ทำในเวลาที่ต่างกัน ทำหรือไม่? กฎ ตัวอย่าง และข้อผิดพลาดพื้นฐาน

– be and have – เป็นหนึ่งในคำที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ เนื่องจากสามารถมีความหมายได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะนำไปใช้ ในสถานการณ์และบริบทที่แตกต่างกัน do สามารถใช้รูปแบบที่แตกต่างกัน - do หรือ did ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า do มีฟังก์ชันอะไรบ้าง คำกริยา do เขียนเมื่อใด และทำเมื่อใด และกริยาวลีใดบ้างที่มี do และ do มีอยู่

หน้าที่ของกริยา do/dos

กริยา do สามารถใช้ได้ 2 ลักษณะ คือ กริยาช่วย และกริยาหลัก ให้เราจำหมายถึงการกระทำหลักในประโยคและการกระทำเสริมนั้นเกี่ยวข้องกับการก่อตัวของประโยคเชิงลบและประโยคคำถามตลอดจนในโครงสร้างอื่น ๆ

ทำ/ทำ เป็นกริยาหลัก

เมื่อเราพูดถึงกิจกรรมใด ๆ โดยทั่วไปโดยไม่ระบุเจาะจง:

วันนี้คุณทำอะไร มีอะไรน่าสนใจบ้างไหม?– วันนี้คุณทำอะไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
เราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น“เราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ฉันสามารถช่วยอะไรได้บ้าง?- ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร?

เมื่อพูดถึงความสำเร็จหรือความสำเร็จของกิจกรรม:

ฉันซักผ้าเสร็จแล้ว– ฉันล้างจานเสร็จแล้ว
วันแรกของการปั่นจักรยานวันหยุดเราทำได้ 80 ไมล์– เราปั่นเป็นระยะทาง 80 ไมล์ในวันแรกของทริปปั่นจักรยาน
เธอท่องคำไขว้ในหนังสือพิมพ์ทุกวัน– เธอแก้ปริศนาอักษรไขว้ในหนังสือพิมพ์ทุกวัน

เมื่อพูดถึงการทำงานและงานอื่นๆ: การบ้าน งาน งาน งาน:

เธอมีการบ้านมากมายที่ต้องทำคืนนี้วันนี้เธอมีการบ้านที่ต้องทำมากมาย
ฉันจะไปทำงานในสวนสุดสัปดาห์นี้— ฉันจะไปทำงานในสวนสุดสัปดาห์นี้

เมื่อพูดถึงการเรียนรู้บางสิ่ง:

คุณทำอะไรที่มหาวิทยาลัย?– คุณเรียนอะไรในมหาวิทยาลัย?
ฉันทำเศรษฐศาสตร์– ฉันเรียนเศรษฐศาสตร์
เด็กทุกคนต้องทำภาษาอังกฤษในโรงเรียนประถมศึกษา– เด็กทุกคนควรเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนประถมศึกษา

เมื่อพูดถึงการเข้าร่วมกิจกรรม:

ฉันเดินป่าและปีนเขาบ่อยมากเมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก– ฉันเดินป่าและปีนเขาบ่อยมากเมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก
เธอเคยไปเที่ยวอเมซอนตอนที่เธออยู่ที่บราซิล– เธอว่ายน้ำผ่านอเมซอนตอนที่เธออยู่ในบราซิล

เมื่อพูดถึงการทำความสะอาดหรือการจัดระเบียบ:

คนทำความสะอาดกำลังทำห้องของฉันเมื่อฉันกลับมา— ภารโรงกำลังทำความสะอาดห้องของฉันเมื่อฉันกลับมา
ฉันจะทำผมแล้วฉันก็จะพร้อม“ฉันจะสระผมแล้วก็เตรียมตัวได้เลย”

ทำ/ทำ เป็นกริยาช่วย

ในบทบาทนี้ คำกริยาที่ต้องทำ จำเป็นในการสร้างประโยคเชิงลบและประโยคคำถาม รวมทั้งทำให้คำกริยาอื่นมีความหมายมากขึ้น

บทเรียนฟรีในหัวข้อ:

กริยาภาษาอังกฤษที่ไม่ปกติ: ตาราง กฎเกณฑ์ และตัวอย่าง

สนทนาหัวข้อนี้กับครูส่วนตัวในบทเรียนออนไลน์ฟรีที่โรงเรียน Skyeng

ทิ้งข้อมูลการติดต่อของคุณไว้ แล้วเราจะติดต่อคุณเพื่อลงทะเบียนเรียน

การผันคำกริยา do/dos

ตารางการผันคำกริยาในกาลปัจจุบัน:

ตัวเลข	ใบหน้า	เวลา
		ปัจจุบันเรียบง่าย	ปัจจุบันต่อเนื่อง	ปัจจุบันสมบูรณ์แบบ	ปัจจุบันสมบูรณ์แบบอย่างต่อเนื่อง
หน่วย	1	ฉันทำ	ฉันกำลังทำ	ฉันได้ทำ	ฉันได้ทำ
	2	คุณทำ	คุณกำลังทำ	คุณทำเสร็จแล้ว	คุณได้ทำ
		เขาทำ	เขากำลังทำ	เขาได้ทำแล้ว	เขากำลังทำอยู่
	3	เธอทำ	เธอกำลังทำ	เธอได้ทำแล้ว	เธอกำลังทำอยู่
		มันทำ	มันกำลังทำอยู่	มันได้ทำแล้ว	มันกำลังทำอยู่
		เราทำ	เรากำลังทำอยู่	เราทำเสร็จแล้ว	เรากำลังทำอยู่
พหูพจน์	1	คุณทำ	คุณกำลังทำ	คุณทำเสร็จแล้ว	คุณได้ทำ
	2	พวกเขาทำ	พวกเขากำลังทำ	พวกเขาได้ทำแล้ว	พวกเขาทำอยู่

ตารางผันกาลอดีต:

ตัวเลข	ใบหน้า	เวลา
		อดีตที่เรียบง่าย	อดีตต่อเนื่อง	อดีตที่สมบูรณ์แบบ	อดีตที่สมบูรณ์แบบอย่างต่อเนื่อง
หน่วย	1	ฉันทำ	ฉันกำลังทำ	ฉันได้ทำ	ฉันเคยทำ
	2	คุณทำ	คุณกำลังทำ	คุณทำเสร็จแล้ว	คุณเคยทำ
		เขาทำ	เขากำลังทำอยู่	เขาได้ทำแล้ว	เขากำลังทำอยู่
	3	เธอทำ	เธอกำลังทำอยู่	เธอได้ทำแล้ว	เธอกำลังทำอยู่
		มันทำ	มันกำลังทำอยู่	มันได้ทำแล้ว	มันกำลังทำอยู่
		เราทำ	เรากำลังทำอยู่	เราทำเสร็จแล้ว	เราทำอยู่
พหูพจน์	1	คุณทำ	คุณกำลังทำ	คุณทำเสร็จแล้ว	คุณเคยทำ
	2	พวกเขาทำ	พวกเขากำลังทำ	พวกเขาได้ทำแล้ว	พวกเขาทำอยู่

กฎการใช้ do/does

คำกริยา to do คือ และด้วยเหตุนี้จึงมีสามรูปแบบ: do, did, done ทุกอย่างเรียบง่ายที่นี่

แต่นอกจากนี้ก็ยังมีรูปแบบที่สี่ด้วย – ทำ แบบฟอร์มนี้จะใช้ได้เฉพาะในรูปแบบ Present Simple และใช้กับบุคคลที่สามเอกพจน์เท่านั้น ดังที่คุณสังเกตเห็นในตารางการผันคำกริยา หลังจาก he, she, it (และคำนามและคำสรรพนามเอกพจน์ใดๆ) จะถูกเขียนเสมอว่า does:

เธอเล่นฮ็อกกี้– เธอเล่นฮ็อกกี้จริงๆ
มื้อนี้รสชาติไม่อร่อย- จานนี้มีรสชาติไม่เป็นที่พอใจ
เขาชอบอ่านหนังสือไหม?– เขาชอบอ่านหนังสือไหม?

ผู้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษมักจะสับสนระหว่างคำกริยา do กับคำกริยา make เนื่องจากทั้งสองคำแปลว่า "to do" อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน Do/Do หมายถึง การดำเนินการ และ make จะใช้เมื่อคุณกำลังพูดถึงการสร้างบางสิ่งบางอย่าง

ฉันทำอาหาร– ฉันกำลังทำอาหาร (เช่น ฉันกำลังทำอยู่)
ฉันทำเค้ก– ฉันกำลังทำเค้ก (เช่น กำลังสร้างสรรค์สิ่งของบางอย่าง)

คำถามด้วย do/dos

คำถามง่ายๆ (ใช่/ไม่ใช่คำถาม) ที่มี do/dos มีรูปแบบดังนี้ do/does + ประธาน + กริยาแสดงการกระทำ

คุณชอบกฎนี้หรือไม่?– คุณชอบกฎนี้หรือไม่?
คุณต้องการที่จะผ่านการสอบ?– คุณต้องการที่จะผ่านการสอบหรือไม่?
เธอเรียนภาษาอังกฤษไหม?– เธอเรียนภาษาอังกฤษอยู่หรือเปล่า?

คำถามพิเศษ (wh-question) เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่นำหน้าด้วยคำคำถาม: question word + do/dos + subject + action verb.

กฎนี้หมายความว่าอย่างไร?– กฎนี้หมายถึงอะไร?
ทำไมคุณถึงออกเสียงถอดความนั้น?– ทำไมคุณถึงพูดการถอดเสียงแบบนั้น?

การปฏิเสธด้วย do/dos

หากต้องการสร้างรูปแบบเชิงลบ อนุภาคจะไม่ถูกวางหลัง do/dos:

ไมเคิลไม่กินผัก– ไมเคิลไม่กินผัก
นักเรียนทุกคนไม่ชอบครูคนนี้– นักเรียนทุกคนไม่ชอบครูคนนี้

ส่วนใหญ่แล้ว do/does + not โครงสร้างจะพบในรูปแบบย่อ ในนั้นจะเขียนดังนี้: อย่าและไม่ได้

ฉันไม่ชอบอ้วน- ฉันไม่ชอบอ้วน
การ์เมนรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่ในบริษัท– การ์เมนรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่ในบริษัทของเขา
การถอดเสียงนี้ดูเหมือนจะไม่ชัดเจน– การถอดความนี้ดูเหมือนจะไม่ชัดเจน

กริยาวลีที่มี do/dos

วิดีโอเกี่ยวกับทำ/ทำ:

กริยาช่วย do/does - did (done - ไม่สามารถใช้เป็นกริยาช่วยได้)

การผันคำกริยา do ใน Present Tense:

มันใช้อย่างไรและเพื่ออะไร?

ก่อนที่คุณจะเริ่มศึกษากริยาช่วยและรูปแบบของมันคุณต้องตอบคำถามหลัก - มีไว้เพื่ออะไร ใช้เพื่อสร้างโครงสร้างประโยคทั้งหมดใน Present Simple และ Past Simple

ใช้โดยตรงเพื่อให้แน่ใจว่าคู่สนทนาเข้าใจซึ่งกันและกัน หากไม่มีมัน ประโยคบอกเล่าและประโยคคำถามก็ไม่มีความหมาย

หากคุณลบคำกริยานี้ออกจากประโยคที่แตกต่างกัน คุณจะได้สิ่งต่อไปนี้:

• “ฉันไม่รู้” แทนที่จะเป็น “ฉันไม่รู้” - “ฉันไม่รู้” แทนที่จะเป็น “ฉันไม่รู้”
• "คุณกำลังทำอะไร?" แทนที่จะเป็น “คุณทำอะไร/ทำอะไรอยู่” คุณกำลังทำอะไรอยู่” แทนที่จะเป็น “คุณกำลังทำอะไรอยู่?/คุณกำลังทำอะไรอยู่”

มันใช้ยังไง?

รูปแบบเชิงลบและคำถามของกริยา do

แบบฟอร์ม do ในประโยคคำถามจะถูกวางไว้ที่จุดเริ่มต้นของโครงสร้าง เมื่อปฏิเสธ คำช่วยจะไม่ถูกเพิ่มเข้าไป ในคำสั่ง do นั้นแทบไม่มีการใช้กริยาช่วยเลย

อดีตกาลของกริยา

แน่นอน อดีตกาลใช้รูป: did Done ถูกใช้ในรูปอดีตกาลที่สมบูรณ์แบบและในรูปแบบอดีตอื่นๆ เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้เนื่องจากแบบฟอร์มไม่ได้ใช้เป็นกริยาช่วย

รูปของการปฏิเสธในรูปอดีตกาลธรรมดา

ดูเหมือนว่านี้: ไม่ได้หรือไม่ได้

ใช้ในรูปกาลง่าย ๆ ในอดีตเพื่อระบุการกระทำง่าย ๆ ในอดีต เมื่อมีวันหรือเหตุการณ์เฉพาะเจาะจงที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ในประโยคคำถาม do จะถูกนำหน้าเหมือนปกติ เช่นเดียวกับกริยาช่วยอื่นๆ

ตัวอย่าง:

คุณได้ไปมหาวิทยาลัยหรือไม่? ใช่ฉันทำ
เธอไม่ได้ทำอาหารตอนเย็นเมื่อวาน เสร็จแล้วจอร์ช

การปฏิเสธถูกสร้างขึ้นในรูปแบบกาลง่าย ๆ อย่างไร?

แบบฟอร์มเชิงลบในอดีตกาล

ในกาลปัจจุบันที่เรียบง่ายการปฏิเสธในคำสั่งถูกสร้างขึ้นดังนี้: ประธาน + don’t/doesn’t+ กริยาที่ไม่มีอนุภาค to และวัตถุที่มีกริยาวิเศษณ์

ปุจฉา:

Don't/doesn't + ประธาน + ภาคแสดง + กริยาวิเศษณ์

ตัวอย่าง:

ฉันไม่ชอบทำอาหารเย็น/ สิ่งที่ฉันไม่ชอบทำอาหาร?

คำกริยาใช้เมื่อใด?

ใช้

คำกริยามักใช้ในกาลปัจจุบันและอดีตเพื่ออธิบายกาลเหล่านี้

มาดูฟอร์มจริงกันก่อน:

1. คำกริยาใช้เมื่อพูดถึงเรื่องง่ายๆ การกระทำที่มักเกิดขึ้นและทำเสร็จแล้ว:ฉันทำการบ้านด้วยตัวเอง
   คุณทำการบ้านด้วยตัวเองหรือเปล่า?
   ฉันเองไม่ทำการบ้าน
2. มันถูกใช้ในการกระทำและสิ่งต่าง ๆ ทั่วไปเหล่านี้เป็นกริยาช่วยซึ่งเป็นคำตอบที่ให้ไว้ในรูปแบบสั้น ๆ ใช้สำหรับทั้งรูปแบบปัจจุบันและอดีต:คุณไปงานปาร์ตี้ไหม? - ใช่ ฉันทำหรือไม่ทำ
   เมื่อวานคุณไปงานปาร์ตี้หรือเปล่า? - ใช่ ฉันทำหรือไม่ทำ
   

   โปรดทราบ: ในคำพูดภาษาอังกฤษ หลังจากคำถามที่ขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย คุณไม่ควรตอบคำถามทั้งหมด เพียงใช้คำตอบแบบสั้นก็เพียงพอแล้ว

   ในภาษาพูด มักใช้รูปแบบที่ถูกตัดทอน: d’you = do you

3. โดยปกติคำกริยาจะใช้หากคุณต้องการพูดบางสิ่งด้วยน้ำเสียงที่จำเป็นเมื่อปฏิเสธ:
   อย่าทำนะมันอันตราย!
   อย่าหาว่าเธอน่าเกลียดนะ!
4. คำกริยายังใช้เมื่อควรเน้นบางสิ่งที่สำคัญ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์และความหมายของคำเช่น ใช้เพื่อแสดงการร้องขอ การเชิญชวน ในภาษารัสเซียสามารถถ่ายทอดเป็นอนุภาคได้
   ไปเดินเล่นกับเธอ มันต้องการเธอมาก - ไปเดินเล่นกับเธอ เธอต้องการสิ่งนี้จริงๆ
   กรุณาเล่นเปียโนด้วย - กรุณาเล่นเปียโนด้วย
   ฉันรักคุณ. - ฉันรักคุณมาก.
   ไปกับเขาและพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับชีวิตของเขา - เดินกับเขาและพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของเขา
   คุณไม่ได้ดูย่อหน้านี้ ไม่ ฉันได้ดูมันแล้ว - คุณไม่ได้อ่านย่อหน้านี้ ไม่ ฉันอ่านแล้ว (ใช้เพื่ออารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น)
5. นอกจากนี้ยังใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กริยาหลักก่อนหน้าซ้ำ:
   เธอร้องเพลงได้ดีมาก - ใช่ เธอทำ. เธอร้องเพลงได้ดีมาก ใช่ (ดีจริงๆ)
   ทอมไม่ได้มาโรงละคร - ไม่ เขาไม่ได้ทำ ทอมไม่ได้มาโรงละคร ไม่ (เขาอยู่ที่นั่น)
   แอนพูดถึงเรื่องนี้บ่อยมาก - ใช่ เธอทำ. แอนนาพูดถึงเรื่องนี้บ่อยมาก ใช่ (จริงๆ นะ)
6. สามารถใช้เมื่อพูดถึงความขัดแย้งเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง:
   เธอกินมากเกินไป - ไม่ เธอไม่ทำ เธอกินเยอะมาก ไม่ (ไม่มาก)
   คุณพูดเสียงดังเกินไป - ไม่ ฉันไม่ทำ คุณพูดเสียงดังเกินไป ไม่ (นั่นไม่เป็นความจริง)
7. นอกจากนี้ คำกริยายังใช้หากต้องการเสริมข้อมูลที่มีอยู่:
   เธอชอบภาพที่สร้างสรรค์ ฉันก็ชอบเช่นกัน เธอชอบรูปถ่ายแปลกๆ ทุกประเภท ฉันก็ชอบเหมือนกัน
   เขาชอบฟังเธอแต่ฉันไม่ฟัง เขาชอบฟังเธอแต่ฉันไม่ฟัง
   ไม่ชอบคอนเสิร์ต และแมรี่ก็ไม่ชอบคอนเสิร์ตเช่นกัน เขาไม่ชอบคอนเสิร์ต และมาเรียก็ไม่ชอบด้วย
8. นอกจากนี้ยังใช้เป็นกริยาเชื่อมโยงทั้งในปัจจุบันและอดีตกาลในภาษารัสเซียกริยาเชื่อมโยงเช่นเดียวกับภาษาอังกฤษจะออกเสียงในตอนท้าย:
   เขาไม่ดื่มพลังใช่ไหม? เขาไม่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังใช่ไหม?
   แมรี่ทำงานในโรงงานช็อคโกแลตใช่ไหม? เธอทำงานในโรงงานช็อกโกแลตใช่ไหม?
   คุณไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม? คุณไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?
9. ยังใช้แสดงความพอเพียง เหมาะสม ความพึงพอใจ ดังนี้
   สิ่งนี้จะทำ โอเค./ เหมาะสม./ พอแล้ว.
   จะทำอย่างนั้นเหรอ? จะทำไหม/เพียงพอไหม/เพียงพอหรือไม่?

กฎบางอย่างที่ต้องจำ

รูปแบบของกริยา do/don’t/do not เปลี่ยนเป็น does/doesn’t/does ในบุคคลที่สามเอกพจน์

นั่นคือกับเขา/เธอ/มัน:

เขาชอบกาแฟไหม? / เขาชอบกาแฟ / เขาไม่รักกาแฟ เขาชอบกาแฟไหม? เขารักกาแฟ เขาไม่ชอบกาแฟ

มันยืนอยู่ที่นี่เหรอ? /มันยืนอยู่ตรงนี้/ มันไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ นี่ยืนอยู่ที่นี่เหรอ? มันยืนอยู่ตรงนี้ มันไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่

เธอเต้นในคอนเสิร์ตหรือเปล่า? / เธอเต้นในคอนเสิร์ต / เธอไม่เต้นในคอนเสิร์ต. เขาเต้นในคอนเสิร์ตไหม? เธอเต้นรำในคอนเสิร์ต เธอไม่เต้นในคอนเสิร์ต

หนึ่งในภาษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ความสับสน” คือการใช้คำกริยา จะเป็นและ ที่จะทำ- นี่หมายถึงการแทนที่คำกริยาหนึ่งด้วยอีกอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากความเข้าใจผิดในหน้าที่และความหมายของคำเหล่านี้

เราได้พูดคุยโดยละเอียดเกี่ยวกับคำกริยาที่จะเป็นแล้ว ดังนั้นตอนนี้เราจะเน้นไปที่การเปรียบเทียบการใช้คำกริยาในสถานการณ์ที่มักเกิดความสับสน

กริยาที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ

คำกริยาในภาษาอังกฤษมีสองประเภทกว้าง ๆ - แข็งแกร่งและอ่อนแอ
กริยาที่รุนแรง ได้แก่ กริยาช่วยและคำที่เทียบเท่า have got กริยาช่วย (do/ does/ did) และ to be- กริยาที่แข็งแกร่งสร้างโครงสร้างและคำถามเชิงลบอย่างอิสระ:

ต้องเขาไปหาหมอฟันหรือเปล่า? - ฉัน ต้องไปหาหมอฟัน./I จะต้องไม่กินแอปเปิ้ล

ในกรณีของกริยาที่อ่อนแอ เราไม่สามารถสร้างคำถามหรือการปฏิเสธได้หากไม่มีกริยาช่วย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด:

ฉัน สดไปปารีส

สดคุณอยู่ที่ปารีสเหรอ? - ข้อผิดพลาด/
คงจะถูกต้องแล้วที่จะพูดว่า: ทำคุณ สดในปารีส?

เขา ชีวิต ไม่ในปารีส- ข้อผิดพลาด/
คงจะถูกต้องแล้วที่จะพูดว่า: เขา ไม่ได้อยู่ในปารีส

ดังนั้นเราจึงใช้ตัวช่วย ทำหรืออีกสองรูปแบบ ( ทำ / ทำ) เพื่อสร้างคำถามและเชิงลบได้อย่างถูกต้อง

ข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อนักเรียน (ตามคำนี้เราหมายถึงนักเรียนทุกคนในภาษาต่างประเทศ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่) เริ่มใช้กริยาช่วยสำหรับแบบฟอร์ม จะเป็น:

เขา เป็นน้องชายของลิซ่า.

ทำเขา เป็นพี่ชายของลิซ่าเหรอ? - ข้อผิดพลาด
เขา ไม่ได้เป็นน้องชายของลิซ่า.- ข้อผิดพลาด

รูปแบบคำกริยาอย่างไม่ต้องสงสัย จะเป็นไม่เหมือนกับรูปแบบดั้งเดิม เราเชื่อว่านี่คือสิ่งที่อาจทำให้เกิดความสับสน
สิ่งที่ควรจำ: ฉันคือคือเคยเป็นเป็นคำกริยาที่รุนแรงและไม่เคยใช้ ช่วยทำ:

เป็นเขาเป็นน้องชายของลิซ่าเหรอ?- ขวา
เขา ไม่ใช่น้องชายของลิซ่า.- ขวา

แต่ ทำขัดต่อ. ด้วยตัวฉันเอง เป็นความหมายกริยานี้อ่อนแอและมีความหมาย ทำ- ดังนั้นเขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากผู้ช่วยที่จับคู่เขาในการสะกดและการออกเสียง ทำ, ที่ ไม่ได้แปลเป็นภาษารัสเซียและทำหน้าที่ทางไวยากรณ์ล้วนๆ:

ฉัน ทำออกกำลังกายทุกวัน
ทำฉัน ทำออกกำลังกายทุกวัน?- ขวา
ฉัน อย่าทำออกกำลังกายทุกวัน- ขวา

ทำฉันออกกำลังกายทุกวัน?- ข้อผิดพลาด
ฉัน อย่าออกกำลังกายทุกวัน- ข้อผิดพลาด / ประโยคนี้ไม่สมเหตุสมผลและจะแปล” ฉันไม่ได้ออกกำลังกายทุกวัน- ฉันอยากจะถามทันทีว่า "ไม่" อะไร- การออกกำลังกาย"

กริยาช่วย

บางครั้งปัญหาร้ายแรงประการที่สองก็เกิดขึ้น ตัวเลือกกริยาช่วย.
หลักสูตรส่วนใหญ่มีโครงสร้างในลักษณะที่ความคุ้นเคยกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและภาษาโดยทั่วไปเริ่มต้นด้วยคำกริยา เป็น - เป็น, ปรากฏ, อยู่ที่ไหนสักแห่ง- นักเรียนเริ่มคุ้นเคยกับการออกแบบด้วย จะเป็นสำหรับพวกเขาแล้วมันสมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่จะใช้มัน เป็นกริยาช่วย- มันสูญเสียความหมายไปจริงๆ และประโยคประเภทนี้ก็มีความเท่าเทียมกันทางไวยากรณ์:

เธอ เป็นในปารีส
เธอ ชีวิตในปารีส

ให้เราสันนิษฐานว่าตามบริบทแล้วสามารถแปลทั้งสองอย่างได้ว่า “ เธออาศัยอยู่ในปารีส- สิ่งต่อไปนี้เกิดขึ้น:

เป็นเธออยู่ที่ปารีสเหรอ?- ขวา
เป็นเธอ สดในปารีส?- ข้อผิดพลาด

ที่จะเป็นเช่นนั้น ไม่เคยจะไม่ถูกนำมาใช้ เป็นกริยาช่วยให้อ่อนลง เว้นแต่จะเป็นโครงสร้างแบบต่อเนื่องหรือแบบพาสซีฟซึ่งรวมถึง จะเป็น:

เป็นเธอ การดำรงชีวิตในปารีส?- ถูกต้อง / ปัจจุบันต่อเนื่อง
การทำงาน ยังไม่เสร็จ. - ถูกต้อง / พาสซีฟ

มันง่ายมากที่จะตรวจสอบ ถามคำถามกับกริยาความหมายเช่น สด (จะทำอย่างไร?- อย่างแน่นอน ทำ (ทำ / ทำ / ทำ) จะกลายเป็นตัวช่วย

เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับ เป็นและด้วย ทำ:

ทำเธอ สดในปารีส?- ขวา
เธอ ไม่ได้อยู่ในปารีส- ขวา

เราหวังว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ถูกต้องและประสบความสำเร็จในการศึกษาของคุณ!

วิกตอเรีย เทตกินา

กริยาเป็นส่วนหนึ่งของคำพูดนั้น แสดงการกระทำอธิบายไว้ในข้อเสนอ โครงสร้างของกฎนี้เกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ในภาษาสากล กริยาอาจเป็นได้ทั้งความหมายหรือกริยาช่วย ด้วยเทคนิคนี้ ไวยากรณ์จึงง่ายขึ้น และสร้างประโยคได้เร็วขึ้นมาก กริยาช่วยในภาษาอังกฤษคืออะไร ต้องวางและแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้อง?

การแนะนำ

ความซับซ้อนทั้งหมดของภาษาอังกฤษอยู่ในรูปแบบกาลจำนวนมากตามรูปแบบที่สร้างขึ้น

ครั้งในทางกลับกัน เกิดจากกริยาช่วยซึ่งมีรูปแบบไม่แน่นอน และถูกแก้ไขขึ้นอยู่กับคำสรรพนามที่นำหน้า

กล่าวอีกนัยหนึ่งมันเป็นป้ายบอกทางที่แสดงให้เราเห็นว่าใครกำลังทำอะไรอยู่และเมื่อใด เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ด้านล่างนี้คือตารางตัวช่วยเสริมเป็นภาษาอังกฤษ และหลังจากนั้นจะมีคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับความแตกต่างทั้งหมด

ตารางไฮไลท์ สามกลุ่มซึ่งแต่ละอย่างมีปัจจุบัน อดีต และอนาคต (ปัจจุบัน อดีต อนาคต) สำหรับแต่ละกลุ่ม คุณจะต้องใช้กริยาช่วยเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลที่เราใช้

ปัจจุบัน อดีต อนาคต ไม่มีกำหนด

กลุ่มกาลที่ช่วยให้เราสามารถอธิบายเหตุการณ์ประจำวันที่เกิดขึ้นเป็นประจำหรือเป็นระยะได้ ตัวอย่างดังต่อไปนี้ ฉันทำงานในโรงงาน เราเดินเล่นในสวนสาธารณะในตอนเย็น เป็นต้น ในช่วงเวลาของกลุ่ม Indefinite มากที่สุด คำพูดที่เรียบง่ายและสั้นภาษาอังกฤษที่ผู้ที่พูดภาษารัสเซียสามารถเข้าถึงได้และเข้าใจได้ ทีนี้เรามาดูกันว่า auxiliary verbs ในหมวดนี้คืออะไร และควรใช้อย่างไร

To Do แปลตรงตัวว่า “to do”แต่ในกลุ่มกาล Indefinite ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้เวลาและสรรพนามที่เป็นปัญหา มันไม่ได้ใช้ในประโยคของรูปแบบยืนยันของกาลปัจจุบัน แต่ถ้าคุณต้องการถามคำถามหรือปฏิเสธบางสิ่งบางอย่างก็จำเป็นต้องมีส่วนร่วม สำหรับปัจจุบันนี้ มีการใช้คำว่า Do และ Doesขึ้นอยู่กับสรรพนาม:

• Do ใช้สำหรับฉัน คุณ เรา พวกเขา (ฉัน คุณ เรา พวกเขา);
• ทำ – สำหรับเขา เธอ มัน (เขา เธอ มัน หรือสิ่งนี้)

คุณสามารถพิจารณาทั้งสองตัวเลือกได้โดยใช้ตัวอย่างในประโยคคำถามด้วย Do: “คุณเล่นเปียโนหรือเปล่า?” “คุณเล่นเปียโนหรือเปล่า” หรือ “เขาอยู่ที่ชิคาโกหรือเปล่า” “เขาอาศัยอยู่ที่ชิคาโกหรือเปล่า?”

ตัวอย่างที่คล้ายกันสามารถเห็นได้ในแง่ลบ: “เราไม่เล่นฟุตบอล – เราไม่เล่นฟุตบอล” “เธอไม่ชอบมันฝรั่ง” “เธอไม่ชอบมันฝรั่ง”

นี่เป็นกฎพื้นฐานสำหรับ Do และ Does ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุดได้อย่างถูกต้องและชัดเจน กริยาช่วยในรูปแบบเหล่านี้จะบอกเราถึงสรรพนามที่เป็นปัญหา รวมถึงเวลาที่การกระทำหลักเกิดขึ้น

รูปกริยาของ Do ในรูปแบบ Past Indefinite คือ Did ในกรณีนี้เขา เหมือนกันสำหรับคำสรรพนามทั้งหมดแต่ใช้ในประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธเท่านั้น ฟังดูประมาณนี้:“ เมื่อวานคุณไปโรงเรียนหรือเปล่า? “ เมื่อวานคุณไปโรงเรียนหรือเปล่า” ซึ่งอาจตามมาด้วยคำตอบเชิงลบ:“ เมื่อวานฉันไม่ได้ไปโรงเรียน - เมื่อวานฉันไม่ได้ไปโรงเรียน” ปรากฎว่าในกรณีที่คำกริยา Did ถูกใช้ในประโยค เราสามารถถือว่ามันเป็นอดีตกาลได้โดยอัตโนมัติ ยิ่งไปกว่านั้น เป็นที่ชัดเจนว่าเรากำลังพูดถึงคำถามหรือคำตอบเชิงลบ

ส่วน Future Tense ในที่นี้จะใช้กับสรรพนามทุกรูปแบบและทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบอกกล่าว ซักถาม หรือปฏิเสธ เราใช้คำว่า จะ.มันไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสรรพนาม ดังนั้นการเรียนรู้กฎนี้จะค่อนข้างง่าย ลองดูการใช้งานด้วยตัวอย่างที่ชัดเจน:

• พรุ่งนี้เธอจะไปสวนสาธารณะ - พรุ่งนี้เธอจะไปสวนสาธารณะ
• พรุ่งนี้เธอจะไปสวนสาธารณะไหม? – พรุ่งนี้เธอจะไปสวนสาธารณะไหม?
• พรุ่งนี้เธอจะไม่ไปสวนสาธารณะ - พรุ่งนี้เธอจะไม่ไปสวนสาธารณะ

ความสนใจ!กริยาช่วยจะต้องเกิดขึ้นในกาลที่แน่นอนในอนาคตด้วย ใช้ร่วมกับสรรพนาม "I" เท่านั้นในทุกรูปแบบประโยค อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการใช้น้อยมากจึงช่วยลดความซับซ้อนของโครงการในเวลานี้ คุณจะได้ยินเพียงวลี “ฉันจะ” จากผู้ที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ประเทศอื่นๆ ที่พูดภาษาอังกฤษทั้งหมดจะพูดว่า “ฉันจะ”

ปัจจุบัน อดีต อนาคต อย่างต่อเนื่อง

กาลต่อเนื่องซึ่งแปลว่า “ยาว” บ่งบอกถึงการกระทำที่ยังไม่เสร็จ

เกิดขึ้นได้ในขณะนั้น อาจไม่แล้วเสร็จ ในอดีตหรืออนาคตก็ได้ ในเวอร์ชันรัสเซีย ข้อความดังกล่าวดูเหมือน: "ฉันอ่านเมื่อวานนี้" "เธอกำลังว่ายน้ำในสระ" "เราจะเล่นหมากฮอสพรุ่งนี้" เป็นต้น

เช่นเดียวกับในกรณีของ Do สำหรับกาลกลุ่มก่อนหน้าจะมีรูปแบบกริยาช่วยซึ่งระบุระยะเวลาและความไม่สมบูรณ์ของการกระทำ

ถึง เป็น– กริยา ซึ่งแปลตามตัวอักษรซึ่งฟังดูเหมือน “เป็น” ขึ้นอยู่กับภาระทางความหมาย มันเป็นไปตามว่ามันเป็นของเวลาที่มีความหมายไม่สมบูรณ์ เพื่อให้เข้าใจวิธีการทำงานก็เพียงพอแล้วที่จะแปลประโยคที่ง่ายที่สุดโดยการมีส่วนร่วมของเขา: "การอ่าน - การอ่าน" เช่นเดียวกับรูปแบบของคำกริยา Do รูปแบบของ To Be จะแตกต่างกันไปตามคำสรรพนามและกาล

• ฉัน (ฉัน) - ฉัน
• คุณ เรา พวกเขา (คุณ เรา พวกเขา) – เป็น
• เขา เธอ มัน (เขา เธอ มัน) – คือ

โครงการนี้ใช้สำหรับระยะเวลาไม่แน่นอนในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น เราสามารถพิจารณาข้อความสั้นๆ โดยใช้คำนี้: "ฉันกำลังเต้นรำ" "พวกเขากำลังวาดรูป" "เธอกำลังดูทีวี" กริยาที่อยู่ในรูปแบบข้างต้นใช้ในประโยคเชิงบวก ประโยคคำถาม และประโยคปฏิเสธ และเป็น “บัตรโทรศัพท์” การกระทำที่ยังไม่เสร็จ.

สำหรับอดีตกาลของหมวดหมู่นี้ กฎจะง่ายขึ้นเล็กน้อย ประโยค to be สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเอกพจน์ กลุ่มที่สองเป็นพหูพจน์:

• ฉัน เขา เธอ มัน (ฉัน เขา เธอ มัน) – เคยเป็น
• เรา คุณ พวกเขา (เรา คุณ พวกเขา) – เป็น

ตอนนี้ตัวอย่างด้วยคำต่อไปนี้: "เธอกำลังทำอาหาร - เธอทำอาหาร", "เรากำลังว่ายน้ำ - เราว่ายน้ำ"

เมื่อพูดถึงกาลอนาคตที่ยังไม่เสร็จ รูปแบบจะง่ายขึ้นไปอีก สำหรับคำสรรพนามทั้งหมดที่เราใช้ be กับคำนำหน้า will และผลลัพธ์คือ: “ฉัน (เขา) กำลังจะวิ่ง - ฉัน (เขา) กำลังจะวิ่ง”

คำแนะนำ! ในกาลต่อเนื่อง รูปแบบกริยาเชิงความหมายทุกรูปแบบจะมีการลงท้ายด้วย –ing มันถูกนำมาประกอบกับพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงสรรพนามตลอดจนในอดีตกาลปัจจุบันและอนาคต

ปัจจุบัน อดีต อนาคตที่สมบูรณ์แบบ

มีการใช้หมวดหมู่ไวยากรณ์นี้ เพื่ออธิบายงานที่เสร็จสมบูรณ์อย่างชัดเจน- ในกาลปัจจุบัน การกระทำในอดีตที่ส่งผลในขณะนั้นมีลักษณะคล้ายกัน

สำหรับอดีตและอนาคตแบบฟอร์มดังกล่าวมีการใช้งานน้อยมาก สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงการกระทำที่เสร็จสมบูรณ์โดยสมบูรณ์ซึ่งนำหน้าด้วยการกระทำอื่นที่ยังไม่เสร็จในอดีตหรือในอนาคต เราเสนอให้พิจารณาว่าโครงสร้างทางไวยากรณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร

กริยาช่วย Have เป็นส่วนสำคัญของส่วน Perfect ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับกาลและสรรพนาม และต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เราสามารถระบุสิ่งที่เกิดขึ้นได้ มาเริ่มกันด้วยปัจจุบันและแผนภาพสั้นๆ สำหรับการใช้ To Have เช่นเคย:

• ฉัน คุณ เรา พวกเขา (ฉัน คุณ เรา พวกเขา) – มี
• เขา เธอ มัน (เขา เธอ มัน) – มี

ให้เรายกตัวอย่างที่เกิดวลีไวยากรณ์นี้: "เขาไปแล้ว - เขาจากไปแล้ว" "เราทำสิ่งนั้นแล้ว - เราทำแล้ว" ปัจจุบัน สมบูรณ์แบบ- เหตุการณ์ที่พบบ่อยมากในการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่สะท้อนเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ผู้คนพูดและเขียนน้อยมากในอดีตกาลของหมวดหมู่นี้ โครงสร้างของประโยคนั้นเรียบง่ายและเข้าใจได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบคำกริยา Had ซึ่งเหมือนกันกับคำสรรพนามทั้งหมด: "รถไฟออกไป - รถไฟออกไป" ความเรียบง่ายที่คล้ายกันเป็นลักษณะของรูปแบบในอนาคตโดยที่กริยาช่วยดูเหมือน Will Have เช่น "เธอจะได้รับจดหมาย - เธอจะได้รับจดหมาย"

สำคัญ!ในกาลที่สมบูรณ์แบบ กริยาเชิงความหมายทั้งหมด แม้กระทั่งในอนาคต จะถูกใส่ไว้ในรูปแบบอดีต ในตารางคำกริยาที่ไม่ปกติ นี่คือคอลัมน์ที่สาม และสำหรับคอลัมน์อื่นๆ ทั้งหมดจะใช้การลงท้ายด้วย –ed แม้ในกรณีที่ใช้แบบฟอร์ม Had หรือ Will Have ราวกับว่าเป็นการบอกเวลา กริยาเชิงความหมายจะต้องคงอยู่ในอดีตกาลเสมอ

ประเภทของกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ - กริยาช่วย

บทสรุป

เราได้ตรวจสอบรูปแบบไวยากรณ์พื้นฐานของภาษาอังกฤษโดยสังเขปโดยพิจารณาจากคำพูดที่ถูกสร้างขึ้น สำหรับหลายๆ คน ก่อนหน้านี้เคยเป็นปริศนาว่าทำไมในประโยคถึงมีคำกริยาสองคำที่มีความหมายต่างกัน และวิธีการแปลและทำความเข้าใจคำนี้ เมื่อได้เรียนรู้ว่าเมื่อใดควรใช้ Do และ Does, Have และ Has รวมถึงคำศัพท์ช่วยอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง การเข้าใจพลเมืองที่พูดภาษาอังกฤษจะง่ายขึ้นมาก

กริยา do มีความหมายอย่างมากในภาษาอังกฤษ หากคุณรู้ว่า do และ do แตกต่างกันอย่างไร เมื่อ Did ใช้ ทำไมบางครั้งเราแปลคำกริยา do และบางครั้งก็ไม่ คุณก็สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างง่ายดายและแสดงความคิดง่ายๆ ได้อย่างถูกต้อง

ถ้าไม่เช่นนั้น ให้อ่านบทความอย่างรวดเร็ว วันนี้เราจะเปิดเผยความลับทั้งหมดของคำกริยาที่ยุ่งยาก ทำ และสหายของมัน!

ทำ/ทำกฎเป็นภาษาอังกฤษ

DOES หรือ DO: กฎแห่งการเลือกอย่างชาญฉลาด

ในคำพูดภาษาอังกฤษ คำกริยาทำและเกิดขึ้นอย่างแท้จริงในทุกขั้นตอน มาดูกันว่า do/do ถูกใช้เมื่อใด และโดยทั่วไปแล้วมันแตกต่างกันอย่างไร ทั้งทำและไม่แปลว่า "ทำ" ยิ่งไปกว่านั้น does เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของคำกริยา do

การใช้ do/do ขึ้นอยู่กับใครหรือสิ่งที่เรากำลังพูดถึง

หากเรากำลังพูดถึงบุคคลที่สามเอกพจน์ (he/she/it - he/she/it) การลงท้ายด้วย -es จะถูกเพิ่ม to do เช่นเดียวกับกริยาอื่นๆ ดังนั้น เวลาพูดถึงบุคคลหรือบางสิ่งในบุคคลที่สาม เราจึงใช้ dos ในบุคคลอื่นทั้งหมด do ถูกใช้

แมรี่ทำงานนี้โดยไม่มีความกระตือรือร้น
แมรี่ทำงานนี้โดยไม่กระตือรือร้นเลยแม้แต่น้อย

ประธานไม่สามารถแสดงด้วยสรรพนามหรือคำนามเดียวได้เสมอไป แล้วมันก็ยากที่จะเข้าใจว่าควรเลือก ทำอะไร หรือทำอะไร:

ไมค์และจิมมักจะทำการบ้านในช่วงบ่าย
ไมค์และจิมมักจะทำการบ้านในช่วงบ่าย

ไมค์และจิมเข้ามาแทนที่เรื่อง มีสองคน ถ้าเราแทนที่ชื่อด้วยสรรพนาม เราจะเลือกพวกเขา - พวกเขา บุคคลที่สามพหูพจน์ ในกรณีนี้ do จะใช้คำว่า do

ทำ/ทำ: ใช้เป็นความหมาย
และกริยาช่วย

Do สามารถทำหน้าที่เป็นกริยาความหมายหรือกริยาช่วยได้

มันหมายความว่าอะไร? คำกริยาส่วนใหญ่ในภาษาอังกฤษมีความหมาย - มีความหมาย มีการแปล และแสดงถึงการกระทำบางอย่าง (หรือสถานะ) อันที่จริงนี่เป็นภาคแสดงที่พบบ่อยที่สุดที่แสดงโดยคำกริยา

ตัวอย่างเช่น:
แนนซี่อบเค้กทุกวันอาทิตย์
ทุกวันอาทิตย์ แนนซี่จะอบเค้ก

หากไม่มีการแปลคำกริยา bake - oven - เราจะไม่สามารถถ่ายทอดความหมายของประโยคทั้งหมดได้

และมีกริยาช่วย พวกเขาทำหน้าที่เพียงเพื่อสร้างรูปแบบไวยากรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นและไม่มีการแปลในประโยค นี่เป็นส่วนสำคัญของประโยค โดยที่ประโยคนั้นจะไม่ "กระจุย" แต่ในขณะเดียวกัน กริยาเชิงความหมายแต่ละตัวนี้ก็แทบไม่มีผลกระทบต่อการแปลโดยรวม

ตัวอย่างเช่น กริยาช่วย be (to be) ในประโยค:
เค้กอบโดยแนนซี่
เค้กนี้อบโดยแนนซี่

เป็น (คือ) จำเป็นที่นี่เพียงเพื่อสร้างรูปแบบเสียงที่ไม่โต้ตอบ: ถูกอบ คำแปลจะฟังดู "อบ" แต่ไม่ใช่ "อบ"

ในทำนองเดียวกัน คำกริยา do สามารถเป็นได้ทั้งความหมายและช่วย ในแง่ความหมายก็มีคำแปลว่า "ต้องทำ"

เป็นตัวช่วยในการสร้างประโยคตามกฎไวยากรณ์และไม่มีการแปลเป็นของตัวเอง

Do as คำกริยาช่วยเป็นสิ่งจำเป็นในการถามคำถามหรือสร้างคำปฏิเสธใน Present Simple เมื่อพูดถึง he/she/it (บุรุษที่ 3 เอกพจน์) จะใช้ dos ตอนนี้เราจะได้เห็นกันว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

คำถามด้วย do/dos

เมื่อสร้างประโยคคำถาม เราจะใส่ do หรือ do ไว้ตำแหน่งแรกในประโยค:

คุณเข้าใจฉันไหม?
คุณเข้าใจฉันไหม?

จอห์นเข้าใจอะไรไหม?
จอห์นเข้าใจอะไรไหม?

ในกรณีนี้ไม่มีการแปลหรือไม่มีการแปล หน้าที่ของพวกเขาคือทำงานเป็นอิฐในการก่อสร้างข้อเสนอ พวกเขาไม่มีคำแปลของตัวเอง

โปรดทราบว่าหากในประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถาม เรากำลังพูดถึงบุคคลที่สามเอกพจน์ (he/she/it) เราจะใช้ does (do + es) และเราจะไม่เติมคำลงท้ายใดๆ ให้กับกริยาเชิงความหมาย - หนึ่งในตัวบ่งชี้ของ คนที่ 3 ก็เพียงพอแล้ว

จอห์นเข้าใจอะไรไหม? (จอห์นเข้าใจอะไรไหม?)
มาร์กาเร็ตอาศัยอยู่ในเมืองหรือไม่? (มาร์กาเร็ตอาศัยอยู่ในเมืองหรือไม่)

คำถามพิเศษด้วย do/dos

ในคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า อะไร ที่ไหน เมื่อใด ทำไม ฯลฯ (คำถามดังกล่าวเรียกว่าคำถามพิเศษ) Present Simple ยังใช้คำกริยาช่วย do/dos อีกด้วย และวางไว้หลังคำว่าคำถาม:

คุณกินไอศกรีมบ่อยแค่ไหน?
คุณกินไอศกรีมบ่อยแค่ไหน?

แจ็คไปที่ไหนทุกฤดูร้อน?
แจ็คไปที่ไหนทุกฤดูร้อน?

ข้อยกเว้น: ถ้าเราถามคำถามกับหัวเรื่องแล้วใช้คำว่า who? (ใคร) และอะไร? (อะไร) เราไม่จำเป็นต้องใช้กริยาช่วย do/do และกริยาความหมายจะอยู่ในรูปเอกพจน์บุรุษที่ 3 เสมอ เช่น สิ้นสุด -(e)s:

ใครกินปลาบ้าง?
ใครกินปลาบ้าง?

อะไรมักจะตกลงมาจากท้องฟ้าในฤดูหนาว?
อะไรมักจะตกลงมาจากท้องฟ้าในฤดูหนาว?

โปรดทราบว่าในคำถามดังกล่าว คำกริยาสามารถปรากฏพร้อมกับใครและอะไร แต่... เฉพาะในกรณีที่เป็นกริยาเชิงความหมายและไม่ใช่กริยาช่วย

ใครทำงานบ้านในที่ของคุณ?
ใครทำงานบ้านของคุณ?

ในกรณีนี้ DO ก็ไม่ต่างจากกริยาแสดงการกระทำอื่น ๆ เช่น กิน เต้นรำ เล่น ฯลฯ

การปฏิเสธด้วย do/dos

เมื่อสร้างการปฏิเสธ เราจะเพิ่มอนุภาคเชิงลบที่ not to do/does:

ฉันไม่อยากฟังแจ็ค
ฉันไม่อยากฟังแจ็ค

เขาไม่ต้องการยืนยันการประชุมของเรา
เขาไม่ต้องการยืนยันการประชุมของเรา

ดังที่เราเห็น ในการปฏิเสธ do เช่นเดียวกับในคำถาม ไม่ได้แปลในทางใดทางหนึ่ง

Do + not หรือ Does + not อยู่ระหว่างประธานและภาคแสดง:

จูเลียและฉันไม่เชื่อใจเขา
จูเลียและฉันไม่เชื่อใจเขา

คุณสามารถใช้แบบฟอร์มย่อ:
อย่า = อย่า
ไม่ = ไม่

ฉันไม่เข้าใจคุณ. (ฉันไม่เข้าใจคุณ.)
เขาไม่พูดภาษาสเปน (เขาไม่พูดภาษาสเปน)

โปรดจำไว้ว่าเมื่อใช้ DO ในการปฏิเสธ กริยาท่าทางจะใช้โดยไม่ต้องลงท้ายด้วย -(e)s:

แจ็คไม่ชอบแตงกวา
แจ็คไม่ชอบแตงกวา

กริยาทำ เมื่อกล่าวถึง ความหมาย และเหตุใดจึงจำเป็นในประโยค

Do เป็นกริยาที่ไม่ปกติ เช่นเดียวกับคำกริยาที่ไม่ปกติทั่วไป มันมีสามรูปแบบที่คุณต้องรู้ด้วยใจ:

รูปแบบที่สองของกริยา did ใช้ใน Past Simple

Did in the Past Simple สามารถทำงานได้ทั้งในรูปแบบกริยาความหมายและกริยาช่วย

ลองดู:

เขาทำภารกิจนี้เมื่อวานนี้
เขาทำภารกิจนี้เมื่อวานนี้

Did ในกรณีนี้คือกริยาเชิงความหมาย do ในภาษา Past Simple ซึ่งแปลว่า "did" หรือ “ทำ”

ในประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ Did เป็นกริยาช่วยและไม่สามารถแปลได้ในทางใดทางหนึ่ง:

ฤดูร้อนที่แล้วคุณไปทางใต้หรือเปล่า?
ฤดูร้อนที่แล้วคุณไปทางใต้หรือเปล่า?

นี่คือองค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นสำหรับประโยคให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โปรดทราบ: did อยู่ในรูปแบบ Past Simple ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องใส่กริยาความหมายในรูปแบบอดีตกาล

เพื่อนของคุณโทรหาคุณหรือเปล่า?
เพื่อนของคุณโทรหาคุณหรือเปล่า?

do สองครั้งในประโยคเดียวใช้ได้ไหม?

ในประโยคเดียว คำกริยา do สามารถปรากฏได้สองครั้ง - ทั้งในรูปแบบกริยาเชิงความหมายในความหมาย "ทำ" และเป็นกริยาช่วย (ในคำถามและการปฏิเสธของกลุ่ม Simple tense)

เจนบอกว่าเธอไม่ได้ทำงานนี้(ปัจจุบันเรียบง่าย)
เจนบอกว่าเธอไม่ทำอย่างนั้น(ตามตัวอักษร: ไม่ได้ทำงานนี้)

คุณทำหน้าที่ของคุณอยู่เสมอหรือไม่? (ปัจจุบันเรียบง่าย)
คุณปฏิบัติตามความรับผิดชอบของคุณอยู่เสมอหรือไม่?

คุณไม่ได้ทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์!(อดีตที่เรียบง่าย)
คุณไม่ได้ทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์!

การมีคำกริยา do สองคำในประโยคบางครั้งทำให้นักเรียนสับสน แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรแปลกที่นี่ คำกริยาหนึ่งคำมีความหมายความหมายและคำที่สองจำเป็นสำหรับการดำเนินการประโยคที่ถูกต้องจากมุมมองของไวยากรณ์

ประโยคประเภทนี้ยังมีคำถามที่ใช้บ่อยด้วย:

คุณทำงานอะไร?
คุณกำลังทำอะไร? / คุณทำงานอะไร?

ทำไมบางครั้ง do ถึงใช้กับคำเดียวกันได้ แต่บางครั้งก็ใช้ด้วย?

สถานการณ์ที่มีคำนามรวม (รวม) เป็นเรื่องที่น่าสนใจ Collective Nouns เป็นนามเอกพจน์ แต่หมายถึงกลุ่มคน ตัวอย่างเช่น: ทีม (ทีม) ผู้ชม (ผู้ชม) ครอบครัว (ครอบครัว) ฯลฯ

คำนามดังกล่าวสามารถเห็นด้วยกับคำกริยาได้ทั้งในรูปเอกพจน์และพหูพจน์:

ครอบครัวของฉันใหญ่
ครอบครัวของฉันใหญ่

ในที่นี้เราพิจารณาครอบครัวโดยรวม และครอบครัวในกรณีนี้ต้องใช้กริยาเอกพจน์ตามหลังตัวมันเอง

ครอบครัวของฉันอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ
ครอบครัวของฉันอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ

ในที่นี้ เพื่อให้คำแปลถูกต้องยิ่งขึ้น เราสามารถแทนที่ "ครอบครัว" ด้วย "สมาชิกในครอบครัวของฉัน" ดังนั้นมันจึงชัดเจนมากขึ้นว่าเรากำลังพูดถึงคนหลายคน แต่ไม่ใช่เกี่ยวกับครอบครัวโดยรวม

หากคุณเจอคำนามรวมดังกล่าวให้ใส่ใจเป็นพิเศษกับการแปล: คำนี้ใช้ความหมายอะไรเรากำลังพูดถึงเรื่องเดียวหรือเกี่ยวกับแต่ละบุคคล?

การกลับมาทำ/ทำ: การเลือกทำหรือทำจะขึ้นอยู่กับว่าคุณวิเคราะห์ความหมายของคำนามร่วมได้ถูกต้องเพียงใด:

ทีมทำดีที่สุดแล้ว!
ทีมงานกำลังทำทุกอย่างที่เป็นไปได้!(ผู้เล่นแต่ละคนให้ 100%)

ทีมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้รักษาประตู!
ทีมขาดผู้รักษาประตูไม่ได้!(ทั้งทีมต้องการผู้รักษาประตู ไม่ใช่ผู้เล่นเดี่ยว)

โปรดทราบ ไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับคำนามรวมในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน เราใส่คำว่า does เมื่อคำนามถูกใช้ในบุคคลที่สามและเป็นเอกพจน์ และไม่สำคัญว่าจะมีความหมายโดยรวมหรือไม่ ในนามนี่คือตัวเลขเดียว ซึ่งหมายความว่าเราเลือกทำ:

บริษัททำได้ดีมาก(ฉันอังกฤษ)
บริษัทกำลังไปได้ดี

ทำ แปลว่า "ไม่เป็นอย่างนั้น"

คำกริยา do/did/do เมื่อใช้กับคำถามแบบมีหางจะแปลได้ว่า “isn’t it?”

ลองดู:

แมรี่ไม่กินข้าวต้มทุกวันใช่ไหม? (แมรี่ไม่กินข้าวต้มทุกวันใช่ไหม?)

เราเขียนประโยคหลักตามกฎการสร้าง Present Simple หากประโยคเป็นการยืนยัน “tail” จะเป็นเชิงลบ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

แมรี่กินข้าวต้มทุกวันใช่ไหม? (แมรี่กินข้าวต้มทุกวันใช่ไหม?)
ในกรณีนี้ กริยาช่วยจะปรากฏที่ส่วนท้ายเท่านั้น

ถ้าประโยคหลักเป็นลบ ส่วนหางจะเป็นบวก และกริยาช่วยจะปรากฏในทั้งสองส่วนของประโยค:

แมรี่ไม่กินข้าวต้มทุกวันใช่ไหม? (แมรี่ไม่กินข้าวต้มทุกวันใช่ไหม?)

ในอดีตกาล (Past Simple) เราจะใช้กริยาช่วยทำใน “tail”:

คุณไม่เคยอยากเห็นฉันที่บ้านของคุณใช่ไหม?
คุณไม่เคยอยากเห็นฉันในบ้านของคุณใช่ไหม?

ในกรณีนี้ เราสร้าง "หาง" โดยใช้รูปแบบเชิงบวก ทำ เนื่องจากประโยคหลักมีความหมายเชิงลบเนื่องจากคำเครื่องหมายไม่เคย - ไม่เคย

ทำแทนกริยาการกระทำ

ในบางกรณี do ปรากฏขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ลองดูบทสนทนาขนาดเล็กนี้:

- ฉันกินข้าวต้มทุกวัน (ฉันกินข้าวต้มทุกวัน)
- คุณล่ะ? (มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?)

คู่สนทนาของเราใช้กาลปัจจุบันที่เรียบง่าย: ฉันกินข้าวต้มทุกวัน

เรากำลังถามคำถามที่ชัดเจน แต่ในเวลาเดียวกันเราจะไม่ทำซ้ำกริยาความหมาย กิน - มันจะฟังดูน่าเกลียดและไม่ค่อยมีความสามารถ เราใช้กริยาช่วยแทน do ​​: Do ​​you?

เราสามารถแปลความหมายของ do ได้หลายวิธี เช่น “Really?”, “Really?”, “Seriously?” "จริงหรือ?" - ขึ้นอยู่กับน้ำเสียงและบริบท แต่ไม่ใช่ “คุณกำลังทำเช่นนี้?” หรืออะไรที่คล้ายกัน

เมื่อทำ, ทำ, ทำ ใช้เพื่อเสริมความหมาย

Do (did/does) เป็นกริยาช่วยสามารถปรากฏได้ไม่เพียงแต่ในคำถามและการปฏิเสธของกลุ่มกาลธรรมดาเท่านั้น

ในประโยคบอกเล่า กริยาช่วย do สามารถทำหน้าที่เป็นตัวเพิ่มความเข้มข้นได้ มันถูกใช้ในประโยคที่กระตุ้นอารมณ์และแปลว่า "จริงๆ", "ความจริง", "จริงๆ"

ฉันรู้จักนายกรัฐมนตรี!
ใช่ ฉันรู้จักนายกรัฐมนตรีจริงๆ!

เมื่อคืนฉันเห็นพี่ชายของคุณ! ถามเขาสิ!
เมื่อคืนก่อนฉันเห็นน้องชายของคุณจริงๆ! ถามเขาสิ!

ข้อผิดพลาดทั่วไปกับทำ

ผู้คนมักจะสับสนระหว่างความหมายของคำถามบางข้อกับทำ และจบลงด้วยสถานการณ์ที่ตลกขบขันด้วยเหตุนี้ ตัวอย่างเช่น:

คุณทำงานอะไร? vs คุณกำลังทำอะไรอยู่? vs คุณเป็นยังไงบ้าง?

เมื่อคุณได้ยินคำถามว่า “คุณทำอะไรอยู่” ซึ่งหมายความว่าคู่สนทนาของคุณสนใจอาชีพของคุณ - สิ่งที่คุณทำในชีวิต

หากคุณต้องการรู้ว่าคนๆ หนึ่งกำลังทำอะไรอยู่ ให้ถามว่า “คุณกำลังทำอะไรอยู่?”

และคำถามที่ว่า “เป็นยังไงบ้าง?” อันที่จริงมันไม่ใช่คำถามเลย แต่เป็นเพียงคำทักทายที่สุภาพเมื่อได้ยินว่าไม่ว่าในกรณีใดคุณควรพูดถึงเรื่องของคุณ - พวกเขาทักทายคุณตอบอย่างใจดี!

สำนวนที่มีคำว่า do แปลโดยไม่มี "do"

มีสำนวนหลายคำที่ใช้คำว่า do (หรือ does หรือ did) โดยที่ do เป็นกริยาเชิงความหมาย แต่ไม่ได้แปลว่า "to do" คุณต้องจำสำนวนเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้คำพูดของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น:

จากมุมมองทางไวยากรณ์ do ในนิพจน์เหล่านี้และสำนวนที่คล้ายกันนั้นเป็นกริยาความหมายธรรมดา ดังนั้นให้ใช้กฎปกติในการสร้างประโยค ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับสำนวนเหล่านี้!

ลองดู:

เพื่อนของฉันช่วยเหลือฉันและพูดคุยเกี่ยวกับฉันกับเจ้านายของเขา(ทำ - Past Simple)
เพื่อนของฉันช่วยเหลือฉันและพูดคุยกับเจ้านายของเขาเกี่ยวกับฉัน

คุณช้อปปิ้งบ่อยแค่ไหน? (คำถามใน Present Simple)
คุณไปช้อปปิ้ง/ช้อปปิ้งบ่อยแค่ไหน?

น่าเสียดายที่บริษัทของแจ็คทำงานได้ไม่ดีนัก(การปฏิเสธใน Present Simple)
น่าเสียดายที่บริษัทของแจ็คไม่ค่อยเป็นไปด้วยดี

ตอนนี้คุณรู้ถึงความแตกต่างทั้งหมดของการใช้กริยา do และจะไม่มีวันเกิดปัญหา อ่านบทความอื่นๆ ของเราและทำให้ภาษาอังกฤษของคุณชัดเจนไร้ที่ติ!