Beria Lavrentiy Pavlovich ประวัติโดยย่อและข้อเท็จจริงที่น่าสนใจจากชีวิตของนักปฏิวัติรัสเซีย รัฐบุรุษโซเวียต และผู้นำพรรค นำเสนอในบทความนี้
ประวัติโดยย่อของ Beria Lavrenty Pavlovich
Lavrenty Pavlovich Beria เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2442 ในเมือง Merheuli ในครอบครัวชาวนาที่ยากจน ตั้งแต่อายุยังน้อยเขาแสดงความสนใจและความกระตือรือร้นในความรู้และหนังสือเป็นอย่างมาก เพื่อให้ลูกชายได้รับการศึกษาที่ดี พ่อแม่จึงขายบ้านครึ่งหนึ่งเพื่อจ่ายค่าโรงเรียนประถมศึกษาสุกุมิ
ในปี 1915 Lavrentiy สำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมจากวิทยาลัยและไปศึกษาต่อที่ Baku Secondary Construction School เขารวมการศึกษาของเขาเข้ากับการทำงานที่บริษัทน้ำมันโนเบล นักปฏิวัติในอนาคตยังจัดพรรคคอมมิวนิสต์ที่ผิดกฎหมายและจัดการลุกฮือต่อต้านกลไกของรัฐบาลจอร์เจีย เบเรียในปี 2462 กลายเป็นสถาปนิกผู้สร้างด้านเทคนิคที่ได้รับการรับรอง
ในปีพ.ศ. 2463 เขาถูกเนรเทศจากจอร์เจียไปยังอาเซอร์ไบจานเพื่อดำรงตำแหน่ง แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับมาที่บากูและทำงานด้านรักษาความปลอดภัย ที่นี่ความไร้ความปรานีและความเหนียวของเขาแสดงออกมา Lavrenty Pavlovich มุ่งความสนใจไปที่งานปาร์ตี้อย่างเต็มที่และได้พบกับผู้ที่เห็นว่าเบเรียเป็นเพื่อนสนิทและผู้ร่วมงานในเบเรีย
ในปีพ. ศ. 2474 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคนแรกของคณะกรรมการกลางจอร์เจียของพรรคและ 4 ปีต่อมา - สมาชิกของรัฐสภาและคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียต ในปี 1937 เบเรียกลายเป็นผู้นำของบอลเชวิคในอาเซอร์ไบจานและจอร์เจีย ได้รับการยอมรับจากสหายและประชาชนของเขา พวกเขาเริ่มเรียกเขาว่า "ผู้นำสตาลินผู้เป็นที่รัก"
แต่ชื่อเสียงที่แท้จริงมาสู่เขาในปี 1938: สตาลินแต่งตั้ง Lavrentiy Pavlovich หัวหน้า NKVD และเขากลายเป็นบุคคลที่สองในประเทศรองจากสตาลิน สิ่งแรกที่เขาทำคือดำเนินการปราบปรามอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกวาดล้างกลไกของรัฐบาล
ในช่วงมหาสงครามแห่งความรักชาติ ร่างดังกล่าวได้เข้าร่วมกับคณะกรรมการป้องกันประเทศของประเทศ เบเรียตัดสินใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตปืนครก อาวุธ เครื่องยนต์ เครื่องบิน และการจัดตั้งกองทหารอากาศ เมื่อการสู้รบยุติลง Lavrenty Pavlovich มีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพทางนิวเคลียร์ของประเทศและปราบปรามมวลชนอย่างต่อเนื่อง
ในปี 1946 Lavrentiy Beria กลายเป็นรองประธานสภารัฐมนตรีของสหภาพโซเวียต ในเวลาเดียวกัน สตาลินเห็นคู่แข่งของเขาประสบความสำเร็จและเริ่มตรวจสอบเอกสารของเขา หลังจากการเสียชีวิตของหัวหน้าสหภาพโซเวียต เบเรียพยายามสร้างลัทธิบุคลิกภาพของตัวเอง แต่สมาชิกของรัฐบาลได้ก่อตั้งพันธมิตรกับเขาและจัดตั้งแผนการสมรู้ร่วมคิด ผู้ริเริ่มการสมรู้ร่วมคิดคือ Lavrenty Pavlovich ถูกจับกุมในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2496 ในการประชุมของรัฐสภาในข้อหากบฏและเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองของอังกฤษ การพิจารณาคดีของคณะปฏิวัติกินเวลาตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมถึง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 ผลก็คือ Lavrenty Pavlovich ถูกตัดสินว่ามีความผิดโดยไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์หรือแก้ต่าง และถูกตัดสินประหารชีวิต
การเสียชีวิตของ Lavrentiy Beria เกิดขึ้นกับเขาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 จากการตัดสินของศาล นักเคลื่อนไหวรายนี้ถูกยิงในบังเกอร์ของสำนักงานใหญ่เขตทหารมอสโก Lavrenty Pavlovich Beria ถูกฝังที่ไหนหลังจากการตายของเขา? ร่างของเขาถูกเผาในเผาศพ Donskoy หลังจากนั้นขี้เถ้าก็ถูกฝังในสุสานใหม่ Donskoy
เบเรีย ลาฟเรนตี ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ
- น้องสาวของเขาหูหนวกและเป็นใบ้
- เขาดูแลการสร้างระเบิดปรมาณูและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยเหตุนี้ในปี 1949 เบเรียจึงได้รับรางวัลสตาลิน
- เขาแต่งงานกับนีน่า เกเกชโครี การแต่งงานครั้งนี้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อเซอร์โกในปี พ.ศ. 2467 แม้ว่าจะมีข้อมูลว่าเบเรียอาศัยอยู่กับผู้หญิงอีกคนในการสมรสกับ Lyalya Drozdova ผู้ให้กำเนิดมาร์ธาลูกสาวของเขา
- นักวิทยาศาสตร์มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าเขามีจิตใจที่ป่วยและเบเรียเป็นคนนิสัยไม่ดี ในปี 2546 มีการเผยแพร่รายชื่อที่ระบุว่า เขาข่มขืนเด็กผู้หญิงมากกว่า 750 คน
- เขาไม่เชื่อในพระเจ้า เขาไม่ได้สวมไม้กางเขน แต่เขาเชื่อเรื่องพลังจิต
- ในวันอาทิตย์เขาชอบเล่นวอลเลย์บอล
ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียต คณะรัฐมนตรีของสหภาพโซเวียต และคณะกรรมการกลางของ CPSU Georgy Malenkov ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสภารัฐมนตรีของสหภาพโซเวียต ในรายชื่อผู้แทนคนแรกของเขา เบเรียถูกกล่าวถึง "คนแรก"
สี่คนกลายเป็นรองประธานคนแรกของคณะรัฐมนตรี ในมติพวกเขาไม่ได้ตั้งชื่อตามลำดับตัวอักษร แต่ตามลำดับต่อไปนี้: Lavrentiy Beria, Vyacheslav Molotov, Nikolai Bulganin, Lazar Kaganovich มติดังกล่าวกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับ Nikita Khrushchev โดยกล่าวว่าเขาควรจะมุ่งเน้นไปที่การทำงานในสำนักเลขาธิการของคณะกรรมการกลาง CPSU
ดังนั้นในรายชื่อ "รองผู้ว่าการคนแรก" เบเรียจึงได้รับการเสนอชื่อก่อน ตามประเพณีของสหภาพโซเวียต นั่นหมายความว่าเขาเป็นบุคคลที่สองในรัฐ นอกจากนี้ยังมีการตัดสินใจที่จะรวมกระทรวงกิจการภายในของสหภาพโซเวียตและกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของสหภาพโซเวียตเข้าเป็นกระทรวงกิจการภายในแห่งเดียวของสหภาพโซเวียต Lavrenty Beria ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เมื่อรวมหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสองแห่งไว้ในมือแล้ว เขาก็รวมอำนาจไว้ในมือ เกือบจะเกินอำนาจของมาเลนคอฟเอง (โดยวิธีการนั้น เขาไม่มีประสบการณ์ในการทำงานกับรัฐบาลอิสระเลย ไม่เหมือนกับเจ้าหน้าที่คนแรกทั้งสี่คน)
ผู้เขียนจะไม่เข้าร่วมการอภิปรายเกี่ยวกับบุคลิกภาพของ Lavrentiy Beria ซึ่งเกิดขึ้นมานานหลายทศวรรษเพื่อประเมินหลักการทางศีลธรรมของเขา (ถ้ามี) เพื่อเจาะลึกถึงแรงจูงใจของการกระทำและการตัดสินใจของเขา . จากมุมมองของฉันกิจกรรมนี้ไม่มีความหมายอย่างยิ่งเนื่องจากจิตสำนึกของมวลชนในเรื่องนี้มีพื้นฐานอยู่บนตำนานหลายปี แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะโต้แย้งตำนาน
ตามตำนานที่เป็นที่ยอมรับ Lavrenty Beria เป็นตัวร้ายที่น่ากลัวที่สุดที่เคยอาศัยอยู่บนหนึ่งในหกของดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าสหภาพโซเวียต แต่นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? และเป็นเรื่องจริงหรือไม่ที่ Shvernik และ Andreev, Malenkov หรือ Bulganin ผู้ติดเหล้าผู้สง่างามเป็นนักบุญยอดนิยมเมื่อเปรียบเทียบกับเขา? เราสามารถพูดซ้ำได้บ่อยเท่าที่ใครๆ ก็ชอบว่ามาตรการพิเศษที่ไม่ธรรมดาที่เบเรียดำเนินการหลังจากการตายของสตาลินนั้นเป็นไปตามที่พวกเขาพูดกันในวันนี้ว่ามีลักษณะเป็นประชานิยม แต่ทำไมเขาถึงเป็นคนทำสิ่งเหล่านั้นและไม่ใช่ Malenkov คนเดียวกันซึ่งในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีโอกาสมากกว่าที่จะทำเช่นนั้น? ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ก็ตามก็ต้องยอมรับว่าเบเรียในฤดูใบไม้ผลิปี 2496 นั้นล้ำหน้าเขาไปหลายสิบปี
เมื่อวันที่ 4 เมษายนรายงานของ TASS ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ซึ่งประเทศที่น่าตกใจได้เรียนรู้ว่า "แพทย์นักฆ่า" ถูกจับกุมโดยไม่มีเหตุใด ๆ ว่าการสอบสวนคดีของพวกเขาเป็นการละเมิดกฎหมายโซเวียตอย่างร้ายแรงโดยใช้ " วิธีการต้องห้าม” แต่ง่ายๆ - การทรมานและการทุบตี ผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดในกรณี "ฆาตกรในชุดขาว" ได้รับการปล่อยตัวทันทีพร้อมคำขอโทษ และกลับเข้ารับตำแหน่งใหม่ในตำแหน่งงานและในพรรคหากพวกเขาเป็นสมาชิกของ CPSU (b) การรับรู้ของสาธารณชนดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อำนาจของสหภาพโซเวียตและเป็นกรณีแรกของการฟื้นฟูทางการเมืองของผู้ที่ถูกกดขี่อย่างบริสุทธิ์ใจ ในวันเดียวกันนั้น พระราชกฤษฎีกาของรัฐสภาสูงสุดแห่งสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียตได้ประกาศยกเลิกพระราชกฤษฎีกาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ลิเดีย ทีมาชูค แห่งเลนิน โจนออฟอาร์คโซเวียตผู้โชคร้ายไม่มีเวลาเข้าใจจริงๆ ในตอนแรกว่าทำไมเธอถึงได้รับรางวัลสูงสุดของมาตุภูมิของเธอ แล้วทำไมจึงถูกพรากไป
ในการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลาง CPSU ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2496 เป็นที่ชัดเจนว่าทุกคนที่เป็นผู้นำระดับสูงรวมถึง Nikita Khrushchev รู้ว่า "ธุรกิจของแพทย์" เป็นเรื่องหลอกลวง อย่างไรก็ตาม Lavrenty Beria ถูกกล่าวหาว่าเปิดเผยความอับอายนี้ต่อสาธารณะ พวกเขาบอกว่าหมอควรจะได้รับการปล่อยตัวอย่างช้าๆ
เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2496 ตามคำแนะนำของเบเรียอดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐอิกเนติเยฟถูกถอดออกจากคณะกรรมการกลาง CPSU สำหรับ "แผนการของแพทย์" ต่อมาตามคำแนะนำของครุสชอฟ เขาได้รับการคืนสถานะให้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลาง CPSU และต่อมาเขาประสบความสำเร็จในการทำงานเป็นเลขานุการคนแรกของคณะกรรมการระดับภูมิภาคตาตาร์และบัชคีร์ของ CPSU
ต่อไปเบเรียจะจัดการกับสถานการณ์การเสียชีวิตหรือการทำลายล้างมิโคเอลส์ เขาสอบปากคำอดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของสหภาพโซเวียต Abakumov เป็นการส่วนตัวรอง Ogoltsov รองคนแรกของเขารวมถึงอดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐเบลารุส Tsanava ซึ่งเดชาที่ชานเมืองมินสค์ในขณะนั้นมีการสังหาร Mikhoels และสหายของเขา . Abakumov ระบุอย่างหนักแน่นว่าเขาได้รับคำสั่งให้เลิกกิจการ Mikhoels ด้วยวาจาเป็นการส่วนตัวจากสตาลิน และไม่มีใครใน MGB ยกเว้นเขาและผู้ดำเนินการโดยตรงของปฏิบัติการรู้เรื่องนี้
เบเรียส่งจดหมายถึงประธานคณะรัฐมนตรีของสหภาพโซเวียตมาเลนคอฟโดยเรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมในการฆาตกรรมสองครั้งปราศจากรางวัลจากรัฐบาลและถูกนำตัวเข้าสู่การพิจารณาคดี การกระทำนี้ไม่สามารถเรียกว่าประชานิยมได้เนื่องจากจดหมายฉบับนี้เป็นความลับและเผยแพร่เพียงหลายทศวรรษต่อมา ในทำนองเดียวกันคำสั่งของเบเรียซึ่งห้ามการใช้มาตรการบังคับทางกายภาพกับผู้ถูกจับกุมอย่างเด็ดขาดไม่ถือเป็นประชานิยม คำสั่งเช่นเดียวกับจดหมายถึงมาเลนคอฟก็เป็นความลับเช่นกัน
ประเด็นหนึ่งของคำสั่งนี้เป็นที่น่าสังเกต: “ เพื่อชำระบัญชีใน Lefortovo และเรือนจำภายในสถานที่ซึ่งจัดโดยผู้นำของอดีต MGB ของสหภาพโซเวียตเพื่อใช้มาตรการทางกายภาพกับผู้ถูกจับกุมและเพื่อทำลายเครื่องมือทั้งหมดที่ใช้ในการทรมาน ออก."
นี่เป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียวของการมีอยู่ของห้องทรมานและอุปกรณ์ทรมานในเรือนจำ ยังไม่พบคำสั่งให้จัดห้องพิเศษสำหรับการทรมาน
ในส่วนของนักฆ่าของ Mikhoels คำสั่งของพวกเขาถูกยึดไป แต่ไม่มีใครเข้ารับการพิจารณาคดี “ หกคนที่งดงาม” ได้รับการช่วยเหลือจากการจับกุมเบเรีย
ต่อมา Tsanava ถูกจับกุม แต่... ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดของ Beria! ในปี 1955 เขาเสียชีวิตในคุกก่อนการพิจารณาคดี Ogoltsov ถูกจับกุมในเดือนเมษายน พ.ศ. 2496 เนื่องจากมีส่วนร่วมในการฆาตกรรม Mikhoels แต่ได้รับการปล่อยตัวในเดือนสิงหาคม ในปี 19564 เขาถูกไล่ออกจากหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ถูกไล่ออกจากพรรค และในปี 1959 เขาถูกปลดจากยศทหาร
ตามคำร้องขอของเบเรีย Alexander Novikov, Alexey Shakhurin และคนอื่น ๆ ที่ถูกอดกลั้นใน "คดีนักบิน" ได้รับการปล่อยตัวจากคุก พักฟื้น และกลับคืนสู่สถานะเดิม เมื่อถึงเวลานั้น การสอบสวนดำเนินไปเป็นเวลา 15 เดือนแล้ว แต่ไม่มีผู้ถูกจับกุมคนใดให้การรับสารภาพ ตามคำสั่งลับของเบเรียลงวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2496 การสอบสวนพวกเขาสิ้นสุดลงผู้ถูกกล่าวหาได้รับการปล่อยตัวจากการควบคุมตัวและคืนสู่สิทธิทั้งหมด
ใช่เบเรียเป็นนักปฏิบัติที่โหดร้ายและเหยียดหยามมีความสามารถในการกระทำที่มีเกียรติและไร้มนุษยธรรมที่สุดอย่างเท่าเทียมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา นั่นคือธรรมเนียมในสภาพแวดล้อมของเขา ในแง่นี้เขาไม่ได้ดีไปกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าผู้นำคนอื่นๆ ในแวดวงสตาลิน แต่เขาฉลาดกว่าพวกเขาและมองการณ์ไกลกว่า สิ่งนี้ทำให้เขาพังในที่สุด มีสุภาษิตว่า “มันตีหัวตะปูที่ยื่นออกมา” พวกเขาจึงตีเขา ไม่ใช่เลยเพราะเบเรียกำลังเตรียมการสมคบคิดเพื่อยึดอำนาจ - นั่นเป็นเรื่องโกหก เบเรียเข้าใจดีว่าจอร์เจียคนที่สองจะไม่เป็นผู้นำหลักในสหภาพโซเวียตและเขาในฐานะ "เจ้าหน้าที่คนแรก" คนแรกและยังเป็นรัฐมนตรีก็มีอำนาจที่แท้จริงเพียงพอ ไม่ พวกเขาทั้งหมด Malenkov, Molotov, Voroshilov และแม้แต่ผู้แจ้งเบาะแสของสตาลินในอนาคตครุสชอฟต่างก็กลัวผิวของตัวเอง เมื่อทิ้งเบเรียไปแล้วใคร ๆ ก็สามารถถือว่าบาปของเขาเองและความผิดจำนวนมากเกิดขึ้นกับเขา ใช่แน่นอนว่าไม่มีใครเป็นหัวหน้าตำรวจการเมืองในช่วงชีวิตของสตาลินไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่ผู้นำแต่ละคนมีเลือดอยู่ในมือไม่น้อยไปกว่าเบเรีย และเมื่อพูดถึงบริการเฉพาะของรัฐ ก็ไม่มีข้อสงสัยในการเปรียบเทียบ ท้ายที่สุดเบเรียเป็นหัวหน้า "โครงการปรมาณู" ของสหภาพโซเวียตและรับรองการสร้าง "โล่ปรมาณู" ในเวลาอันสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่นที่ทำงานเกี่ยวกับปัญหานี้ไม่เคยถูกปฏิเสธในช่วงหลายปีที่ผ่านมา .
และทั้งความฉลาดและการต่อต้านข่าวกรองเมื่อพวกเขานำโดยเบเรียไม่ได้มีส่วนร่วมในการระบุผู้จัดจำหน่ายเรื่องตลกต่อต้านโซเวียตเท่านั้น
สำหรับผู้เขียนดูเหมือนว่าในวันรุ่งขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของสตาลิน ทายาทของเขาได้ตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงในวิถีทางการเมือง การชำระหนี้ในบางรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบที่อ่อนโยนที่สุด ของลัทธิบุคลิกภาพของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และดังนั้นไม่ช้าก็เร็วปัญหา การปราบปรามก่อนสงครามและหลังสงครามจะเกิดขึ้น และจะต้องมีคนตอบแทนพวกเขา และผู้ที่เป็นคนแรกที่ออกเสียง "a" ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้จะกลายเป็นคนแรก แน่นอนว่าไม่เหมือนกับผู้นำที่เสียชีวิต แต่ก็ยังดีกว่าคนอื่นๆ
จากนั้นทายาทที่หวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดก็สร้างความเชื่อมั่นว่าเบเรียอยากจะเป็นคนแรกในคนแรกอย่างแน่นอน เพราะเขา (ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นจริง) มีโอกาสทำสิ่งนี้มากกว่า Malenkov, Bulganin, Khrushchev, Molotov, Voroshilov, Kaganovich คนเดียวกัน... ท้ายที่สุด Beria มีชื่อเสียงในฐานะชายผู้หยุดยั้ง Yezhovshchina ผู้ปลดปล่อยสิ่งดีๆ สามล้านคนอย่างบริสุทธิ์ใจก่อนที่สงครามจะคลี่คลาย ตัวอย่างเช่น โมโลตอฟและคาลินินไม่กล้ายืนหยัดเพื่อภรรยาของตัวเอง คากาโนวิชไม่กล้ายืนหยัดเพื่อน้องชายของเขา...
ไม่จำเป็นต้องพูดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการรัฐประหารที่ถูกกล่าวหาว่าวางแผนโดยเบเรีย โดยตรงในมอสโกมีเพียงกองทหารภายใน Dzerzhinsky และกรมทหารเครมลินเท่านั้นที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ในขณะเดียวกันหน่วยงาน Tamanskaya และ Kantemirovskaya ที่มีชื่อเสียงนั้นประจำการอยู่ในเมืองในเมืองหลวงมีสถาบันการทหารและโรงเรียนสองโหลซึ่งตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่มีปัญหาในการปิดกั้นแผนกเดียวกันที่ตั้งชื่อตาม Dzerzhinsky
แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอาวุธที่น่ากลัวกว่านั้นมาก: เอกสารลับและความลับสุดยอดรายชื่อผู้ถูกตัดสินให้ปราบปราม "หมวดแรก" โดยมีมติไม่เพียง แต่ของสตาลินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโมโลตอฟ, โวโรชิลอฟ, ครุสชอฟและ คนอื่น. นี่เพียงพอแล้วสำหรับทายาทของสตาลินที่จะรวมอาวุธต่อสู้กับหนึ่งในพวกเขาเองและทรยศต่อเขาเพื่อรักษาตำแหน่งและชื่อเสียงของพวกเขา เบเรียไม่ได้ถึงวาระอีกต่อไปเมื่อครุสชอฟยืนยันผู้นำเริ่มตระหนักถึง "แผนการสมรู้ร่วมคิดของศัตรูของประชาชนและสายลับอังกฤษเบเรีย" แต่จากวันเดือนมีนาคมนั้นเมื่อพวกเขาแต่งตั้งเขาให้เป็นหนึ่งในรองประธานคนแรก ของคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของสหภาพโซเวียต มีการสมรู้ร่วมคิดกันจริงๆ แต่นำโดยครุสชอฟและมาเลนคอฟไม่ใช่เบเรีย
มาตรการที่กระตือรือร้นที่เบเรียใช้เพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในประเทศเพียงเร่งการสมรู้ร่วมคิดของครุสชอฟ - มาเลนคอฟเท่านั้น
เบเรียเป็นผู้ริเริ่มการนิรโทษกรรมอันโด่งดัง เมื่อมีนักโทษ 2,256,402 คนที่ถูกคุมขังในค่ายและเรือนจำ มีผู้ได้รับการปล่อยตัว 1,203,421 คน ต่อจากนั้น เพื่อลดความรู้สึกประทับใจของขั้นตอนที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ เจ้าหน้าที่จึงเผยแพร่ข่าวลือว่าเบเรียได้ปล่อยตัวฆาตกร โจร และผู้ข่มขืนหลายพันคนอย่างประสงค์ร้าย มันเป็นเรื่องโกหก คุณสามารถตรวจสอบสิ่งนี้ได้โดยไปที่ห้องสมุดแห่งใดก็ได้และอ่านพระราชกฤษฎีกานิรโทษกรรมฉบับเดียวกันด้วยตาของคุณเอง
ในความเป็นจริง ภายใต้การนิรโทษกรรม ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ผู้ต้องโทษฐานก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจและราชการ สตรีมีครรภ์และสตรีที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 10 ปี และผู้ป่วยได้รับการปล่อยตัว แน่นอนว่ามีความผิดทางอาญาเพิ่มขึ้นชั่วคราว แต่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็ระงับอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันเบเรียเสนอให้ย้ายค่ายจากเขตอำนาจของกระทรวงกิจการภายในไปยังกระทรวงยุติธรรม มาตรการนี้ถูกนำมาใช้ในรัสเซียเพียงสี่สิบห้าปีต่อมา! เบเรียยังเสนอให้โอนสถานที่ก่อสร้าง สถานประกอบการ และ "ชาราชกา" ของกระทรวงกิจการภายในทั้งหมดไปยังเขตอำนาจศาลของแผนกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
ต่อจากนั้น เบเรียจะถูกกล่าวหาว่าเรียกตัวไปยังมอสโกหลายสิบคน (บางครั้งพวกเขากล่าวว่าหลายร้อย) ของหน่วยข่าวกรองโซเวียตและที่ปรึกษาหน่วยงานความมั่นคงของรัฐในประเทศต่างๆ ดังที่พวกเขาถูกเรียกว่า "ประชาธิปไตยของประชาชน" ดังนั้นจึงทำให้กิจกรรมของหน่วยข่าวกรองเครมลินไม่เป็นระเบียบ บริการ. ในความเป็นจริง เบเรียใช้มาตรการเพื่อกำจัดข้อบกพร่องของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศและเสริมความแข็งแกร่งให้กับบุคลากร โดยหลักๆ คือการจัดการ เบเรียถือว่าเครื่องมือที่ปรึกษาส่วนใหญ่ในค่าย "ประชาธิปไตยของประชาชน" นั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสมที่ได้รับมอบหมาย หากเพียงด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่แทบไม่มีที่ปรึกษาสักคนเดียวที่รู้ภาษา ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี หรือความคิดของผู้คนในประเทศที่เขาทำงานอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาหลายคนประพฤติตนไม่สุภาพต่อคนงานในท้องถิ่นโดยสิ้นเชิง โดยไม่ได้ "ให้คำแนะนำ" อย่างเปิดเผยมากนัก โดยไม่คำนึงถึงความภาคภูมิใจของแม้แต่รัฐมนตรีและเลขานุการของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ พวกเขาสั่ง
ในการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลาง CPSU ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2496 ซึ่งจัดขึ้นทันทีหลังจากการจับกุมเบเรียและ - ซึ่งเป็นการละเมิดกฎบัตรพรรค - ในกรณีที่เขาไม่อยู่อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อสาเหตุของลัทธิสังคมนิยมเพื่อลดจำนวน เครื่องมือรักษาความปลอดภัยใน GDR เจ็ดครั้งซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้เกิดการจลาจลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2496
ในความเป็นจริงการลุกฮือครั้งใหญ่ของคนงานใน GDR ซึ่งถูกระงับโดยการแทรกแซงของกองกำลังยึดครองโซเวียตเท่านั้นเกิดขึ้นเนื่องจากนโยบายที่งุ่มง่ามของการเป็นผู้นำของสาธารณรัฐซึ่งตั้งเป้าหมายในการเร่งสร้างลัทธิสังคมนิยมในเยอรมนีตะวันออก . นโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหภาพโซเวียตทั้งภายใต้สตาลินและมาเลนคอฟ ด้วยเหตุผลนี้ ไม่ใช่เพราะการลดอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ทำให้ผู้อยู่อาศัยใน GDR และเบอร์ลินตะวันออกหลายแสนคนละทิ้งบ้านและทรัพย์สินของตนทุกปีและหนีไปทางตะวันตก
เบเรียรู้ว่าจะต้องมีเหตุผลและรับทราบข้อมูลได้ดีกว่าเพื่อนร่วมงานของเขาใน Politburo (รัฐสภา) ของคณะกรรมการกลาง CPSU เกี่ยวกับชีวิตจริงในสหภาพโซเวียตและต่างประเทศ เบเรียพิจารณาการจัดเก็บภาษีเทียมของลัทธิสังคมนิยมในเยอรมนีตะวันออกและโดยทั่วไปแล้วทฤษฎีเดียวกัน ของสองรัฐในเยอรมนี ซึ่งเป็นกิจการที่ไร้เหตุผล เขาเชื่อว่าการรับประกันที่ดีที่สุดในการรักษาสันติภาพที่เชื่อถือได้ในยุโรปไม่ใช่การเผชิญหน้าระหว่าง GDR และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี แต่เป็นการมีอยู่ของรัฐเยอรมันที่มีประชาธิปไตยเพียงแห่งเดียว ปลอดทหาร แม้ว่าจะเป็นทุนนิยมก็ตาม
ดังที่เราทราบ การรวมเยอรมนีไม่ได้เกิดขึ้นในขณะนั้น แต่เป็นเพราะความผิดของทั้งสหภาพโซเวียตและมหาอำนาจตะวันตก ฟิวส์ของถังแป้งในรูปแบบของสองรัฐเยอรมันและเบอร์ลินสองแห่งที่คุกรุ่นอยู่ใจกลางยุโรปเป็นเวลาเกือบสี่สิบปี
เบเรียในเวลาเดียวกันได้แสดงความคิดนอกรีตอีกประการหนึ่งซึ่งครุสชอฟผู้โค่นล้มเขานำไปปฏิบัติในสามปีต่อมาโดยถูกกล่าวหาว่าเป็นความคิดริเริ่มของเขาเอง: เขาคิดว่าจำเป็นต้องฟื้นฟูความสัมพันธ์ตามปกติกับยูโกสลาเวีย
แต่ทูตของเบเรียไปยังติโตไม่สามารถไปถึงเบลเกรดได้ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2496 Lavrentiy Beria ถูกจับกุม ตามมาด้วยการจับกุมหรือไล่นายพลและเจ้าหน้าที่อาวุโสจำนวนมากจากกระทรวงกิจการภายใน ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่
เมื่อวันที่ 16-23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 ในมอสโกภายใต้ตำแหน่งประธานของจอมพลอีวานโคเนฟมีการพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตเพื่อพิจารณาคดีของ Lavrenty Beria, Bogdan Kobulov, Vsevolod Merkulov, Vladimir Dekanozov พาเวล เมชิค, เลฟ วลอดซิเมียร์สกี้ และเซอร์เกย์ โกกลิดเซ
ในบรรดาอาชญากรรมที่ถูกกล่าวหาต่อจำเลย ได้แก่ การทรยศและการจารกรรมเพื่อให้บริการข่าวกรองของมหาอำนาจจักรวรรดินิยม ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจทำให้เกิดความสับสนในหมู่ทหารผ่านศึกและหน่วยข่าวกรองที่มีความรู้ความเข้าใจว่าจารกรรมคืออะไร...
อย่างไรก็ตาม จำเลยถูกตัดสินว่ามีความผิดหลายคดีและถูกตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต
"กระทำ
2496 23 ธันวาคม.
ในวันนี้ เวลา 19:50 น. ตามคำสั่งของประธานการพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียต ลงวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 หมายเลข 003 โดยฉันซึ่งเป็นผู้บัญชาการของการพิจารณาคดีพิเศษ พันเอก - นายพล Batitsky P.F. ต่อหน้าอัยการสูงสุดแห่งสหภาพโซเวียตที่ปรึกษาที่แท้จริงของรัฐ Rudenko R.A. และกองทัพบก Moskalenko K.S. การประหารชีวิต Lavrenty Pavlovich Beria”
การกระทำดังกล่าวจะถูกปิดผนึกด้วยลายเซ็นของบุคคลทั้งสามที่มีชื่อ
การกระทำอื่น:
“ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการภายในของสหายสหภาพโซเวียต Lunev รอง สหายอัยการทหารบก. Kitaev ต่อหน้าพันเอกสหายทั่วไป Hetman, พลโท Bakeev และพลตรี Sopilnik ดำเนินการพิพากษาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตลงวันที่ 23 ธันวาคม 2496 เหนือผู้ถูกตัดสิน:
โคบูลอฟ บ็อกดาน ซาคารีเยวิช เกิดในปี 1904
แมร์คูลอฟ วเซโวลอด นิโคลาวิช เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2438
เดคานอซอฟ วลาดิมีร์ จอร์จีวิช เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2441
เมชิก พาเวล ยาโคฟเลวิช เกิดในปี 1910
วลอดซิเมียร์สกี้ เลฟ เอเมลยาโนวิช เกิดในปี 1902
Goglizde Sergei Arsentievich เกิดในปี 1901 -
ถึงโทษประหารชีวิต - การประหารชีวิต
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 นักโทษดังกล่าวถูกยิง” แพทย์ยืนยันการเสียชีวิต (ลายเซ็น)
หอจดหมายเหตุของ FSB มีใบรับรองนับหมื่นใบจากหน่วยงานพิเศษเกี่ยวกับการประหารชีวิต ไม่มีใครเอ่ยชื่อนักแสดงเลย พวกเขาจัดอยู่ในประเภทบุคคล พวกเขาสามารถระบุเป็นใครก็ได้ในเจ้าหน้าที่ NKVD: คนขับรถ ผู้คุม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
การกระทำทั้งสองนี้เป็นข้อยกเว้นเท่านั้น ผู้ประหารชีวิตจะต้องระบุชื่อทั้งตามนามสกุลและตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2496 โดยพระราชกฤษฎีกาของรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียต การประชุมพิเศษภายใต้กระทรวงกิจการภายในของสหภาพโซเวียตถูกยกเลิก ในที่สุด ร่างวิสามัญการประหารชีวิตซึ่งน่าละอายสำหรับประเทศที่ถือว่าตัวเองเป็นรัฐที่มีอารยธรรมก็ถูกกำจัดออกไป
ในไม่ช้าผู้นำระดับสูงของประเทศก็สรุปได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมอบความไว้วางใจให้ผู้นำของทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐและกิจการภายในอยู่ในมือเดียวกัน ตามที่ผู้เขียนกล่าวไว้ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้ถูกกำหนดโดยผลประโยชน์ของคดีมากนักเท่ากับด้วยความกลัว ความกลัวทั่วไปคือหากพระเจ้าห้ามไม่ให้สัตว์ประหลาดสองหัวเช่นนี้อยู่ในการกำจัดของ Yezhov ตัวใหม่ที่มีความทะเยอทะยานของประมุขของประเทศผู้มีอำนาจจำนวนมากจะไม่สามารถตัดหัวของพวกเขาออกได้
Beria Lavrentiy Pavlovich - รองประธานสภาผู้บังคับการตำรวจ (SNK) ของสหภาพโซเวียต, สมาชิกของคณะกรรมการป้องกันประเทศ (GKO), ผู้บังคับการตำรวจของกิจการภายในของสหภาพโซเวียต, กรรมาธิการทั่วไปด้านความมั่นคงแห่งรัฐ
เกิดเมื่อวันที่ 16 (29) มีนาคม พ.ศ. 2442 ในหมู่บ้าน Merkheuli อำเภอ Sukhumi จังหวัด Tiflis ปัจจุบันเป็นสาธารณรัฐ Abkhazia (จอร์เจีย) ในครอบครัวชาวนา จอร์เจีย พ.ศ. 2458 ทรงสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมจากโรงเรียนประถมศึกษาสุขุมิ ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2458 เขาศึกษาที่โรงเรียนเทคนิคมัธยมศึกษาเครื่องกลและการก่อสร้างบากู ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2458 เขาได้จัดตั้งกลุ่มลัทธิมาร์กซิสต์ผิดกฎหมายที่โรงเรียนร่วมกับกลุ่มสหาย สมาชิกของ RSDLP(b)/RCP(b)/VKP(b)/CPSU ตั้งแต่เดือนมีนาคม 1917 จัดห้องขังของ RSDLP(b) ที่โรงเรียน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2457-2461 ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2460 ในฐานะผู้ฝึกหัดช่างเทคนิคที่โรงเรียนวิศวกรรมชลศาสตร์ของกองทัพบก เขาถูกส่งไปยังแนวรบโรมาเนีย ซึ่งเขาปฏิบัติงานทางการเมืองของบอลเชวิคอย่างแข็งขันในหมู่กองทหาร ในตอนท้ายของปี 1917 เขากลับไปที่บากูและในขณะที่ศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคได้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมขององค์กรบอลเชวิคบากู
ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2462 จนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2463 นั่นคือก่อนการสถาปนาอำนาจของสหภาพโซเวียตในอาเซอร์ไบจาน เขาได้เป็นผู้นำองค์กรช่างเทคนิคคอมมิวนิสต์ที่ผิดกฎหมาย และในนามของคณะกรรมการพรรคบากู ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เซลล์บอลเชวิคจำนวนหนึ่ง ในปี 1919 Lavrentiy Beria สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเทคนิคโดยได้รับประกาศนียบัตรในฐานะผู้สร้างสถาปนิกด้านเทคนิค
ในปี พ.ศ. 2461-2563 เขาทำงานในสำนักเลขาธิการสภาบากู ในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2463 ผู้บัญชาการแผนกทะเบียนของแนวรบคอเคเชียนที่สภาทหารปฏิวัติแห่งกองทัพที่ 11 จากนั้นถูกส่งไปทำงานใต้ดินในจอร์เจีย ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2463 เขาถูกจับกุมและคุมขังในเรือนจำ Kutaisi แต่ตามคำร้องขอของตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของสหภาพโซเวียต S.M. Kirov Lavrentiy Beria ได้รับการปล่อยตัวและเนรเทศไปยังอาเซอร์ไบจาน เมื่อกลับมาที่บากูเขาเข้าสถาบันโพลีเทคนิคบากูเพื่อศึกษา (ซึ่งเขายังเรียนไม่จบ)
ในเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม พ.ศ. 2463 Beria L.P. - ผู้จัดการกิจการของคณะกรรมการกลาง (คณะกรรมการกลาง) ของพรรคคอมมิวนิสต์ (บอลเชวิค) แห่งอาเซอร์ไบจาน ตั้งแต่ตุลาคม 2463 ถึงกุมภาพันธ์ 2464 - เลขาธิการบริหารของคณะกรรมาธิการวิสามัญ (Cheka) สำหรับบากู
ในหน่วยงานข่าวกรองและต่อต้านข่าวกรองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2464 เขาทำงานเป็นรองหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับของอาเซอร์ไบจานเชกา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2464 ถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2465 - หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับรองประธานของอาเซอร์ไบจานเชกา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2465 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2469 - รองประธานของ Georgian Cheka หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับ ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2469 ถึง 2 ธันวาคม พ.ศ. 2469 - รองประธานคณะกรรมการการเมืองหลัก (GPU) ของจอร์เจีย SSR หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2469 ถึง 17 เมษายน พ.ศ. 2474 - รองผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มของ OGPU ในสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตทรานคอเคเชียน (ZSFSR) รองประธานของ Transcaucasian GPU; ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2469 ถึง 17 เมษายน พ.ศ. 2474 - หัวหน้าแผนกปฏิบัติการลับของสำนักงานตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของ OGPU ใน Trans-SFSR และ GPU Transcaucasian
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2469 ลพ. เบเรียได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน GPU ของ Georgian SSR และรองประธาน GPU ของ ZSFSR ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนถึง 3 ธันวาคม พ.ศ. 2474 - หัวหน้าแผนกพิเศษของ OGPU ของกองทัพธงแดงคอเคเชียนประธาน GPU Transcaucasian และตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของ OGPU ของสหภาพโซเวียตใน Trans-SFSR ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมถึงธันวาคม เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2474 สมาชิกของคณะกรรมการ OGPU แห่งสหภาพโซเวียต
ในปีพ.ศ. 2474 คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพบอลเชวิคทั้งหมดได้เปิดเผยข้อผิดพลาดทางการเมืองและการบิดเบือนอย่างร้ายแรงที่กระทำโดยผู้นำขององค์กรพรรคในทรานคอเคเซีย ในการตัดสินใจเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2474 ตามรายงานของคณะกรรมการภูมิภาคทรานคอเคเชียนของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพทั้งหมดแห่งบอลเชวิค คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์บอลเชวิคแห่งจอร์เจีย คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งบอลเชวิคแห่ง อาเซอร์ไบจานและคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งบอลเชวิคแห่งอาร์เมเนียคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพทั้งหมดแห่งบอลเชวิคได้กำหนดภารกิจสำหรับองค์กรพรรค Transcaucasia การแก้ไขการบิดเบือนทางการเมืองในการทำงานในชนบททันทีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง ความคิดริเริ่มและความริเริ่มของสาธารณรัฐแห่งชาติที่เป็นส่วนหนึ่งของ TSFSR ในเวลาเดียวกันองค์กรพรรคของ Transcaucasia จำเป็นต้องยุติการต่อสู้ที่ไร้หลักการเพื่ออิทธิพลของบุคคลที่สังเกตได้ในกลุ่มผู้นำของทั้งสหพันธ์ทรานคอเคเซียนและสาธารณรัฐที่รวมอยู่ในนั้นและเพื่อให้บรรลุความแข็งแกร่งที่จำเป็นและบอลเชวิค ความสามัคคีของอันดับพรรค ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ All-Union แห่งบอลเชวิค L.P. เบเรียถูกย้ายไปทำงานพรรคชั้นนำ ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2474 ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2481 เขาเป็นเลขาธิการคนที่ 1 ของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งจอร์เจีย (บอลเชวิค) และในเวลาเดียวกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2474 ที่ 2 และในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2475 - เมษายน พ.ศ. 2480 - เลขาธิการคนที่ 1 ของภูมิภาคทรานคอเคเซียน คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพบอลเชวิค (บอลเชวิค)
ชื่อของ Lavrentiy Beria กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางหลังจากการตีพิมพ์หนังสือของเขาเรื่อง "On the Question of the History of the Bolshevik Organisations of Transcaucasia" ในฤดูร้อนปี 2476 เมื่อ I.V. ซึ่งกำลังไปพักผ่อนที่อับคาเซีย มีการพยายามลอบสังหารสตาลิน เบเรียเอาร่างของเขาคลุมเขาไว้ (มือสังหารถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุ และเรื่องราวนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยทั้งหมด)...
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 ล.พ. เบเรียเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ All-Union แห่งบอลเชวิค ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2480 ที่การประชุมครั้งที่ 10 ของพรรคคอมมิวนิสต์ (บอลเชวิค) แห่งจอร์เจีย เขาประกาศจากแท่นว่า “ให้ศัตรูรู้ว่าใครก็ตามที่พยายามยกมือขึ้นต่อต้านเจตจำนงของประชาชนของเรา ต่อต้านเจตจำนงของเลนิน - พรรคสตาลิน จะถูกบดขยี้และทำลายล้างอย่างไร้ความปราณี”
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2481 เบเรียได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้บังคับการตำรวจคนที่ 1 ของกิจการภายในของสหภาพโซเวียตและตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2481 เขาได้เป็นหัวหน้าผู้อำนวยการหลักด้านความมั่นคงแห่งรัฐ (GUGB) ของ NKVD แห่งสหภาพโซเวียตพร้อมกัน 11 กันยายน 2481 ลพ. เบเรียได้รับรางวัล "ผู้บัญชาการความมั่นคงแห่งรัฐอันดับ 1"
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 เบเรียถูกแทนที่โดย N.I. Yezhov เป็นผู้บังคับการประชาชนของกิจการภายในของสหภาพโซเวียต โดยยังคงเป็นผู้นำโดยตรงของ GUGB NKVD ของสหภาพโซเวียต แต่เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2481 เขาได้แต่งตั้งรองผู้อำนวยการ V.N. เมอร์คูโลวา
ผู้บัญชาการความมั่นคงแห่งรัฐอันดับ 1 เบเรียแอล. พี. ต่ออายุเครื่องมือสูงสุดของ NKVD ของสหภาพโซเวียตเกือบทั้งหมดเกือบทั้งหมด เขาดำเนินการปล่อยตัวผู้ที่ถูกตัดสินอย่างมิชอบบางส่วนออกจากค่าย: ในปี พ.ศ. 2482 มีการปล่อยตัวผู้คน 223.6 พันคนออกจากค่ายและ 103.8 พันคนจากอาณานิคม ด้วยคำยืนกรานของ L.P. เบเรียขยายสิทธิของการประชุมพิเศษภายใต้ผู้บังคับการตำรวจของกิจการภายในของสหภาพโซเวียตในการออกคำตัดสินวิสามัญฆาตกรรม
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2482 เบเรียได้เข้าเป็นสมาชิกผู้สมัครและในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2489 เท่านั้น - เป็นสมาชิกของ Politburo (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 - รัฐสภา) ของคณะกรรมการกลางของ CPSU (b) / CPSU ดังนั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 เท่านั้นที่เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ L.P. เบเรียในการตัดสินใจทางการเมือง
30 มกราคม 2484 ถึงผู้บังคับการความมั่นคงแห่งรัฐอันดับ 1 เบเรียแอล. พี. พระราชทานตำแหน่ง “อธิบดีกรมความมั่นคงแห่งรัฐ”
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484 เบเรียโดยไม่ออกจากตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจของกิจการภายในของสหภาพโซเวียตกลายเป็นรองประธานสภาผู้บังคับการตำรวจ (จาก พ.ศ. 2489 - คณะรัฐมนตรี) ของสหภาพโซเวียต แต่ในเวลาเดียวกัน หน่วยงานความมั่นคงแห่งรัฐถูกถอดออกจากการอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา โดยจัดตั้งคณะกรรมาธิการประชาชนอิสระ
ด้วยจุดเริ่มต้นของมหาสงครามแห่งความรักชาติ NKVD ของสหภาพโซเวียตและ NKGB ของสหภาพโซเวียตได้รวมตัวกันอีกครั้งภายใต้การนำของผู้บัญชาการทั่วไปแห่งความมั่นคงแห่งรัฐ L.P. เบเรีย
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2484 Lavrentiy Beria ได้เข้าเป็นสมาชิกของคณะกรรมการป้องกันรัฐ (GKO) และตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมถึงกันยายน พ.ศ. 2487 เขายังดำรงตำแหน่งรองประธานของ GKO อีกด้วย ผ่านคณะกรรมการป้องกันรัฐ เบเรียได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพทั้งหมดแห่งบอลเชวิคทั้งเพื่อการจัดการเศรษฐกิจสังคมนิยมทางด้านหลังและด้านหน้า ได้แก่ การควบคุมการผลิต อาวุธ กระสุน และปืนครก รวมถึง (ร่วมกับ G.M. Malenkov) สำหรับการผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์ของเครื่องบิน
คุณโดยคณะกรรมการบริหารคาซัคสถานแห่งสหภาพโซเวียตสูงสุดแห่งสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2486 สำหรับบริการพิเศษในด้านการเสริมสร้างการผลิตอาวุธและกระสุนในสภาวะสงครามที่ยากลำบากผู้บัญชาการทั่วไปแห่งความมั่นคงแห่งรัฐ Lavrenty Pavlovich Beria ได้รับรางวัลชื่อฮีโร่ ของแรงงานสังคมนิยมพร้อมการนำเสนอเหรียญทอง Order of Lenin และค้อนและเคียว ( หมายเลข 80)
10 มีนาคม 2487 ลพ. เบเรียแนะนำ I.V. สตาลินได้รับบันทึกพร้อมข้อเสนอให้ขับไล่พวกตาตาร์ออกจากดินแดนไครเมีย ต่อมาเขาได้ให้การจัดการทั่วไปเกี่ยวกับการขับไล่เชเชน, อินกูช, ตาตาร์, ชาวเยอรมัน ฯลฯ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2487 เขาได้รับมอบหมายให้ “ดูแลการพัฒนางานยูเรเนียม”; ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ถึงมีนาคม พ.ศ. 2496 - ประธานคณะกรรมการพิเศษภายใต้คณะกรรมการป้องกันประเทศ (ต่อมาอยู่ภายใต้สภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีของสหภาพโซเวียต)
ตามคำสั่งของรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียตลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 Lavrentiy Pavlovich Beria ได้รับรางวัลยศทหารสูงสุด "จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต" ด้วยการนำเสนอใบรับรองพิเศษของรัฐสภาของศาลฎีกาโซเวียตแห่ง สหภาพโซเวียตและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ "จอมพลสตาร์"
หลังจากสิ้นสุดสงครามในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2488 เบเรียออกจากตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจของกิจการภายในของสหภาพโซเวียตและย้ายไปที่ S.N. ครูลอฟ ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2489 ถึงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2496 เบเรียเป็นรองประธานคณะรัฐมนตรีของสหภาพโซเวียต
ในฐานะหัวหน้าแผนกวิทยาศาสตร์การทหารของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ All-Union แห่งบอลเชวิค/CPSU, L.P. เบเรียดูแลพื้นที่ที่สำคัญที่สุดของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของสหภาพโซเวียต รวมถึงโครงการนิวเคลียร์และวิทยาศาสตร์จรวด การสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ TU-4 และปืนถัง LB-1 ภายใต้การนำของเขาและด้วยการมีส่วนร่วมโดยตรงของเขา ระเบิดปรมาณูลูกแรกในสหภาพโซเวียตได้ถูกสร้างขึ้น ทดสอบเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2492 หลังจากนั้นบางคนก็เริ่มเรียกเขาว่า "บิดาแห่งระเบิดปรมาณูโซเวียต"
หลังจากการประชุม CPSU ครั้งที่ 19 ตามคำแนะนำของ I.V. สตาลินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภาของคณะกรรมการกลาง CPSU ได้มีการสร้าง "ผู้นำห้า" ซึ่งรวมถึง L.P. เบเรีย. หลังจากการเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2496 I.V. สตาลิน ลาฟเรนตี เบเรีย เป็นผู้นำในลำดับชั้นของพรรคโซเวียต โดยมุ่งเน้นไปที่ตำแหน่งรองประธานกรรมการคนที่ 1 ของคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำกระทรวงกิจการภายในแห่งใหม่ของสหภาพโซเวียต ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันแห่งการเสียชีวิตของสตาลินโดยการรวมกระทรวงเดิมและกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐเข้าด้วยกัน
ตามความคิดริเริ่มของจอมพลแห่งสหภาพโซเวียต Beria L.P. เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 มีการประกาศนิรโทษกรรมในสหภาพโซเวียตซึ่งปล่อยตัวผู้คนหนึ่งล้านสองแสนคน คดีที่มีชื่อเสียงหลายคดีถูกปิด (รวมถึง "คดีของแพทย์") และคดีสืบสวนที่เกี่ยวข้องกับคนสี่แสนคนถูกปิด .
เบเรียสนับสนุนการลดการใช้จ่ายทางทหารและแช่แข็งโครงการก่อสร้างราคาแพง (รวมถึงคลองเติร์กเมนหลักและคลองโวลก้า-บอลติก) เขาเริ่มต้นการเจรจาสงบศึกในเกาหลีได้สำเร็จ พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันมิตรกับยูโกสลาเวีย ต่อต้านการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมัน โดยเสนอแนวทางสู่การรวมเยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีตะวันออกให้เป็น "รัฐชนชั้นกลางที่รักสันติภาพ" เขาลดเครื่องมือรักษาความปลอดภัยของรัฐในต่างประเทศลงอย่างมาก
ดำเนินนโยบายส่งเสริมบุคลากรระดับชาติ เบเรียส่งเอกสารไปยังคณะกรรมการกลางพรรครีพับลิกันซึ่งพูดถึงนโยบาย Russification ที่ไม่ถูกต้องและการปราบปรามที่ผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2496 ในการประชุมของรัฐสภาของคณะกรรมการกลาง CPSU จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต Beria L.P. ถูกจับ...
ตามคำสั่งของรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียตเขาถูกถอดออกจากตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ของคณะรัฐมนตรีของสหภาพโซเวียตและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของสหภาพโซเวียตโดยปราศจากตำแหน่งและรางวัลทั้งหมดที่มอบหมายให้เขา
ในคำตัดสินของการพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตซึ่งมีจอมพลแห่งสหภาพโซเวียตเป็นประธาน Konev I.S. มีบันทึกว่า“ เมื่อทรยศต่อมาตุภูมิและกระทำเพื่อผลประโยชน์ของทุนต่างประเทศจำเลยเบเรียได้รวบรวมกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทรยศต่อรัฐโซเวียตโดยมีเป้าหมายที่จะยึดอำนาจกำจัดระบบคนงาน - ชาวนาโซเวียตฟื้นฟูระบบทุนนิยม และฟื้นฟูการปกครองของชนชั้นกระฎุมพี” การพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตตัดสินให้แอล. เบเรียมีโทษประหารชีวิต
โทษประหารชีวิตดำเนินการโดยพันเอกนายพล Batitsky P.F. ซึ่งยิงนักโทษด้วยปืนพก Parabellum ที่ถูกจับที่หน้าผากในบังเกอร์ของสำนักงานใหญ่ของเขตทหารมอสโกซึ่งได้รับการยืนยันโดยการกระทำที่เกี่ยวข้องซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2496:
“ ในวันนี้เวลา 19:50 น. บนพื้นฐานของคำสั่งการปรากฏตัวของตุลาการพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตลงวันที่ 23 ธันวาคม 2496 หมายเลข 003 โดยฉันผู้บัญชาการของการปรากฏตัวของตุลาการพิเศษพันเอก Batitsky P.F. ต่อหน้าอัยการสูงสุดของสหภาพโซเวียต Rudenko R.A. ที่ปรึกษาด้านความยุติธรรมของรัฐที่แท้จริง และนายพล K.S. Moskalenko ประโยคของการพิจารณาคดีพิเศษนั้นเกิดขึ้นเกี่ยวกับ Lavrentiy Pavlovich Beria ซึ่งถูกตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต - ประหารชีวิต".
ความพยายามของญาติลพ ความพยายามของเบเรียในการพิจารณาคดีในปี 2496 อีกครั้งไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 วิทยาลัยทหารแห่งศาลฎีกาแห่งสหพันธรัฐรัสเซียปฏิเสธที่จะฟื้นฟูอดีตรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของสหภาพโซเวียต...
เบเรีย แอล.พี. ได้รับรางวัลห้าคำสั่งของเลนิน (หมายเลข 1236 จาก 17 มีนาคม 2478, หมายเลข 14839 จาก 30 กันยายน 2486, หมายเลข 27006 จาก 21 กุมภาพันธ์ 2488, หมายเลข 94311 จาก 29 มีนาคม 2492, หมายเลข 118679 จาก 29 ตุลาคม พ.ศ. 2492) ) คำสั่งธงแดงสองคำสั่ง (หมายเลข 7034 จาก 04/03/1924 หมายเลข 11517 จาก 11/03/1944) คำสั่งของ Suvorov ระดับ 1; คำสั่งของธงแดงแห่งจอร์เจีย (07/03/1923), ธงแดงของแรงงานแห่งจอร์เจีย (04/10/1931), ธงแดงของแรงงานของอาเซอร์ไบจาน (03/14/1932) และธงแดงของแรงงาน แห่งอาร์เมเนีย เจ็ดเหรียญ; ป้าย "ผู้ปฏิบัติงานกิตติมศักดิ์ของ Cheka-GPU (V)" (หมายเลข 100), "ผู้ปฏิบัติงานกิตติมศักดิ์ของ Cheka-GPU (XV)" (หมายเลข 205 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2475) อาวุธส่วนตัว - ปืนพกบราวนิ่ง ดูด้วยอักษรย่อ รางวัลจากต่างประเทศ - Tuvan Order of the Republic (08/18/1943), the Mongolian Order of the Red Banner of Battle (หมายเลข 441 จาก 15/07/1942), Sukhbaatar (หมายเลข 31 จาก 03/29/1949) เหรียญมองโกเลีย "XXV ปี MPR "(หมายเลข 3125 ลงวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2489)
ภายใต้ร่มธงอันยิ่งใหญ่ของเลนิน-สตาลิน: บทความและสุนทรพจน์ ทบิลิซี 2482;
สุนทรพจน์ในการประชุม XVIII Congress ของพรรคคอมมิวนิสต์ All-Union (บอลเชวิค) เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2482 - เคียฟ: Gospolitizdat แห่ง SSR ยูเครน, 1939;
รายงานการทำงานของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ (b) แห่งจอร์เจียที่สภา XI ของพรรคคอมมิวนิสต์ (b) แห่งจอร์เจียเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2481 - สุคูมิ: Abgiz, 2482;
ชายผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา [I.V. สตาลิน]. - เคียฟ: Gospolitizdat แห่ง SSR ยูเครน, 1940;
ลาโด เคสโคเวลี. (2419-2446)/(ชีวิตของบอลเชวิคที่น่าทึ่ง) แปลโดย N. Erubaev - อัลมา-อาตา: Kazgospolitizdat, 1938;
เกี่ยวกับเยาวชน - ทบิลิซี: Detyunizdat แห่งจอร์เจีย SSR, 2483;
ในคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ขององค์กรบอลเชวิคในทรานคอเคเซีย ฉบับที่ 8 ม., 1949.
ลาฟเรนตี ปาฟโลวิช เบเรีย
ผู้บังคับการตำรวจคนที่ 3 ของกิจการภายในของสหภาพโซเวียต
25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2488
นายกรัฐมนตรี: วยาเชสลาฟ มิคาอิโลวิช โมโลตอฟ
โจเซฟ วิสซาริโอโนวิช สตาลิน
บรรพบุรุษ: Nikolai Ivanovich Yezhov
เลขาธิการคนที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งจอร์เจีย SSR
14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2481
บรรพบุรุษ: Lavrenty Iosifovich Kartvelishvili
พรรค: RSDLP (b) (มีนาคม? 1917), RCP (b) (มีนาคม 1918), CPSU (b) (1925), CPSU (1952)
การศึกษา: สถาบันสารพัดช่างบากู
เกิด: 17 มีนาคม (29) พ.ศ. 2442
Merkheuli เขต Gumistinsky เขต Sukhumi จังหวัด Kutaisi
จักรวรรดิรัสเซีย
เสียชีวิต: 23 ธันวาคม 2496 (อายุ 54 ปี)
มอสโก, RSFSR, สหภาพโซเวียต
พ่อ: Pavel Khukhaevich Beria
มารดา: มาร์ตา วิสซาริโอนอฟนา จาเคลี
คู่สมรส: นีโน เตย์มูราซอฟนา เกเกชโครี
เด็ก: ลูกชาย: เซอร์โก
การรับราชการทหาร
อายุราชการ: พ.ศ. 2481-2496
ตำแหน่ง: จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต
ได้รับคำสั่งโดย: หัวหน้า GUGB NKVD ล้าหลัง (2481)
ผู้บังคับการตำรวจของกิจการภายในของสหภาพโซเวียต (2481-2488)
กรรมการคณะกรรมการป้องกันประเทศ (พ.ศ. 2484-2487)
การต่อสู้: มหาสงครามแห่งความรักชาติ
รางวัล:
วีรบุรุษแห่งแรงงานสังคมนิยม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เลนิน เครื่องราชอิสริยาภรณ์เลนิน เครื่องราชอิสริยาภรณ์เลนิน
เครื่องอิสริยาภรณ์เลนิน เครื่องอิสริยาภรณ์ธงแดง เครื่องอิสริยาภรณ์ธงแดง เครื่องอิสริยาภรณ์ธงแดง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ซูโวรอฟ ชั้น 1
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ซุคบาตอร์
รางวัลสตาลิน รองรางวัลสตาลินของกองทัพสหภาพโซเวียต
เขาถูกลิดรอนตำแหน่งและรางวัลทั้งหมดตามคำตัดสินของศาลหลังจากการประหารชีวิตไม่นาน
Lavrentiy Pavlovich Beria 17 มีนาคม พ.ศ. 2442 Merheuli จังหวัด Kutaisi จักรวรรดิรัสเซีย - อย่างเป็นทางการ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 มอสโกสหภาพโซเวียต) - รัฐบุรุษโซเวียตและบุคคลสำคัญทางการเมืองผู้บัญชาการทั่วไปแห่งความมั่นคงแห่งรัฐ (พ.ศ. 2484) จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488) , วีรบุรุษแห่งแรงงานสังคมนิยม (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486)
รองประธานคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2489-2496) รองประธานคนที่หนึ่งของคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2496) สมาชิกของคณะกรรมการป้องกันรัฐของสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2484-2487) รองประธานคณะกรรมการป้องกันรัฐของสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2487-2488) สมาชิกของคณะกรรมการบริหารกลางสหภาพโซเวียตในการประชุมครั้งที่ 7 รองผู้ว่าการสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียตในการประชุมครั้งที่ 1-3 สมาชิกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์บอลเชวิคทั้งหมด (พ.ศ. 2477-2496) สมาชิกผู้สมัครของ Politburo ของคณะกรรมการกลาง (พ.ศ. 2482-2489) สมาชิกของ Politburo (พ.ศ. 2489-2496) เขาเป็นส่วนหนึ่งของวงในของ J.V. Stalin เขาดูแลภาคส่วนที่สำคัญที่สุดจำนวนหนึ่งของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ รวมถึงการพัฒนาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีขีปนาวุธ
หลังจากการเสียชีวิตของสตาลิน ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2496 แอล.พี. เบเรียถูกจับกุมในข้อหาจารกรรมและสมรู้ร่วมคิดเพื่อยึดอำนาจ
ดำเนินการโดยคำตัดสินของการพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2496
ความลับสุดท้ายของ Lavrentiy Beria
เขาถูกยิงเมื่อ 60 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าหลุมศพของผู้บังคับการตำรวจที่นองเลือดอยู่ที่ไหน
ฉบับพิมพ์
นิโคไล โดบริวคา
"Rossiyskaya Gazeta" - สัปดาห์ที่ 3370
20.12.2003, 03:50
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ล.ป. เบเรียถูกจับกุมเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2496 ในเครมลิน และในปีเดียวกันเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมตามคำตัดสินของศาล เขาถูกประหารชีวิตในบังเกอร์ใต้ดินในลานของสำนักงานใหญ่ของเขตทหารมอสโก อย่างไรก็ตาม ตามที่เอกสารสำคัญแสดง ข้อมูลอย่างเป็นทางการในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะแตกต่างจากความเป็นจริงมากเกินไป ดังนั้นเวอร์ชันอื่น ๆ ที่หมุนเวียนอยู่ในรูปแบบของข่าวลือก็ดึงดูดความสนใจเช่นกัน สองคนนี้เร้าใจเป็นพิเศษ...
ประการแรกชี้ให้เห็นว่าเบเรียพยายามไม่ตกหลุมพรางของการสมรู้ร่วมคิดที่เตรียมต่อต้านเขาหรือแม้กระทั่งหลบหนีจากการจับกุมที่เกิดขึ้นแล้วและซ่อนตัวอยู่ในละตินอเมริกาซึ่งหลังจากปี 2488 อาชญากรนาซีเกือบทั้งหมดหนีไป และทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ชั่วขณะหนึ่ง...
คนที่สองบอกว่าในระหว่างการจับกุมเบเรียเขาและผู้คุมต่อต้านและถูกสังหาร พวกเขายังตั้งชื่อผู้เขียนช็อตร้ายแรงด้วยซ้ำ ครุสชอฟ... มีคนบอกว่าการประหารชีวิตก่อนการพิจารณาคดีเกิดขึ้นในบังเกอร์ที่กล่าวไปแล้วเกือบจะในทันทีหลังจากการจับกุมในเครมลิน และข่าวลือนี้ก็ได้รับการยืนยันโดยไม่คาดคิด
ในเอกสารสำคัญของ Old Square ฉันค้นพบเอกสารที่ครุสชอฟและคากาโนวิชรับรองเป็นการส่วนตัว
ตามที่พวกเขากล่าว เบเรียถูกชำระบัญชีก่อนการประชุมฉุกเฉินของคณะกรรมการกลางในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2496 ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่มีการเปิดเผยกิจกรรมทางอาญาของชายผู้ชั่วร้ายใน Pince-nez ...
ศัตรูหลักของประชาชนฝังอยู่ที่ไหน?
เพื่อนร่วมงานของฉัน - นักวิจัย N. Zenkovich และ S. Gribanov ซึ่งเราโทรหากันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นระยะ - ได้รวบรวมเอกสารข้อเท็จจริงจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับชะตากรรมของเบเรียหลังจากข่าวการจับกุมของเขา แต่หลักฐานอันมีค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องนี้ถูกค้นพบโดยวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และอดีตหัวหน้านักเขียนของสหภาพโซเวียต Vladimir Karpov
เมื่อศึกษาชีวิตของจอมพล Zhukov เขายุติข้อพิพาท: Zhukov มีส่วนร่วมในการจับกุมเบเรียหรือไม่? บันทึกลับที่เขียนด้วยลายมือของจอมพลที่เขาพบพูดโดยตรง: เขาไม่เพียงเข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำกลุ่มจับกุมด้วย ดังนั้นคำกล่าวของ Sergo ลูกชายของเบเรียที่ว่า Zhukov ไม่เกี่ยวข้องกับการจับกุมพ่อของเขาจึงไม่เป็นความจริง!
การค้นพบครั้งสุดท้ายก็มีความสำคัญเช่นกันเพราะมันหักล้างข่าวลือเกี่ยวกับการยิงอย่างกล้าหาญของ Nikita Sergeevich ในระหว่างการคุมขังรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในและความมั่นคงแห่งรัฐผู้มีอำนาจทั้งหมด
เกิดอะไรขึ้นหลังจากการจับกุม Zhukov ไม่เห็นเป็นการส่วนตัวจึงเขียนสิ่งที่เขาเรียนรู้จากคำบอกเล่ากล่าวคือ:“ ในอนาคตฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยหรือการสอบสวนหรือในการพิจารณาคดี เบเรียถูกยิงโดยคนที่ปกป้องเขา ในระหว่างการประหารชีวิต เบเรียประพฤติตัวแย่มากเหมือนคนขี้ขลาดคนสุดท้าย ร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง คุกเข่าลง และในที่สุดก็ทำให้ตัวเองสกปรกไปหมด น่าขยะแขยงยิ่งกว่านั้นอีก” หมายเหตุ: นี่คือสิ่งที่ Zhukov บอก แต่ Zhukov เองก็ไม่เห็น...
แต่อย่างที่พวกเขาพูดกันว่า S. Gribanov สามารถค้นหาได้โดยตรงจากผู้เขียนกระสุนจริงสำหรับศัตรูหลักของประชาชนจากนั้นพันเอกนายพล P.F. Batitsky: “เราพาเบเรียลงบันไดเข้าไปในคุกใต้ดิน เขากำจัดมันออกไป... กลิ่นเหม็น”
ทุกอย่างคงจะดีถ้าพยานคนอื่นในการประหารชีวิตและนายพลบาติตสกี้เองก็พูดแบบเดียวกันทุกที่ อย่างไรก็ตามความไม่สอดคล้องกันอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความประมาทเลินเล่อและจากจินตนาการทางวรรณกรรมของนักวิจัยซึ่งหนึ่งในนั้นซึ่งเป็นลูกชายของนักปฏิวัติ Antonov Ovseenko เขียนสิ่งนี้:“ พวกเขาประหารชีวิตชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในบังเกอร์ของสำนักงานใหญ่เขตทหารมอสโก ถอดเสื้อคลุมของเขาออกโดยทิ้งเสื้อกล้ามสีขาวไว้แล้วมัดมือของเขาด้วยเชือกแล้วผูกเข้ากับตะขอที่ผลักเข้าไปในโล่ไม้ โล่นี้ปกป้องผู้ที่อยู่ในนั้นจากการแฉลบของกระสุนปืน . Moskalenko (ถึง Yuferev): “คุณอายุน้อยที่สุดของเรา คุณยิงได้ดี” เอาล่ะ".
Batitsky: “ผู้บัญชาการสหาย อนุญาตให้ฉัน (เอา "พาราเบลลัมของเขาออกไป") ด้วยสิ่งนี้ ฉันจึงส่งตัววายร้ายมากกว่าหนึ่งคนไปยังโลกหน้าที่ด้านหน้า" Rudenko:“ ฉันขอให้คุณปฏิบัติตามประโยค” บาทิตสกี้ยกมือขึ้น ดวงตาที่ปูดอย่างรุนแรงแวบขึ้นมาเหนือผ้าพันแผล เบเรียคนที่สองหรี่ตามอง Batitsky เหนี่ยวไกปืน กระสุนพุ่งเข้ากลางหน้าผากของเขา ศพถูกแขวนไว้บนเชือก การประหารชีวิตเกิดขึ้นต่อหน้าจอมพล Konev และทหารเหล่านั้นที่จับกุมและปกป้องเบเรีย พวกเขาโทรหาหมอ... สิ่งที่เหลืออยู่คือการยืนยันความจริงของการเสียชีวิต ร่างของเบเรียถูกห่อด้วยผ้าใบแล้วส่งไปที่โรงเผาศพ" โดยสรุป Antonov-Ovseyenko วาดภาพที่คล้ายกับหนังสยองขวัญ: สมมุติว่าเมื่อนักแสดงผลักร่างของเบเรียเข้าไปในเปลวไฟของโรงเผาศพและเกาะติดกับกระจกของเตาหลอม พวกเขาถูกครอบงำด้วยความกลัว - ร่างของเจ้านายที่เปื้อนเลือดบนถาดที่ลุกเป็นไฟก็เริ่มเคลื่อนไหวและค่อยๆนั่งลง... ต่อมาปรากฎว่าเจ้าหน้าที่บริการ "ลืม" ตัดเส้นเอ็นและเริ่มทำ สัญญาภายใต้อิทธิพลของอุณหภูมิสูง แต่ในตอนแรกดูเหมือนว่าเพชฌฆาตที่ตายไปแล้วจะฟื้นคืนชีพในเปลวเพลิงแห่งนรก...
เรื่องราวที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รายงานรายละเอียดทางสรีรวิทยาที่น่าขนลุก ผู้บรรยายไม่ได้ให้ลิงก์ไปยังเอกสารใดๆ ตัวอย่างเช่นการกระทำใดที่ยืนยันการประหารชีวิตและการเผาเบเรีย? นี่ไม่ใช่การพูดเล่นที่ว่างเปล่าเพราะถ้าใครได้อ่านการประหารชีวิตพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าแพทย์ที่จำเป็นในกรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในการประหารชีวิตเบเรียและไม่ได้เป็นพยานต่อเธอเลย... ดังนั้น คำถามเกิดขึ้น:“ A คือเบเรียที่อยู่ที่นั่นหรือเปล่า? หรืออีกอย่าง: “หรือบางทีรายงานนี้จัดทำขึ้นย้อนหลังและไม่มีแพทย์?” และรายชื่อของผู้ที่อยู่ในการดำเนินการซึ่งตีพิมพ์โดยผู้เขียนหลายคนไม่ตรงกัน เพื่อพิสูจน์ถ้อยคำเหล่านี้ ข้าพเจ้าจึงขออ้างอิงถึงการประหารชีวิตลงวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496
“ ในวันนี้เวลา 19:50 น. ตามคำสั่งของประธานการพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตลงวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 N 003 โดยฉันผู้บัญชาการของการพิจารณาคดีพิเศษพันเอก นายพล Batitsky P.F. ต่อหน้าอัยการสูงสุดของสหภาพโซเวียตที่ปรึกษาแห่งรัฐของกระบวนการยุติธรรม Rudenko R.A. และนายพล Moskalenko K.S. กองทัพ ประโยคของการปรากฏตัวในศาลพิเศษได้ดำเนินการเกี่ยวกับ Beria Lavrenty Pavlovich ซึ่งถูกตัดสินให้รับโทษประหารชีวิต . ลายเซ็นสาม. และไม่มีนายพลคอยคุ้มกันอีกต่อไป (ตามที่ Zhukov บอก); ไม่มี Konev, Yuferev, Zub, Baksov, Nedelin และ Getman และไม่มีแพทย์ (ตามที่ Antonov-Ovseenko บอก)
ความคลาดเคลื่อนเหล่านี้อาจถูกเพิกเฉยได้หาก Sergo ลูกชายของ Beria ไม่ยืนยันว่า Shvernik ซึ่งเป็นสมาชิกของศาลเดียวกันนั้น บอกเขาเป็นการส่วนตัวว่า: "ฉันเป็นส่วนหนึ่งของศาลในกรณีของพ่อของคุณ แต่ฉันไม่เคยเห็นเขาเลย" Sergo ยิ่งสงสัยมากขึ้นจากคำสารภาพของสมาชิกศาล Mikhailov: “ Sergo ฉันไม่ต้องการบอกคุณเกี่ยวกับรายละเอียด แต่เราไม่เห็นพ่อของคุณยังมีชีวิตอยู่”... มิคาอิลอฟไม่ได้ขยายวิธีประเมินสิ่งนี้ คำสั่งลึกลับ นักแสดงถูกจับที่ท่าเรือแทนเบเรียหรือเบเรียเองก็เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ระหว่างการจับกุม? เป็นไปได้ที่เบเรียอาจมีสองเท่า...
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการประหารชีวิต การกระทำอีกอย่างหนึ่ง - เท่าที่ฉันรู้ไม่มีใครเห็นการเผาศพเลยตลอดจนศพของผู้ที่ถูกยิง แน่นอนยกเว้นสามคนที่ลงนามในพระราชบัญญัตินี้ พวกเขาเซ็นมัน แต่แล้วอะไรล่ะ? ใบรับรองการฝังศพหรือเผาศพอยู่ที่ไหน? ใครเผา? ใครฝัง? ปรากฎเหมือนในเพลง และไม่มีใครรู้ว่าหลุมศพของคุณอยู่ที่ไหน...
แท้จริงแล้วยังไม่มีใครให้หลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับสถานที่ฝังศพของเบเรียแม้ว่า "แผนกบัญชีหลุมศพ" ของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐจะเก็บบันทึกในเรื่องนี้ในลักษณะที่หากจำเป็นข้อมูลทั้งหมดสามารถรับได้อย่างรวดเร็ว .
ทำไม Malenkov ถึงเงียบ?
ฉันจะเริ่มต้นด้วยจดหมายที่เบเรียที่ถูกจับกุมเขียนถึง "เพื่อนร่วมงาน" อดีตของเขา มีหลายคน และเท่าที่ฉันรู้ทั้งหมดเขียนขึ้นก่อนการประชุมใหญ่เดือนกรกฎาคมนั่นคือ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนถึง 2 กรกฎาคม ฉันอ่านมาบ้างแล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือจดหมายฉบับสุดท้ายที่ส่งถึง "ถึงรัฐสภาของคณะกรรมการกลางของ CPSU สหาย Malenkov, Khrushchev, Molotov, Voroshilov, Kaganovich, Mikoyan, Pervukhin, Bulganin และ Saburov" เช่น ผู้ที่ตัดสินใจจับกุม แต่ก่อนที่จะอ้างอิงเนื้อหาทั้งหมดจำเป็นต้องอธิบายก่อน
การลงคะแนนเสียงในการจับกุมเบเรียนั้นตึงเครียดมากและเกิดขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกตาม D. Sukhanov ผู้ช่วยของ Malenkov มีเพียง Malenkov, Pervukhin และ Saburov เท่านั้นที่เข้าข้างพวกเขาในขณะที่ Khrushchev และ Bulganin และแน่นอนว่า Mikoyan งดออกเสียง
โดยทั่วไปแล้ว Voroshilov, Kaganovich และ Molotov นั้น "ต่อต้าน" ยิ่งไปกว่านั้น โมโลตอฟยังกล่าวอีกว่าการจับกุมหนึ่งในผู้นำกลุ่มแรกๆ ของพรรค รัฐบาล และฝ่ายนิติบัญญัติโดยไม่มีหมายจับไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดความคุ้มกันของรัฐสภาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพรรคหลักๆ ทั้งหมดและกฎหมายของสหภาพโซเวียตโดยทั่วไปด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อทหารพร้อมอาวุธเข้ามาในห้องประชุมและเสนอให้ลงคะแนนเสียงอีกครั้งทุกคนก็ลงคะแนนเห็นชอบทันทีราวกับว่ารู้สึกว่าหากพวกเขาฝ่าฝืน "ความเป็นเอกฉันท์" ที่จำเป็นในกรณีเช่นนี้ พวกเขาจะถูกนับในหมู่ผู้สมรู้ร่วมคิดของเบเรียด้วย . หลายคนมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าความทรงจำของ Sukhanov ที่บันทึกไว้ในปีต่อมาแม้ว่าเราจะต้องไม่ลืมว่าตัวเขาเองอยู่นอกสำนักงานซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นผมจึงรู้ได้แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นจากคำบอกเล่าเท่านั้น และเป็นไปได้มากที่สุดในคำพูดของมาเลนคอฟปรมาจารย์ของเขาซึ่งไม่เข้าข้างคู่แข่งของเขาในการต่อสู้เพื่อชิงที่หนึ่งในอำนาจ - โมโลตอฟ, ครุสชอฟและบุลกานิน
อย่างไรก็ตามหากคุณไม่เชื่อ Sukhanov แต่เป็นจดหมายดังกล่าวจากเบเรียในวันที่ถูกจับกุมใครก็ตามที่ไม่ใช่ Malenkov และ Khrushchev มีมติเป็นเอกฉันท์มากกว่าที่เคย หากต้องการดูสิ่งนี้ เรามาอ่านจดหมายกรีดร้องอย่างจริงจังของเบเรียกันดีกว่า
“สหายที่รัก พวกเขาสามารถจัดการกับฉันได้โดยไม่ต้องมีการพิจารณาคดีหรือสอบสวน หลังจากถูกจำคุก 5 วัน โดยไม่ต้องสอบปากคำเลยแม้แต่ครั้งเดียว ฉันขอร้องพวกคุณทุกคน เพื่อไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ฉันขอให้มีการแทรกแซงทันที ไม่เช่นนั้นจะสายเกินไป” เราต้องเตือนคุณโดยตรงทางโทรศัพท์...
ทำไมพวกเขาถึงทำแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ พวกเขาขังพวกเขาไว้ในห้องใต้ดิน และไม่มีใครรู้หรือถามอะไรอีก สหายที่รัก เป็นวิธีเดียวและถูกต้องในการแก้ไขโดยไม่ต้องมีการพิจารณาคดี และชี้แจงคดีกับสมาชิกของคณะกรรมการกลางและสหายของเขาหลังจากอยู่ในห้องใต้ดินเป็นเวลา 5 วันเพื่อประหารชีวิตเขา ผมขอร้องทุกท่านอีกครั้ง...
ฉันขอยืนยันว่าการเรียกเก็บเงินทั้งหมดจะถูกยกเลิกหากคุณต้องการตรวจสอบเรื่องนี้เท่านั้น ช่างเร่งรีบและน่าสงสัยในตอนนั้น
ฉันขอให้ T. Malenkov และสหาย Khrushchev อย่ายืนกราน จะแย่ไหมถ้าเธอได้รับการฟื้นฟู?
ฉันขอร้องให้คุณเข้ามาแทรกแซงครั้งแล้วครั้งเล่าและไม่ทำลายเพื่อนเก่าผู้บริสุทธิ์ของคุณ ลาฟเรนตี เบเรียของคุณ”
นี่คือจดหมาย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเบเรียจะขอร้องอย่างไร สิ่งที่เขากลัวอย่างบ้าคลั่งก็เกิดขึ้น...
ที่ Plenum ที่ปิดซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมถึง 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 มีคำพูดกล่าวหาหลายครั้งที่ไม่มีใคร (!) ให้ความสนใจในตอนนั้นในความสับสนวุ่นวายทั่วไปและความรู้สึกสบายที่ได้รับชัยชนะ ครุสชอฟเป็นคนแรกที่ทำถั่วหก
เมื่อเข้าสู่ความตื่นเต้นของเรื่องราวที่พวกเขาจัดการกับเบเรียอย่างช่ำชองเขาท่ามกลางวลีที่กระตือรือร้นอื่น ๆ ก็โพล่งออกมา:
“เบเรีย...ได้ละทิ้งจิตวิญญาณของเขาแล้ว”
คากาโนวิชพูดอย่างแน่นอนยิ่งขึ้น: "... เมื่อกำจัดเบเรียผู้ทรยศคนนี้แล้ว เราต้องคืนสิทธิ์ทางกฎหมายของสตาลินอย่างสมบูรณ์ ... " และแน่นอนที่สุด: "คณะกรรมการกลางทำลายนักผจญภัยเบเรีย ... " และนั่นคือประเด็น คุณไม่สามารถพูดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
แน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสามารถนำไปใช้ในความหมายโดยนัยได้เช่นกัน แต่ทำไมถึงไม่มีใครพูดถึงเลยในการสอบสวนที่กำลังจะเกิดขึ้นจำเป็นต้องถามเบเรียอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการกระทำสกปรกทั้งหมดของเขา? เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ไม่มีคนใดบอกเป็นนัยว่าควรพาเบเรียไปที่ Plenum เพื่อให้ทุกคนสามารถฟังคำสารภาพของเขาและถามคำถามที่สะสมได้เช่นที่สตาลินทำเกี่ยวกับบูคาริน เป็นไปได้มากว่าพวกเขาไม่ได้บอกใบ้เพราะไม่มีใครส่ง... อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้เช่นกันที่พวกเขากลัวว่าเบเรียจะเปิดเผยพวกเขา และก่อนอื่นเลย "เพื่อนเก่า" ครุสชอฟและมาเลนคอฟของเขา...
ดังนั้นเราจึงได้พิสูจน์แล้วว่าเบเรียเขียนจดหมายตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนถึง 2 กรกฎาคม Plenum เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมถึง 7 กรกฎาคมและ "คำแถลง" ของครุสชอฟและคากาโนวิชเกี่ยวกับการชำระบัญชีของเบเรียได้ยินในความวุ่นวายทั่วไปและความรู้สึกสบายที่ได้รับชัยชนะ จากนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าเบเรียถูกประหารชีวิตภายในวันที่ 2-6 กรกฎาคม และผู้ดำเนินการประโยคคือพันเอกนายพลบาติตสกี้
อย่างน้อยก็ลองพยายามสร้างความจริงจากรหัสของชื่อเต็มของ LAVRENTY BERIA \ถ้ามันสำเร็จ\.
ดู "ลอจิกวิทยาเกี่ยวกับชะตากรรมของมนุษย์" ล่วงหน้า
ลองดูที่ตารางรหัสชื่อเต็ม \หากมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขและตัวอักษรบนหน้าจอ ให้ปรับขนาดภาพ\.
2 8 25 35 67 79 80 83 100 106 120 139 149 159 175 176 179 191 206 209 219 243
B E R I A L A V R E N T I Y P A V L O V I C H
243 241 235 218 208 176 164 163 160 143 137 123 104 94 84 68 67 64 52 37 34 24
12 13 16 33 39 53 72 82 92 108 109 112 124 139 142 152 176 178 184 201 211 243
L A V R E N T I Y P A V L O V I C H B E R I YA
243 231 230 227 210 204 190 171 161 151 135 134 131 119 104 101 91 67 65 59 42 32
มาอ่านคำและประโยคทีละประโยค:
เบเรีย = 67 = ถูกประหารชีวิต
LAVRENTY PAVLOVICH = 176 = 104-ฆ่า + 3-B + 69-HEAD = 103-SHOT + 73-DIED = 94-ตาย + 82-SHOT
176 - 67 = 109 = การแก้แค้น การหยุดชะงัก = 17-AMBA + 34-FROM + 58-BULLETS
เบเรีย ลาวาเรนตี = 159 = 103-ยิง + 56-ถูกประหารชีวิต = 97-ฆาตกรรม + 62-บริจาค = 108-ถูกประหารชีวิต + 51-สังหาร
พาฟโลวิช = 84 = ศีรษะ, สมอง, ฆ่า
159 - 84 = 75 = ฝ่าฟันวิกฤต แก้แค้น
พาฟโลวิช เบเรีย = 151 = 89-ฆ่า + 62-DOT = 79-BULLET + 3-B + 69-HEAD
LAVRENTY = 92 = ตาย
151 - 92 = 59 = เสียชีวิต เสียชีวิต
เราใส่ผลลัพธ์สามหลักตรวจสอบ 59, 75 และ 109 ลงในรหัสสำหรับชื่อเต็มของ LAVRENTY BERIA:
243 = 59 + 184\75+109\. โดยที่ 184 = 120-DEATH + 64-EXECUTION = 102-SHOT + 82-SHOT\en\
243 = 75 + 168\59+109\. โดยที่ 168 = ปฏิบัติการ-56 X 3 = 104-ฆ่า + 64-กระสุน
243 = 109 + 134\59+75\. โดยที่ 134 = การประหารชีวิต-67 X 2 = 83-การกีดกัน + 51-ชีวิต
วันเกิด: 17.\29\.03.1899. สิ่งนี้ = 17 + 03 + 18 + 99 = 137 = ฆาตกรรม ถึงวาระ สังหาร = 64-ประหารชีวิต + 73-DIES = 85-REVENGE + 52-KILLED = 78-BULLETS + 59-DEAD = 60-WOUNDS + 77- หัว = 82-ช็อต + 55-ตาย
243 = 137 + 106-ความเสียหาย \44-หลัก + 62-ความเสียหาย\
จำนวนปีเต็มของชีวิต = 176-ห้าสิบ + 100-สี่ = 276
276 = ฆ่า-92 X 3 = สมอง-92 X 3 = ฆ่าโดยกระสุน-138 X 2 = 94-DEAD + 51-ฆ่า + 131-SHOT = 206-SHOT + 70-EXIT
276 = 243-\ รหัสชื่อเต็ม \ + 33-OGN \ estrelnoe \.
ฉันกล้าที่จะเดาว่าเบเรียถูกยิงเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันแรกของการประชุม Plenum ลองตรวจสอบสมมติฐานนี้:
75 วินาที การแก้แค้น การทำลายล้าง หัวใจ การล้ม ความตาย
160 วินาทีของเดือนกรกฎาคม + 72- ถึง HEAD-\ 19 + 53 \-\ รหัสปีแห่งความตาย \ = 232 = 63-DEATH + 67-EXECUTED + 102-SHOT DEATH
เวอร์ชันประยุกต์: 2/07/1953 นี่ = 2 + 07 + 19 + 53 = 81 = ถูกฆ่าโดย WILD
243 = 81 + 162-ยิงแล้ว
แต่ฉันขอย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น
ส่วนที่เพิ่มเข้าไป:
243 = 31-ON + 117-อนุสัญญา + 95-TRIBUNAL \a\ = 120-DEATH + 64-EXECUTION + 59-DEAD = 17-AMBA + 170-CONVICTED + 11-K + 45-EXECUTION = 170-EXECUTATION + 73 - สังหาร = 175- กระสุนปืน + 68- บาดเจ็บ = 62-STAR + 130- ยุติ + 51- ชีวิต = 130- ยุติ + 51- ชีวิต + 3-IN + 59- กรกฎาคม
Lavrentiy Pavlovich Beria รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในคนที่ 2 ของสหภาพโซเวียต 5 มีนาคม 2496 - 26 มิถุนายน 2496 ผู้บังคับการตำรวจคนที่ 3 ของกิจการภายในของสหภาพโซเวียต 25 พฤศจิกายน 2481 - 29 ธันวาคม 2488 นายกรัฐมนตรี: Vyacheslav Mikhailovich Molotov Joseph Vissarionovich Stalin บรรพบุรุษ: Nikolai Ivanovich Yezhov เลขาธิการคนที่ 6 ของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งจอร์เจีย SSR 14 พฤศจิกายน 2474 - 31 สิงหาคม 2481 บรรพบุรุษ: Lavrentiy Iosifovich Kartvelishvili พรรค: RSDLP (b) (มีนาคม? 2460), RCP (b) (มีนาคม 2461) ), CPSU (b) (1925), CPSU (1952) ) การศึกษา: สถาบันสารพัดช่างบากู เกิด: 17 มีนาคม (29), พ.ศ. 2442 Merheuli, เขต Gumistinsky, เขต Sukhumi, จังหวัด Kutaisi, จักรวรรดิรัสเซีย ความตาย: 23 ธันวาคม 2496 (54 ปี) มอสโก, RSFSR, สหภาพโซเวียต พ่อ: Pavel Khukhaevich Beria แม่: Marta Vissarionovna Jakeli คู่สมรส: Nino Teymurazovna Gegechkori เด็ก: ลูกชาย: Sergo รับราชการทหาร ปีรับราชการ: 2481-2496 ตำแหน่ง: จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต ได้รับคำสั่งจาก: หัวหน้า GUGB NKVD แห่งสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2481) ผู้บังคับการตำรวจของกิจการภายในของสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2481-2488) สมาชิกของคณะกรรมการป้องกันรัฐ (พ.ศ. 2484-2487) การรบ: รางวัลสงครามแห่งความรักชาติอันยิ่งใหญ่: วีรบุรุษแห่งคำสั่งแรงงานสังคมนิยมแห่งเลนิน คำสั่งของเลนิน คำสั่งของเลนินคำสั่งของเลนินคำสั่งของเลนินคำสั่งของธงแดงคำสั่งของธงแดงคำสั่งของธงแดงคำสั่งของซูโวรอฟระดับที่ 1 คำสั่งของ Sukhbaatar รางวัลสตาลินรองรางวัลสตาลินของกองทัพสหภาพโซเวียตถูกลิดรอนชื่อและรางวัลทั้งหมดโดย คำตัดสินของศาลหลังเหตุกราดยิงไม่นาน รัฐบุรุษและนักการเมืองโซเวียต, กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ (พ.ศ. 2484), จอมพลแห่งสหภาพโซเวียต (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488), วีรบุรุษแห่งแรงงานสังคมนิยม (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486) รองประธานคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2489-2496) รองประธานคนที่หนึ่งของคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2496) สมาชิกของคณะกรรมการป้องกันรัฐของสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2484-2487) รองประธานคณะกรรมการป้องกันรัฐของสหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2487-2488) สมาชิกของคณะกรรมการบริหารกลางสหภาพโซเวียตในการประชุมครั้งที่ 7 รองผู้ว่าการสูงสุดของสหภาพโซเวียตแห่งสหภาพโซเวียตในการประชุมครั้งที่ 1-3 สมาชิกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์บอลเชวิคทั้งหมด (พ.ศ. 2477-2496) สมาชิกผู้สมัครของ Politburo ของคณะกรรมการกลาง (พ.ศ. 2482-2489) สมาชิกของ Politburo (พ.ศ. 2489-2496) เขาเป็นส่วนหนึ่งของวงในของ J.V. Stalin เขาดูแลภาคส่วนที่สำคัญที่สุดจำนวนหนึ่งของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ รวมถึงการพัฒนาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีขีปนาวุธ หลังจากการเสียชีวิตของสตาลิน ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2496 แอล.พี. เบเรียถูกจับกุมในข้อหาจารกรรมและสมรู้ร่วมคิดเพื่อยึดอำนาจ ดำเนินการโดยคำตัดสินของการพิจารณาคดีพิเศษของศาลฎีกาแห่งสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2496 ความลับสุดท้ายของ Lavrentiy Beria เขาถูกยิงเมื่อ 60 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าหลุมศพของผู้บังคับการตำรวจที่นองเลือดอยู่ที่ไหน ตามข้อมูลของทางการ แอล. P. Beria ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2496 ในเครมลินและในปีเดียวกันเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมตามคำตัดสินของศาลเขาถูกยิงในบังเกอร์ใต้ดินในลานของสำนักงานใหญ่ของเขตทหารมอสโก อย่างไรก็ตาม ตามที่เอกสารสำคัญแสดง ข้อมูลอย่างเป็นทางการในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะแตกต่างจากความเป็นจริงมากเกินไป ดังนั้นเวอร์ชันอื่น ๆ ที่หมุนเวียนอยู่ในรูปแบบของข่าวลือก็ดึงดูดความสนใจเช่นกัน สองคนนั้นน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ... ประการแรกบ่งบอกว่าเบเรียพยายามไม่ตกหลุมพรางของการสมรู้ร่วมคิดที่เตรียมต่อต้านเขาหรือแม้กระทั่งหลบหนีจากการจับกุมที่เกิดขึ้นแล้วและซ่อนตัวอยู่ในละตินอเมริกาซึ่งหลังจากปี 2488 พวกนาซีเกือบทั้งหมด หลบหนีอาชญากร และด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในขณะนั้น... คนที่สองบอกว่าในระหว่างการจับกุมเบเรียเขาและผู้คุมต่อต้านและถูกฆ่าตาย พวกเขายังตั้งชื่อผู้เขียนช็อตร้ายแรงด้วยซ้ำ ครุสชอฟ... มีคนบอกว่าการประหารชีวิตก่อนการพิจารณาคดีเกิดขึ้นในบังเกอร์ที่กล่าวไปแล้วเกือบจะในทันทีหลังจากการจับกุมในเครมลิน และข่าวลือนี้ก็ได้รับการยืนยันโดยไม่คาดคิด ในเอกสารสำคัญของ Old Square ฉันค้นพบเอกสารที่ครุสชอฟและคากาโนวิชรับรองเป็นการส่วนตัว ตามที่พวกเขากล่าวไว้ เบเรียถูกชำระบัญชีก่อนการประชุมฉุกเฉินของคณะกรรมการกลางในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2496 ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่มีการเปิดเผยกิจกรรมทางอาญาของชายผู้น่ากลัวใน Pince-nez... ศัตรูหลักของผู้คนถูกฝังอยู่ที่ไหน? ในระหว่างการประหารชีวิต เบเรียประพฤติตัวแย่มากเหมือนคนขี้ขลาดคนสุดท้าย ร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง คุกเข่าลง และในที่สุดก็ทำให้ตัวเองเปื้อนไปหมด กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาใช้ชีวิตอย่างน่ารังเกียจและเสียชีวิตอย่างน่ารังเกียจยิ่งกว่าเดิม" หมายเหตุ: นี่คือสิ่งที่พวกเขาบอกกับ Zhukov แต่ Zhukov เองก็ไม่เห็น... แต่นี่คือสิ่งที่พวกเขาพูด S. Gribanov สามารถเรียนรู้ก่อน- มือของผู้เขียนกระสุนจริงสำหรับศัตรูหลักของประชาชนผู้พันนายพล P.F. Batitsky:“ เราพาเบเรียลงบันไดไปยังคุกใต้ดิน เขาได้กลิ่น...เหม็น จากนั้นฉันก็ยิงเขาเหมือนสุนัข" ทุกอย่างคงจะดีถ้าพยานคนอื่นในการประหารชีวิตและนายพล Batitsky เองก็พูดเหมือนกันทุกที่ อย่างไรก็ตาม ความไม่สอดคล้องกันอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากความประมาทเลินเล่อและจากจินตนาการทางวรรณกรรมของนักวิจัย หนึ่งในนั้น ลูกชายของนักปฏิวัติ Antonov Ovseenko เขียนสิ่งนี้: "พวกเขาประหารชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในบังเกอร์ของสำนักงานใหญ่เขตทหารมอสโก พวกเขาถอดเสื้อคลุมของเขาออก ทิ้งเขาไว้ในเสื้อชั้นในสีขาว มัดมือของเขาด้วยเชือกด้านหลัง และมัดเขาไว้กับตะขอที่ดันเข้าไปในโล่ไม้ โล่นี้ป้องกันผู้ที่อยู่ในปัจจุบันจากการแฉลบของกระสุน อัยการ Rudenko อ่านคำตัดสิน เบเรีย:“ ฉันบอกคุณแล้ว…” Rudenko:“ คุณพูดไปหมดแล้ว” (ถึงกองทัพ):“ ปิดปากเขาด้วยผ้าเช็ดตัว” Moskalenko (ถึง Yuferev): “ คุณอายุน้อยที่สุดของเรา คุณยิงได้ดี” Batitsky: “ผู้บัญชาการสหาย อนุญาตให้ฉัน (เอา "พาราเบลลัมของเขาออกไป") ด้วยสิ่งนี้ ฉันจึงส่งตัววายร้ายมากกว่าหนึ่งคนไปยังโลกหน้าที่ด้านหน้า" Rudenko:“ ฉันขอให้คุณปฏิบัติตามประโยค” บาทิตสกี้ยกมือขึ้น ดวงตาที่ปูดอย่างรุนแรงแวบขึ้นมาเหนือผ้าพันแผล เบเรียคนที่สองหรี่ตามอง Batitsky เหนี่ยวไกปืน กระสุนพุ่งเข้ากลางหน้าผากของเขา ศพถูกแขวนไว้บนเชือก การประหารชีวิตเกิดขึ้นต่อหน้าจอมพล Konev และทหารเหล่านั้นที่จับกุมและปกป้องเบเรีย พวกเขาโทรหาหมอ... สิ่งที่เหลืออยู่คือการยืนยันความจริงของการเสียชีวิต ร่างของเบเรียถูกห่อด้วยผ้าใบแล้วส่งไปที่โรงเผาศพ" โดยสรุป Antonov-Ovseyenko วาดภาพที่คล้ายกับหนังสยองขวัญ: สมมุติว่าเมื่อนักแสดงผลักร่างของเบเรียเข้าไปในเปลวไฟของโรงเผาศพและเกาะติดกับกระจกของเตาหลอม พวกเขาถูกครอบงำด้วยความกลัว - ร่างของเจ้านายที่เปื้อนเลือดบนถาดที่ลุกเป็นไฟก็เริ่มเคลื่อนไหวและค่อยๆนั่งลง... ต่อมาปรากฎว่าเจ้าหน้าที่บริการ "ลืม" ตัดเส้นเอ็นและเริ่มทำ สัญญาภายใต้อิทธิพลของอุณหภูมิสูง แต่ในตอนแรกดูเหมือนว่าผู้ประหารชีวิตจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาในเปลวไฟแห่งนรก... เรื่องราวที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รายงานรายละเอียดทางสรีรวิทยาที่น่ากลัว ผู้บรรยายไม่ได้ให้ลิงก์ไปยัง เอกสารใด ๆ ตัวอย่างเช่นการกระทำใดที่ยืนยันการประหารชีวิตและการเผาเบเรีย? นี่ไม่ใช่การพูดเล่นที่ว่างเปล่าเพราะถ้าใครได้อ่านการประหารชีวิตพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าแพทย์ที่จำเป็นในกรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในการประหารชีวิตเบเรียและไม่ได้เป็นพยานต่อเธอเลย... ดังนั้น คำถามเกิดขึ้น:“ A คือเบเรียที่อยู่ที่นั่นหรือเปล่า? หรืออีกอย่าง: “หรือบางทีรายงานนี้จัดทำขึ้นย้อนหลังและไม่มีแพทย์?” และรายชื่อของผู้ที่อยู่ในการดำเนินการซึ่งตีพิมพ์โดยผู้เขียนหลายคนไม่ตรงกัน เพื่อพิสูจน์ถ้อยคำเหล่านี้ ข้าพเจ้าจึงขออ้างอิงถึงการประหารชีวิตลงวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2496 มีหลายคน และเท่าที่ฉันรู้ทั้งหมดเขียนขึ้นก่อนการประชุมใหญ่เดือนกรกฎาคมนั่นคือ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนถึง 2 กรกฎาคม ฉันอ่านมาบ้างแล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือจดหมายฉบับสุดท้ายที่ส่งถึง "ถึงรัฐสภาของคณะกรรมการกลางของ CPSU สหาย Malenkov, Khrushchev, Molotov, Voroshilov, Kaganovich, Mikoyan, Pervukhin, Bulganin และ Saburov" เช่น ผู้ที่ตัดสินใจจับกุม แต่ก่อนที่จะอ้างอิงเนื้อหาทั้งหมดจำเป็นต้องอธิบายก่อน การลงคะแนนเสียงในการจับกุมเบเรียนั้นตึงเครียดมากและเกิดขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกตาม D. Sukhanov ผู้ช่วยของ Malenkov มีเพียง Malenkov, Pervukhin และ Saburov เท่านั้นที่เข้าข้างพวกเขาในขณะที่ Khrushchev และ Bulganin และแน่นอนว่า Mikoyan งดออกเสียง ช่างเร่งรีบและน่าสงสัยในตอนนั้น ฉันขอให้ T. Malenkov และสหาย Khrushchev อย่ายืนกราน จะแย่ไหมถ้าเธอได้รับการฟื้นฟู? ฉันขอร้องให้คุณเข้ามาแทรกแซงครั้งแล้วครั้งเล่าและไม่ทำลายเพื่อนเก่าผู้บริสุทธิ์ของคุณ Lavrentiy Beria ของคุณ" นี่คือจดหมาย อย่างไรก็ตามไม่ว่าเบเรียจะขอร้องอย่างไรสิ่งที่เขากลัวอย่างบ้าคลั่งก็เกิดขึ้น... ที่ Plenum ที่ปิดซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมถึง 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 คำต่อไปนี้ ได้ยินในสุนทรพจน์กล่าวหาหลายครั้ง: ซึ่งในความวุ่นวายทั่วไปและความรู้สึกสบายที่ได้รับชัยชนะไม่มีใครสนใจ (!) ครุสชอฟเป็นคนแรกที่ปล่อยให้มันหลุดลอยไปและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้บอกว่าพวกเขาจัดการกับเบเรียอย่างชาญฉลาดอย่างไร ทันใดนั้นเขาก็โพล่งออกมาท่ามกลางวลีที่กระตือรือร้นอื่น ๆ : "เบเรีย... ปล่อยวิญญาณของเขาไป" คากาโนวิชพูดอย่างแน่นอนยิ่งขึ้น: "... เมื่อกำจัดเบเรียผู้ทรยศคนนี้แล้วเราจะต้องฟื้นฟูสิทธิ์ทางกฎหมายของสตาลินอย่างสมบูรณ์ ... " และ แน่นอนที่สุด: “คณะกรรมการกลางทำลายนักผจญภัยเบเรีย…” และนั่นคือประเด็น แน่นอน คำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสามารถนำไปใช้ในความหมายโดยนัยได้ การสอบสวนที่กำลังจะเกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งคำถามกับเบเรียอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการกระทำสกปรกทั้งหมดของเขาใช่ไหม ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครบอกเป็นนัยว่าจำเป็นเหรอ? ถามคำถามที่สั่งสมมา เช่น สตาลินทำเกี่ยวกับบูคาริน เป็นไปได้มากว่าพวกเขาไม่ได้บอกใบ้เพราะไม่มีใครส่ง... อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ว่ามีอย่างอื่นเกิดขึ้น: พวกเขากลัวว่าเบเรียจะเปิดเผยพวกเขา และก่อนอื่นเลย "เพื่อนเก่า" ครุสชอฟและมาเลนคอฟของเขา ... ดังนั้นเราจึงกำหนดว่าเบเรียเขียนจดหมายตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนถึง 2 กรกฎาคม Plenum เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมถึง 7 กรกฎาคมและ "คำแถลง" ของครุสชอฟและคากาโนวิชเกี่ยวกับการชำระบัญชีเบเรียเกิดขึ้นในความวุ่นวายทั่วไปและ ด้วยชัยชนะอย่างอิ่มเอมใจเราสามารถสรุปได้ว่าเบเรียถูกประหารชีวิตภายในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคมและผู้ดำเนินการประโยคคือพันเอกนายพลบาติตสกี้ Nikolay Dobryukha "Rossiyskaya Gazeta" - สัปดาห์ที่ 3370 20/12/2003, 03:50