจมตี แต่ความเป็นปรปักษ์ส่วนตัวของผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Barclay de Tolly ที่มีต่อ Matvey Ivanovich ซึ่งเขากล่าวหาว่าใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด มักจะกลายเป็นอุปสรรคต่อชัยชนะที่เป็นไปได้ของคอสแซค

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับการเรียกคืน M.I. Platov จากกองทัพ ซึ่งถูกบังคับให้มอบตัวกองทหารม้าของเขาให้กับ Rosen แต่ด้วยการมาถึงของ M.I. Kutuzov ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพรัสเซีย กองทหาร Ataman M.I. จึงเป็นที่ต้องการและมาถึงกองทัพที่ประจำการ คอสแซคของ M.I. Platov มีส่วนร่วมในการต่อสู้ Borodino อันโด่งดังซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางกองหนุนของกองทัพฝรั่งเศสจากการเข้าร่วมในการโจมตีป้อมปราการของรัสเซียและยึดขบวนหลักของกองทัพนโปเลียน จริงอยู่ที่นี่คือข้อกล่าวหาใหม่ต่อ M.I. Platov เนื่องจากเจ้าหน้าที่บางคนแย้งว่าเขาไม่สามารถป้องกันไม่ให้คอสแซคปล้นขบวนรถของศัตรูได้

กองทัพรัสเซียกำลังล่าถอย นโปเลียนเข้าสู่มอสโก แต่ทุกคนเชื่อว่า M.I. Kutuzov จะยังคงชนะ Platov รอและรับกองทหารคอซแซคเพิ่มเติม 26 นายจากดอนซึ่งทำให้น้ำตาแห่งความปิติยินดีในสายตาของมิคาอิลอิลลาริโอโนวิชคูทูซอฟผู้ซึ่งชื่นชมคุณธรรมของคอสแซคอย่างมากในการต่อสู้กับนโปเลียน ในการรบครั้งแรกที่ Tarutino พวก Donets เอาชนะกองทหารของจอมพลมูรัตได้อย่างสมบูรณ์ นโปเลียนตระหนักว่านี่คือจุดเริ่มต้นของจุดจบอันน่าสยดสยองและปล่อยให้มอสโกลุกเป็นไฟ ต่อมา M.I. Platov เอาชนะกองทหารของจอมพล Davout ที่กำแพงของอาราม Kolotsk (19 ตุลาคม) การปลดประจำการของกษัตริย์ Neopolitan Murat ที่ Dukhovshchina และบนภูเขา Ponar ใกล้ Vilno

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม M.I. Platov แซงหน้ากองทหารของจอมพลเนย์ที่ล่าถอยไปที่ชายแดนและเอาชนะพวกเขา สงครามในดินแดนรัสเซียสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะ Platov สำหรับความสำเร็จทางทหารอันยอดเยี่ยมของเขาในการต่อสู้กับกองทหารของนโปเลียนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้กับเมือง Krasnoye ได้รับการเลื่อนยศเป็นตำแหน่งนับในวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2355 และในไม่ช้าในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2356 เขาก็ได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์จากจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1

การมีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่างประเทศ M.I. Platov ยึดเมือง Marienburg ในคืนปีใหม่ปี 1813 จากนั้นเข้ายึดครองเมือง Dirsch และปิดล้อมป้อมปราการ Danzig ซึ่งต่อมายอมจำนนต่อความเมตตาของผู้ชนะ เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2356 "ในเดรสเดนจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ได้ออกแถลงการณ์อย่างมีน้ำใจต่อกองทัพดอนโดยซาบซึ้งอย่างมากในการมีส่วนร่วมและคุณธรรมในการปลดปล่อยรัสเซียจากกองทหารของนโปเลียน เมื่อวันที่ 13 กันยายน M.I. Platov ได้รับชัยชนะอย่างยอดเยี่ยมใกล้เมือง Altenburg และในวันที่ 4 ตุลาคม เขาได้เข้าร่วมใน "Battle of the Nations" อันโด่งดังใกล้เมืองไลพ์ซิก

ที่นี่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมเขายึดกองพันทหารม้าทั้งหมด 6 กองพันทหารราบและปืน 28 กระบอกซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. Andrew the First-Called ที่นี่ในสนามรบ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม Platov ยึดครองแฟรงค์เฟิร์ตบน Main ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หลักและผู้นำของรัฐพันธมิตรในขณะนั้น ที่นี่ M.I. Platov ได้รับขนนกเพชรอักษรย่อพร้อมลอเรลสำหรับสวมบน Shako ของเขา (ผ้าโพกศีรษะ). ในปี พ.ศ. 2357 ในระหว่างการสู้รบในดินแดนฝรั่งเศส M.I. ปลาตอฟ “สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยการหาประโยชน์ที่เมืองลาออน เอปินาล ชาร์มส์ และยึดครองฟงแตนโบลเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์” ซึ่งเขาควรจะปล่อยพระสันตปาปาจากการถูกจองจำ

แต่หัวหน้าของชาวคาทอลิกถูกนำออกไปอย่างลับๆต่อหน้ากองทหารคอซแซค ต่อมา Platov ยึดครองเมือง Namur ที่มีป้อมปราการแน่นหนา วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2357 ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้าสู่ปารีส พวกคอสแซคตั้งรกรากที่ช็องเซลีเซ่ นี่คือจุดสิ้นสุดของการหาประโยชน์ทางทหารของ Matvey Ivanovich Platov นับตั้งแต่ในสงครามในปี 1815 เขาไม่ได้เข้าร่วม

พันธมิตรอังกฤษให้การต้อนรับ Military Ataman M.I. Platov ในลอนดอนอย่างอบอุ่นซึ่งเขาร่วมกับจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ชาวลอนดอนที่กระตือรือร้นอุ้มฮีโร่ Don จากเรือขึ้นฝั่งในอ้อมแขนแสดงให้เขาเห็นความสนใจและความเคารพทุกประการ ความสุขของสาวๆ ในลอนดอนนั้นยิ่งใหญ่มากจนพวกเขาตัดหางม้าของ M.I. เจ้าชายผู้สำเร็จราชการซึ่งชื่นชมม้า "Leonid" ของ Ataman อย่างไม่หยุดยั้งได้รับเป็นของขวัญจาก M.I. และในทางกลับกัน Ataman ก็ถูกนำเสนอด้วยภาพเหมือนของเจ้าชายผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พร้อมเพชรเพื่อสวมบนหน้าอกของเขาบนริบบิ้นของ Order of the Garter

ในลอนดอน Count M.I. Platov ได้พบกับนักเขียน W. Scott ผู้แต่ง "The History of Napoleon" และหนังสือประวัติศาสตร์ยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมายเป็นการส่วนตัว มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มอบ M.I. ประกาศนียบัตรปริญญาเอกของ Platov เมืองลอนดอนมอบดาบที่ทำขึ้นเป็นพิเศษให้กับ M.I. Platov เรืออังกฤษลำหนึ่งตั้งชื่อตามเขา และภาพเหมือนของ M.I. Platov ถูกวางไว้ในพระราชวัง เครื่องลายคราม พรม และเครื่องประดับที่มีรูปของ M.I. Platov ปรากฏในหลายประเทศในยุโรป ชื่อของ Platov ยังเกี่ยวข้องกับตำนานที่เขายืนยันกับ Alexander 1 ว่าช่างฝีมือชาวรัสเซียไม่ได้เลวร้ายไปกว่าชาวอังกฤษและสั่งให้ Tula Lefty ใส่หมัดซึ่งเขาทำโดยใส่หมัดที่ขาทั้งสองข้าง

5 กลับไปที่โนโวเชอร์คาสค์

เมื่อกลับมาที่ดอนหลังจากการรณรงค์ทางทหาร Matvey Ivanovich Platov ได้รับการต้อนรับอย่างเคร่งขรึมจากตัวแทนของชาวเมืองในเขตชานเมือง Novocherkassk จากนั้นด้วยเสียงระฆังดังต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเขาก็เข้าสู่เมืองหลวงคอซแซคที่เขาก่อตั้ง เมื่อย้ายไปยังฝ่ายบริหารของภูมิภาคดอน Matvey Ivanovich ได้ทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและออกคำสั่งซึ่งเขาได้กล่าวถึงข้อดีอันมหาศาลของผู้หญิงคอซแซคที่แบกรับความยากลำบากทั้งหมดจากการบริหาร 3 ปีบนบ่าของพวกเขา ในช่วงสงครามเมื่อดอนคอสแซคต่อสู้กับกองทหารของนโปเลียนเกือบทั้งหมด

Platov ให้ความสนใจไม่เพียงแต่กับภูมิภาคและรัฐบาลพลเรือนเท่านั้น การพัฒนาพันธุ์ม้าและการปลูกองุ่นเพิ่มเติม แต่ยังรวมไปถึงการพัฒนาเมือง Novocherkassk ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้เขาในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2360 มีการสร้าง Triumphal Arches ซึ่งเป็นเมืองหลวงสองแห่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการมาถึงของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ที่คาดหวังใน Novocherkassk แต่ในวันที่ 16 กันยายน Grand Duke Mikhail Pavlovich (น้องชายของจักรพรรดิ) มาถึงซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างเคร่งขรึมจากกองทัพ Ataman คอสแซคและสาธารณชนที่ประตูชัยบนสายเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (ปัจจุบันคือ Herzen Descent) Alexander 1 ไปเยือน Novocherkassk ในปี 1818 แต่เมื่อถึงเวลานี้ Donets ผู้โด่งดังไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป Platov เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2361 ในนิคม Elanchitskaya ของเขา และในวันที่ 10 มกราคม เขาถูกฝังไว้ใต้กำแพงหิน Ascension Cathedral ที่กำลังก่อสร้างใน Novocherkassk

ดูเหมือนว่าหลังจากชีวิตที่มีพายุขัดแย้ง แต่รุ่งโรจน์และรุ่งโรจน์เช่นนี้ ขี้เถ้าของดอนลูกชายผู้ยิ่งใหญ่ก็พักอยู่ใต้ซุ้มประตูของโบสถ์ออร์โธดอกซ์ แต่คลื่นของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และโชคชะตานั้นสูงมากและบางครั้งก็ทรยศจนซากศพของหัวหน้าผู้มีชื่อเสียงจะยังคงค้นหาสถานที่พำนักของพวกเขาต่อไปอีกประมาณ 100 ปี เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าอาสนวิหารเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้กับกำแพงที่ Matvey Ivanovich และสมาชิกในครอบครัวของเขาถูกฝังพังทลายลงสองครั้ง (พ.ศ. 2389 และ พ.ศ. 2406) ญาติของ M.I. Platov ได้รับอนุญาตสูงสุด (พ.ศ. 2411) ในการโอนขี้เถ้าของ M.I. Platov ไปยังดินแดนของที่ดินในประเทศของเขา Myshkinsky ซึ่งนิยมเรียกว่า Golitsinsky dacha (ตามนามสกุลของลูกเขยของเจ้าชาย Golitsin) หรือเดชาของบิชอป (หลังจากการบริจาคเดชาให้กับอธิการ Novocherkassk) ในปีพ.ศ. 2418 ความปรารถนาเหล่านี้เป็นจริงในห้องใต้ดินของครอบครัวใต้โบสถ์ในกระท่อม Mishkino ศพของ M.I. Platov และสมาชิกในครอบครัวของเขาที่เสียชีวิตในเวลานี้ถูกส่งมาจาก Novocherkassk

แต่ถึงกระนั้นสิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้ขี้เถ้าของฮีโร่ของดอนและรัสเซียเหลืออยู่ ในปีพ.ศ. 2454 ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของสงครามรักชาติในปี พ.ศ. 2355 พวกคอสแซคจึงตัดสินใจนำมาจากสถานที่ต่าง ๆ และฝังศพของผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของดอนอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม ซากศพของนายพล ถูกฝังใหม่อย่างเคร่งขรึมในหลุมฝังศพใต้อาสนวิหารเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ใน Novocherkassk Platov, Orlov-Denisov, Efremov และ Baklanov รวมถึงอาร์คบิชอปจอห์นซึ่งเป็นที่รักของชาวเมืองเป็นพิเศษ จากนั้นการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคมปี 2460 สงครามกลางเมืองกับดอนการรื้อถอนอนุสาวรีย์ของ M.I. Platov ใน Novocherkassk ในปี 2466 ในปี 1992 เมืองคอสแซคซึ่งได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบหลุมศพในสุสานของมหาวิหารต่างตกตะลึง จากสิ่งที่พวกเขาเห็น หลุมศพที่เปิดอยู่กลายเป็นความเสื่อมทราม เต็มไปด้วยขยะ ฯลฯ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ในที่สุดสำหรับท่านเคานต์และทหาร Ataman ซึ่งเป็นผู้ถือคำสั่งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก Matvey Ivanovich Platov เกิดขึ้น

บทสรุป

Matvey Ivanovich Platov เป็นปรากฏการณ์ที่มีเอกลักษณ์ในประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซียและเป็นปรากฏการณ์พิเศษในประวัติศาสตร์การทหารของ Don Cossacks สิ่งนี้อธิบายได้ไม่เพียง แต่ด้วยคุณสมบัติส่วนตัวที่โดดเด่นของ Platov เท่านั้น แต่ยังเถียงไม่ได้ - แต่ยังตามเงื่อนไขของยุคนั้นด้วยโดยเฉพาะยุคของสงครามนโปเลียนซึ่งกิจกรรมของหัวหน้าเผ่าในตำนานได้เปิดเผยออกมา

ตามคำอธิบายของผู้ร่วมสมัยที่รู้จัก Platov เป็นอย่างดี เขามีรูปร่างสูง ผมสีดำและมีผมสีดำ "มีสีหน้าใจดีและใจดีมาก" นายพล Alexei Ermolov ซึ่งรู้จัก Matvey Ivanovich เป็นอย่างดีเขียนว่า "อาตามันเป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดและรอบรู้มาก"

โดยธรรมชาติแล้ว Platov เป็นคนอารมณ์ร้อนมากและตลอดชีวิตของเขาเขาเลี้ยงดูตัวเองด้วยจิตวิญญาณของการระงับความโกรธที่ปะทุอย่างไม่คาดคิดและประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องนี้

“ เขารู้วิธีจัดการกับผู้คนอย่างชำนาญและสามารถสร้างเสน่ห์ให้ใครก็ได้” นักเขียนชีวประวัติของเขา E. Tarasov เขียนเกี่ยวกับ Platov “เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไหวพริบ และเป็นนักการทูตที่ยอดเยี่ยม เขารู้วิธีปฏิบัติต่อคอสแซคที่เรียบง่ายและแสดงความรักเสมอ” Ataman ชอบเล่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จากชีวิตทหารตลอดจนเหตุการณ์ทางทหารจริง ๆ เรื่องราวของเขาสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังอย่างมาก

วลีที่เขาชื่นชอบ “ฉันจะบอกคุณ” เสริมเรื่องราวและบทสนทนาของเขาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สุนทรพจน์ของเขาเป็นต้นฉบับมากในสไตล์คอซแซคและเขาพูดอย่างน่าเชื่อถือและกระตือรือร้นมาก แทนที่จะเป็น "วอร์ซอ" เขาพูดว่า "อาร์ชาวา" แทนที่จะเป็น "นายพลาธิการ" เขาพูดว่า "ผู้วางแผน" แทนที่จะ "ไล่ตาม" เขาพูดว่า "สิ่งของ" แทนที่จะ "ค้นหา" เขาพูดว่า "ค้นหา"

ในความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา Ataman ค่อนข้างเป็นกลางเขารู้วิธีให้กำลังใจและมีระเบียบวินัยทำให้คอสแซคชัดเจนว่าเขากำลังกำจัดข้อบกพร่องและไม่ได้มองหาเหตุผลที่จะทำให้บุคคลอับอายเพียงเพราะเขามีอำนาจเหนือเขา .

Matvey Ivanovich โดดเด่นด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ต่อทุกสิ่งที่เป็นชาวรัสเซียซึ่งเป็นผลมาจากการที่เขาเก็บงำความเป็นปรปักษ์ต่อชาวต่างชาติและการครอบงำของพวกเขาในการบังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพรัสเซีย เขาไม่ชอบชาวเยอรมันเป็นพิเศษซึ่งเป็นคนอวดรู้และหลักคำสอนของพวกเขา โดยธรรมชาติแล้ว Ataman เป็นคนร่าเริง เขาชอบเพื่อนฝูงที่น่ารื่นรมย์ แต่ชีวิตที่มีเสียงดังและฟุ้งซ่านไม่ใช่ธรรมชาติของเขา

เช่นเดียวกับคอสแซคส่วนใหญ่ผู้ศรัทธา Platov ได้บริจาคเงินมากมายให้กับโบสถ์และอาราม อย่างไรก็ตามเขาเชื่อความฝันและลางสังหรณ์

ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต กิจวัตรประจำวันของเขาค่อนข้างเข้มงวด เขาอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับธุรกิจ เขานอนตั้งแต่สี่โมงเช้าจนถึงแปดโมงเช้า แต่หลังจากตื่นนอนเขาก็ชอบนอนอยู่บนเตียงสักพักเพื่อแก้ปัญหาในทางปฏิบัติ

เมื่อพูดถึงเรื่องอาหาร Platov มีความโดดเด่นด้วยความพอประมาณและชอบอาหารจานง่าย ๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจสำหรับผู้ชายที่ใช้ชีวิตเกือบทั้งหมดในเงื่อนไขของการรณรงค์และการต่อสู้ สำหรับเครื่องดื่ม เขาชอบกาแฟ (“กาแฟ”) และชา

ครอบครองตำแหน่งสูงของ Ataman ทหารดอนโดยสามารถเข้าถึงพระราชวังของจักรพรรดิและรัฐบุรุษที่สูงที่สุดของรัสเซียเขาไม่ได้อุปถัมภ์ญาติของเขาเชื่ออย่างถูกต้องว่าพวกเขาเองตามแบบอย่างของเขาควรทำอาชีพของตนเองและด้วยตัวเอง แต่ Matvey Ivanovich คอยรบกวนผู้บังคับบัญชาของเขาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับคนแปลกหน้าที่โดดเด่นด้วยความสามารถความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ของพวกเขา

ในประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย Platov เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บัญชาการที่มีความสามารถและดั้งเดิม โดยส่วนตัวแล้วเป็นนักรบที่กล้าหาญ เขาเข้าร่วมในสงครามเกือบทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยจักรวรรดิรัสเซีย เริ่มตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 จนถึงสิ้นสุดสงครามนโปเลียน Platov ศึกษาวิทยาศาสตร์การทหารในสนามรบโดยเข้ารับราชการเมื่ออายุสิบห้าปี เขาเป็นนักรบโดยกำเนิด และตั้งแต่เริ่มแรก กิจกรรมการต่อสู้ของเขามีความโดดเด่นด้วยความคิดริเริ่ม ความสามารถของเขาในการตัดสินใจที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวในสถานการณ์การต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุด และความกล้าหาญของเขาเป็นตัวอย่างให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

ช่วงแรกของกิจกรรมทางทหารของ Platov มีลักษณะเฉพาะคือการสู้รบในแม่น้ำ Kalalakh เมื่อเขาล้อมรอบด้วยศัตรูที่เหนือกว่าในเชิงตัวเลขได้ทำการตัดสินใจที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวในสถานการณ์นี้: เมื่อส่งไปขอความช่วยเหลือเขาเองก็เริ่มต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ข้างหลัง เกวียนที่สร้างเป็นวงกลม

คุณลักษณะที่เป็นลักษณะเฉพาะของพรสวรรค์ของ Platov ในฐานะผู้บัญชาการคือความสามารถของเขาในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคอสแซคในช่วงเวลาสำคัญของการต่อสู้: อันตรายทำให้จิตใจของเขาชัดเจนยิ่งขึ้นและความสงบที่น่าทึ่ง คุณสมบัติเหล่านี้ของ Platov ได้รับการยกย่องอย่างสูงจาก Suvorov ผู้ยิ่งใหญ่

ในการปฏิบัติการทางทหาร Platov ปฏิบัติตามกลยุทธ์การโจมตีด้วยสายฟ้า นี่คือวิธีที่เขาแสดงในการรณรงค์ต่อต้านฝรั่งเศสในปี 1807 อย่างไรก็ตามหากศัตรูพร้อมที่จะขับไล่การโจมตีอย่างรวดเร็วของคอสแซค Ataman จะเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ความสามารถทางการทหารของ Platov เปล่งประกายด้วยแง่มุมใหม่ๆ ในช่วงสงครามรักชาติปี 1812 เมื่อเขาแสดงตัวว่าเป็นผู้บัญชาการทหารม้าที่โดดเด่น และคอสแซคของเขาต่อสู้กับทหารม้าที่เก่งที่สุดในยุโรปได้สำเร็จ โดยทำลายทหารม้าเหล่านี้ในการรบต่อเนื่อง จากนั้นจึงจบด้วย การรุกขั้นเด็ดขาด ในระหว่างการตอบโต้ของกองทัพรัสเซีย กองทหารของ Platov ประสบความสำเร็จในการต่อสู้แยกจากกองกำลังหลักของกองทัพ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในการฝึกการใช้ทหารม้าในการต่อสู้

หลายปีผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป หลายอย่างถูกลืมไปแล้ว แต่ความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตที่กล้าหาญของ Platov ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยอันเหลือเชื่อ ความกล้าหาญและความกล้าหาญของคอสแซคของเขาจะยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวรัสเซียตลอดไป เพื่อความทรงจำของ ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ตาย มันเป็นชั่วนิรันดร์ เช่นเดียวกับมนุษยชาติชั่วนิรันดร์...

รายชื่อวรรณกรรมที่ใช้แล้ว

1. แอสตาเพนโก เอ็ม. อาตามาน พลาตอฟ. เรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ รอสตอฟ-ออน-ดอน NPK "เฮเฟสตัส", 2546

2. การรวบรวมกองกำลังระดับภูมิภาคของคณะกรรมการสถิติดอน ฉบับที่ X1, Novocherkassk, 1912

3. Smirny N. ชีวิตและการหาประโยชน์ของ Count Matvey Ivanovich Platov ส่วนที่ 1 และ 3 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 2454

4. Savelyev E.P. Ataman M.I. Platov และการก่อตั้ง Novocherkassk โนโวเชอร์คาสก์, 1906

5. เคอร์ซานอฟ อี.ไอ. โนโวเชอร์คาสค์. ภาพร่างประวัติศาสตร์โดยย่อระหว่างปี 1805-1995 โนโวเชอร์คาสค์, 1995

ความกล้าหาญของทหารคอซแซค

อาตามัน เอ็ม.ไอ.ปลาตอฟ –
ผู้บัญชาการรัสเซียที่โดดเด่น

สรรเสริญ ลมกรดของเราคือหัวหน้า
ผู้นำของผู้ไม่ได้รับอันตราย พลาตอฟ!
บ่วงบาศของคุณ
พายุฝนฟ้าคะนองสำหรับศัตรู
คุณส่งเสียงกรอบแกรบผ่านเมฆเหมือนนกอินทรี
คุณเดินด้อม ๆ มองๆในทุ่งเหมือนหมาป่า
คุณบินด้วยความหวาดกลัวหลังแนวศัตรู
คุณกำลังเทความโชคร้ายเข้าหูพวกเขา!
พวกเขาไปที่ป่าเท่านั้น - ป่ามีชีวิตขึ้นมา
ต้นไม้กำลังยิงธนู!
พวกเขาไปถึงสะพานเท่านั้น - สะพานหายไป!
เฉพาะหมู่บ้าน - หมู่บ้านเจริญรุ่งเรือง!

วี.เอ. จูคอฟสกี้

เขาเกิดในปี 1753 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมในหมู่บ้าน Pribylyanskaya ในเมือง Cherkassk (ปัจจุบันคือหมู่บ้าน Starocherkasskaya) และใช้ชีวิตวัยเด็กที่นี่

เมือง Cherkassk ในเวลานั้นเป็นเมืองหลวงของเขตกองทัพ Don และทุกชีวิตในเมืองนั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการทหาร คำสั่งทางทหารทั้งหมดมาจากที่นี่ คอสแซครับใช้รวมตัวกันที่นี่เพื่อออกศึก สภาพแวดล้อมตลอดจนเรื่องราวของนักรบเก่าเกี่ยวกับการหาประโยชน์ทางทหารมีอิทธิพลอย่างมากต่อคนหนุ่มสาวโดยเลียนแบบฮีโร่พวกเขาใช้เวลาในเกมที่มีลักษณะทางทหาร การขี่ม้า จับสัตว์และปลา และฝึกยิงปืนเป็นงานอดิเรกที่เธอโปรดปราน ในบรรดาเยาวชนเหล่านี้ Matvey Ivanovich Platov ผู้นำในอนาคตของกองทัพ Don Cossack เติบโตขึ้นมาซึ่งในเวลานั้นโดดเด่นจากฝูงชนด้วยจิตใจที่เฉียบแหลมความคล่องตัวและความคล่องแคล่ว

Ivan Fedorovich Platov พ่อของเขาเป็นหัวหน้าคนงานที่มีชื่อเสียงใน Don แต่ไม่โดดเด่นด้วยความมั่งคั่งทางวัตถุดังนั้นจึงให้การศึกษาแก่ลูกชายของเขาเฉพาะในหมู่คอสแซคตามปกติโดยสอนให้เขาอ่านและเขียน

ตอนอายุสิบสาม Matvey Ivanovich ได้รับมอบหมายจากพ่อของเขาให้รับราชการในทำเนียบทหารซึ่งในไม่ช้าเขาก็ดึงดูดความสนใจและได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร

ในช่วงสงครามรัสเซีย-ตุรกี ค.ศ. 1768 - 1774 Platov อยู่ในตำแหน่งกองทัพประจำการภายใต้คำสั่งของ Prince M.V. Dolgorukov ในฐานะผู้บัญชาการของคอซแซคร้อย สำหรับการรับราชการทหารระหว่างการยึดเปเรคอปและใกล้คินเบิร์น เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองทหารของดอนคอสแซค

ในปี พ.ศ. 2317 ก่อนการสิ้นสุดสันติภาพกับตุรกีที่ Kuchuk-Kainardzhi Platov ได้รับมอบหมายให้จัดส่งขบวนอาหารและยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพที่ตั้งอยู่ใน Kuban กองทหารของ Platov และ Larionov ซึ่งออกมาพร้อมกับขบวนจากป้อมปราการ Yeisk ถูกพี่ชายของ Crimean Khan Devlet-Girey โจมตีระหว่างทาง ภายใต้ธงสีเขียวของผู้เผยพระวจนะมีพวกตาตาร์ ไฮแลนเดอร์ และโนไกส์มากถึง 30,000 คน สถานการณ์ที่ขบวนรถพบว่าตัวเองสิ้นหวัง

Larionov โอนคำสั่งโดยรวมของการปลดไปยัง Platov โดยไม่เชื่อว่าจะสามารถต้านทานพลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ “เพื่อน” Platov บอกกับพวกคอสแซค “เราต้องเผชิญกับความตายหรือชัยชนะอันรุ่งโรจน์ เราจะไม่ใช่ชาวรัสเซียและโดเนตส์หากเรากลัวศัตรู ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า จงขับไล่แผนการชั่วร้ายของเขา!

ตามคำสั่งของ Platov ป้อมปราการได้ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วจากขบวนรถ เจ็ดครั้งที่พวกตาตาร์และพันธมิตรรีบเร่งโจมตีกองกำลังที่ค่อนข้างอ่อนแอของคอสแซคและเจ็ดครั้งอย่างหลังก็ขับไล่พวกเขากลับด้วยความเสียหายอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน Platov พบโอกาสรายงานสถานการณ์ที่สิ้นหวังของขบวนรถให้กองทหารของเขาทราบซึ่งไม่ช้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือ พวกตาตาร์ถูกปล่อยตัวและขบวนรถก็ถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้ Platov มีชื่อเสียงไม่เพียง แต่ในกองทัพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในศาลด้วย

Platov ยังรับราชการภายใต้การบังคับบัญชาของเจ้าชาย Potemkin-Tavrichesky และผู้บัญชาการผู้ยิ่งใหญ่แห่งรัสเซีย A.V. ซูโวรอฟ การบริการภายใต้การนำของ Suvorov เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดสำหรับ Matvey Ivanovich

ในช่วงสงครามตุรกีครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2330-2334 Platov มีส่วนร่วมในการต่อสู้ระหว่างการล้อมและโจมตี Ochakov ระหว่างการโจมตีและยึดครองปราสาท Gassan-Pashinsky

13 กันยายน พ.ศ. 2332 ปลาตอฟพร้อมกับคอสแซคและเรนเจอร์ของเขาที่ Kaushany ทำให้กองทหารตุรกีบินและจับ "มหาอำมาตย์สามกอง" Zainal-Gassan สำหรับความสำเร็จนี้เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทหารอาตามันเดินทัพของกองทหารคอซแซค

ในปี พ.ศ. 2333 ปลาตอฟอยู่ในกองทัพของซูโวรอฟใกล้เมืองอิซมาอิล เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่สภาทหารเขาเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่โหวตให้โจมตีป้อมปราการทันทีและในวันที่ 11 ธันวาคมระหว่างการโจมตีเขาได้นำคอสแซคห้าพันคนซึ่งทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จอย่างมีเกียรติ ผู้บัญชาการผู้ยิ่งใหญ่ Suvorov Suvorov เขียนถึงเจ้าชาย Potemkin เกี่ยวกับ Platov และกองทหารของเขา: "ฉันไม่สามารถยกย่องความกล้าหาญและความรวดเร็วของกองทัพ Don ต่อหน้าการปกครองของคุณได้มากพอ" สำหรับบริการของเขาในการยึดอิซมาอิล Matvey Ivanovich ได้รับการเสนอชื่อโดย Suvorov เพื่อรับรางวัล Order of St. ระดับจอร์จที่ 3 และเมื่อสิ้นสุดสงครามเขาได้รับการเลื่อนยศเป็นพลตรี

ในปีสุดท้ายของรัชสมัยของแคทเธอรีนที่ 2 Platov เข้าร่วมในสงครามเปอร์เซีย กิจการของ Derbent, Baku และ Elizavetpol ได้สร้างพวงหรีดให้กับ Platov อีกครั้ง ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญ ระดับ Vladimir III และ Catherine II มอบดาบให้เขาในปลอกกำมะหยี่และกรอบทองคำพร้อมเพชรขนาดใหญ่และมรกตหายาก

ดอนนักเขียน Dmitry Petrov (Biryuk) ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Sons of the Don Steppes เขียนว่า "Matvey Ivanovich Platov ทำอาชีพเวียนหัวในเวลาอันสั้น หากไม่มีความสัมพันธ์และไม่มีการศึกษาเข้าร่วมเมื่ออายุ 13 ปีเพื่อรับราชการในกองทหารคอซแซค Platov เมื่ออายุ 19 ปีก็เป็นผู้บังคับบัญชากองทหารแล้ว พระองค์ทรงเข้าร่วมในสงครามและการรณรงค์สำคัญๆ ในยุคของพระองค์ ทรงโดดเด่นอยู่เสมอ ได้รับรางวัล ดึงดูดความสนใจจากผู้บัญชาการคนสำคัญและบุคคลสำคัญทางการเมืองในราชสำนัก”

Platov กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน Don และเป็นบุคคลสำคัญในปีเตอร์สเบิร์กผู้มีเกียรติ

Paul I ผู้ขึ้นครองบัลลังก์หลังจากการสิ้นพระชนม์ของ Catherine II ได้นึกถึงกองทัพของ Zubov ซึ่ง Platov รับใช้จากชายแดนเปอร์เซีย Platov ได้รับอนุญาตให้กลับไปที่ Don แต่แล้วภัยพิบัติก็เกิดขึ้น ระหว่างทาง Matvey Ivanovich ถูกผู้จัดส่งของซาร์ตามทันและถูกเนรเทศตามคำสั่งของซาร์ไปยัง Kostroma จากนั้นเขาก็ถูกนำตัวไปที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและถูกคุมขังในป้อมปราการปีเตอร์และพอล นี่คือในปี ค.ศ. 1797

เหตุผลในการจับกุม Platov คือการบอกเลิกที่เป็นเท็จ พาเวลบอกกับพาเวลว่าความนิยมมหาศาลของปลาตอฟกลายเป็นอันตราย ต้องบอกว่าโดยทั่วไปแล้วพาเวลไม่พอใจนายพลคอซแซคผู้โด่งดังในเรื่องความใกล้ชิดกับอเล็กซานเดอร์วาซิลิเยวิชซูโวรอฟคู่ต่อสู้ของการฝึกซ้อมปรัสเซียนที่พาเวลปลูกฝังในกองทัพรัสเซีย

ในตอนท้ายของปี 1800 Paul I ปล่อยตัว Matvey Ivanovich จากการถูกควบคุมตัวเพื่อใช้เขาในการดำเนินการตามแผนการที่ไร้สาระและน่าอัศจรรย์ของเขาในเวลาต่อมา - การพิชิตอินเดีย Platov เข้าใจว่าการรณรงค์ที่ Pavel วางแผนไว้นั้นต้องการการเสียสละมากมายและจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ แก่รัสเซีย แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธข้อเสนอของซาร์

ในระยะเวลาอันสั้น กองทหารม้า 41 นายและกองร้อยปืนใหญ่ม้า 2 กองร้อยได้เตรียมพร้อมสำหรับการรณรงค์ ซึ่งมีจำนวนคน 27,500 คน และม้า 55,000 ตัว

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2344 กองทหารก็ออกเดินทาง

การทดลองอย่างหนักเกิดขึ้นกับพวกคอสแซคในการรณรงค์ที่โชคร้ายนี้ และมีเพียงการตายอย่างกะทันหันของพอลเท่านั้นที่ฉันหยุดความทรมานของพวกเขาได้ อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ผู้ขึ้นครองบัลลังก์สั่งให้คอสแซคกลับบ้าน ด้วยเหตุนี้การรณรงค์ในอินเดียจึงสิ้นสุดลงซึ่งมีเพียงตำนานและความเศร้าโศกเท่านั้นที่เก็บรักษาไว้บนดอน

ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2344 ในปีแรกของการครองราชย์ อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ได้ส่งจดหมายถึงดอนจ่าหน้าถึง Matvey Ivanovich Platov จดหมายระบุว่าเพื่อรับราชการระยะยาวและไร้ที่ติเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทหารอาตามันแห่งกองทัพดอน ในฐานะผู้นำทางทหาร Platov ยังค้นพบพรสวรรค์อันน่าทึ่งของเขาอีกด้วย

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2348 ตามความคิดริเริ่มของ Platov เมืองหลวงของกองทัพ Don ถูกย้ายจาก Cherkassk ไปยังตำแหน่งใหม่ใน Novocherkassk ในปีเดียวกัน นโปเลียนโจมตีออสเตรียซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซีย ปลาตอฟได้ก่อตั้งกองทหารคอซแซคสิบสองกองทหารและกองร้อยม้าปืนใหญ่ ออกเดินทางรณรงค์ไปยังชายแดนออสเตรีย อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการรบ เนื่องจากไม่นานหลังจากชัยชนะของนโปเลียนที่เอาสเตอร์ลิทซ์ได้ข้อสรุปสันติภาพเหนือกองกำลังพันธมิตร แต่สงครามไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่นั้น ในปี ค.ศ. 1806 นโปเลียนโจมตีปรัสเซีย ที่เยนาและเอาเออร์สตัดท์ เขาสร้างความพ่ายแพ้อย่างรุนแรงต่อกองทหารปรัสเซียน ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ปรัสเซียก็เสร็จสิ้น และนโปเลียนก็เข้าสู่กรุงเบอร์ลิน กษัตริย์ปรัสเซียนหนีไปที่โคนิกส์เบิร์ก

Platov และกองทหาร Don ของเขาต้องต่อสู้อย่างหนักในปรัสเซียกับกองทหารนโปเลียน ชื่อของ Don Ataman ได้รับชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไม่เพียง แต่ในรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต่างประเทศด้วย

แต่สงครามจบลงแล้ว ในวันที่ 25 มิถุนายน (7 กรกฎาคม) พ.ศ. 2350 กษัตริย์ 3 พระองค์ในเมืองทิลซิตได้กำหนดการประชุมเพื่อลงนามสันติภาพ ได้แก่ อเล็กซานเดอร์ นโปเลียน และกษัตริย์ปรัสเซียน เฟรเดอริก วิลเลียม Matvey Ivanovich Platov อยู่ในกลุ่มผู้ติดตามของ Alexander ในเวลานั้น

ในเวลานี้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเฉพาะขึ้น ตามคำขอของนโปเลียน ได้มีการขี่ม้า พวกคอสแซคขี่ม้าขณะยืนบนอาน สับไม้เท้าแล้วยิงจากใต้ท้องม้าแข่งไปที่เป้าหมาย พวกนักขี่ม้าก็เอาเหรียญที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นหญ้าจากอานม้า พวกเขาควบม้าแทงรูปปั้นด้วยลูกดอก บางคนหมุนตัวบนอานม้าในการควบม้าครั้งนี้อย่างช่ำชองและรวดเร็วจนไม่อาจบอกได้ว่ามืออยู่ที่ไหนและขาอยู่ที่ไหน...

คอสแซคยังทำสิ่งต่างๆ มากมายที่ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการขี่ม้าและผู้เชี่ยวชาญแทบหยุดหายใจ นโปเลียนดีใจและหันไปหาปลาตอฟถามว่า: "คุณนายพลรู้วิธียิงธนูไหม" Platov คว้าธนูและลูกธนูจาก Bashkir ที่ใกล้ที่สุดแล้วเร่งม้าของเขายิงธนูหลายลูกในขณะที่เขาควบม้า พวกเขาทั้งหมดส่งเสียงขู่ไปที่หุ่นฟาง

เมื่อ Platov กลับมาที่บ้านของเขา นโปเลียนก็พูดกับเขาว่า:

ขอบคุณนายพล คุณไม่เพียงแต่เป็นผู้นำทางทหารที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นนักขี่และมือปืนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย คุณทำให้ฉันมีความสุขมาก ฉันอยากให้คุณมีความทรงจำที่ดีกับฉัน และนโปเลียนก็มอบกล่องยานัตถุ์สีทองให้กับ Platov

Platov หยิบกล่องดมกลิ่นและโค้งคำนับกับผู้แปล:

กรุณาถ่ายทอดคอซแซคของฉันขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราชาวดอนคอสแซค มีประเพณีโบราณ: ให้ของขวัญ... ขออภัย ฝ่าบาท ฉันไม่มีอะไรที่จะดึงดูดความสนใจของคุณ... แต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้และฉัน ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพเจ้า... โปรดรับคันธนูนี้เป็นของขวัญจากข้าพเจ้าด้วยเถิด...

ของขวัญดั้งเดิม” นโปเลียนยิ้มขณะตรวจดูคันธนู “เอาล่ะ แม่ทัพ คันธนูของคุณจะเตือนฉันว่าแม้แต่นกตัวเล็ก ๆ ก็ยังป้องกันตัวเองจากลูกธนูของดอนอาตามันได้ยาก” ลูกศรที่เล็งไว้อย่างดีของอาตามันจะตามทันเธอทุกที่

เมื่อผู้แปลแปลสิ่งนี้ Platov กล่าวว่า:

ใช่ ฉันมีสายตาที่เฉียบแหลมและได้รับการฝึกฝน มีมือที่มั่นคง ไม่เพียงแต่นกตัวเล็กเท่านั้น แต่นกตัวใหญ่ยังต้องระวังลูกธนูของฉันด้วย

คำใบ้นั้นชัดเจนเกินไป หากมองจากนกตัวใหญ่ Platov หมายถึงนโปเลียนเองอย่างชัดเจน และความขัดแย้งครั้งใหญ่คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากไม่ใช่เพราะนักแปลผู้รอบรู้

เมื่อถึงปี ค.ศ. 1812 ยุโรปตะวันตกและยุโรปกลางเกือบทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การปกครองของนโปเลียน เขาปรับรูปร่างใหม่ตามที่เขาต้องการ สร้างรัฐใหม่ และวางญาติของเขาไว้บนบัลลังก์ในประเทศที่ถูกยึดครอง ชาวสเปนยังคงไม่มีใครพิชิตได้บนคาบสมุทรไอบีเรีย ข้ามช่องแคบอังกฤษ ประเทศอังกฤษ ปกป้องการอ้างสิทธิ์ในการครอบครองโลกอย่างดื้อรั้น ในยุโรปตะวันออก-รัสเซีย

นโปเลียนเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการรณรงค์ต่อต้านรัสเซียอย่างระมัดระวัง ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2355 นโปเลียนพร้อมกองทัพ 420,000 คนพร้อมปืนหนึ่งพันกระบอกข้ามพรมแดนโดยไม่ประกาศสงคราม ภายในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน อีก 155,000 คนเข้าสู่ดินแดนรัสเซีย เมื่อเริ่มสงคราม รัสเซียสามารถส่งคนต่อสู้กับนโปเลียนได้ไม่เกิน 180,000 คน ยังไม่ได้รวบรวมกองกำลังอันกว้างใหญ่ของประเทศอันกว้างใหญ่ แต่กองทัพรัสเซียมีข้อได้เปรียบหลายประการ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของทหารรัสเซีย ผู้รักชาติที่ไม่เห็นแก่ตัวในบ้านเกิดอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาอยู่ในระดับสูง... ทหารรัสเซียโดดเด่นด้วยความกล้าหาญที่ไม่มีใครเทียบได้และมีความเฉลียวฉลาดที่เฉียบแหลม ในบรรดากองทหารมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในการรณรงค์ของ Suvorov ซึ่งเป็นทหารของโรงเรียน Suvorov ลูกศิษย์ของ Suvorov เพียงไม่กี่คนอยู่ในกลุ่มผู้บัญชาการรัสเซียที่เก่งกาจ ในเวลาเดียวกัน รัสเซียมีกำลังทหารที่เข้มแข็งและอุดมสมบูรณ์ ทั้งปืนใหญ่ที่ยอดเยี่ยม ทหารม้าที่แข็งแกร่ง และทหารราบที่ติดอาวุธดี

นี่คือความสมดุลของกองกำลังในช่วงเริ่มต้นของสงครามรักชาติปี 1812

ตั้งแต่วันแรกกองทหารคอซแซค 14 กองรวมกันเป็นกองทหารบินได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ของชาวรัสเซียกับฝูงนโปเลียน กองพลนี้ได้รับคำสั่งจาก Matvey Ivanovich Platov

ในช่วงแรกของสงคราม Platov อยู่ในกองทัพที่สองซึ่งได้รับคำสั่งจาก Bagration กองทัพของ Bagration กำลังมุ่งหน้าไปร่วมกับกองทัพที่ 1 ซึ่งได้รับคำสั่งจากบาร์เคลย์ กองทหารม้าของ Platov ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานที่ยากลำบากในการติดตามกองหลังของกองทัพและในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อชะลอการรุกคืบของกองทหารศัตรู ขณะที่พวกเขาถอยทัพ คอสแซคก็โจมตีขบวนรถของศัตรูเป็นกลุ่มเล็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง ทุบตีพวกมันและหายตัวไปทันที ทำลายแนวหน้าของศัตรู ได้ทำการจู่โจมทางด้านหลังทำให้เขาหลงทาง

ในวันยุทธการโบโรดิโนตามแผนของ M.I. กองทหาร Platov และนายพล Uvarov ของ Kutuzov ว่ายข้ามแม่น้ำ Kolocha และมุ่งหน้าลึกเข้าไปในด้านหลังของศัตรู ไปยังที่ตั้งขบวนรถของเขา ซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่

เมื่อสังเกตการกระทำของกองพลของ Platov และ Uvarov นั้น Kutuzov ก็อุทานด้วยความชื่นชม:“ ทำได้ดีมาก!.. ทำได้ดีมาก!.. การรับใช้ที่กล้าหาญของกองทัพของเรานี้จะได้รับการตอบแทนอย่างไร?.. ดีใจ ดีใจมาก!.. โบนาปาร์ตเป็น เข้าใจผิดจากปฏิบัติการของ Platov และ Uvarov เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่ากองกำลังขนาดใหญ่ของเราโจมตีเขาที่ด้านหลัง และเราจะใช้ประโยชน์จากความลำบากใจของโบนาปาร์ต”

ปฏิบัติการของกองทหารม้าของ Platov และ Uvarov บังคับให้นโปเลียนระงับการรุกเป็นเวลาสองชั่วโมงเต็ม ในช่วงเวลานี้ รัสเซียสามารถนำกำลังเสริมเข้ามาและจัดวางปืนใหญ่สำรองได้

ในการต่อสู้ที่ Borodino เจตจำนงและศิลปะของ Kutuzov เอาชนะเจตจำนงและศิลปะของนโปเลียน ดังที่นโปเลียนกล่าวไว้ ชาวรัสเซียได้รับสิทธิ์ที่จะอยู่ยงคงกระพัน

เมื่อวันที่ 3 กันยายน คอสแซคของ Platov ซึ่งแลกเปลี่ยนไฟกับทวนศัตรูจากกองหน้าของ Murat เป็นกลุ่มสุดท้ายที่ออกจากมอสโก

ลาก่อนแม่! เราจะกลับมา! - Platov กล่าวออกจากมอสโกว ในวันที่ยากลำบากสำหรับรัสเซีย เมื่อกองทัพของนโปเลียนเคลื่อนตัวเข้าสู่ดินแดนของตนมากขึ้น Platov ได้ขอร้องให้ชาวดอนปกป้องมาตุภูมิของพวกเขา ดอนทำตามคำเรียกร้องนี้อย่างสมเกียรติ กองทหารม้าจำนวน 24 นายของกองทหารอาสาสมัครประชาชนและปืนทหารม้า 6 กระบอกถูกส่งไปยังกองทัพที่ประจำการ บุตรชายผู้ซื่อสัตย์จำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันคนของดอนผู้เงียบสงบยืนหยัดเพื่อปกป้องมาตุภูมิของพวกเขา... ไม่เพียงแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่ยังมีผู้หญิงเข้าร่วมในกองทัพด้วย

เมื่อ Platov มาที่ Kutuzov เพื่อรายงานการมาถึงของทหารจาก Don คนหลังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น: "ขอบคุณ! ขอบคุณ ataman!.. ปิตุภูมินี้จะไม่มีวันลืมการบริการนี้!.. เสมอมาจนกระทั่งถึงเวลาที่พระเจ้าต้องการเรียกฉันให้มาหาตัวเองความกตัญญูต่อกองทัพดอนจะยังคงอยู่ในใจของฉันสำหรับการทำงานและความกล้าหาญในเรื่องนี้ ช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

หลังจากเข้าสู่กรุงมอสโก ตำแหน่งของกองทัพศัตรูก็ยิ่งยากขึ้น กองทหารคอซแซคและการปลดพรรคพวกของ Denis Davydov, Seslavin, Figner ล้อมรอบมอสโกทุกด้านเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หาอาหารชาวฝรั่งเศสได้รับอาหารและให้อาหารม้าในหมู่บ้านโดยรอบหรือแม้แต่ได้รับสิ่งเล็กน้อยที่สามารถพบได้ในหมู่บ้านที่ไม่มีประชากรและถูกทำลายล้าง กองทัพของนโปเลียนถูกบังคับให้กินเนื้อม้าและซากสัตว์ โรคภัยไข้เจ็บก็เริ่มขึ้น ทหารศัตรูเสียชีวิตไปนับพัน ชาวรัสเซียทั้งหมดลุกขึ้นสู้ในสงครามรักชาติ ในไม่ช้านโปเลียนก็ถูกบังคับให้ออกจากเมืองหลวงของรัสเซีย เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณของการรุกทั่วไปของกองทัพ Kutuzov ซึ่งมอบสถานที่พิเศษและมีเกียรติให้กับการกระทำของกองพลของ Platov

Matvey Ivanovich Platov ซึ่งเป็นหัวหน้ากองพลของเขาไล่ตามศัตรูด้วยส้นเท้าของเขา “เอาล่ะ พี่น้อง” เขาพูดกับพวกคอสแซค “เวลาแห่งความทุกข์ทรมานของเรามาถึงแล้ว... แค่มีเวลาลับดาบและลับลูกดอกของคุณ... ตอนนี้เราจะเช็ดน้ำมูกของโบนาปาร์ตผู้อวดดีออกไป พี่น้องทั้งหลาย มาส่งเสียงหน่อยเถอะ และบอกให้ลูกชายชาวรัสเซียตัวน้อยของเรารู้ว่าดอนผู้ห้าวหาญของเธอยังมีชีวิตอยู่…”

และแท้จริงแล้ว ตั้งแต่ยุทธการที่ทารุติโน พวกคอสแซคก็เริ่มส่งเสียงดัง ไม่มีวันผ่านไปโดยที่พวกเขาไม่แยกแยะความแตกต่างในทางใดทางหนึ่ง ทุกที่มีเพียงการพูดคุยเกี่ยวกับการหาประโยชน์จากคอซแซคเท่านั้น ข่าวที่ว่าคอสแซคใกล้ Maloyaroslavets เกือบจะจับนโปเลียนเองทำให้เกิดเสียงดังไปทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ในการต่อสู้กับกองพลของจอมพล Davout ที่อาราม Kolotsky คอสแซคของ Platov ก็สร้างความโดดเด่นอีกครั้ง พวกเขาเอาชนะกองหลังของ Davout และคว้าถ้วยรางวัลมากมาย สองสามวันหลังจากนั้นคอสแซคได้พบกับกองทหารของกษัตริย์เนเปิลส์เอาชนะกองทหารนี้จับนักโทษได้มากถึงสามพันคนและปืนห้าสิบกระบอก และสามวันต่อมา Platov พร้อมกองทหารของเขาได้แซงกองทหารของอุปราชอิตาลีใกล้ Dukhovshchina และหลังจากการสู้รบนองเลือดสองวันก็เอาชนะมันได้อีกครั้งจับนักโทษได้มากถึงสามพันคนและปืนมากถึงเจ็ดสิบกระบอก

ทุกวันนี้รายงานของ Kutuzov ต่อจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์เกี่ยวกับความกล้าหาญของ Platov Cossacks ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของเมืองหลวง:“ พระเจ้ายิ่งใหญ่ผู้มีอำนาจอธิปไตยที่มีเมตตาที่สุด! ฉันขอแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งใหม่ของคุณที่แทบพระบาทของจักรพรรดิ์ พวกคอสแซคกำลังทำปาฏิหาริย์ โจมตีทั้งปืนใหญ่และเสาทหารราบ!”

ในระหว่างการเดินขบวนเป็นระยะทางพันไมล์จาก Maloyaroslavets ไปยังชายแดนของปรัสเซีย พวกคอสแซคยึดปืนมากกว่า 500 กระบอกจากฝรั่งเศส ขบวนรถจำนวนมากพร้อมสิ่งของที่ถูกปล้นในมอสโก ทหารและเจ้าหน้าที่นักโทษมากกว่า 50,000 นาย รวมถึงนายพล 7 นายและ 13 นาย พันเอก

ภายในสิ้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2355 กองทัพสุดท้ายของนโปเลียนที่เหลือถูกขับออกจากรัสเซีย

การหาประโยชน์อันยอดเยี่ยมของบรรพบุรุษของเราในสงครามรักชาติปี 1812 จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป ผู้คนไม่ได้และจะไม่ลืมการกระทำอันรุ่งโรจน์ของ Don Cossacks ซึ่งได้รับความชื่นชมจากผู้บัญชาการผู้ยิ่งใหญ่ของรัสเซีย - M.I. Kutuzov: “ ฉันเคารพกองทัพ Don และความกตัญญูต่อการหาประโยชน์ของพวกเขาในระหว่างการรณรงค์ของศัตรูซึ่งในไม่ช้าก็ถูกลิดรอนจากม้าทหารม้าและปืนใหญ่ทั้งหมดดังนั้นปืน... จะยังคงอยู่ในใจของฉัน ฉันมอบความรู้สึกนี้ให้กับลูกหลานของฉัน”

แต่สงครามไม่ได้จบลงด้วยการขับไล่กองทัพของนโปเลียนออกจากรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2356 กองทหารรัสเซียข้ามแม่น้ำเนมานและเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก เพื่อปลดปล่อยยุโรปที่ถูกกดขี่โดยนโปเลียน การรณรงค์ในปี พ.ศ. 2356-2357 เริ่มขึ้นซึ่งคอสแซคเพิ่มความรุ่งโรจน์ของอาวุธรัสเซียต่อไป

ในเดือนกุมภาพันธ์ พวกคอสแซคและเสือเห็นกลางบุกโจมตีเบอร์ลิน ซึ่งไม่ได้ให้ผลทางการทหารในทันที แต่สร้างความประทับใจอย่างมากให้กับชาวปรัสเซีย สิ่งนี้เร่งการพลิกผันในการเมืองรัสเซีย ปรัสเซียยุติความสัมพันธ์กับนโปเลียนและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับรัสเซีย

คอสแซคของ Platov ไล่ตามศัตรูเข้ายึดครองเมือง Elbing, Marienburg, Marienwerder และอื่น ๆ

“ การล่มสลายของเมืองที่มีป้อมปราการอันรุ่งโรจน์อย่าง Elbing, Marienwerder และ Dirschau” Kutuzov เขียนถึง Platov“ ฉันถือว่าความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของ ฯพณฯ ของคุณและกองทัพผู้กล้าหาญที่นำโดยคุณอย่างสมบูรณ์ การบินไล่ล่าไม่สามารถเทียบได้กับความเร็วใดๆ ความรุ่งโรจน์ชั่วนิรันดร์แก่ชาวดอนผู้ไม่สะทกสะท้าน!”

การต่อสู้ขั้นเด็ดขาดของการรณรงค์ในปี พ.ศ. 2356-2357 การรบที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นใกล้เมืองไลพ์ซิก ซึ่งมีผู้คนเข้าร่วมมากถึง 500,000 คน

คอสแซคต่อสู้ทางด้านขวาของกองทัพรัสเซีย ยึดกองพลทหารม้า กองพันทหารราบ 6 กอง และปืน 28 กระบอก ดอนคอสแซคต่อสู้ไปทั่วยุโรป

สงคราม ค.ศ. 1812-1814 นำชื่อเสียงของดอนคอสแซคไปทั่วโลก หนังสือพิมพ์และนิตยสารในยุคนั้นเต็มไปด้วยรายงานเกี่ยวกับ Donets และการหาประโยชน์ทางทหารของพวกเขา ชื่อของ Don Ataman Platov ได้รับความนิยมอย่างมาก

หลังจากการสรุปสันติภาพแห่งปารีส Platov ได้ไปเยือนลอนดอนโดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ติดตามของ Alexander I. หนังสือพิมพ์ในลอนดอนอุทิศทั้งหน้าให้กับ Platov โดยแสดงรายการการหาประโยชน์และข้อดีที่แท้จริงและสมมติของเขา มีการเขียนเพลงเกี่ยวกับเขาภาพบุคคลของเขาถูกตีพิมพ์ ในลอนดอน Platov ได้พบกับ Byron กวีชาวอังกฤษผู้โด่งดังและนักเขียน Walter Scott

ต่อมาเมื่อ Platov กลับไปที่ Don เจ้าหน้าที่ชาวอังกฤษก็มาหาเขาและมอบปริญญาเอกกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดและดาบจากพลเมืองของเมืองลอนดอนให้เขา

อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมในสงครามปี 1812 บุญคุณทางทหารและการหาประโยชน์จากความรักชาติไม่ได้ทำให้คอสแซคที่ทำงานตลอดจนคนรัสเซียที่ทำงานทั้งหมดมีชีวิตที่ดีขึ้น คอซแซคที่ทำงานสามารถพูดเกี่ยวกับตัวเองได้อย่างถูกต้องในคำพูดของทหารรัสเซีย: "เราหลั่งเลือด... เรากอบกู้มาตุภูมิของเราจากเผด็จการ (นโปเลียน) และสุภาพบุรุษก็กดขี่ข่มเหงเราอีกครั้ง"

Platov อุทิศเวลาที่เหลือให้กับฝ่ายธุรการเนื่องจากเศรษฐกิจของภูมิภาคกองทัพดอนซึ่งถูกละเลยในช่วงสงครามจำเป็นต้องได้รับความสนใจจากเขา

Agarkov L.T.

สุนทรพจน์ในการประชุมใหญ่ พ.ศ. 2498

หมอกหนาสีขาวแผ่กระจายจากแม่น้ำข้ามทุ่งในเวลาพลบค่ำ ม้าเดินเตร่เหมือนเงาดำ เด็กชายจากหมู่บ้านคอซแซคที่อยู่ใกล้เคียงรวมตัวกันรอบกองไฟ บทสนทนาเป็นเรื่องเกี่ยวกับม้าและงานฤดูใบไม้ร่วงซึ่งจะมีเกมสงครามและการแข่งม้าซึ่งเป็นวันหยุดหลักของปี นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันสำหรับวัยรุ่นด้วย และพ่อก็มอบม้าที่ดีที่สุดให้กับลูกชายเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เสียหน้า

อีวานผมสีแดงและ Matveyka ตัวยาวกำลังโต้เถียงกันว่าใครจะได้รับรางวัลในปีนี้ - เบย์หรือโวโรนอก ที่นั่นพวกเขากำลังเดินผ่านทุ่งหญ้า ต่างฝ่ายต่างอยู่คนละฝั่ง ราวกับว่าตอนนี้พวกเขากำลังมองดูกันอย่างใกล้ชิด มัตวีย์กิ้น โวโรนก ดูหนักกว่า แต่เมื่อเป็นเรื่องการแข่งขันเขาไม่เท่ากันใครๆ ก็รู้ดี “มาดูกัน!” - อีวานไม่ยอมแพ้

Matvey Platov มีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องราวทั้งหมดนี้ พ่อของฉันเคาะประตูบ้านมานานแล้วเพื่อที่เด็กฉลาดจะถูกพาไปรับบริการคอซแซคไม่ว่าจะเป็นเสมียนหรือพนักงานจัดส่งพัสดุ แต่เขาก็ยังตัวเล็กเพียงสิบสามปีเท่านั้น อาตมาสงสัย.. ชาวคอสแซคไม่เคยมีสิ่งที่เหมือนกับขุนนางในกองทัพของอธิปไตยพวกเขารับเด็ก ๆ เข้าสู่กองทหารตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นพ่อจึงพูดว่า: ถ้า Matveyka แสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนบ้าระห่ำอย่างแท้จริงในการแข่งขันหัวหน้าเผ่าจะไม่ต่อต้าน - เด็กชายจะมีทั้งบริการและชุดต่อสู้

ในตอนเช้าหลังจากม้าโยกเยกพวกเขาก็เข้านอน และเมื่อรุ่งสางปัญหาก็มาถึง: โวโรนกสะดุดล้มลงในหุบเขาและหักสันเขา เด็กชายที่เหลือยืนเงียบ ๆ ริมหุบเขาขณะที่ Matvey ลากม้าและพยายามจะเลี้ยงม้า แม้แต่อีวานก็ยังเงียบ ฉันจะพูดอะไรได้บ้าง?

อย่างไรก็ตาม พ่อของ Matvey ยังไม่พร้อมที่จะละทิ้งความฝันของเขาอย่างง่ายดาย เป็นเวลาสองคืนที่เขาเดินจากปลายสุดไปยังปลายกระท่อม มืดมนยิ่งกว่าเมฆ แมทวีย์ตัวแข็งบนม้านั่ง คิดว่าพายุฝนฟ้าคะนองกำลังจะแตกสลาย และเขาจะต้องเจอกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ในวันที่สามโดยไม่พูดอะไรสักคำ พ่อก็จากไปที่ไหนสักแห่งและกลับมาพร้อมกับบทความที่น่าทึ่งมากมายจากม้าป่าสีเทา ใช่ เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดของครอบครัว แต่ม้าเป็นปีศาจจริงๆ บนหลังของเขา Matveyka จะรีบวิ่งนำหน้าทุกคนในการแข่งขันไปสู่ชัยชนะที่ประมาทครั้งแรกในชีวิตของเธอการอนุมัติจาก Ataman และการแต่งตั้งให้รับราชการเมื่ออายุสิบสามในปี พ.ศ. 2309

พ่อพูดถูก: ชัยชนะครั้งนี้ปลูกฝังให้ลูกชายได้รับชื่อเสียงอย่างจริงใจ ทำให้เขาเชื่อในความแข็งแกร่งและดาวนำโชคของเขา ซึ่งจะทำให้ Platov กลายเป็นวีรบุรุษในตำนานของสงครามปี 1812 และทำให้ทั้งยุโรปคลั่งไคล้ คอสแซครัสเซียที่น่าประทับใจ ดุร้าย และมีหนวด

ทดสอบด้วยการต่อสู้

ปีนี้คือ 1774 Platov รุ่นเยาว์ซึ่งสั่งการคอซแซคหนึ่งร้อยคนแล้วรับใช้จักรพรรดินีในสงครามรัสเซีย - ตุรกีครั้งแรก ในตอนท้ายของสงครามมีเหตุการณ์ที่น่าทึ่งเกิดขึ้นหลังจากนั้น Matvey Platov ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Catherine II เป็นการส่วนตัวและได้รับเชิญไปที่ศาล

คดีนี้เริ่มต้นจากภารกิจด้านหลังที่ไม่ธรรมดา พันเอกคอซแซคสองคนคือปลาตอฟและลาริโอนอฟ ได้รับมอบหมายให้ดูแลขบวนรถขนาดใหญ่ซึ่งควรจะส่งอาหารและกระสุนไปยังคูบาน เราพักค้างคืนบนฝั่งสูงชันของแม่น้ำ Kalalakh การว่ายน้ำซึ่งนักบิดเหงื่อออกใฝ่ฝันมาทั้งวันนั้นช่างยาวนานและสนุกสนาน จากนั้นพวกเขาก็ปล่อยม้าไปที่ทุ่งหญ้า ตั้งค่าย รับประทานอาหารเย็น และนอนลง

Matvey โยนและพลิกจากด้านหนึ่งไปอีกด้านเป็นเวลานานในเต็นท์ที่อับชื้นและนอนไม่หลับ เขาออกไปในตอนกลางคืนจุดบุหรี่และเห็นคอซแซค Frol Avdotyev ผู้เฒ่า เมื่อสองสามปีที่แล้ว Platov ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการโดยผ่านคุณสมบัติทางทหารเก่าของ Frol แต่เขาก็ไม่รู้สึกขุ่นเคือง และแมทวีย์ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเสมอ

“มีบางอย่างที่น่าตกใจ Frolushka” Platov บ่น
- ใช่แล้วฉันก็กระสับกระส่าย! - เขาเห็นด้วย - มีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่ในบริเวณใกล้เคียง คุณได้ยินเสียงนกร้องไหม? พวกเขาควรนอนตอนกลางคืน วางหูของคุณลงบนพื้น!

Matvey คุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง โน้มตัวและฟัง ไม่มีอะไร. แม้ว่า... ดูเหมือนจะมีเสียงฮัมบ้าง

มีอะไรส่งเสียงหึ่ง? - เขาถาม
- แค่นั้นแหละ! - Frol ยกนิ้วขึ้น “สำหรับฉัน ดูเหมือนว่าทหารม้าขนาดใหญ่กำลังรวบรวมอยู่ใกล้ๆ” มากกว่าหนึ่งร้อยหัว! พวกเติร์กกำลังเตรียมซุ่มโจมตีหรือไม่? บางทีเราควรควบม้าและลาดตระเวน?
- กระโดดไปเลยที่รักถ้าคุณยังนอนไม่หลับ! - แมทวีย์เห็นด้วย

หนึ่งชั่วโมงต่อมา Frol ก็กลับมาพร้อมกับข่าวร้าย: ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร ติดกับถนนที่เราจะเดินไปในวันพรุ่งนี้ ไฟลุกไหม้จนถึงขอบฟ้า! ที่นั่นมีหมื่นคนหรืออาจจะยี่สิบคนด้วยซ้ำ พวกเติร์กได้รวบรวมกองทัพที่เหลืออยู่และเตรียมการโจมตีอย่างชัดเจน และพวกเขามีทหารม้าเฝ้าขบวนเพียงสองพันคนเท่านั้น!

Platov ปลุก Larionov และพวกเขาก็เริ่มจัดสภาอย่างรวดเร็ว วิ่งไปกับขบวนรถเงอะงะเหรอ? พวกเขาจะไม่มีเวลา... ทะลุทะลวง? เป็นไปไม่ได้. เราต้องสร้างป้อมปราการและป้องกันตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ส่งผู้ส่งสารไปยังด่านหน้าที่ใกล้ที่สุด! ปลาตอฟคิดเช่นนั้น Larionov กล่าวว่าเขาสละคำสั่งเพราะเขาไม่เชื่อว่าพวกเขาจะรอดจากกับดักนี้ทั้งเป็น

พวกเขายกค่ายทั้งหมดอย่างระมัดระวัง และจนถึงรุ่งเช้าก็วางเกวียนไว้ในจัตุรัสป้องกันบนฝั่งสูงชันของแม่น้ำ ผู้ส่งสารสองคนถูกส่งไปเพื่อช่วยเหลือกองทหารที่ใกล้ที่สุด อย่างไรก็ตาม เป็นที่ชัดเจน: แม้ว่าพวกเขาจะควบม้าด้วยความเร็วสูงสุด แต่กำลังเสริมจะมาถึงในตอนเย็นของวันถัดไปเท่านั้น คุณต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น เมื่อรุ่งสาง พวกเติร์กก็ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเนินเขาใกล้เคียง พวกเขาส่งเสียงโห่ลงไปที่ขบวนที่มีป้อมปราการ และ Platov ก็เริ่มยิงจากปืนใหญ่เพียงกระบอกเดียวของเขาทันที ดังนั้นการปิดล้อมแม่น้ำ Kalalakh อย่างกล้าหาญจึงเริ่มต้นขึ้นซึ่งกินเวลาแปดชั่วโมงและพิสูจน์ว่า Don Cossacks สามารถป้องกันตัวเองจากศัตรูได้ยี่สิบเท่าของจำนวนพวกเขา!

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินและ Platov คิดว่าชั่วโมงแห่งความตายของเขาใกล้เข้ามาแล้ว ความสับสนก็เริ่มขึ้นในหมู่พวกเติร์ก จากทางตะวันตกพวกเขาเริ่มถูกกดดันโดยกองกำลังใหม่ที่มาช่วยจากกองทหารรักษาการณ์ซึ่งทำให้กองทัพศัตรูที่หวาดกลัวกระจัดกระจายไปในทันที

แคทเธอรีนที่ 2 ปรารถนาที่จะให้รางวัลเป็นการส่วนตัวแก่ฮีโร่ที่สามารถเอาชนะ "กองทัพทั้งหมด" ด้วยสองกองทหารได้ Matvey ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับศาลและสร้างความประทับใจที่ดี จักรพรรดินีพยักหน้าอย่างเขินอายต่อเรื่องตลกเรียบง่ายของหนวดหนุ่มและเชิญเขาให้อยู่ในวังหากเขาเคยมาเยือนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีกครั้ง

ขึ้นและลง

ในปี ค.ศ. 1775 Platov เข้าร่วมในการปราบปรามการกบฏของ Pugachev ในปี ค.ศ. 1780 เขาได้ทำให้ชาวเชเชนและเลซกินส์สงบลงในคอเคซัส จากนั้นช่วงเวลาแห่งการผ่อนผันสั้น ๆ ก็มาถึงเมื่อฮีโร่ผู้โด่งดังสามารถแต่งงานกับหญิงคอซแซคจากครอบครัวที่ดีและเขาเตรียมที่จะสานต่อตระกูล Platov อย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม จากนั้นสงครามรัสเซีย - ตุรกีครั้งที่สองก็เริ่มต้นขึ้นซึ่ง Ataman อีกครั้ง สร้างความโดดเด่นและได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองทัพคอซแซค

ในปี พ.ศ. 2439 พอลที่ 1 ขึ้นครองบัลลังก์ เหล่าคนเต็งเก่าพบว่าตัวเองต้องอับอายภายใต้รัฐบาลใหม่ โดยไม่รู้ถึงอุบายของพระราชวัง ทันใดนั้น Platov ก็พบว่าตัวเองเป็น "ผู้วางแผนสมรู้ร่วมคิดต่อต้านจักรพรรดิ" เขาถูกเนรเทศไปยัง Kostroma เป็นเวลาสี่ปีจากนั้นก็ถูกโยนเข้าไปในคุกใต้ดินของป้อม Peter และ Paul อย่างสมบูรณ์ บางทีอาจเป็นที่นั่นที่ Matvey ลดการบริโภคซึ่งเขาได้รับการรักษามาตลอดชีวิตครึ่งหลัง อย่างไรก็ตามความอัปยศอดสูการสอบสวนของนิกายเยซูอิตความสิ้นหวังและความเป็นจริงของเหตุการณ์ไม่ได้ทำลายฮีโร่ของเรา เขาได้รับความรู้อันขมขื่นเกี่ยวกับชีวิตทางสังคมโดยที่อาชีพทหารที่แท้จริงนั้นเป็นไปไม่ได้ ในช่วงเวลานี้ Platov จากนักรบที่มีจิตใจเรียบง่ายและห้าวหาญกลายเป็นข้าราชบริพารที่มีความซับซ้อน และเขาก็หลุดพ้นไปได้! อย่างไรก็ตาม ในทางที่ค่อนข้างแปลก

ในปี 1801 Platov ได้รับการปล่อยตัวจากป้อม Peter และ Paul และถูกส่งไปยังเอเชียกลางทันทีเพื่อเข้าร่วมในการรณรงค์ของอินเดียในตำนาน ซึ่งนักประวัติศาสตร์การทหารบางคนยังถือว่าเป็นเรื่องหลอกลวง แทบจะไม่มีเอกสารใดได้รับการเก็บรักษาไว้เกี่ยวกับกิจการของพอล ยกเว้น "บันทึกข้อตกลงของไลบนิซที่มีการแนบโครงการสำรวจดินแดนไปยังอินเดียตามข้อตกลงระหว่างกงสุลที่หนึ่งและจักรพรรดิพอลที่ 1" ฝรั่งเศสสนับสนุนรัสเซียให้ส่งคอสแซคไปยังเอเชียกลางและโจมตีอินเดียทางบกเพื่อเปลี่ยนเส้นทางกองกำลังของสหราชอาณาจักรไปยังอาณานิคม หลังจากนั้นนโปเลียนวางแผนที่จะโจมตีจักรวรรดิอังกฤษจากยุโรป แม้จะมีคำสัญญาที่ลวงตาของ "ความร่ำรวยของอินเดียที่เหลือเชื่อ" สำหรับคอสแซคการเดินทางครั้งนี้ควรจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม นี่คือราคาแห่งอิสรภาพสำหรับ Platov

กองทหารรักษาการณ์คอซแซคถูกรวบรวมอย่างเชื่อฟังและส่งไปยังนรกในที่ห่างไกล แต่โชคดีที่ไม่สามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2344 พอลฉันถูกรัดคอ (มีความเห็นว่าไม่ใช่หากปราศจากการมีส่วนร่วมของหน่วยข่าวกรองอังกฤษซึ่งค้นพบเกี่ยวกับพันธมิตรที่ร้ายกาจ) อเล็กซานเดอร์ฉันจำพวกคอสแซคกลับมาอย่างชาญฉลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึงเวลานั้นลมชั่วร้ายของสงครามนโปเลียนได้พัดเข้ามาในยุโรปแล้ว

ปลาตอฟและนโปเลียน

การรุกคืบอย่างรวดเร็วของฝรั่งเศสต่อพันธมิตรรัสเซีย ออสเตรียและปรัสเซีย ทำให้อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ต้องส่งกำลังเสริมไปยังยุโรปในปี พ.ศ. 2348 คอสแซคนำโดย Ataman Platov กลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรัสเซียซึ่งเรียกว่า "กองกำลังบิน" ทหารม้าคอซแซคที่รวดเร็วและผ่านพ้นไม่ได้เป็นเครื่องมือในอุดมคติสำหรับการปฏิบัติการในแนวหลังและไล่ตามศัตรูที่ล่าถอย นอกจากนี้ยังใช้ "กองกำลังบิน" เพื่อปกปิดการล่าถอยของพวกเขาเอง ในยุโรปเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคอสแซค - นักขี่ม้าบ้าสไตล์เอเชียในชุดรัสเซียและชักดาบ พวกเขาตื่นตระหนกกับรูปลักษณ์ที่ไม่คาดคิดจากการซุ่มโจมตีในป่า ลาวาที่ถูกกัดเซาะโดยไม่หันกลับมามอง และหายตัวไปอย่างกะทันหันเช่นกัน คอสแซคกลายเป็นอาวุธลับของรัสเซีย เป็นที่หวาดกลัวในต่างประเทศและภูมิใจในบ้าน Derzhavin ยังแต่งบทกวีที่เหมาะกับโอกาสนี้ด้วย:

ปลาตอฟ! ยุโรปก็รู้อยู่แล้ว
ว่าคุณเป็นผู้นำที่แย่มากของกองกำลังดอน
ด้วยความประหลาดใจเหมือนพ่อมดทุกที่
คุณจะตกเหมือนหิมะจากเมฆหรือฝน

อย่างไรก็ตาม ความสับสนเกิดขึ้นในการบังคับบัญชาของกองกำลังต่อต้านนโปเลียนที่เป็นพันธมิตร ไม่มีแผนร่วมกัน ชัยชนะสลับกับความพ่ายแพ้ กองทัพรัสเซียหมดแรง และเป็นการยากที่จะได้รับอาหารและอาหารสัตว์ในดินแดนต่างประเทศ ในปี ค.ศ. 1807 สนธิสัญญาทิลซิตสิ้นสุดลงร่วมกับนโปเลียน

ในการประชุมทางการทูตที่เมือง Tilsit นอกเหนือจากงานเลี้ยงและการเจรจาธุรกิจแล้ว ยังมีการจัดการแข่งขันนิทรรศการอีกด้วย ที่นี่คอสแซคแสดงตนด้วยความรุ่งโรจน์ทั้งหมด: การขี่ม้า, วิธีการ, การยิงธนูในการควบม้า! นโปเลียนประหลาดใจอย่างยิ่งที่ Platov มีส่วนร่วมในการสาธิตด้วย เขาเข้าไปหาหัวหน้าเผ่าพร้อมคำชมและมอบกล่องยานัตถุ์เพชรเป็นของขวัญ Matvey หรี่ตารับของขวัญ แต่ระบุว่าบน Don เป็นเรื่องปกติที่จะ "แจก" ของขวัญหลังจากนั้นเขาก็มอบธนูและลูกธนูให้นโปเลียน

อาวุธสวย! - ชาวฝรั่งเศสชื่นชม - ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคอสแซคที่มีเป้าหมายดีสามารถยิงนกที่เล็กที่สุดได้ด้วย!
“ไม่เพียงแต่นกตัวเล็กเท่านั้น แต่นกตัวใหญ่ยังควรเกรงกลัวพวกเราด้วย” หัวหน้าเผ่าตั้งข้อสังเกต

จากนั้นนักแปลก็เร่งรีบเพื่อขจัดความอึดอัดใจ แต่คำพูดที่ไม่สุภาพของ Platov กลับกลายเป็นคำทำนาย เพียงไม่กี่ปีต่อมา กองทหารนโปเลียนซึ่งละเมิดการพักรบได้เข้าโจมตีรัสเซีย

วอดก้ามัสตาร์ด

การรุกของฝรั่งเศสใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตของ Platov แม้แต่ภายใต้แคทเธอรีน เขาก็สังเกตเห็นสิ่งหนึ่ง: แม้ว่าคุณจะเป็นวีรบุรุษที่กล้าหาญที่สุด โดยไม่มีชื่อที่เล็กที่สุดอยู่ข้างหน้าชื่อของคุณ คุณก็ยังเป็นเพียงสัตว์ตัวน้อยตลกๆ ในห้องวาดรูปในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้วที่เขามาถึงเมืองหลวง Matvey เชื่อมั่นครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับการประชุมอันขมขื่นของสังคมโลกนี้ การรักษาของเขาเปลี่ยนไป เขามีประสบการณ์ที่เลวร้ายของป้อม Peter และ Paul และหลายปีที่อยู่เบื้องหลังเขา เขาได้รับการรักษาปัญหาปอดโดยแพทย์ที่เก่งที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เหมือนกับตัวแทนของครอบครัวที่มีชื่อเสียงที่สุด... ในท้ายที่สุด เขา กลายเป็นอาตามันซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดอย่างเป็นทางการของดอนทั้งหมด! ความหวังอันมากมายถูกตรึงไว้กับสิ่งนี้ แต่ถึงกระนั้นคำสั่งทั้งหมดกระบี่และกล่องยานัตถุ์ของราชวงศ์ไม่ได้ให้สิทธิ์ Ataman Platov นั่งที่โต๊ะต่อหน้าบารอนเน็ตที่ล้นหลามที่สุดและบารอนเน็ตคนเดียวกันนี้หันหน้าหนีอย่างมีเป้าหมายรอให้ Matvey Ivanovich เป็นคนแรก เพื่อเข้าไปทักทายเขาในห้องรับแขก Platov ขมขื่นและขุ่นเคืองและเขาบอกเป็นนัยในแวดวงระดับสูงมานานแล้วว่านี่ไม่ใช่คำสั่งหรือริบบิ้นอื่นที่เขาต้องการ แต่เป็นตำแหน่งที่คู่ควรกับนักรบรัสเซียผู้ซื่อสัตย์... แต่ทั้งหมดนี้ก็ไร้ประโยชน์ จะต้องทำอย่างไรกับความอยุติธรรมนี้? แค่ล้างมันด้วยวอดก้ามัสตาร์ด แล้วโบกมือ ไปทักทายและแนะนำตัวเองราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุยังน้อย คุณสามารถดื่มได้มากและอยู่บนหลังม้า เอาชนะศัตรูด้วยความกล้าหาญอย่างไม่ประมาทในสนามรบหรือในร้านเสริมสวย แต่ยิ่งอาตามันอายุมากเท่าไร การแสวงหาผลประโยชน์จากแอลกอฮอล์ก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น นี่คือสาเหตุที่ Platov ประสบปัญหาระหว่างการล่าถอยของกองทัพรัสเซียในปี 1812 จากนั้นอาตามันก็กลบความสับสนจากการพ่ายแพ้ด้วยวอดก้าและดุจอมพลบาร์เคลย์ เขาเก็บงำความขุ่นเคืองกับคอซแซคผู้อารมณ์ร้อนมานานแล้ว แต่อย่างเป็นทางการแล้วไม่มีอะไรที่จะตำหนิหัวหน้าเผ่าได้ แล้ววันหนึ่งก็มีโอกาสแสดงตัว: คอสแซคพลาดการรุกคืบของฝรั่งเศส บาร์เคลย์เขียนรายงานถึงอธิปไตยทันทีซึ่งเขากล่าวว่า Platov "หลับใหล" ศัตรูเนื่องจากความเมาอย่างต่อเนื่อง Matvey Ivanovich ถูกถอดออกจากการบังคับบัญชาของการปลดกองหน้าและส่งลึกไปทางด้านหลัง

แก้แค้น

การตกจากพระคุณครั้งที่สองนี้เป็นเรื่องยากสำหรับ Matvey Ivanovich Kutuzov เพื่อนเก่าของเขาช่วยเขาไว้ ทันทีที่อำนาจส่วนใหญ่ของ Barclay, Bagration และ Tormasov สิ้นสุดลงและคำสั่งของกองทหารรัสเซียทั้งหมดส่งต่อไปยัง Kutuzov Platov ก็ถูกส่งกลับไปยังแนวหน้าอีกครั้ง

หัวหน้าเผ่าชื่นชมสิ่งนี้: กองทหารเบาซึ่งได้รับการเสริมกำลังด้วยกองทหารอาสาสมัครเพิ่มเติมจากดอนมาถึงการช่วยเหลือในช่วงเวลาวิกฤติของการรบที่โบโรดิโน คอสแซคเป็นพวกที่ปรากฏตัวทางด้านหลังโดยไม่คาดคิดทำให้การโจมตีของกองทหารนโปเลียนล่าช้าไปเป็นเวลาสองชั่วโมงอันล้ำค่า เป็นพวกคอสแซคที่ไม่ได้ให้ชาวฝรั่งเศสที่เหนื่อยล้าได้พักผ่อนสักนาทีหลังการสู้รบ โผล่ออกมาจากความมืดมิดแห่งราตรีและสังหารศัตรูที่ปักหลักเพื่อพักผ่อน คอสแซคเป็นผู้สร้างความประทับใจโดยรวมว่าแม้จะออกจากมอสโกว แต่รัสเซียก็ยังไม่ยอมแพ้ - มันซ่อนตัวอยู่ในป่าที่ซุ่มโจมตีและรออยู่ในปีกเพื่อรุก

การรุกครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นาน และที่นี่ Matvey Platov กับผู้บ้าคลั่งที่บินได้ไม่เท่ากัน พร้อมตะโกนดังลั่น “ไชโย!” พวกเขาขับไล่ศัตรูกลับไปยังชายแดนของจักรวรรดิรัสเซียโดยยึดถ้วยรางวัลที่ไม่มีที่สิ้นสุดนายพลนโปเลียนชิ้นส่วนปืนใหญ่โดยไม่ชะลอตัวลงแม้แต่วินาทีเดียวและไม่อนุญาตให้นโปเลียนหายใจเข้า ผู้บัญชาการชาวฝรั่งเศสประเมินความพ่ายแพ้ในรัสเซียกล่าวกับ Caulaincourt ว่า "เราต้องให้ความยุติธรรมกับคอสแซค: สำหรับพวกเขาแล้วชาวรัสเซียเป็นหนี้ความสำเร็จในการรณรงค์ครั้งนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือกองกำลังเบาที่ดีที่สุดที่มีอยู่” เมื่ออยู่ในโปแลนด์แล้วซึ่งถูกบังคับให้ออกจากจักรวรรดิรัสเซียนโปเลียนอุทานอย่างขมขื่น:“ ขอคอสแซคให้ฉันหน่อย - แล้วฉันจะไปทั่วยุโรป!” อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีคอสแซค และชาวฝรั่งเศสก็หนีไปด้วยความตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยออกจากปรัสเซียและออสเตรีย และนโปเลียนก็ถูกโค่นล้มและเนรเทศไปยังเกาะเอลบา

สำหรับ Ataman Platov ถึงเวลาแล้วสำหรับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและการเติมเต็มความปรารถนาภายในของเขาทั้งหมด ในช่วงเริ่มต้นของการตอบโต้ของกองทัพรัสเซีย Kutuzov ได้รับตำแหน่งนับที่รอคอยมานานสำหรับเขา ในปี ค.ศ. 1814 Platov ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนของ Alexander I ได้ไปเยือนบริเตนใหญ่ที่เป็นพันธมิตร การเดินทางครั้งนี้ที่จุดสูงสุดของชื่อเสียงของ "Kazakoffs" ที่แปลกใหม่ในยุโรปกลายเป็นการทดสอบที่สำคัญที่สุดสำหรับหัวหน้าเผ่า - "ท่อทองแดง" ในขณะที่ขบวนราชบัลลังก์กำลังเดินทางไปลอนดอน ชาวบ้านก็หยุดเขาอยู่ตลอดเวลา โยนดอกไม้ใส่เขา หยิบพายมาให้เขา และจับมือเขา สาวๆ ต่างอยากรู้อยากเห็นเป็นพิเศษเมื่อได้เห็น “อาตามัน ปลาตอฟ” ที่กำลังขี่ม้าศึกอยู่ เมื่อถึงจุดหนึ่งผู้หญิงอังกฤษก็พุ่งขึ้นมาจากด้านหลังอย่างทรยศและตัดหางม้าของ Ataman ซึ่งถูกแยกผมออกจากกันทันทีเพื่อเป็นของที่ระลึก มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมอบปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ให้กับ Platov และเรือลำใหม่ของกองทัพเรืออังกฤษได้รับการตั้งชื่อตามหัวหน้าเผ่า

เมื่อถึงจุดนี้ก็มีเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ทางประวัติศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกัน ช่างฝีมือของโรงงานผลิตอาวุธในลอนดอนนำเสนอคณะผู้แทนของ Alexander I ด้วยหมัดเหล็กจิ๋วอันโด่งดังพร้อมกลไกภายในที่ซับซ้อน พวกเขาบอกว่า Platov ผู้รักชาติผู้สิ้นหวังที่กล่าวว่าช่างทำปืนชาวรัสเซียจะไม่ยอมจำนนต่ออังกฤษ เขาเอาแมลงไปหาทูลาและขอให้เขาเช็ดจมูกของชาวต่างชาติ หมัดนั้นถูกหลอก และบนเล็บแต่ละอันอาจารย์ Tula ได้ทิ้งลายเซ็นของเขาไว้

คอซแซคผู้โด่งดังยังได้รับถ้วยรางวัลส่วนตัวอีกด้วย จากอังกฤษ Platov พาหญิงสาวชาวอังกฤษมาที่ Don ซึ่ง Denis Davydov เคยพูดติดตลกว่า: "เป็นเรื่องที่เข้าใจยากโดยสิ้นเชิงว่า Platov จัดการ 'รณรงค์' พลาดครั้งนี้โดยไม่รู้ภาษาอังกฤษสักคำได้อย่างไร” อย่างไรก็ตาม “อาตามัน พลาตอฟ” อันงดงามนั้นไม่ต้องการคำพิเศษใดๆ อีกแล้วในเรื่องนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ภรรยาคอซแซคของเขาเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ทิ้งทายาทจำนวนพอสมควรให้ดำรงตำแหน่งเคานต์ และนางสาวหน้าขาวก็ทำให้วัยที่ก้าวหน้าของหัวหน้าการต่อสู้สดใสขึ้นได้สำเร็จ

Platov ใช้เวลาหลายปีนี้รายล้อมไปด้วยลูกชายและลูกหลานของเขา เพาะพันธุ์ม้าศึกพิเศษบนดอน และดูแลกิจการคอซแซค อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกี่ยวกับปอดไม่ได้ทำให้ทหารผ่านศึกผู้มีเกียรติสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้เป็นเวลานาน เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2361 และถูกฝังไว้ใต้กำแพงหินของอาสนวิหารอัสเซนชันซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในโนโวเชอร์คาสก์

เรื่องตลกเกี่ยวกับปลาตอฟ

เพื่อนดื่มคนโปรดของ Platov คือ Prussian General Blucher นักรบทั้งสองนั่งตรงข้ามกันและเมาจนบลูเชอร์ล้มลงด้านข้าง พวกเขาไม่รู้จักภาษาของกันและกัน และผู้ช่วยทุกคนต่างก็สนใจว่า Platov มีความสุขกับการรู้จักครั้งนี้อย่างไร และ Matvey Ivanovich รู้สึกขุ่นเคือง:“ ที่นี่จำเป็นต้องมีคำพูดจริงๆเหรอ? และชัดเจนว่าเขาเป็นคนใจดี! มีปัญหาอยู่อย่างเดียวคือมันทนไม่ไหว!”

ตามเวอร์ชันหนึ่ง คำว่า "บิสโทร" ซึ่งเคยเรียกร้านกาแฟฟาสต์ฟู้ดในฝรั่งเศส เกิดขึ้นระหว่างการเข้าพักของคอสแซคของ Platov ในปารีส หลังจากเอาชนะนโปเลียนได้ กองทัพรัสเซียก็เดินเข้าไปในเมืองหลวงของฝรั่งเศสในระดับมอสโก หนวดร้อนขี่ม้าไปที่ร้านอาหารและบางครั้งก็ไม่ได้ลงจากหลังม้าเลยขออะไรกินและ - "เร็ว ๆ นี้เร็ว ๆ นี้!"

รัฐบุรุษ นักเขียน และนักประชาสัมพันธ์ เคานต์ ฟีโอดอร์ วาซิลีเยวิช รอสโตชินเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานปลาตอฟ มีการเสิร์ฟชา และหัวหน้าเผ่าก็เทเหล้ารัมลงไปอย่างไม่เห็นแก่ตัว ในเวลานี้นักเขียน Karamzin เพื่อนอีกคนของเขามาพบ Fyodor Vasilyevich Platov ลุกขึ้นอย่างมีความสุขเพื่อพบกับแขกใหม่ ยื่นมือออกและพูดด้วยความจริงใจ: “ดีใจมาก ดีใจมากที่ได้พบคุณ!” ฉันรักนักเขียนมาโดยตลอดเพราะพวกเขาขี้เมา!”

วีรบุรุษแห่งจักรวรรดิรัสเซีย

ปลาตอฟ มัตวีย์ อิวาโนวิช

Count Matvey Ivanovich Platov (1751–1818) - ataman แห่ง Great Don Army (ตั้งแต่ปี 1801) นายพลทหารม้า (ตั้งแต่ปี 1809) ซึ่งมีส่วนร่วมในสงครามทั้งหมดของจักรวรรดิรัสเซียในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 - ต้นศตวรรษที่ 19 ผู้ก่อตั้งเมือง Novocherkassk ตามหนังสือเมตริกของคริสตจักรของอัครสาวกศักดิ์สิทธิ์ปีเตอร์และพอลในเมือง Cherkassk หมายเลข 22 ปรากฏว่าหัวหน้าคนงาน Ivan Fedorov Platov มีลูกชายคนหนึ่งชื่อ Matvey เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2294 นี่คือผู้นำทางทหารในอนาคต ผู้ซึ่งได้รับชัยชนะเพื่อตัวเขาเองและเกียรติยศอันไม่เสื่อมคลายและชื่อเสียงไปทั่วโลกของ Don ทั้งหมด

ในตอนต้นของศตวรรษที่ 16 กลุ่มคนอิสระปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่กว้างใหญ่ของที่ราบดอนดอนเพื่อหนีจากการกดขี่ศักดินาที่ครองราชย์ในรัฐมอสโก ทุกคนที่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพเพียงนาทีเดียวมากกว่าหนึ่งปีแห่งชีวิตทาสก็หนีมาที่นี่ พวกเขาเริ่มถูกเรียกว่า "คอสแซค" นั่นคือผู้คนอิสระนักรบผู้กล้าหาญ

เมือง Cherkasy ซึ่งเป็นที่ที่ Matvey Platov เกิดก่อตั้งโดยพวกคอสแซคในปี 1570 และตั้งแต่ปี 1644 ก็กลายเป็นเมืองหลวงของ Don - "กองทัพหลัก" Cossack Circle ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติที่สูงที่สุดของ Donets ดำเนินการที่นี่ จากที่นี่พวกคอสแซคออกเดินทางในทะเลและทางบก ที่นี่พวกเขาจำช่วงเวลาแห่งอิสรภาพอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อพวกคอสแซคปกครองดอนโดยดำเนินชีวิตตามกฎหมายและประเพณีของพวกเขาเอง ได้รับเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่นี่และส่งสถานทูตคอซแซคไปยังประเทศเพื่อนบ้านจากที่นี่ โบสถ์แห่งแรกบนดอน โรงเรียน อาจารย์ และแพทย์แห่งแรกปรากฏที่นี่ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัสเซียที่มีการแสดงความยินดีกับทหารเพื่อเป็นเกียรติแก่ Azov Victoria เหนือพวกเติร์กในปี 1696

ครอบครัว Platov ปรากฏตัวบนดอนเมื่อต้นศตวรรษที่สิบแปด พี่น้อง Platov หนึ่งในนั้นคือ Ivan Fedorovich พ่อของ Matvey มาที่ Cherkassk พร้อมกับแพไม้ที่ล่องแพไปตามดอน จากที่นี่ตามที่นักวิจัยระบุว่านามสกุล "Plotov" เกิดขึ้นซึ่งต่อมากลายเป็น "Platov" นามสกุลนี้มีชื่อเสียงในดอนในช่วงกลางศตวรรษที่สิบแปด ในเวลานี้เองที่ในหนังสือเมตริกสารภาพบาปของโบสถ์ปีเตอร์และพอลในเมือง Cherkassk พบชื่อของพี่น้อง Platov สามคน: Ivan, Dmitry และ Demyan Fedorovich พี่ชายคนโตคือ Ivan Fedorovich - พ่อของ Matvey

Ivan Platov เมื่อมาถึง Don ประมาณปี 1742 ก็เข้ารับราชการทหาร ประการแรก Ivan Fedorovich อยู่กับกองทหารคอซแซคบนแนวไครเมียจากนั้นในจังหวัดที่เรียกว่าบอลติกจากนั้นในจอร์เจียจากที่ที่เขาถูกย้ายพร้อมกับกองทหารไปยังปรัสเซียที่ซึ่งการต่อสู้โหมกระหน่ำกับกองกำลังของกษัตริย์นักรบและปราชญ์ เฟรดเดอริกที่สอง ในฐานะส่วนหนึ่งของกองทหารคอซแซคภายใต้การบังคับบัญชาของ Ataman Stepan Efremov แห่งกองทัพ Don เขาเข้าร่วมในการรบหลายครั้งในสงครามครั้งนี้และมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในการรบที่ Kyustrin เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2301

การบริการที่เป็นแบบอย่างของ Ivan Platov ได้รับการยอมรับอย่างสูงในเวลาต่อมาด้วยกระบี่ส่วนตัวสองอันและเหรียญเงิน ในช่วงต้นทศวรรษที่เจ็ดสิบเขาได้รับยศเป็นหัวหน้าทหารและไปกับกองทหารไปยังป้อมปราการ Petrovsky ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวเสริม Dnieper หนึ่งปีต่อมาเขาถูกย้ายไปลิทัวเนียซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้กับชาวโปแลนด์ในสงครามสมาพันธรัฐที่เรียกว่า ในระหว่างการจลาจล Pugachev เขาและกองทหาร Don Cossack ได้ครอบคลุมพื้นที่ Kolomensky, Kasimovsky และ Vladimirsky ที่นำไปสู่กรุงมอสโก Ivan Fedorovich เสียชีวิตหลังปี 1778 ด้วยยศนายกรัฐมนตรีในกองทัพรัสเซีย

ไม่มีการเก็บรักษารายละเอียดเกี่ยวกับชีวประวัติเกี่ยวกับ Anna Larionovna แม่ของ Matvey Platov ซึ่งเกิดในปี 1733 เป็นที่ทราบกันเพียงว่าเธอถูกฝังอยู่ในหมู่บ้าน Starocherkasskaya ในสุสานของโบสถ์ Transfiguration

ตั้งแต่สมัยโบราณ Don Cossacks มีพิธีกรรมที่แปลกประหลาดในการเฉลิมฉลองการเกิดลูกคนแรกในครอบครัวดังนั้นเมื่อ Matvey เกิดมาเพื่อ Platovs ญาติและคอสแซคที่คุ้นเคยก็มาเยี่ยมพวกเขา พวกเขาแต่ละคนนำสิ่งของบางอย่างมาไว้สำหรับฟันของทารกแรกเกิด: ลูกศร, กระสุน, คันธนูและพี่น้องของ Ivan Fedorovich นำปืนมาให้หลานชายของพวกเขา พ่อที่พอใจจะวางสิ่งของเหล่านี้และแขวนไว้ในห้องที่ทารกแรกเกิดนอนอยู่

สี่สิบวันผ่านไปหลังจากการประสูติของ Matvey Anna Larionovna ไปที่โบสถ์ของ Peter และ Paul ซึ่งลูกชายของเธอรับบัพติศมาและเข้าร่วมพิธีกรรมการสวดภาวนาเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ เมื่อกลับถึงบ้านตามธรรมเนียมของคอซแซค สามีของเธอทักทายเธออย่างสนุกสนานและแสดงความยินดีกับลูกชายคนแรกของเธอ อีวาน เฟโดโรวิชอุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างระมัดระวัง ใส่ดาบใส่เขาอย่างระมัดระวัง และถึงแม้ภรรยาของเขาจะประท้วง แต่ก็ให้ลูกชายของเขาขี่ม้า: นี่เป็นประเพณีคอซแซคโบราณ!

เมื่อ Matvey ตัดฟันซี่แรก พ่อและแม่ของเขาจึงขี่ม้าพาเขาไปที่โบสถ์ปีเตอร์แอนด์พอล ซึ่งพวกเขาเป็นนักบวชประจำ ที่นี่นักบวชทำหน้าที่สวดมนต์ต่อหน้าไอคอนของจอนนักรบซึ่งพ่อขอให้ทำให้ลูกชายของเขาเป็นนักรบคอซแซคที่กล้าหาญกล้าหาญและประสบความสำเร็จและขอให้เขามีอายุยืนยาว Ivan Fedorovich กำกับการเลี้ยงดูลูกชายของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเขาอยู่ที่บ้านเพื่อให้แน่ใจว่า Matvey กลายเป็นนักรบที่แท้จริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่คำแรกที่เขาพูดคือ "pu" - ยิงและ "chu" - ขับรถ เมื่ออายุได้สามขวบ Matvey ก็ขี่ม้าไปรอบ ๆ สนามหญ้าเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ ของเขาและเมื่ออายุได้ห้าขวบเขาก็ขี่ม้าไปตามถนนอย่างไม่เกรงกลัวและมีส่วนร่วมในการซ้อมรบของเด็ก ๆ

ในเวลานั้นคอสแซคจัดการแข่งม้าด้วยความเคารพอย่างสูงซึ่งจัดขึ้นหลายครั้งในบริเวณใกล้เคียงกับเชอร์คัสสค์ ผู้ชนะการแข่งขันได้รับชื่อเสียงและความนิยมในหมู่คอสแซค เด็กคอซแซคแสดงการแข่งขันไปตามถนน ในบ้านทุกหลังตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ได้ยินเสียงปืนยาว ปืนพก และปืนใหญ่ขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ไม่มีอาวุธเจาะ "เมล็ด" เข้าไปในกระดูกเปล่าของสัตว์ใหญ่หรือต้นกก

ในช่วงเวลาพักผ่อนและความบันเทิง พวกคอสแซคแบ่งออกเป็นกลุ่ม ตั้งโล่พร้อมเป้าหมาย และเริ่มยิงธนูและปืนไรเฟิลใส่พวกเขา เด็กๆ ยังเล่นเกมเคียงข้างผู้ใหญ่ด้วย ผู้เข้าร่วมที่ขาดไม่ได้ของพวกเขาคือ Matveyka Platov ที่ขี้เล่นและฉลาดเกินวัย

คอสแซคดูแลการเติมเต็มการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อจุดประสงค์นี้ตามคำสั่งของ Ataman ทหารคอสแซครุ่นเยาว์จึงรวมตัวกันเป็นประจำทุกปีเพื่อตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียงกับเมือง Cherkassy พวกเขามาถึงด้วยม้าที่ดีที่สุด พร้อมด้วยหอก ดาบ และปืน ในที่โล่งอันกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของ Don Cossacks มีการตั้งแคมป์และที่นี่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ต่อหน้าหัวหน้าทหาร Stepan Danilovich Efremov เกมสงครามก็เกิดขึ้น คอสแซครุ่นเยาว์กลุ่มหนึ่งแข่งขันกันในการแข่งม้าโดยทดสอบความเร็วของม้าและทักษะของผู้ขับขี่ความคล่องตัวของเขา เด็กคนอื่นๆ ควบม้าเต็มที่ก็ยิงไปที่เป้าหมายหรือโยนเสื้อคลุม แส้ หรือเหรียญขนาดใหญ่ลงบนเสื้อคลุมที่กางอยู่บนพื้นแล้วหยิบขึ้นมาขณะควบม้า คอสแซคจำนวนมากที่ยืนอยู่บนหลังม้าสามารถโจมตีศัตรูได้โดยยิงจากปืนและธนู

ทหารม้าคอซแซครีบวิ่งลงไปในแม่น้ำราวกับหิมะถล่มอย่างรวดเร็ว พยายามเอาชนะมันอย่างรวดเร็วและโจมตี "ศัตรู" Ataman มอบบังเหียนหรืออาวุธให้กับคอสแซคที่มีความโดดเด่นในด้านนักแม่นปืน รางวัลเหล่านี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากชาวดอนเพราะพวกเขาบ่งบอกถึงความแม่นยำความชำนาญและความกล้าหาญของเจ้าของซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักที่ได้รับการเคารพและเห็นคุณค่าอย่างมากในหมู่คอสแซค เมื่อเริ่มค่ำการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นก็เริ่มขึ้น - การชกต่อย ผู้ชนะจะได้รับรางวัลตามธรรมเนียม

นี่คือวิธีที่ Platov รุ่นเยาว์เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตการต่อสู้ในอนาคตของเขา พ่อแม่ของเขาไม่ใช่คนรวยจึงไม่สามารถให้การศึกษาที่ดีแก่ลูกชายได้ และในขณะนั้นไม่มีโรงเรียนถาวรบนดินแดนดอน แต่แมทวีย์เรียนรู้ที่จะอ่านและเขียน ตั้งแต่วัยเด็กเขาโดดเด่นด้วยความชำนาญความทะเยอทะยานความกล้าหาญและความเฉียบแหลมของจิตใจ พ่อแม่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเลี้ยงดูลูกชายด้วยจิตวิญญาณแห่งความรักต่อดินแดนบ้านเกิดของเขาและประเพณีการต่อสู้อันรุ่งโรจน์ของดอนคอสแซค และความพยายามของพวกเขาก็ไม่ไร้ประโยชน์ Matvey เติบโตขึ้นมาเป็นคอซแซคผู้กล้าหาญและกล้าหาญผู้รักชาติที่แท้จริงของ Don และรัสเซีย

เมื่ออายุได้สิบห้าปี Matvey ได้รับมอบหมายให้รับราชการในทำเนียบทหารและในไม่ช้าเขาก็ได้รับยศตำรวจ ตลอดเวลานี้เขาอ่านมากเพื่อพัฒนาความรู้ของเขา

ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ในประวัติศาสตร์ของรัฐรัสเซียมีลักษณะเฉพาะคือสงครามที่ดุเดือดและยาวนานซึ่งศัตรูของตนต่อสู้ด้วยความดื้อรั้นชั่วนิรันดร์ - ออตโตมันพอร์ต, Sublime Porte ตามที่รัฐบุรุษชอบเรียกตุรกี ในเวลานี้ ปัญหาทะเลดำมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับรัสเซีย ประชากรชาวรัสเซียและการตั้งอาณานิคมของเจ้าของที่ดินในรัสเซียซึ่งพัฒนาดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ทางตอนใต้ของรัสเซียค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังเขตแดนของไครเมียคานาเตะ แต่การพัฒนาสเตปป์ทางตอนใต้ของรัสเซียนี้ถูกขัดขวางอย่างต่อเนื่องจากการจู่โจมและโจมตีของตุรกี - ตาตาร์เกือบไม่หยุดหย่อน สำหรับพ่อค้าและขุนนางชาวรัสเซียในเวลานี้ การเข้าถึงทะเลดำเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ความต้องการที่ยังไม่เพียงพอเนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอของประชากรรัสเซีย มีความสำคัญและจำเป็นมากขึ้น ท่าเรือทางตอนเหนือของรัสเซียไม่สามารถตอบสนองความต้องการของการส่งออกของรัสเซียได้อีกต่อไป นอกจากนี้ตลาดการขายหลักไม่ได้อยู่ทางภาคเหนือ แต่อยู่ในประเทศแถบทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่พวกเติร์กไม่อนุญาตให้พ่อค้าชาวรัสเซียเข้าไปในทะเลดำ ยังคงมีเส้นทางการค้าทางบกผ่านโปแลนด์ แต่การค้าดังกล่าวไม่ได้ผลกำไรอย่างยิ่งดังนั้นจึงไม่ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม กุญแจสำคัญของทะเลดำคือไครเมีย ดังนั้นปัญหาทั้งหมดเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซีย หรือโดยการให้ไครเมียคานาเตะเป็นเอกราชจากตุรกี ซึ่งเริ่มก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากฝรั่งเศส ซึ่ง เกรงว่ารัสเซียจะแข็งแกร่งขึ้นในยุโรปตะวันตกและตะวันออกกลาง

สงครามรัสเซีย - ตุรกีในปี ค.ศ. 1735-1739 ไม่ได้แก้ปัญหานโยบายต่างประเทศที่รัสเซียเผชิญอยู่ สงครามครั้งใหม่กับตุรกีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และหนึ่งในสงครามเหล่านี้ก็ได้อุบัติขึ้น...

ในฤดูหนาวปี พ.ศ. 2312 ทหารม้าตาตาร์ได้โจมตียูเครนและดอนตอนล่างโดยไม่คาดคิดและทำลายล้าง ปฏิบัติการทางทหารที่แข็งขันของกองทหารรัสเซียเริ่มต้นขึ้นเพื่อต่อต้านพวกเติร์กและตาตาร์ เพื่อต่อสู้กับตุรกี กองบัญชาการของรัสเซียได้จัดตั้งกองทัพสองกองทัพขึ้นภายใต้การบังคับบัญชาของหัวหน้านายพล P.A. Rumyantsev และ A.M. โกลิทซิน. กองทัพเหล่านี้รวม Don Cossacks มากถึงหมื่นคนภายใต้การบังคับบัญชาของ Atamans ที่เดินทัพ Sulin, Pozdeev, Grekov และ Martynov

สงครามพบ Matvey Platov วัยสิบเก้าปีบนชายฝั่งทะเล Azov ซึ่งตามคำสั่งของพ่อของเขาซึ่งอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเขาดูแลฟาร์มประมงของเขา Matvey ตัดสินใจว่าหน้าที่ของเขาในฐานะคอซแซคต้องทำสงคราม! ออกจากฟาร์มโดยอยู่ในความดูแลของเสมียน เขาขี่ม้าเร็วไปยัง Cherkassk ซึ่งเขาเข้าร่วมกับกองทหารคอซแซคซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งการสู้รบสู่การต่อสู้และศักดิ์ศรี...

กองทัพที่ Matvey มาถึงในเวลานั้นได้รับคำสั่งจากหัวหน้าพล. Dolgorukov ซึ่ง Platov เป็นผู้สืบทอดในตอนแรก จากนั้นเขาก็ย้ายไปที่กองทหารประจำการและในคืนวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2314 ได้เข้าร่วมในการโจมตีเปเรคอป Evpatoria ตกอยู่ภายใต้การโจมตีของชาวรัสเซียเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนและ Kafa ในวันที่ยี่สิบเก้า เมื่อปลายเดือนนั้น แหลมไครเมียตกอยู่ในมือของกองทหารรัสเซีย และข่าน ซาฮิบ-กิเรย์ถูกบังคับให้ลงนามในข้อตกลงซึ่งเขาตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย

สำหรับความแตกต่างในการต่อสู้กับคนนอกศาสนา Platov วัยยี่สิบสองปีได้รับตำแหน่งกัปตัน หนึ่งปีต่อมาเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นจ่าสิบเอกโดยเป็นผู้บังคับบัญชากองทหารคอซแซค

และการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ร่วมกับกองทหารของ Uvarov, Bukhvostov และ Danilov, Platov โจมตีกองกำลังข้าศึกที่เหนือกว่าซึ่งกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ของเมือง Kopyl การต่อสู้ที่ดุเดือดจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ Circassians และการยึด Kopyl นอกเหนือจากจำนวนนักโทษแล้ว ผู้ชนะยังได้รับปืนใหญ่ที่ใช้งานได้อีกสี่กระบอก ซึ่งด้วยความยินยอมทั่วไป Platov จึงส่งไปยัง Cherkassk เพื่อเสริมสร้างเมืองบ้านเกิดของเขา

การจับกุม Kopyl ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพที่สองนายพล Dolgorukov ผู้ซึ่งได้รับคำสั่งพิเศษสำหรับกองทัพได้ประกาศ "ความกตัญญูที่ละเอียดอ่อนที่สุด" ต่อกองทหารที่เข้าร่วมในเรื่องที่ร้อนแรงนี้

การรณรงค์ทางทหารในปี พ.ศ. 2314 ทำให้รัสเซียประสบความสำเร็จที่สำคัญหลายประการซึ่งบังคับให้คำสั่งของตุรกีขอการสู้รบลงนามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2315 ในเมือง Zhurzh และกินเวลาหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้กองทหารของ Platov ถูกย้ายไปยัง Kuban

ในปี ค.ศ. 1774 M.I. เป็นครั้งแรกที่ Platov แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่น่าทึ่งของผู้นำทางทหารที่เลือดเย็นและมีทักษะซึ่งไม่เสียหัวเมื่อกองทหารและขบวนของเขาถูกซุ่มโจมตีในคูบาน เขาสร้างเกวียนป้องกันอย่างรวดเร็วและต่อสู้กับพวกเติร์กแห่ง Khan Devlet-Girey ซึ่งมีจำนวนมากกว่าคอสแซคมากกว่า 20 เท่าจนกระทั่งกองทหารคอซแซคเรียกความช่วยเหลือมาถึง พวกเติร์กพ่ายแพ้ และในไม่ช้าข่านก็ถูกจับในข้อหาพ่ายแพ้และถูกนำตัวไปยังสุลต่านตุรกีในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ในปี ค.ศ. 1775-1776 พ่อและลูกชาย Platov ติดตามการปลดประจำการของ E. Pugachev ที่กระจัดกระจายในเขตทางตอนกลางของรัสเซีย โดยจับหนึ่งในผู้นำ Rumyanchikhin และชาว Pugachev มากถึง 500 คน ด้วยเหตุนี้ Platov พ่อและลูกชายจึงได้รับเหรียญทอง นี่เป็นหนึ่งในรางวัลสำคัญครั้งแรกของ Matvey Platov นอกจากนี้เขายังมีความโดดเด่นในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2332 เมื่ออยู่ในยุทธการที่กูซานีเขาสามารถเอาชนะกองกำลังเติร์กจำนวนมากและยึดกลุ่มมหาอำมาตย์เซย์นัล-ฮัสซันเบย์สามกลุ่มแห่งอนาโตเลียได้ สำหรับความสำเร็จนี้ M.I. ปลาตอฟได้รับยศเป็นนายพลจัตวาในกองทัพรัสเซีย

ประสบการณ์การต่อสู้และการบริหารที่สั่งสมมาได้ส่งเสริมผู้บัญชาการคอซแซครุ่นเยาว์ที่มีความสามารถให้กลายเป็นผู้จัดทิศทางใหม่สำหรับคอสแซค ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2331 เจ้าชาย G. Potemkin สั่งให้ Matvey Platov เลือกคน 5,000 คนในสามเดือนเพื่อจัดตั้งกองทหารคอซแซคใหม่หลายกองที่เรียกว่า Slobodaยูเครน Platov เรียกจ่าทหาร 4 นาย เจ้าหน้าที่ระดับล่าง 7 นาย และคอสแซคที่ดีที่สุด 507 นายจากดอน มาช่วยเขาในฐานะผู้สอน เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมเขาได้รายงานต่อเจ้าชาย Potemkin เกี่ยวกับกองทหารคอซแซคที่จัดตั้งขึ้น กองทัพคอซแซคใหม่เรียกว่า Ekaterinoslav และ M.I. Platov สำหรับการเป็นผู้นำที่มีทักษะของเขา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกองทหาร Ataman (1790) และได้รับการเสนอให้รับรางวัล Order of St. วลาดิมีร์ระดับ 4

ด้วยกองทหารคอซแซคที่จัดตั้งขึ้นใหม่ M.I. Platov จบลงในกองทัพของ A.V. Suvorov ใกล้อิซมาอิล เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่สภาทหาร เขาเป็นคนแรกที่ลงคะแนนเสียงให้โจมตีป้อมปราการตุรกีที่มีป้อมปราการแน่นหนาทันที ซึ่งเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยโจมตีที่ 5 เมื่อเสาโจมตีที่อยู่ใกล้เคียงของ Orlov เริ่มตายและคอสแซคของเสาของเขาหยุดด้วยความไม่แน่ใจ Matvey Platov เป็นคนแรกที่ปีนบันไดจู่โจมขึ้นไปบนกำแพงป้อมปราการและด้วยเหตุนี้จึงจุดไฟแห่งชัยชนะให้กับ Donets และเรนเจอร์ของเขา

สำหรับการโจมตีและจับกุม Izmail M.I. Platov ได้รับรางวัล Order of St. จอร์จระดับ 3 และเมื่อสิ้นสุดการรณรงค์ทางทหารครั้งนี้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพลตรี เจ้าชาย G. Potemkin กล่าวถึงการกระทำของเขาใกล้กับอิซมาอิลดังนี้: “ปลาตอฟอยู่ทุกหนทุกแห่งและเป็นตัวอย่างแห่งความกล้าหาญ” ทั้งหมดนี้ทำให้ Potemkin สามารถแนะนำฮีโร่หนุ่มให้รู้จักกับจักรพรรดินีแคทเธอรีนในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปี พ.ศ. 2334 ซึ่งด้วยความฉลาดและไหวพริบของเขาเขาได้รับสิทธิ์ในการอยู่ในวังของเธอระหว่างการเยือน Tsarskoe Selo จากเธอ

ปีต่อมา M.I. Platov มีส่วนร่วมในการสู้รบในแนวคอเคเซียนแล้ว ในปี พ.ศ. 2339 ตามแนวความคิดของเจ้าชายป. ซูบอฟ กองทหารรัสเซียเคลื่อนทัพไปยึดครองเปอร์เซีย โดยคาดว่าจะไปถึงทิเบต Matvey Ivanovich ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากองทหารที่ผิดปกติ (เช่นคอซแซค) ของกองทัพ Zubov สำหรับการปฏิบัติการทางทหารที่กระตือรือร้นและมีทักษะใกล้กับ Derbent M.I. Platov ได้รับรางวัล Order of Vladimir ระดับที่ 2 และยังได้รับจากจักรพรรดินีแคทเธอรีน "ดาบอันงดงามในปลอกกำมะหยี่ กรอบทองคำ พร้อมเพชรขนาดใหญ่และมรกตหายาก" ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ดอน คอสแซค

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของแคทเธอรีน (พ.ศ. 2339) จักรพรรดิพอลที่ 1 ขึ้นครองบัลลังก์ ผู้ซึ่งสงสัยและไม่เห็นด้วยกับผู้ร่วมงานของจักรพรรดินีทั้งหมด เช่น G. Potemkin จอมพล A.V. ซูโวรอฟ และคนอื่นๆ เขาไล่ป.อ.ออกจริงๆ Zubov ไปต่างประเทศและกองทัพของเขาถูกเรียกคืนจากชายแดนเปอร์เซีย ดังนั้นในปี พ.ศ. 2340 M.I. Platov ได้รับอนุญาตให้กลับไปที่ดอน แต่ผู้คนที่อิจฉาในเมืองหลวงและบนดอนโดยใช้ทัศนคติที่ไม่ดีของพอลที่ 1 ที่มีต่อเพื่อนร่วมงานของแคทเธอรีนทำให้จักรพรรดิตัดสินใจตัดสินใจว่าจำเป็นต้องจับกุม M.I. ปลาโตวา พอล ฉันถอด M.I. Platov จากการรับราชการทหารโดยมีใบรับรองลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2340 และสั่งให้ส่งเขาไปที่ Don ภายใต้การดูแลของ Military Ataman Orlov แต่ในไม่ช้ามาตรการจับกุมนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยการเนรเทศไปยังเมืองคอสโตรมา

เนื่องจากศาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไม่ตัดสินว่า Platov มีความผิดเป็นพิเศษ อาวุธส่วนตัวของเขา รวมถึงดาบต่อสู้จึงถูกส่งคืนให้เขา เมื่อรับเธอ Matvey Ivanovich กล่าวว่า: "เธอจะช่วยฉันพิสูจน์ตัวเอง" หรือ "เธอจะพิสูจน์ฉัน" โดยธรรมชาติแล้วผู้แจ้งตีความคำเหล่านี้กับ Paul I ทันทีว่าเป็นภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ต่อจักรพรรดิแม้ว่า Platov น่าจะหมายความว่า "แฟนสาว" ทางทหารของเขาจะช่วยให้เขาแสดงคุณสมบัติที่ดีที่สุดของเขาอีกครั้งในฐานะผู้บัญชาการที่มีทักษะและได้รับความไว้วางใจจาก Paul I กลับคืนมา เฉพาะวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2343 M.I. Platov ออกจาก Kostroma แต่ไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่ถูกส่งไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

หลังจากจำคุก 3 ปี 9 เดือน M.I. Platov ไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่ตามคำสั่งของ Paul ฉันถูกจำคุกใน Alekseevsky ravelin ของป้อม Peter และ Paul แต่ควบแน่นเหนือ M.I. ในไม่ช้าเมฆก็เคลียร์ต้องขอบคุณ Paul I คนเดียวกันซึ่งหลังจากทำสนธิสัญญากับนโปเลียนแล้วจึงตัดสินใจต่อสู้กับอังกฤษในดินแดนอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขานั่นคือ อินเดีย. ดังนั้นในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2344 จักรพรรดิจึงส่งคำสั่งถึงดอนเกี่ยวกับการเดินขบวนของคอสแซคในทันทีและสมบูรณ์ซึ่งนำโดย Ataman Orlov ในการรณรงค์ต่อต้านอินเดีย ชาวโดเนตสค์ได้รับเงินกู้จำนวน 2.5 ล้านรูเบิลเพื่อว่าหลังจากการรณรงค์และยึดของโจรในอินเดียพวกเขาจะคืนเงินกู้ทั้งหมดเข้าคลังโดยเหลือเพียงเพนนี

จากการรณรงค์ที่เกิดขึ้นใหม่ Paul I ได้ปล่อยตัว M.I. Platov ได้สนทนาเป็นการส่วนตัวกับเขาเกี่ยวกับการรณรงค์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และมอบไม้กางเขนของผู้บัญชาการแห่งมอลตา (นักบุญยอห์นแห่งเยรูซาเลม) ให้กับเขาเป็นการส่วนตัว กอดรัดโดยจักรพรรดิ M.I. Platov กลับไปที่ Don อย่างรวดเร็วและได้รับจาก Ataman Orlov กองทหาร 13 กองแรก (จากที่ 41 ที่วางแผนไว้สำหรับการรณรงค์) รวมถึงปืนใหญ่ 12 กระบอกออกเดินทางในการรณรงค์ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2344 แต่ในวันที่ 23 มีนาคมเมื่อพวกคอสแซคต้องทนทุกข์ทรมานจากการเดินขบวนในแต่ละวันที่เหน็ดเหนื่อยมาหลายวันแล้วทันใดนั้น Platov ก็ถูกจับพร้อมกับผู้ส่งสารจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งนำข่าวการเสียชีวิตของ Paul I และการภาคยานุวัติของ Alexander I ซึ่งยกเลิก คำสั่งของพอลที่ 1 ให้เดินทัพในอินเดีย พวกคอสแซคกลับมาหาดอนอย่างมีความสุข

ตามคำสั่งของวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2344 จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แต่งตั้ง M.I. Platov (“เบื้องหลังการตายของ Orlov”) โดย Troop Ataman Matvey Ivanovich เข้าร่วมในพิธีราชาภิเษกของ Alexander I ซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. แอนนา ระดับ 1

Ataman ใช้การไปเยือนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของเมือง Cherkassk ซึ่งปัญหาหลักคือน้ำท่วมเมืองหลวงคอซแซคประจำปี อเล็กซานเดอร์ฉันอนุญาตให้ Platov ดำเนินงานขนาดใหญ่เพื่อปกป้อง Cherkassk จากแหล่งน้ำฤดูใบไม้ผลิรวมถึงการเคลียร์ปากแม่น้ำ Don เพื่อให้น้ำที่ละลายแล้วถูกปล่อยลงสู่ทะเล Azov มากขึ้นและน้ำท่วม Cherkassk น้อยลง วิศวกร เดอ โรมาโน จัดงานป้องกันน้ำในปี 1802 แต่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของ Cherkasy ดังนั้น Platov จึงค่อยๆมีแนวคิดที่จะย้ายเมืองหลวงของคอซแซคไปยังที่อื่น

ด้วยคำสั่งลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2347 อเล็กซานเดอร์ฉันอนุญาตให้โอนเมืองหลวงโดยมีเงื่อนไขว่าจะเลือกสถานที่ที่สะดวกและผังเมืองที่จัดทำโดยวิศวกรทหาร นายพล F.P. ดีโวแลน. และเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2347 จักรพรรดิได้อนุมัติ M.I. ที่ได้รับเลือก สถานที่ Platov และผังเมืองที่พัฒนาโดย F.P. ดีโวแลน. เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2348 มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เพื่ออุทิศสถานที่ก่อตั้ง New Cherkassk บนเนินเขาที่เรียกว่า Biryuchiy Kut (ถ้ำหมาป่า)

สำหรับการก่อสร้างและการจัดเตรียม M.I. Platov ก่อตั้งกองทหารคอซแซคสองนาย เชิญสถาปนิก I.I. จากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Russko วิศวกร - พันโท I.-Yu. Peyker บังคับให้หมู่บ้าน Don หลายแห่งจัดหาวัสดุให้กับ Novocherkassk เช่น ไม้ หินในท้องถิ่น หินปูน ฯลฯ ชาวคอสแซคลังเลที่จะออกจากบ้านเรือนและไร่นาใน Cherkassk แต่กองทัพ Ataman ก็ไม่หยุดยั้ง และค่อยๆ เมืองใหม่ที่สร้างขึ้นตามแบบจำลองการวางผังเมืองแบบยุโรปที่ทันสมัยที่สุดก็เต็มไปด้วยชีวิต

ในเวลาเดียวกัน M.I. Platov มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเสริมสร้างการปกครองของพลเมืองในกองทัพการเปิดใน Cherkassk ในปี 1805 ของโรงยิมชายแห่งแรกบน Don การสร้าง Society of Don Trade Cossacks (12 กันยายน 1804) จุดเริ่มต้นของ การก่อสร้างอาสนวิหารหินแห่งสวรรค์ใน Novocherkassk การตั้งถิ่นฐานใหม่ของ Kalmyks ไปยังสเตปป์ Zadonsk องค์กรหมู่บ้าน Kalmyk เป็นต้น

แต่เหตุการณ์ทางการเมืองไม่อนุญาตให้มีการพัฒนาความสามารถในการบริหารของ Military Ataman M.I. พลาตอฟเต็มกำลัง ในปี ค.ศ. 1805 สงครามกับนโปเลียนเริ่มขึ้นในยุโรป Platov กับกองทหาร Don Cossack ถูกเรียกตัวไปที่ชายแดนออสเตรีย แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบ อย่างไรก็ตาม สำหรับการรับใช้ปิตุภูมิเขาได้รับรางวัล Order of St. อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้. ในปี 1806 ในระหว่างการรณรงค์ของกองทัพปรัสเซียน M.I. Platov แสดงความสามารถพิเศษของเขา ดังนั้นในระหว่างการโจมตีเขาจึงสามารถยึดเมือง Preussisch-Eylau ที่มีป้อมปราการอย่างดีและยึดชาวฝรั่งเศสได้มากกว่า 3,000 คน ในไม่ช้าในยุทธการที่ไฮเซลเบิร์ก เขาสามารถส่ง "ทหารม้าฝรั่งเศสทั้งหมด" ขึ้นบิน ทำลายกองทหารราบของศัตรู และในตอนเย็นก็ยึดครองเมือง ข้ามแม่น้ำอัลเล และเผาสะพานทั้งหมด

บ่อยครั้งที่เขาต้องชักนำศัตรูให้เข้าใจผิดด้วยการจุดไฟหลายดวงรอบเมืองที่เขาปิดล้อม การต่อต้านของฝรั่งเศสอ่อนกำลังลง และ Platov ก็ยึดเมืองได้ทีละเมือง เมื่อสันติภาพสิ้นสุดลง M.I. Platov ได้รับรางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพชรสำหรับ Order of Alexander Nevsky และกล่องยานัตถุ์ล้ำค่าที่มีใบหน้าของ Alexander I และกษัตริย์ปรัสเซียนได้มอบรางวัล Don the Order of the Red and Black Eagle ผู้กล้าหาญรวมถึงกล่องยานัตถุ์กับเขา ภาพ. ลักษณะของ M.I. Platov และความจริงที่ว่าเขายื่นคำร้องอย่างต่อเนื่องและได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่คอซแซคที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งจากกษัตริย์ปรัสเซียน

Platov และกองทหาร Don ของเขาต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อปรัสเซียกับกองทหารนโปเลียน ชื่อของ Don Ataman ได้รับชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไม่เพียง แต่ในรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต่างประเทศด้วย แต่สงครามจบลงแล้ว การประชุมของกษัตริย์ทั้งสามมีกำหนดในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2350 ในเมืองทิลซิตเพื่อลงนามสันติภาพ: อเล็กซานเดอร์ นโปเลียน และกษัตริย์ปรัสเซียนเฟรดเดอริกวิลเลียม Matvey Ivanovich Platov อยู่ในกลุ่มผู้ติดตามของ Alexander ในเวลานั้น

เป็นที่น่าสนใจเช่นกันว่าหลังจากการสรุปสันติภาพกับนโปเลียนในปี 1807 และการพบกันของจักรพรรดิที่ทำสงครามในเมือง Tilsit รัฐ M.I. Platov ปฏิเสธที่จะยอมรับคำสั่งจากจักรพรรดิฝรั่งเศส: "ฉันจะไม่ยอมรับมัน: ทำไมเขาถึงให้รางวัลฉัน ฉันไม่ได้รับใช้เขาและฉันไม่สามารถรับใช้เขาได้" และเมื่อถูกถามว่าเขาชอบนโปเลียนหรือไม่ ซึ่ง M.I. Platov เขาตอบว่า:“ ฉันไม่ได้มองจักรพรรดิของคุณเลย ไม่มีอะไรผิดปกติในตัวเขา: ฉันกำลังมองม้าเหมือนนักเลงฉันอยากจะเดาว่ามันเป็นสายพันธุ์อะไร”

ในเวลานี้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเฉพาะขึ้น ตามคำขอของนโปเลียน ได้มีการขี่ม้า พวกคอสแซคขี่ม้าขณะยืนบนอาน สับไม้เท้าแล้วยิงจากใต้ท้องม้าแข่งไปที่เป้าหมาย พวกนักขี่ม้าก็เอาเหรียญที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นหญ้าจากอานม้า พวกเขาควบม้าแทงรูปปั้นด้วยลูกดอก บางคนหมุนตัวอยู่บนอานม้าอย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วจนไม่อาจบอกได้ว่ามืออยู่ที่ไหนและขาอยู่ที่ไหน...

คอสแซคยังทำสิ่งต่างๆ มากมายที่ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการขี่ม้าและผู้เชี่ยวชาญแทบหยุดหายใจ นโปเลียนมีความยินดีและหันไปหาปลาตอฟถามว่า: "แล้วคุณนายพลก็รู้วิธียิงธนูด้วยเหรอ?" Platov คว้าธนูและลูกธนูจาก Bashkir ที่ใกล้ที่สุดแล้วเร่งม้าของเขายิงธนูหลายลูกในขณะที่เขาควบม้า พวกเขาทั้งหมดส่งเสียงขู่ไปที่หุ่นฟาง เมื่อ Platov กลับมาที่บ้านของเขา นโปเลียนก็พูดกับเขาว่า:

- ขอบคุณท่านนายพล คุณไม่เพียงแต่เป็นผู้นำทางทหารที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นนักขี่และมือปืนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย คุณทำให้ฉันมีความสุขมาก ฉันอยากให้คุณมีความทรงจำที่ดีกับฉัน และนโปเลียนก็มอบกล่องยานัตถุ์สีทองให้กับ Platov (ต่อมาปลาตอฟก็แยกหินออกมาและแทนที่ภาพเหมือนของนโปเลียน) Platov หยิบกล่องดมกลิ่นและโค้งคำนับกับผู้แปล:

- ถ่ายทอดคอซแซคของฉันขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราชาวดอนคอสแซค มีประเพณีโบราณ: ให้ของขวัญ... ขออภัย ฝ่าบาท ฉันไม่มีอะไรที่จะดึงดูดความสนใจของคุณ... แต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้และฉัน ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพเจ้า... โปรดรับคันธนูนี้เป็นของขวัญจากข้าพเจ้าด้วยเถิด...

“ของขวัญดั้งเดิม” นโปเลียนยิ้มขณะตรวจดูคันธนู “เอาล่ะ แม่ทัพ คันธนูของคุณจะเตือนฉันว่าแม้แต่นกตัวเล็ก ๆ ก็ยังป้องกันตัวเองจากลูกธนูของดอนอาตามันได้ยาก” ลูกศรที่เล็งไว้อย่างดีของอาตามันจะตามทันเธอทุกที่

เมื่อผู้แปลแปลสิ่งนี้ Platov กล่าวว่า:

- ใช่ ฉันมีสายตาที่เฉียบแหลม ได้รับการฝึกฝน มีมือที่มั่นคง ไม่เพียงแต่นกตัวเล็กเท่านั้น แต่นกตัวใหญ่ยังต้องระวังลูกธนูของฉันด้วย

คำใบ้นั้นชัดเจนเกินไป หากมองจากนกตัวใหญ่ Platov หมายถึงนโปเลียนเองอย่างชัดเจน และความขัดแย้งครั้งใหญ่คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากไม่ใช่เพราะนักแปลผู้รอบรู้

ในปี พ.ศ. 2352 M.I. Platov ร่วมกับ Alexander I ในการประชุมของ Sejm ของฟินแลนด์ใน Borgo หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการปล่อยตัวไปที่ Don แต่ในไม่ช้าก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกองทัพมอลโดวา ด้วยจุดเริ่มต้นของการสู้รบกับพวกเติร์ก M.I. Platov ยึดเมือง Girsovo เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. Vladimir ระดับ 1 และในวันที่ 4 กันยายนเขาเอาชนะกองกำลังเติร์กจำนวนมากที่ Rassvevat เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2352 เขาเอาชนะกองทหารตุรกีที่แข็งแกร่งจำนวนห้าพันนายระหว่าง Silistria และ Rushchuk ซึ่งเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนายพลทหารม้านั่นคือเขากลายเป็นนายพลเต็มรูปแบบ

มาลาเรียรุนแรงและสัญญาณการบริโภคบางอย่างทำให้ M.I. Platov เมื่อต้นปี พ.ศ. 2353 ไปที่ Don เพื่อปรับปรุงสุขภาพของเขาซึ่งได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการทางทหารที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่แพทย์ที่ดีที่สุดอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กดังนั้น Ataman จึงออกจากเมืองหลวงในช่วงฤดูร้อนของปีเดียวกันซึ่งแพทย์ Villier สามารถปรับปรุงสุขภาพของเขาได้ ในเวลานั้นเขาอาศัยอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, Tsarskoe Selo, Pavlovsk และมักเป็นเจ้าภาพในสังคมเมืองใหญ่สูงสุด การสื่อสารกับดอนส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านการติดต่อกับ Nakazny Ataman Kireev ซึ่งมีการพูดคุยถึงประเด็นของการสร้าง Novocherkassk การทำให้แม่น้ำ Aksai ลึกขึ้น ฯลฯ

ด้วยจุดเริ่มต้นของสงครามรักชาติในปี พ.ศ. 2355 M.I. Platov เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซีย โดยปล่อยให้ Ataman A.K. ที่ถูกลงโทษดูแลตนเองบนเรือ Don เดนิโซวา. ในตอนเย็นของวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2355 นโปเลียนเริ่มข้ามพรมแดนเข้าสู่รัสเซียโดยข้ามแม่น้ำเนมาน กองบินของ M.I. มีส่วนร่วมในการสู้รบครั้งแรกกับกองทหารของนโปเลียน ปลาโตวา Don Cossacks ของ Platov มักจะต้องรับมือกับทหารม้าฝรั่งเศสและทวนชาวโปแลนด์ และตามกฎแล้วคอสแซคได้รับชัยชนะที่ยอดเยี่ยมโดยใช้เทคนิคทางทหารของคอซแซคล้วนๆ เช่น "ลาวา" "เวนเตอร์" การซุ่มโจมตี แต่ความเป็นปรปักษ์ส่วนตัวของผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย นายพล Barclay de Tolly ที่มีต่อ Matvey Ivanovich ซึ่งเขากล่าวหาว่าใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด มักจะกลายเป็นอุปสรรคต่อชัยชนะที่เป็นไปได้ของคอสแซค

หลังยุทธการที่สโมเลนสค์ ปลาตอฟถูกไล่ออกจากกองทัพเนื่องจาก “ขาดการบริหารจัดการ” สิ่งนี้ประสบความสำเร็จโดย Barclay de Tolly ซึ่งรายงานต่อซาร์: "นายพล Platov ในฐานะหัวหน้ากองทหารที่ผิดปกติถูกวางไว้ในระดับที่สูงเกินไปและไม่มีอุปนิสัยที่สูงส่งเพียงพอที่จะสอดคล้องกับตำแหน่งของเขา เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวและกลายเป็นคนซีเรียตในระดับสูงสุด ความเกียจคร้านของเขาทำให้เราต้องส่งผู้ช่วยของฉันไปหาเขา เพื่อที่หนึ่งในนั้นจะอยู่กับเขาหรือที่ด่านหน้าของเขา เพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งของฉันจะสำเร็จ” Denis Davydov ชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงสำหรับการถูกไล่ออก:

“ เจ้าชาย Bagration ซึ่งมักจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อ Platov ผู้ชอบดื่มด่ำกับความมึนเมาสอนเขาในปี 1812 ให้งดเว้นจากวอดก้ามัสตาร์ด - ด้วยความหวังว่าจะได้รับศักดิ์ศรีของการนับในไม่ช้า เออร์โมลอฟพยายามหลอกลวงปลาตอฟมาเป็นเวลานาน แต่ในที่สุดอาตามันก็สูญเสียความหวังที่จะนับได้ในที่สุดก็เริ่มดื่มอย่างสาหัส เขาจึงถูกขับออกจากกองทัพไปมอสโคว์”

กับการมาถึงของ M.I. ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพรัสเซีย กองทหาร Kutuzova Ataman M.I. Platov เป็นที่ต้องการและมาถึงกองทัพที่ประจำการ คอสแซค M.I. Platov มีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงของ Borodino ซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางกองหนุนของกองทัพฝรั่งเศสจากการเข้าร่วมในการโจมตีป้อมปราการของรัสเซียและยึดขบวนหลักของกองทัพนโปเลียน จริงอยู่ นี่คือสิ่งที่ทำหน้าที่เป็นข้อกล่าวหาใหม่ต่อ M.I. Platov เนื่องจากเจ้าหน้าที่บางคนแย้งว่าเขาไม่สามารถป้องกันคอสแซคจากการปล้นขบวนศัตรูได้

กองทัพรัสเซียกำลังล่าถอย นโปเลียนเข้าสู่มอสโก แต่ทุกคนเชื่อว่า M.I. Kutuzov จะยังคงชนะ Platov รอและรับกองทหารคอซแซคเพิ่มเติม 26 นายจากดอนซึ่งทำให้น้ำตาแห่งความปิติยินดีในสายตาของมิคาอิลอิลลาริโอโนวิชคูทูซอฟผู้ซึ่งชื่นชมคุณธรรมของคอสแซคอย่างมากในการต่อสู้กับนโปเลียน ในการรบครั้งแรกที่ Tarutino พวก Donets เอาชนะกองทหารของจอมพลมูรัตได้อย่างสมบูรณ์ นโปเลียนตระหนักว่านี่คือจุดเริ่มต้นของจุดจบอันน่าสยดสยองและออกจากมอสโกที่กำลังลุกไหม้

2 ธันวาคม มิ.ย. Platov แซงกองทัพของจอมพล Ney ที่ถอยกลับไปยังชายแดนและเอาชนะพวกเขาได้ สงครามในดินแดนรัสเซียสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2355 เพื่อความสำเร็จทางทหารอันยอดเยี่ยมในการต่อสู้กับกองทหารของนโปเลียนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการต่อสู้ใกล้หมู่บ้าน Krasnoe Platov ได้รับการยกระดับให้มีศักดิ์ศรีแห่งการนับ และในไม่ช้าในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2356 เขาได้รับรางวัลพระราชทานกิตติมศักดิ์ของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ในเดือนมีนาคมอาตามันได้เรียนรู้ว่าจักรพรรดิได้มอบตำแหน่งเคานต์ให้เขา ชื่อดังกล่าวยังมาพร้อมกับตราแผ่นดิน โดยมีคำขวัญว่า "เพื่อความภักดี ความกล้าหาญ และการทำงานที่ไม่เหน็ดเหนื่อย" Kutuzov เขียนถึง Platov เกี่ยวกับเรื่องนี้: “ สิ่งที่ฉันต้องการพระเจ้าและอธิปไตยสมหวังฉันเห็นคุณเป็นเคานต์ของจักรวรรดิรัสเซีย... มิตรภาพของฉันกับคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนับตั้งแต่ปีเจ็ดสิบสามและในตอนนี้และใน อนาคตสิ่งที่น่ายินดีจะเกิดขึ้นกับคุณ ฉันแน่ใจว่าฉันจะเข้าร่วม "

ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ M.I. Platov จับ Marienburg ในคืนปีใหม่ พ.ศ. 2356 จากนั้นเข้ายึดเมือง Dirsch และปิดล้อมป้อมปราการ Danzig ซึ่งต่อมายอมจำนนต่อความเมตตาของผู้ชนะ เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2356 ในเมืองเดรสเดน จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ได้ออกแถลงการณ์อย่างมีน้ำใจต่อกองทัพดอน โดยซาบซึ้งอย่างยิ่งในการสนับสนุนและการบริการของตนในการปลดปล่อยรัสเซียจากกองทหารของนโปเลียน 13 กันยายน มิ.ย. Platov ได้รับชัยชนะอันยอดเยี่ยมใกล้เมือง Altenburg และในวันที่ 4 ตุลาคม เขาได้เข้าร่วมใน "Battle of the Nations" อันโด่งดังใกล้เมืองไลพ์ซิก

ที่นี่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมเขาได้ยึดกองพลทหารม้าทั้งหมดกองพันทหารราบ 6 กองและปืน 28 กระบอกซึ่งเขาได้รับรางวัล Order of St. Andrew the First-Called ที่นี่ในสนามรบ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม Platov ยึดครองแฟรงก์เฟิร์ตบนเส้นทางหลัก ซึ่งต่อมาเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หลักและผู้นำของรัฐพันธมิตร ที่นี่ M.I. Platov ได้รับมอบขนนกเพชรอักษรย่อพร้อมลอเรลสำหรับสวมบนชาโก (ผ้าโพกศีรษะ) ของเขา ในปี พ.ศ. 2357 ในระหว่างการสู้รบในดินแดนฝรั่งเศส M.I. ปลาตอฟ “สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยการหาประโยชน์ที่เมืองลาออน เอปินาล ชาร์มส์ และยึดครองฟงแตนโบลเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์” ซึ่งเขาควรจะปล่อยพระสันตปาปาจากการถูกจองจำ

แต่หัวหน้าของชาวคาทอลิกถูกนำออกไปอย่างลับๆต่อหน้ากองทหารคอซแซค ต่อมา Platov ยึดครองเมือง Namur ที่มีป้อมปราการแน่นหนา วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2357 ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้าสู่ปารีส พวกคอสแซคตั้งรกรากที่ช็องเซลีเซ่ นี่คือจุดที่การหาประโยชน์ทางทหารของ Matvey Ivanovich Platov สิ้นสุดลงเนื่องจากเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบ

พันธมิตรอังกฤษให้การต้อนรับ Military Ataman M.I. ปลาตอฟในลอนดอนซึ่งเขาเดินทางร่วมกับจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ชาวลอนดอนผู้กระตือรือร้นอุ้มฮีโร่ดอนจากเรือขึ้นฝั่งในอ้อมแขน แสดงให้เขาเห็นความสนใจและความเคารพทุกประการ ความยินดีของสาวๆ ในลอนดอนนั้นยิ่งใหญ่มากจนพวกเธอต้องตัดหางม้าของ M.I. ออกไป Platov และจัดเรียงเส้นผมเป็นของที่ระลึก เจ้าชายผู้สำเร็จราชการซึ่งชื่นชมม้า Leonid ของ Ataman อย่างไม่หยุดยั้งได้รับเป็นของขวัญจาก M.I. ปลาโตวา และในทางกลับกันหัวหน้าเผ่าก็ได้รับภาพเหมือนของเจ้าชายผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พร้อมเพชรเพื่อสวมบนหน้าอกของเขาบนริบบิ้นของเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์

ในลอนดอน เคานต์ M.I. Platov ได้พบกับนักเขียน W. Scott ผู้แต่ง "The History of Napoleon" และหนังสือประวัติศาสตร์ยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมายเป็นการส่วนตัว มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มอบ M.I. ประกาศนียบัตรปริญญาเอกของ Platov เมืองลอนดอนมอบดาบที่ทำขึ้นเป็นพิเศษแก่เขา เรืออังกฤษลำหนึ่งตั้งชื่อตามเขา และภาพเหมือนของ M.I. Platov ถูกวางไว้ในพระราชวัง เครื่องลายคราม พรม และเครื่องประดับที่มีรูปของ M.I. ปรากฏในหลายประเทศในยุโรป ปลาโตวา ชื่อของ Platov ยังเกี่ยวข้องกับตำนานที่เขารับรองกับ Alexander I ว่าช่างฝีมือชาวรัสเซียไม่ได้เลวร้ายไปกว่าชาวอังกฤษและสั่งให้ Tula Lefty ใส่หมัดซึ่งเขาทำโดยใส่หมัดที่ขาทั้งสองข้าง

เมื่อกลับมาที่ดอนหลังจากการรณรงค์ทางทหาร Matvey Ivanovich Platov ได้รับการต้อนรับอย่างเคร่งขรึมจากตัวแทนของชาวเมืองในเขตชานเมือง Novocherkassk จากนั้นด้วยเสียงระฆังดังต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเขาก็เข้าสู่เมืองหลวงคอซแซคที่เขาก่อตั้ง เมื่อย้ายไปยังฝ่ายบริหารของภูมิภาคดอน Matvey Ivanovich ได้ทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและออกคำสั่งซึ่งเขาได้กล่าวถึงข้อดีอันมหาศาลของผู้หญิงคอซแซคที่แบกรับความยากลำบากทั้งหมดจากการบริหาร 3 ปีบนบ่าของพวกเขา ในช่วงสงครามเมื่อดอนคอสแซคต่อสู้กับกองทหารของนโปเลียนเกือบทั้งหมด

Platov ให้ความสนใจไม่เพียงแต่กับภูมิภาคและรัฐบาลพลเรือนเท่านั้น การพัฒนาพันธุ์ม้าและการปลูกองุ่นเพิ่มเติม แต่ยังรวมไปถึงการพัฒนาเมือง Novocherkassk ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้เขาในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2360 ได้มีการสร้างประตูชัยซึ่งเป็นเมืองหลวงสองแห่งที่เกี่ยวข้องกับการมาถึงของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ในโนโวเชอร์คาสค์ แต่ในวันที่ 16 กันยายน Grand Duke Mikhail Pavlovich (น้องชายของจักรพรรดิ) มาถึงซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างเคร่งขรึมจากกองทัพ Ataman คอสแซคและสาธารณชนที่ประตูชัยบนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโคตร (ปัจจุบันคือ Herzen Descent)

Alexander ฉันไปเยือน Novocherkassk ในปี 1818 แต่เมื่อถึงเวลานี้ Donets ผู้โด่งดังไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป Platov เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2361 ในนิคม Elanchitskaya ของเขา และในวันที่ 10 มกราคม เขาถูกฝังไว้ใต้กำแพงหิน Ascension Cathedral ที่กำลังก่อสร้างใน Novocherkassk ดูเหมือนว่าหลังจากชีวิตที่มีพายุขัดแย้ง แต่รุ่งโรจน์และรุ่งโรจน์เช่นนี้ ขี้เถ้าของดอนลูกชายผู้ยิ่งใหญ่ก็พักอยู่ใต้ซุ้มประตูของโบสถ์ออร์โธดอกซ์ แต่คลื่นของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และโชคชะตานั้นสูงมากและบางครั้งก็ทรยศจนซากศพของหัวหน้าผู้มีชื่อเสียงจะยังคงค้นหาสถานที่พำนักของพวกเขาต่อไปอีกประมาณ 100 ปี เนื่องจากความจริงที่ว่าอาสนวิหารเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้กับกำแพงที่ Matvey Ivanovich และสมาชิกในครอบครัวของเขาถูกฝังพังทลายลงสองครั้ง (พ.ศ. 2389 และ พ.ศ. 2406) ญาติของ M.I. Platov ได้รับอนุญาตสูงสุด (พ.ศ. 2411) ในการโอนขี้เถ้าของ M.I. Platov ไปยังดินแดนของที่ดินในประเทศของเขา Myshkinsky ซึ่งนิยมเรียกว่า Golitsinskaya dacha (ตามชื่อของลูกเขยของเจ้าชาย Golitsin) หรือเดชาของบิชอป (หลังจากการบริจาคเดชาให้กับอธิการ Novocherkassk) ในปี 1875 ความปรารถนาเหล่านี้เป็นจริงและศพของ M.I. ถูกส่งจาก Novocherkassk ไปยังห้องใต้ดินของครอบครัวใต้โบสถ์ในฟาร์ม Mishkino Platov และสมาชิกในครอบครัวของเขาที่เสียชีวิตในเวลานี้

แต่ถึงกระนั้นสิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้ขี้เถ้าของฮีโร่ของดอนและรัสเซียเหลืออยู่ ในปีพ. ศ. 2454 ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของสงครามรักชาติในปี พ.ศ. 2355 พวกคอสแซคจึงตัดสินใจนำมาจากสถานที่ต่าง ๆ และฝังศพของผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของดอนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ในหลุมฝังศพใต้วิหารหิน Ascension ใน Novocherkassk ซากศพของนายพล Platov, Orlov-Denisov, Efremov และ Baklanov รวมถึงอาร์คบิชอปจอห์นซึ่งเป็นที่รักของชาวเมืองโดยเฉพาะได้รับการฝังใหม่อย่างเคร่งขรึม ตามมาด้วยการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคมในปี พ.ศ. 2460 สงครามกลางเมืองกับดอน และการรื้อถอนอนุสาวรีย์ของ M.I. ปลาตอฟในโนโวเชอร์คาสค์

ในปี 1992 เมืองคอสแซคซึ่งได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบหลุมศพในสุสานของมหาวิหาร พวกเขาตกใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น หลุมศพที่เปิดอยู่กลายเป็นความเสื่อมทรามและเต็มไปด้วยขยะ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ในที่สุดสำหรับท่านเคานต์และทหาร Ataman ซึ่งเป็นผู้ถือคำสั่งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก Matvey Ivanovich Platov เกิดขึ้น

Matvey Ivanovich Platov เป็นปรากฏการณ์ที่มีเอกลักษณ์ในประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซียและเป็นปรากฏการณ์พิเศษในประวัติศาสตร์การทหารของ Don Cossacks สิ่งนี้อธิบายได้ไม่เพียง แต่ด้วยคุณสมบัติส่วนตัวที่โดดเด่นของ Platov เท่านั้น แต่ยังไม่อาจโต้แย้งได้ แต่ยังตามเงื่อนไขของยุคนั้นด้วยโดยเฉพาะยุคของสงครามนโปเลียนซึ่งกิจกรรมของหัวหน้าเผ่าในตำนานได้เปิดเผยออกมา

ตามคำอธิบายของผู้ร่วมสมัยที่รู้จัก Platov เป็นอย่างดี เขาสูง มีผมสีเข้มและมีผมสีดำ” ด้วยสีหน้าอ่อนโยนและใจดีมาก- นายพล Alexey Ermolov ซึ่งรู้จัก Matvey Ivanovich เป็นอย่างดีเขียนว่า“ อาตามันเป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดและมีไหวพริบสูง».

โดยธรรมชาติแล้ว Platov เป็นคนอารมณ์ร้อนมากและตลอดชีวิตของเขาเขาเลี้ยงดูตัวเองด้วยจิตวิญญาณของการระงับความโกรธที่ปะทุอย่างไม่คาดคิดและประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องนี้ “ เขารู้วิธีจัดการกับผู้คนอย่างชำนาญและสามารถสร้างเสน่ห์ให้ใครก็ได้” ผู้ร่วมสมัยเขียนเกี่ยวกับ Platov เขามีไหวพริบ ไหวพริบ และเป็นนักการทูตที่ยอดเยี่ยม เขารู้วิธีปฏิบัติต่อคอสแซคที่เรียบง่ายและแสดงความรักเสมอ” Ataman ชอบเล่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จากชีวิตทหารตลอดจนเหตุการณ์ทางทหารจริง ๆ เรื่องราวของเขาสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังอย่างมาก

วลีที่เขาชื่นชอบคือ “ ฉันจะบอกคุณ"ทำให้เรื่องราวและบทสนทนาของเขาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น สุนทรพจน์ของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์คอซแซคและเขาพูดอย่างน่าเชื่อถือและกระตือรือร้นมาก แทนที่จะเป็น "วอร์ซอ" เขาพูดว่า "อาร์ชาวา" แทนที่จะเป็น "นายพลาธิการ" เขาพูดว่า "ผู้วางแผน" แทนที่จะ "ไล่ตาม" เขาพูดว่า "สิ่งของ" แทนที่จะ "ค้นหา" เขาพูดว่า "ค้นหา"

ในความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา Ataman ค่อนข้างเป็นกลางเขารู้วิธีให้กำลังใจและมีระเบียบวินัยทำให้คอสแซคชัดเจนว่าเขากำลังกำจัดข้อบกพร่องและไม่ได้มองหาเหตุผลที่จะทำให้บุคคลอับอายเพียงเพราะเขามีอำนาจเหนือเขา .

Matvey Ivanovich โดดเด่นด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ต่อทุกสิ่งที่เป็นชาวรัสเซียซึ่งเป็นผลมาจากการที่เขาเก็บงำความเป็นปรปักษ์ต่อชาวต่างชาติและการครอบงำของพวกเขาในการบังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพรัสเซีย เขาไม่ชอบชาวเยอรมันเป็นพิเศษซึ่งเป็นคนอวดรู้และหลักคำสอนของพวกเขา โดยธรรมชาติแล้ว Ataman เป็นคนร่าเริงเขาชอบเพื่อนฝูงที่น่ารื่นรมย์ แต่ชีวิตที่มีเสียงดังและฟุ้งซ่านไม่เหมาะกับเขา

เช่นเดียวกับคอสแซคส่วนใหญ่ผู้ศรัทธา Platov ได้บริจาคเงินมากมายให้กับโบสถ์และอาราม อย่างไรก็ตามเขาเชื่อความฝันและลางสังหรณ์

ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต กิจวัตรประจำวันของเขาค่อนข้างเข้มงวด เขาอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับธุรกิจ เขานอนตั้งแต่สี่โมงเช้าจนถึงแปดโมงเช้า แต่หลังจากตื่นนอนเขาก็ชอบนอนอยู่บนเตียงสักพักเพื่อแก้ปัญหาในทางปฏิบัติ

เมื่อพูดถึงเรื่องอาหาร Platov มีความโดดเด่นด้วยความพอประมาณและชอบอาหารจานง่าย ๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจสำหรับผู้ชายที่ใช้ชีวิตเกือบทั้งหมดในเงื่อนไขของการรณรงค์และการต่อสู้ สำหรับเครื่องดื่ม เขาชอบกาแฟ (“กาแฟ”) และชา

ครอบครองตำแหน่งสูงของ Ataman ทหารดอนโดยสามารถเข้าถึงพระราชวังของจักรพรรดิและรัฐบุรุษที่สูงที่สุดของรัสเซียเขาไม่ได้อุปถัมภ์ญาติของเขาเชื่ออย่างถูกต้องว่าพวกเขาเองตามแบบอย่างของเขาควรทำอาชีพของตนเองและด้วยตัวเอง แต่ Matvey Ivanovich คอยรบกวนผู้บังคับบัญชาของเขาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับคนแปลกหน้าที่โดดเด่นด้วยความสามารถความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ของพวกเขา

ในประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย Platov เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บัญชาการที่มีความสามารถและดั้งเดิมและเป็นนักรบผู้กล้าหาญ เขาเข้าร่วมในสงครามเกือบทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยจักรวรรดิรัสเซีย เริ่มตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 จนถึงสิ้นสุดสงครามนโปเลียน Platov ศึกษาวิทยาศาสตร์การทหารในสนามรบโดยเข้ารับราชการเมื่ออายุสิบห้าปี เขาเป็นนักรบโดยกำเนิด และตั้งแต่เริ่มแรก กิจกรรมการต่อสู้ของเขามีความโดดเด่นด้วยความคิดริเริ่ม ความสามารถของเขาในการตัดสินใจที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวในสถานการณ์การต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุด และความกล้าหาญของเขาเป็นตัวอย่างให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

หลายปีผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป หลายอย่างถูกลืมไปแล้ว แต่ความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตที่กล้าหาญของ Platov ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยอันเหลือเชื่อ ความกล้าหาญและความกล้าหาญของคอสแซคของเขาจะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป เพื่อความทรงจำที่แท้จริง ความสำเร็จไม่ตาย มันเป็นนิรันดร์ เช่นเดียวกับมนุษยชาติชั่วนิรันดร์...

ในยุคต่างๆ นักประวัติศาสตร์บรรยายถึงชีวิตและการกระทำของ M.I. Platov ไม่ว่าจะบิดเบือนหรือระงับข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งในชีวประวัติของเขาพยายามสร้างภาพลักษณ์ในอุดมคติหรือเชิงลบของฮีโร่ Don ตัวอย่างเช่น ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับความจริงที่ว่า Platov หนุ่มร่วมกับพ่อของเขามีส่วนร่วมในการปราบปรามการจลาจลของ E. Pugachev ซึ่งทั้งคู่ได้รับรางวัลเหรียญทอง หรือเกี่ยวกับความจริงที่ว่าในระหว่างการเป็นเอกฉันท์ของ Platov บนดอน จ่าทหารได้รับสถานะทางสังคมใหม่และมีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฎหมายต่อขุนนางรัสเซีย ปลาตอฟเองก็มีที่ดินขนาดใหญ่และมีชาวนาที่ได้รับมอบหมายหลายร้อยคน ความขัดแย้งเหล่านี้ส่วนใหญ่อธิบายได้จากเงื่อนไขในยุคที่เขาอาศัยอยู่

ไม่ถึง M.I. Platov ไม่ใช่หลังจากเขาไปที่นั่น Ataman บนดอนซึ่งมีบุคลิกที่เป็นอิสระและอิสระในพฤติกรรมและการกระทำของเขา ขัดแย้งกัน นี่คือสาเหตุที่บางครั้งเขาถูกเปรียบเทียบกับสเตฟาน ราซิน และรัฐบาลซาร์ก็ใช้มาตรการทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าอาตามันที่เอาแต่ใจเช่นนี้จะไม่ปรากฏบนดอนในอนาคต Matvey Ivanovich Platov ทำมากมายเพื่อความรุ่งโรจน์ของ Don Cossacks รัสเซียซึ่งมากกว่าการชดเชยข้อบกพร่องของเขาและด้วยเหตุนี้เขาจึงสมควรได้รับความทรงจำอันสูงส่งของลูกหลานของเขา